เคล็ดลับหลุดพ้นความจนตลอดชาติ ยาวมากกๆเขียนมา2ปียังไม่จบเลย
เอามาจากบอร์ดเกมส์ ซีล
http://www.sealonline.in.th/co...p?TID=19263&PN=1&TPN=1 
ตอนที่ 1 : บทนำ
จำได้ ตอนบอยเรียนมัธยมอยู่ฮ่องกงปี 251X เขียนจดหมายมาบ่นกับเตี่ยที่ไทยว่า บอยจะแย่แล้ว กินไม่อิ่ม นอนไม่หลับ ไม่มีเงินแม้แต่จะซื้อเครื่องคิดเลข(สมัยนั้นก ็แพงอยู่นะ ร.ร.ที่นั่นเขาบังคับต้องใช้ตั้งแต่ ม.1 ขึ้นแล้วตอนนั้น) ถ้าเตี่ยมีเงินเหลือบ้าง ให้ส่งมาช่วยบอยด้วย 10 วันผ่านไป ได้รับจดหมายจากเตี่ย ดีใจแทบลมจับ รีบเปิดอ่านอย่างเร็วเลย --- อ้าว ไม่เห็นมีเงินหรือ draft แลกเงินสักใบเลยนิ มีแค่ข้อความสั้นๆจากพู่กันลายมือเตี่ยเขียนว่า
"ตี๋โอย เงินน่ะ มันเป็นของว่าง มีเต็มตลาด ลื้อไปหยิบมาได้เลย ไม่ต้องมาเอากับเตี่ยหรอก"
ช๊อกไหม!!! ท่านพี่น้อง บอยตอนนั้นก็ช๊อกและโกรธเตี่ยมากๆๆๆๆๆๆ แบบจำไว้เลย ตลอดชีวิตจะไม่ให้อภัย --- อะไร(ว่ะ) เงินมีเต็มตลาด ตลาดไหนกัน(ว่ะ) สงสัยเตี่ยต้องแก่จนเพี้ยนแน่ๆเลย หรือไม่ก็ต้องยายคุณนายที่ 3 (ภรรยาคนที่ 3 ของเตี่ย จำได้ไหม เตี่ยบอยมีภรรยาพร้อมกัน อยู่บ้านเดียวกัน 3 คน) เนี่ยเป่าหูเตี่ยไม่ให้ช่วยบอยแน่ๆเลย .....................แต่มาวันนี้บอยถึงรู้ว่าเตี่ยพูดถูกที่สุด!!!!
ตอนที่ 2 : ความจนคืออะไร? และอะไรถึงเรียกว่าหลุดพ้นจากความจน?
2 ข้อนี้บอยไม่ได้ไปบรรยายอยู่ ม.จุฬา ที่พี่เขยบอยซึ่งเป็นรองอธิการบดีในปัจจุบัน เคยเชิญให้บอยไปเป็นอาจารษ์พิเศษ ฉะนั้น ทฤษฏีเราไม่เอา เอาแต่ชีวิตจริงล้วนๆ เราจะมาพูดถึงในความหมายในแบบชีวิตจริงกัน บอยจะพยายามเอาแบบรวดรัดที่สุด
1. ความจนคืออะไร?
a. ความหมายทั่วไป: จนก็คือจน เงินไม่พอใช้ รายรับไม่พอรายจ่าย หนี้สินมากมาย
b. แต่ความหมายของบอยในกระทู้นี้: จะหมายถึง ตัวเราเอง (ไม่ใช่พ่อแม่นะ) ไม่มีบ้านเป็นของตัวเอง(ปลอดจำนองนะ) ไม่มีรถยนต์ราคาปานกลาง(ปลอดไฟแนนซ์นะ) ไม่มีตังใช้จ่ายเพียงพอในครอบครัว ไม่มีตังซื้อของใช้ทั่วๆไปที่คน middle class เขาใช้กัน เช่น โทรศัพท์มือถือ TVจอใหญ่ คอมพิวเตอร์ ไม่มีตังพาครอบครัวไปอาบแดดที่โรงแรมที่ชะอำหัวหิน ลูกๆไม่มีตังเล่นเกมซีลอย่างเพียงพอ ไม่พอตังค่าเทอมลูก ไม่มีตังเก็บพอสมควรไว้ใช้ยามฉุกเฉินเช่น ยามเจ็บไข้ได้ป่วย หรืออุบัติเหตุ และ ต้องเรา้ยืมเงินคนอื่นเป็นบางครั้งเนื่องจากในแบงก์ตัวเองมีเงิน ไม่พอ ไม่ว่าแบงก์/เพื่อน/โรงจำนำ ฯฯฯฯ นั่นแหละ ในกระทู้นี้บอยถือว่า คุณคือคนจน
2. อะไรถึงเรียกว่าหลุดพ้นจากความจน ?
