กลยุทธ์กระตุ้นยอดขายด้วยคลิปวิดีโอบนโซเชียลมีเดีย

ยุคนี้พฤติกรรมของคนเราเปลี่ยนไปมาก สื่อโซเชียลเปรียบเสมือนส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็น twitter , Facebook , instagram ที่เข้าถึงผู้เสพได้อย่างง่ายดาย ทำให้เป็นหนึ่งช่องทางง่าย ๆ สำหรับธุรกิจออนไลน์ที่จะเข้าถึงกลุ่มคนยุคใหม่ ด้วยการทำโฆษณาผ่านสื่อเหล่านี้ หนึ่งในนั้นคือการทำคลิปวีดีโอที่ได้รับความนิยมมากในขณะนี้ เนื่องจากเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุด สามารถโน้มน้าวใจ ผู้ชมให้กดไลค์ กดแชร์ แล้วเข้ามารับบริการของทางเพจได้ง่ายขึ้น

ด้วยเหตุนี้ทำให้สื่อออนไลน์เป็นสื่อที่มีความสำคัญมากสำหรับการขยายโอกาสทางธุรกิจ  วีดีโอที่ทำขึ้นมานั้นส่วนใหญ่จะต้องเป็นวีดีโอที่มีความสั้น กระชับ  เข้าใจง่าย เพื่อว่าเมื่อผู้ชมเปิดเข้ามาเห็นจะไม่เลื่อนผ่านไปเฉย ๆ ทั้งนี้การใช้เน็ตไอดอล , ดาราหรือการนำเสนอด้วยรูปแบบแปลกตา ยิ่งเป็นจุดขายและเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ เนื่องจากผู้ชมสมัยนี้ เปิดโซเซียลขึ้นมาเล่นไม่เฉพาะเพื่ออัพเดทเรื่องราวต่าง ๆ แต่เปิดขึ้นมาเพื่อมองหาความบันเทิง หากคลิปที่เจ้าของเพจทำขึ้นมาดูน่าสนใจ ก็จะช่วยกระตุ้นยอดขายและเปิดโอกาสให้คนอื่น ๆ ได้เข้ามาทำความรู้จักกับเพจของตัวเองได้ง่ายขึ้นเช่นกัน

นอกจากนี้หากวีดีโอโฆษณาเป็นที่รู้จัก คนเข้ามาชมและคอมเมนท์เป็นจำนวนมาก  สิ่งหนึ่งที่เรียกว่ามีอิทธิพลต่อกลุ่มลูกค้าออนไลน์ คือ ผลตอบลัพธ์จากคอมเม้น เช่น หากคุณขายลิปสติกและมีการนำเสนอที่น่าสนใจ ก็จะมีคนเข้ามาคอมเม้นท์ถามถึงราคา สี  หากที่คนที่เคยใช้ไปแล้วรู้สึกชอบ ประทับใจ เขาก็จะเข้ามาแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับประสบการณ์ที่เคยใช้ว่าใช้แล้วดีอย่างไร เมื่อคนที่ไม่เคยใช้ได้อ่านคอมเม้นท์ที่ทรงประสิทธิภาพเหล่านี้ ก็จะแห่มาซื้อสินค้าตัวนั้นเช่นกัน ต้องถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ในการโน้มน้าวใจผู้ซื้อหน้าใหม่ คอมเม้นท์เหล่านี้จึงเป็นอีกแหล่งข้อมูลสำคัญที่เปิดโอกาสให้สินค้าเป็นที่รู้จัก สร้างความน่าเชื่อถือและทำให้ยอดขายดีในอนาคต

โปรโมทเว็บอย่างไรให้มีประสิทธิภาพและถูกทาง

การสร้างเว็บไซต์ให้เป็นที่รู้จัก ถือเป็นช่องทางสำคัญสำหรับการทำธุรกิจออนไลน์ เมื่อสร้างเว็บไซต์แล้วก็ต้องมีการโปรโมทเพื่อให้ผู้คนได้รู้จัก แต่ช่องทางการโปรโมทที่คนส่วนใหญ่ทำกันอาจจะทำกันแบบไม่ถูกต้องหรือไม่มีประสิทธิภาพเท่าใดนัก  เช่น เป็นโฆษณาที่ไม่น่าสนใจและไม่โน้มน้าวใจ ไม่ดึงดูดใจลูกค้าเท่าไหร่นัก ... หากคุณกำลังประสบปัญหาการโปรโมทที่ไม่ได้ผล  แนะนำให้เลือกใช้เทคนิคดังต่อไปนี้ซึ่งเป็นเทคนิคที่ง่ายแต่สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

1.   เลือกใช้บทความ SEO เป็นช่องทางหนึ่งที่เรียกว่าได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับการดันเว็บไซต์ของตัวเองให้เป็นที่รู้จัก บทความ SEO จะมีจุดเด่นที่ Keyword ที่เลือกใช้ เมื่อมีการเสิร์ชคำค้น Keyword นั้นๆ ในหน้า Google เว็บไซต์ของคุณก็จะแสดงขึ้นทันที ช่วยให้เว็บของคุณง่ายต่อการค้นหาและเข้าถึงได้รวดเร็ว

2.   สร้างลิงค์เชื่อมต่อภายใน เพื่อความสะดวกและง่ายในการเข้าถึงเพจหรือเว็บไซต์ของคุณ ในทุก ๆ บทความ หากสามารถสอดแทรกลิงค์ที่เชื่อมโยงให้เข้าสู่หน้าเพจหรือเว็บได้ ก็จะง่ายต่อการเชื่อมต่อ

3.   โปรโมทผ่านการสื่อโฆษณา เป็นวิธีการที่เว็บไซต์หลาย ๆ เว็บเลือกใช้บริการ ส่วนใหญ่จะนิยมซื้อโฆษณาผ่านหน้า Google เมื่อมีการเสิร์ชคำที่เกี่ยวข้อง เว็บของคุณจะถูกแสดงในหน้าแรกและเป็นหัวข้อต้น ๆ เมื่อกลุ่มผู้สนใจเห็นก็จะเลือกและเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณ

การโปรโมทเว็บไซต์ด้วย 3 เทคนิคที่กล่าวมาเป็นเทคนิคง่าย ๆ ที่ใช้ในการโน้มน้าวใจลูกค้าให้เปิดเข้ามาเยี่ยมชมในหน้าเพจของคุณ ซึ่งนอกจากการโฆษณาที่น่าสนใจแล้ว สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันเลยคือตัวเว็บไซต์ที่ต้องมีความน่าสนใจ เมื่อลูกค้าเปิดเข้ามาแล้วจะคลิกดูรายละเอียดและโน้มน้าวใจให้สนใจในธุรกิจที่คุณทำ เปิดโอกาสให้ทำธุรกิจง่ายขึ้น

เคล็ดลับ โน้มน้าวใจ ลูกค้าด้วยช่องทางสนทนาแบบเรียลไทม์

อีกช่องทางที่เรียกว่าเป็นวิธีการโน้มน้าวใจลูกค้าได้อย่างไม่น่าเชื่อ คือการสนทนาแบบเรียลไทม์ หากลองสังเกตตามหน้าเว็บไซต์ออนไลน์หรือแฟนเพจที่มีช่องให้เราใส่ข้อความเพื่อสนทนากับเจ้าของเพจ  เพจไหนที่ตอบเร็ว เพจนั้น ๆ ก็จะมีลูกค้าเป็นจำนวนมาก การสนทนาแบบเรียลไทม์จะแบ่งออกเป็นไลฟ์แชทที่เราคุ้นเคยกันดีกับการโต้ตอบผ่านกล่องข้อความ  อีกแบบคือการไลฟ์วีดีโอ ซึ่งลักษณะการไลฟ์นั้นจะต่างกันตรงที่การไลฟ์อาจจะทำเป็นช่วงเวลา ทั้งสองแบบถือเป็นหนึ่งช่องทางให้ทางเจ้าของเว็บไซต์เข้าถึงกลุ่มลูกค้าออนไลน์ได้อย่างง่ายดายและใกล้ชิดกันมากขึ้น

