ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

  แสดงกระทู้
หน้า: [1] 2 3 ... 47
1  ความรู้ทั่วไป / General (ถามคุยวิชาการ IM) / Re: ทำการตลาดเพื่อขายทาวเฮ้าส์ 61 หลัง ต้องใช้งบโฆษณาเท่าไหร่ เมื่อ: 04 สิงหาคม 2019, 16:49:33
บริษัททั่วไปมีงบสำหรับโฆษณาที่ประมาณ 1-2% ของมูลค่าโครงการครับ แต่ก็มีบางบริษัทอย่าง LH ที่ไม่เน้นงบตรงนี้ซึ้งใช้งบส่วนนี้น้อยมากๆ โดยเอางบส่วนนี้ไปใช้ในการดูแลลูกค้าหลังการขายแทน และก็ไปได้ดีด้วย
2  ความรู้ทั่วไป / E-commerce / Re: สอบถามครับ ถ้าจะทำกำไรจากการขายออนไลน์80K-100K เมื่อ: 06 มีนาคม 2019, 00:31:05
อ้างถึง
ต้องการกำไรจากการขายออนไลน์80K-100K

ถ้าเป็นไปตามเงื่อนไขดังนี้...
1) ต้องเป็นสินค้าที่ขายดี คู่แข่งน้อย (ทำกำไรได้มาก)
2) เงินทุนหมุนวียนส่วนใหญ่คือสต๊อกสินค้า (ถ้าใช้เวลาในการเติมสต๊อกน้อย)

ทุนหมุนวียนต่อเดือน = 320K-400K

-ขนาดนั้นเลยหรอครับ

เห็นด้วยกับความเห็นนี้นะครับ เพราะการขายของออนไลน์นั้นมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างเยอะ ขึ้นอยู่กับประเภทสินค้า กำไรต่อราคาขาย ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น

เปิดร้านขายเสื้อผ้าออนไลน์ต้องการกำไรที่ 100k เราก็ต้องมาดูกันว่าต้องขายที่เท่าไรถึงจะกำไรถึงกัน

กำไรต่อหน่วยเท่าไร/กี่เปอร์เซ็น   ถ้าต้นทุนสินค้าที่รับมาคือ 300 เราขาย 500 บาทได้ เบื้องต้นของต้นทุนของเราดูเหมือนจะเป็น 60% และกำไร 40% แต่จริงๆ แล้วมันไม่ใช่แบบนั้นนี่สิครับมันมีค่าใช้จ่ายแอบแฝงอยู่อีกเยอะมาก เพราะถ้าเราจะขายให้ได้กำไรถึง 1 แสนบาท เราต้องขายเสื้อราคา 500 บาท ให้ได้ 500 ตัว ซึ่งเป็นจำนวนเงิน 250k ซึ่งก็ดูจะไม่ยากอะไรถ้าเคาะออกมาแบบเครื่องคิดเลยเลย แต่วิธีไหนละที่จะทำให้ขายได้ถึง 500 ตัวใน 1 เดือน คำตอบก็คือต้องมีลูกค้าเข้าเว็บในระดับที่มากพอและต้องเป็นลูกค้าที่สนใจสินค้าของเราจริงๆ ด้วย นั้นทำให้เราต้องมีต้นทุนเพิ่มอีกตัวแล้ว "ค่าโฆษณา"

จากประสบการณ์ของผม ถ้าค้นเข้าเว็บเป็นกลุ่มที่สนใจสินค้าจริงๆ คนเข้าแค่ 300 - 500 คน ก็พอจะขายได้ วันละ 5 - 10 ชิ้นสบายๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ถ้าคนเข้าทั้งหมดของเราเป็นการซื้อโฆษณาทั้งหมดต้นทุนของเราก็จะสูงมาก ตีว่าคลิกละ 50 สตางค์ ซื้อแบบถูกๆ เลย เพื่อคนเข้า 2000 คน หมดไปแล้ววันละ 1000 บาท ตีว่าขายได้วันเฉลี่ย 20 ชิ้น 30 วัน = 600 ชิ้น ยอดขายต่อเดือนจะประมาณ 300 เค (เป็นตัวเลขมโนขายจริงจะสู้หรือต่ำอยู่ที่สินค้า ราคา ความน่าเชื่อถือ คุณภาพและอื่นๆ นอกจากนั้นการบิดราคาค่าโฆษณาก็ทำได้อย่างจำกัด เช่นบิดไว้ที่ 50 สตางค์ต่อคลิ๊กอาจจะมีคนเห็นโฆษณาแบบเต็มที่ได้แค่ 300 คนต่อวันก็ได้ ถ้าอยากให้คนเห็นโฆษณาเพิ่มต้องอัดค่าคลิ๊กที่สูงขึ้น ซึ่งนั้นก็ทำให้ต้นทุนเราสูงขึ้นอีกเช่นกัน) เราลองมาถอดกำไรกันใหม่อีกทีครับ

