ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

  แสดงกระทู้
หน้า: [1] 2 3 ... 6
1  ความรู้ทั่วไป / General (ถามคุยวิชาการ IM) / งานวิจัยชั้นนำของโลกชี้ 5 เทคโนโลยีสำคัญในปี 2020 เมื่อ: 05 กุมภาพันธ์ 2019, 15:11:31
อันนี้ผมสรุปเองจากงานวิจัยของมหาลัยท็อปเทน เป็นมหาวิทยาลัยคุณภาพดีที่สุดในโลก ก็มีฮาร์เวิร์ด
สแตนฟอร์ด เอ็มไอทีเยอะ และพยายามอ้างอิงเปรียบเทียบจากบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำต่างๆ
ด้วยการจ้างเอท์ซอร์สไปติดต่อ ค้นหา และจัดเก็บข้อมูลเหล่านี้ให้

เพื่อนำองค์ความรู้เหล่านี้มาวางแผนลงทุนหุ้นเมืองนอก และสอนลูกสอนหลานของตัวเอง
โดยสรุปคร่าวๆ เป็นภาพรวมทั้ง 5 เทคโนโลยี จากบทความวิจัยมากกว่าร้อยชิ้น บางอันยังไม่ตีพิมพ์
เผยแพร่มีลิขสิทธิ์อยู่ แต่เชื่อว่าในกูเกิลและยูทูปจะมีตัวเลขเหล่านี้เผยแพร่ออกมาเรื่อยๆ ดังนั้น
ใครอยากรู้อะไรที่มากว่านี้ ก็พยายามใช้กูเกิลค้นให้เยอะขึ้นต่อไป

11.ไฮเปอร์ลูป การขนส่งความเร็วสูงในภาคพื้นดิน คล้ายกับรถไฟฟ้าความเร็วสูงแม็กเลฟ ต่างกันตรง
แม็กเลฟใช้พลังงานแม่เหล็กทั้งแนวแกนดิ่งและแกนราบ แกนดิ่งใช้ยกตัวรถขึ้น โดยสร้างสนามแม่เหล็ก
ต่างขั้วกันให้ยกตัวรถขึ้นจากราง และใช้แรงแม่เหล็กแกนราบเป็นตัวขับเคลื่อนตัวรถไฟฟ้าไปข้างหน้า
ส่วนไฮเปอร์ลูปจะใช้แค่แรงแม่เหล็กแนวดิ่งเท่านั้น เพื่อยกรถให้สูงขึ้นจากตัวรางตามที่ต้องการ
แล้วใช้แรงลมเล็กๆ เป็นตัวขับเคลื่อนตัวรถไปข้างหน้า

ข้อดีของไฮเปอร์ลูป คือ ต้นทุนก่อสร้างต่ำกว่าสองเท่า ต้นทุนในการขนส่งถูกกว่า 3 เท่า หลักการขนส่งคนและ
ของคล้ายแนวคิดหรือหลักการของแอปอูเบอร์นั่นคือเราอยากไปตอนไหนไปได้เลย สุดท้ายเทคโนโลยีนี้
เป็นโอเพ่นซอร์สทุกๆ ประเทศบนโลกนี้สามารถนำแพลตฟอร์มนี้ไปใช้ได้ฟรีต่างจากเทคโนโลยีแม็กเลฟของเยอรมัน
และมีคนเก่งๆ หลายค้น ช่วยคิดค้นและผลักดันไปร่วมกันกับบริษัทไฮเปอร์ลูปวัน เจ้าภาพของเทคโนโลยีอย่างเป็น
ทางการ

ส่วน อีรอน มัค คนที่วางแพล็ตฟอร์มไฮเปอร์ลูปเอาไว้ ปัจจุบันเขาก็เน้นไฮเปอร์ลูปใต้ดินเป็นหลัก
และก็นำเอาหลักการของแม็กเลฟมาผสมผสานอีกนิดหน่อยผ่านทางบริษัท บอริ่งคอมพานี   
ไฮเปอร์ลูป ไม่ใช่คู่แข่งกับรถไฟฟ้าความเร็วสูงแบบอื่นๆ หรือรถไฟแบบเก่า หรือการขนส่งบนอากาศโดยตรง
เพียงแต่จะเข้ามาเสริมจุดอ่อนของการขนส่งแบบเก่าให้ดีขึ้น ให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้น และเร็วขึ้น
ผ่านทางคลาวด์เซอร์วิสและ ai


22. คลาวด์และai พวกเราทุกคนสัมผัสและได้ใช้มาแล้วทั้งทางตรงและทางอ้อม ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น แต่ที่เพิ่มขึ้น
มาคือ งานวิจัยหลายชิ้นมากได้ข้อสรุปมาว่า ตอนนี้ทุกบริษันในโลก 99.25% ต้องการย้ายไอทีของบริษัทไปอยู่
บนคลาวด์ แต่มีบริษัททั่วโลกเพียง 18.95% เท่านั้นที่โอนย้ายงานไปอยู่บนคลาวด์แล้ว นั่นคือ โอกาสงานใหม่ๆ ใน
อีกสิบปีข้างหน้ามีสูงมาก ทั้ง ซอร์ฟแวร์เอ็นจิเนียรบนคลาวด์หรือซอร์ฟแวร์คลาวด์เนทีฟ เช่น แพล็ตฟอร์ม kubonetes
คอนเทนเนอร์หรือไมโครเซอร์วิสต่างๆ  ดาต้าซายน์ บิ๊กเดต้า และดีฟเลินนิ่ง

สิ่งเหล่านี้คงไม่ใช่เรื่องใหม่ เพียงแต่ว่างานวิจัยดีๆ หลายชิ้นชี้ให้เห็นว่ามากกว่า 80 % ของบริษัทในโลกยังต้องการ
แรงงานด้านเป็นจำนวนเยอะมากและอย่างต่อเนื่อง
ส่วนควอนตัมคอมพิวเตอร์และบล็อกเชน ยังเป็นแค่ส่วนประกอบหนึ่งของระบบอื่นอยู่ ยังต้องดูแนวโน้มอีก 5 ปี
ถึงจะวิเคราะห์ได้ว่าจะโดดเด่นขึ้นมาตอนไหน


33. ขุมทรัพย์ในอวกาศ ปีนี้นาซ่าได้ตั้งเป้าผลักดันให้บริษัทเอกชนด้านอวกาศไปทำเหมืองแร่ในดวงจันทร์และดาวอังคาร
โลกต้องการพลังงานที่สะอาด โดยเฉพาะพลังงานนิวเคลียจากธาตุบางอย่าง เช่น ฮีเรียมทรี พลังงานไฟฟ้าที่สะอาด
และมีให้ใช้ได้อย่างไม่มีหมด จะไปสนับสนุนให้รถไฟฟ้า เครื่องบินไฟฟ้าส่วนบุคคล และไฮเปอร์ลูป พัฒนาได้เร็วขึ้น
ราคาถูกและลดการใช้น้ำมัน ถ่านหิน ซากฟอสซิล หรือพลังงานนิวเคลียสกปรกแบบเดิมลงไป

มีบริษัทด้านอวกาศในสหรัฐฯ ประมาณ 500 กว่าบริษัท แต่ที่ใหญ่จริงมีสเปซเอ็กซ์ บลูออริจิ้น และเวอร์จิ้น การที่นาซ่า
สนับสนุนมากขึ้นเป็นแบ็กอัพให้บริษัทต่างๆ กล้าเสี่ยงมากขึ้น ลงทุนมากขึ้น
ภายใน 5 ปีนี้ เรื่องอวกาศจะสร้างความน่าตื่นตาตื่นใจกันทั่วโลก มีท้้งเรื่องดาวเทียมขนาดจิ๋ว กล้องอวกาศบนดวงจันทร์
การปลูกพืชกับเลี้ยงแมลงในอวกาศ จรวดพลังงานไอออน เทคโนโลยีการป้องกันภัยจากดาวตก ทุกเรื่องล้วนมีความสำคัญ
กับวิวัฒนาการของมนุษย์ยุคต่อไปแทบไปทั้งนั้น   


44. ยานพาหนะไร้คนขับและหุ่นยนต์ ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้าไร้คนขับ รถน้ำมันไร้คนขับ เครื่องบินส่วนตัวไร้คนขับ หุ่นยนต์ต่างๆ
ล้วนไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ที่ใหม่ก็คือ
หลายบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านนี้เข้าใกล้จุดสำคัญมากแล้ว นั่นคือการผ่านมาตรฐานความปลอดภัยของสหรัฐฯ หากผ่าน
ได้ก็เหมือนใบประกาศว่าคุณสามารถขายได้ทั่วโลกแล้วละ เท่าที่ผมได้เห็นงานวิจัยหลายชิ้น ประเทศอื่นๆ ก็ยังไม่ตื่นตัว
จะสร้างมาตรฐานความปลอดภัยด้านพาหนะไร้คนขับเท่าไร แต่สหรัฐเขาทำมาเกือบ 10 ปี

ดังนั้น ยานพาหนะไร้คนขับกำลังเข้ามาใกล้ชีวิตจริงเรามากขึ้นแล้ว เชื่อว่า ด้วยการแข่งขันอย่างรุนแรงจะทำให้
ราคาเทคโนโลยีไร้คนขับถูกลงเร็ว สำหรับข้อดีเชื่อว่าทุกคนคงหาจากกูเกิลได้อยู่แล้ว ระบบไร้คนขับจะเหมาะสมกับรถยนต์
ไฟฟ้ามากที่สุด เพราะรถบบขับเคลื่อนไม่ซับซ้อนเหมือนการเผาใหม่ด้วยน้ำมันหรือก๊าซ การควบคุมมอเตอร์ง่ายกว่าเครื่องยนต์
เยอะซับซ้อนกว่า นั่นคือ ai ของระบบไร้คนขับในรถยนต์ไฟฟ้าจะทำงานได้ดีกว่า

ยิ่งเราใช้ไปนานๆ รถไฟฟ้าทำงานได้ดีกว่ารถยนต์เผาไหม้แบบเก่าเสมอ แต่ตอนนี้ราคาแพงและพลังงานไฟฟ้าก็แพงด้วย
เราจะได้เห็นการเพิ่มขึ้นใน สหรัฐ แคนาดา ยุโรป ญี่ปุ่น จีน รัสเซีย ออสเตรเลียเป็นส่วนใหญ่

เรื่องหุนยนต์ที่จะเข้ามามีบทบาทกับเรามากขึ้น ตาม ai ที่ก้าวหน้าเพิ่มขึ้น ผมชอบแนวคิดไอน์สไตน์ที่บอกว่า หุ่นยนต์จะ
รับใช้คนที่ช่วยให้มันฉลาดมากขึ้นเท่านั้น หากหุ่นยนต์ฉลาดได้เองมันจะพากันค้นหาคนที่ช่วยให้มันฉลาดมากยิ่งขึ้น
ใครที่คิดว่าหุ่นยนต์จะฆ่าคน อันนั้นไม่ใช่หุ่นยนต์ที่ฉลาดได้เอง เป็นหุ่นยนต์ที่ทำงานไปตามที่เขาโปรแกรมไว้เท่านั้น

55. 5g ค้นหูค่อนข้างเก่ามากแล้ว แต่งานวิจัยหลายชิ้นได้ย้ำให้เห็นว่า มันจะเร่งความเร็วของธุรกิจแทบทุกด้านทุกสาขา
ข้อสรุปหลายอันแสดงให้เห็นว่า ai บนคลาวด์และ 5g กำลังจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงธุรกิจไปอย่างรวดเร็ว

