ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

  แสดงกระทู้
หน้า: [1] 2 3 ... 15
1  ความรู้ทั่วไป / Social Media Marketing / ██◤◤อย่าทำเบย! 10 อย่างที่คุณไม่ควรจะทำ ในการทำตลาดบน Facebook_◥◥██ เมื่อ: 01 เมษายน 2013, 21:41:38

ณ จุดนี้ปฏิเสธไม่ได้เลยครับว่า Facebook คือ Social Network ที่ร้อนแรงที่สุดในโลก การันตีด้วยผู้ใช้งานกว่า 900 ล้านคนจากทั่วโลก ผมเชื่อว่าคุณผู้อ่านเองก็คงเป็นอีกคนที่เล่น Facebook เช่นเดียวกับผม ทุกวันจะมีเรื่องราวต่างๆ ถูกโพสต์ ถูกแชร์ ทั้ง Like ทั้งพูดคุยกันผ่าน Facebook จำนวนมาก และด้วยความยอดนิยมของ Facebook จึงทำให้นัก E-Commerce หลายคน ใช้เป็นเครื่องมือในการทำตลาดอย่างตั้งอกตั้งใจกันทีเดียว

แต่ก็ใช่ว่าคุณจะสามารถทำการตลาด Facebook ได้ตามอำเภอใจนะครับ ทุกอย่างมันต้องมีหลักการและมีเทคนิคที่เหมาะสม ไม่อย่างนั่นการตลาดของคุณอาจจะดูไม่น่าเชื่อถือ หรือไม่น่าสนใจก็เป็นได้ ผมจึงอยากเสนอข้อไม่ควรปฏิบัติ 10 ข้อ สำหรับการทำตลาดบน Facebook มาดูกันครบว่ามีข้อไหนที่คุณเผลอทำไปแล้วหรือเปล่า


1. ใส่รายละเอียดไม่ครบถ้วน
ก็คือการที่เราสร้าง Page Facebook ของธุรกิจเราขึ้นมา แล้วกรอกรายละเอียดส่วนตัวของธุรกิจต่างๆไม่ครบถ้วน อย่างเช่น ไม่กรอก Email ไม่กรอกที่ตั้งของบริษัท ไม่ใส่เบอร์โทร ไม่มีรูป Brand ธุรกิจที่ชัดเจน หรือ Logo สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องสำคัญนะครับ ลูกค้าจะยิ่งเชื่อถือเรามากขึ้นหากเรามีข้อมูลตัวตนที่ครบครัน การกรอกข้อมูลให้ครบถ้วนเรายังสามารถจะกรอก URL สำคัญอื่นๆ ของเราได้อีกด้วย อย่างเช่น URL ร้านค้าออนไลน์ หรือ Twiter ซึ่งผมคิดว่าไม่ควรมองข้ามเลยทีเดียว



2. ใช้ Cover Photo แบบไม่ถูกไม่ควร



Cover Photo เปรียบเสมือนป้ายร้านค้าหน้าร้านของคุณเลยก็ว่าได้ เมื่อมีคนกดเข้ามายัง Page เชื่อว่าต้องสะดุดตากับ Cover Photo อันใหญ่ก่อนเป็นแน่แท้  ดังนั้น Cover Photo ไม่ควรมีลักษณะต่อไปนี่

* ติดป้ายราคา หรือ Promotion ต่างๆ อย่าได้ทำขึ้นเป็น Cover Photo เลยเชียว
* เรียกร้องเชิญชวนให้ผู้คนกด Like กด Share หรือ “Tell your friends” ก็ไม่ควรเอามาเป็นประเด็น
* รายละเอียดการติดต่ออย่างเช่น URL Website, Email ไม่จำเป็นสำหรับ Cover Photo

Cover Photo ที่ควรจะเป็นรูปสินค้าเด่นๆของคุณ หรือไม่ก็เป็นแบรนด์สินค้าที่ชัดเจนแจ่มแจ๋ว อย่างเช่น หากขายเสื้อผ้าแฟชั่นก็เน้นไปที่ชุดสวยๆ กับนางแบบน่ารักๆชุดภาพ แล้วก็จัด Logo แบรนด์ของคุณให้เด่นๆ ไปเลย เปรียบเสมือนว่าเป็นป้ายร้านค้าไงละครับ



3. แนะแนวกิจกรรมที่ควรจะเป็น



การจัดกิจกรรมการแข่งขันกับเหล่าลูกเพจใน Facebook ถือเป็นการสร้างสัมพันธ์ที่ดี อย่างไรก็ตามกิจกรรมของคุณควรอยู่ในกรอบเหล่านี้

* กิจกรรมที่เล่นเพื่อระดม Comment หรือ เรียก Like ถือเป็นข้อห้ามของ Facebook
* ในเมื่อคุณคือผู้ตั้งกติกาคุณก็ต้องรับผิดชอบสิ่งที่จะเกิดขึ้นทั้งหมด เกี่ยวกับกิจกรรมที่คุณจัดขึ้น รวมถึงกฏกติกาต่างๆของ Facebook คุณก็ควรจะศึกษาให้รอบคอบก่อน
* กิจกรรมที่ถูกต้องควรจะใช้งาน Apps on Facebook.com  เป็นตัวช่วยในการขับเคลื่อนกิจกรรม
* ต้องเข้าใจว่ากิจกรรมที่คุณจัดไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับ Facebook เลย หมายความว่า Facebook จะไม่รองรับความเสียหายใดๆที่จะเกิดขึ้น
* จริงๆแล้ว เราไม่สามารถประกาศชื่อผู้ชนะผ่าน Facebook (Wall Post, Message, Chat, Etc.)

