ท่านยังใช้ BL ทำอันดับอยู่ไหมครับ ได้ผลเป็นไงบ้าง กับเว็บใหม่ครับ

 

หากินกับ BL อยู่หรอครับ เยี่ยมครับ ว่าแต่ รายได้เพิ่มขึ้น เท่าเดิม หรือ ลดลง ไม่รวมกับงานประจำที่ทำนะครับ

 

Kali Linux ก็มี Metasploit Frametwork ตัวใหม่ๆ ที่รวมทุกอย่างของการ Hack ไว้

ถ้าเข้าไปศึกษาลึกๆ จะรู้ว่า ป้องกันไม่ได้ครับ  อยู่ที่ Hacker ที่เก่งแล้ว จะเจาะหรือไม่ครับ

มีวิธีเดียวคือ เขียนระบบความปลอดภัย ให้กับ Wordpress เพิ่มเข้าไป ครับ 2 ชั้น 3 ชั้น อะไรก็ว่าไปครับ ให้ Hack ยากขึ้นครับ

 

ลองค้นหาบน Google Search วีดีโอ  หรือค้นหาบน youtube

คำว่า

Kali Linux Metasploit Wordpress

และ

Exploit Wordpress

มาบอก เพื่อให้ทุกคนป้องกันครับ

 

ส่วนใหญ่ที่มีอันดับบน SERPs บน Google อย่างผันผวน Dance กระจาย  เป็นเว็บที่จงใจทำ SEO ปรับ On-Page ไม่โดนผลกระทบ  มาจากการเพิ่ม BL ที่ไม่ได้คุณภาพ  ชี้ Link จาก Facebook , Twitter , Youtube , Reddit และเว็บใหญ่ๆ หลายๆ เว็บ แม้เว็บหลัก จะมี Content คุณภาพ Unique Content  

แต่ถ้าคนอ่านน้อย  คนเข้าเว็บผ่านทาง Google Search น้อย  ค่า CTR ที่แสดงบน Google Search Console น้อย อีกทั้ง ค่า CTR ไม่ได้มาจากหลากหลาย Keyword  โดย User ค้นหา และเข้าสู่เว็บผ่านทาง Google Search ด้วย Keyword ที่หลากหลาย และเข้าทั้งหน้าหลัก และหน้ารอง

นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของ Time Session ที่คนอยู่ในเว็บไซต์ และการที่คนอ่านหน้าอื่นที่เกี่ยวข้อง  รวมไปถึงค่าอัตราตีกลับ Bounce Rate ที่ไม่สูงเกินไป  และมีค่า Return Visitor ที่ดี  นอกจากนี้ ค่าเฉลี่ยที่ User Online อยู่บนเว็บไซต์ มากเท่าไหร่  ทั้งหมดดูผ่านทาง Google Anayltics

ถ้าใครทำสายคุณภาพ และธรรมชาติ มีคนเข้าเว็บจริงๆ จะไม่โดนผลกระทบนี้ครับ

การที่ควบคุมอันดับไม่ได้  แท้จริง หาคนเข้าเว็บผ่านทาง Google Search ไม่ได้มากกว่า

นักทำ SEO ชอบพูดกันว่า ตัวเองทำสายคุณภาพ แล้วคนล่ะ คนอ่านมีไหม

ไม่ต่างอะไรกับ การบอกว่า ทำ Facebook Page คุณภาพ แต่มีคนกด Like Page หลักสิบ หลักร้อย

ทราฟฟิกสำคัญ ไม่ว่าจะเป็น

- Google Search Traffic (Search Engine Traffic)

- Direct Traffic

- Social Network Traffic

- Referral Traffic

- Ads Traffic

 

น่าจะไม่เกี่ยวกับผมนะท่าน ส่วนใหญ่ผมโพส bitcoin ครับ

 

อีกคนก็ทำแบบเดียวกับ เจ้าของโพสครับ


 

ถ้าติดอันดับ 1 บน Google Search Suggest เท่ากับ ได้ทราฟฟิกจาก Google Search ผลคือ แม้ เลือกคีย์ รับทำ seo  ในภาพระยะกลาง 3 เดือนขึ้นไป