รูปแบบการสนทนาแบบเรียลไทม์เริ่มเป็นที่นิยมมากในสังคมโซเชียลและวงการธุรกิจออนไลน์ เนื่องจากการสนทนาในรูปแบบนี้เป็นวิธีการง่าย ๆ ในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่สนใจสินค้าโดยตรง  เช่น หากลูกค้ามีข้อสงสัยเกี่ยวกับสินค้า ก็สามารถพิมพ์ข้อความไปสอบถามทางเพจได้ทันที ทางเพจรู้และทราบถึงความต้องการของลูกค้าได้เร็วขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้ธุรกิจทราบถึงข้อบกพร่องที่ลูกค้าร้องเรียนและสามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปปรับปรุงและพัฒนาธุรกิจต่อไป ที่สำคัญที่สุดช่องทางนี้เป็นช่องทางที่ง่ายที่สุดสำหรับการอัพเดทสินค้าใหม่ ๆ เปิดโอกาสให้กระจายสินค้าได้อย่างรวดเร็ว

การสนทนาแบบเรียลไทม์ เป็นหนึ่งเคล็ดลับง่าย ๆ ที่ทุกเพจทำได้ เป็นหนึ่งเทคนิคในการโน้มน้าวใจและเข้าถึงลูกค้า ช่วยให้รู้ว่าลูกค้าชอบหรือไม่ชอบอะไร เพื่อจะได้ปรับปรุงและสร้างความน่าสนใจให้มากขึ้น ซึ่งการทำเพจในลักษณะนี้สิ่งสำคัญคือความไวในการตอบคำถาม เนื่องด้วยสไตล์ของคนยุคใหม่ที่ชอบความเร็ว ไม่ชอบการอคอย ดังนั้นหากเพจของคุณสามารถทำได้ ถือว่านี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่จะทำให้คุณเข้าถึงลูกค้าได้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น

เลือกช่องทางโซเชียลมีเดียแบบไหน โน้มน้าวใจ กลุ่มเป้าหมายได้เหมาะสม

การสื่อสารผ่านโซเซียลมีเดียได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้คนในปัจจุบัน เกิดเป็นช่องทางการสื่อสารมากมายหลายแบบ ซึ่งแต่ละแบบก็ล้วนมีวิธีในการสื่อสารแตกต่างกันไป ทำให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่แตกต่างกัน หากมีความสนใจจะใช้โซเซียลมีเดียในการสื่อสารเพื่อโน้มน้าวใจให้ลูกค้าสนใจในสินค้าและบริการ ก็จำเป็นต้องทำความเข้าใจกับช่องทางโซเซียลมีเดียเหล่านั้นให้ดีเสียก่อน เพื่อให้เกิดการเลือกช่องทางที่เหมาะสมโดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

1.   LINE เป็นช่องทางโซเซียลที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เพราะรวดเร็วในการสื่อสารกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย มีฟีเจอร์ในการสื่อสารที่หลากหลายทั้งการทำสติ๊กเกอร์โปรโมชั่น การแชร์รายละเอียดสินค้าผ่านทางโพสต์หรือการเปิดห้องแชทเพื่อพูดคุยและโน้มน้าวใจให้ลูกค้าสนใจสินค้าและบริการได้ดี

2.   Facebook เป็นช่องทางโซเซียลที่เปิดกว้าง การเผยแพร่โปรโมทสินค้าในแต่ละครั้งจะทำให้เกิดการกระจายไปในวงกว้างได้อย่างรวดเร็ว ยิ่งใช้ช่องทางกระตุ้นให้เกิดการแชร์หรือบอกต่อก็จะยิ่งเพิ่มช่องทางในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น

3.   Twitter ช่องทางโซเซียลที่ไม่เคยตกกระแสสังคม ช่วยในการสื่อสารแบบใช้รูปภาพที่มักสั้นและกระชับ ทำให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เป็นวัยรุ่นหรือวัยทำงานได้ดี ยิ่งหากมีการแชร์หรือ Retweet ยังสามารถนับเป็นสถิติได้อีกด้วย

การโปรโมทสินค้าผ่านโซเซียลมีเดียนั้นเป็นวิธีที่มีค่าใช้จ่ายน้อย เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว ธุรกิจสามารถโปรโมทสินค้า ธุรกิจและบริการของตนเองได้ตลอดเวลา สร้างโอกาสในการโน้มน้าวใจและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุด แต่ก็จำเป็นต้องมีการทำอย่างสม่ำเสมอจึงจะเกิดภาพจำให้กับลูกค้าได้สำเร็จ

โปรโมทแบรนด์บนสื่อสังคมออนไลน์สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก

ภาวะการแข่งขันในตลาดปัจจุบันนั้นมีความรุนแรงค่อนข้างสูงมาก ยิ่งในกรณีของธุรกิจใหม่หรือธุรกิจที่มีขนาดเล็กก็ยิ่งจะต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมายเพื่อสร้างฐานรากที่มั่นคง โน้มน้าวใจให้ลูกค้าเชื่อมั่นและติดใจในสินค้าหรือบริการเพื่อสร้างโอกาสการขยายธุรกิจต่อไปในอนาคต สิ่งเหล่านี้ล้วนต้องอาศัยการโปรโมทสื่อสารอย่างต่อเนื่องและชัดเจน แต่การประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อแบบเดิมอย่างโทรทัศน์ วิทยุ หรือนิตยสารก็มักมีราคาสูง ทำให้ธุรกิจขนาดเล็กที่ยังมีฐานะไม่มั่นคงไม่สามารถโปรโมทแบรนด์ได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเมื่อสื่อสังคมออนไลน์ได้รับการพัฒนาให้เข้าถึงได้ง่ายและมีผู้ใช้งานเป็นจำนวนมาก ทำให้สื่อสังคมออนไลน์กลายเป็นทางเลือกใหม่ให้กับเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กเพราะมีข้อดีที่น่าสนใจดังต่อไปนี้

1.   ค่าใช้จ่ายไม่แพง การโปรโมทสินค้าผ่านสื่อสังคมออนไลน์บางแห่ง แทบไม่มีค่าใช้จ่าย หรือหากมีก็ถือว่าเป็นค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่ามาก สร้างโอกาสให้สามารถโน้มน้าวใจลูกค้าโดยไม่ก่อภาระค่าใช้จ่ายมากเกินไป

2.   เข้าถึงได้ง่าย สังคมออนไลน์เป็นสังคมที่ลูกค้าสามารถเข้าถึงได้ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง และติดตามซ้ำได้ตลอดเวลา  อีกทั้งกลุ่มลูกค้าเดียวกันยังนิยมแชร์รายละเอียดโปรโมทให้เพื่อน ๆ ได้รู้อีกด้วย

3.   สร้างความน่าสนใจได้ดี การสื่อสารผ่านสังคมออนไลน์นั้นมีหลายรูปแบบทั้งภาพเคลื่อนไหว ภาพแบบ Info graphic ซึ่งล้วนเปิดโอกาสให้โน้มน้าวใจกลุ่มลูกค้าได้ง่ายมากขึ้น

ด้วยข้อดีที่น่าสนใจเหล่านี้จึงทำให้การโปรโมทสินค้าผ่านสื่อสังคมออนไลน์มีความจำเป็นต่อธุรกิจขนาดเล็กเป็นอย่างมาก  ควรทำอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างภาพจำให้กับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เพิ่มช่องทางติดต่อผ่าน LINE เพิ่มยอดขายแบบมือโปร