หากต้องการศึกษากฏกติกาของ Facebook ให้แจ่มแจ้งต้องที่นี่เลย https://www.facebook.com/page_guidelines.php

 

4. โพสต์มากเกินไป

การโพสต์มากจนเกินไปภายในหนึ่งวัน ไม่ได้ทำให้ Page ของคุณน่าสนใจขึ้นมาหรอกนะครับ กลับกันจะยิ่งเป็นการเชิญชวนให้ลูกเพจ Unlike เอาเปล่าๆ การโพสต์ที่ดีจริงจะเข้าสูตรที่ว่า ยิ่งน้อยยิ่งดี นะครับ Page ดังๆ หลาย Page ที่เราเห็นกัน อัตราการโพสต์ต่อวันจะไม่เกิน 3 – 4 ครั้งเป็นอย่างมาก บาง Page วันละครั้งเท่านั้นเอง ดังนั้นอย่าโพสต์อะไรเยอะแยะเกินไป เพราะว่ามันจะไม่เป็นผลดีกับตัวคุณครับ

 

5. โฟกัสที่จำนวน Like มากเกินไป



จริงอยู่ครับว่า Like เป็นสิ่งสำคัญสำหรับ Facebook Marketing แต่การที่เราได้ Like มากๆนั้น ไม่ได้หมายความว่า Page นั้นๆจะมีคุณภาพ หรือมีผู้ชื่นชอบเยอะจริงนะครับ เรื่องแรกที่เราต้องคำนึงถึงก็คือจำนวน Like แต่สิ่งต่อมาก็คือ Like ที่เราได้มานั้น มันตรงกลุ่มเป้าหมายจริงหรือเปล่า เพราะการที่เราได้ Like จากกลุ่มเป้าหมายที่แท้จริง จะช่วยให้เราทำการตลาดได้ง่ายขึ้นเยอะมากๆ เพราะคนที่กด Like ให้กับเราคือคนที่เค้าสนใจในตัวเราจริงๆครับ

 

6. ตัวหนังสือเยอะเกินไป




โพสต์ที่ดีนั้นความจริงควรจะมีตัวหนังสืออยู่ระหว่าง 100 – 250 ตัวอักษร เพราะการเขียนข้อความที่กระชับเข้าใจง่าย ก็เปรียบดั่งกับคำคมที่คนอ่านจะรู้สึกได้ถึงความเจ๋งในตัวของมัน การเขียนที่ทำให้คนอ่านเข้าใจง่าย จะเป็นอะไรที่น่ากด Like ให้มากกว่าการเขียนที่มาเป็นบทความ นั้นก็เพราะว่าที่นี่คือ Facebook ครับไม่ใช่ Blog



7. การโพสต์ที่น่าเบื่อหรือโพสต์ที่ไม่น่าสนใจ

การโพสต์ที่ควรจะเป็นนั้น เราควรจะโพสต์เรื่องราวใดๆก็ตาม ที่สามารถจะเชื่อมโยงถึง Brand หรือสินค้าของเราได้ เปรียบเหมือนกับการเล่าเรื่องราวที่น่าสนใจโดยสามารถเชื่อมโยงถึงแบรนด์ของเราหรือสินค้าของเราได้ แต่ต้องไม่ใช่การเขียนที่ยกสินค้าขึ้นมามากจนเกินไป หรือการโพสต์สิ่งใดๆก็ตามที่ไม่ได้มีเนื้อหาอะไรน่าติดตามหรือเรียกว่าเป็นโพสต์ธรรมดาๆโพสต์หนึ่ง ซึ่งไม่ได้มีสาระอะไรเลยอย่างเช่น ขายกระเป๋า แต่อยู่ดีดีโพสต์เรื่องการออกกำลังกาย แน่นอนว่าคนที่มากด Like ให้คุณเค้าต้องสนใจกระเป๋าไม่ได้อยากรู้วิธีออกกำลังกายหรอกครับ

 

8. เมินเฉยกับระบบหลังบ้านของ Facebook



หน้าสถิติหลังบ้านของ Facebook เรานั้นเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากเลยละครับ เพราะนั้นคือตัวบ่งบอกความเคลื่อนไหวต่างๆของ Page คุณ ว่ามีคนเข้าออกกด Like ให้คุณ มีแนวโน้มเป็นยังไง ดีขึ้นหรือแย่ลง จุดนี้หลายคนมองข้ามเพราะอาจจะเอาใจใส่แต่เรื่องของการโพสต์การหา Like มากเกินไป การตรวจเช็คดูความเคลื่อนไหวต่างๆจากหน้าสถิติเหล่านี้บ้าง จะช่วยให้เรารู้ทางว่า การตลาดแบบไหนที่เราทำนั้นได้ผลดีที่สุด ซึ่งเราสามารถดูได้จากจำนวน People Talking About This (PTAT) จุดนี้ยิ่งสามารถทำให้มากขึ้นเท่าไหร่ จะยิ่งส่งผลดีกับเรามากขึ้นเท่านั้น ส่วนตัวผมมองว่า การได้ People Talking About This (PTAT) เยอะๆ ยังดีกว่าได้ Like เยอะๆ เสียอีก การเช็คดูหน้าสถิติเหล่านี้จะช่วยให้เราทำตลาดได้อย่างถูกทาง จะได้ไม่ต้องคอยเดามั่วจนเกินไปไงละครับ

 

9. ไร้อารมณ์



จริงอยู่ว่าการมาของ Platform Timeline บน Facebook ทำให้การใช้งานดูค่อนข้างยากขึ้น ซึ่งเราก็ควรจะใช้ปรับวิธีการโพสต์ให้หลากหลายมากขึ้น เพื่อเป็นการสร้างความน่าสนใจให้กับ Page ของเรา การโพสต์แต่ตัวอักษรไปวันๆ นั้น เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง เราควรจะมีการโพสต์ข้อความ โพสต์รูปภาพ สลับไปมาบ้าง โพสต์ในเชิงคำถามเพื่อสร้างสัมพันธ์กับลูกเพจ หรือโพสต์คลิปวิดีโอ ที่น่าสนใจลงไปบ้าง เพื่อเป็นการเพิ่มความน่าสนใจใน Page เราให้มากขึ้น

 

