สวัสดีครับเพื่อนๆทุกคน ไม่รู้ว่าลงผิดห้องหรือเปล่าถ้าผิดขอโทษด้วยนะครับ วันนี้มีเวลาว่างๆก็เลยอยากจะมาแชร์ประสบการณ์การทำเงินของตัวผมเอง ขอออกตัวก่อนว่าไม่ได้เก่งอะไรมากมายนะครับ ผมเห็นคนอื่นๆทำเงินได้มากกว่าผมมากมายครับบางคนเดือนละเป็นแสนเป็นล้าน แต่ผมแค่อยากมาแชร์มาเล่าสู่กันฟัง หากผิดพลาดยังไงก็ขออภัยด้วยนะครับ เงินลงทุนครั้งแรกที่ผมใช้ประมาณ 6000 บาท สู่เงินหนึ่งแสนบาทในเวลา 1 ปี และมันก็กลับมาเป็นศูนย์อีกครั้งเพราะวินัยการใช้เงินของผม และครั้งที่สองผมก็ทำมันได้แสนอีกครั้งจากต้นทุก 0 บาท
Introครอบครัวผมถือได้ว่ามีฐานะกลางๆ (มั้ง 5555) พ่อแม่เป็นมนุษย์เงินเดือนครับ แต่ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันว่ารายได้มาจากทางไหนอีก ท่านไม่ค่อยบอกให้ทราบครับ
เวลาผมอยากได้อะไรก็ต้องคอยรบกวนเงินท่านอยู่เสมอครับ บางทีก็เกรงใจเหมือนกัน เหมือนเป็นตัวผลานเงิน (เดี๋ยวนี้ก็ยังผลานอยู่ อิอิ) นั่นเลยเป็นจุดเริ่มต้นของการอยากหารายได้ครับ
Chapter1 ก้าวแรกก็พลาดซะแล้วย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 2-3 ปีก่อน ตอนนั้นมีความคิดที่อยากจะหาเงินใช้เองครับ ผมก็ได้ไปหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตเกี่ยวกับการหาเงิน จนไปได้รู้จักกับการทำเว็บ และเราสามารถที่จะหาเงินได้จากการโฆษณาครับ ผมจึงไม่รอช้า แต่ด้วยตอนนั้นผมไม่มีเงินทุน จึงไปขอร่วมหุ้นกับลุงครับ ลุงผมก็ตกลง เงินลงทุนก้อนแรก 2250 บาทครับ เป็นค่าเช่าโฮสติ้งจดชื่อเว็บอะไรเรียบร้อย ผลปรากฎว่าเจ๊งไม่เป็นท่า เพราะอะไร? นั้นเป็นเพราะว่าผมไม่มีความรู้ด้านนี้เพียงพอครับ คิดว่าคนอื่นทำได้ เราก็ทำได้ แต่
เราไม่ได้ทำการบ้านมา ไม่ได้ศึกษามา มันก็เท่ากับเราออกรบมือเปล่า ไม่มีแม้แต่เสื้อเกราะ เพราะฉนั้นตายสถานเดียวครับ หลังจากนั้นมันก็ทำให้ผมค่อนข้างเข็ดกับการลงทุนครับ แน่นอนว่าไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ ผมใช้เวลาปีกว่าในการหาข้อมูลความรู้ ขอขอบคุณไทยเอสอีโอ (ไทยเสียว) มากครับที่ให้ความรู้กับผมมากมาย พอศึกษาได้สักพักผมก็ตัดสินใจที่จะลองผิดลองถูกอีกครั้ง
Chapter2 ก้าวสองอย่างน้อยต้องดีกว่าผมเริ่มต้นสร้างเว็บไซต์อีกครั้งนึง แต่คราวนี้ผมใช้เงินทุนเพียง 500 บาทจากการศึกษาหาข้อมูลจึงทำให้ผมได้ของดีราคาถูกครับ จากนั้นก็เริ่มสร้างเว็บไซต์ ก็มีคนเข้ามาบ้างประปราย แต่ก็ยังไม่เป็นที่ต้องการของกลุ่มโฆษณาครับ จึงทำให้การทำเว็บไซต์ในครั้งนี้ล้มเหลวเหมือนเดิม แต่ก็ยังดีกว่าครั้งแรกที่ไม่มีแม้แต่คนเข้ามาชมเว็บไซต์