กำไรของร้านที่มีต้นทุนค่าโฆษณาเพิ่มขึ้นมา
-------------------------------
ยอดขาย 600 ชิ้น = 300k
ต้นทุนสินค้าที่รับมาต่อชิ้น 300x600 = 180k
ต้นทุนค่าโฆษณา 30 วัน = 30k

กำไรสุทธิ = 300 - (180+30) = 90k
-------------------------------
ซึ่งมันก็ยังไม่ถึงเป้าอีกอยู่ดี ขาดไป 10k แบบนี้เราไปลงโฆษณาเพิ่มอีกประมาณ 10% - 15% ดีไหมจะได้ขายกำไรถึง 100k พอดี 555+ แต่ในชีวิตจริงมันไม่มีอะไรง่ายอย่างนั้นสิครับ มันยังมีตัวเลขอื่นๆ มาตัดกำไรเราอีกมากมาย เพื่อจะให้เราไปไม่ถึงกำไร 100k ไม่ว่าจะเป็น
- ค่าใช้จ่ายสำนักงาน ถ้าทำคนเดี่ยวก็บ้านของตัวเองถ้าอยู่ฟรีนิบุญชัดๆ ถ้าได้เน็ทฟรี น้ำฟรีนิสรรค์เลย
- ค่าสถานที่ว่างสินค้า ถ้ามีบ้านมีพื้นที่ก็โชคดีไปบุญพ่อแม่ทำมาดีครับ ถ้าไม่มีก็ต้องหาที่ว่างสินค้าให้ได้จะหลักพันหลักหมื่นก็ว่ากันไปอีก
- ค่าไปส่งของสินค้าขายดีไม่ต้องถามนะครับว่าจะนั่งวินไปได้ ถ้าไม่มีรถก็ต้องแท็กซี่ ถ้ามีรถก็ + ค่าน้ำมันไปเลย เสียมากเสียน้อยขึ้นอยู่กับจำนวนรอบส่งของ
- ยังไม่หมดครับมีอีกค่าใช้จ่ายที่ไม่เรียกว่าค่าใช้จ่าย "ภาษี" แหม่ขายกำไรดีแบบนี้ยอดเกิน 1.8 ล้านแน่ๆ + vat7% ก่อนขายด้วยนะจ๊ะ ซึ่งการตั้งราคานั้น ถ้าอยู่ในวงการขายของจะรู้ดีว่าไอ้ 7% เพื่อที่จะก้าวเป็นผู้เล่นรายใหญ่นั้นมันไม่ง่ายเลย เพราะถ้าเราอยู่ในแดนที่สินค้ามีกำไรต่อหน่วยต่ำและทุกคนขายกันไม่แพง ไอ้เรามี vat7% อยู่คนเดี่ยวนิจบเลยยอดขายหายแน่ๆ แต่ถ้าเป็นสินค้าคุณภาพเฉพาะกลุ่มมีช่วงกำไรเหลือก็ลุยต่อๆ ไปได้

สรุปสั้นๆ เลยครับทำตัวคนเดี่ยวไม่มีลูกน้องต่อเดือนมีเงินเข้า 400up แน่นอนครับถ้าสินค้าทำกำไรไม่เกิน 30% ต่อชิ้นเป็นต้นทุน แต่ถ้าสินคำกำไรเยอะตัวเลขยอดขายก็จะต่ำกว่านี้