10. ขายของอย่างเดียว



จริงอยู่ว่าวัตถุประสงค์ในการสร้าง Page แบบนี้ขึ้นมาก็เพื่อขายสินค้า สร้างตัวเองให้ดูโดดเด่นน่าสนใจ แต่มันจะหมดไปในทันทีหากเราเอาแต่โพสต์ขายของแบบ โต้งๆ อย่างเดียว การโพสต์ขายของที่ดีไม่ใช่แค่โชว์รูปสินค้าแล้วก็บอกแบบบอกราคาจบนะครับ เราควรที่จะมีการเล่าเรื่องราวสักเล็กน้อย ว่าสินค้าชิ้นนี่น่าสนใจยังไง เหมาะกับใคร ใข้แล้วจะได้อะไร แล้วค่อยตบท้ายด้วยราคาก็ได้ การโพสต์ลักษณะนี้ จะทำให้ผู้อ่านสนใจในตัวสินค้ามากขึ้นไปอีก ดังนั้นอย่าโพสต์เอาแต่ขายสินค้าเลยครับ พยายามสร้างเรื่องราวให้สินค้าดูน่าสนใจมากขึ้นจะดีกว่า

 

Conclusion

            การตลาดบน Facebook ถือเป็นเรื่องที่น่าสนใจอย่างมากทีเดียวครับ นอกจากจะใช้เพื่อติดต่อสื่อสารแล้วยังสามารถหาเงินได้อีกด้วย เรียกได้ว่าเป็น Social Network แห่งยุคเลยก็ว่าได้ การตลาดที่ดีบน Facebook นั้น เราควรจะมีความจริงใจต้อลูกค้าของเราให้มากที่สุด เพราะ Facebook สามารถสร้างฐานลูกค้าของเราให้โตขึ้นๆ ได้เรื่อยๆ การที่เราเปิดเผยตัวตน และทำธุรกิจอย่างจริงใจ ในภายภาคหน้าเราก็ยังคงสามารถทำธุรกิจบน Facebook ได้อีกนานและมีฐานลูกค้าที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆควบคู่กันไปด้วย เรียกได้ว่าใครที่ยังไม่เคยทำหรือไม่ได้สนใจตลาด Facebook ควรจะหันมาลองลุยธุรกิจบน Facebook กันซะหน่อยแล้วละครับ

 

Credit บทความดีๆโดย : http://OnlineMarketKing.com
[We help Online Business Owner SUCCEED!]

ถ้าหากถูกใจก็ฝาก +1 ด้วยนะครับ
2  ความรู้ทั่วไป / E-commerce / Re: ██◤◤สตรีรุ่นแม่ นางนี้ ใช้ GOOGLE สร้างธุรกิจแบรนด์แฟชั่นระดับโลกได้อย่างไร?◥◥██ เมื่อ: 29 มีนาคม 2013, 14:44:44
ผมได้ลองสรุปKey Success ออกมาเป็นข้อๆนะครับ เพื่อให้เพื่อนๆเข้าใจง่ายขึ้นถึงปัจจัยความสำเร็จครับ

1. Product - แน่นอนว่าถ้า Product Design + Idea ไม่ตอบโจทย์ ตั้งแต่แรก Design ไม่สวย ไม่มีสไตล์ที่ชัดเจน และแตกต่างตั้งแต่แรก ย่อมไม่มี Fashion Blogger ที่ไหนเอาไปลงให้เสียเครดิตตัวเองแน่นอน

2. Viral Marketing - การตลาดแบบบอกต่อ แน่นอนว่าถ้าหากไม่มี Fashion Blogger ที่กระจายสินค้าของเธอให้เป็นที่รู้จักแล้วหละก็ด้วยแนวคิดที่เธอทำแบบอาศัยของฟรี คงจะทำให้ธุรกิจมาไม่ถึงจุดนี้แน่ๆ เพราะฉะนั้นการบอกต่อจากผู้ที่มีอิทธิพลต่อกลุ่ม Target นั้นๆมีพลังอย่างมาก

3. Market Research - Deane ได้ทำการ Research ความต้องจากกลุ่มลูกค้าและพบว่า สิ่งที่เธอทำอยู่ในตอนแรกนั้นยังไม่ค่อยตรงกับความต้องการของลูกค้าเท่าไหร่ เธอจึงปรับปรุงสินค้าของเธออยู่ตลอดเพื่อให้เข้าถึงลูกค้าของเธอมากขึ้น ถ้าหากอยากศึกษาหลักการนี้แบบลึกๆ ลองหาหนังสือเกี่ยวกับ Kaizen อ่านดูครับ

4. โอกาส - Deane ได้โอกาสที่ดี ในครั้งแรกจาก 2011 Elle UK และเธอได้คว้าโอกาสนั้นไว้ และทำผลงานออกมาได้อย่างดีเยี่ยม ทำให้ได้รับโอกาสที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆอีกหลายครั้งตามมา

5. Marketing อย่างเต็มรูปแบบ - จากที่เธอได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญจาก Google ทำให้เธอมียอดขายเพิ่มขึ้นอีก 400% เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า คุณต้องแบ่งงบไว้ให้ Marketing จำนวนหนึ่ง อย่าหวังแต่ Free Traffic ทั้งหมด เพราะมันจะทำให้ธุรกิจของคุณโตได้อีกไกล

6. Relationship - เธอพยายามสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับกลุ่ม Fashion Blogger เพราะฉะนั้นไม่แปลกเลยที่คนเหล่านั้นจะยินดีช่วยเธออย่างเต็มที่
3  ความรู้ทั่วไป / E-commerce / Re: ██◤◤สตรีรุ่นแม่ นางนี้ ใช้ GOOGLE สร้างธุรกิจแบรนด์แฟชั่นระดับโลกได้อย่างไร?◥◥██ เมื่อ: 29 มีนาคม 2013, 13:44:57
ถ้าชอบ กด Like กันไว้นะครับ บทความดีๆ มีอีกเพียบ
4  ความรู้ทั่วไป / E-commerce / ██◤◤สตรีรุ่นแม่ นางนี้ ใช้ GOOGLE สร้างธุรกิจแบรนด์แฟชั่นระดับโลกได้อย่างไร?◥◥██ เมื่อ: 29 มีนาคม 2013, 12:21:28