ตัวเราเอง (ไม่ใช่พ่อแม่นะ) สามารถมีทุกอย่างในข้อ 1b แต่ไม่มีหนี้สินแม้แต่บาทเดียว ในกระทู้นี้ บอยจะถือว่าคุณหลุดพ้นจากความจนแล้ว และจะต้องหลุดพ้นให้ตลอดชาตินี้ด้วย จะต้องพยายามอย่างที่สุดไม่ให้กลับไปจนแบบเดิมอีกครั้งอย่างเด็ ดขาด ดั่งคำบราณจีนว่าไว้ :
จากจนสู่รวย ขึ้นเขาว่ายากเย็น
จากรวยสู่จน ลงเขาปักด้วยมีด
ดีๆๆๆ วิเศษวิเศษ น้ำลายไหลแย้ว ตาบอย รู้แล้ว รู้แล้ว แล้วทำยังไงล่ะ ถึงจะหลุดพ้นจากความจนที่ตาบอยว่าได้อ่ะ อยากรู้ อยากรู้ อ่านมา 4 หน้าแล้วยังไม่รู้เลย
อ้าว ก็พี่น้องจะไปรู้ได้ไงอ่ะ ก็บอยเองยังไม่รู้เลย!! ก็บอยยังรวมมิตรไม่เสร็จเลยอ่ะ ความรู้มันเก่า+หลายสายจนแตกเป็นหลายเสี่ยง แล้วเนื่องจากบอยผ่านจุดความจนนั้นมาประมาณ 10 กว่าปีได้แล้วมั้ง ตั้งแต่อายุ 27-29 ได้ เดี๋ยวขอเวลาบอยอีก 1-3 วันในการเรียบเรียง
Part II
เคล็ดลับเบื้องต้น ซึ่งเป็น หัวใจหลัก และ คุณสมบัติ ของผู้มีหวังสำเร็จในการ "หลุดพ้นความจนตลอดชาติ":
1. Spirit of Crazy Gamer
เล่น"เกม"ได้ทั้งวัน ทุกๆวัน ไม่เว้นวันตรุษ วันสาส์ วันพระ วันเจ้า ไม่มีเหนื่อย ไม่มีบ่น ไม่มีท้อ 7วันไม่ต้องอาบน้ำ อดข้าว อดนอน โดดเรียน อดขี้ อดทนตีบอสเป็นชั่วโมงชั่วโมงไม่มีเมื่อยไม่มีบ่น ยืนขายของทั้งวันไม่มีเหนื่อยไม่มีท้อ ยืดได้หดได้เป็นเลิศ เสียงอ่อนเสียงหวานทั้งวันเพื่อหาตี้ล่าบอสโอม สลบฟุบคาหน้าจอเพื่อเลี้ยงไข่ ฯลฯ
Spirit ที่ว่ามานี้ ขอเพียงแค่เปลี่ยนจากคำว่า "เกม" มาเป็น "งาน" แม้เพียงสักครึ่งเดียว ท่านก็จะประสบความสำเร็จในการหลุดพ้นความจน อย่างงดงาม -- ถ้าท่านใดไม่มี "Spirit ที่ว่านี้ในการทำงาน" ล่ะก็ จงกลับไปเล่นเกมของท่านต่อเถิด เพราะท่านอ่านต่อไปก็เสียเวลาเปล่าๆ
2. คุณธรรม ศีลธรรม จริยาธรรม เมตตาธรรม ธรรมๆทั้งหลายฯ เช่น:
- ไม่ใช้ชีวิตประจำวัน และ ทำการค้าใดๆที่ผิดกฏหมายบ้านเมือง เช่น โกงภาษีรัฐบาล เสพยา ค้ายา ขายหนังX ค้าของเถื่อน ฉ้อโกง ลักทรัพย์ ฯลฯ
- ตลอดชีวิต ต้องพยายามรักษาความ ซื่อสัตย์ สุจริต ขยัน อดทน ประหยัดมัธยัตถ์ ไม่เอาเปรียบผู้อื่นและสังคม ฯลฯ
- เป็นลูกจ้าง ต้องไม่โกงนายจ้าง รักนายจ้างและบริษัทเหมือนของเราเอง
- เป็นนายจ้างหรือผู้บริหาร ต้องรักและเมตตาลูกน้องเหมือนพี่น้องเราเอง อย่ากดขี่ข่มเหงเขา หรืเอาแต่ผลประโยชน์เข้าตัวเองหรือบริษัทฝ่ายเดียว
- ใช้ชีวิตประจำวันด้วยการมีเมตตาธรรม เช่น ทำบุญ ช่วยคนจน ช่วยภัยพิบัติ ช่วยสังคม ช่วยญาติพี่น้องเพื่อนพ้องลูกน้อง ไม่ว่าด้วยแรงกาย เงินทอง หรือสิ่งอื่นใดก็ตาม ด้วยกำลังที่เราคิดว่าเหมาะสมกับสภาพของเราตอนนั้นๆ
- ต้องประพฤติตนอย่างถูกต้องในเรื่องชู้สาว ตั้งแต่วัยเรียนจนถึงแก่ตาย เรื่องนี้สำคัญยิ่งนัก ต้องขยายความดังนี้:
a.ช่วงวัยเป็นนักเรียน : (ท่านผู้หญิงขอให้ไปประยุกต์คิดเอาเองในข้อนี้) อย่าไปเอาทำอะไรกับนักเรียนหญิงแบบชู้สาวเด็ดขาดชนิดที่ว่า "ต่อให้แก้ผ้าต่อหน้าผม ผมก็ไม่เอา " น้องๆอ่านแล้วขำกลิ้งละสิ คงคิดล่ะสิว่า "ของฟรีไม่เอาก็โง่สิ ไม่เอาเขาก็ว่าเราไม่แมนสิ เป็นตุ๊ดเป็นเกย์ สิเพ่"
ไม่ต้องขำเลยนะน้องๆ บอยเคยมาแล้ว 20-30 ปีก่อนฮ่องกงเมืองขึ้นอังกฤษเก่า และเมกา พวกนี้ Free Sex ยิ่งกว่าไทยตอนนี้เสียอีก ขนาดสาวๆนักเรียนมัธยมที่ฮ่องกง มาแก้ผ้าต่อหน้าหลายคนหลายครั้ง บอยยังไม่ทำเลย ไม่ใช่เพราะทำไม่เป็นหรือไม่กล้า แต่เพราะเราสงสารเขา เพราะเราก็ไม่มีปัญญารับผิดชอบอะไรเขาในตอนวัยเรียน ถ้าเราทำอะไรเขาไป นอกจากผิดศีลธรรม กฏหมาย คุณธรรม ต่างๆแล้ว ยังแสดงให้เห็นว่า เราไม่ได้มีใจรักเธอ หรือพ่อแม่เราหรือใครบนโลกนี้ทั้งนั้น แต่เราเป็นผู้เห็นแก่ตัวอย่างที่สุด
เราจะต้องยึดถือหลัก 5 ข้อข้างบนอย่างเคร่งครัด เพื่ออนาคตของเราและเธอ เราจึงไม่ทำ "ของฟรีบอยไม่เอาเด็ดขาด" ดั่งในอดีตจีน มีผู้หนึ่งซึ่งยึดถือหลักธรรมโดยเคร่งครัดในชีวิต ชื่อ ออกเสียงกวางตุ้งว่า "เหลาฮาหว่าย" มีกลอนอันเลื่องชื่อบทหนึ่งที่กวีเอกแต่งเพื่อเขาว่า:
เหลาฮาหว่ายเอ่ย
หญิงงามแก้ผ้ามานั่งตัก ยังไม่วอกแวกแม้แต่นิดเดียว
