ไม่มีทางที่ Cryptocurrency ฟองสบู่จะแตก เพราะ? รู้ไหม
เพราะ Cryptocurrency ไม่มีใครสามารถมาควบคุมราคาได้
เหตุที่สกุลต่างๆฟองสบุ่แตก ก็เพราะ ธนาคารกลางต่างๆๆ เข้ามาควบคุม
เข้าใจตรงกันหรือยัง
จึงเป็นเหตุให้ รัฐบาลประเทศต่างๆ และธนาคารทั่วโลกโจมตี อย่างแรง เพราะเสียผลประโยชน์มหาศาล
พูดถูกครับ
หลายคนกังวลว่า Bitcoin จะฟองสบู่แตก และก็พูดแบบนี้มานานมากแล้วครับ
Bitcoin และเหรียญอื่นๆ รวมเรียกว่า Cryptocurrency นั้น เป็นระบบ Decentralized ครับ โดยมีเทคโนโลยี Blockchain เป็นหลังล้าน แต่ละเหรียญจะมีความแตกต่างกัน มีเทคโนโลยีที่แตกต่าง บนพื้นฐาน Blockchain นั่นเองครับ
การจัดเก็บข้อมูลจึงกระจายไปยังคอมพิวเตอร์ต่างๆ ที่ทำหน้าที่เป็น Miner เพื่อเก็บบันทึกข้อมูลแบบ Decentralized และยังทำหน้าที่ยืนยันธุรกรรม หรือ Confirm Transaction เพื่อรับเงินรางวัล Reward ภายใต้ Proof of Work จริงๆ เหรียญ Ethereum กำลังจะปรับไปเป็น Proof of Stake แต่ตอนนี้ทางเจ้าของเหรียญ Vitalik ยังไม่ยืนยัน ทั้งที่ก่อนหน้านี้ ก็บอกจะเปลี่ยนจาก PoW เป็น PoS ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2017 อย่างไรก็ตามต้องติดตามดูครับ เพราะการเปลี่ยนไปเป็น PoS จะช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้า เพราะไม่ต้องใช้การ์ดจอ GPU ในการขุดเหรียญ ใช้แค่คอมธรรมดา ทำหน้าที่เป็น Node ตรวจสอบธุรกรรม และได้ค่าธรรมเนียมจากการยืนยันธุรกรรม และได้รับดอกเบี้ย ตามที่ทาง ETH กำหนดครับ
การขุดก็จะขุดผ่าน Pool หรือจะขุดผ่านเว็บซื้อ-ขาย กำลังขุด เข่น Nicehash , Minergate ส่วนใครจะขุด Pool ตรง ก็จะได้เหรียญนั้นๆ ตามที่กำหนดว่าจะใช้ CPU , GPU หรือ ASIC ขุดเหรียญอะไรครับ
ซึ่งหากมีคนขุดเหรียญนั้นมากๆ ค่า Difficulty ของเหรียญก็จะเพิ่ม ทำให้ขุดยาก เพราะคนแย่งกันขุดเยอะ แต่ถ้าเหรียญไหนคนขุดน้อย ค่า Diff ไม่มาก ก็ขุดได้ง่าย แต่ก็ต้องดูราคาเหรียญที่ขุดด้วยครับ
ทั้งหมดทำงานภายใต้ Decentralized ครับ ต่างจากธนาคารที่เป็น Centralized
ขุดเหรียญแล้วเอาเงินไปแลกเป็น Fiat ได้ที่ไหน จริงๆ เว็บแลกเหรียญจาก Crypto ไปเป็นเงินสดมีเยอะมากครับ แต่ในไทยนิยม คือ bx.in.th กับ tdax.com ครับ
นอกจากนี้เรายังสามารถสมัครบัตร debit bitcoin กดเงิน จากตู้ ATM ด้วยบัตร Epayments และมีอีกหลายบัตรครับ หรือจะ โอนจาก Cyprto เข้าบัญชีธนาคา หรือบัตร Debit , Credit ได้ด้วยครับ
ระบบ Blockchain มีความปลอดภัยสูงมากครับ แฮก หรือเปลี่ยนข้อมูลไม่ได้ เพราะมีเครื่องคอมหลักล้านเครื่อง ทำการยืนยันธุรกรรมตลอดเวลา ถ้าจะเปลี่ยนข้อมูลคอมทุกเครื่อง และเปลี่ยนข้อมูลที่อัพเดทตลอดเวลา เป็นเรื่องที่แทบเป็นไปไม่ได้ แต่ที่เราได้ยินข่าว Hack มาจากการแฮกเอาเหรียญจากเว็บ Exchange ที่เก็บ Private Key ได้ไม่ดีครับ
ถามว่ามันจะเกิดฟองสบู่ได้ไหม
มันมีความเป็นไปได้ครับ เพราะราคา Bitcoin และเหรียญอื่นๆ พุ่งสูงมาก ก็อาจมีช่วงที่กราฟลากลงแรงๆ ทำให้คนขาดทุนเยอะ หรือ อาจเรียกว่าฟองสบู่ได้ครับ แต่ Bitcoin หรือเหรียญอื่นๆ ยังคงอยู่นะครับ อย่าลืมว่ามันเป็น Decentralized ต่อให้ธนาคารทำ Blockchain ออกมา มันก็เป็นแบบ Centralized หมายถึง ใครก็สามารถแก้ไขข้อมูลได้ เพราะมันไม่ได้เก็บข้อมูลแบบกระจายเหมือน Bitcoin ครับ
แสดงกระทู้