Chapter3 ลองอีกสักตั้งครั้งนี้ผมก็ได้กลับไปทำการบ้านอีกครั้ง และทำให้ผมได้เจอวิธีการทำเงินทางใหม่ๆ (SEO) ผมจึงได้ขอเงินคุณพ่อมาลงทุนทำครั้งนี้ด้วยเงินจำนวน 6000 บาท การลงทุนในครั้งนี้เป็นงานประเภทบริการ ลูกค้าเริ่มมีเข้ามาบ้าง ช่วงนั้นถือว่ารายได้ค่อนข้างดีครับ ตกประมาณ 2-4 หมื่นต่อเดือน แต่แล้วเมื่อเริ่มเข้าช่วงเดือนที่สองระบบที่ผมได้ทำมีปัญหา จึงทำให้ผมต้องหยุดงานบริการครั้งนี้ไป ตอนนี้ผมมีเงินเก็บสะสมประมาณ 5-6 หมื่นบาท ใช้เวลาประมาณ 1-2 เดือนกว่าครับ อาจจะไม่ใช่เงินจำนวนมากสำหรับหลายๆคน แต่ผมก็ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี ตรงนี้ผมยอมรับครับว่าผมอาจจะไม่ได้เก่งเพราะเงินลงทุนก้อนแรกก็ขอมาจากคุณพ่อ ไม่ได้หามาเอง ความรู้สึกผมคิดว่ามันน่าจะตัดสินใจต่างกันนะครับ ถ้าผมหามาได้เองผมอาจจะไม่กล้าเสี่ยงลงทุนในงานนี้ก็ได้ครับ
Chapter4 ยกที่สองช่วงนี้เมื่อผมได้เงินก้อนนี้มาผมจึงได้เข้าไปซื้อแฟนเพจที่มีคนไลค์ประมาณ 1 หมื่นไลค์มาครับ หวังจะมาเริ่มงานโฆษณาอีกครั้ง แต่ระหว่างนั้นผมก็ศึกษาหาทางทำเงินอื่นๆอีก จนไปได้เจอกับงานบริการอีกประเภทหนึ่งงานนี้ทุนเริ่มต้นเท่ากับ 0 ครับ จากนั้นผมจึงเปิดรับงานบริการนี้ ครั้งนี้ไปได้ค่อนข้างสวยครับ อาจจะเป็นเพราะว่าเป็นตลาดค่อนข้างที่จะนิชพอสมควรครับ ลูกค้าหลายท่านกลายเป็นลูกค้าประจำผม ช่วงนั้นผมทำเงินได้ประมาณ 1-4 หมื่นบาทครับ แต่พอหักค่าต่างๆหลังจากบริการแล้วก็ตกราวๆเดือนละ 1-3 หมื่นบาทโดยประมาณครับ ช่วงนี้ทำให้ผมมีเงินเก็บในบัญชีเพิ่มขึ้นค่อนข้างที่จะเยอะ ส่วนรายได้อีกทางของผมมาจากแฟนเพจครับ ซึ่งขณะนี้มีคนไลค์ประมาณแสนนิดๆ อาจจะไม่ได้เยอะมากนะครับ แต่ก็พอทำมาหากินได้บ้าง ทำให้ช่วงนี้ผมมีรายได้จากสองทาง
Chapter5 ขายไม่ออกผมนำเงินส่วนหนึ่งมาลงทุนทำเสื้อแฟนเพจครับผม ในตอนนั้นผมคิดว่ายังไงก็ขายได้ขายหมดแน่ๆ ซึ่งที่ผมเห็นตอนนี้มีแต่กำไรเต็มไปหมด ผมได้ให้คนในแฟนเพจลงความสนใจว่าใครสนใจบ้าง คนสนใจเต็มไปหมด ผมจึงได้ตัดสินใจผลิตเสื้อล็อตแรกมา แต่ดีที่คิดถูกว่าลองตลาดแค่ 30 ตัว ผลปรากฎว่าขายไม่ออกสักตัว คนที่ลงความสนใจไว้หายไปไหนหมดไม่รู้ ตรงนี้จึงทำให้ผมสรุปได้ว่า
ไม่ควรจะทำอะไรเพียงเพราะเราอยากทำ สิ่งที่เราอยาก อาจะไม่ใช่สิ่งที่ลูกค้าต้องการเสมอไป และการพูดปากเปล่าใครๆก็ทำได้ เพราะฉนั้นอย่าเชื่อคนอื่นเสมอไป อีกประการไม่ว่าเราจะทำอะไร
ควรมองทั้ง Best Case และ Worst Case เสมอครับว่าเรารับความเสี่ยงได้หรือไม่