สังคมในปัจจุบันล้วนต้องอาศัยการสื่อสารที่รวดเร็ว ยิ่งในลักษณะของการดำเนินธุรกิจแล้ว การตอบโต้กับลูกค้าทันทีที่พวกเขามีปัญหาหรือข้อสงสัยได้อย่างทันท่วงทีนับว่ามีความสำคัญเป็นอย่างมาก รวมถึงการสื่อสารเพื่อโน้มน้าวใจให้ลูกค้าหรือประชาชนทั่วไปเกิดความสนใจในสินค้าและบริการ ทำให้เกิดความรู้ความเข้าใจในธุรกิจที่ดำเนินการอยู่ ก็ยิ่งเป็นการเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจได้เป็นอย่างมาก โดยสามารถเพิ่มช่องทางออนไลน์อย่าง Application LINE ในการสื่อสารให้กับลูกค้าได้อีกทางหนึ่งด้วย โดยข้อดีของการสื่อสารทาง LINE นั้นมีดังนี้

1.   ความรวดเร็วในการโต้ตอบ  LINE เป็นช่องทางติดต่อที่ทำให้ผู้ขายพร้อมรับออเดอร์จากผู้ซื้อได้ตลอดเวลา แม้ว่าจะยังไม่พร้อมอ่านข้อความ ข้อความนั้นก็จะยังคงอยู่ได้อีกนาน เปิดโอกาสให้ลูกค้าสามารถติดต่อได้ตลอดเวลา ผู้ขายสามารถรอเวลาที่พร้อมจึงอ่านข้อความได้

2.   ใช้กระจายข่าวสารได้ การกระจายข่าวผ่านทาง LINE สามารถทำได้หลากหลายช่องทาง ทั้งการสื่อสารผ่านห้องแชทหรือหน้าไทม์ไลน์ของธุรกิจ เป็นการกระจายข่าวไปยังกลุ่มลูกค้าที่เจาะจง รวดเร็วและมีความชัดเจน สร้างความน่าสนใจให้กับสินค้าได้เป็นอย่างดี หรืออาจโน้มน้าวใจให้ผู้รับข่าวสารกระจายข่างต่อ ๆ ไปได้อีกด้วย

3.   ฟีเจอร์ที่เพิ่มโอกาสทางธุรกิจ นอกจากการสื่อสารผ่าน LINE ตามปกติแล้ว ทาง LINE ยังมีการพัฒนาฟีเจอร์สำหรับการดำเนินธุรกิจได้โดยตรง ซึ่งจะทำให้แอคเคาน์เป็นสาธารณะสามารถเผยแพร่ให้ผู้สนใจรับทราบได้กว้างมากขึ้น

อย่างไรก็ตามหากต้องการให้การติดต่อผ่าน LINE สามารถโน้มน้าวใจให้กับลูกค้าได้ก็ต้องอาศัยข้อความที่น่าสนใจ เรื่องราวของสินค้าและบริการที่ถูกใจ และต้องทำอย่างสม่ำเสมอจึงจะเกิดความต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ

เคล็ดลับดึงดูดให้คนเข้ามาค้นหาผ่านช่องทางออนไลน์

ช่องทางออนไลน์คือช่องทางการสื่อสารที่เข้ามามีบทบาทสำคัญในยุคปัจจุบันเป็นอย่างมาก เพราะใช้ในการติดต่อสื่อสารอย่างรวดเร็ว เชื่อมโยงผู้คนตามภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลกได้ตลอดเวลา ซึ่งในปัจจุบันก็นับเป็นช่องทางสร้างธุรกิจที่น่าสนใจไม่น้อยอีกด้วย หากมีการจัดการที่ดี ช่องทางออนไลน์ก็นับเป็นวิธีที่นักธุรกิจสามารถใช้โน้มน้าวใจลูกค้าและผู้สนใจได้ดี แต่ต้องอาศัยเคล็ดลับ ดังต่อไปนี้

1.   สร้างความน่าสนใจอย่างต่อเนื่อง สื่อสังคมออนไลน์คือสื่อที่มีการเคลื่อนไหวเกิดขึ้นตลอดเวลา มีผู้ใช้งานตลอด 24 ชั่วโมง ดังนั้นหากธุรกิจต้องการสร้างความรู้สึกโน้มน้าวใจให้ลูกค้าอยากเลือกใช้บริการและสินค้าก็ต้องมีการประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง หรือมีการสร้าง Content เพื่อพบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นกับลูกค้าตลอดเวลา

2.   สร้างเรื่องราวของสินค้าและบริการ ในปัจจุบันผู้คนต่างให้ความสำคัญกับรายละเอียดของสินค้าและบริการต่าง ๆ มากขึ้น ดังนั้นการชี้แจงรายละเอียดที่มาที่ไปของสินค้าและบริการจึงมีความสำคัญเป็นอย่างมาก สามารถอาศัยช่องทางออนไลน์ในการสื่อสารประชาสัมพันธ์ให้มีความน่าสนใจและชัดเจน ซึ่งเรื่องราวที่น่าสนใจย่อมทำให้เกิดความอยากรู้และเข้ามาค้นหาเรื่องราวได้ดี

3.   กระตุ้นให้มีการกระจายข่าวหรือสร้างเครือข่าย เพราะสื่อสังคมออนไลน์คือสื่อที่เพื่อนฝูงใช้แลกเปลี่ยนพูดคุยและแจ้งข่าวสารที่น่าสนใจให้แก่กัน ซึ่งนักธุรกิจสามารถสร้างแรงโน้มน้าวใจให้เกิดการขยายข่าวได้ด้วยโปรโมชั่นของรางวัลที่น่าสนใจ เป็นวิธีที่เห็นผลได้เร็วและเจาะกลุ่มลูกค้าเฉพาะได้ดี ยิ่งอาศัยการติดแฮชแท็กคำที่เกี่ยวข้องของสินค้าก็ยิ่งเป็นการประชาสัมพันธ์สินค้าในลักษณะที่เป็นวงกว้างได้ดี

ปัจจุบันการค้นหาในช่องทางออนไลน์นอกจากจะเสียเงินลงโฆษณาผ่านทาง Search Engine แล้ว ยังสามารถอาศัยการเรียกร้องให้ผู้คนสนใจและเข้ามาค้นหากันมากขึ้นได้

ผมเพิ่งเริ่มทำเพจได้ไม่กี่วันเองครับ

โปรโมทธุรกิจบนสื่อสังคมออนไลน์ ง่ายนิดเดียว

ในปัจจุบันสื่อสังคมออนไลน์ได้ขยายตัวอย่างรวดเร็ว เพราะเป็นช่องทางที่ผู้คนใช้ในการพบปะพูดคุยกันได้อย่างสะดวก  ทำให้กลายเป็นช่องทางในการโปรโมทธุรกิจได้ดี เป็นช่องทางที่ประหยัดค่าใช้จ่าย สามารถเจาะจงกลุ่มเป้าหมายได้โดยตรง แต่การโปรโมทธุรกิจที่ดีนั้นต้องอาศัยหลักเกณฑ์สำคัญ ดังนี้

1.   การโน้มน้าวใจให้ลูกค้าเชื่อถือผลิตภัณฑ์ หากธุรกิจที่ต้องการโปรโมทผ่านสื่อสังคมออนไลน์เป็นธุรกิจที่นำเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ที่ลูกค้ายังไม่รู้จักหรือคุ้นเคย ก็จำเป็นต้องอาศัย Content ที่น่าสนใจ หรือวิธีการนำเสนอที่เข้าใจง่ายเพื่อให้ลูกค้ารู้จักและเชื่อใจในสินค้าและบริการ