หลายบริษัทคิดว่าปรับตัวแล้ว และเราดูยังไงก็ไม่น่าจะเจ๊งได้ อย่างดิสนี่ย์ก็ประกาศว่าจะเปลี่ยนแปลงตัวเองมากขึ้นไปอีก
ผู้บริษัทดิสนี่ย์เพิ่งให้สัมภาษณ์ว่า เขาคิดไม่ถึงว่าความเร็วอินเตอร์เน็ต คลาวด์ และ ai จะเปลี่ยนแปลงธุรกิจบันเทิงได้เร็วขนาดนี้
ยิ่งมี 5g แล้ว ดิสนี่ย์อาจจะกลายเป็นบริษัทเล็กๆ อย่างโกดัก คนใช้มือถือและแท็ปเลตก็ทำงานได้เต็มที่มากขึ้น
บริการธุรกิจบนคลาวด์ก็สำคัญมากขึ้น วงจรธุรกิจสั้นลงการเกิดและตายของบริษัทเราอาจเห็นได้เร็วมากขึ้นกว่าเดิม

เรามาถึงยุคที่บริษัทเล็กใหญ่ไม่สำคัญแล้ว สิ่งสำคัญคือใครจะอยู่ได้นานท่ามกลางการสื่อสารความเร็วสูง การขนส่งความเร็วสูง
บริษัทสามารถเติบโตได้หรือเปล่า ถ้าไม่ก็อาจจะจากไปแน่
จากข้อมูลหลายแหล่งเทคโนโลยีไบโอเทค นานาเทค ยังไม่โดดเด่นมากพอจะมาเป็นธุรกิจสำคัญในเวลาอันใกล้นี้
ต้องใช้เวลาพัฒนาอีกพอสมควร

สรุป 5 เทคโนโลยีที่จะเกิดขึ้นนี้ บางคนอาจจะคุ้นหูหมดแล้ว เพราะมีข้อมูลเเผยแพร่มานานแล้ว เพียงแต่งานวิจัย
จากมหาลัยท็อปเทนของโลกมาช่วยตอกย้ำว่าเทคโนโลยีทั้ง 5 นี้เริ่มขยายตัวทางธุรกิจต่างๆ มากยิ่งขึ้น
บางอย่างก็ได้ใช้กันแล้ว ข้อสรุปของงานวิจัยจะปลดล็อคข้อสงสัยว่า

มีเทคโนโลยีสำคัญๆ อันใกล้นี้และมี อะไรบ้างและแพร่หลายไปทั่วโลกไหม จะสามารถหาประโยชน์
จากเทคโนโลยีเหล่านี้ได้อย่างไร
การค้นหาข้อมูล การฝึกฝนทักษะและความชำนาญให้สอดคล้องไปกับการเปลี่ยนแปลงจะช่วยให้เราหาเงินได้ดีขึ้น
ท่ามกลางเงินที่หมุนเวียนไปบนโลกด้วยความเร็วแสง มักมีโอกาสเล็กๆ ซ่อนตัวอยู่ในสึนามิต่างๆ เหล่านี้เสมอ

ปล.
หลานผมสงสัยทำไมผมและชาวโลกถึงชอบตามก้นอเมริกาจัง เพราะผมจบจากที่นั่นใช่ไหม
ผมตอบหลานวัยรุ่นไปว่า เขาเป็นประเทศเดียวที่สามารถป้องกันอุกาบาตจากอวกาศได้ ป้องกันพายุสุริยะได้
เพื่อไม่ให้คนในประเทศตัวเองสูญพันธ์ไปแบบไดโนเสาร์
ตอนนี้เรายังไม่เจอประเทศไหนที่มีความรู้หรือเทคโนโลยีป้องกันมหันตภัยเหล่านี้ได้
เราควรเรียนรู้จากคนทีมีอนาคตอยู่ต่อไปได้ ไม่ใชเรียนรู้จากสิ่งที่จะสูญพันธ์ตามไดโนเสาร์ไป

แต่ก็ต้องเคารพการตัดสินใจของคนอื่น ในเรื่องลัทธิ ความเชื่อ ศาสนา หรือเชื้อสายเผ่าพันธ์ใดๆ ก็ตาม
นั่นคือความสุขส่วนตัวของคนอื่นๆ เขา
แต่ทุกคนก็ต้องก้าวหน้าและวิวัฒนาการกันต่อไป อนาคตต้องการคนเก่งและไม่สูญพันธ์ไปจากจักรวาล
ทุกคนบนโลกย่อมมีความสุขได้ตามที่ตัวเองเชื่อ ตามที่ตัวเองต้องการ แล้วตายจากไปให้สายพันธ์ใหม่เกิดขึ้นมาแทน

ผมเคยไปเที่ยวบ้านหลังสุดท้ายของไอน์สไตล์ก่อนเขาจะตาย ผมปิดกระทู้ด้วยบันทึกส่วนตัวของเพื่อนไอน์สไตน์ที่ว่า
ไอน์สไตน์เคยพูดติดตลก  "กาลิเลโอ โซคราตีส ฉลาดเมื่อพันปีที่ผ่านมา แต่ทุกวันนี้คนก็รู้มากกว่าสองท่านนี้ไปแล้ว
ผม(ไอน์สไตน์)เก่งในยุคนี้ แต่อีกพันปีหรือหมื่นปีข้างหน้า คนรู้อะไรมากกว่าผมอยู่แล้ว"
2  ความรู้ทั่วไป / E-commerce / Re: มหาวิกฤตเศรษฐกิจ ปี 2020 เมื่อ: 11 ธันวาคม 2018, 16:19:44
เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ที่ประเทศเล็กๆ จะสามารถทำได้แบบหนังอามาเกดอน หลายคนเริ่มมองว่าสหรัฐและประเทศใหญ่ๆ
กำลังจะใช้ความรู้และเทคโนโลยีด้านอวกาศมาออกล่าอาณานิคมแบบใหม่ โดยมีพวกเก่งๆ ที่สุดโต่งในสหรัฐ เคยพูดนะว่า ต้องปล่อย
ให้ประเทศเหล่านี้เป็นหนี้เทคโนโลยีด้านอาวกาศไปสักพันปี หากต้องการคุ้มครองการตกของอุกาบาติ พูดง่ายๆ ก็คือ
จ่ายค่าคุ้มครองมา 1 พันปีหรือเป็นทาส 1 พันปี แล้วพวกฉันจะคุ้มครองเรื่องอุกาบาตให้ ซึ่งไม่มีใครอยากเห็นสิ่งนี้เกิดขึ้น
แอย่าลืมว่าหากคุณไม่ร่วมมือกับนาซ่าผลักดันความรู้ให้คนทั่วโลก เราอาจจะโดนหลอกหรือโดนจริงๆ เหมือนกรณี เหตุการณ์คอมพิวเตอร์
ปี 2000 นั่นละต่างคนต่างไม่รู้ว่าจะมีผลกระทบแค่ไหนอย่างไร เดาไปเดามาก็มีธุรกิจเกิดขึ้นมารับช่วงแก้ไขหาให้ทันที
พอรวยแล้วก็จากไปแบบงงๆ คนจ้างทำก็งงไอ้คนมารับทำก็ยังงงๆ ว่าตัวระบบที่รองรับปี 2000 แล้วมันทำงานร่วมกับของเก่าได้โดยไม่มีปัญหาอะไรเลย

สรุปคือต่างคนต่างไม่รู้สุดท้ายก็คือเสียเงินฟรี เสียเวลาไปฟรี เราผ่านความโง่แบบนี้มานานแล้ว อย่าให้คนเก่งๆ หลอกให้ประเทศเล็กๆ
ไปเป็นทาสอีกเลย การแบ่งปันความรู้ การวิจัยพัฒนาสิ่งใหม่ๆ คุณจะต้องร่วมมือ เพราะมันจะบอกได้ว่า นี่ไงผมก็ทำด้วย ดังนั้น
คุณจะต้องแบ่งปันให้คนทั้งโลกเหมือนกัน ผมเคยจำเพลงท่อนหนึ่งสมัยวัยรุ่นได้ แบกชีวิตพอเกิดมาก็เป็นหนี้
อยู่อย่างนี้ทำยังไงก็กู้เขา เนื้อเพลงช่างเข้ากับอนาคตลูกหลานจริงๆ หากเราไม่ร่่วมมือผลักดันความก้าวหน้าไปร่วมกัน
ลูกหลานเราจะต้องมาเจอหนี้แน่ๆ
คุณช่วยนาซ่า กับ อีซ่า เผยแพร่ความรู้ด้านอวกาสเป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายๆ เป็นการแสดงว่าเราผลักดันองค์ความรู้นี้ร่วมกันกับโลก

เหตุการณ์ที่ 3. การฟอกยีนส์ จะเริ่มเห็นตั้งแต่ 30 ปีและ 500 ปีสมบูรณ์แน่ เรากลายพันธ์มาจากลิงชิมแปนซีโดยไม่ได้ตั้งใจ
มันเป็นไปตามวิวัฒนาการของโลก
สตีเฟ่น ฮ็อคกิ้งส์ เคยพูดไว้ว่า การเปลี่ยนแปลงดีเอ็นเอใหม่ เป็นหน้าที่ของเผ่าพันธ์ที่ฉลาดแล้ว นั่นคือคุณจะต้องเปลี่ยนดีเอ็นเอ
ในสายพันธ์ลิงนี้ออกไป ไม่ว่านานแค่ไหนก็ต้องทำ เราฉลาดมากแล้วเราควรเลือกสายพันธ์ที่ฉลาด ทนทานต่อโรคภัย มีอายุยืน
หรือสังเคราะห์ร่วมกับสิ่งอื่นๆ เพื่อให้ร่างกายเราใกล้เคียงฮีโร่ในหนังให้มากที่สุด หลายงานวิจัยก็ออกมาตรงกันว่าหากไม่ล้างยีนส์
หรือสายพันธ์ด้อยออกไปโลกอาจเสี่ยงต่อการสูญพันธ์ได้ ทุกอย่างล้วนมีความเสี่ยง คนไม่รู้และรู้ไม่จริงอาจตกเป็นเหยือประเทศ
ใหญ่ๆ ได้

4. การทำเหมืองแร่บนดาวดวงอื่นๆ 60-90 ปีเป็นต้นไป พลังานบนโลกจะยั้งยืนมากขึ้น ผลกระทบต่อโลกจะมีมากขึ้น อะไรที่เรา
หามาได้เยอะๆ คนก็จะใช้เยอะๆจนทำให้สิ่งแวดล้อมบนโลกแย่เร็วขึ้น โดยเฉพาะประเทศเล็กๆ มักจะโดนก่อนและเป็นประจำ

ภัยพิบัติทั้ง 4 เหตุการณ์สำคัญด้านบนชี้ให้ทุกคนเห็นว่า ผลกระทบเหล่านี้คุณและลูกหลานอาจรับมือไม่ทันหากเขา
ยังไม่ค้นหาความจริงแล้วชวนคนบนโลกให้ร่วมมือกันมากขึ้น กระจายองค์ความรู้ให้เร็วขึ้น ผมไม่อยากเห็นคลิปคนหลายล้านคน
มาโดนสายส่งไฟฟ้าช็อตตายคาถนนเพราะพายุสริยะขนาดใหญ่ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้เราต้องรู้อยู่แล้วว่าจะเกิดในวินาทีเท่าไร
ภัยเศรษกิจ ภัยสิ่งแวดล้อมยังเป็นสิ่งที่เราคุ้นเคยและพบเจอเป็นประจำ มันเล็กน้อยมากหากเทียบกับอย่างอื่น แต่หลักการแก้ปัญ
หาคงไม่ต่างกันเท่าไร 

ผมจ้างเอาต์ซอร์สคนอินเดียและที่อื่นๆ เก็บและสรุปวิจัยข้อมูลจากที่ต่างๆ ของนาซ่าและเพนตากอนและมหาวิยาลัยชั้นนำของโลก งส่วนใหญ่เขาเผยแพร่ข้อมูลฟรีค่อนข้างเยอะมากทีเดีย หรือเพนตากอน นี่เผยแพร่เกือบหมดนะ แต่ก็มีบางข้อมูลที่เป็นความลับอยู่แต่ก็ไม่ได้สำคัญกับองค์กรเขาขนานนั้น ดังนั้นทุกคนบนโลกนี้สามารถวิเคราะห์ข้อมูล แนวโน้มต่างๆ จากงานวิจัยเหล่านี้เพื่อ
ให้ตัวเองปรับตัวหรือวิวัฒนาให้เข้ากับโลกได้ 

