ไม่เห็นมีบอลเลย มีแต่โฆษณา

ขอบคุณมากทำตามขั้นเงื่อนไข แล้ว 272-273

เฟสบุ้ค อาจจะ ไปแย่งอันดับ บล็อกเวิร์ดเพรส ของชาวต่างชาติ
เลยโดนฝรั่ง จัดหนัก พร้อมใจกัน รีพอร์ทไปยังอเมซอน

อยากได้ เครื่องมือ สำหรับลบโปรไฟล์เมื่อเลิกใช้บริการ และอยากเก็บ AWS Code เป็นความลับ

วันนี้ จัดแพกเกจแรกไป ตั้งใจว่า ถ้าได้ผลดี หรือ การใช้งานน่าพึงพอใจ ก็คงจะจัดเพิ่มเป็น 3 เดือน

ตอนที่รอยเตอร์ เสนอข่าว โลโก้อันนี้ ทำให้รู้สึกทึ่งมาก

อยากรู้จักว่าเป็นใคร เข้าไปอ่านในแหล่งข่าวต้นสังกัด ทราบว่าเป็นชาวฮ่องกง ซึ่งได้ขออนุญาตทาง Apple inc


เพื่อออกแบบโลโก้ สำหรับไว้อาลัย สตีฟ จอบส์

หน้าตา หนุ่มฮ่องกง คนนี้ เขาคือ Jonathan Mak



credit(Photo: REUTERS/Bobby Yip)
Design student Jonathan Mak poses with a symbol he designed, in Hong Kong Thursday. The 19-year-old's poignant tribute to Apple Inc.
co-founder Steve Jobs became an instant Internet hit with its minimalist, touching symbolism.

ลงชื่อ รอตัดสินใจ

ผมไม่ค่อยสนใจกฎของอเมซอน จนกระทั่งธนูปักที่หัวเข่า   

มันเป็นทางเดียว ที่โชว์โง่แล้ว ก็ยังน่าเอ็นดูค่ะ 

ใช้มาตรการ กดดัน เพื่อลดเครดิต เจ้าที่ของบริษัท อเมซอน ดีไหม ขอควมเป็นธรรม ไม่ใช่รุมด่า หรือ หมิ่นประมาท เหมือนนักคุ้มครองสิทธิทั่วโลก

ทั้งๆที่ระหว่างเรา และ อเมซอน ต่างพยายามระมัดระวังผิดกฏ และรักษาผลประโยชน์ร่วมกันให้คงอยู่ เพราะเราเองก็เป็นฝ่ายที่ลงทุนไม่น้อยเหมือนกัน คิดเป็นเปอร์เซ็นก็รู้ได้

แต่อเมซอน ยังใช้วิธีเล่น เหมือนมันเป็นแค่เกม ซึ่งดูๆไปมันช่างไร้ มนุษยธรรมทางการตลาด

ที่จริงมันก็ไม่น่าจะบานปลายมาถึงขั้นนี้ แต่เพื่อความไม่ประมาท และเฝ้าระวังอย่าให้อเมซอน หยิ่ง ยะโส มากไปกว่านี้

อยากให้ลองศึกษา กรณีประเทศลิเบียที่ใช้ Social network เคลื่อนไหวทางการเมืองเพื่อล้ม กัดดาฟี จนนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

ถ้าหากเราตั้ง facebook fanpage และ เครือข่ายสังคมอื่นๆ เพื่อรวมตัวเรียกร้องความเป็นธรรม น่าจะมีผลกระทบหนักๆ อยู่สองฝ่าย คือ

• ฝ่ายที่เป็นพันธมิตรทางการค้าของอเมซอน นั่นคือ ยอดขายของแบรนด์ต่างๆ เช่น Sony Apple Microsoft และ Brand ชั้นนำอีกเยอะแยะ
  ถ้าเขารู้ว่า การแบนทำให้ยอดขายตกลง ย่อมจะมีมาตรการเร่งรัดแก้ปัญหานี้อย่างเร่งด่วนแน่นอน เพราะว่า ในส่วนของธุรกิจ Online Shopping ในอเมริกา
  ย่อมจะเป็นรายได้หลักของบริษัทพวกนี้
  การที่อเมซอน ซึ่งเป็นตัวแทนขาย ไปรังแก ตัวแทนโปรโมท (เช่นพวกเรา) จะทำให้ Brand ที่มีอำนาจเหนือกว่า มีสิทธิ์จัดการกับเจ้าหน้าทีๆเกี่ยวข้องอย่างแน่นอน
  เคสนี้ อาจร้อนไปถึงบอร์ดสูงสุด ของอเมซอน
  