ครั้งหนึ่งผมได้ไปเจอกับเรื่องราวที่น่าสนใจมากๆ ที่ American Express OPEN Forum เป็นเรื่องราวของสตรีรุ่นราวคราวแม่ท่านหนึ่งซึ่งประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจเล็กๆ เกี่ยวกับการขายกระเป๋านักเรียนนักศึกษา เมื่ออ่านไปแล้วผมก็รู้สึกว่าเรื่องราวของเธอน่าจะสร้างแรงบันดาลใจที่ดีให้กับคนที่กำลังทำธุรกิจ E-Commerce อยู่ ผมจึงอยากขออนุญาตตีแผ่เรื่องราวของเธอไว้ ณ ที่นี้ครับ จะเป็นอย่างไรนั้น เราไปติดตามกันครับ

จุดเริ่มต้น



Julie Deane ได้ก่อตั้งบริษัท Cambridge Satchel Company ร่วมกับแม่ของเธอ

“ฉันสร้างธุรกิจนี้ขึ้นมาด้วยความจำเป็นที่ฉันต้องจ่ายค่าเทอมให้ลูกสาวของฉัน ซึ่งเธอมักจะถูกรังแกที่โรงเรียนบ่อยๆ” เธอกล่าวต่อว่า “ฉันสัญญากับลูกว่า จะพาเธอย้ายไปยังโรงเรียนที่ ทำให้เธอมีความสุขและรู้สึกปลอดภัยขึ้นกว่านี้ ซึ่งแน่นอนว่าถ้าหากคุณสัญญาอะไรกับเด็กๆเอาไว้แล้วละก็ คุณก็ไม่ควรจะผิดคำพูด”

จากนั้นเธอได้เริ่มพัฒนาสินค้าของเธอด้วยเงินทุนเริ่มต้นเพียง 600 ปอนด์ ซึ่งหลายคน อาจจะรู้สึกว่าด้วยทุนแค่นี้จะสามารถสร้างธุรกิจให้ใหญ่โตได้อย่างไร แต่ Deane เธอทำได้

“จริงอยู่ว่ามันฟังดูเป็นไปได้ยาก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะเป็นไปไม่ได้”


สร้างธุรกิจ


เมื่อ Deane ตัดสินใจแล้วว่าจะทำธุรกิจกระเป๋านักเรียน เธอเริ่มโดยการใช้ Google หาข้อมูล ทั้งโรงงานผลิตกระเป๋าถือ โรงงานฟอกหนัง ผู้ชำนาญการตัดเย็บ ทุกสิ่งอย่างที่จะสามารถผลิตกระเป๋านักเรียนที่เธอต้องการได้ จากนั้นเธอก็ทำการวิเคราะห์คู่แข่งบน Internet เพื่อให้แน่ใจว่ายังไม่มีใครทำธุรกิจตัวเดียวกับเธอ เมื่อเธอแน่ใจแล้วว่ายังไม่มีใครทำธุรกิจตัวนี้ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเธอจึงรีบทำการติดต่อกับผู้ผลิตโรงงานต่างๆ เพื่อผลิตสินค้าที่เธอต้องการให้ได้ตามความตั้งใจของเธอ

เมื่อได้โรงงานที่สามารถตอบโจทย์ที่เธอต้องการได้แล้ว จากนั้นก็มาถึงขั้นตอนของการสร้าง Website

“ฉันไม่ค่อยรู้เรื่องการสร้าง Website สักเท่าไหร่” Deane กล่าว

“แต่ฉันคิดว่าน่าจะมีคนเปิดคอร์สสอนการทำ Website ขายของบน Internet อยู่บ้างล่ะนะ”

และเธอก็เจอสิ่งที่ต้องการ Deane ใช้เวลาเรียนอยู่สองวัน และในวันที่สามเธอก็เริ่มสร้าง Website อย่างตั้งใจ

“ณ จุดนี้ ใครๆก็สามารถเข้าใช้ Internet ได้อย่างง่ายดาย” Deane ได้กล่าวไว้กับผู้ที่เข้าเรียนการทำธุรกิจ “ฉันยังกล่าวกับพวกเค้าอีกว่า ‘เราไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินให้คนอื่นสร้าง Website ให้, จ้างทำ SEO หรือจ่าย Adword เพราะสิ่งเหล่านี้มันเหมาะสำหรับคนขี้เกียจ’ ”

Deane แสดงตัวตนของเธอผ่านสื่อออนไลน์ต่างๆให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ อาทิเช่น Yellow Pages, เขียน Blog, Etsy และ eBay โดยทุกอย่างที่เธอโพสลงไปนั้น ฟรีทั้งหมด “ฉันเคยอ่านหนังสือเล่มหนึ่งชื่อ “Guerilla Marketing” ได้บอกเอาไว้ว่าการตลาดที่ดีเราต้องพยายามแสดงตัวตนของเราให้ได้มากช่องทางที่สุด และเมื่อผู้คนเห็นเราบ่อยๆเข้า พวกเค้าก็จะเริ่มสงสัยและอยากรู้จักเราไปเอง” เธอกล่าว

ในช่วงแรกเธอเริ่มขายกระเป๋าสีน้ำตาลแก่ น้ำตาลเข้ม และสีดำ ผ่าน Online ซึ่ง Deane ได้ขอให้ลูกค้าที่ชื่นชอบกระเป๋าของเธอช่วยถ่ายรูปตัวเองคู่กับกระเป๋าและเขียน Review สินค้าลงบน Website ของ Deane ว่าชื่นชอบกระเป๋าอย่างไร ซึ่งพลังของ Review เหล่านี้สามารถทำให้ลูกค้าหน้าใหม่ตัดสินใจซื้อสินค้าของเธอ อย่างง่ายดายเลยทีเดียว แถมยังมีลูกค้าที่น่ารักบางท่าน เขียน Review กระเป๋าสินค้าของ Deane ลง Fashion Blog อีกด้วย ซึ่งเปิดโอกาสทางการตลาดให้ Deane เป็นอย่างมาก


