ต้องการกำไรจากการขายออนไลน์80K-100K
ถ้าเป็นไปตามเงื่อนไขดังนี้...
1) ต้องเป็นสินค้าที่ขายดี คู่แข่งน้อย (ทำกำไรได้มาก)
2) เงินทุนหมุนวียนส่วนใหญ่คือสต๊อกสินค้า (ถ้าใช้เวลาในการเติมสต๊อกน้อย)
ทุนหมุนวียนต่อเดือน = 320K-400K
-ขนาดนั้นเลยหรอครับ
เห็นด้วยกับความเห็นนี้นะครับ เพราะการขายของออนไลน์นั้นมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างเยอะ ขึ้นอยู่กับประเภทสินค้า กำไรต่อราคาขาย ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น
เปิดร้านขายเสื้อผ้าออนไลน์ต้องการกำไรที่ 100k เราก็ต้องมาดูกันว่าต้องขายที่เท่าไรถึงจะกำไรถึงกัน
กำไรต่อหน่วยเท่าไร/กี่เปอร์เซ็น ถ้าต้นทุนสินค้าที่รับมาคือ 300 เราขาย 500 บาทได้ เบื้องต้นของต้นทุนของเราดูเหมือนจะเป็น 60% และกำไร 40% แต่จริงๆ แล้วมันไม่ใช่แบบนั้นนี่สิครับมันมีค่าใช้จ่ายแอบแฝงอยู่อีกเยอะมาก เพราะถ้าเราจะขายให้ได้กำไรถึง 1 แสนบาท เราต้องขายเสื้อราคา 500 บาท ให้ได้ 500 ตัว ซึ่งเป็นจำนวนเงิน 250k ซึ่งก็ดูจะไม่ยากอะไรถ้าเคาะออกมาแบบเครื่องคิดเลยเลย แต่วิธีไหนละที่จะทำให้ขายได้ถึง 500 ตัวใน 1 เดือน คำตอบก็คือต้องมีลูกค้าเข้าเว็บในระดับที่มากพอและต้องเป็นลูกค้าที่สนใจสินค้าของเราจริงๆ ด้วย นั้นทำให้เราต้องมีต้นทุนเพิ่มอีกตัวแล้ว "ค่าโฆษณา"
จากประสบการณ์ของผม ถ้าค้นเข้าเว็บเป็นกลุ่มที่สนใจสินค้าจริงๆ คนเข้าแค่ 300 - 500 คน ก็พอจะขายได้ วันละ 5 - 10 ชิ้นสบายๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ถ้าคนเข้าทั้งหมดของเราเป็นการซื้อโฆษณาทั้งหมดต้นทุนของเราก็จะสูงมาก ตีว่าคลิกละ 50 สตางค์ ซื้อแบบถูกๆ เลย เพื่อคนเข้า 2000 คน หมดไปแล้ววันละ 1000 บาท ตีว่าขายได้วันเฉลี่ย 20 ชิ้น 30 วัน = 600 ชิ้น ยอดขายต่อเดือนจะประมาณ 300 เค (เป็นตัวเลขมโนขายจริงจะสู้หรือต่ำอยู่ที่สินค้า ราคา ความน่าเชื่อถือ คุณภาพและอื่นๆ นอกจากนั้นการบิดราคาค่าโฆษณาก็ทำได้อย่างจำกัด เช่นบิดไว้ที่ 50 สตางค์ต่อคลิ๊กอาจจะมีคนเห็นโฆษณาแบบเต็มที่ได้แค่ 300 คนต่อวันก็ได้ ถ้าอยากให้คนเห็นโฆษณาเพิ่มต้องอัดค่าคลิ๊กที่สูงขึ้น ซึ่งนั้นก็ทำให้ต้นทุนเราสูงขึ้นอีกเช่นกัน) เราลองมาถอดกำไรกันใหม่อีกทีครับ
กำไรของร้านที่มีต้นทุนค่าโฆษณาเพิ่มขึ้นมา
-------------------------------
ยอดขาย 600 ชิ้น = 300k
ต้นทุนสินค้าที่รับมาต่อชิ้น 300x600 = 180k
ต้นทุนค่าโฆษณา 30 วัน = 30k
กำไรสุทธิ = 300 - (180+30) = 90k
-------------------------------
ซึ่งมันก็ยังไม่ถึงเป้าอีกอยู่ดี ขาดไป 10k แบบนี้เราไปลงโฆษณาเพิ่มอีกประมาณ 10% - 15% ดีไหมจะได้ขายกำไรถึง 100k พอดี 555+ แต่ในชีวิตจริงมันไม่มีอะไรง่ายอย่างนั้นสิครับ มันยังมีตัวเลขอื่นๆ มาตัดกำไรเราอีกมากมาย เพื่อจะให้เราไปไม่ถึงกำไร 100k ไม่ว่าจะเป็น- ค่าใช้จ่ายสำนักงาน ถ้าทำคนเดี่ยวก็บ้านของตัวเองถ้าอยู่ฟรีนิบุญชัดๆ ถ้าได้เน็ทฟรี น้ำฟรีนิสรรค์เลย