คนในอนาคตอีก 1 แสนปีข้างหน้าจะไม่ยอมรับเผ่าพันธ์โง่ๆ แบบนี้ อนาคตคนในเชื้อเผ่าพันธ์ผมก็คงไม่ยอมรับผมหากยังโง่อยู่
แบบนี้งานวิจัยหลายชิ้นชี้ให้เห็นแล้วว่า มนุษย์ยุคเรายังปรับตัวตามวิวัฒนาการยากเพราะคนส่วนใหญ่ไม่อยากเปลี่ยนตัวเอง
ข้อมูลต่างๆจะถูกรวบรวมไว้ในอินเตอร์เน็ตให้คนในอนาคตได้แก้ไข เปลี่ยนและล้างยีนส์ด้อยต่างๆ ออกไป เราวิวัฒนาได้ดีกว่าสิ่งอื่นๆ
และไม่ได้โง่แบบไดโนเสาร์ ถึงจะเสี่ยงกับการสูญพันธ์ไปจากจักวาล คนที่ให้มุมมองกับคนอื่นเป็นเรื่องที่ดีเสมอ การให้ความรู้ที่ดีกับคน
อื่นเป็นเรื่องดีเสมอ แต่การให้ความคิดว่าเขาควรวิวัฒนาการตัวเองให้เข้ากับโลกอย่างไร ปรับตัวอย่างไร เป็นสิ่งที่สุดดยอดมากๆ

ลองหาข้อมูลเพิ่มเติมและศึกษาจากงานวิจัยในมหาลัยชั้นนำของโลกดู ผมและคนอื่นๆ ก็ไม่มีใครเก่งจริงหรอก หากเก่งจริง
ไม่มานั่งโมแถวนี้ว่าผมเคยทำงานนาซ่า ผมเคยทำงานให้เพนตากอน ผมได้รางวัลระดับโลกมาแล้ว หากเก่งโน่นไปทำเหมืองแร่
บนดาวดวงอื่นๆ แล้วเอามาขายบนโลกสิ แค่นั้นเขาก็กลายเป็นมหาอำนาจหนึ่งเดียวของโลกไปแล้ว อย่าเชื่อใครโดยไม่เคยตรวจสอบ
โลกนี้ไม่เคยมีพระเอกอยู่จริงแบบหนังฮีโร่ คุณแค่ทำได้เพียงให้คนทั้งโลกร่วมกันเป็นพระเอกที่จะช่วยรับมือวิกฤติต่างๆ และมหันตภัยได้
3  ความรู้ทั่วไป / E-commerce / Re: มหาวิกฤตเศรษฐกิจ ปี 2020 เมื่อ: 11 ธันวาคม 2018, 16:19:18
ผมไม่ค่อยมีเวลาดูคลิปคนไทยเท่าไร แต่คืนนี้ว่างก็เลยนั่งดูแบบผ่านๆ นะเอาพอแบบจับประเด็นได้แล้วกัน
การวิเคราะห์บางช่วงก็โอเค ทำได้ดีอยู่ แต่หลายช่วงยังขาดความจริงไปเยอะ ให้มานั่งตอบโต้สามวันก็คงไม่จบ

สิ่งที่ผมอยากเตือนทุกคนก็คือ วิกฤติมันเกิดขึ้นได้ทุกเสมอ ทุกคนต้องยึดตามหลักวิวัฒนาการเท่านั้น ผมข้อตอบยาวมากๆ ตามที่ผมเก็บ
รวบรวมข้อมูลมาและยังทำต่อไปอีกเเรื่อยๆ

บางคนบอกจบฮาร์ดเวิร์ด เคยทำงานน่าซา ทำงานเพนตากอน แล้วมักอ้างข้อมูลผิดๆ ก็มีเยอะมาก นับตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบันคนทำงาน
ให้นาซ่ามีเป็นสิบล้าน นีล อาร์มสตรอง ไปบรรยายที่ไหนทำไมเข้าถึงกล้าบินไปลงดวงจันทร์ เขาชอบพูดเสมอมีคนเก่งๆ หลายล้าน
คนนี้ทำสิ่งนี้อยู่คุณมั่นใจได้ว่ามันต้องออกมาดี นั่นคือ การอ้างตัวเลข การอ้างคำพูดคนสำคัญสักคนไม่ผิด ถ้าอ้างต้องให้คนไปค้น
หาข้อเท็จจริงต่อไป ถ้าคุณอ้างคนสำคัญ อ้างเพียงทฤษฏีมาแปะไว้ ให้คนเชื่อเลยนั่นละผิด เพราะระบบเศรษกิจโลกมันใหญ่มาก
มันผันผวนเร็วขึ้นปรับเร็วขึ้น นั่นคือ คุณจะประสบความสำเร็จในชีวิตคุณจะต้องลงทุนวิจัยข้อมูลการทำงานของตัวเองและโลกด้วย
ผมและกลุ่มได้จ้างเอาต์ซอร์สคนเก่งๆ เก็บ วิจัย และสำรวจข้อมูลใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อ คนรู้ก่อนย่อมได้เปรียบเสมอ ถึงจะฉกฉวยโอกาส
ทำเงินไม่ได้แต่อย่างน้อยก็ทำให้คุณรับมือกับความเสี่ยงต่างๆ ได้ดีขึ้น

ผมแฟนและกลุ่มเพื่อนที่เคยเรียนด้วยกันที่สหรัฐฯ คนยังเปิดบริษัทรับจ็อบให้เพนตากอนหรือนาซ่าครับพากันไปเที่ยวประเทศ
ในแถบทะเลแคลิเปียน เคยไปหลายครั้งละ แต่ครั้งนี้ผมได้ดูคลิปสั้นๆ จากไกด์ เห็นคนกลุ่มหนึ่งวิ่งไปทำพิธีอะไรสักอย่างช่วงที่มีฟ้าร้องและฝนตกหนัก ทันใดนั้นฟ้าผ่าลงตรงกลุ่มใหญ่
ตายไปหลายคน สาหัสอีกหลายคน ผมลองนั่งค้นข้อมูลจากนาซ่าและองค์กรด้านอุตุนิยมของสหรัฐ ก็เห็นตรงและวิเคราะห์ตรงกันกับ
เพื่อนๆ ว่าปีนั้นโอกาสฟ้าผ่าสูงขึ้นเกิน 70% ในแถบอเมริกากลางและเหนือ คนที่ตายก็ตายไปแล้ว ลำบาก
ก็แต่คนที่ไม่ตาย โดยเฉพาะพวกคนที่ต้องพิการที่กลับต้องมาเป็นภาระอีก ทำได้แค่บริจาคให้นิดหน่อย ทั้งที่หากคนเหล่านี้รู้นิดเดียว
ว่ากระแสไฟฟ้าบนกลุ่มเมฆในปีนี้แรงและเยอะมากจากพายุสริยะ พวกเขาคงจะไม่เสี่ยงแบบนี้ จนกลายเป็นภาระครอบครัว 

คนไม่รู้กับคนรู้ไม่จริงได้ผลลัพธ์ใกล้เคียงกันมาก หากคุณฟัง คุณดู คุณสัมผัส แล้วหลงเชื่อง่ายๆ ไม่ยอมค้นหาความจริง
ตามหลักวิวัฒนาการโลกเลย โปรดจำคำของสตีเฟ่น ฮอคกิ้งไว้ว่า มันคงน่าเสียดายที่เรามีสมองและสติปัญญาที่เหนือกว่าไดโนเสาร์มาก
แล้วมษย์ไม่พยายามหาทางรอดพ้นจากการสูญพันธ์ของตัวเอง
การปรับตัวเองให้เข้ากับวิถีของโลก การเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ การรู้จักวิเคราะห์และสังเคราะห์ข้อมูลเป็น จะช่วยให้ลูกหลานของคุณเอง
รู้จักคุณค่าของชีวิตมากยิ่งขึ้น เมื่อ 1 แสนกว่าปีที่แล้ว เราวิวัฒนาการออกจากลิงมาเป็นคนและ 1 หมื่นปีที่ผ่านมาก มีงานวิจัยว่ามนุษย์
ส่วนใหญ่ไม่ยอมรับว่าตัวเองกลายพันธ์มาจากลิงตีพิมพ์ให้เห็นหลายฉบับมนุษย์ต้องการหลอกตัวเองว่า พระเจ้าสร้างเผ่าพันธ์นี้ขึ้นมา

ผมอ่านดูสถิติข้อมูลตัวเลขเศรษฐกิจจากหลายที่มันก็เป็นรอบการขึ้นลง หากเศรษกิจไม่ขึ้นลงก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลง หากไม่มีการเปลี่ยนแปลง
คุณจะเจอกับภัยพิบัติสำคัญ 4 ข้อ ความเสี่ยงสำคัญในโลกตอนนี้มีอะไรบ้าง หลายคนชอบพูดถึงสงครามโลกครั้งที่สาม
จากกลุ่มของผมที่จ้างคนเก่งๆ ผมบอกได้เลยว่า คุณและลูกหลานคุณจะได้เจอแน่ๆใน 4 วิกฤติสำคัญมากของโลก

เหตุการณ์ที่ 1. พายุพลังงานแม่เหล็กแสงอาทิตย์ทะลุผ่านชั้นบรรยากาศเข้ามา พูดง่ายๆ ลมสุริยะธรรมดาที่ทำให้เกิดแสงออร่าที่สวยงาม
มันกลายเป็นพายุสุริยะทะลุเข้ามาแทน มันเกิดแน่ๆ ภายใน 40 ปีเจอแน่ๆ ที่จะถึงนี้ละผลร้ายก็คือ นี่คือข้อมูลสรุปจากงานวิจัย สายส่งไฟฟ้า
อุปกรณ์อิเล็กซ์ทรอนิกส์ ระบบอินเตอร์เน็ต และดาวเทียมต่างๆ จะได้รับความเสียหายไม่น้อยกว่า 30% ระบบสื่อสาร ไฟฟ้า จะหยุด
อย่างน้อย 30 นาทีถึง 3 ชั่วโมง นี่สำหรับประเทศในสหรัฐนะ แต่หากช่วงนั้นคุณไม่รู้แล้วไปเที่ยวในประเทศเกาะเล็กๆ
รับรองได้ขุดเอาความรู้สมัยโบราณหรือสัญชาติญาณดิบเพื่อเอาตัวรอดแน่ๆ  และเราจะได้เห็นพระเอกขี่ม้าขาวขึ้นมาทำธุระกิจเรื่องนี้ชัวร์

เห็นการณ์ที่ 2. อุกาบาตพุ่งชนโลก ภายใน 1 แสนปีนี้เกิดแน่ๆ นี่ไม่ใช่เรื่องใหม่แต่ที่ใหม่คือสหรัฐมีการวิจัยและวางแผนไว้ว่า หากอุกาบาตพุ่งชนบางประเทศ
จนโลกเสียหายไปบางส่วน แล้วคนในสหรัฐจะรองรับผลกระทบเหล่านี้และปรับตัวได้อย่างไร การพุ่งชนโลกไม่ใช่แบบหนังนะครับ
มีเพียง 1 ลูก แต่มันมาเป็นห่าฝนครับ ที่ไดโนเสาร์สูญพันธ์นะ คือ ลูกใหญ่ทำให้โลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว แต่ลูกเล็กๆ
ที่ตกลงมาต่อเนื่องนั่นละ ทำให้สัตว์หลายชนิดสูญพันธ์ไป มันมาหลายลูกต่อเนื่องกัน หากดูเผินๆ ก็ธรรมดาเพราะสหรัฐวิจัย
แทบทุกเรื่องอยู่แล้ว แต่กลุ่มเพื่อนผมสังเกตว่า งานวิจัยแบบนี้จะนำไปสู่การลอยแพ้ประเทศเล็กๆ ให้เผชิญหน้ากับอุกาบาตเอาเอง(มีต่อ)
4  ความรู้ทั่วไป / Search Engine Optimization / Re: ทำไงดี keyword สินค้าโดน marketplaceยึดหมดแล้ว เมื่อ: 13 พฤศจิกายน 2018, 14:24:45
ผมแนะนำ ลองค่อยๆ แปล และอ่านตามลิงก์ด้านล่างครับ

www จุด manchestereveningnews จุด co จุด uk/news/greater-manchester-news/mum-who-scraped-together-100-15405169

