รับทราบครับผม...

อยากเล่นสไตล์ไหนครับ เอาแบบวันต่อวันอย่างที่เขาเรียกว่าเทรดก็มี เล่นแบบดูลักษณะธุรกิจเป็นหลักอย่างที่เรียกว่า Value Investorอย่าง ดร.นิเวศน์ก็มี ลองเข้าไปอ่านในThaiVI.comก่อนก็ดีครับ ช่วงนี้ตลาดไม่น่าไว้ใจก็เก็บทุน เก็บความรู้ไว้ก่อน....ผมเชียร์สไตล์VIครับ ลองมาแล้วใช้ได้จริงแม้จะไม่ฟู่ฟ่า แต่ไม่ขาดทุน ได้ปันผลทุกปีเฉลี่ย8-10% ราคาหุ้นอาจขึ้นๆลงๆบ้าง แต่พอร์ตไม่เคยติดลบ ขายทิ้งล้างพอร์ตวันนี้ผมก็ได้ตังค์เพิ่มมา 50%....ของผมเทียบกับมือเซียนด้านนี้แล้วเขาได้มากกว่าผมครับ ผมไม่ค่อยมีทุน ขี้เกียจตามหุ้นใหม่ๆ เลยแช่พอร์ตเท่าเดิมครับ

ลุงบัฟเฟ่ตต์บอกว่า"ในขณะที่คนอื่นกลัวก็จงกล้า ในขณะคนอื่นกล้าก็จงกลัว" และปรมาจารย์เกรแฮมบอกไว้้ว่า"Mr.Marketนั้นไม่มีเหตุผลและเอาแน่เอานอนไม่ได้"....คืออย่าไปหวังว่าจะทำนายตลาดได้และจะอธิบายตลาดในแต่ละช่วงได้....ลุงบัฟเฟ่ตต์เคยลองเล่นแบบเทรดมาแล้วสุดท้ายก็เลิกเพราะไม่ตรงกับนิสัย และยิ่งเทรดมากเท่าไหร่ ใช้กราฟมากเท่าไหร่กลับยิ่งขาดทุนมากเท่านั้น ก็เลยบอกว่า เทรดดีหรือเปล่าไม่รู้แต่ตลาดน่ะมันทำนายไม่ได้ ขอยอมไม่เล่นสไตล์นี้......ลองอ่านดูศึกษาก่อนครับ

ผมเห็นว่า....ถ้ารีวิวโดยเป็นการเขียนจากประสบการณ์จริงด้วยตัวคุณเอง เขียนออกมาในฐานะผู้บริโภค เป็นผู้ใช้สินค้า ไม่น่าจะเป็นอะไร เพราะเป็นความเห็นของลูกค้า แต่ถ้าเป็นการนำการรีวิวของคนอื่นที่ใช้สินค้าแต่ละชิ้น เอาแบบสามสี่คนแล้วคุณเอามายำทำใหม่ให้ดูง่าย ก็ไม่น่าจะมีปัญหา

ขอบคุณครับ....
Zidduก็พอไหวครับ

คุณTenzamakเล่นบาสด้วยเหรอครับ....ผมก็เล่นเกือบทุกวัน ที่ไปลดน้ำหนักเพราะเล่นบาสแล้วปวดเข่า โดดก็ไม่ไหว วิ่งสัก 10 นาทีแล้วเหนื่อย ปีนี้ 36 แล้วครับ...ยังไปเล่นกับน้องๆ ใครว่าเล่นบาสไม่เหนื่อย...ขอเถียงว่า ถ้าวิ่งจริงๆ โค-ตรเหนื่อยเลยครับ

