ลองมอนิเตอร์ด้วย Ahrefs กับ Moz ครับแล้วเอามาประมวลผลหาค่าเฉลี่ยรวมกันดูครับ ผมคิดว่าน่าจะแม่นยำมากขึ้นครับ

เมื่อ 3  ปีก่อนผมได้ตระเวณสมัครทำงานกับบริษัทเกี่ยวกับการตลาดออนไลน์
โดยหว่านใบสมัครไปหลายบริษัทเหมือนกัน โดยส่่วนมากก็จะถูกเรียกไปสัมภาษณ์
ก็จะเป็นบริษัทในไทยซะเป็นส่วนใหญ่ มีต่างชาติอยู่ 2 บริษัท

ด้วยวิชา digital marketing หรือ internet marketing ยังไม่มีการเปิดสอนเป็น
หลักสูตรที่แน่นอนนักแม้ในมหาวิทยาลัยประเทศไทย องค์ความรู้ด้านนี้ก็ดูจะไม่ได้รับการ
รวบรวมอย่างเป็นระบบระเบียบผมจึงอาศัยการศึกษาด้วยตนเอง เนื่องด้วยผมได้ภาษาอังกฤษ
ขั้นอ่านเข้าใจความหมายก็ศึกษาจากโลกของอินเตอร์เน็ตนี่แหละครับ
โดยเฉพาะ Thaiseoboard ของพวกเรานี้

ย้อนกลับมาแล้วมันเกี่ยวอะไรกับโปรแกรมทำ SEO คือเรื่องมันมีอยู่ว่าผมเก็บสะสมความรู้
เกี่ยวกับ internet marketing และ SEO จากคนไทยเรานี่แหละเผยแพร่กัน เล่าต่อกันมา
ถ่ายทอดกันมาถูกบ้างผิดบ้างคือเรื่องราวของ algorithms ของ Google นิแหละเป็นหลัก

ผมก็ครูพักลักจำพอที่มีความรู้บ้างสักนิดหน่อย ก็ห้าวหาญสมัครงานตำแหน่ง SEO Specialist ซะเลย!
ผมได้ถูกเรียกสัมภาษณ์ด้วยฝรั่ง เฮ้อ! นอกจากจะฟังไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่แล้ว ก็ยังเจอโจทย์หิน
คือพี่ฝรั่งได้เอาโปรแกรมการทำ SEO มาให้ทดลองอธิบายศัพท์เทคนิคต่างๆ เกี่ยวกับ SEO
โดยที่ผมไม่เคยใช้มาก่อนเลย ยิ่งไปกันใหญ่! ผมแทบจะขอเข้าห้องน้ำแล้วหนีกลับบ้านเลย!

2-3 ปีผ่านมา ผมก็ตามล่าเก็บเรื่องราวความรู้เกี่ยวกับ SEO, digital marketing มาแบ่งปัน
ให้กับเพื่อนๆ ทุกคนนะครับ ไปดูไอ้เจ้าโปรแกรมการทำ SEO ที่ผมเจอเมื่อหลายปีก่อน มันคือโปรแกรมอะไร?

ตอนสัมภาษณ์เสร็จ! HR แอบกระซิบกับผมว่าถ้าคุณทำได้เงินเดือน 4-5 หมื่นเชียวนะ ยิ่งได้ภาษาอังกฤษด้วย
น้องๆ ที่นั่งอยู่เป็นโปรแกรมเมอร์ 50K Up สำหรับน้องๆ คนไหนที่สนใจก็ค้นคว้าให้หนักๆ นะครับ

แต่สำหรับผมขอ Bye Bye งานประจำ! Get out of the box. NOW!

เป็นกับ host ด้วยครับ เลือกใช้กับจ้าวเจ๋งๆ ดีๆ ส่วนหน้าเว็บก็จะเป็นพวกภาษาที่เป็นไม่ค่อยเป็นระเบียบ code ต่างๆ เยอะไป เช่น javascript
รูปภาพก็หา plugin เข้ามาช่วยลดขนาดถ้าเป็น wordpress มีเยอะอยู่ครับ จำไม่ได้แระ ใช้ blogger ซะนาน ถ้าไม่อยากปวดหัวเลือกใช้ wordpress ครับ

ถ้าอยากเก่ง coding ไปด้วยใช้ blogger แบบผมครับจะรู้ว่าโคตรโหด...