b.ช่วงวัยทำงาน เป็นลูกจ้าง นายจ้าง หรือ ผู้บริหาร: (ท่านผู้หญิงขอให้ไปประยุกต์คิดเอาเองในข้อนี้) เพื่อนร่วมงานเราไม่หลอกฟัน ไก่วัดเราไม่กิน ให้มีโอกาสหรือหญิงทอดสะพานเป็นใจแค่ไหนเราก็ไม่เอาเด็ดขาด
ขอบอกว่า บอยเป็นผู้บริหารมาหลายประเทศมาก เป็นหัวหน้าใหญ่(นั่งห้องทำงานส่วนตัว)ของบริษัทยักษ์ใหญ่ข้ามช าติตั้งแต่อายุ 24 เป็นผู้จัดการโสดสนิท (เงินเดือน 12,000 US$) ตั้งแต่อายุ 27 ตอนปี 198X เจอมาหมดทุกรูปแบบ ทั้งปลดกระดุมเสื้อ 3 เม็ดแล้วก้มลงให้บอยเซ็นชื่อเอย ไม่ใส่ชุดชั้นในทั้งบนและ/หรือล่างแล้วนุ่งสั้นเข้าห้องทำงานบอ ยเอย โถเข้าใส่เอาหน้าอกเบียดเอย ทำเป็นล้มมานั่งตักเอย ทำตัวเปียกวิ่งมาหาเอย ชวนไปบ้าน แล้วแกล้งอาบน้ำแก้ผ้าเดินออกมาเอย ฯลฯ โอ๊ย บรรยายไม่ไหว เอาเป็นว่า เรื่องจริงไม่อิงนิยาย ทุกประเทศโดนมาแล้วทั้งนั้น บอยก็ยังไม่รู้เลยว่า ตัวเองรอดกลับมาเมืองไทยได้อย่างไรก็แล้วกัน อามิตตาพุด
c.หลังเกษียณ อายุ 40-60 แล้ว : เมื่อหลุดพ้นความยากจนไปไกลขึ้นไกลขึ้น หรือมุ่งสู่ความรวยแล้ว คนเรามักจะเหลิงตัวเองเสียส่วนใหญ่ และจะเสียดายชีวิตวัยหนุ่มของตัวเอง อยากกลับไปกระชุ่มกระชวยอีกครั้ง บางคนมีความคิดผิดๆว่า หาสาวๆเอาะๆแล้วจะช่วยได้ ซึ่งเป็นการคิดผิดที่สุดในชีวิต แบบตัวอย่างดาราหรือผู้คนมากมายรอบตัวเรา ที่มีให้เห็นจุดจบบ่อยๆ และปัญหาสังคม+ครอบครัว ที่เขาเหล่านั้นทิ้งไว้เบื้องหลัง หลังจากลาโลกนี้ไปแล้ว
จงอย่าเห็นแก่ตัวในเรื่องชู้สาวพวกนี้ตอนแก่เลยครับ จงประพฤติตนให้เสมอต้นเสมอปลาย ยึดถือ 1 สามี 1 ภรรยา ชู้ไม่มี ความสุขครอบครัวคือความสุขเหนือสิ่งอื่นใด เหนือกว่าความสุขส่วนตนของหัวหน้าครอบครัว แล้วชีวิตของท่านและครอบครัว ลูกหลานเหลนโหลน ก็จะพบแต่ความสุขความเจริญ ทุกคนจะรักและเคารพ คิดถึงท่านตลอดไป แม้ท่านจะลาโลกนี้ไปแล้ว นานเท่าใดก็ตาม คงไม่มีใครอยากให้ลูกหลานสาบแช่งที่ทิ้งปัญหาที่เกิดจากชู้สาวไ ว้ให้ลูกหลานแก้ไม่จบหรอกใช่ไหม
ดั่งคำจีนว่าไว้ :
เด่นดังเทียมฟ้าไร้เทียมทาน สุดท้ายจบลงกลบด้วยดิน
ทิ้งไว้แต่เพียงชื่อเสียง ทำดีให้คนสรรเสริญตลอดกาล
3. ไม่เล่นหวย
- ทั้งบนดินและใต้ดิน ถ้าไม่ซื้อแล้วจะตาย ก็อนุโลมให้ซื้อได้แบบจำกัดวงเงิน เช่น ไม่เกิน 100/เดือนเป็นต้น
4. ไม่ซื้อหุ้น
- ยกเว้นที่บริษัทที่เราทำงานอยู่ให้ Stock Option มา ไม่ต้องห่วง เมื่อเราผ่าน 2 เส้นชัยไปไกลแล้ว ก็จะถึงเวลาลง
ทุนในหุ้นแล้ว แต่ไม่ใช่ตอนนี้ ที่เรายังยากจนอยู่
5. ไม่แตะการพนันทุกชนิด
- ไม่แทงบอล ไม่เข้าบ่อน(ไม่ว่าถูกหรือผิดกฏหมาย) ยกเว้นเล่นไพ่สนุกๆกันในหมู่เพื่อนฝูงด้วยเงินเล็กน้อยสนุกๆ เมื่อเราผ่าน 2 เส้นชัยไปไกลแล้ว ถ้าไปเที่ยวบ่อนถูกกฏหมายที่เมืองนอก เช่น Las Vegas, Atlantic City, Reno, Australia, New Zealand, Macau, Malaysia-Genting Highland แล้วอยากเข้าบ่อนเล่นสนุกๆล่ะก็ ให้ตั้งวงเงินที่จะเข้าไปเล่น ตามแต่กำลังทรัพย์ของเราในขณะนั้น เช่นเทียบเท่า 3 หมื่นบาทหรือ 3 แสนบาทเป็นต้น แล้วจะต้องคิดอย่างเดียวว่าเข้าไปเล่นสวนสนุก ไม่ได้หวังเงินแม้แต่เซ็นต์เดียว
เล่นในวงเงินนี้ พอหมดก็เลิก ห้ามเติมอีกเด็ดขาด ให้ไปเที่ยวที่อื่นที่ไม่มีบ่อนได้แล้ว ห้ามหมกมุ่นอยู่ที่เดิมเด็ดขาด ดูอย่างเดียวก็ไม่ได้ เดี๋ยวหมดตูด เพราะบรรยากาศ ผู้คนมันเป็นใจ ไม่ใช่เราไม่แน่วแน่ แต่คนฉลาดต้องรู้จักป้องกันตัวไว้ก่อน เพื่อเราตัวเองและครอบครัว!!
6.และอื่นๆ ยังคิดไม่ออก (ปุ๊บปั๊บยังคิดไม่ออก นี่แหละคือเหตุผลที่รุ่นพ่อแม่ เขาต้องสอนเราตามแต่โอกาส เพราะจะมาให้คิดภาพรวมทุกข้อทุกข้อในชีวิตนั้น มันคิดไม่ออกไม่ครบถ้วนจริงๆ เพราะอายุมาก ประสบการณ์มันมากเกิน ลืมไปลืมมา ลืมโน่นลืมนี่
คำถามคาใจผู้อ่าน:
คำถามที่ 1. เอาอีกละ ถูกตาบอยนี่ หลอกพวกฉานมาเทศเอามันอีกละ แล้วข้อต่างๆข้างบนเนี่ยมันเกี่ยวอะไรกับการ "หาเงิน" เพื่อพ้นความจนฟะ เคล็ดลับอะไรเนี่ย ในวัดก็มีเทศแบบนี้ให้ฉานฟังทุกวัน ตาบอยนี่สงสัยท่าจะแก่จนเพี้ยนเสียแล้วมั้งเนี่ย ?