Chapter5 ฟุ้งเฟ้อฟุ่มเฟือยช่วงนี้ถือเป็นช่วงที่ผมเริ่มมีเงินเก็บเยอะ (ในความคิดผม) แต่จริงๆแล้วมันไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลยครับ มันเป็นแค่เศษเงินเล็กๆเท่านั้น ผมนำเงินส่วนนี้ใช้จ่ายฟุ้มเฟือยมาก ซื้อโทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ โน๊ตบุ๊ค กล้องถ่ายรูป เลนส์ และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งทำให้เงินในบัญชีผมค่อยๆลดลง แต่ก็ยังมีรายรับเข้ามาบ้าง แต่เมื่อหักกับรายจ่างก็ทำให้มันเหลือน้อยครับ
Chapter6 ความเสี่ยงต่ำตอนนี้ผมมีเงินในระดับหนึ่ง ซึ่งผมก็คิดว่ามันเยอะอยู่นะ 5555 คุณพ่อผมไม่รู้คิดอะไร จึงชวนผมเปิดบัญชีฝากประจำดอกเบี้ยสูงกับธนาคาร K-Bank ซึ่งผมก็โอเคฝากไป ระยะเวลาการฝาก 2 ปีครับ คุณพ่อผมชวนทุกคนฝากหมด แม่บ้านก็ชวน อิอิ ส่วนผมเลือกที่จะฝากแค่ 1000 บาทต่อเดือน เพราะกลัวมีปัญหาส่งเงินในบัญชีไม่พอ ซึ่งเมื่อหลังจากสองปีจะทำให้ผมมีเงิน 24000 บาทกับดอกเบี้ยอีกเล็กน้อย (เพราะเงินต้นเท่าขี้มด) แต่ผมก็ต้องขอขอบคุณคุณพ่อที่แนะนำให้ผมฝากประจำครับ เพราะอย่างน้อยก็ทำให้เงินผมไม่หมดไปกับการผลาญซือของต่างๆ
Chapter7 การเดินทางตอนนี้ลูกค้ารายใหญ่ของผมได้โทรมาขอยกเลิกบริการที่ทำกับผมเนื่องจากเค้ามีปัญหาเล็กน้อย ผมก็โอเคไม่ได้ว่าอะไร อีกอย่างเพราะผมกำลังจะเดินทางไปเรียนต่างประเทศด้วยครับ ก็เลยคิดว่าคงจะลำบากในการทำธุรกรรมทางการเงินในไทยด้วย ช่วงนี้จึงทำให้ผมไม่มีรายได้เลยครับ เงินในบัญชีที่มีเหลืออยู่ก็เหลือประมาณหมื่นนิดๆเพราะหมดไปกับการซื้อของหมดแล้ว
Chapter8 ต่างแดนตอนนี้ผมกลับมาใช้ชีวิตแบบไม่มีงานพิเศษอีกครั้งครับ แต่ด้วยนิสัยของผมเป็นคนที่ค่อนข้างฟุ่มเฟือย (พยายามปรับปรุงอยู่) ก็ใช้เงินค่อนข้างมากครับ แต่ทางบ้านก็ส่งให้ผมทุกเดือน ไม่ขาดสน และด้วยค่าครองชีพที่สูงมากของที่นี่ยิ่งทำให้การใช้เงินมากขึ้นไปอีก ผมก็พยายามประหยัดนะครับ แต่ก็คิดว่ายังมากอยู่ดีรายจ่ายเฉพาะของผมตอนนี้เฉลี่ยประมาณ 2-3 หมื่นบาทต่อเดือน ซึ่งถือว่าเยอะมากเลยทีเดียวสำหรับเด็กตัวเล็กๆ ระหว่างอยู่ที่นี่ก็มีรับงานบ้างแต่ก็เป็นแบบงานถ่ายรูปตามพิธีการอะไรแบบนี้ครับ ได้ครั้งละ 100-200 เหรียญ แต่ก็ไม่ได้รับงานมาก เพราะผมมาเรียนที่นี่ในฐานะนักเรียนแลกเปลี่ยน ความจริงเค้าไม่อนุญาตให้ทำงาน แต่งานแบบนี้ก็ถือว่าเป็นสินน้ำใจเล็กๆน้อยๆ ไม่ได้เข้าระบบอะไรแบบพนักงานเสิร์ฟ พนักงานเสิร์ฟที่นี่ค่าแรงดีกว่าไทยมากนะครับ ชั่วโมงละ 7 เหรียญขึ้นไป