2.   สร้างจุดแข็งที่แตกต่าง การแข่งขันทางธุรกิจในปัจจุบันนั้นมีความหลากหลายมากกว่าในอดีต แม้เป็นผลิตภัณฑ์หรือบริการเดียวกันก็อาจมีจุดขายที่ต่างกันได้ ดังนั้นจึงควรหาจุดแข็งที่น่าสนใจเพื่อโน้มน้าวใจให้ลูกค้าอยากลองใช้สินค้าและบริการได้

3.   โน้มน้าวใจอย่างสม่ำเสมอ นอกเหนือจากการสร้างความน่าสนใจในการเปิดตัวธุรกิจใหม่แล้ว ยังจำเป็นต้องสร้างจุดสนใจให้ลูกค้ากลับมาซื้อสินค้าซ้ำใหม่อีกอย่างสม่ำเสมอ ด้วยการจัดโปรโมชั่นหรือสร้างบทความที่น่าสนใจให้ลูกค้าอ่านและเข้าใจในสินค้า

4.   หาพันธมิตรทางธุรกิจที่ดี การดำเนินธุรกิจจำเป็นต้องอาศัยคู่ค้าที่เชื่อถือได้ เพื่อเป็นการขยายตลาด , หาฐานลูกค้าและสร้างเครือข่ายทางธุรกิจที่เข้มแข็ง ยิ่งในกรณีธุรกิจใหม่ การมีที่ปรึกษาทางธุรกิจที่มากประสบการณ์ก็ยิ่งเพิ่มโอกาสที่ดีได้มากขึ้น

5.   เปิดช่องทางการสื่อสารกับลูกค้าให้มากขึ้น การโปรโมทผ่านสื่อสังคมออนไลน์นอกจากจะทำให้ธุรกิจเข้าถึงลูกค้าได้ดีแล้ว ยังควรใช้ช่องทางดังกล่าวตอบข้อสงสัยของลูกค้าด้วย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับธุรกิจ

โปรโมทเว็บไซต์ โน้มน้าวใจ มีโอกาสได้ลูกค้าใหม่

สำหรับเว็บไซต์ที่มีบริการขายสินค้าหรือทำธุรกิจออนไลน์ การเปิดเพจหรือเว็บไซต์โดยทั่ว ๆ ไปอาจจะทำให้เจ้าของเว็บประสบความสำเร็จได้ยาก เนื่องจากกลุ่มลูกค้าที่รู้จักจะเป็นกลุ่มลูกค้าในวงเล็ก ๆ ที่บางครั้งก็มีทั้งใช้บริการและไม่ใช้บริการ ซึ่งอาจจะทำให้เจ้าของธุรกิจอย่างคุณทำยอดขายได้ไม่ตรงใจนัก  การเลือกใช้บริการโปรโมทสินค้า ไม่ว่าจะเป็นการซื้อโฆษณาผ่านเว็บไซต์ , การโปรโมทผ่านโซเชียลมีเดีย เป็นอีกหนึ่งช่องทางง่าย ๆ ที่จะประกาศให้กลุ่มลูกค้ารู้ว่าบริษัทของคุณมีธุรกิจอะไร ให้บริการเกี่ยวกับอะไรบ้าง เป็นหนึ่งช่องทางที่ช่วยกระตุ้นยอดขาย โน้มน้าวใจลูกค้าและเปิดโอกาสให้มีลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆเพิ่มขึ้น

ข้อดีของการเลือกโปรโมทเว็บไซต์หรือแฟนเพจเพื่อโน้มน้าวใจลูกค้า กระตุ้นยอดผู้เข้าชมในสมัยนี้ถือว่าเป็นเรื่องง่าย ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ก็สามารถทำได้ตลอด 24 ชั่วโมง เลือกได้ว่าต้องการโปรโมทในระยะเวลากี่วัน ได้กลุ่มลูกค้าที่ต้องการมากขึ้น เช่น หากคุณขายโปรแกรมลดน้ำหนัก เมื่อคุณทำการโปรโมทโปรแกรมลดน้ำหนัก โอกาสที่จะได้ลูกค้ากลุ่มที่ต้องการลดน้ำหนักก็มากขึ้น เช่น เดิมเคยมีกลุ่มลูกค้าเป็นผู้หญิง เมื่อทำเว็บไซต์ นำรูปภาพของผู้ใช้จริงที่เป็นผู้ชายที่เคยมีปัญหาเรื่องน้ำหนักตัวมากและได้ทดลองใช้สินค้าแล้วได้ผลจริง มีภาพเปรียบเทียบ Before After ก็สามารถเรียกลูกค้ากลุ่มใหม่ได้ด้วย อีกทั้งยังเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์ นอกจากนี้เว็บไซต์ที่มีการโปรโมทเป็นประจำจะเป็นเว็บไซต์ในลำดับต้นของการ Search Engine ถือเป็นโอกาสทางธุรกิจที่ดีมาก เป็นอีกหนึ่งความก้าวหน้าของการทำธุรกิจ

สำหรับรูปแบบการโปรโมทที่เราเห็นกันส่วนใหญ่ จะเป็นการซื้อเวลาโฆษณาจากหน้าเพจเฟซบุ๊ก เช่น จ่ายเงินเพื่อโปรโมทให้เพจของเราโชว์ให้คนอื่น ๆ ได้รู้จัก จะมีระยะเวลาตั้งแต่ 24 ชั่วโมง ไปจนถึงหนึ่งเดือน โดยรูปแบบการโฆษณา อาจจะเป็นการนำเสนอสินค้า รูปภาพหรือเป็นวิดีโอก็ได้ นอกจากนี้เราอาจจะคุ้นเคยกันดีกับการโปรโมทผ่าน Google เมื่อเสิร์ชขึ้นมาในหน้า Google ก็จะแสดงเว็บไซต์ของคุณ ช่วยให้คนเชื่อมั่นในธุรกิจของคุณมากขึ้นและนั่นทำให้คุณมีโอกาสได้ลูกค้าหน้าใหม่เพิ่มขึ้น

เพิ่มยอดขายด้วยการโปรโมทโพสต์ได้ผลชัวร์


หากเปิดหน้าจอเฟซบุ๊ก คุณจะได้เห็นโฆษณาสินค้าต่าง ๆ มากมายที่แฝงมากับหน้าแรก โฆษณาเหล่านั้นที่แสดงในหน้าฟีดข่าว เรียกว่าการโพสโปรโมทคือเจ้าของเพจได้ซื้อโฆษณาในเฟซบุ๊กเพื่อให้โฆษณาเพจของตัวเอง หน้าเพจของเราก็จะแสดงบนหน้าฟีดของกลุ่มเป้าหมาย เช่น หากคุณขายอุปกรณ์กีฬา มีกลุ่มเป้าหมายเป็นลูกค้าที่เป็นเพศชาย มีอายุระหว่าง 20-60 ปี ในประเทศไทย เมื่อกดโปรโมทไปแล้วหน้าเพจที่ซื้อโฆษณาไปก็จะแสดงให้เห็นในฟีดของกลุ่มเป้าหมาย หากโพสไหนที่ขึ้นมามีความน่าสนใจสามารถโน้มน้าวใจกลุ่มเป้าหมายได้ เขาก็จะเข้ามาดู กดไลค์ กดแชร์  หากตัวสินค้าเป็นสินค้าที่ลูกค้าต้องการ ก็จะมีการสั่งซื้อสินค้าและบริการต่อไป

