วิธีทีจะสื่อสารได้เร็วสุด คงต้องหาเเฟนชาวต่างชาติ หรือเพื่อนเอาไว้คุยกัน
รองลงมาก็พวกดูหนังฟังเพลง ใหม่ๆก็ดูซับบ้างพอเข้าใจเนื้อเรื่องซับอิ้งนะครับ มันจะมีคำง่ายๆพอเข้าใจ ตรงไหนพูดเร็วเห็นซับเเปลกๆกดหยุดเเละหาคำเเปลซะเเละจำ เเล้วกลับมาฟังใหม่
บางคนบอกว่า ดูหนังไม่ต้องดูซับ คือผมว่าสำหรับคนพึ่งเรื่มจริงๆ ควรจะดูตั้งเเต่พากษ์ไทย ดูอีกครั้งซับไทยเสียงอิง ดูอีกครั้งซับอิง เสียงอิง ดูอีกครั้ง ปิดซับดูเเบบเพียวๆ ถ้าทำได้นะ คุณจะเห็นการเปลี่ยนเเปลงในเเค่หนังเรื่องเดียวเลยครับ เเต่เปลี่ยนเเปลงนี้ไม่ได้หมายความว่าเก่งนะ เเต่รู้สึกว่าตัวเองเรื่มจะฟังรู้เรื่อง เทคนิคเวลาเลือกหนังมาดู เเนะนำเป็นหนังตลก เพราะมันจะดูเพลินไม่เบื่อ หรือหนังที่เราชอบมากๆ ดูวนหลายรอบได้ เช่นผมดู แฮรี พอตเตอร์ ผมดูวนหลายรอบละ ไม่ใช่ว่าจะอยากฝึกฟังหรอกครับ เเค่ชอบ ช่วงเบื่อๆผมชอบดู ใหม่ๆ ผมก็ดูพากษ์ไทยเนี่ยแหละ พอดูๆไป เสียงของเเฮรี่มันทะเเม่งๆ บทโกรธก็ บทเศร้า ภาคไม่ค่อยได้อารมณ์ ทั้งตอนเด็กเเละตอนโต ผมเลยฟังอิง ซับไทย เเล้วเลื่อนมาเป็นซับอิง เสียงอิง เเละทุกวันนี้ ผมดูเเบบไม่เปิดซับ
เเละการดูอีกเเนวหนึ่งผมเเนะนำ หรือผมชอบก็นะ เเนวพวก Reality รายการหนึ่งที่ผมชอบมาก ก็ Survivor มันได้อารมณ์ดี อีกอย่าง มันหาซับไทย ซับอิงไม่ได้ด้วย เป็นการบังคับว่า ต้องดูเเบบเพียวๆ 555+ มันมากได้อารมณ์มาก ครบทุกอารมณ์ของมนุษย์เลย
ผมเล่ายาวไปละ เอาเป็นว่าค่อยๆฝึก ไม่ต้องรีบ ใหม่จะอึดอัดหน่อย ฟังอะไรก็ไม่ค่อยจะรู้เรื่อง เเต่ถ้าผ่านไปได้ คุณจะสนุกไปกับมัน เเล้วมันจะเก่งขึ้นเอง
ส่วนเรื่องการเขียนอ่าน ก็ลองไปหาหนังสือพวกสำนวน เเกรมม่า Writing มาอ่านๆ เเล้วทำความเข้าใจ ถ้าฝึกเขียนเเล้วอยากเช็คเเกรมม่าว่าเราเขียนถูกไหม ก็ลองหาในกูเกิลดูทุกวันนี้สะดวกมากเเล้ว ใช้พวก
Grammar Checker พวกนี้ดู พอได้ในระดับหนึ่ง เเต่ก็ไม่ได้ดีเท่าไหร่ มันดูว่าเเค่เราใช้ถูกแกรมม่าไหม เเต่พวกสำนวนโวหารให้ภาษาที่สละสลวย คงต้องใช้คนตรวจครับ
สู้ๆครับ