พลังจาก Blog Fashion


“ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะมีผู้คนมากมายที่ชอบดูเทรนด์แฟชั่นจาก Blog Fashion เหล่านี้” Deane กล่าว เมื่อเธอทราบว่ามีลูกค้าของเธอได้เขียน Blog Fashion เกี่ยวกับสินค้าของเธอ เธอจึงทำการส่ง Email ไปหาลูกค้าคนนี้และบอกเรื่องราวเกี่ยวกับสินค้าใหม่คือ Cambridge Satchels พร้อมรูปภาพสินค้า โดยหวังว่านี้จะเป็นกระบอกเสียงที่ดีในการ Promote สินค้าใหม่ของเธอ โดยเธอเขียนไปดังนี้ “ก่อนอื่นฉันต้องขอโทษด้วยที่ไม่สามารถส่งตัว Sample ให้คุณได้ แต่ถ้าหากสินค้าตัวนี้ขายดีละก็ ฉันจะรีบจัดส่งให้คุณฟรีทันทีเลยค่ะ!” แน่นอนว่าเธอได้รับความร่วมมือจากลูกค้าคนนี้เป็นอย่างดี

ต่อมา Deane ได้ริเริ่มผลิตกระเป๋าสีแดง และสีน้ำเงินออกมาสู่ตลาด ซึ่งก่อนหน้าที่เธอจะตัดสินใจผลิตสองสีนี้ Deane ได้รับผลิตแบบ Made to Order มาก่อน ซึ่งสามารถเลือกได้ว่าอยากได้สีอะไร แต่ทว่ามันไม่ส่งผลดีสักเท่าไหร่นักเนื่องจากว่ากว่าจะผลิตออกมาได้แต่ละรอบต้องกินเวลาถึง 6 เดือน -- “ถ้าหากว่าต้องรับเป็นคละสีขนาดนั้นเนี่ย คงไม่ทำให้ฉันมีเงินจ่ายค่าเทอมลูกแน่ๆ” Deane กล่าว เธอจึงได้เลือกเพิ่มเฉพาะสีแดงกับสีน้ำเงินเท่านั้น “หลังจากที่ฉันตัดสินใจออกสินค้าเพิ่มไปอีกแค่สองสีเท่านั้น ก็ได้รับการตอบรับที่ดีกว่าแต่ก่อนอย่างมาก นั้นอาจจะเพราะว่าเป็นสีที่คนส่วนใหญ่นิยม และฉันเองก็ไม่ต้องมานั่งผลิตหลายๆสีอีกด้วย ซึ่งมันทำให้เสียเวลามากกว่าจะสามารถขายได้”

เกือบหนึ่งปีที่ Deane ใช้วิธีการ Promote สินค้าของเธอผ่านทางผู้เขียน Blog Fashion และ Fashionistas ที่มีชื่อเสียงในโลกออนไลน์ โดยพวกเค้าได้ร่วมมือกันจัดกิจกรรมแจกของรางวัลให้แก่ลูกค้าเป็นกระเป๋านักเรียนสวยๆของ Deane ซึ่งการร่วมมือกันลักษณะนี้ช่วยให้ Deane และนักเขียน Blog ซึ่งเป็นลูกค้าเก่าแก่ของเค้า มีสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นมากขึ้นเรื่อยๆ และเนื่องจากผู้เขียน Blog นั้นมีความชำนาญในเรื่องของ Fashion จึงให้สินค้าสีสันถัดไปสามารถผลิตออกมาได้ตรงใจลูกค้าอย่างไม่มีผิดพลาด บอกได้เลยว่า Cambridge Satchels โตมากับการตลาดแบบ Social Network ผ่านปากต่อปากอย่างแท้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเขียน Blog

ต่อมาในช่วงเดือนกันยายนปี 2011 Elle UK กูรูแฟชั่นได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ ทำให้มีกระแสอยากให้ Deane ผลิตกระเป๋าออกมาในลักษณะที่มีสีสันสว่างสดใสตามเทรนด์ที่กำลังจะเป็นที่นิยม และนี้ก็เป็นโอกาสที่ดีที Deane จะทำการผลิตสินค้าออกมาให้เข้าเทรนด์แฟชั่นที่กำลังมา Deane จึงเร่งผลิตสินค้าออกมาและให้ Blogger นำไปเข้าร่วมงาน New York Fashion Week “เมื่อแสงไฟในงานส่องไปยังนางแบบ ผู้คนก็จะเริ่มถ่ายภาพกันอย่างขะมักเขม้น และแน่นอนว่า กระเป๋าของฉันก็จะต้องโดดเด่นในทันที” Deane กล่าว “หลังจากนั้นฉันก็ได้รับเกียรติจาก New York Times และ New York Post ซึ่งพวกเค้าขนานนามกระเป๋าของฉันว่าเป็น ‘Street Style of New York Fashion Week’ ” (แน่นอนว่า Bloggers ได้ลงเรื่องราวของ Cambridge Satchels ผ่าน Online ด้วยเช่นกัน)

จากความสำเร็จในงาน Fashion Week 2011 ทำให้แบรนด์ดังอย่าง Bloomingdales และ Saks ขอนำกระเป๋าของ Deane มาขึ้นแสดงอีกครั้งในงาน Fashion Week เดือนกุมภาพันธ์ 2012 ซึ่งกระเป๋าของ Deane ได้รับขนานนามว่าเป็น "The Brit It Bag" “มันช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่และวิเศษจริงๆเลยค่ะ” Deane กล่าว


การมาของ Google Chrome

Google Chrome: Julie Deane


หลังจากงาน Fashion Week ผ่านไปไม่นาน ก็มีเจ้าหน้าที่จาก BBH ติดต่อมายัง Deane พวกเค้าต้องการพบ Deane และขอสัมภาษณ์เรื่องราวธุรกิจของ Deane ถึงความเป็นมาว่าเป็นอย่างไร นั้นก็เพราะว่า Cambridge Satchel เริ่มเป็นที่สนใจในวงกว้าง “ฉันไม่รู้จริงๆว่าพวกเค้าต้องการอะไร และสิ่งเหล่านี้มันทำให้ฉันกังวลอย่างบอกไม่ถูก!” Deane กล่าว หลังจากที่ Deane ตกลงเซ็นสัญญาแบบลับสุดยอดไปแล้ว เธอก็ได้รู้ความจริงว่าทีมงานเหล่านั้นมาจาก Google และกำลังต้องการจะทำโฆษณาใน campaign ที่มีชื่อว่า “The web is what you make of it” และ Cambridge Satchel ก็สามารถตอบโจทย์ความต้องการของพวกเค้าได้เป็นอย่างดี หลังจากที่ Deane เดินทางไปพบปะกับทีมงานที่ London แล้ว เธอยิ่งมีชื่อเสียงมากขึ้นอีก จากการโฆษณาผ่านทีวี