ใช่ครับ มันจะไม่ตรงจุด สะเปะสะปะ

ิยินดีแบ่งปันเทคนิคใหม่ๆ ครับ

มีส่วนครับ แต่ไม่ใช่ว่า Google จะไม่ให้ความน่าเชื่อถือครับ แต่ให้ค่าน้อยเท่านั้นครับ แต่ที่สำคัญคือ Google ไม่ทราบจุดประสงค์ของคุณที่ใช้คีย์เวิร์ดนั้น ว่าใช้ทำไม?
แต่ถ้าใช้ได้ตรงจุดประสงค์ คือ ตรงใจทั้ง Search Engine และตรงใจกับคนค้นหา สำคัญกว่าครับ

ลองใช้งานดูครับ ประหยัดเวลาได้เยอะครับ

https://www.indycreators.com/s...eywords-google-keyword-planner

ปัญหาหลักๆ ของนัก SEO คือการเลือกใช้คีย์เวิร์ดนั่นเอง คือไม่รู้จะเลือกใช้คีย์เวิร์ดไหนเป็นคีย์เวิร์ดหลักดี
ครั้นเมื่อจะใช้คีย์เวิร์ดที่มีผู้ค้นหาเยอะๆ (search volume) ก็เกรงจะสู้กับคู่แข่งขันที่เขาทำ SEO ได้ดีกว่าไมได้
และก็เป็นปัญหาใหญ่ๆ ใหญ่มากๆ ของคนทำ SEO โดยทั่วไปคือ การเลือกใช้คีย์เวิร์ดที่ไม่ตรงคุณค่าและไม่ตรงจุดประสงค์
กับธุรกิจของตัวเองหรือตรงกับบทความในเนื้อหาของเว็บไซต์ คือ ไม่ใช่คีย์เวิร์ดทำเงิน เลือกมาใช้เพียงเห็นว่า
มี search volume มากๆ เข้าไว้ โดยไม่มีหลักในการพิจารณาเลือกใช้คีย์เวิร์ด

จากเหตุผลดังกล่าวนัก SEO จึงต้องทำการวิเคราะห์คีย์เวิร์ดก่อนทุกครั้งที่จะเขียนบทความเพื่อให้เรามีเป้าหมายที่ชัดเจน
และในการจะเลือกใช้คีย์เวิร์ดเราต้องสามารถเลือกใช้คีย์เวิร์ดที่สร้างมูลค่าทางการตลาดนั่นเอง

คีย์เวิร์ดที่แสดงผลการค้นหามากและมีคนแข่งขันสูง มันอาจจะยากและก็อาจจะไม่สร้างมูลค่าให้กับเว็บไซต์ของเราแต่อย่างใด
แต่ในทางตรงกันข้าม คีย์เวิร์ดที่มีปริมาณการค้นหาที่ไม่มากนักหรือเป็นคีย์เวิร์ดแบบยาว (Long Tail Keyword) จะเป็น
คีย์เวิร์ดที่ตรงกลุ่มเป้าหมายหรือตรงกลุ่มลูกค้าของเรามากกว่า และยังมีการแข่งขันที่ไม่สูงอีกด้วย

ไปดูวิธีการวิเคราะห์คีย์เวิร์ดของผมกันเลยครับว่าผมทำอย่างไร?  https://www.indycreators.com/seo-keyword-research

คู่มือแนะนำการทำ SEO ที่ปรับปรุงใหม เต็มไปด้วยประโยชน์และมีข้อมูลที่น่าสนใจ
ที่เราสามารถจะนำมาใช้ในการทำ SEO ของเราได้ สำหรับผู้เริ่มต้นควรต้องอ่านคำแนะนำนี้ก่อน

เพราะ Google ได้อัพเดทอัลกอริทึ่มต่างๆ มากมายในห้วงช่วงเวลาที่ผ่านมา
แต่ปัจจัยพื้นฐานของการทำ SEO แล้วก็ยังคงเหมือนเดิม จะมีบางปัจจัยที่เพิ่มเข้ามาเท่านั้น

และ Google ก็ไม่เคยบอกอะไรตรงๆ กับคนทำ SEO มากนัก เขาจะบอกเพียงคร่าวๆ
เพราะเขาอยากให้คุณทำการค้นหาและเรียนรู้ความลับด้วยตัวคุณเองมากกว่า

ลองคิดดูแล้วกันครับ ถ้า Google บอกความลับของ Search Engine ทั้งหมด
แล้วจะมีใครมาใช้ผลิตภัณฑ์ Google กันละครับ! คุณว่าจริงไหม?

https://www.indycreators.com/seo-google-seo-starter-guide

ขอบคุณครับ

หนึ่งในปัจจัยในการจัดอันดับเว็บไซต์ของ Google ที่ส่งผลต่ออันดับเว็บไซต์ของคุณและ
ก็เป็นปัญหาที่ส่งผลต่อ SEO ของคุณเป็นอย่างมากคือการคลิกออกจากหน้าเว็บไซต์ที่สูง
(High Bouce Rate)