Chapter9 แสงที่สองขณะนี้ผมยังอยู่ที่ต่างประเทศอยู่แต่ก็ได้ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับวงการอินเทอร์เน็ต, การหารายได้อยู่ เราควรที่จะติดตามข่าวสารต่างๆเสมอนะครับ เพราะอย่างน้อยก็ทำให้เรารู้มากขึ้น และผมก็ได้เจอทางใหม่ที่คิดว่าสามารถทำเงินได้ดี ผมจึงลองเข้าไปทำอีกครั้งครับ ขอบคุณพี่โบ๊ทมากๆครับที่ให้คำแนะนำกับผม งานนี้เป็นงานโฆษณาออนไลน์เหมือนเดิมครับ (ไม่ใช่ทำงานผ่านเน็ตวันละ 2-3 ชม. แค่คีย์ข้อมูลได้นะคร๊าบบ 5555) (Line@) ครั้งนี้ผมก็คิดว่าไปได้สวย รายได้อยู่ที่ประมาณ 3-6 หมื่นบาท ถ้าผมเริ่มเร็วกว่านี้หน่อยรายได้น่าจะพุ่งไปหลักแสนต่อเดือนครับ เพิ่งจะเริ่มทำได้ไม่นานครับ สองเดือนถึงสาม และคิดว่างานนี้ไม่ค่อยยั่งยืนเพราะมันเป็นกระแสออนไลน์ครับ มาไวไปไว แต่ก็ดีกว่าอยู่เฉยๆ และครั้งนี่ก็ทำให้ผมมีเงินในบัญชีแตะ6หลักอีกครั้ง ครั้งนี้ผมพยายามที่จะมีวินัยทางการเงินมากขึ้น ผมพยายามอย่างมาก แต่ก็ไม่เป็นผล ผมได้ซื้อกล้องตัวที่ 2 มา 5555
ซึ่งผมก็รู้นะว่ามันไม่มีประโยชน์อะไร แต่ก็ยังซื้อ กิเลสมันชนะเหตุผล ผมต้องพยายามปรับจุดๆนี้ให้ได้ครับ ถ้าปรับตรงนี้ไม่ได้ มันก็จะวนอยู่อย่างนี้ ตอนนี้รายได้จากทางนี้ก็ยังทำเงินให้ผมอยู่ครับ แต่อาจจะลดลงบ้างเนื่องจากกระแสเริ่มตก ผมก็พยายามเก็บเงินให้ได้มากที่สุดครับ จากตรงนี้ทำให้ผมรู้ว่า
ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนเราก็สามารถหารายได้ได้เสมอครับ ถ้าเราพยายามพอChapter10 แผนการลงทุนผมได้ศึกษาเกี่ยวกับการลงทุนในหุ้นมาสักพักหนึ่ง ไม่นานมาก ผมก็คิดนะครับว่าอยากจะลองลงทุนในหุ้นดู แต่ก็คิดว่าคงต้องรออีกสักพักเพราะไม่สามารถทำธุรกรรมทางการเงินเองได้ หรือไม่ก็ถ้าคิดว่าศึกษามาดีแล้วก็อาจจะให้คุณพ่อเปิดพอร์ทให้ครับ แต่เงินผมคิดว่าคงจะไม่นำมาลงทุนในหุ้นหมดครับ เพราะมีความเสี่ยงค่อนข้างสูง ผมจึงจะแบ่งเงินที่มีอีกเป็นสามส่วนในอัตราส่วนประมาณ 40:40:20
40แรกคือนำเงินมาลงทุนแบบเดิมเช่นงานบริการหรือ E-Commerce เป็นต้น ซึ่งผมถือว่ามีความเสี่ยงสูงที่สุด แต่ผลตอบแทนก็ได้สูงเช่นกัน High Risk High Return
40ที่สองคือเก็บไว้ลงทุนในหุ้นครับ ซึ่งแน่นอนว่าคงต้องศึกษาให้ดีก่อนเพื่อที่จะได้ลดความเสี่ยงลงได้บ้างเล็กน้อย
และ20สุดท้ายคือการเก็บในธนาคาร ความเสี่ยงต่ำที่สุดแต่ก็แน่นอนว่าผลตอบแทนก็น้อยที่สุดเช่นกัน แต่ก็เก็บไว้กันพลาดครับส่วนนี้ ดีกว่าเงินหายไปหมดเลย อิอิ