ผมสรุป จากที่อ่านและลองค้นกูเกิล ยูทูปและเดินเที่ยวเล่นในอังกฤษมา เมื่ออาทิตย์ก่อนนะ

เธอคนนี้ใช้โซเซียลมีเดียขายผ่านทางเฟซบุค ช็อป ลงทุนประมาณล้านกว่าบาท
ตอนนี้ขนาดธุรกิจประมาณ 160 ล้านต่อปี เธอบอกธุรกิจเข้มแข็งเพราะโซเซียลมีเดีย
ของร้านเธอเติบโตอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันเธอขยายงาน มีดีไซน์เนอร์ เริ่มเปิดช็อปแถวบ้านเกิด

ผู้หญิงคนนี้เลิกกับแผนมีลูก 3 คน เนื่องจากลูกยังเล็กมาก และเธอก็จบมอปลาย
เลยขายบ้านเก่ากับสามีมาทำธุรกิจแฟชั่นทางออนไลน์ ลิงก์นี้มีเพื่อนฝรั่งแชร์มาให้ดูครับ
แฟนผมก็สนใจ เรื่องของผู้หญิงคนนี้ เพราะเธออยากแบ่งปันกำลังใจให้ผู้หญิงด้วยกันในการทำธุรกิจ

เมื่อเธอขายในโซเซียล เหมือนเธอได้แลกเปลี่ยนความรู้กับคนอื่นๆ ไปด้วย ทำให้เธอเก่งขึ้น
ตอนนี้ เธอไปจ้างบริษัทรับทำเว็บไซต์และเซอร์วิสต่างๆ ครบวงจรครับ เจ้าของบริษัทพัฒนา
เว็บไซต์เปินคนอินเดีย ใช้เวิร์ดเพลสทำ แต่ที่สำคัญคือเขาเก็บฐานลูกค้าและวิจัยข้อมูลต่างๆ
ให้เจ้าของเว็บตลอดเวลา นั่นคือ ข้อมูลต่างๆ จะเห็นแบบเรียลไทม์ในการเซอร์วิส ลูกค้า
ส่วนคีย์สินค้าในเว็บไซต์ร้านเธอก็ไม่ติดนะครับ เพราะเพิ่งจ้างคนอื่นทำให้ ที่เท่าที่ผมดูบริษัท
อืินเดียที่ทำให้แล้ว ไม่ค่อยเก่ง SEO เท่าไรครับรับ

ผมลองค้นดูในกูเกิลเพิ่มเติม ปรากฏว่าในอังกฤษนิยมใช้บริษัทแบบนี้มาก เช่น สโมสรแมนยูฯ
หรือทีมอื่นๆ พวกทีมในลีกรองๆ และก็ร้านค้าออนไลน์ในอังกฤษ ว่างๆอาทิตย์ก่อน ผมกับแฟน
ไปเที่ยวอังกฤษ ก็ได้ลองค้นกูเกิล ดูสตรีทวิวเล่นๆ และไปเดินดูร้านค้าที่ขายทั้งออฟไลน์และออนไลน์
การเปิดหน้าร้านต่างๆ ผมสังเกตเห็นว่า ร้านพวกนี้นิยม จ้างบริษัทอินเดียลักษณะนี้ทำให้ ดูแลรายเดือน
บริษัทพวกนี้รับประกันว่า วิเคราะห์ข้อมูลอีคอมฯ ได้ดีที่สุด ผมไม่แน่ใจนะว่าจริงไหม เพราะข้อมูล
จำนวนน้อยๆ แบบนี้ วัดฝีมือกันยากมาก หากผมได้เห็นอัลกอลิทึ่ม ผมว่าน่าจะห่วยกว่าใน MATLAB เยอะ

ประเด็นสำคัญที่ ผมอ่านและลองหาข้อมูลเพิ่มเติม จากกูเกิลและยูทูป คือ เธอเริ่มจากศูนย์ด้วยเฟสบุค
สร้างเครือข่ายให้เข้มแข็งขึ้นเรื่อยๆ มาจนถึง 7 ปีนี้ และเธอก็พัฒนาร้านตัวเองทั้งเปิดเว็บไซต์ เปิดหน้าร้าน
มีการจ้างพนักงานประจำ 10 กว่าคน รันธุรกิจประมาณ 170 ล้านบาท
เธอสรุปเอาไว้ว่า ความเข้มแข็งในธุรกิจเธอมาจากการสร้างโซเซียลมีเดียร้านให้เข้มแข็ง

ความเห็นส่วนตัวนะเท่าที่ดูในอังกฤษมานะ ที่อังกฤษการแข่งขันอีคอมฯ ไม่รุนแรงเท่าไทย มีอเมซอนเจ้าเดียว
ที่เก่งจริง แต่เขาไม่ได้ทำด้านแฟชั่น ส่วนเทสโก้โลตัสดั้งเดิม (โลตัสในไทย เป็นของซีพี) อีคอมฯ ล้าหลังมาก

ใครเป็นผู้หญิงลองนั่งแปลและอ่านไปเรื่อยๆ ครับ ผมว่าคุ้มค่ากับเวลาที่เสียไปแน่นอน
5  < กดยุบ (ห้องยกเลิกการใช้งาน) / สาระคำถามทั่วไป (ย้ายไป cafe) / Re: Apple สิ้นมนต์ขลัง ไม่สามารถทำให้คนรีบวิ่งออกไปซื้อได้เหมือนแต่ก่อนแล้ว! เมื่อ: 06 พฤศจิกายน 2018, 13:05:37
พวกแก็งค์ เสื้อยืด สตีปจ๊อบ บิลเกต อีรอนมัค และมาร์คซัคเคอร์เบิร์ก

อีรอนมัคเป็นลูกศิษย์โปรดคนหนึ่งของ สตีฟ จ็อบ เลียนแบบแม้กระดูดกัญชา

หลายค่ายยักษ์ใหญ๋ต่างลงมาทำ ฮาร์ดแวร์เอง ทั้งไมโครซอต์ Google อเมซอน
ทำให้ฮาร์ดแวร์ค่ายรองๆ จากจีน สามารถจับไอเดียการแข่งขันกับ แอปเปิลได้

หมายถึงว่า Google ไมโครซอฟต์ เขาออกมาทำฮาร์ดแวร์ เพื่อไกด์เป็นแนวทางแข่ง
กับ แอปเปิล ต้องยอมรับว่าสมัยก่อน แอปเปิลทำให้เห็นความแตกต่างมาก แต่พอ
ไมโครซอฟต์และกูเกิล ลงมาทำฮาร์ดแวร์แล้ว พวกบริษัทรองๆ อย่างซัมซุง บริษัทจีน
เริ่มพัฒนาสินค้าได้ดีขึ้น อย่างคิดว่า ฮาร์ดแวร์สูงกว่า ราคาถูกกว่าจะสำคัญเสมอไปครับ
การแข่งขันทำให้แอปเปิลปรับตัวมากขึ้น แม้ สตีป จ๊อบ ยังไม่ตายก็ยากครับ

ไมโครซอฟต์ Google ไม่ได้เล็กกว่าแอปเปิลทีมีมูลค่า 33 ล้านๆ บาท งบประมาณวิจัย
พัฒนาฮาร์ดแวร์ไม่น้อยไปกว่ากันแน่ และสองบริษัทนี้ แบ่งปันองค์ความรู้จากการวิจัย
ให้กับบริษัทแบบฟรีๆ ด้วย

แม้วบิลเกตจะถือหุ้นแอปเปิลสิบกว่าเปอร์เซนต์ ยังไงเขา ก็ต้องรีบสกัดละ
ส่วนกูเกิลก็ต้องจ่ายปีละเกือบห้าหมื่นล้าน เพื่อให้แอปกูเกิลอยู่บนไอโอเอส
เงินวิจัยและพัฒนา ก็ต้องทุ่มสู้กันเต็มที่ ปล่อยโตเดี่ยวเรื่อยๆ สักวันก็โดนบริษัทใหญ่กว่า
มาซื้อกิจการ

บริษัทใหญ่ที่สุดของที่สุดในโลก กำลังเผชิญหน้ากับ Cloud Tranformation 2.0
ผมมองว่า แอปเปิล รวมถึง เทสล่า เองก็ตาม ตามยุค Cloud tranformation ไม่ทัน หรือยัง
ไม่มีแผนงานเลยด้วยซ้ำ แต่ทุกวันนี้มีแค่บรษัทเดียวในโลกที่ทำได้ดี คือ อเมซอน
มันเลยไม่น่ากลัว

ผมไปเที่ยวยุโรป มีโอกาสได้ดูไลน์การผลิตรถไฮเปอร์คาร์ของเยอรมัน แม้แต่ทางเยอรมัน
ก็ยังพูดแต่เรื่อง lot และ industry 4.0 อยู่เลย ผมนั่งกินกาแฟและเปิดงานวิจัยมหาลัยชั้นนำ
ของโลกให้ดู ชี้มูลค่าตลาดให้เขาดู เขาถึงกับอึ้งว่า เขาบอกคนเยอรมันยังคาดไม่ถึงเลย

ผมอยากเห็นรถไฟฟ้าคุณภาพสูงจากยุโรปออกมาแข่งกับเทสล่าเร็วๆ เพราะเทสล่าคงไม่ยอม
ออกมาผลิตต่างประเทศง่ายนัก เขากลัวเทคโนโลยีแบตเตอร์รี่ กับไลน์การผลิตจะโดนก๊อปเร็ว
ผมว่าเขาคิดคับแคบเกินไป ลูกพี่ของ อีรอน มัค เขายังไม่กว่าคนอื่นก๊อปปี้เลย มาจ้างคนจีนผลิตให้

สัปดาห์ก่อน ผมมีโอกาสไปฮ่องกง เดินเซิ่นเจินกับแฟน ผมว่าจีนยังเน้นรับจ้างผลิตมากเกินไป
ส่วนงานวิจัยเท่าที่ผมได้คุยกับคนหนุ่มๆ ของจีน ก็ยังรับเงินมาจากรัฐบาล นั่นคือจุดอ่อนสำคัญว่า
งานวิจัยหรือสิ่งประดิษฐ์จะไม่มีความคิดสร้างสรรค์มากพอ ระยะยาวก็น่าเป็นห่วง

โลกหมุนไป ทุกสิ่งเปลี่ยนตาม ทุกอย่าต้องเร็วขึ้นและดีขึ้น การปรับตัวสำคัญทุกวินาที ผมว่ายุคนี้บริษัท
หรือคน ถ้าเรียนรู้เร็วและทำได้ดีกว่า ปรับตัวตลอด จะรวยเร็วมาก ถ่าไม่อีกทางก็ต้องล้มละลายไป
มีแค่สองทางให้เลือกเดิน หลังจากนี้ 5 ปี ฮาร์ดแวร์ของใครหลุดวงโคจร Cloud tranformation
ละเหนื่อยหนักแต่ โดยเฉพาะค่ายใหญ่ๆ  ยิ่งใหญ่ยิ่งเห็นชัด
6  ความรู้ทั่วไป / Search Engine Optimization / Re: อยู่อันดับหายไปเลย เกิดจากอะไรได้บ้างครับ เมื่อ: 06 พฤศจิกายน 2018, 12:19:38
ถ้าเว็บไม่ใหญ่ แรงค์กิ้งไม่สูง ผมถือว่าปกติครับ
อันดับไปๆ มาๆ ตามช่วงเขาปรับอัลกอใหม่