วิธีการทำโพสโปรโมทผ่านเฟสบุ๊กทำได้ง่ายมากในสมัยนี้ เพียงเจ้าของร้านค้าออนไลน์จะต้องทำหน้าเพจที่ต้องการโฆษณาให้ดูมีความน่าสนใจ เช่น ภาพถ่ายพร้อมคำโฆษณาที่ดึงดูดลูกค้าหรือสร้างวิดีโอที่ดึงดูดความสนใจเรียกลูกค้าเข้ามาดู จากนั้นก็เข้าไปซื้อโฆษณาในเฟสบุ๊ก พร้อมระบุระยะเวลาของการโปรโมทว่าต้องการโปรโมทระยะเวลานานเท่าไหร่ เช่น 1 สัปดาห์ , 1 เดือน หรือ 3 เดือน เป็นต้น โดยการทำโฆษณานี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือข้อความและภาพที่ดึงดูดใจให้กลุ่มเป้าหมายให้เข้ามาใช้บริการ เช่น การลดราคา , โปรโมชั่นซื้อ 2 ฟรี 1 , การบริการหลังการขาย , ข้อความเชิญชวนดูรายละเอียดสินค้า หรืออาจจะเป็นคลิปสั้น ๆ ที่เมื่อใครเห็นแล้วจะไม่เลื่อนผ่านไปเปล่าๆ

การโปรโมทโพสนั้นจริง ๆ แล้วไม่จำเป็นจะต้องทำตลอดไป เพียงแค่ช่วงแรกของการเริ่มต้นธุรกิจหรือในสินค้าตัวใหม่ที่จำหน่าย คุณอาจจะต้องมีการโปรโมทบ่อย ๆ เพื่อให้หน้าเพจของคุณเป็นที่รู้จัก  ยิ่งภาพที่โชว์สามารถโน้มน้าวใจผู้ชมได้จะยิ่งดี เป็นหนึ่งวิธีการง่าย ๆ ของการสร้างยอดไลค์ , ยอดแชร์  เมื่อมีผู้ติดตามเพจเป็นจำนวนมาก  สิ่งที่ตามมาคือเรื่องของธุรกิจที่จะเพิ่มโอกาสการทำเงินได้มากขึ้น สร้างยอดขายได้มากกว่าการขายแบบเดิมๆ

บทความโปรโมทธุรกิจ โน้มน้าวใจ คุ้มค่าใช้งานได้ยาวนาน

ในยุคที่การทำธุรกิจออนไลน์เป็นธุรกิจอันดับต้น ๆ และมีการใช้บริการมากกว่าครึ่ง ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าออนไลน์ งานบริการออนไลน์ที่ทำให้ผู้บริโภคมีรูปแบบการใช้ชีวิตที่สะดวกสบายมากเดิม ในส่วนของทางผู้ประกอบการเองก็มีโอกาสขยายธุรกิจให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง  ความก้าวหน้าทางธุรกิจนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดคือเรื่องของสื่อโฆษณา ที่ทุกวันนี้มีหลายช่องทาง แต่รูปแบบหนึ่งที่คุ้มค่าใช้งานได้นาน สามารถโน้มน้าวใจกลุ่มลูกค้าให้เข้ามาเลือกใช้บริการได้ดีคือ การเลือกใช้บทความเพื่อโปรโมทสินค้า

หลายคนอาจจะสงสัยว่าบทความที่โพสลงไปในเพจหรือหน้าเว็บไซต์จะสามารถช่วยโปรโมทธุรกิจให้คุณได้อย่างไร? .. ให้คุณลองสังเกตในหน้า Google เมื่อคุณต้องการค้นหาสินค้าหรือบริการบางอย่าง การเสิร์ชคำค้นหาเข้าไปก็จะเจอหน้าเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง เช่น หากต้องการหาเว็บไซต์ขายอาหารสุขภาพ คุณอาจจะใช้คำว่า “อาหารคลีน” ในหน้า Google ก็จะปรากฏเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับอาหารคลีนทั้งหมด มาให้คุณได้เลือก ในนั้นก็จะมีบทความที่เกี่ยวข้องกับอาหารคลีนเพื่อสุขภาพและมีบริการรับสั่งทำอาหารมากมายให้ลูกค้าได้เลือก นี่เป็นหนึ่งในรูปแบบของการใช้เทคนิคการโฆษณาเรียกว่า Search Engine

บทความที่เลือกโพสลงในเว็บไซต์ โดยมากแล้วจะเน้นมีคีย์เวิร์ดของคำ เช่น หากเว็บไซต์ของคุณขายอาหารสุขภาพ ก็อาจจะใช้คำที่เกี่ยวข้อง เช่น “อาหารคลีน” “อาหารสุขภาพ” คำเหล่านี้จะง่ายต่อการค้นหาและโยงเข้าสู่หน้าเพจ ซึ่งบทความที่ถูกเขียนขึ้นในเพจจะไม่มีวันหมดอายุ ยิ่งเป็นบทความที่น่าสนใจก็จะมีการแชร์ต่อในโลกออนไลน์ เป็นอีกหนึ่งช่องทางของการโปรโมทที่สามารถโน้มน้าวใจลูกค้าและทำได้อย่างต่อเนื่อง สร้างยอดขายได้ดีในอนาคต

อัพเดทเว็บทุกวันยังไม่พอ ต้องมีวาทศิลป์ โน้มน้าวใจ

มีสินค้าดี มีภาพสวย แต่ทำไม่สินค้าของเรายังขายไม่ดี? ข้อนี้เป็นสิ่งที่เจ้าของร้านค้าออนไลน์ประสบปัญหา แม้ว่าบางคนจะลงทุนจ่ายค่าโปรโมทผ่านทางหน้าเพจเฟซบุ๊กไปแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่สามารถสร้างยอดขายที่น่าพอใจได้ ซึ่งอีกสาเหตุหนึ่งที่เป็นเช่นนั้นคือ คุณอาจจะขาดความเป็นมืออาชีพในการโพสขายสินค้า ลูกเล่นที่ใช้อาจจะน้อยเกินไปจนไม่สามารถโน้มน้าวใจลูกค้าได้ ทำให้ยอดขายไม่ปังอย่างที่ต้องการ สิ่งที่คุณขาดเหล่านี้ต่างเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างยอดขาย มันจึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมยอดของคุณยังไม่ถึงเป้าสักที

อีกสิ่งที่สำคัญมากของการโฆษณา คือเรื่องของวาทะศิลป์ในการขายสินค้า เพราะหากเจ้าของเพจรู้จักที่จะใช้คำพูดในการโน้มน้าวใจลูกค้า ก็จะเปิดโอกาสให้สินค้านั้นถูกซื้อง่ายขึ้น โดยตัวอย่างคำที่เจ้าของเพจนิยมใช้ เช่น “ฟรี” , “ลดราคา” , “ทดลองใช้” , “ลุ้นรับรางวัล” , “แถม” เป็นต้น ข้อความที่มีคำเหล่านี้ปรากฏอยู่หน้าเพจไหน ก็จะเป็นที่สะดุดตาและดึงดูดใจให้ลูกค้าเข้ามาดูและเลือกชมสินค้า เพราะโดยธรรมชาติของคนเราจะชอบของถูก ของลดราคา ของฟรี  นี่ถือว่าเป็นคำพูดง่ายๆ ที่ควรนำมาใช้ เพราะมันช่วยดึงดูดใจลูกค้าได้มากทีเดียว

นอกจากการใช้คำเหล่านั้นในการโพสข้อความเพื่อขายสินค้าแล้ว เจ้าของเพจจะต้องใช้เทคนิคของการเขียนที่อาจจะไม่ต้องเป็นวิชาการเกินไป ไม่ต้องใช้ข้อความสวยหรูมาก แต่เป็นคำง่าย ๆ เขียนให้ผู้ที่เลื่อนมาเจอภาพในเพจเห็นแล้วอยากที่จะเข้ามาอ่าน มาเลือกดูสินค้า เช่น หากคุณขายครีมบำรุงผิวอาจจะมีคำสวย ๆ ที่โพสเพื่อดึงดูดลูกค้า เช่น สวยได้โดยไม่พึ่งศัลยกรรม, เคล็ดลับสวยนางพญาแบบคลีโอพัตรา เป็นต้น ซึ่งต้องใช้เทคนิคประดิษฐ์คำเหล่านี้เพื่อดึงดูดความสนใจลูกค้าให้เข้ามาซื้อสินค้า