เว็บที่ได้อันดับ 1 บน Google Search Suggest ก็จะได้ SEO Top 1 ของคีย์ รองลงมาอีกด้วย

เท่ากับ ยิงปืนนัดเดียว ได้นกสองตัว เลยแบบนี้

 

ครับ ไปล่ะ ผมอธิบายด้านบนมาซะยาว

 

 
 

คนไม่ได้ทำ  หรือ ทำไม่เป็น ย่อมจะไม่รู้  มา จะเล่าให้ฟังครับ

 

ถ้าใช้ Dedicate Windows Server  , PureVPN เป็น IP จริง ครับ ไม่รู้ IP ของผู้ใช้จริงๆ เจ้าเดียวในโลก ที่ทำ VPN แบบนี้ได้

ถ้าเอาไปทำ AdSense กับ Popads , Popcash 

ไปเจอในกลุ่ม Bitcoin Thai Club มาครับ 555

หนุ่มตกใจ ฝากเงิน 9,000 บาท แต่พนักงานกดสูตรให้ 1,000 ล้าน เกรงใจจนต้องแจ้งคืน



แหลงข่าว http://www.catdumb.com/save-9000-get-nineninenineninenine/


 

อันนี้เป็นการดู Backlinks ครับ จริงๆ ดูได้หลายวิธี ดูจาก Google Search Console ก็ได้กรณีเป็นเจ้าของเว็บครับ

หรา อิอิ

ดูคู่แข่งจากการนิยมค้นหา ผมดูจากตรงนี้เป็นหลักครับ

ตลาด Bitcoin มาแรง : Bitmain บริษัทผลิตเครื่องขุด (ASIC) ทำกำไรได้มากกว่า NVIDIA ในปี 2017


 
             ปีที่แล้วเป็นปีที่มีกระแสของ Cryptocurrency มาแรงมากตลอดทั้งปี โดยราคาของการ์ดจอที่เป็นอุปกรณ์ออกแบบมาสำหรับเล่นเกมส์คอมพิวเตอร์เป็นหลักก็มีการขยับขึ้นด้วยความที่มันขาดตลาดจากความต้องการของกลุ่ม Cryptocurrency Miner ที่ต้องใช้การ์ดจอเล่นเกมส์ของเราทั้งหลายเนี่ยไปทำการประมวลผล Transaction ของเหรียญ Digital หลากหลายประเภท และความต้องการก็เหมือนจะมีมากขึ้นเรื่อยๆด้วยเพราะว่ามีเหรียญเกิดใหม่มาตลอด / ถ้าใครลงลึกหน่อย ต้องการจะขุดเหรียญที่เป็นอีก Algorithm หรือพวกเหรียญที่การ์ดจอขุดไม่ไหว อย่างเช่น Bitcoin (BTC) เอง ก็คงจะต้องไปพึ่งพวกเครื่องประมวลผลเฉพาะทางหรือว่า ASIC Miner ที่เกิดมาเพื่อจุดประสงค์เดียว คือขุดเหรียญ Crypto / เครื่องพวกนี้พอค่า Diff พุ่งขึ้นถึงจุดที่มันขุดไม่คุ้มค่าไฟแล้ว ก็เอาไปทำอะไรไม่ได้นอกจากเป็นที่ทับกระดาษ ... ฟังดูแล้วอาจจะน่ากลัว แต่ทำไมคนถึงนิยมเล่นเครื่องประเภทนี้กันหล่ะ อย่างแรกเลยก็คือมันคืนทุนเร็วและทำกำไรได้เร็วครับ กำไรในที่นี้ไม่ใช่แค่กำไรจากการขุดเหรียญอย่างเดียว แต่เป็นกำไรจากการขายเครื่อง ASIC เหล่านี้ด้วย เพราะดูจากราคาขายแล้ว มีการปั่นกันน่ากลัวว่าการ์ดจอหลายเท่านัก

Bitmain ก็เป็นบริษัทผลิตเครื่อง ASIC ที่สายขุดทุกคนต้องเคยได้ยินอย่าง AntMiner นั่นเอง.. โดยบริษัทนี้ได้ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2013 โดยนาย Jihan Wu และ Micree Zhan เป็นบริษัทสัญชาติจีนอย่างแท้จริง โดยทางบริษัทก็ได้ผลิตเครื่อง Application-Specific Integrated Circuit (ASIC) สำหรับขุดตรง Bitcoin (BTC) โดยเฉพาะและยังเป็นผู้ให้บริการ Pool สำหรับนักขุดให้มาแชร์กำลังขุดและแบ่งผลกำไรกันด้วย

