อ้างถึง
ถ้าผมปลงได้แบบพระพุทธเจ้าก็คงดี
ตอนพญามาร มาขัดขวางพระพุทธเจ้ามิให้บำเพ็ญเพียรเพื่อตรัสรู้นั้น พญามาร ขี่ช้างยกทัพมาพร้อมเหล่ามารหลายล้านพล
โดยใช้เหตุผลว่า ที่นั่ง(ใต้ต้นศรีมหาโพธิ์ )เป็นของตนเอง ให้พระพุทธเจ้าจงลุกไปเสีย มิฉะนั้นจะฆ่าให้ตาย พระพุทธเจ้า พยายาม บอกแก่ พญามารว่า โปรดฟังก่อนๆ ท่านพญามาร ที่นั่งนี้เป็นของเรา เราบำเพ็ญเพียรมา เพื่อให้ได้ที่นั่งตรงนี้ (พระพุทธเจ้า บำเพ็ญเพียรมา 20 อสงไขย์กับอีกเศษ 1แสนกัปป์ 1กัปป์=6,420 ล้านปี)
พญามารไม่ฟังเสียง สั่งเหล่าบรรดาขุนพล ยิงธนูไฟเข้าใส่ พระพุทธเจ้า หมายจะเผาให้วอดวาย พอธนูไฟ ยิงออกมา กลับตกลงมาเป็น ดอกไม้หอม นานาพันธุ์ ทำให้พญามาร กราดเกรี้ยวยิ่งนัก สั่งขุนพลพุ่งหอกดาบ ใส่ พระพุทธเจ้าอีก ก็กลับตกลงเป็น ดอกไม้หอมต่างๆอีก ทำให้พญามาร การดเกรี้ยวยิ่งขึ้น ใสช้าง เข้าประชิด หมายจะสังหารพระพุทธเจ้าให้ตาย พระพุทธเจ้า ได้ห้ามพญามารอีกครั้ง โดยบอกว่า ดูก่อนท่านพญามาร ที่นั้งนี้เป็น ของข้า ไม่ใช่ของท่าน หากท่านไม่เชื่อก็ลองถาม พระแม่ธรณีดูเถิด พระแม่ธรณี จึง ผุดขึ้นมา พร้อมกับแสดงฤทธิ์ ด้วยการ บีบมวยผม 1 มวยแรก ปรากฏ เป็นน้ำทะเลจำนวนมหาศาล ซัดเอา บรรดาไพร่พลของพญามาร นับล้านขุนพล กวาดหายไปจนหมดสิ้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่า น้ำทะเลที่บีบออกมานั้น เป็นหยาดเหงื่อของพระพุทธเจ้าที่หยดลงผืนธรณีในการ บำเพ็ญเพียรมา 20 อสงไขย์กับอีกเศษ 1แสนกัปป์ (1กัปป์=6,420 ล้านปี) ซึ่งในกาลนี้ หากพญามารไม่เชื่อ พระแม่ธรณีก็จะบีบมวยผม อีกมวย เพื่อแสดงให้พญามารดู พญามาร เมื่อเห็นดังนั้น จึงยอมแพ้ แก่พระพุทธเจ้า
เมื่อพระพุทธเจ้าชนะมารแล้วจึง บำเพ็ญเพียร จนตรัสรู้ธรรมในเวลาต่อมา
:
อยากทราบเรื่องราวมากกว่านี้ เชิญ เข้าร่วมทำบุญใหญ่ มหาสังฆทาน ซึ่งเป็นทานสูงสุด ด้านอาหารแด่สงฆ์ ที่สวนอัมพร วันที่ 23 กันยายนนี้ นำผลไม้หรืออาหารไปร่วมด้วยก็ได้ หรือไปตัวเปล่าก็ได้ ใครทำบุญครั้งนี้ อานิสงค์บุญ ได้รับกลับมา หนึ่งหมื่นล้านเท่า เป็นอย่างน้อย
ปล.หากนำอาหารหรือผลไม้ไปร่วมให้ ไปก่อน 9 โมง นะจ๊ะ
เวปไซด์ที่เกี่ยวข้อง http://www.siripong.net