ตอบ: ก็นี่แหละ ส่วนหนึ่งของเคล็ดลับล่ะ เพราะถ้าท่านไม่ยึดถือคุณสมบัติข้างต้นอย่างเคร่งครัด ต่อให้ท่านเก่งเท่าฟ้า ท่านก็ไปไม่มีทางหลุดพ้นความจนตลอดชาติ หรือถ้าใช้วิชามารเพื่อไปให้ถึง ก็จะเจอแบบวันดีคืนร้ายถูกจับเข้าคุก ริบทรัพย์ เสียพนันหมดตูด หนี้สินรุงรังต้องไปฆ่าตัวตาย หรือบ้านแตกสาแหรกขาด เมียหลวงตัด(น้องเล็ก)ให้เป็ดกิน เมียน้อยยิงท่านตาย ชู้รักในมหาวิทยาลัย(เพราะท่านหลายใจ ควงทีละหลายคน และไปทำอะไรเขาไว้) เอาท่านไปชำแหละศพ แล้วใส่ถุงโยนทิ้งแม่น้ำบางปะกง ฯลฯ
ลูกหลานเหลนโหลนท่านเห็นตัวอย่างไม่ดีของท่าน แล้วกลายเป็นคนติดยาเป็นมหาโจร หรือ ถูกคนกลั่นแกล้งหรือฆ่าตายเพื่อชำระแค้นที่ทำโดยท่าน มาแบบในหนังเลยนะ ขอบอก เรื่องจริงเลย บอยเห็นมามากแล้ว แล้วท่านจะดิ้นรน "หาเงินทั้งชีวิต" ไปเพื่ออะไรกัน ถ้าสุดท้ายแล้วท่านและครอบครัวท่านต้องพบจุดจบเช่นนี้ !?
การประพฤติตนผิดหลาดในชีวิตนั้น มันเหมือน"คนที่ถูกสาป" ต่อให้หนีการลงโทษของพระเจ้าได้ ไม่ว่าศาสนาใดก็ตาม หนีอาญาบ้านเมืองได้ ก็หนีความวิบัติของตัวเองและครอบครัวไม่พ้น จะช้าหรือเร็ว มากหรือน้อย เท่านั้น
การใช้ชีวิตและการประพฤติตนของท่านตลอดเวลาที่วิ่งเพื่อหลุดพ้น ความจนนั้น ไม่ว่าในเวลางาน นอกเวลางาน ก็ดี ท่านประพฤติตนเช่นไร ผลรับที่ท่านจะได้รับก็จะออกมาเช่นนั้น ถ้าเราเน้นเฉพาะผลรับทาง "การเงิน" ล้วนๆ บอยก็จะยกตัวอย่างให้คร่าวๆให้ฟัง เช่น :
- ถ้าท่านทำได้หัวใจหลักทั้ง 5 ข้อดังกล่าว แม้แต่พราะเจ้าไหนๆในโลก ก็จะคอยปกปักรักษาและคุ้มครองท่าน ตลอดชีวิตของท่านและครอบครัว ไม่ว่าท่านจะเรียน ทำงาน ทำการค้า เกษียณแล้วลงทุน อะไรก็แล้วแต่ เมื่อท่านมีความเชื่อมั่นว่า Gods will be with you หรือ Force will be with you ก็แล้วแต่ มันก็จะเกิดความพลังความเชื่อมั่น ความมุ่งมั่นแบบที่ประเมิณไม่ได้ Faith preceeds Miracles แปลว่า "ความเชื่อมั่นมาก่อนปฏิหารย์" ขาดซึ่งความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าแล้วไซร้ ปฏิหารย์ อย่างเช่นการฝืนชะตาฟ้าฝืนลิขิตสวรรค์ (เพราะท่านอาจถูกพระเจ้าลิขิตให้เกิดมาแบบจนบริสุทธิ์) เพื่อ "หลุดพ้นความจนตลอดชาติ" ก็ไม่อาจเกิดขึ้นได้ในชีวิตท่าน
- ถ้าท่านซื่อสัตย์ สุจริต ขยันอดทน ท่านก็จะมีรายได้ OT มากขึ้นเพื่อมาวางแผนหลุดพ้นความจน ได้รับการชื่นชมจากผู้บังคับบัญชา และมีโอกาสได้เลื่อนตำแหน่งก่อนและสูงกว่าคนอื่นๆ นั่นหมายถึงรายได้ที่เพิ่มขึ้น
- ถ้าท่านไม่ทำกระทำการใดๆที่ผิดกฏหมาย ท่านก็จะไม่ต้องพังวงหน้าพะวงหลัง กลัวใครมาจับ กลัวแก๊งไหนพวกไหนมาเอาคืน ท่านก็จะตั้งหน้าตั้งตาทำการค้าอย่างสบายใจ และไม่มีเหตุกาลแบบ คืนเดียวหมดตูด หรือ เสียชีวิต หรือเข้าคุกกระทันหัน แล้วท่านจะเอาอะไรไปหลุดพ้นความจนล่ะทีนี้ จนหนักกว่าเดิมเสียอีก
- รักนายจ้าง ท่านก็จะได้ความรู้ความชอบจากนายจ้างที่รักตอบท่านด้วยเงินและโ ปรโมชั่น
- รักลูกจ้าง ท่านก็จะได้พลังขับเคลื่อนทางธุรกิจอย่างที่ท่านคาดไม่ถึง นั่นหมายถึงเงินๆๆๆ
- มีเมตตาต่อคนรอบข้างและในสังคม จะช่วยให้ท่านจิตใจสงบสุข คนเราถ้าจิตใจไม่เป็นสุขแล้ว จะเอาอะไรไปหาเงินเล่า ไม่งั้น แรงเย่อ เขาทำไมต้องโฆษณาว่า "แรงกาย แรงใจ ไม่มีวันหมด แรงชักกะเย่อ" เล่า จริงไหม แถมอาจจะได้ความช่วยเหลือจากคยรอบข้างกลับคืนมา แบบท่านคิดไม่ถึงเลยก็ได้ในวันข้างหน้า