สิ่งที่เราคาดไม่ถึงก็คือเมื่อวันที่ 23 ที่ผ่านมา ทางสื่อยักษ์ใหญ่อย่าง CNBC ก็ได้ให้ข้อมูลว่า Bitmain นั้นทำกำไรรวมได้มากกว่าบริษัทผู้ผลิต Graphic Processing Unit ยักษ์ใหญ่สัญชาติมะกันอย่าง NVIDIA เสียอีก บริษัท Bitmain เพิ่งเปิดตัวมาราวๆ 4 ปีกว่าๆ ทำกำไรในปี 2017 ได้ไปราวๆ 3-4 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ ในขณะที่ NVIDIA บริษัทที่เปิดตัวมาแล้ว 24 ปี ทำกำไรได้ราวๆ 3 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ ในช่วงเวลาเดียวกัน

สำนักวิเคราะห์ Bernstein ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าสำหรับตลาดการขุด Bitcoin นั้น BitMain ก็ถือส่วนแบ่งการตลาดอยู่ถึง 70-80% เลยทีเดียว อันนี้ก็เป็นยอดทั้งของการขาย ASIC Miner และส่วนแบ่งจากการให้บริการ Mining Pool ที่ตัวเองก็ใหญ่เป็นอันดับต้นๆเช่นเดียวกัน นอกจากนั้นทางบริษัทก็ยังมีการให้บริการ Cloud Mining ขายกำลังขุดให้กับผู้ที่สนใจจะลงทุนแต่ไม่สะดวกวาง ASIC Rig ด้วย

สาเหตุของกำไรพุ่งกระฉูดนี้ก็เป็นเพราะราคา Bitcoin ที่ทะลุขึ้นไปถึงแนวต้านระดับ $20,000 ในช่วงปลายปี 2017 ทำให้ราคาของเครื่อง AntMiner S9 นั้นขึ้นไปสูงถึง $5000 ต่อตัวเลยทีเดียว.. อย่างไรก็ตาม ช่วงหลังทางประเทศจีน ต้นกำเนิดของ Bitmain ได้มีการพยายามห้ามใช้งาน Cryptocurrency ไม่ว่าจะเป็นการแบน ICO ทั้งหลาย หรือว่าจะปิดเว็ปแลกเปลี่ยนเหรียญหลายแห่ง .. Bitmain เองก็มีวิธีการเอาตัวรอดด้วยการย้าย Mining Farm ไปอยู่ที่ Canada และ Switzerland , จัดการ Mining Pool จาก Israel และสำนักงานใหญ่ไปอยู่ที่ Singapore แทน

อ้างอิงแหล่งข่าว: https://cointelegraph.com/news...-gpu-giant-nvidia-report-finds

 

ทำแบบคุณภาพ จะช่วยทำให้ท่าน มีเว็บที่น่าเชื่อถือ และลูกค้าสนใจครับ

สาย Spam Link ก็แค่กระจายทำลิงค์หลายๆ Keyword สร้าง Anchor Text Link ด้วยหลายๆ คีย์เวิร์ด ชี้ไปหลายๆ หน้า แม้หน้า BL จะไม่มีบทความคุณภาพเลย และเป็นสแปมลิงค์ ก็ทำอันดับได้ เพียงแต่รอเวลาหน่อย ก็เห็นผลแล้ว มันก็ไม่ได้ต่างอะไรกับ ช่วงปี 2009 เลย

 

ขนาดหน้าเว็บของมันก็ยังสร้าง Spam Link แต่ Google ก็ยังให้ความสำคัญ คิดไว้อยู่แล้ว ว่ามันก็เหมือนเดิม จะออก Algorithm อะไรออกมา มันก็นับลิงค์นั่นแหละ เพียงแต่เนียนหน่อย รอเวลาแล้วค่อยจัดอันดับด้วย Link จะ Link คุณภาพ หรือ Link Spam กูเกิลมันไม่สน