บางครั้งก็นาน บางครั้งก็เร็ว บางปีก็ปรับบ่อยมาก
เว็บแรงค์ดีขึ้น จะเริ่มนิ่งขึ้นครับ

ใจเย็นๆ ค่อยๆ ทำไป
7  ความรู้ทั่วไป / Search Engine Optimization / Re: รบกวขอสอบถามการทำ seo ครับ เมื่อ: 05 พฤศจิกายน 2018, 17:52:24
ทำได้ ก็พยายามใช้คำไม่ให้ Duplicate กับเนื้อหาครับ
ทำแล้วได้ผลดีขึ้นไหม ก็คงได้ผลดีเฉพาะคีย์สินค้าแข่งขันต่ำ

คำว่า Duplicate นี้ต้องเรียกว่า Google เขามักใช้กับพวกเว็บใหม่
พวกเว็บแร็งค์ต่ำครับ ประเภทเว็บแรงค์กิ้งสูงหน่อยมักจะไม่กระทบ

ถ้าเว็บมีอายุและแรงค์ในกูเกิลดีและนิ่งพอสมควร ตรงนี้ไม่น่ากระทบ
หากเว็บใหม่ แรงค์ไม่ค่อยดี ตรงนี้มีผลเยอะแน่ ขึ้นอยู่กับว่าจะมากหรือน้อย
8  ความรู้ทั่วไป / Adsense / Re: ใครทำ Youtube แล้วโดนชวนเข้ากับ MCN เพื่อหวังให้ช่องเติบโต แต่เอาเข้าจริง... เมื่อ: 05 พฤศจิกายน 2018, 17:38:10
ยังไง ช่องเป็นตัวยังไงมันก็ทำเงินให้เรา อย่าไปแคร์คนอื่นมากเกินไปครับ
ผมชอบดูแชนแนลดังๆ ของโลก บางช่องที่ทำเงินเป็นหมื่นล้านบาท
ในสองสามปี ผมอยากให็ไปดูแนวทางของ ช่อง the ace family

เขาไม่ค่อย ฟีดเจอริ่ง กับช่องดังไหนเลย เนื้อหาก็เรื่อยๆ แต่คิดไอเดียเองหมด
และใช้ทุนน้อยมาก ผมดูช่องนี้แค่บางคลิปแต่ไปกลับดูทีไร ยอดซับจากล้านมาถึง
สิบล้านเร็วมาก บางทีการหาไอเดียเอง หาจุดขายด้วยตัวเอง มันต่อยอดได้เยอะกว่ามาก

ไม่ใช่แค่คนครีเอทในไทยที่บ่นกัน พวกช่องดังๆ ในโลก ก็บ่นครับ คุณมียอดซับเยอะแล้ว
ค่อยๆ ต่อยอดไปดีกว่า บางครั้งช่วงยอดลดเราก็อยู่ได้ ช่วงรายได้เพิ่มเราก็เอาไปต่อยอดธุรกิจอื่น

การเอาคนดังๆ หาสปอนเซอร์ให้ มันเป็นชั่วครั้งชั่วคราว แต่ใช้ไอเดียตัวเองล้วนๆ ไปเรื่อยๆ ดีกว่า
มันต้องมีช่วงได้เยอะๆ อยู่แล้ว ค่อยเอาตรงนั้นไปเสริมอย่างอื่นอีกที

ผมเห็นช่องดังๆ ตอนนี้นะ พอจับสินค้ามาสปอนเซอร์ ยอดวิววูบหาย 20-30 % ดูดีๆ ครับ
พวกช่องเกิน 10 ล้านซับ เดี๋ยวนี้แทบไม่ยุ่งกับแบรนด์ไหนเลย เขากลัววิวหายมากกว่าตัวเงิน
9  < กดยุบ (ห้องยกเลิกการใช้งาน) / สาระคำถามทั่วไป (ย้ายไป cafe) / Re: จำเป็นต้องเปลี่ยน SSD ไหมคะพอดีเปลี่ยนเครื่องเล่นซีดีก็ยังกระตุกเหมือนเดิมค่ะ เมื่อ: 31 ตุลาคม 2018, 17:18:40
ไม่เกี่ยวกับแรมครับ ร้านก็มั่วกันไปเรื่อย

ไม่หัวอ่าน กับ ตัวจ่ายไฟให้หัวอ่านนั่นละ ส่วนใหญ่จะเป็นที่หัวอ่าน
หัวอ่านทำงานคล้ายๆ กับไฟฉาย ยิ่งนายหลอดก็เสื่อมเป็นเรื่องปกติ
ยิ่งเล่นแผ่นคุณภาพต่ำบ่อยๆ เล่นแผ่นซีดีธรรมดาบ่อยๆ เล่นแผ่นสกปรกบ่อยๆ

ตัววินโดว์ไม่สมบูรณ์ครับ เกิดจากโปรแกรมบางตัว เซอร์วิสบางตัวทำงานผิดพลาด
ลงวินโดว์ 10 ตัวล่าสุด ลองหาน้ำยาทำความสะอาดแผ่น ลองดูใหม่

ที่ร้านบอกระตุก คนนึกว่าว่าแรมช้ากว่า ssd แค่เล่นหนัง ฟังเพลง ดูยูทูปแค่นี้
ไม่มีปัญหาแน่นอน ไม่งั้นคนก็เปลี่ยนเครื่องกันทั่วโลกแล้ว แค่เล่นแผน่ซีดีกระตุกเนี่ย


เหมือนผมได้ยินเพื่อนพูด digital transformation 4.0 จะทำให้เราก้าวหน้ามาก
จริงๆ ยุคนี้ฝรั่งเรียกกันว่า ยุค Cloud Transformation 2.0 เขาเริ่มพัฒนาแฟล็ตฟอร์มต่อ
เนื่องมา 2-3 ปี แต่คนไทยยังดิจิตอลๆ จำอะไรผิดๆ มาท่องกันมาก คือไม่ดูว่าเขาไปถึงไหนแล้ว

ถ้าเล่นซีดีกระตุกเพราะ ssd ป่านนี้คนทั้งโลกไม่บ่นกันอุ๊ปแล้วเหรอ มันต้องมีอะไรเสื่อมนั่นละ
ไม่ตัวจ่ายไฟให้หัวอ่านดีวีดี ก็หัวหลอดตัวเล่นดีวีดีเสื่อม ร้านก็มั่วกันไปเรื่อย หากมีปัญหาแบบนี้
เขาไม่ส่งเคลมกันทั้งโลกแล้วเหรอ ตรรกะเพี้ยนมาก
10  < กดยุบ (ห้องยกเลิกการใช้งาน) / สาระคำถามทั่วไป (ย้ายไป cafe) / Re: ประเทศกูก็มี! "Apple Store" แห่งแรกในไทย 10 พ.ย. นี้!! เมื่อ: 29 ตุลาคม 2018, 05:58:13
นี้เป็น ไอเดียสุดท้ายก่อน สตีป จ๊อป ก่อนจะตายไป เขาอยากเห็นโลกยังมี
นักคิดเปลี่ยนโลก อย่าง ดาวินชี บิลเกต และตัวเขาเอง มาผลักดันการเปลี่ยนโลก
เขาอยากเห็นเด็กรุ่นใหม่มาผลักดันไปต่อเนื่อง ทำให้โลกก้าวหน้าต่อไป สำนักงาน
ใหญ่แอปเปิลเป็นรูปยานอวกาส เขาบอกว่า หมายถึง ดวงตาที่กำลังจ้องมองไปยังอวกาศ
โชคดีมากที่ไทยเปิดศูนย์แอปเปิล ก็หวังว่าจะมีเด็กไทยหรืออาเซียน ไปสานต่องานเขา

สตีป จ๊อป ถูกไล่ออกจาบริษัทแอปเปิล เขาไปเป็นอาจารย์สอนที่สแตนฟอร์ด
เขาสอนเอ็มบีเอ และมีลูกศิษย์สนิท เล่าให้ฟังว่า สตีป จ๊อป อยากเห็นคนมา
เปลี่ยนโลกเยอะๆ ก่อนตายเขาจึงหวังว่าศูนย์แอปเปิลจะค้นพบเด็กเหล่านี้

stay hungry   stay foolish  ไม่หยุดโหยหาโลกใหม่ ไม่หยุดเรียนรู้
ดวงตาของมนุยย์โลกทุกคน กำลังจ้องมองยังอวกาศ นี้คือสายพันธ์ที่พิเศษสุดในจักรวาล
11  ความรู้ทั่วไป / Cryptocurrency / เมืองเล็กๆ ในสหรัฐเดิมพันอนาคตด้วยการลงทุนเหมืองขุดเงินดิจิตอล เมื่อ: 30 สิงหาคม 2018, 16:00:03
เมื่อง wenalchee เป็นเมืองเล็กๆ ตั้งอยู่พื้นที่ตรงกลางของรัฐ วอชิงตัน
ซึ่งรัฐนี้มีสำนักงานใหญ่ของไมโครซอฟต์ และอเมซอน อยู่ครับ แต่ wenalchee
เป็นเมือเล็กๆ อยู่ในชนบทมาก ทำอาชีพเกษตร ไร่สวนแอปเปิล
แต่ตอนนี้คนในเมืองนี้ได้ตั้งเป้ามาเป็นเมือง
แห่งการขุดเงินดิจิตอล ซึ่งคนในเมืองนี้ บอกว่าเป็นการลงทุนแนวใหม่ของเมือง
เพื่อเดิมพันอนาคตข้างหน้ากับเงินดิจิตอล

เรื่องราวของเมืองนี้ เงินดิจิตอลในสหรัฐ อยู่ในสกู๊ป ช่องยูทูป CBS News เรื่อง

Cryptocurrency: Virtual money, real power and the fight for a small town's future

สกู๊ปเพิ่งฉายทางทีวีเมื่อวานเองครับ 21 นาที ลิงค์ตรง --> youtube.com/watch?v=S00MWI3YeP4

ผมนั่งดูแล้วน่าสนใจดี ได้ข้อคิดหรือมุมมองที่น่าสนใจ เป็นสกู๊ปที่เหมาสำหรับ
คนสนใจเกี่ยวกับเงินดิจิตอล และความคิดเห็นคนสหรัฐฯ บางส่วนว่าคิดอย่างไร
กับเงินดิจิตอล เนื้อหาค่อนข้างดีไม่ใส่สีตีข่าว ดูเป็นข้อมูลเสริมได้ครับ
12  ความรู้ทั่วไป / Social Media Marketing / Re: กระจ่าง แอดมินเพจ/กลุ่ม เฟชบุ๊ก คงต้องปรับตัวกันขนานใหญ่ เมื่อ: 22 สิงหาคม 2018, 21:22:32
เป็นข้อมูลที่มีประโยชน์สำหรับคนใช้ เฟสบุค หรือโซเซียลมีเดียอื่นครับ
มีการเก็บข้อมูลจริงและวัดผลตรงไปตรงมา สอดคล้องกับข้อมูลภายในของเฟสบุค

ปัญหาของโซเซียลมีเดียยุคนี้ คือคนสร้างเพจเยอะเกินจนต้องหาอัลกอมาปรับให้เหมาะสม
แน่นอนว่า คนเสียประโยชน์คือเพจเก่าบางเพจ บางเพจอาจจะโดนรุนแรงทีเดียว