- ประพฤติตนให้ถูกต้องอย่างเคร่งครัดในเรื่องชู้สาวตลอดชีวิต ตั้งแต่หนุ่มยันตาย (ข้อนี้สำคัญยิ่งนัก อย่าประมาทเด็ดขาด พังและตายก่อนวัยอันควรมานับไม่ถ้วน ก็เพราะข้อนี้แหละ) ไม่ต้องเสียเงินเลี้ยงหญิงจนหมดตูด(แต่ลับหลังแอบเจ๊ะมาม่า เคยละซิ 555+ ) ไม่ต้องแต่งงานก่อนกำหนด ไม่ต้องมีลูกแบบ "ทีทับไม่ร้อง ทีท้องจะให้ตูรับ(คนเดียว)" ไม่ต้องเสียเงินเลี้ยงเมียน้อย ไม่ต้องกลัวใครมาแบ๊คเมลเพราะไปเป็นชู้กับลูกเมียผัวใครเขา ไม่ต้องเสียเงินนอน ร.พ.เพื่อต่อ"น้องเล็ก"ที่ถูกตัดทิ้ง ไม่ต้องเสียเงินทำศัลกรรมตกแต่งเมื่อถูก~* ม่ายเอาไม่พูด *~ น้ำกรด
ซึ่งก็คงทราบใช่ไหมว่า เรื่องพวกนี้ต้องใช้เงินจำนวนมหาศาลทั้งนั้น และไม่มีวันสิ้นสุดจบลงง่ายๆด้วย มันยืดเยื้อยาวนานยิ่งกว่ากระทู้ของบอยอันนี้หลายพันเท่า แล้วท่านจะเอาแกลบกับเวลาและจิตใจไปทำงานที่ไหน เพื่อไปหลุดพ้นจากความจนตลอดชาติเล่า อย่าพูดถึงตลอดชาติเลย แม้แต่หนึ่งวัน ก็ไม่มีทาง
คำถามที่ 2. บางท่านอาจจะแย้งว่า นี่ตาบบอย ฉานไม่ใช่เทวดานะยะ ขนาดเทวดาเลี้ยงควายกับนางฟ้าทอผ้ายังแหกกฏสววรค์ แล้วถูกลงโทษให้พบกับเพียงปีละ 1 วันเท่านั้น แล้วนี่ฉานเป็นมนุษย์ธรรมด๊าธรรมดาคนหนึ่ง มีรักโลภโกรธหลงเป็นของคู่กันแต่กำเนิด แล้วฉายจะยึดถือคุณสมบัติมากมายก่ายกองยากๆทั้งนั้น ของตาบอยได้หรือนี่ หรือพวกตาบอยเองทำได้ หือ?
ตอบ : ขอบอกว่า พวกบอยทุกคนทั้งหมด ทำได้ไม่ต่ำกว่า 95% ขึ้นครับ ทำมาตั้งแต่แรก และยังยึดถืออย่างเคร่งครัดเสมอมาและตลอดไป ส่วนอีก 5% ที่เหลือ ถ้ามีพลั้งเผลอไปบ้าง ก็จะรีบเตือนใจตัวเองหรือได้รับการตักเตือนจากคนรอบข้าง แล้วรีบหันหลังกลับ ปรับปรุงตัวเองและแก้ไขทันที ไม่ปล่อยใจปล่อยกายให้ถลำลึงลงไปมากกว่านี้ พร้อมทั้งยอมรับผลกรรมกับการกระทำที่ผิดพลาดนั้นๆอย่างเต็มใจ
ถ้าท่านไม่มีคุณสมบัติเบื้อต้นดังกล่าวทั้ง 5 ข้อนั้น หรือมีแต่น้อยมาก ก็ขอให้กลับตัวกลับใจ ฝึกฝนตัวเองซะใหม่ เพื่อเป้าหมาย "หลุดพ้นความจนตลอดชาติ" อย่างที่ที่ทุกท่านพร่ำพูด พร่ำเพ้อ แขวนไว้บนริมฝีปากทุกๆวัน แต่ทีให้ Action กลับเบ๊ะๆ (อ้าปากเห็นแต่โบ๋ๆ)
----------------------------------
ตอนที่ 4
Part I -- ตัวอย่างในอดีต ในการหลุดพ้นความจนตลอดชาติ
ถาม: ศัตรูตัวร้ายของความจน -- ค่าใช้จ่ายอะไรบ้างที่เป็นศัตรูในการหลุดพ้นความจนของพวกเรา?
ตอบ:
1. ค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยตอนหนุ่มสาว เช่น จีบหญิงจีบชายจีบกระเทย เกม มือถือ ดูหนังฟังเพลง เธค เหล้า บุหรี่ ฯ
2. ค่าบ้าน
3. ค่ารถ
4. ค่าสินสอดทองหมั้น ค่าแต่งงาน
5. ค่าเลี้ยงลูก ค่าเล่าเรียนลูกฯ
6. ค่าใช้จ่าย กินอยู่แบบ Middle class
7. ค่ารักษาพยาบาล อุบัตเหตุ ฉุกเฉินฯ
เราจะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อกำจัด Monsters ศัตรูตัวร้าย 7 ตัวข้างบนนี้ให้ได้ เราถึงจะหลุดพ้นความจนได้ ฉะนั้น ใน Case Studies 1-5 อันต่อไปนี้ ขอให้ทุกท่าน โปรดสังเกตจุดที่สำคัญต่อการเงินในชีวิต ใน 7 จุดดังกล่าว ว่าพระเอกของเราจัดการกับศัตรูทั้ง 7 ตัวนี้อย่างไร
Case Study 1 -- เจ้าของร้านเพชรทองในปัจจุบัน (นามสมมติ "ป๋า")
ประวัติย่อ : ครอบครัวยากจนมาก พ่อเสียตั้งแต่หนุ่ม เหลือแต่แม่เลี้ยงดูมาแบบอดๆอยากๆ อาศัยอยู่ตึกแถว 2 ชั้นเก่าๆโทรมๆที่วรจัก กทม. ซึ่งเป็นสมบัติชิ้นเดียวของตระกลที่มี "ซื้อขาดไม่ได้ผ่อน" ป๋าเป็นลูกผู้ชายคนเดียวในบ้าน มีพี่น้องผู้หญิงอีก 3 คน ปัจจุบันป๋าอายุ 70+ เกษียณแล้วจากงานประจำ กลับไปเฝ้าร้านทองกับภรรยาคู่ทุกข์คู่ยาก
อายุ 23:
a. จบปริญญาตรี ม.จุฬา คณะวิศวกรรมโยธา เป็นรุ่นแรกๆของประเทศไทย เหล้าไม่กิน บุหรี่ไม่สูบ
b. จบปุ๊บ เข้าทำงานบริษัท XX Steel ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนไทย-ญี่ปุ่น ยักษ์ใหญ่วงการผู้ผลิตเหล็กอันดับ 2 ของไทย