  
  
• ต่อมาก็เป็นฝ่ายที่ดูแลภาพลักษณ์ขององค์กร ถ้ากระแสต่อต้านใน Social Network มันรุนแรง เขาจะต้องประเมิณความเสียหายที่เกิดในสองประเด็น
  ประเด็นแรก คือฝ่ายเขาเสียหายก่อน เช่น พวกเรา เอาโลโกของเขาไป spam จริงหรือไม่ อย่างไร เจ้าหน้าที่ฝ่ายนี้น่าจะมีการตรวจตราอยู่ตลอด
  ประเด็นต่อมา ฝ่ายเราเสียหาย อันเนื่องมาจากการหักหลังคนทำ Affiliate อาจจะส่งผลให้การตัดสินใจสมัครเป็นคู่ค้าลดลง
  คนทำ Affiliate เริ่มลดจำนวนการสมัคร เริ่มหมดมุกในการโปรโมทสินค้า เพราะถูกอเมซอนกดดันด้วยกฎที่เค้าอ้างมาใช้แบนบัญชี แบบที่ทำอยู่ตอนนี้
  ในขณะที่ยอดขายใน Amzon อาจจะลดลงเช่นกัน

จากการใช้ Social Network เรียกร้องความเที่ยงตรง และการขอความเป็นธรรม กับ Amazon Associate ในครั้งนี้ ต้องคำนึงในส่วนสำคัญหลักๆก่อน ดังนี้

1. ใช้ Wording หรือ วาทะกรรม เตือนสติ เจ้าหน้าที่ฝ่ายดูแลบัญชี ให้ระมัดระวังการแบนอย่างไร้มนุษยธรรม เช่น.....
 สมาคมผู้เล่นเฟสบุ้คลิเบีย ล้มพันเอกมูอัมมาร์ กัดดาฟี  สมาคมเฟสบุ้ค World affiliate ล้มพนักงานเผด็จการของ Amazon.com
และต้องระลึกถึงคุณธรรมของความเป็นคนไทยไว้ด้วย อย่าหาเรื่องด่าเขาโดยไม่มีข้อเท็จจริง และระวังถ้อยคำที่จะนำไปสู่การถูกดำเนินคดี
ที่สำคัญ อย่าพยายามอย่าแสดงตัวว่าเป็นคนไทย เพราะจะมีผลให้โดนอเมซอน แบนทั้งประเทศ

2. เรียกร้องให้เกิดผลลัพธิ์อย่างใดอย่างหนึ่ง กับเจ้าของ Brand ยักษ์ใหญ่ เช่นเจ้าของผลิตพันธ์ต่างๆ ที่ฝากขายในอเมซอน
   เพื่อให้เห็นภาพรวมไปในทิศทางเดียวกันว่า ความเผด็จการของพนักงานอเมซอน กำลังจะทำลาย Affiliator
   ที่ช่วยโปรโมท ช่วยขาย สร้างรายได้หลายพันล้านตลอดมา

เพราะฉะนั้น ต่อไปนี้ หากจะแบนผู้ใช้คนใด จะต้องผ่านการเจรจา และ การตั้งวงพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจ

หลังจากโหลด FireFox หรือ Google Chrome ลงเครื่องแล้ว........    IE ก็หมดประโยชน์


รู้สึกเหมือนเจอเพื่อนเก่าเลย นึกว่าเป็นอยู่คนเดียว ที่ออกอาการรำคาญ ที่ใครมาเปิดเว็บด้วย IE ต่อหน้าเรา แล้วบ่นว่าเครื่องเป็นอะไร เน็ตช้าจัง 