แน่อนว่ามีคนสร้างเพจมาก เอนเก็จ ก็ยิ่งยากขึ้นไปอีก ยกเว้นเพจใหญ่อาจจะกระทบน้อยกว่า
ของฟรีไม่มีในโลก นั่นคือ เฟสบคเพื่อการเข้าถึงของเพื่อนหรือกลุ่ม จึงจำเป็นต้องพึ่ง  Ads
อยากให้คนเข้าถึง ถ้าเนื้อหาไม่โดนใจมากจริงๆ ก็ยากมากยุคนี้ ที่จะเอนแก็จคนจำนวนมาก

ไม่ว่าเราจะชอบไม่ชอบ ยังไงก็ปรับตัวครับ การทำตลาดต้นทุนต่ำหรือฟรี ไม่น่ามีให้เห็นอีกและ
13  ความรู้ทั่วไป / Gooooooooooooogle / Re: Google Backup and Sync เมื่อ: 22 สิงหาคม 2018, 10:54:31
เทียบกับ dropbox แล้วเป็นยังไงบ้างครับ พอดีตอนนี้ใช้ dropbox อยู่ แล้วค่อนข้าง ok

Dropbox เริ่มโอนระบบตัวเองไปอยู่ในกูเกิลคลาวด์แล้วครับนั่นคือไม่ใช่คู่แข่งกันละ น่าจะเป็น 2 โปรดักจากกูเกิล
เหมือนกัน เรื่องความเร็วน่าจะพอๆ กันละครับ ตอนนี้กูเกิลไดร์ฟ ที่เสียเงิน เปลี่ยนชื่อใหม่ให้ต่างจากของฟรีแล้ว
ชื่อว่า Google One เพื่อแยกให้ชัดว่า คลาวด์ไดร์ฟชื่อนี้เสียเงินละ

Dropbox ดีกว่ากูเกิลและคลาวด์ไดร์ฟช่วงแรกเพราะออกแบบระบบ ตัวเองดี แต่ย้ายระบบมาบนกูเกิลคลาวด์แล้ว
ความเร็วไม่น่าต่างจากกูเกิลวัน แต่ Dropbox น่าจะเหมาะกับคนทั่วไปที่ไม่ต้องการลูกเล่นแอปคลาวด์เยอะๆ
ส่วน Google One น่าจะเหมาะกับคนหรือองค์กรที่ต้องการ ลูกเล่นมีแอปคลาวด์เยอะๆ มาช่วยในการทำงาน
14  ความรู้ทั่วไป / Social Media Marketing / Re: อุทาหรณ์คนทำเพจ Facebook มี BUG ร้องเรียนแล้วไม่ได้รับการแก้ไขใดๆ ทั้งสิ้น เมื่อ: 22 สิงหาคม 2018, 09:47:24
ผมเคยเป็นครับ คนเห็นเหลือไม่กี่คนแบบหาสาเหตุไม่ได้

ความจริงแล้วก็คือ ''Facebook กาก !!'' คำเดียวสั้นๆ

มันมีโอกาสเกิดขึ้นน้อยมากๆ อาการนี้ผมเคยเป็นมาก่อน ไปหาตามบอร์ดนอกก็เป็นกันหลายคน และแก้ไม่ได้ เพจไหนโชคดีก็จะกลับมาเป็นเหมือนเดิม

บริษัทใหญ่ทั่วโลกไม่รู้เป็นห่าเหวอะไร ''โง่'' กันมาก ซัพพอร์ตไม่รู้เรื่อง แค่พิมพ์มายังไม่ค่อยจะรู้เรื่องกับลูกค้าเลย

ไม่ว่าผมจะเช่า โฮสทำเว็บ หรือพวก Line ซัพพอร์ต ตลอดไปจนถึง Google Facebook เจอแต่คนซัพพอร์ตตอบคำถามประมาณนี้แหละ ไม่รู้เอาสมองไปไว้ไหน


ถ้าบริษัทยักษ์ใหญ่ขนาดนี้ กาก ก็ทำแข่งกับเขาครับ บริษัทเหล่านี้จะได้เจ๊งซะที
บริษัทเหล่านี้อยู่ในวอลสตรีท การทำงานของเขาต้องมีผลงานอย่างชัดเจน ผล
กำไรจับต้องได้ อีรอน มัค เจ้าของรถยนต์ไฟฟ้า เทสล่า เพิ่งจะประกาศถอนตัวจาก
ตลาดหุ้น เพราะเขาเบื่อนักลงทุนที่กดดันเรื่องผลงานและผลกำไร อันเนื่องจากความ
ผิดพลาดในการลงทุนซื้อ บริษัทสตาร์ทอัพทำโปรแกรม AI เกี่ยวกับโรงงานอัฉริยะ
ทำให้ช่วงแรกในการผลิต รุ่น 3 ล่าช้าผลกำไรไม่เข้าเป้า และสตาร์ทอัพที่ซื้อมายัง
เพิ่งทดสอบยังมีความเสี่ยงที่จะผิดพลาดได้อีก สุดท้ายก็คือก็ต้องถอนตัวออกจากตลาด

ถ้าบริษัทไหน กาก เข้าตลาดหุ้นวอลสตรีทแล้วมีแต่คนสนใจและพูดถึงตลอด ถ้าเรียกว่า
กากรองยกตัวอย่างบริษัทที่เก่งๆ มาให้ดูหน่อยครับ ลองเข้าไปอยู่ในตลาดหุ้นวอลสตรีท
บ้าง ที่นั่นต้องวัดผลงานได้ ผลกำไรต้องดีขึ้นทุกไตรมาส ไม่มีนักลงทุนคนไหนจะยอมให้ผู้
บริหารทำเรื่่องแย่ๆ

ผมก็ใช้ เฟสบุค มาสิบกว่าปี ไม่เคยเจอที่เลวร้ายเท่าไรครับ มีบางช่วงที่เขาปรับ ก็กระทบบ้าง
แต่ไม่ได้แย่อะไร ลง Ads มา 6-7 ปีต่อเนื่องก็ไม่ได้มีปัญหา ดูคนที่ทำ Shopify Ebay Amazon
ลง Ads เดือนละพันล้านบาท ผมเมล์ถามการลง Ads ใช้ทูลอะไรวัดบ้าง ก็ยังไม่เคยเขาบ่นอะไร

ผมเห็นสื่อออนไลน์ยักษ์ อย่าง Metro.com กลุ่ม Vice Media กลุ่ม 20 Fox หรือดาราฮอลลีวูด
หลายคน กลุ่มนี้เขาลงต่อเนื่องและไม่เห็นมีผลกระทบอะไรเลย Ads ต่อวันกลุ่มนี้หลายพันล้านบาท
ต่อวัน ถ้ากระทบทำไมกลุ่มสื่อพวกนี้ไม่โดนด้วย ต้องย้อนกลับมาดูตัวเองครับ
ว่าเขาแบนแล้ว จะอยู่ในระบบเขาทำไมอีก ยังจะมาขอความเห็นใจทำไม ในเมื่อเขาไล่แล้ว

ถึงแม้เขาจะรู้ว่า เกิดเรื่องแบบนี้อีกกี่ครั้ง เขาก็ยังแบนคุณอย่างต่อเนื่องละครับ ถึงจะแก้ไขให้แต่
ก็คงไม่นานหรอก เพราะคุณไม่ได้ทำให้เขารวยขึ้นหรือเจ๊งเลย เขาแบนแล้วก็ปล่อยให้คูณคิดเอง
ว่าจะยังทนอยู่ในระบบเขาได้อีกนานเท่าไร ทนได้ก็ทนไป ประสาทเสียได้ก็เสียไป เขาไม่สนใจอยู่แล้ว

ระบบฝรั่งไม่มีคำว่าอะลุ่มอะล่วยแบบบ้านเราครับ เขาตัดสินใจแล้ว มีข้อยุติแล้ว จะเหมือนเดิมทุกครั้ง

15  ความรู้ทั่วไป / General (ถามคุยวิชาการ IM) / Re: Bitcoin ทำไมราคาแพงกัน แล้วมันมีอนาคตไหมครับ เมื่อ: 19 สิงหาคม 2018, 09:10:14
บิทคอยน์ จริงๆ ผมรู้นะว่ากลุ่มแฮกเกอร์ไหนคิดขึ้นมาและไปนำชื่อคนญี่ปุ่น ซาโตชิ มาใส่ไว้เพื่อให้คนสับสน พอหาตัวคนชื่อ ซาโตชิ แล้วไม่มีใครพบว่ามีอยู่จริง เป็นเพียงหลอกขึ้นมา ตัวจริงคือ กลุ่มแฮกเกอร์หมวกขาวระดับโลกกลุ่มหนึ่งคิดขึ้นมา แล้วปล่อยให้สังคมโลกไปพัฒนาต่อกันเอง
เมื่อมันถูกคิดโดยแฮกเกอร์ แน่นอนว่าสิ่งนั้นจะไม่ข้อกำหนดทางกฏหมาย มีเสรีในการใช้งานสูง มีทั้งคุณและโทษอยู่ในตัวมันเอง ช่วงแรกๆ คนนำมาใช้ด้านดีก็คือ นำมาใช้เป็นสกุลเงินดิจิตอลกลางสำหรับแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการในตลาดทั่วไปและตลาดมืด ใช้ในการบริจาคให้กับองค์กรที่ทำประโยชน์ให้สังคมโลก เช่น วิกิพีเดีย อย่างผมจะบริจาคไม่ให้คนรู้เลยว่าผมเป็นใคร ก็บริจาคผ่านบิทคอยน์ เขาพัฒนาบิทคอยน์ขึ้นมาเพื่อช่วยให้คนรวยๆ อย่าง บิล เกตตุ สตีฟ จ๊อป และเจป เบซอส พวกนี้เขาได้บริจาคให้โอเพ่นซอร์สหรือองค์การกุศลอื่นๆ

ต้องบอกก่อนว่า ฝรั่งที่รวยมากๆ เขาไม่ต้องการสะสมชื่อเสียง เงินทอง มากมายหรอก หากมีช่องทางให้เขาบริจาคมากขึ้น คนพวกนี้จะบริจาคเงินทองเพื่อให้โลกดีขึ้น บิทคอยน์ก็เป็นสกุลเงินหนึ่งที่เปิดทางให้เขาเหล่านี้ได้บริจาคให้โอเพ่นซอร์สหรือการกุศล สังเกตคนพวกนี้ง่ายๆ ว่าเขาไม่สะสมชื่อเสียงเงินทอง
สตีป จอบ มาบริหารแอปเปิลรอบสอง ได้เงินเดือน 1 ดอลล่าร์ต่อปี แต่เขาขอโบนัสกำไรเป็นหุ้นตามจำนวนกำไร บริหารเก่งก็ได้รับหุ้นแทน และจ๊อป ใช้รถเบนซ์เก่า คันเดิมมาจนเสียชีวิต
บิล เกต นี้ออกมาสนับสนุน บิท คอยน์ ชัดเจนที่สุด และเป็นคนที่บริจาคเงินมากที่สุดในโลก พอๆ กับมารค์ ซัคเคอร์เบิร์ก ก็ใช้บิทคอยน์ในการสนับสนุนโอเพ่นซอร์ส และองค์การกุศลที่ช่วยเหลือคนทั่วโลก บิล เกต ไม่เคยซื้อรถหรู เรือหรู บ้านหรู นับเป็นเวลาสิบกว่าปีมาแล้ว คือ เขาไม่ได้สะสมทรัพย์สินแบบคนรวยล้นฟ้าคนอื่น ที่ยังรวยก็เพราก่อตั้งบริษัทมามีหุ้นเยอะ