ขอบคุณครับขอลองดูหน่อยครับ

จบเชียงใหม่ครับ รหัส33....จบบอร์ดFM
เข้ามาบอร์ดนี้เพราะมาอ่านดูเทคนิคSEOครับ สนใจแต่ไม่มีเวปเป็นของตัวเอง
เคยทำAdwordsแต่ขาดทุนบาน ได้ประสบการณ์แต่ถอยออกมาเสียก่อน มันกินเวลาไปเยอะครับ
ตอนนี้ไม่ทำอะไรครับ เข้ามาอ่านอย่างเดียว
เรียนorthoที่ไหนครับ ที่ศิริราชหรือเปล่าครับ ปีอะไรแล้วครับ
น้องผมเพิ่งไปต่อMEDที่ศิริราช เป็นDent2
ส่วนใหญ่ชอบเข้าไปที่Thaiclinic.com
 

ขอบคุณครับ
ให้1 thankครับ

ขอแสดงความเสียใจกับการสูญเสียคนในครอบครัว
ฟ้อง-ไม่ฟ้องก็รอให้จัดการเรื่องการฌาปนกิจเสร็จก่อน
เราอาจไม่ได้อยากฟ้อง เพียงขอให้ทางโรงพยาบาลได้อธิบายทุกอย่างที่เกิดขึ้น และให้ญาติได้สอบถามทุกเรื่องราวอย่างไม่มีการปิดบังอำพราง และอยากให้ทางโรงพยาบาลได้กล่าวแสดงความเสียใจ และขอโทษในความผิดพลาด
ถ้าสงสัยในสิ่งที่เกิดขึ้น ทางโรงพยาบาลควรมีคำอธิบายที่มีเหตุผล
ถ้าอธิบายไม่รู้เรื่องก็คงต้องอาศัยขบวนการทางศาลได้อธิบายเรื่องราวให้กระจ่าง
ผมไม่ได้กระตุ้นให้ฟ้อง แต่โรงพยาบาลมีหน้าที่ต้องอธิบาย
ก็เท่านั้น

เรื่องนี้ถ้าจะปลดต้องปลดสิงโตออกครับ เพราะว่ามดทำงานดีอยู่แล้ว ไปสร้างระบบบ้าบอคอแตกทำซากอะไร ระบบบ้าบอแบบนี้เขามีไว้สำหรับเจ้านายที่ไม่เชื่อใจลูกน้อง พวกที่คิดฝังหัวว่า ลูกน้องมันขี้เกียจ ลูกน้องมันอู้งาน จึงสร้างระบบมาให้ตัวเองรู้สึกควบคุมลูกน้องได้....
ถ้ามดคิดว่าตัวเองขยัน รับรองไม่อดตาย ออกไปหาเจ้านายที่เชื่อใจมากกว่าที่นี่ หรือออกไปสร้างอาณาจักรของตัวเองก็ได้

ไม่รู้ว่ามองออกแนวอคติมากไปหรือเปล่าครับ

บอกแบบไม่อายเลยครับว่า....ผมยังใช้IE6อยู่เลย เพราะผมใช้XP ขี้เกียจไปลองใช้เวอร์ชั่นใหม่ๆ
browserที่ใช้ประจำเป็นFirefox...เสียอย่างเดียว..กินแรมมากกกกก
ส่วนbrowserอื่นที่ใช้ก็มีThe Worldซึ่งใช้IEเป็นตัวหลัก....
ส่วนอย่างอื่นๆ...ขี้เกียจลอง เพราะอย่างSafari chrome เหมือนจะไม่ชอบXP

เหตุผลที่ยกมาก็ฟังขึ้นครับ....แต่คนที่ใช้ส่วนใหญ่ก็ใช้ตามที่มีให้ใช้แหละครับ โดยเฉพาะคนอายุมาก ไม่รู้ครับว่าอะไรดี อะไรเจ๋งกว่า แค่เปิดเข้าเวปได้ก็พอใจแล้วครับ...แต่ถ้าวัยรุ่นๆไม่แน่ครับ

ผมมีมุมมองต่างจากเจ้าของกระทู้ว่า....เวปที่เราทำนั้นถ้าต้องการลูกค้าคนไทยและลูกค้าใช้IE6 ผมก็คงต้องปรับมาหาลูกค้า ลูกค้าเดี๋ยวนี้ขี้น้อยใจ ใจร้อน แต่ถ้าลูกค้าเป็นชาวต่างชาติและใช้FF ผมก็ปรับตามลูกค้าครับ
ถ้าทำเวปแบบตัวเราเป็นหลัก ไม่ได้มีเป้าหมายต้องบริการคนเข้าชม...ก็ทำอย่างที่ทำแหละครับ แปะป้ายอธิบายอย่างนั้น..โอเคเลยครับ