Summaryก็ขอสรุปละกันนะครับ ผมก็เป็นคนคนนึงที่คิดอยากมีธุรกิจเป็นของตนเอง ก็พยายามศึกษาหาความรู้ไปเรื่อยๆ สิ่งที่สำคัญที่สุดเท่าที่ผมคิดนั้นก็คือความพยายามครับ
ถ้าคุณทำเท่าคนอื่นแต่หวังมากกว่าคนอื่น มันไม่มีทางเป็นไปได้หรอกครับ คุณต้องทำมากกว่าคนอื่น เพื่อนๆผมบางคนจมอยู่กับเกมทั้งวัน ซึ่งผมก็เคยเป็นอย่างนั้นครับ แต่พอมาลองนึกย้อนดูรู้สึกว่าไร้สาระมากครับ และเราต้องรู้จักแบ่งเวลา อย่างผมก็ยังให้ความสำคัญกับการเรียนมากที่สุด เกรดไม่ควรที่จะตกมามาก เพราะที้บ้านก็ค่อนข้างสตริกกับเรื่องนี้พอสมควร อันที่จริงคุณแม่อยากให้แค่เรียนเท่านั้นด้วยครับ ท่านไม่รู้ว่าผมทำอะไรเหมือนกัน รู้แค่ประมาณว่าทำเว็บไซต์ 55555
ทางทำเงินในปัจจุบันมีมากมายมากครับ คนอายุประมาณผมบางคนหาได้เป็นล้านสิบล้านก็คงมี มันอยู่ที่เราเลือกที่จะทำมัน เลือกที่จะศึกษาและเสี่ยงกับมันมั๊ย มันไม่ได้มีงานแค่แบบที่ผมทำนะครับ มันมีมากมายให้เลือก เช่นขายของออนไลน์ ขายลูกชิ้นปิ้ง ขายไอศ์ครีม งานบริการ เป็นต้น แต่ที่สำคัญผมอยากให้อยู่ในศีลธรรม ไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนเป็นดีที่สุดครับ งานมีมากมายอยู่ที่ว่าเราจะจับตลาดได้ถูกมั๊ย ถูกเวลาถูกสถานที่มั๊ย สุดท้ายนี้ก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนนะครับ ฝันให้ไกลแล้วไปให้ถึง ส่วนผมก็คงต้องเดินทางต่อไป อย่างน้อยแม้เราจะไม่ถึงปลายทางแต่มันก็ดีกว่าที่เราจะย่ำอยู่ที่เดิมจริงมั๊ยครับ
ปล1. หลังจากได้ศึกษาเรื่องการทำธุรกิจการลงทุนจากกลุ่มต่างๆ นั้นทำให้ผมรู้สึกว่าผมตัวเล็กมากๆครับ เริ่มต้นมายังไม่ถึง 1% ของพี่ๆที่เก่งหลายๆคนเลย และก็อยากขอขอบคุณกลุ่มเถ้าแก่ใหม่ในไลน์ด้วยครับ ที่มีแต่พี่ๆเก่งๆมาแชร์ข้อมูลให้ผมเปิดโลกให้กว้างขึ้นกว่าเดิมอีกหลายเท่าตัว
ปล2. ที่ผมเลือกลองที่จะเสี่ยงหาอะไรทำตอนนี้เพราะผมคิดว่าเริ่มเร็วดีกว่าเริ่มช้าครับ หากผิดพลาดก็จะได้เป็นบทเรียนในตอนนี้เพื่อที่จะให้เราเติบโตไปในอนาคตได้อย่างมั่นคง และอีกสาเหตุก็คือหากมีอะไรผิดพลาด ผมก็ยังมีเบาะรองรับนั่นก็คือคุณพ่อคุณแม่ครับ ความคิดนี้อาจจะไม่ได้ดีที่สุด แต่ผมก็คิดว่ายังไงซะท่านก็พร้อมที่จะช่วยเหลือเรา ให้คำปรึกษาเราได้เสมอครับ ขอบคุณท่านมากๆครับ
ปล3. หลายคนเลือกที่จะทำงาน Part-Time ตามที่ต่างๆ แต่ทำไมผมไม่เลือกที่จะทำ นั่นเป็นเพราะว่ามันไม่ใช่สไตล์ผมครับ ไม่ค่อยชอบให้ใครมาจำกัดอะไร ตรงนี้จะมองว่าเป็นข้อดีก็ได้เป็นข้อเสียก็ได้ อยู่ที่เราจะเลือกใช้มันอย่างไรมากกว่าครับ
ขอบคุณเพื่อนๆพี่ๆทุกคนที่อ่านกันมาจนจบนะครับ ขอบคุณครับ ^ ^