เราก็รู้อยู่ว่ามันเป็นปัญหาที่ตรงใหน แต่อธิบายให้กับ นักท่องเน็ตมือสมัครเล่น เค้ายากจะเข้าใจ

ขอร่วมวง ด้วยบ้าง 

ถ้าจะตั้งประเด็นชวนสงสัย ในกรณีที่ส่งเมลไปถามความชอบธรรม แต่ไม่มีการตอบกลับ

ผู้ที่แบน Account ของ Associator จากประเทศไกลๆ เช่นประเทศไทย ที่ทำเงินไปเยอะ  อาจจะเป็นเจ้าหน้าดูแล user ระดับปลายแถว แต่ออกแนวเกรียนๆ


เป็นไปได้หรือไม่ บางคนในอเมซอน ส่งเมลมายกเลิกเรา แต่....เอาเมลของตัวเองใส่แทน และรับผลประโยชน์จากยอดเงินที่ตกค้างไปแทน อันนี้ตั้งสมมุติฐานนะ ไม่ได้กล่าวหา

ต้องหาทาง กระจายความเสี่ยงซะแล้ว

พอดีเข้า thaiseo จาก ipad พอเข้าลิ้งก์ของคุณ ปรากฏว่า โฆษณา คือ ตัวขัดลาภ ของคุณ 100% ครับ

มันเต็มจอเลย บังเนื้อหา แถมปิดยาก เพราะเล่นด้วยนิ้ว จิ้มผิดอยู่ราว 2 นาที ก็เลยหนีจากหน้านี้เลย

จึงได้แง่คิดว่า ถ้าผมจะทำ*เว็บที่เป็นมิตรกับผู้ใช้ ผมจะไม่ทำแบบภาพนี่้




คงไม่โกรธกันนะ ที่แนะนำกันแรงๆ





****เว็บที่เป็นมิตรกับผู้ใช้ แนะนำโดย Google

ใครที่ไม่ได้ใช้ Google Chrome อาจไม่ติดก็ได้นะ สังหรใจว่า น่าจะมาจาก App บางตัวแฝงคุกกี้

เนื่องจากเข้าไปดู facebook ของ Steve jobs ก็ตกใจ ที่เห็นลิ้งก์คุ้นๆ

ทำให้นึกถึงกระทู้นี้ >>>>### เจอโดยบังเอิญ Google ก็ทำ Amazon Associates ### <<<<

รู้สึกว่า ผู้คนทั่วโลก ที่เข้าเว็บ amazon กำลังติดคุกกี้ที่แฝง amazon tracking id ของเค้าผู้นี้ "googlcom05-20"

ใน facebook ของสตีฟจีอบ ยังมีเลย ใครก็ตามที่แชรฺ์ลิ้งก์ไปอเมซอน ลองดูว่า ติดคุกกี้ตัวนี้ไปหรือเปล่า

เพราะใน Google Chrome ที่เราเล่นเว็บยังเป็นเลย

แปลก แต่ก็ น่าสนใจมากๆ

 



Facebok's Steve Jobs

เห็นตามนั้นครับ ถ้ามี ตัว E  ติดมากับ googlecom05-20 ยิ่งน่าติดตามขึ้นไปอีก

ถ้าจำไม่ผิดเหมือนจะเคยอ่านเจออีเมล ที่ amazon ส่งมา มีกฏอยู่ว่า

amzon ไม่จ่ายเงินกับ ลิ้ง tracking id (tag-20) ที่ติดอินเด็กบน หน้า Search engines

แต่ถ้าหากกฏนี้ ไม่มีอยู่จริง รับรองว่า งานนี้ ใครบางคนใน Google รับทรัพย์อย่างบานเบอะ เลยล่ะ


เพราะลิ้งก์ที่ส่งไปหน้าอเมซอน มี Google เป็น Landing page

( หวังว่าไม่ได้เป็นของชาว ไทยเอสอีโอ เพราะไม่อยากจะนำ tracking id มาโชว์ )



เมื่อคลิกที่ลิ้งก์จากหน้านี้ ก็จะพบ  tracking id =  googlcom05-20 ในอเมซอน





วอนผู้รู้ลองวิเคราะห์เกี่ยวกับกรณีอย่างนี้ เพื่อเป็น วิทยาทาน