Rich Pleeth, Consumer Marketing Manager ของ Google กล่าวว่า “Julie มองว่า Internet คือกุญแจแห่งความสำเร็จ” “และนี้ก็คือเหตุผลที่เราสร้าง Google Chrome เพื่อสนองความต้องการแก่บุคคลที่ทำธุรกิจบนโลก Online อย่างเช่น Julie ด้วยระบบที่แรงเร็วใช้ง่ายและสามารถใช้ได้ทุกอุปกรณ์ IT”

Deane ได้แสดงให้เห็นว่าการตลาดบนโลก Online เป็นเรื่องที่น่าสนใจอย่างมากโดยเฉพาะการใช้งาน Google “เริ่มตั้งแต่ตอนที่ฉันติดต่อกับโรงงานต่างๆในการผลิตสินค้าที่ฉันต้องการ ไปจนถึงการใช้งาน AdWords , Analytics และGoogle Translate (ช่วยในการส่งเมล์ไปยังลูกค้าต่างชาติ) ฉันใช้งาน Google อย่างครบถ้วนกระบวนความเลยทีเดียว บอกได้เลยว่าความสำเร็จของ Cambridge Satchels นั้นมี Google ร่วมทางอยู่ด้วยเสมอจริงๆค่ะ” Deane กล่าว

ได้มีการ Promote สินค้าที่ UK และ Ireland เมื่อช่วงปลายกันยายนจนถึงช่วงต้นของตุลาคม และอีกครั้งในเดือนธันวาคมช่วงวันที่ 17 ไปจนถึงสิ้นปี



“ฉันได้รับ Email มากมายเลยทีเดียว มันเยี่ยมมากๆเลย” Deane กล่าว ยิ่งไปกว่านั้น เธอเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของกราฟจำนวนคนเข้า Website และยอดขาย ทั้งหมดมียอดที่สูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด รวมถึงยอด View ใน Youtube ของเธอมีจำนวนคนดูถึง 5.3 ล้านเลยทีเดียว

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าจำนวนผู้เข้าชม Website และยอดขายที่สูงขึ้นนั้น มาจากการโฆษณาผ่านทาง Google อย่างแท้จริง Deane ได้เปิดเผยว่าการใช้งาน Ads โดย Google ส่งผลให้เธอมียอดขายในช่วงเดือนเดือน กันยายนถึงธันวาคมปี 2012 มีมากกว่าปี 2011 เป็นสองเท่าเลยทีเดียว โดยเฉพาะใน UK มียอดที่สูงขึ้นถึง 400% และถ้าหากดูกราฟ Analytic ของเว็บ Cambridge Satchel ที่แสดงผลยอดผู้เข้าชม Website โดยดูแบบรายชั่วโมงจะเห็นว่าในหนึ่งชั่วโมงมีผู้เข้าชม Website จำนวนมากเลยทีเดียว



ซึ่งถ้าหาก Google ไม่ได้ใจกว้างกับ Deane ขนาดนี้ ยังไง Google ก็ต้องร่วมงานกับ Cambridge Satchels อยู่ดี นั่นก็เพราะในงาน IAB Engage 2012 เมื่อ Mark Howe ผู้ดำรงตำแหน่ง Managing Director of Agency Operations Europe ของ Google ได้พบปะและทำการพูดคุยกับ Deane และก็ได้ร่วมงานกัน เค้าก็ได้ช่วยให้คำแนะนำด้าน SEO อย่างถูกวิธี ช่วยพัฒนาระบบ Analytic ให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น สร้างหน้า Page บน Youtube ให้กับ Cambridge Satchels อย่างเป็นทางการ และช่วยพัฒนา Website ของเธอให้มีสามารถใช้งานบนโทรศัพท์มือถือได้ด้วย รวมไปถึงพัฒนากลยุทธ์ด้านการตลาด Social Media อย่างเต็มความสามารถ

“ผมกล้ายืนยันเลยว่าการทำสร้างธุรกิจบนโลก Online นั้นสามารถสร้างรายได้ให้กับคุณมากมายมหาศาลเลยทีเดียว นั้นก็เพราะว่า Internet สามารถเชื่อมทุกคนให้เข้าหากันได้โดยง่าย และนั่นก็เป็นโอกาสที่เราจะสามารถขายสินค้าให้ทุกคนบนโลกใบนี้” Pleeth กล่าว

ปัจจุบัน Cambridge Satchels มีขายอยู่ตาม Shop กว่า 190 แห่ง ใน 100 ประเทศ สร้างยอดขายให้กับบริษัทสูงถึง 8 ล้านปอนด์ต่อปี ซึ่งทั้งหมดนี้ Julie Deane เริ่มด้วยเงินทุนเพียงแค่ 600 ปอนด์เท่านั้น ที่สร้างรายได้ให้เธอสามารถนำเงินไปจ่ายค่าเทอมให้ลูกสาวของเธออย่างสบายใจ


คืนกำไรให้ Bloggers


ช่วงระหว่างงาน London Fashion Week, Deane ได้สร้างร้านค้านั่งสบายๆใน บรรยากาศชิลๆ ตั้งอยู่ที่ London's Covent Garden ซึ่งเธอตั้งใจจะอุทิศร้านสวยๆนี้ ให้กับบุคคลผู้ช่วยให้เธอโด่งดังมีชื่อเสียงนั้นก็คือ Fashion Bloggers นั้นเอง