โปรโมทเพจเฟซบุ๊กหรือเว็บไซต์ โน้มน้าวใจ ให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อเร็ว

หลายคนอาจจะสงสัยว่าเพราะอะไรเพจเฟซบุ๊กของตัวเองถึงยังไม่มีคนกดไลค์ กดแชร์ และมียอดขายที่ยังไม่ดีเท่าที่ควร ทั้ง ๆ ที่โฆษณาอยู่ทุกวัน รูปสวย แต่ก็ยังมียอดขายไม่ทะลุเป้า ซึ่งสาเหตุหลักของปัญหาคือการโปรโมทที่อาจจะยังไม่ตรงจุดกับกลุ่มเป้าหมาย ดังนั้นเทคนิคโปรโมทเพจง่าย ๆ นี้อาจจะช่วยคุณสร้างยอดขายที่ดีขึ้นได้ในเร็ววัน

1.   ภาพต้องสะดุดตา ภาพถ่ายกับการขายสินค้าออนไลน์ถือว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก หากภาพมีองค์ประกอบที่ดี สวย และดูไม่เกินจริงก็จะสร้างความน่าเชื่อถือ เป็นสิ่งที่โน้มน้าวใจให้กับลูกค้า เช่น หากคุณขายลิปสติก การถ่ายภาพลิปสติก 1 แท่งแล้วโพสลงไป เมื่อเทียบกับการถ่ายภาพผู้หญิงที่มีเรียวปากสีสดสวยถือลิปสติก อันไหนจะน่าซื้อกว่ากัน

2.   ข้อความกระชับได้ใจความ บางเพจมีข้อความยาวเต็มไปหมด ซึ่งอาจจะทำให้ดูรกและไม่น่าสนใจ การเขียนข้อความนั้นจะต้องสั้น กระชับและเข้าใจง่าย บ่งบอกว่าคุณต้องการสื่ออะไร เพื่อไม่ให้ลูกค้าเลื่อนผ่านภาพนั้นไปโดยที่ยังไม่ได้เข้ามาอ่าน

3.   มีกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน สินค้าแต่ละอย่างจะมีลูกค้าต่างกลุ่มกันออกไป ดังนั้นการเลือกโฆษณาให้ถูกกลุ่มเป้าหมายจะช่วยคุณให้มีโอกาสขายสินค้าได้ง่ายขึ้น โดยการเน้นหาลูกค้าในกลุ่มที่ต้องการขายให้เจอ แล้วทำการตลาดเพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายนั้นๆ

นอกจาก 3 ข้อที่กล่าวมาแล้ว การขายของหรือโฆษณาผ่านเพจเฟซบุ๊กจะต้องดูน่าเชื่อถือด้วย อาจจะเป็นภาพ ข้อมูลที่นำมาโพส การตอบข้อความ ระยะเวลาของการส่งสินค้า รวมไปถึงการรีวิวสินค้าที่จะทำให้รู้ว่าสินค้าที่ขายนั้นเป็นสินค้าที่มีผู้ใช้แล้วประทับใจ นอกจากนี้ลูกเล่นต่างๆที่ทางเพจทำก็ชวนให้ลูกค้าเปิดเข้ามาดูด้วย เช่น การโพสสาระน่ารู้ การโพสคลิปหรือการโพสภาพถ่ายที่อาจจะไม่เกี่ยวกับสินค้าบ้าง เป็นเทคนิคการโน้มน้าวใจเรียกลูกค้าให้เข้ามาดูและตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น

รีวิวสินค้ามีแบบไหนบ้าง ทำอย่างไรให้ ปิดการขาย ได้ดีขึ้น

ปัจจุบันผู้ทำธุรกิจขายสินค้าออนไลน์ต่างพยายามมองหาวิธีบริหารจัดการส่งเสริมการขายให้เติบโตรวดเร็ว การรีวิวสินค้าเป็นหนึ่งในวิธีการสร้างความมั่นใจ ช่วยให้สินค้าเกิดความน่าเชื่อถือเพื่อให้ตัดสินใจซื้อง่ายและ ปิดการขาย เร็วขึ้น การรีวิวมีหลายรูปแบบ เป้าหมายหลักคือให้ข้อมูลว่าสินค้าและธุรกิจของเรามีอะไรดี ยิ่งเป็นการรีวิวจากผู้ใช้จริงและบุคคลที่มีชื่อเสียง ยิ่งช่วยการันตีความมั่นใจได้มากขึ้นอีกระดับ ทำให้การรีวิวยุคนี้เป็นเหมือนหัวใจของกลยุทธ์ขายไปเสียแล้ว มีหลายวิธีน่าสนใจดังนี้

-เลือกพริตตี้หรือบุคคลมีชื่อเสียงมารีวิวสินค้า ต้องควักกระเป๋าจ่ายแพงสักหน่อยแต่ให้ผลค่อนข้างคุ้มค่าในด้านความเชื่อมั่นของผู้บริโภค แม้ว่าลูกค้าบางรายอาจคลางแคลงเรื่องการใช้งานจริงของเหล่าพริตตี้ คิดว่าเป็นการโปรโมทเพื่อการโฆษณาชวนเชื่อ แต่ลูกค้าบางกลุ่มก็เลือกใช้สินค้าตามเซเลบที่ตนชื่นชอบ ขึ้นอยู่กับความพอใจของแต่ละคน ปิดการขาย

-ลูกค้าเก่าบอกต่อปากต่อปาก การรีวิวสินค้าโดยผู้ที่มีประสบการณ์ใช้จริงย่อมสร้างความน่าเชื่อถือ เพราะลูกค้าในอนาคตจะคาดหวังรายละเอียด วิธีการใช้งาน และสรรพคุณว่าดีจริงหรือไม่ โดยเน้นข้อมูลความจริง มีการนำเสนอทั้งจุดเด่นจุดด้อยซึ่งถือเป็นความคิดเห็นส่วนตัว แต่สามารถปลุกความสนใจให้อยากทดลองใช้ด้วยตนเองบ้าง

การรีวิวสินค้าจะส่งผลดีได้จำเป็นต้องมีองค์ประกอบต่อไปนี้ ภาษาเข้าใจง่ายและสละสลวย สื่อสารข้อมูลถูกต้องและสร้างความประทับใจ ช่วยให้เห็นว่าสินค้าหรือการบริการมีคุณภาพ สามารถหาคนรีวิวได้ต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการทักแชทส่วนตัวขอรีวิวจากลูกค้าเก่า หรือการจัดแคมเปญเสนอส่วนลดให้ผู้ที่รีวิวสินค้าและบริการ เปรียบเทียบได้กับการโฆษณาสินค้าในอีกแง่มุมหนึ่งที่จะกระตุ้นให้เกิดความอยากซื้อสินค้ามากขึ้น ช่วย ปิดการขาย เร็วขึ้น ขณะเดียวกันรีวิวจากผู้ใช้จริงยังเป็นการประเมินความคิดเห็น ความพอใจส่วนตัว และความต้องการของลูกค้าเป้าหมายไปพร้อมกัน เป็นเคล็ดลับที่จะเอาใจลูกค้าในโอกาสต่อไปและเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จขายดียิ่งขึ้น