ขอบคุณมากครับ 
กดThankให้1ทีครับ

เป็นบทความที่ดีมากเลยครับ....อ่านแล้วเข้าใจง่าย หลักการที่อ่านแล้วเห็นภาพเลยครับ
Simple is the best
ขอลอกหลักการไปใช้แล้วกันครับ

เนื้อความในจดหมายตามเรื่อง Three Letters From Teddy
http://www.pattishomepage.com/read/teddy.htm

นี่ก็อีกเวปไซด์หนึ่งที่ตามไปเจอว่าเรื่องนี้แต่งขึ้นมา เขาก็สรุปขมวดท้ายได้ดีว่า แม้มันจะรู้สึกว่าหงุดหงิดใจที่รู้ว่าเรื่องนี้มันไม่จริง โดยคนเขียนบทความได้ฟังเรื่องราวนี้มาจากในโบสถ์วันอาทิตย์จากปากนักสอนศาสนา ซึ่งแน่นอนว่าหลายคนในโบสถ์เชื่ออย่างไม่ต้องสงสัยว่า มันเป็นเรื่องจริง คนเขียนบทความนี้อยากจะให้ใครๆก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นครู นักสอนศาสนาในโบสถ์ หรือคนที่ต้องการความน่าเชื่อถือจากคนอื่น
1.ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเรื่องที่จะเล่านั้นมีแหล่งที่มาน่าเชื่อถือแค่ไหน
2.อย่าได้เล่าเรื่องแต่งขึ้นให้มันดูเหมือนเรื่องจริง
3.ถ้าไม่รู้ว่ามันจริงหรือไม่ ก็ได้โปรดบอกไปเลยว่าไม่แน่ใจ
4.มันคงจะดีกว่าที่จะระมัดระวังแทนที่จะต้องกล่าวว่าเสียใจหือขอโทษในภายหลัง....คือตรวจสอบให้ดีก่อน
5.กรุณาอย่าใช้เรื่องของTeddyอีก
อ่านมาจาก...http://www.markdroberts.com/ht...es/archives/9.1.04-9.30.04.htm
นี่ก็อีกเวปหนึ่งที่เขาบอกว่าเรื่องนี้มันไม่จริงhttp://www.truthorfiction.com/rumors/t/teddy.htm

ผมไม่ได้มีอคติอะไรกับผู้นำเรื่องนี้มาแปะนะครับ เพียงอ่านเรื่องนี้แล้วประทับใจอยากจะหารูปหมอคนนี้มาดูก็ใช้Googleเข้าหาถึงไปเจออะไรมากมาย แต่ไม่มีรูปจริงๆของหมอคนนี้ หรือครูท่านนี้ อ่านไปอ่านมาแล้ว..อ้าว...มันเป็นอย่างนี้เองหรือ
.บนโลกยุคข่าวสารข้อมูลท่วมโลก เรามีเวลาน้อยเกินไปจะเช็คความถูกต้องของข้อมูล เราหยิบมาใช้เพียงเพราะมันสะดวก คนอื่นเขาก็เอาไปใช้ มันดูดี แต่สุดท้ายมันไม่จริง...เสียดายเรื่องนี้จริงๆ ผมล่ะอยากให้มันเป็นเรื่องจริง

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เขียนขึ้น ไม่ใช่เรื่องจริง
This is a fictional story written by Elizabeth Silance Ballard; published in 1974 by “Home Life Magazine” as “Three Letters from Teddy”
ลองใส่คำว่า"Teddy Stallard" และ"Theodore F Stoddard"
ต้นฉบับก็ลอกแจกกันไปตามเวปที่ประเภทให้กำลังใจอย่าง
http://www.inspirationline.com/EZINE/25MAY2009.htm#InsideOut