“ฉันรู้สึกขอบคุณและซาบซึ้งเป็นอย่างมาก ที่ได้ Bloggers เป็นผู้ช่วยเหลือและเริ่มต้นธุรกิจของฉัน” Deane กล่าว “พวกเค้าคือกลุ่มคนเล็กๆ ที่ไม่ได้มีสถานที่ทำงานเป็นหลักแหล่ง เรามักจะพบพวกเค้าตามงาน New York หรือ London Fashion Week นั่งอยู่ในร้าน Starbucks และเขียนเรื่องราวที่พวกเค้าสนใจลง Blog” แต่จากนี้ไป ที่ London จะมีสถานที่ที่เปรียบเสมือนบ้านอีกหลังของพวกเค้า ซึ่งพวกเค้าสามารถที่จะนั่งเขียนเรื่องราวต่างๆ จิบชาจิบกาแฟ เล่น Internet พูดคุยกัน และแน่นอนว่าสามารถ ชาร์จ แบตโทรศัพท์หรือ Notebook ได้ด้วย พวกเค้าสามารถที่จะ Tweet หรือแชร์เรื่องราวใหม่ๆผ่าน Instagram ได้ในทันทีเมื่อมีเรื่องที่น่าสนใจใหม่ๆที่กำลังเกิดขึ้น “ฉันรู้สึกตื่นเต้นและยินดีเป็นอย่างมากที่ร้านของฉันจะเป็นตัวแทนคำขอบคุณที่ฉันอยากจะมอบให้กับพวกเค้าในฐานะที่พวกเค้าช่วยเหลือฉันอย่างมากเลยทีเดียว” Julie Deane กล่าวทิ้งท้าย

ถือว่าเรื่องราวของ Julie Deane นั้นเป็นแบบอย่างที่ดีและมีประประโยชน์แก่นักธุรกิจออนไลน์รุ่นใหม่ๆ ได้เป็นอย่างมาก จะเห็นว่าเงินทุนเพียงเล็กน้อยก็สามารถสร้างธุรกิจที่ใหญ่โตในภายภาคหน้าได้เช่นกัน ทั้งหมดนั้นก็ขึ้นอยู่กับความตั้งใจความสามารถความขยันและที่สำคัญก็คือความคิดสร้างสรรค์เพื่อให้งานของคุณออกมาดีที่สุด หากคุณกำลังเหนื่อยกับงานที่ทำอยู่ จงอย่ายอมแพ้ เพราะนั่นคือบทพิสูจน์ที่นำคุณสู่ประตูแห่งความสำเร็จ ผมเชื่อว่าใครๆก็สามารถประสบความสำเร็จได้ ไม่ว่าคุณจะอยู่ในวัยไหนเพศไหนก็ตามแต่อย่าละทิ้งความพยายามแล้วคุณจะประสบความสำเร็จอย่างเช่น Julie Deane ครับ

บทความดีๆโดย : OnlineMarketKing.com
[We help Online Business Owners SUCCEED!]
5  ความรู้ทั่วไป / E-commerce / Re: ██◤◤ [FREE!] คอร์สเปลี่ยนชีวิต ขายของออนไลน์อย่างไร ได้เงินแสน? ◥◥██ เมื่อ: 28 มีนาคม 2013, 21:30:07
up up
6  ความรู้ทั่วไป / Search Engine Optimization / Re: SEO กับโดเมน เมื่อ: 28 มีนาคม 2013, 11:22:01
Domain ใหม่ + คุณภาพ = ขึ้นเร็ว
Domain เก่า + คุณภาพ = ขึ้นเร็วกว่า

เพราะฉะนั้นปัจจัยคือเรื่อง "คุณภาพ" ครับ
7  ความรู้ทั่วไป / E-commerce / Re: ถ้าขายสินค้าเเนว ชุดนอนเซ็กซ๊่ ตอนนี้ยังขายได้อยู่หรือเปล่า เมื่อ: 28 มีนาคม 2013, 11:16:43
สินค้าแนวนี้ขายได้อยู่แล้วครับ ถ้าโปรโมทให้ถูกที่
8  ความรู้ทั่วไป / E-commerce / Re: คุณคิดว่าตุ๊กตาถักไหมพรม จะขายดีไหม ขอความคิดเห็นส่วนตัวคับ เมื่อ: 28 มีนาคม 2013, 11:15:12
แนะนำว่าควร research ก่อนนะครับ ว่าตลาดต้องการอะไร ถ้าทำมาตอบสนองความต้องการได้ ก็ขายได้แน่นอน
9  ความรู้ทั่วไป / E-commerce / Re: พ่อค้า แม่ค้า คนไหนจ้างทำ SEO บ้าง แนะนำหน่อย... เมื่อ: 28 มีนาคม 2013, 11:13:28
Verified Seller น่าจะเชื่อถือได้ระดับนึงครับ wanwan017

Verified Seller  ได้รับการรับรองจากไทยเสียวบอร์ดให้ ทำการค้าขายในเว็บนี้ได้ และมีการตรวจสอบก่อนแล้ว
ตามกฏของบอร์ด ห้ามคนไม่ได้รับ Verified Seller ทำการค้าในเว็บนี้  เพราะยังไม่ได้รับการตรวจสอบ
Verified Seller ไม่กล้าทำไม่ดีแน่นอน เพราะถ้าเสียชื่อเสียง ก็จะมีผลระยะยาว
ใช่ครับ
ถ้าใครทำไม่ดี โดนปลด Verified Seller ด้วยนะครับ
 wanwan017


ผมว่าในเคสของ verified นี่ ก็แค่ตัวตนนะครับ ไม่ได้การันตีฝีมือ
ถ้าอยากรู้ว่าคนไหนเจ๋งจริงต้องลองเองครับ หรือถ้าจะตั้งกลุ่มขึ้นมา review กัน ก็น่าจะทำให้เร็วและตัดสินใจง่ายขึ้นในระดับนึง
10  ความรู้ทั่วไป / E-commerce / Re: ***** ช่วยด้วยครับ T^T ผมใชปลั๊กอิน cart66 ของ wordpress แล้วมีปัญหา *** เมื่อ: 28 มีนาคม 2013, 11:07:36
ผมว่าติดต่อ support ของ plugin นี้โดยตรงน่าจะได้คำตอบเร็วกว่านะครับ บางตัวคนไทยไม่ค่อยใช้กัน
11  ความรู้ทั่วไป / E-commerce / Re: สอบถามพ่อค้าแม่ค้า ช่วงนี้มันเกิดอะไรขึ้น เมื่อ: 28 มีนาคม 2013, 11:06:36
รอเงินเดือนออกก่อนครับ ยอดพุ่งแน่นอน
12  ความรู้ทั่วไป / E-commerce / Re: ██◤◤ [FREE!] คอร์สเปลี่ยนชีวิต ขายของออนไลน์อย่างไร ได้เงินแสน? ◥◥██ เมื่อ: 28 มีนาคม 2013, 09:02:45
ดันหน่อยครับ
13  ความรู้ทั่วไป / E-commerce / Re: ██◤◤ [FREE!] คอร์สเปลี่ยนชีวิต ขายของออนไลน์อย่างไร ได้เงินแสน? ◥◥██ เมื่อ: 27 มีนาคม 2013, 21:43:40
ขอดันนิดครับ
14  ความรู้ทั่วไป / E-commerce / Re: ██◤◤ [FREE!] คอร์สเปลี่ยนชีวิต ขายของออนไลน์อย่างไร ได้เงินแสน? ◥◥██ เมื่อ: 27 มีนาคม 2013, 13:21:31
Confirm ละครับ