เจป เบซอส เจ้าของอเมซอน ผมเพิ่งดูสกูปข่าวของ CBS พ่อแม่ของ เจป เบซอส ที่ให้เงินลงทุนก้อนแรก 2 แสนเหรียญ ปัจจุบันมีเงินในหุ้นอเมซอนมูลค่าเงินไทย 7-8 แสนล้านบาท คิดดูว่าภายใน 22 ปีพ่อแม่รวยขึ้นมาแบบไม่รู้ตัวเลย ส่วน เจป เบซอส ก็ทำสถิติเป็นคนรวยที่สุดในโลกอยู่ในตอนนี้ เขาก็บริจาคเงียบๆ ผ่านทางบิทคอยน์ เจป เบซอส ใช้รถยนต์รุ่นเก่า อายุ 20 กว่าปีอยู่เลยนะครับ ยังไม่เคยเปลี่ยรถเป็นรุ่นใหม่

เราจะเห็นว่า คนสำคัญของโลกไอที เขาจะไม่สนใจสิ่งภายนอกเท่าองค์ความรู้การให้ความรู้ หรือการบริจาคการกุศลให้โลก ช่องทางสกุลเงินดิจิตอลเป็นแนวทางหนึ่งที่ทำให้คนเหล่านี้ทำเพื่อคนทั้งโลกโดยอ้อมได้ หากคุณ ไปถามบิล เกต ว่าบิทคอยน์ดีไหม เขาจะตอบว่าดี มีอนาคต ทั้งเงินสกุลดิจิตอลด้วย แต่ที่มั่วๆ กันอยู่ เพราะสกุลเงินมันพัฒนาตัวเองขึ้นมาให้สอดคล้องกับสกุลเงินจริงไม่ได้ ต่างคนต่างเห็นโอกาสทำกำไร ไม่ได้ปรับตัวเทคโนโลยีให้เข้ากับโลกจริง แต่หากถามคนระดับโลกอย่างบิล เกตนี้ เขาจะบอกคุณเสมอว่า มันดี และอนาคตต้องเกิดต่อไปในทิศทางนี้

สมัยก่อนผมสะสมและเทรดมาเยอะ ได้มาเยอะ กำไรเยอะมาก เพราะคนที่เข้ามาทีหลังหวังมาทำกำไรสั้นๆ เก็งกำไรซะส่วนใหญ่ ไม่ได้คิดว่าจะนำบิทคอยน์ไปใช้งานจริงเลย จึงไม่สนใจว่าข้อบกพร่องและมาตรฐานต้องสูงกว่านี้ไปเรื่อยๆ ต่างคนต่างหากำไร พวกคนไม่ดี พวกแฮกเกอร์หมวกดำก็เอาช่องทางนี้ไปใช้ในด้านที่ผิด คนหากินโดยการสร้างภาพหลอกหลวงคนอื่นก็เข้าเต็ม มันเลยมั่วไปหมด

ถ้าถามว่าเงินดิจิตอลมีอนาคตไหม คุณเชื่อบิล เกตแค่ไหน ก็ตามนั้น ส่วนผมก็สะสมเรื่อยๆ เล่นแบบจำกัดไปก่อน ตัวสกุลที่มีมาตรฐานดี เราสามารถไปบริจาค์ให้วิกิพีเดียได้ ไปบริจาคการกุศล หรือโอเพ่นซอร์สได้ และถ้ามีราคาที่ต่ำจริงก็จะสะสมเยอะ ผมแนวเดียวกับบิล เกต ผมมองระยะที่ยาวๆ ไม่ได้มาทำเงินจากการเทรดเป็นหลัก เป็นงานอดิเรกเท่านั้น

ทำไมราคาจึงขึ้นลงเยอะ เพราะสกุลเงินพวกนี้ยังไม่มีมาตรฐานมารองรับครับ มีหลายธนาคารยุโรป สหรัฐ ญี่ปุ่น พยายามทำอยู่ แต่มันสู้คนหลอกหลวงสร้างภาพ และนักเก็งกำไรระยะสั้นไม่ไหว เพราะชั้นเชิงไหวพริบหากินของพวกนี้สูงมาก และมันไม่มีพรหมแดนกั้นด้วยเลยทำให้ การหลอกหลวงเกิดขึ้นสูง เกิดขึ้นบ่อย มีขบวนการปั่นสกุลเงินแล้วเทขาย ยิ่งราคาแพงมากทุบทีเดียวได้เงินเยอะนะครับ มันเลยกลบข้อดีไปหมด เหมือนว่าสกุลเงินดิจิตอลไม่มีมูลค่า ไม่มีประโยชน์ แต่หากถามกูรูระดับโลกอย่างบิล เกต เขาจะตอบคุณเสมอว่า มันคืออนาคต ที่มันช้า มันเละเทะทุกวันนี้ ไม่พัฒนากันต่อ ก็เพราะความเห็นแก่ตัวของคนเท่านั้นละ
16  ความรู้ทั่วไป / General (ถามคุยวิชาการ IM) / Re: โอกาสดีสำหรับนักการตลาดไทย เมื่อกูเกิลเตรียมเข้าลุยตลาดจีนอีกครั้ง เมื่อ: 18 สิงหาคม 2018, 16:21:15
นับเป็นข่าวดีสำหรับนักการตลาดไทยหากเกิดขึ้นจริง แต่มุมมองของผมแล้ว ยากมากและสงครามการค้าโลกจะยาวนานอีกด้วย
ขอเสริมนิดหนึ่งนะครับ เวลาดูบลูมเบิร์กแล้วควรดูช่อง CBS ด้วยเพราะสองช่องนี้ให้ข่าวสองด้านเสมอ คือ บลูมเบิร์กมีนักข่าวเชื้อสายจีนเยอะ
เขาเรียกว่าสื่อ กระแหนะกระแน่บริษัทอเมริกา ตัวอย่าง อาทิตย์ที่ผ่านมา เล่นข่าว อีรอน มัค คนสร้างรถยนต์ไฟฟ้าเทสล่า แทบทุกวัน เป็นขาประจำ
ส่วนข่าวเกี่ยวกับบริษัทไอทีข้ามชาติ ข่าวด้านลบจะไม่ออกเยอะแค่ 1-2 นาที แต่ถ้าเป็นข่าวบริษัทไอทีนี้ เล่นข่าวซะจนอ่วม แต่สุดท้ายบริษัทเหล่านี้โตเอาโตเอา ส่วน CBS นี้ข่าวค่อนข้างดีมีอวยสหรัฐบ้าง แต่ไม่น่าเกลียดเท่าสื่อยักษ์อื่นๆ

ช่วงเลือกตั้งสหรัฐผมก็ไม่ได้สนใจเพราะกระแสสกุลเงินดิจิตอลเริ่มแรงมาก ก็หันมาเทรดเลยไม่ได้ดูว่า คุณ ทรัมป์
มีนโยบายอะไรที่จะปฏิบัติจริงบ้าง หากจะทำให้อเมริกากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง แต่ทุกวันนี้ผมดูข่าว เทรดวอร์ เกือบ
ทุกวัน หลายคนก็วิเคราะห์ไปต่างๆ นานา แต่ผมสรุปคร่าวๆ เอาเองว่ามีประเด็น 4 ประเด็นที่เขาทำแบบเข้มข้น

ประเด็นแรก เพนตากอนไปให้ลงทุนหรือเป็นเวนเจอร์แคปปิตอล ตามสตาร์ทอัพในซิลิกอนวัลเล่ย์และมหาลัยต่างๆ โดยมี
หน่วยงานเฉพาะกิจ และเพิ่มขนาดทุนอย่างมหาศาล ถ้าคนที่ติดตามเพนตากอนมาก่อนก็จะพบว่าเรื่องนี้มันผิดปกติมาก เร่ง
รีบทำแบบไม่เคยเห็นท่าทีแบบนี้มาก่อน ทั้งที่เพนตากอนเองก็มีหน่วยงาน Drapa ซึ่งเป็นหน่วยงานวิจัยหลักอยู่แล้ว
ผมถึงเข้าใจว่าทำไม Drapa ถึงออกตัวมาแสดงผลงานและโชว์ผลงานตัวเองอย่างผิดปกติ

ประเด็นที่สอง สหรัฐมีการขุดน้ำมันในประเทศซึ่งมีสำรองมากที่สุดในโลกขึ้นมาใช้อย่างมีนัยยะสำคัญ เร่งนาซ่าให้ปฏิบัติ
ภาระกิจเร็วขึ้น ส่งคนหนุ่มอายุ 42 ปีมาเป็นผู้บริหารคนใหม่ และมีงานด้านอวกาศออกมาแทบทุกอาทิตย์ เป็นไปได้ว่า
สหรัฐจะใช้นาซ่าและบริษัทด้านอวกาศไปสำรวจและหาพลังงานบนดวงจันทร์และดาวอังคารให้เร็วขึ้นต่อเนื่องมากขึ้น

ประเด็นที่สาม สหรัฐมีความชัดเจนมากว่าจะทำให้จีนอ่อนแอลง ช่วงนี้ผมศึกษาเรื่องนี้เยอะ ตามดูที่ปรึกษาและทีมงานด้านเศรษฐกิจ
ของ คุณ ทรัมป์ เห็นเขามุ่งมั่นมาก หลังจากจีนก็เป็นกลุ่ม อาเซียน ออสเตรเรีย นิวซีแลนด์ ยุโรป อเมริกาใต้ จะเบาหน่อยก็ญี่ปุ่น
เกาหลีใต้ ใต้ไหวัน อินเดีย เม็กซิโก และแอฟฟริกา

ประเด็นที่ 4 เรื่องสิทธิบัตร เทคโนโลยีด้านต่างๆ มีการพูดกันมากว่า สหรัฐอาจกำลังคิดจะหยุดส่งออกเทคโนโลยีชั้นสูง
พูดง่ายๆ ก็คือ คุณอยากรู้อยากได้เทคโนโลยีต้องมาเรียน มาทำงาน หรือมาอยู่ในสหรัฐเท่านั้น

ประเทศสหรัฐเขาอยู่ได้ด้วยตัวเอง อยู่ได้โดยไม่ต้องนำเข้าสินค้าจากประเทศใดเลยก็ได้ ผลิตอาหารเกินความต้องการของคนทั้งประเทศ
ผลิตพลังงานใช้เองได้ และมุ่งมั่นหาพลังงานทดแทนจากอวกาศมาใช้เป็นยุคที่สหรัฐเอาจริงเอาจังด้านอวกาศอีกครั้งในรอบ 60 ปี
เขาสร้างเทคโนโลยีและต่อยอดเองได้ สุดท้ายคือสามารถหยุดส่งออกเทคโนโลยีเพื่อให้ตัวเองล้ำหน้าไปไกลได้เสมอ

สงครามการค้าครั้งนี้ ผมยังมองไม่เห็นความประนีประนอมจาก คุณ ทรัมป์ เลยนะครับ และ  4 ประเด็นด้านบนนี้ มันผิดสังเกตมาก
และเห็นชัดมาก เหมือนคนจะต่อยกัน เหมือนสหรัฐกำลังเบ่งกล้ามให้โลกเห็น หากฉันไม่ได้ตามที่ควรได้อย่างเท่าเทียมกัน
คุณจะกล้าต่อย(สงครามการค้า)ด้วยไหม ลองไหมละ ประมาณนี้ครับ  ถ้าคุณ ทรัมป์ อยู่ 8 ปี โลกจะหมุนไปอยู่ทางสหรัฐแน่ ดูจาก
สิ่งที่เขาทำแล้ว ผมไม่เคยเห็นมาก่อน ไม่นึกมาก่อนว่าเขาจะเร่งศักยภาพตัวเองเยอะขนาดนี้ ผมเคยเรียนสหรัฐ แต่มีเสี้ยวจีนและยุโรปอยู่บ้าง
ก็อดห่วงไม่ได้จริงๆ เพราะหากทรัมป์ ทำสุดโต่งไปเลยโลกวุ่นวายแน่ สหรัฐจะกลับมาเข้มแข็งแค่ประเทศเดียว ประเทศไหนทำสงครามด้วย
อาจจะแย่ไปเลยก็ได้ ในใจก็อยากให้ออกมาในแง่บวก แต่เห็นสิ่งที่เขาเร่งมือทำแล้ว มันคิดบวกยากจริงๆ ครับ
17  ความรู้ทั่วไป / General (ถามคุยวิชาการ IM) / Re: คิดยังไงหาก Dapra ทวงถามบุญคุญในการลงทุนคิดค้นอินเตอร์เน็ต เมื่อ: 13 สิงหาคม 2018, 19:04:31
งั้นต้องทวงบุญคุณกันทั้งโลก ใครทำทีวี ใครทำหลอดไฟ ใครทำมือถือ ใครทำรถยนต์ ใครทำเครื่องบิน โอ้ยๆ ทวงกันทั้งโลก