การที่จะทำกำไรจากการขายของออนไลน์ 80 - 100 k ขึ้นไปนั้นมีความยากลำบากอยู่พอสมควรสำหรับคนที่คิดจะทำตัวคนเดี่ยว โดยเฉพาะสินค้าที่กำไรต่อหน่วยต่ำๆ เพราะจะทำให้มีต้นทุนที่สูงมากๆ จากการบริหารจัดการ แต่ถ้าก้าวข้ามไปได้ก็เหมือนเสือติดปีก บินในที่ๆ ไม่มีคนบินครับ เพื่อนร่วมวงการผมตายไปหลายคนแล้วเพราะไม่สามารถก้าวข้ามจากผู้เล่นรายย่อยเป็นผู้ขายขนาดกลาง - ใหญ่ได้ เพราะว่าขายน้อยๆ กับขายเยอะๆ มันต่างกันมากเหลือเกินครับ ทำคนเดี่ยวไม่ไหว ถ้าหนีภาษีมาโดนตอนหลังนินรกชัดๆ ไม่แนะนำครับ สิ่งสำคัญคือการบริหารความเสี่ยงและรักษากระแสเงินสดไว้ในระดับสูงอยู่เสมอจะทำให้เราเอาตัวรอดได้ครับ ส่วนใหญ่ที่ผมเห็นยอดขายต่อเดือน 2 - 3 ล้านกำไรจริงๆ 200 - 400 เคต่อเดือนมีเยอะมากครับ เพราะขายออนไลน์ต้องเน้นขายไว ขายเยอะถึงพอจะลืมตาอ้าปากได้ ถ้าคิดจะเอากำไรต่อหน่วยสูงๆ แล้วขายได้เยอะๆ อยู่วงการนี้ยากครับ

แต่ถ้ามองมุมกลับ ถ้าต้องการขายแค่เอาเงิน 10 - 30 เคต่อเดือน ทำเป็นงานอดิเรก แบบนี้ทำได้ง่ายๆ ไม่ยากครับ ไม่ต้องคิดมาก หาสินค้าขายก็ง่าย พื้นที่สต็อกก็ต่ำ ไม่มีเรื่องภาษีกวนใจเพราะยอดขาย + รายได้อื่นๆ น่าจะไม่ถึง 1.8 ล้าน ทุกวันนี้ผมก็เบื่อกับภาษีพอสมควร กะว่าจะกลับไปทำ Adsense หาเงินจากค่าโฆษณาดีกว่า อยู่วงการนี้มาหลายปีเหนื่อยเหลือเกินครับ  แรกๆ ก็สนุกดี แต่นานๆ ไป ยิ่งขายดียิ่งเหนื่อยครับ
3  < กดยุบ (ห้องยกเลิกการใช้งาน) / สาระคำถามทั่วไป (ย้ายไป cafe) / Re: เจ้าของ Huawei ลั่น! ประเทศตะวันตกโง่! ที่ไม่ซื้อผลิตภัณฑ์ 5G จาก Huawei เมื่อ: 25 มกราคม 2019, 04:33:20
ในมุมมองของผม Huawei เป็นบริษัทที่ ณ ตอนนี้เป็นที่รักของคนจีนมากที่สุดบริษัทหนึ่งเพราะนอกจากจะมีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอย่างสูงแล้วในหลายๆ ด้าน ยังเต็มไปด้วยธรรมภิบาลที่ดีภายในองค์กร หากใครทำการศึกษาหรือติดตามข่าวระหว่างประเทศและทำการเจาะลึกข้อมูลจะรู้ว่าภายในเรื่องของ Huawei มีนัยสำคัญแอบแฝงเยอะมาก มันไม่ใช่แค่เรื่องของสินค้าแต่มันเป็นเรื่องของการเมืองระหว่างประเทศ การเตะตัดขาการต้องหยุดจีนไม่ให้ก้าวขึ้นเป็นขาใหญ่ในโลก

สาเหตุที่ประธาน Huawei พูดถึงเรื่องสินค้าที่ไม่ง้อใครๆ ได้เต็มปากเต็มคำก็เพราะว่าตัว 5G  ถ้าไม่ใช่ของ Huawei การที่จะลงมือพัฒนาเทคโนโลยีการเชื่อมต่อไร้สายให้ดีเท่า Huawei ตอนนี้ทำได้ไม่ง่ายอย่างน้อยๆ ต้องกินเวลา 1 - 3 ปี และนอกจากนั้นปัญหาที่สำคัญอีกอย่างคือเรื่องของราคาที่ Huawei ทำราคาสินค้าได้สมเหตุสมผลกว่าบริษัทอื่นๆ บริษัทเจ้าของโครงข่ายในประเทศต่างๆ ก็ต้องพิจารณาตรงนี้กันไม่น้อย เพราะต้นทุนการเลือกใช้สินค้าของเจ้าอื่นนอกจากจะช้าแล้วยังมีต้นทุนที่สูงกว่าอีก