- ค่าสถานที่ว่างสินค้า ถ้ามีบ้านมีพื้นที่ก็โชคดีไปบุญพ่อแม่ทำมาดีครับ ถ้าไม่มีก็ต้องหาที่ว่างสินค้าให้ได้จะหลักพันหลักหมื่นก็ว่ากันไปอีก
- ค่าไปส่งของสินค้าขายดีไม่ต้องถามนะครับว่าจะนั่งวินไปได้ ถ้าไม่มีรถก็ต้องแท็กซี่ ถ้ามีรถก็ + ค่าน้ำมันไปเลย เสียมากเสียน้อยขึ้นอยู่กับจำนวนรอบส่งของ
- ยังไม่หมดครับมีอีกค่าใช้จ่ายที่ไม่เรียกว่าค่าใช้จ่าย
"ภาษี" แหม่ขายกำไรดีแบบนี้ยอดเกิน 1.8 ล้านแน่ๆ + vat7% ก่อนขายด้วยนะจ๊ะ ซึ่งการตั้งราคานั้น ถ้าอยู่ในวงการขายของจะรู้ดีว่าไอ้ 7% เพื่อที่จะก้าวเป็นผู้เล่นรายใหญ่นั้นมันไม่ง่ายเลย เพราะถ้าเราอยู่ในแดนที่สินค้ามีกำไรต่อหน่วยต่ำและทุกคนขายกันไม่แพง ไอ้เรามี vat7% อยู่คนเดี่ยวนิจบเลยยอดขายหายแน่ๆ แต่ถ้าเป็นสินค้าคุณภาพเฉพาะกลุ่มมีช่วงกำไรเหลือก็ลุยต่อๆ ไปได้
สรุปสั้นๆ เลยครับทำตัวคนเดี่ยวไม่มีลูกน้องต่อเดือนมีเงินเข้า 400up แน่นอนครับถ้าสินค้าทำกำไรไม่เกิน 30% ต่อชิ้นเป็นต้นทุน แต่ถ้าสินคำกำไรเยอะตัวเลขยอดขายก็จะต่ำกว่านี้
การที่จะทำกำไรจากการขายของออนไลน์ 80 - 100 k ขึ้นไปนั้นมีความยากลำบากอยู่พอสมควรสำหรับคนที่คิดจะทำตัวคนเดี่ยว โดยเฉพาะสินค้าที่กำไรต่อหน่วยต่ำๆ เพราะจะทำให้มีต้นทุนที่สูงมากๆ จากการบริหารจัดการ แต่ถ้าก้าวข้ามไปได้ก็เหมือนเสือติดปีก บินในที่ๆ ไม่มีคนบินครับ เพื่อนร่วมวงการผมตายไปหลายคนแล้วเพราะไม่สามารถก้าวข้ามจากผู้เล่นรายย่อยเป็นผู้ขายขนาดกลาง - ใหญ่ได้ เพราะว่าขายน้อยๆ กับขายเยอะๆ มันต่างกันมากเหลือเกินครับ ทำคนเดี่ยวไม่ไหว ถ้าหนีภาษีมาโดนตอนหลังนินรกชัดๆ ไม่แนะนำครับ สิ่งสำคัญคือการบริหารความเสี่ยงและรักษากระแสเงินสดไว้ในระดับสูงอยู่เสมอจะทำให้เราเอาตัวรอดได้ครับ ส่วนใหญ่ที่ผมเห็นยอดขายต่อเดือน 2 - 3 ล้านกำไรจริงๆ 200 - 400 เคต่อเดือนมีเยอะมากครับ เพราะขายออนไลน์ต้องเน้นขายไว ขายเยอะถึงพอจะลืมตาอ้าปากได้ ถ้าคิดจะเอากำไรต่อหน่วยสูงๆ แล้วขายได้เยอะๆ อยู่วงการนี้ยากครับ
แต่ถ้ามองมุมกลับ ถ้าต้องการขายแค่เอาเงิน 10 - 30 เคต่อเดือน ทำเป็นงานอดิเรก แบบนี้ทำได้ง่ายๆ ไม่ยากครับ ไม่ต้องคิดมาก หาสินค้าขายก็ง่าย พื้นที่สต็อกก็ต่ำ ไม่มีเรื่องภาษีกวนใจเพราะยอดขาย + รายได้อื่นๆ น่าจะไม่ถึง 1.8 ล้าน ทุกวันนี้ผมก็เบื่อกับภาษีพอสมควร กะว่าจะกลับไปทำ Adsense หาเงินจากค่าโฆษณาดีกว่า อยู่วงการนี้มาหลายปีเหนื่อยเหลือเกินครับ แรกๆ ก็สนุกดี แต่นานๆ ไป ยิ่งขายดียิ่งเหนื่อยครับ

ขอบคุณครับ
เสริม ปัญหาสินค้ามีปัญหา กับการ ซัพพอทลูกค้า
ซึ่งผมไห้ปัญหานี้เป็นปัญหาปวดหัวที่สุดเลย
มาทีแทบทรุด แอดมินเอาไม่อยู่รามมาถึงทีไรบรรลัยทุกที ต้องเตีียมอารมดีๆ
ทุนหมุนเวียน 100k น่าจะ 400k+ ครับ ถ้าจัดการระบบไม่ได้ เอาเงินไม่อยู่เหมือนกัน ไม่รู้จ่ายไรไปมั้ง หักออกแล้วเหลือ 1-2 พันได้มั้ง 555