c. โสด นั่งรถเมล์ไปทำงานทุกวัน จากวรจัก ถึง สำโรง ทำงานอาทิตย์ละ 6 วันเต็ม บางครั้งOTวันอาทิตย์วันหยุดด้วย
อายุ 27:
a. ความรักของดอกฟ้ากับหมาวัด -- เรื่องจริงไม่ใช่ละคร
ป๋าใช้บริการโรงรับจำนำแถวบ้านประจำตั้งแต่เป็นหนุ่ม บ่อยเสียจนแอบปิ้งลูกสาวคนที่ 3 ของเจ้าสัวโรงตึ๊ง (5 โรงทั่วกทม.) ซึ่งสวยที่สุดในหมู่พี่น้อง 10 คน - สูง ขาว จมูกโด่ง นัยตาสีฟ้าอ่อน เนื่องจากมีเชื้อฝรั่ง แต่อนิจังสังคัง ดอกฟ้ากับหมาวัด เศรษฐีโรงตึ๊งที่ไหนจะบ้า ยอมยกลูกสาวให้กับบัณฑิต วิศวจุฬาจนๆคนนี้ (รู้ใช่ไหม ก็กลัวบัณฑิตยาจกคนนี้ จะมาปลอกลอกลูกสาวเขานั่นแหละ) หมาวัดจึงได้แต่เฝ้าแอบตื๊อลับๆอยู่หลายปี จนดอกฟ้าเบื่อหน้าเลยรักตอบ สุดท้ายถุกเจ้าของโรงตึ๊งจับได้ หมาวัดจึงให้แม่มาสู่ขอ เศรษฐฐีโรงตึ๊งเรียกสินสอน 1 ล้านบาท (สมัยเกือบ 50 ปีก่อน) หมาวัดหมดปัญญา เดินคอตกกลับบ้าน
หลังจากวันนั้น 2 คนก็แอบคบกันแบบลับๆอีก ถูกจับได้อีก หมาวัดให้แม่มาสู่ขออีก เจ้าสัวโรงตึ๊งไม่ยอมยกให้ตามเคย พร้อมยื่นคำขาดห้ามคบกันอีกเด็ดขาด แต่ดอกฟ้ารักหมาวัดเข้าเสียแล้ว จึงพูดออกมากลางงานว่า ยินยอมจะแต่งงานด้วย เจ้าสัวโรงตึ๊งโมโหสุดขีด ที่ถูกลูกรักทำเสียหน้ากลางงาน จึงประกาศถ้าจะแต่งงานกับหมาวัดให้ได้ จะตัดพ่อตัดลูก ตัดออกจากกองมรดกทุกบาททุกสตางค์ พร้อมขับไล่ออกจากบ้านทันที ดอกฟ้ายืนยันตามเดิม จึงเก็บข้าวของหลุดออกจากตระกลเจ้าสัวโรงตึ๊ง แล้วตามบัณฑิตยาจกกลับบ้านแต่งงานกินแกลบ ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา
b. ดอกฟ้าเรียนจบแค่ มศ.3 เจ้าสัวก็ไม่ให้เรียนต่อ บอกลูกสาวจะเรียนสูงไปทำอะไร หลังแต่งงานกันแบบไม่มีสินสอด ไม่มีงานแต่งงาน (ป๋าเลยประหยัดเงินสินสอด+เงินจัดงานแต่งไปโดยปริยาย) กับบัณฑิตยาจกอย่างป๋าแล้ว ป๋าก็นั่งรถเมล์ไปทำงานที่โรงเหล็กทุกวันตามเดิม ส่วนดอกฟ้าก็ขายเพชรทองชิ้นสุดท้ายที่ติดตัวมา เพื่อมาเป็นทุนในการเปิดร้านขายของชำเล็กๆ ในชั้นล่างของบ้านที่อยู่นั่นแหละ ค่าเช่าก็ไม่ต้องเสีย ได้มากน้อยก็เก็บอย่างเดียว เลิกแต่งสวย เลิกใช้จ่ายสิ่งไม่จำเป็น เก็บๆๆสถานเดียว เก็บเงินก้อนไว้เพื่อรอว่า สักวันฉันจะย้ายไปบ้านที่ดีกว่านี้
ข้อสังเกต: สินสอด จัดงานแต่ง ค่าเช่าบ้าน ค่าผ่อนบ้าน ค่าผ่อนรถ = 0 บาท
อายุ 28:
หลังจากตรากตรำทำงานแบบหนักเอาเบาสู้ ให้กับโรงเหล็กอยู่ 5 ปีเต็ม ป๋าก็ได้ขึ้นเป็นหัวหน้าวิศวกร ประกอบกับทางโรงเหล็กต้องการขยายกิจการใหญ่โตขึ้น ทางบริษัทจึงส่งตัวป๋าไปศึกษา+ฝึกงานต่อที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นเว ลา 5 ปีเต็ม เพื่ออนาคตของครอบครัวแล้ว ป๋าต้องกัดฟันบุกแดนอาทิตย์อุทัย ไปต้านทานความยั่วยวนของสาวยุ่น ทั้งๆที่ภาษาญี่ปุ่นก็ไม่เคยเรียนกะเขา จำใจต้องทิ้งภรรยาขายของชำ ให้ดูแลแม่สามีแก่ๆอยู่ที่เมืองไทยเพียงลำพัง ตลอดเวลา 5 ปี ป๋าไม่ได้เหยียบแผ่นดินไทยอีกเลย ส่วนดอกฟ้าก็เก็บอย่างเดียวเลยครับ เก็บทั้งเงินเดือนสามีที่บริษัทให้ไปรับทุกเดือน เก็บทั้งกำไรเล็กน้อยจากการขายของชำ แถมคนกินข้าวบ้านน้อยลงไปหนึ่งคน ประหยัดขึ้นอีกบาน "เก็บๆๆเท่านั้นที่จะหลุดพ้นความจนได้" ดอกฟ้าท่องอยู่ในใจทุกวัน (ท่องเข้าไว้นะ พี่น้องทุกท่าน)
ออ เกือบลืมไป ก่อนป๋าไปได้ไข่ทิ้งไว้ด้วย ดอกฟ้าให้กำเนิดลูกคนแรก (ลูกสาว) หลังจากป๋าไปญี่ปุ่นไม่นาน
อายุ 33:
หลังจากป๋าต้องอดทนแสนสาหัส ต่อความยั่วยวนของสาวยุ่นอยู่ถึง 5 ปีเต็ม แต่ป๋าไม่เคยประพฤตินอกลู่นอกทางแม้แต่นิดเดียว (ลืมหรือยังครับ "คุณสมบัติ" ของผู้หลุดพ้นความจน ข้อ 2 - คุณธรรมเรื่องชู้สาว) ทุกลมหายใจของป๋า ยังคงรักและคิดถึงภรรยาสุดสวยลูกครึ่ง ดอกฟ้าอดีตลูกสาวเจ้าสัวโรงจำนำ ที่ตัวเองไปพรากเขามาจากครอบครัวอันร่ำรวย แล้วมาตกทุกได้ยาก ต้องมาทนลำบากกินแกลบกับตัวเอง พอป๋าสำเร็จกลับมา ทางโรงเหล็กก็เลื่อนตำแหน่งให้เป็นผู้จัดการประจำโรงงาน เงินเดือน+สวัสดิการดีขึ้นทันตาเห็น โรงเหล็กยังให้รถเก่าๆมาใช้ประจำตำแหน่งหนึ่งคัน (เออ ดีไม่ต้องเสียตังซื้อ ) หลังจากนั้นไม่นาน ดอกฟ้าก็ให้กำเนิด ลูกอีก 2 คนในปีติดๆกัน เป็นชาย1 ตามด้วยหญิงคนสุดท้อง 1 (แฟนบอยนั่นเอง)
อายุ 35:
ดอกฟ้ากลายเป็นคนงกเงินขึ้นสมอง เก็บเงินอย่างบ้าคลั่ง ทั้งเงินเดือนสามี+กำไรเล็กน้อยจากขายของชำ ทั้งครอบครัวกินอยู่แบบประหยัดที่สุด ชนิดที่พี่น้องทุกท่าน cannot imagine (คุณสมบัติข้อที่ 1 Spirit of Crazy gamer -- ทำงานหาเงินอย่างเดียว ไม่กิน ไม่ใช้ ไม่ขี้) เพราะค่าใช้จ่าย 6 ชีวิตมันใช่เล่น แล้วก็ถึงคราวขายตึกแถว 2 ชั้นโทรมๆที่วรจักทิ้งไป รวมกับเงินที่เก็บได้ ก็ไปซื้อตึกแถว 4 ชั้นเก่าๆแถวคลองเตย ส่วนพี่น้องสาวป๋าก็แต่งงานกันออกไปหมดหลายปีแล้ว บ้านใหม่นี้จึงมีแต่ครอบครัว พ่อแม่ +ลูก 3 +อาม่า 1 = 6 คน
ป๋าและดอกฟ้าเงินเกลือบเกลี้ยงคลัง จึงเอาเงินที่เหลือไปซื้อเครื่องจักรเล็กๆมา 1 เครื่อง ซื้อด้ายฝ้ายมาผลิตถุงมือกรรมกร เพื่อขายส่งให้แก่โรงงานแถวนั้น เออ ขายดิบขายดีแฮะ เดินเครื่องจักร 24 ชม.ยังทำตาม Order ไม่ทัน จึงเพิ่มเครื่องเป็น 2-3-4-5 เครื่อง แม่ลูกทำเองด้วย จ้างคนด้วย เดินเครื่อง 24 ชม. 365 วัน (คุณสมบัติ Crazy gamer อีกแล้วครับท่าน)ส่วนป๋าก็ทำงานหนักทั้งโรงเหล็ก และหลังเลิกงานซ่อมเครื่องเย็บถุงมือที่บ้าน ซึ่งกลายเป็นกึ่งโรงงานไปแล้ว วันหยุดไม่มีพักแม้แต่วันเดียว ส่วนป๋าทำงานบริษัท ไม่เคยมีหญิงอื่นมาทำให้ครอบครัวแตกร้าวแต่อย่างใด (คุณสมบัติข้อ 2) ทั้งหมดนี้คือจุดหักเห เพื่อวิ่งฝ่าหลุดพ้นความจน Biggest Step ของครอบครัวนี้ ทุกคนที่จะหลุดพ้นความจนได้ จะต้องมีจุดหักเหอันนี้ทั้งนั้น
ข้อสังเกต: ตอนนี้ป๋ามีบ้านไม่ต้องผ่อน มีรถเก่าปานกลางไม่ต้องผ่อน(ซึ่งบริษัทยกให้เป็นชื่อป๋าแล้ว) ขาดแต่เงินทองใช้จ่ายเพียงพอระดับ Middle Class และเงินสำรองฉุกเฉินของครอบครัวเท่านั้น
อายุ 40:
หลังจากทำงานอย่างหนัก+อยู่แบบรัดเข็มขัดสุดๆทั้งครอบครัว ประจวบเหมาะ ปี 2516-2519 ไทยเกิดเหตุการณ์ไม่สงบในบ้านเมือง เศรษฐกิจตกต่ำ รัฐบาลลดค่าเงินบาท ที่ดินบ้านช่องราคาตกวูบ ป๋าจึงปล่อยตึกแถวคลองเตยให้เขาเช่า แล้วมาซื้อตึกแถวใหม่เอี่ยมที่ซอยพระโขนง ติดถนนใหญ่ปากซอย ในราคาแสนกว่าบาท ซึ่งสมัยนั้น พระโขนงมีแต่ต้นกล้วยกับผีแม่นาคที่ซอยอ่อนนุช และเหตุการณ์ไม่สงบในบ้านเมือง ราคาจึงไม่แพงอย่างที่คิด (ใช้วิกฤติให้เป็นโอกาส)
ทำถุงมือต่อที่พระโขนง 24 ชม. 365 วัน แล้วเพิ่มเป็นสุดท้าย 12 เครื่อง ป๋ายังคงเป็นผู้จัดการโรงเหล็กอยู่ เลิกงานมาซ่อมเครื่องจักรถุงมือกลางดึกต่อไป ระะหว่างนี้ ป๋าอยากเป็นเถ้าแก่โรงงานกะเขาบ้าง จึงลงทุนซื้อที่ดินใกล้เคียง เปิดเป็นโรงงานทำหินรับมีดเล็กๆ ผลคือเงินป๋าเจ๊งหมดตูด โชคดีเงินดอกฟ้ายัง(แอบ)เก็บไว้บ้าง ทั้งครอบครัว จึงลงมือทำถุงมือแบบไม่ลืมหูลืมตาต่อไป เด็กๆ 3 คนกลางวันเดิน 2 กม.ไปเรียนหนังสือ กลางคืนทำการบ้านเสร็จ รีบมาช่วยงานทำถุงมือ เช่น เย็บขอบถุงมือ เย็บนิ้วถุงมือ เสียบถุงมือ รัดถุงมือเป็นมัดๆเป็นต้น