แม้ Bounce Rate ไม่ได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อ SEO แต่ส่งผลต่อตัวชี้วัด (Metrics)
ต่างๆ ที่ส่อแสดงให้เห็นว่าเว็บไซต์ของคุณกำลังสูญเสียทราฟฟิกไปเป็นจำนวนมากนั้นก็จะ
ส่งผลไปถึงรายได้ของคุณที่ลดลงตามไปด้วย

หากคุณไม่รีบทำการแก้ไขอัตรา Bounce rate หรือ Pogo Sticking อัตราการเด้งออกจากหน้าเว็บเพจ
เสียแต่วันนี้ก็มีโอกาสที่คุณจะสูญเสียทราฟฟิกไปทุกวันและส่งผลต่ออันดับเว็บไซต์ของคุณอย่างแน่นอน

ไปดูเทคนิคการลดอัตราการคลิกออกให้ต่ำลง (Low Bouncr Rate) ของผมกันครับว่าผมทำอย่างไร

https://www.indycreators.com/seo-on-page-reduce-bounce-rate

นอกจากคุณจะใส่คีย์เวิร์ดหลักในบทความให้ถูกหลักตามการทำ SEO แล้ว ก็ยังมีเทคนิคการใส่คีย์เวิร์ดรองหรือคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้อง
ซึ่งเรียกว่า LSI Keyword เข้าไปในบทความเดียวกันกับคีย์เวิร์ดหลักถือเป็นเทคนิิคการทำ SEO อีกอย่างหนึ่ง เราไปดูวิธีการค้นหา
LSI Keyword ด้วยการใช้เครื่องมือฟรีในแบบง่ายๆ กันและดูวิธีการใช้คีย์เวิร์ดให้ถูกหลักการทำ SEO

https://www.indycreators.com/seo-keywords-lsi

ครับ 555

ยินดีครับผม

การสร้างลิงค์ให้กับเว็บไซต์หรือคนทำ SEO เรียกกันว่า Backlinks ยังมีความสำคัญต่อการจัดอันดับเว็บไซต์อยู่หรือไม่?

ลิงค์เป็นอัลกอริทึ่มที่สำคัญเป็นอันดับต้นๆ ในการที่ Google ใช้จัดอันดับเว็บไซต์ ตั้งแต่เริ่มมีการใช้ Search Engine ดังนั้นในรูปแบบการทำ SEO แบบเดิมๆ หลายๆ คนมักทำการอัด Backlinks ให้ได้จำนวนมากที่สุดและให้มากกว่าคู่แข่ง เพื่อทำให้เว็บไซต์ของตนเองขึ้นอยู่ในหน้าแรกและลำดับต้นๆ ของ Google

ในแต่ปัจจุบัน Google ได้พัฒนาอัลกอริทึ่มที่ทันสมัยมากขึ้นสามารถกำจัดลิงค์ที่ไม่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์หรือการ Spam Links โดยมีเทคโนโลยีการตรวจจับที่ดีขึ้นทำให้การอัด Backlink หรือการสร้างลิงค์ที่ไม่มีคุณภาพได้คะแนนน้อยและยังส่งผลเสียต่ออันดับเว็บไซต์ในระยะยาวอีกด้วย

แต่คุณอาจจะยังสงสัยอยู่อีกว่าแล้ว Backlinks ยังมีความสำคัญต่อการจัดอันดับเว็บไซต์ของ Google อยู่หรือไม่?

ผมขอตอบว่าการสร้างลิงค์ยังมีความสำคัญอยู่มากเพียงแต่ว่าคุณจะต้องสร้างลิงค์หรือ Backlinks ที่มีคุณภาพเท่านั้น

ก่อนที่คุณจะไปเรียนรู้การสร้างลิงค์ทีได้คุณภาพในสายตาของ Google ผมอยากให้คุณได้เรียนรู้ความหมายของการสร้างลิงค์และโครงสร้างของลิงค์เสียก่อน แล้วผมจะค่อยๆ อัพเดทบทความการสร้างลิงค์คุณภาพในรูปแบบต่างๆ ด้วยเทคนิคที่ผมได้เรียนรู้และทดลองทำมา ให้คุณได้เรียนรู้ทีละตอน

https://www.indycreators.com/seo-link-building

ครับ นี่ก็เป็นทางเลือกหนึ่ง

ลองดูครับ มันเป็นเกมของจำนวน (The Game of Number )
ส่งอีเมล์ 100 - 200 Influencers ตอบรับเพียง 10 คนก็เพียงพอแล้วครับ
เพราะคนที่เป็น Influencers ในแต่ละเรื่องนี้ยากมากครับ เราเกาะเขาดังเอาครับ 555

ต้องมีอะไรผิดปกติครับ อย่าจ้างครับ ค้นหาด้วยตนเองตามที่ผมแนะนำในบทความ