แต่ขอความกรุณา อย่าส่ง email มาคุยเรื่องไร้สาระ แล้วก็แนบ Link ขายของห่วยๆนะ บอกตรงๆ รำคาญ
เจอมาหลายเจ้าละ ทั้งฝรั่ง+ไทย  

ใส่ใจในการเขียน email หน่อยละกันนะครับ ขอบคุณ

ตามนี้เลยครับ ส่งไปหลายรอบแล้วเรียนแบบนี้เจอ ขายของกลับมา เงิบเลย wanwan035 wanwan035

ผมว่าถ้าจะบ่นก็อย่ากรอก email เลยครับ
จขกท. เค้าก็อุตส่ามาแจกฟรีๆนะ ถ้าคุณกรอกไปแล้วรำคาญก็ unsubscribe ได้หนิครับ
ใจเย็นครับ บ่นได้ไม่มีปัญหา ผมเข้าใจว่าหลายๆคนรวมทั้งผมด้วย ก็เจอมาแบบนั้นมาจริงๆ
และผมก็คงไม่ทำแบบนั้นแน่ๆครับ
15  ความรู้ทั่วไป / E-commerce / Re: ██◤◤ [FREE!] คอร์สเปลี่ยนชีวิต ขายของออนไลน์อย่างไร ได้เงินแสน? ◥◥██ เมื่อ: 27 มีนาคม 2013, 12:42:04
Confirm ละครับ

แต่ขอความกรุณา อย่าส่ง email มาคุยเรื่องไร้สาระ แล้วก็แนบ Link ขายของห่วยๆนะ บอกตรงๆ รำคาญ
เจอมาหลายเจ้าละ ทั้งฝรั่ง+ไทย  

ใส่ใจในการเขียน email หน่อยละกันนะครับ ขอบคุณ
วันนี้คุณป๊อบมาโหดนะครับ
แต่รับรองว่า ไม่เจอแบบนั้นแน่นอนครับ
16  ความรู้ทั่วไป / E-commerce / Re: ██◤◤ [FREE!] คอร์สเปลี่ยนชีวิต ขายของออนไลน์อย่างไร ได้เงินแสน? ◥◥██ เมื่อ: 27 มีนาคม 2013, 12:09:03
เจ๋งมากครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับผม

ขอบคุณสำหรับคำชมครับ
17  ความรู้ทั่วไป / E-commerce / Re: ██◤◤ [FREE!] คอร์สเปลี่ยนชีวิต ขายของออนไลน์อย่างไร ได้เงินแสน? ◥◥██ เมื่อ: 27 มีนาคม 2013, 09:33:42
Confirm แล้ว แต่ไม่มีอีเมลล์มาอีกซักที ทำไงอ่ะครับ

ลอง click confirm อีกรอบนึง
หรือลองดูใน junk รึยังครับ ระบบไม่น่าพลาดนะ
ได้ละครับ ต้อง Confirm ไปตั้ง 3 รอบกว่าจะได้

ขออภัยในความผิดพลาดของระบบด้วยครับ
รับรองว่าสิ่งที่ได้รับ คุ้มค่ากับเวลาที่เสียไปแน่นอน ^^
18  ความรู้ทั่วไป / E-commerce / Re: ██◤◤ [FREE!] คอร์สเปลี่ยนชีวิต ขายของออนไลน์อย่างไร ได้เงินแสน? ◥◥██ เมื่อ: 27 มีนาคม 2013, 08:21:31
Confirm แล้ว แต่ไม่มีอีเมลล์มาอีกซักที ทำไงอ่ะครับ

ลอง click confirm อีกรอบนึง
หรือลองดูใน junk รึยังครับ ระบบไม่น่าพลาดนะ
19  ความรู้ทั่วไป / E-commerce / Re: ██◤◤ [FREE!] คอร์สเปลี่ยนชีวิต ขายของออนไลน์อย่างไร ได้เงินแสน? ◥◥██ เมื่อ: 27 มีนาคม 2013, 07:21:40
ลักษณะนี้คุ้นๆ เคยไปสมัครที่ไหนจำไม่ได้แล้ว สมัครปุ๊บ เขาจะส่งลิ้งค์มาให้ดาวน์โหลดเอกสารไปอ่าน รู้สึกว่าจะ 7 วัน ก็ 7 ตอน ถ้าจะเอาแบบลึกๆ ก็ซื้อเพิ่มหรือจ่ายเงินครับ เป็นการตลาดอย่างหนึ่งของเขานั่นเองครับ


ของผมเพิ่ง post ที่นี่ ที่แรกครับ ไม่มีทางซ้ำแน่นอน คอร์สนี้ไม่มีเสียเงินต่อครับ
20  ความรู้ทั่วไป / E-commerce / Re: ██◤◤ [FREE!] คอร์สเปลี่ยนชีวิต ขายของออนไลน์อย่างไร ได้เงินแสน? ◥◥██ เมื่อ: 26 มีนาคม 2013, 22:43:20
Sign up แล้วทำไงต่อ หรือว่าต้องรอข้อมูลที่จะส่งมาในเมลล์  Cry
ต้อง Confirm Email ก่อนครับ

Confirm แล้วทำไงต่อครับ

เช็ค Email ครับ จะมีคอร์สให้ Download ถ้าหาไม่เจออาจจะเข้า junk ครับ
หน้า: [1] 2 3 ... 15