การคิดค้นอินเตอร์เน็ต เป็นเงินภาษีของคนทั้งสหรัฐนะครับ แตกต่างจาก การคิดค้นอื่นๆ
การคิดค้นของนาซ่า คนได้รับประโยชน์มากที่สุดคือ คนสหรัฐครับ หากนาซ่า สเปซเอ็กซ์
บลูออริจิน หรือบริษัทด้านอวกาศอืกร้อยกว่าบริษัท ไปสำรวจดวงจันทร์ ดาวอังคาร
แล้วขุดแร่ ยูเรเนียมบริสุทธ์ ฮีเรียม3 บริสุทธิ์เพื่อทำพลังงานนิวเคลียร์สะอาดและปลอดภัย
สหรัฐต้องได้ก่อนคนอื่น ในเงื่อนไขที่อยู่ในสหรัฐ

ส่วนการคิดค้นอินเตอร์เน็ต เ่ท่าที่ผมฟังเขาหลายๆ รอบและดูสารคดีของการคิดค้นอย่่างต่อเนื่อง
ทาง Dapra เขาพูดชัดนะครับ ว่าช่วงแรกปล่อยให้มหาวิทยาลัย ใช้เพื่องานวิจัยภายในประเทศ
ต่อมาก็ใช้ในงานวิจัยของมหาลัยทั่วโลกและก็เลยตามเลย อันนี้คนในองค์กรเขาสัมภาษณ์มาประมาณนี้

แสดงว่า จุดมุ่งหมายแรกจริงๆ ในการปล่อยให้อินเตอร์เน็ตใช้เพื่องานวิจัยและความก้าวหน้าทางการศึกษา
แต่มันเลยตามเลย มาได้ยังไงนี้ทางองค์กรเขาไม่พูดถึงครับ อาจจะเป็นเพราะรัฐบาลกลางปล่อยฟรี
เพราะมหาลัยต่่างๆ หน่วยงานทั่วโลก ธุรกิจทั่วโลก คนทั่วโลกได้เข้ามาช่วยกันต่อยอดมากแล้วเลยปล่อยฟรี
เหมือนยูนิกซ์ตามมหาลัยครับ ที่เขาก็ปล่อยซอร์สโค้ดให้มาพัฒนากันได้ฟรี

ส่วนตัวผมดูคลิป 2-3 รอบ ผลงานในรอบร้อยปีอินเตอร์เน็ต คือ สิ่งที่องค์กรนี้ภูมิใจกันมาก โชว์ให้เห็นว่า
เงินที่ลงทุนวิจัยได้ผลงานระดับนี้ จนเรา
ผิดสังเกตว่า นี้เขาโชว์ให้เราดูว่าเงินภาษีเขา สร้างประโยชน์อันใหญ่หลวงให้กับโลก ให้กับเราอยู่หรือเปล่า
เพราะผมก็เพิ่งเคยเห็นที่คนในองค์กรออกมาภูมิใจกันมากขนาดนี้มาก่อน ก็แล้วแต่มุมมองครับ
คนในองค์กรเขาก็ภูมิใจ ที่ใช้เงินภาษีคนทั้งสหรัฐมาทำสิ่งสำคัญๆ ให้กับโลก ส่วนตัวก็ยังมองต่างจากองค์กร
นี้เหมือนกัน เพราะการต่อยอดจากคนทั่วโลก ทำให้อินเตอร์เน็ตเติบโตมั่นคงมาถึงทุกวันนี้ และคนสหรัฐได้
เปรียบทุกประเทศบนโลกนี้ ก็ด้วยอินเตอร์เน็ตนี้ละ

ไม่ใช่ว่าเงินภาษีเขาจะคิดค้นฟรีแล้วไม่ได้กลับคืนเลย
นั่นคือ ผมเคยเรียนสหรัฐ ผมก็เพิ่งเคยเจอนะครับ ที่องค์กร Dapra เขาแสดงความภูมิใจกันมากขนี้ ที่เห็น
ก็มีแค่นาซ่า เพราะนาซ่าใช้เงินภาษีมหาศาลมาก ก็ต้องมีผลงานที่ยิ่งใหญ่จริงๆ มีผลงานเชิดหน้าชูตาให้ประเทศ
ผมยังแปลกใจว่า องค์กรในหน่วยงานเพนตากอน ถึงแสดงความภูมิใจกันขนาดนี้ไม่เคยเห็นมาก่อนเลยครับ
 
ทำให้แปลกใจมากๆ เลยจินตนาการไปว่า เขากำลังทวงบุญคุณเงินภาษีกับคนทั้งโลกหรือเปล่า
เป็นแค่จินตนาการที่เกิดจากคนในองค์กรนี้ เขาภูมิใจผลงานคิดค้นมากและไม่เคยเห็นลักษณะเช่นนี้มาก่อนครับ
18  ความรู้ทั่วไป / E-commerce / Re: เอาไงดีไปต่อดีไหมครับ กับ shopify เมื่อ: 13 สิงหาคม 2018, 18:39:47
ถอนตัวออกมาก่อนครับ หาอย่างอื่นที่ตัวเองถนัดทำไปก่อน ตอนนี้ดรอปชิป
ไปตลาดอเมริกา หรือยุโรปแย่ครับ เพราะของที่ส่งไปช้ากินเวลา สองอาทิตย์
หรือ 1 เดือน ถึงแม้ค่าส่งฟรี แต่คนเขาไม่นิยมกัน ยิ่งในสหรัฐแล้วอเมซอน
ส่งด่วน 1-2 วันราคาต่างกันไม่มาก ยากครับสำหรับร้านใหม่ ไม่มีลูกค้าประจำ
แม้จะเป็นสินค้าหายากก็ตามครับ คนตัดสินใจซื้อร้านดรอปชิปยาก
ถอนตัวดีที่สุดครับ ผมเคยทำช่วงบูมๆ พอได้เงินอยู่ แตช่วงนี้เลิก หลายร้านก็เลิก
ถ้าจะอยู่ได้ต้องมีฐานลูกค้าเก่า ผ่านกลุ่มโซเซียลมีเดียครับ การยิงแอดไม่ช่วย
ยิ่งเท่าไรก็หมดไปเปล่าๆ เท่านั้นละ แนะนำให้เลิกและหันมาหาอะไรที่ตัวเองถนัด
ทำไปก่อนครับ ตลาดดรอปชิป Shopify ไม่เก่งจริงหมดเงินไปฟรีๆ ครับ
19  ความรู้ทั่วไป / General (ถามคุยวิชาการ IM) / คิดยังไงหาก Dapra ทวงถามบุญคุญในการลงทุนคิดค้นอินเตอร์เน็ต เมื่อ: 13 สิงหาคม 2018, 16:07:36
เมื่อวานก่อน ผมลองนั่งดูช่องยูทูป และงานวิจัยใหม่ๆ ของ Dapra
Dapra : Defense Advanced Research Projects Agency

เป็นหน่วยงานของเพนตากอน วิจัยอาวุธและเทคโนโลยีใหม่ๆ
ตอนนี้ผมสนใจคือ เรื่อง ความฉลาดแบบฝูง (AI Swarm) ที่เพนตากอน
ของสหรัฐฯ มุ่งหน้าวิจัยด้านนี้มาก พูดง่ายๆ ก็คือใช้โดรน AI เป็นฝูงในการ
ทำภาระกิจเกือบทุกภาระกิจด้านทหาร
ปัจจุบัน ผมเห็นสตาร์ทอัพบางแห่ง เริ่มมีพัฒนาซอฟต์แวร์แนวนี้ขึ้นมา จึง
สนใจงานของ Dapra มาตลอด

สองสามวันมานี้เขาได้โฆษณาผลงานในรอบร้อยปีขึ้นมา ผมดูที่เกี่ยวกับอินเตอร์เน็ตและซอฟต์แวร์
ก็มีที่สำคัญๆ คือ คิดค้นระบบอินเตอร์เน็ต คิดค้นระบบเมาส์ในโอเอสแบบ GUI คิดค้น
ระบบหน้าจอสัมพัส คิดค้นระบบยูนิกซ์ซึ่งเป็นพื้นฐานซอฟต์แวร์ให้ทุกโอเอส

เราจะคิดยังไง หาก Dapra และคนสหรัฐฯ ออกมาโชว์ว่ผลงาน และทวงบุญคุณ
นี้ไงเงินภาษีพวกเรา ที่ทำให้ให้พวกคุณ ให้โลกนี้ดีขึ้น นวัตกรรมต่างๆ รวมถึงองค์
กรอื่นๆ เช่น Nasa ที่คิดค้นด้านอวกาศ ดาวเทียม กล้องอวกาศ ที่สำคัญคือ ผม
เห็น Drapa ภูมใจมาก ที่คิดค้นอินเตอร์เน็ต ทำให้โลกล้ำหน้าไปอย่างรวดเร็ว

ผมดูคลิปไปทำให้นึกเล่นๆ ขึ้นมาว่า เหมือนเขากำลังทวงถามบุญคุณหรือเปล่านะ
แล้วเพื่อนๆ คิดว่ายังไง หากเกิดวันหนึ่ง เขาบอกนี้ไงบุญคุณจากเงินภาษีคนสหรัฐ

ผมคิดแบบขำๆ นะครับ ไม่ซีเรียส เพราะเขาคงไม่บ้าตามผมจินตนาการหรอก
20  ความรู้ทั่วไป / E-commerce / เว็บอีคอมเมิร์สคนไทยมีทางเลือกเพิ่มขึ้น เมื่อ Shopify จะไปอยู่ บนกูเกิลคลาวด์ เมื่อ: 12 สิงหาคม 2018, 20:22:44
ในแชนแนล กูเกิลคลาวด์บนยูทูป ได้ประกาศแล้วว่า Shopify ซึ่งเป็นแพล็ตฟอร์มสำหรับสร้างเว็บอีคอมฯ
อันดับหนึ่งของโลก ได้ประกาศจะย้ายตัวเองไปอยู่บนกูเกิลคลาวด์แล้ว นั่นจะส่งผลให้นักพัฒนาเว็บอีคอมฯ
ในไทยมีทางเลือกเพิ่มขึ้น จาก CMS หรือแพล็ตฟอร์มการสร้างเว็บต่างๆ ปัญหาในอดีตที่เว็บบน Shopify
ไม่สามารถตอบสนองกับนักพัฒนาคนไทยได้ ก็เพราะมีราคาสูง และโหลดได้ช้าเมื่อเทียบกับแพล็ตฟอร์มอื่น

เมื่อ Shopify ประกาศตัวไปอยู่บนกูเกิลคลาวด์ อนาคตเว็บอีคอมฯ Shopify จะโหลดได้เร็ว ผ่านกูเกิลดาด้า
เซนเตอร์ที่สิงค์โปร์ รวมเข้ากับทูลต่างๆ ของ Shopify แล้ว น่าจะคู่ต่อกรที่สมน้ำสมเนื้อ กับ WooCommerce แน่
ในด้านราคา ความง่าย และความเร็วในการโหลดเว็บ เป็นทางเลือของคนที่อยากได้เว็บอีคอมฯ ในไทย
บนแพลตฟอร์มที่ง่ายขึ้น
หน้า: [1] 2 3 ... 6