ข้อสังเกต: ทุกท่าน โปรดสังเกตว่า ครอบครัวนี้ มี Spirit of Carzy gamer เต็มลูกสูบ หัวหน้าครอบครัวมีคุณธรรม จริยธรรม ธรรมๆทั้งหลายครบถ้วน หวยไม่เล่น หุ้นไม่ซื้อ การพนันไม่แตะ ครบ"คุณสมบัติ"การหลุดพ้นความจนของบอย ทั้ง 5 ข้ออย่างสมบูรณ์ และที่สำคัญ ไม่เคยเรา้หนี้ยืมสินใครแม้แต่บาทเดียว ตั้งแต่ต้นยันจบจนถึงทุกวันนี้
ตลอดเวลาที่วิ่งเพื่อหลุดพ้นความจนนั้น ครอบครัวนี้อาศัยกินเกลือรัดเข็มขัดและ Spirit of Crazy gamer ในการฝ่าฟันศัตรูความจนทั้ง 7 ตัว จนตายเรียบ ฝรั่งเขาเรียกว่า Make it the Hard Way แปลว่า "ทำสำเร็จแบบหักคอ" ซึ่งคนทำจะต้องมีหัวใจที่เด็ดเดี่ยวและเข้มแข็งอย่างมาก และเคยผ่านความยากจน+ลำบากอย่างที่สุดมาก่อนในชีวิต ถึงจะทำได้ ซึ่งคนในอดีต 40-50ปีก่อนที่จนมากๆ ส่วนใหญ่ก็หลุดพ้นความจนแบบสาหัสเช่นนี้เกือบทั้งนั้น
อายุ 45:
หลังจากกินเกลือกันต่ออีก 5 ปี ครอบครัวป๋าก็เริ่มลืมตาอ้าปากได้บ้างแล้ว จริงๆก็ถือว่าหลุดพ้นความจนแล้ว ศัตรู 7 ตัวตายเรียบ แต่เนื่องจากกลัวความจน จนขี้ขึ้นสมอง ไม่อยากกลับไปยากจนอีก จึงมองหาช่องทางใหม่ ด้วยการเปิดตู้เล็กๆขาย ทองนาคเงินทองK หน้าบ้านตัวเอง อาศัยดอกฟ้าเคยเป็นลูกสาวโรงจำนำมาก่อน เคยช่วยงานในโรงหัดดูเพชรทองมาบ้าง แล้วก็แอบกลับไปหาหลงจู๊โรงจำนำเรียนรู้เพิ่มเติมอีก(ตอนนั้น เจ้าสัวโรงจำนำแก่ชรามากแล้ว ชักกลับใจสงสารลูกบ้างแล้ว เลยไม่ว่าอะไร)
ส่วนถุงมือก็ยังเย็บอยู่ในบ้าน พอทองขายดีเรื่อยๆ ก็ทยอยเลิกเย็บถุงมือทีละเครื่อง2เครื่องจนเลิกหมดทุกเครื่อง จากตู้ทองเป็นร้านทอง จากขายทองเพิ่มขายเพชร ส่วนป๋าก็เป็นถึง กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ บริษัทผลิตเหล็กยักษ์ใหญ่อันดับ 2 ของเมืองไทย บริษัทให้รถเบนซ์เป็นชื่อป๋าเป็นรถประจำตำแหน่ง มีคนขับรถส่วนตัว ป๋าซื้อรถด้วยเงินสดเพิ่มอีก 1 คัน บอยซื้อหมั้นลูกสาวป๋าอีก 1 คัน ป๋ายังคงเสมอต้นเสมอปลาย เลิกงานทุกวัน+วันหยุด ป๋าก็จะช่วยจัดการบัญชี และการวางแผนทุกอย่างของร้านเพชรทองไม่เคยขาด
ส่วนลูก 3 คน ก็จบนิติ ม.ธรรมศาสตร์ ทันตแพทย์ ม.จุฬา และ นิติ ม.จุฬา ตามลำดับ (นี่ขนาด เรียนไป ทำถุงมือที่บ้านไปนะเนี่ย หุหุ -- ความจนทำให้คนเรามีพลังมหาศาลจริงๆนะ )
30 ปีแห่งการฟันฝ่าอุปสรรคความยากจน ผัวเมียลูก3ใจเป็นหนึ่ง กินเกลือยันแกลบ กินมันทุกอย่างยกเว้นข้าวเหมือนกัตจัง สุดท้ายยืนยันการหลุดพ้นความจนตลอดชาติ ผ่านเส้นความจนเส้นที่ 2 (เส้นไม่กลับมาจนอีก) ตอนอายุประมาณ 58 ปี
อายุ 68:
ปลดเกษียณจากโรงเหล็ก กลับร้านขายเพชรทองยาวเลย ทั้งบ้านไม่มีทายาท จนหมดอายุเจริญพันธ์คลอดลูกกันถ้วนหน้า เหลือแต่ลูกชายบอยหน่อเดียวที่ถือได้ว่าเป็นทายาทคนสุดท้ายของบ ้านป๋าและบ้านบอย
เราได้เรียนรู้อะไรจาก Case Study 1 นี้บ้าง?
ตอบ:
I คุณสมบัติ 5 ข้อ ต้องยึดถือไว้ตั้งแต่ต้นยันจบ
การที่หัวหน้าครอบครัวอย่างป๋า เป็นแบบอย่างแก่คนทั้งครอบครัว ในการยึดถือคุณสมบัติ 5 ข้อ ของการวิ่งเพื่อหลุดพ้นความจน - ซื่อสัตย์ สุจริต ขยันอดทน อดออม ประหยัด มีคุณธรรมเรื่องชู้สาว หวยหุ้นการพนันไม่เอา จึงทำให้ทั้งครอบครัว 6 ชีวิต เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในการฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆตลอด 30 ปีที่ผ่านมา จนสามารถวิ่งผ่านเส้นความจนทั้ง 2 เส้นได้ในที่สุด ถ้าครอบครัวแตกแยก ไม่มีหลักยึดหรือต้นแบบหัวหน้าครอบครัวไม่ดี เช่น ผัวหาเมียผลาญ เมียหาผัวผลาญ หรือพ่อแม่หาลูกๆผลาญ แล้วจะเหลืออะไรไปวิ่งเพื่อหลุดพ้นความจนได้อีก ก็คงต้องอยู่แบบจนๆอย่างนั้นตลอดชาติไป
II หลักการพิ้นฐานในการหยิบเงินจากตลาด ข้อที่ 1 -- ลด
แสดงกระทู้