3 กลยุทธ์การตลาดออนไลน์ ปิดการขาย เร็ว กำไรมาก และสินค้าไม่ตกค้าง

หลักการขายที่ดีคือทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นและทำกำไรได้มากจึงเรียกว่าเป็นความสำเร็จทางธุรกิจ หากขายสินค้าส่วนใหญ่ได้ แต่ยังมีสินค้าค้าสต๊อกจำนวนมากที่ปล่อยไม่ออก เท่ากับต้นทุนจมหายไปส่วนหนึ่ง ต่อให้ทำกำไรก็คงไม่คุ้มกับการลงทุนลงแรงเท่าไรนัก สำหรับผู้ที่เริ่มต้นธุรกิจออนไลน์ถือเป็นโอกาสดีที่จะปล่อยสินค้าตกค้างออกไปให้มากที่สุด มีหลายวิธีกระตุ้นช่วยความต้องการของลูกค้า เพื่อให้ ปิดการขาย อย่างรวดเร็ว ดังต่อไปนี้

1. การขายสินค้าพร้อมส่ง จำเป็นต้องศึกษาลูกค้าเพื่อเรียนรู้ความต้องการและสิ่งที่คนนิยม สั่งสินค้ามาตรงใจทำให้ขายออกไปได้รวดเร็ว เมื่อมีสิ่งที่ลูกค้าต้องการมาก จึงกำหนดราคาขายได้ค่อนข้างสูง มีโอกาส ปิดการขาย ออกไปรวดเร็ว ทั้งยังช่วยลดต้นทุนการบริหารสินค้าค้างสต๊อก ไม่ต้องกังวลกับสินค้าที่สั่งเข้ามานานแล้ว แต่ยังขายไม่ได้ เสี่ยงที่จะโดนต่อรองราคาเพราะสินค้าตกค้างมานานจนตกรุ่นไปแล้ว ต้องขายตัดราคาตามความต้องการที่ลดลง

2. จัดโปรโมชั่นที่ดูเหมือนลดราคา แต่ความจริงเป็นการเพิ่มยอดขาย เช่น ขายเสื้อ 1 ตัว ถ้ารับคู่กับสินค้าจัดรายการ 1 ชิ้น ได้ส่วนลดพิเศษ ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าได้ประโยชน์เพราะซื้อสินค้าสองอย่างในราคาถูกกว่า ฝ่ายคนขายได้ปล่อยสินค้าค้างสต๊อกออกไปพร้อมกัน ปิดการขาย รายการสินค้าที่ขายช้า เพื่อนำเงินทุนมาสั่งสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง อีกวิธีหนึ่งที่นิยมกันคือจัดโปรโมชั่นลดพิเศษเพื่อปล่อยสินค้าค้างสต๊อกโดยตรง เช่น โปรโมชั่นซื้อ 2 แถม 1 ช่วยระบายรายการสินค้าที่ไม่เคลื่อนไหวออกไปง่ายและรวดเร็วเช่นกัน

3. เพิ่มช่องทางการขายใหม่ โดยเฉพาะการตลาดออนไลน์ที่นำเสนอทั้งรูปภาพและคอนเทนท์น่าสนใจช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจเลือกสินค้าและสั่งซื้อรวดเร็วขึ้น สอบถามความต้องการของลูกค้าและทำรายการสินค้าและราคาที่เหมาะสม พร้อมกับเน้นบริการที่มีคุณภาพและเชื่อถือได้ ความประทับใจที่เกิดกับลูกค้าจะเพิ่มโอกาสในการขายดีมีกำไรได้แน่นอน

ท่ามกลางการแข่งขันดุเดือด หลายธุรกิจเติบโตได้เพราะใช้ความคิดไขปมปัญหาตลอดเวลา สินค้าค้างสต๊อกไม่ใช่เรื่องแก้ไขไม่ได้ พยายามสอดส่องคู่แข่งที่เป็นมืออาชีพว่าพวกเขามีลูกเล่นอย่างไรจัดรายการส่งเสริมการขายต่าง ๆ ให้เหมาะกับลูกค้าเป้าหมาย ลองนำมาปรับใช้กัน

พอดีผมเพิ่งสร้างเพจใหม่ กำลังไล่ทำเป็นคลิปวีดีโอสั้นๆอยู่ครับ คอนเทนต์ประมาณ100กว่าคลิป ฝากติดตามได้ที่เพจนะครับ ขอบคุณครับ

ถูกและดี ไม่มีจริง ทำอย่างไรให้ขายแพงแต่ ปิดการขาย ดีกว่าคู่แข่ง

"ถูกและดี" ฟังแล้วสะดุดหูทันที เป็นแคมเปญการตลาดที่ปลุกเร้าความสนใจ แต่ทำได้ยากตามหลักความเป็นไปได้ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นจริง ๆ คือสินค้ามีคุณภาพย่อมมีต้นทุนสูง ไม่ว่าจะเรื่องวัตถุดิบ การผลิต บรรจุภัณฑ์ หรือการจัดส่งที่ได้มาตรฐานล้วนบวกค่าใช้จ่ายเข้าไปในตัวสินค้าทั้งสิ้น หากสินค้าของคู่แข่งขายถูกกว่า ควรแสดงจุดเด่นอันเป็นข้อได้เปรียบคู่แข่งให้ลูกค้าเห็น อธิบายจุดแข็งของสินค้าและบริการว่าเหตุผลใดจึงเป็นที่ต้องการอย่างมาก ยิ่งสินค้ามีคุณค่าอย่างเช่นผลิตภัณฑ์แฮนด์เมด หรือผลิตจำนวนจำกัด หรือผลิตจำหน่ายในระยะเวลาที่กำหนดเท่านั้น ส่งอิทธิพลต่อผู้บริโภคให้ตัดสินใจซื้อง่าย ปิดการขาย เร็วกว่าคู่แข่งเพราะผู้ซื้อส่วนใหญ่ไม่ต้องการเสียสิทธินั้นไป ทำให้ขายสินค้าราคาแพงได้ง่ายและมีกำไรดีด้วย

กลยุทธ์การตลาดปรับเปลี่ยนไปตามประเภทสินค้าและลูกค้าเป้าหมาย บางกลุ่มชื่นชอบสินค้าราคาถูก ยิ่งไล่บี้ราคาต่ำกว่าคู่แข่งเท่าไรยิ่งขายดี ในทางกลับกันสินค้าเกรดพรีเมียมไม่จำเป็นต้องเล่นสงครามตัดราคาเพราะคุณค่าในตัวสินค้าเป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยยกระดับความต้องการ ลูกค้ายอมควักกระเป๋าจ่าย ปิดการขาย ได้ง่าย ผู้ขายควรมุ่งเป้าหมายไปที่ลูกค้ามีกำลังซื้อสูง มีอำนาจการตัดสินใจด้วยตัวเอง และอธิบายคุณสมบัติเฉพาะของผลิตภัณฑ์ วางตัวสินค้าให้โดดเด่นกว่าคู่แข่งทำให้ได้รับความสนใจจากลูกค้าในระดับสูง พร้อมกับเน้นบริการที่ดีควบคู่กันช่วยสร้างชื่อเสียงให้แบรนด์เป็นที่รู้จักและสร้างมูลค่าให้สินค้าขายแพงกว่าได้กำไรมากกว่า

ทุกวันนี้ธุรกิจขายสินค้าออนไลน์เติบโตรวดเร็วเพราะตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้ลงตัวกว่า ทั้งเรื่องการค้นหาสินค้าที่ง่ายเพียงปลายนิ้วกดบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือ สั่งซื้อสินค้าและบริการได้เกือบตลอดเวลา สามารถรับชมการไลฟ์สดเป็นช่องทางพูดคุยสอบถามผู้ขายโดยตรงเหมือนกับการขายหน้าร้าน โอนชำระเงินได้หลายช่องทาง พร้อมบริการจัดส่งถึงบ้าน สินค้าบางรายการหาไม่ได้จากท้องตลาดทั่วไปจะบวกราคาเพิ่มขายแพงกว่าคู่แข่งก็ทำได้ อาจมียอดขายสูงกว่าด้วย