ถ้าอ่านเพื่อสร้างกำลังใจก็โอเคครับ....ถ้าเรื่องจริงที่ประเภทนี้ก็ลองไปอ่านเรื่องของ Brad Cohen จากเรื่อง Fornt of Class : How Tourette Syndrome Made Me the Teacher I Never Had ที่HallMarkทำเป็นหนังออกมาให้ดูครับ

เรื่องนาฬิกาปลุกนั้น....ตอนเราตั้งให้ปลุกตอนเก้าโมงเช้า เราก็ต้องหมุนนาฬิกาปลุกแบบหน้าปัดกลม...ไม่ใช่แบบดิจิตัลที่ใช้กันในมือถือนะ มันก็เลยดังตอนสามทุ่มด้วย เลยนอนไปแค่ 1 ชั่วโมงครับ โจทย์มันไม่เคลีย์

"แล้วก็จะเอาข้อมูลของพวกเขาไปเสาะหาว่าเขาทำเวปอะไร มี keyword niche ตัวไหนที่ของเขาที่น่าจะ ทำเงิน บ้าง
แล้วทีนี้ผมก็จัดการลอก keyword ของพวกเขาแล้วเอามาทำเวบตัวเอง....".....จากประโยคแสดงว่าก็ยังไม่แน่ใจว่าKeywordของเขาจะทำเงินได้หรือไม่ ใช่ไหมครับ เป็นการคาดเดาเอาเองว่าอันนี้น่าจะใช้ได้ใช่ไหมครับ ....เก่งครับ เพราะมันไม่ง่ายเลยครับ

ผมขอยกตัวอย่างว่า ผมเดินไปเห็นร้านขายขนม เขาวางขายขนมถ้วยฟูที่ดูน่าทาน หอมมากๆ แล้วผมก็คิดว่าเขาขายดี เพราะมีคนมาซื้อเรื่อยๆ ผมก็กลับบ้านไปดูสูตรในตำราแล้วลองผสมกลิ่นลงไปเอง ใส่สีลงไปเอง แล้วทำขนมออกไปขายเองโดยหน้าตาขนมออกมาเหมือนกัน แบบนี้เรียกว่าขโมยหรือเปล่าครับ.....

ไม่ต้องคิดมากครับ ตอบผมตามที่ถามได้ ผมว่าคุณก็เข้าใจเองแหละครับ  :-\ :-\ :-\

ขอบคุณในน้ำใจที่แบ่งปันครับ

ถือเป็นบทเรียนครับ ถ้าวิธีที่คุณทำ มันทำให้คนมีเงินกันทั้งบ้านทั้งเมือง easybuyคงทำก่อนเป็นกลุ่มแรกแล้วครับ
No Easy Money....วิธีการปลดหนี้นั้น คงหาอ่านได้จากหนังสือหลายเล่ม ที่เป็นหลักการที่ทำๆกันคือ แบ่งเงินจ่ายส่วนที่ดอกเบี้ยมากที่สุดก่อน เพราะถ้าปล่อยไว้มันทบเป็นทวีคูณ หรือหากู้แหล่งเงินที่ดอกน้อยกว่า ผ่อนได้นานกว่าไปโป๊ะเจ้าeasybuyก่อน บางคนบอกว่าไม่ต้องจ่าย ปล่อยให้ถูกท้วงแล้วฟ้อง ผมว่าหนี้แค่หลักแสนกว่า ไม่รู้ว่าคุ้มไหม กับการถูกท้วงเงินแบบเสียสุขภาพจิต เผลอๆงานที่ทำก็ตกจนจะถูกไล่ออกจากงาน ถ้าปล่อยจนถูกฟ้องจริง ค่าต่างๆมากมายอย่างค่าท้วง ค่าติดตามหนี้ ค่าทนาย บวกๆเข้าไป พอศาลประนอมหนี้ กลัวตัวเลขหนี้ที่easybuyยื่นให้ศาลอาจมากกว่าที่คุณคิด
ท่องไว้สองคำครับ...มีสติและจงอดทน ที่พาให้ผ่านหนี้ได้ครับ