เพราะกลยุทธ์การตลาดเป็นเหตุผลสำคัญทำให้ผู้ขายสามารถเสนอสินค้าตรงตามความต้องการของกลุ่มเป้าหมายและตรงเวลาที่ต้องการ หากมองแล้วว่าคุ้มค่าที่จะซื้อ ลูกค้าไม่ปฏิเสธแน่ มีแต่จะแย่งกันคว้ามาไว้ในครอบครอง คนที่ขายของก็ได้ ปิดการขาย ทำกำไรเป็นกอบเป็นกำ เรื่องอย่างนี้ไม่ลองไม่รู้ ผลที่ได้รับกลับมาอาจส่งผลดีในระยะยาวกว่าที่คิด

จะทำตลาด ปิดการขาย กับลูกค้ากลุ่มไหน มีเป้าหมายในใจหรือยัง

คุณมีลูกค้าในอุดมคติอย่างไร คำตอบนั้นสำคัญ ถือเป็นความลับของหลายกิจการที่ประสบความสำเร็จจากการกำหนดทิศทางลูกค้าเป้าหมายก่อน เมื่อรู้แน่นอนแล้วว่าลูกค้าของคุณคือใคร ก้าวต่อไปจะราบรื่นยิ่งขึ้น ตัวอย่างการกำหนดกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ ลูกค้าวัยรุ่นที่ควักกระเป๋าจ่ายง่ายหากรู้สึกว่าตนพอใจ และลูกค้าวัยเกษียณที่มีกำลังซื้อสูง การกำหนดเป้าหมายทำให้ผู้ขายมีจุดยืนทางการตลาดชัดเจน ไม่เหวี่ยงไปตามกระแสมากเกินไป สามารถคัดเฟ้นสินค้ามานำเสนอให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่เลือก จึงจะ ปิดการขาย ได้แบบมืออาชีพ

“ลูกค้าของคุณคือใคร” และ “อะไรส่งผลต่อการตัดสินใจของลูกค้า” เป็นสองคีย์เวิร์ดที่สำคัญช่วยในการเก็บข้อมูลของลูกค้าจากการพูดคุยสอบถาม ดูสถิติการกดไลค์ กดแชร์ รวมไปถึงการสั่งซื้อสินค้าก่อนหน้านั้น นำมาประเมินว่าความพอใจของลูกค้าคืออะไร เมื่อรู้เหตุผลของการเลือกซื้อสินค้าแล้ว จะช่วยให้ผู้ขายตอบสนองความต้องการของลูกค้าแต่ละรายอย่างตรงจุด การวางแผนการตลาดล่วงหน้าช่วยให้ ปิดการขาย ได้ผลมากขึ้น นอกจากจะเห็นความต้องการเฉพาะแล้ว ควรมองหาข้อมูลเพิ่มเติมว่าอะไรเป็นสิ่งชี้นำลูกค้า บางรายอาจจะสอบถามความเห็นไปยังสื่อสังคมก่อนตัดสินใจ เป็นหน้าที่ของผู้ขายที่จะติดตามความกระแสนิยมของสินค้าและบริการในขณะนี้

ลูกค้าแต่ละกลุ่มมีกิจกรรมและความสนใจแตกต่างกัน ผู้ขายต้องขยันนำเสนอสิ่งใหม่ ๆ และหมุนเวียนสินค้าเปลี่ยนไปตามความพึงพอใจของลูกค้าด้วย ทุกวันนี้ทิศทางการทำตลาดออนไลน์ต้องสร้างสรรค์และมีความยืดหยุ่นสูง หลายธุรกิจเติบโตเร็วแบบก้าวกระโดดก็เพราะเก่งด้านจุดติดกระแสความนิยม ทำให้เกิดการเลียนแบบตามอย่างกัน สื่อสังคมออนไลน์ทุกวันนี้มีบทบาทต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคมากพอสมควร ถ้าเข้าใจกระแสสังคมและความต้องการในเวลานั้น พยายามเจาะใจให้ได้ลูกค้าเป้าหมายต้องการอะไรก็จะมีโอกาส ปิดการขาย อยู่เสมอ และเพิ่มโอกาสในการขายสินค้าได้มากขึ้นในอนาคต

วิธีเอาชนะใจลูกค้า ซื้อแบบเต็มที่ ปิดการขาย แบบไม่กดดัน

ธุรกิจของเราจะเอาชนะคู่แข่งได้ต้องวางแผนการตลาดให้ต่อสู้กับการแข่งขันที่ค่อนข้างสูง ในโลกการค้าออนไลน์เป็นตลาดที่กว้างมาก แต่สำหรับมือใหม่ที่ไม่เคยเริ่มขายสินค้าทางโซเชียลมีเดียมาก่อนจำเป็นต้องนำเทคนิคการขายมาวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้าอย่างตรงจุด หากลูกค้าโดนใจสินค้าเท่ากับเป็นโอกาสทองในการ ปิดการขาย แบบไม่กดดันลูกค้า ไม่ใช่ไปเซ้าซี้มากทำให้ลูกค้ารำคาญและควักกระเป๋าซื้ออย่างไม่เต็มใจ มีวิธีการเอาชนะใจลูกค้าหลายวิธีดังต่อไปนี้

-ช่องทางการตลาดออนไลน์อาจไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับนักขายทั่วไปที่จับความรู้สึกของลูกค้าจากสีหน้า ท่าทาง และคำพูด เพราะไม่ได้พบปะกันซึ่งหน้าเหมือนกับการเปิดหน้าร้าน ผู้ขายอาจทำการขายผ่าน Facebook Live เพื่อนำเสนอขายสินค้า พูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นกับลูกค้าไปพร้อมกับ ปิดการขาย อย่างรวดเร็ว ไม่ได้พูดฝ่ายเดียวเพื่อขายอย่างเดียว

-ผู้ขายควรสอบถามเกี่ยวกับความพอใจของลูกค้าเพื่อให้มีความเข้าใจมากขึ้น รู้ว่าพวกเขาพอใจและต้องการอะไร แล้วคิดต่อว่าทำอย่างไรให้ลูกค้าเข้ามาซื้อต่อเนื่อง ช่วยให้ขายง่ายขึ้นในอนาคต

-เทคนิคการพูดเป็นเรื่องที่ต้องฝึกฝน หลายคนโชคดีที่พูดโน้มน้าวใจคนได้เก่ง แต่อย่าลืมสิ่งสำคัญคือข้อเท็จจริง เสนอจุดแข็งและประโยชน์เพื่อให้ผู้ฟังสนใจสินค้าหรือบริการ รับฟังและเสนอสิ่งที่ตรงกับความต้องการเฉพาะของลูกค้าแต่ละราย ทำให้ลูกค้าซื้อได้อย่างสะดวกใจ ปิดการขาย คล่องขึ้น

-ขยันให้ข้อมูล อัพเดทรายการสินค้าใหม่เข้าสม่ำเสมอ ทำให้ลูกค้านึกถึงเราตลอดเวลา การเสนอโปรโมชั่นและส่วนลดต่าง ๆ ทำให้ลูกค้าประทับใจและเลือกซื้อสินค้าต่อไป

ร้านค้าออนไลน์ควรเปิดช่องทางติดต่อสอบถามหลายทาง ผู้ขายอย่าขาดการติดต่อเด็ดขาด ไม่ควรตอบช้าหลายชั่วโมงหรือทิ้งเวลาไว้ข้ามวัน ลูกค้าที่สั่งซื้อจากร้านค้าออนไลน์คาดหวังติดต่อแบบส่วนตัว ซึ่งผู้ขายสามารถให้ข้อมูลอย่างละเอียด แนะนำลูกค้า และให้ความช่วยเหลือเหมือนกับเป็นลูกค้าคนพิเศษ ลองคิดในทางกลับกันว่าถ้าเราเป็นคนอื่นแล้วต้องการอะไรก็ทำสิ่งนั้น รับรองว่าประทับใจและกลับมาซื้อได้เรื่อย ๆ