และเพราะอะไร Huawei จึงเป็นบริษัทที่มีนวัตกรรมที่โดดเด่นมากๆ
1. อย่างที่ผมกล่าวในช่วงต้น Huawei เป็นบริษัทที่มีธรรมภิบาลที่ดีมากๆ จะมีสักกี่บริษัทในโลก ที่เจ้าของบริษัทและผู้ก่อตั้งถือหุ้นเพียงแค่ 1 เปอร์เซ็นกว่าๆ แล้วยังมีอำนาจบริหารอยู่ได้
2. บริษัท Huawei มีการกระจายหุ้นในปริมาณมากโดยไม่ได้เป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และหุ้นเหล่านั้นถูกถือโดยพนักงานของ Huawei กว่า 80000 คน
3. บรัษท Huawei มีนักพัฒนาและวิจัยที่ทำงานด้วยจิตใจที่รักในชาติและองค์กรไม่ได้ทำเพียงเพราะเงินในปริมาณมาก
4. Huawei เสียภาษีให้ประเทศอาจจะมากกว่าหรือพอๆ กับบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดอย่าง alibaba tencent
5. ว่ากันว่าถ้า Huawei นำเข้าจดทะเบียนในตลาดจะมีมูลค่าที่สูงกว่า  alibaba และ tencent

นอกจากนั้น Huawei ยังเป็นบริษัทที่รักของชาวจีนอย่างมาก มากกว่าอลีบาบาที่เรารู้จักกันเสียอีกจนทำให้เกิดกระแสห้ามใช้ iphone ในจีน หลังจากปัญหาประเทศสหรัสประกาศแบนอุปกรณ์ของ Huawei

ปัญหาของ Huawei ไม่ใช่แค่ข่าวไอที แต่มันเป็นข่าวที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดเพราะ Huawei จะเป็นหัวหอกของจีนที่จะทำให้จีนเป็นผู้นำของโลกในด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี มันเป็นสนามรบแรกก่อนสงครามจริงของ สหรัสและจีนในศึกแห่งความยิ่งใหญ่ ซึ่งตอนนี้ Huawei และจีนเองก็มีอะไรหลายๆ อย่างที่สหรัสและยุโรปไม่มีแล้ว ถ้าภายใน 20 ปีนี้สหรัสไม่เปิดศึกและทำสงครามก่อน ภายใน 20 ปี จีนจะมีอธิพลไม่แพ้สหรัสอย่างแน่นอน เราคงจะได้เห็นข่าวแปลกๆ ของจีนกับสหรัสกันอีกเยอะ  สงครามตัวแทนในตะวันออกลาง หรือสงครามโลกรอบ 3 อาจจะไม่ไกลอย่างที่เราคิดก็ได้ อย่าประมาทกันนะเพื่อนๆ
4  ความรู้ทั่วไป / Search Engine Optimization / Re: หันมาทำ Onpage ดีกว่า เพราะ Backlink ไม่มีความหมายแล้ว! เมื่อ: 15 ตุลาคม 2018, 01:20:01
ต้องบอกว่าลิ้งขยะถึงเป็นลิ้งที่ตาย แต่ถ้าเป็นลิ้งคุณภาพยังใช่ได้อยู่ครับ ปัจจัยที่ทำให้ยิงลิ้งและพังคือตัวเราเองยังไม่สามารถทำความเข้าใจเรื่องคุณภาพของลิ้งได้มากพอ ถ้าเราจับหลักดีๆ เรื่องลิ้งก็ยังทำได้อยู่ แต่มันใช่ทักษะ + ทรัพยากรมากกว่าสมัยก่อนเยอะ

1. ลิ้งต้องมาจากเว็บคุณภาพ
** ข้อนี้เราต้องตีโจทย์ให้ออกว่าคุณภาพคือแบบไหน ยกตัวอย่าง เช่น เราได้ลิ้งจากเว็บ อย่าง Pantip kapook หรือ sanook สิครับ จะเห็นภาพชัดว่าลิ้งแบบไหนที่ได้แล้วเว็บเราจะรุ่ง

2. หน้าที่เราทำลิ้งต้องไม่ใช่หน้าขยะ ไม่มีข้อมูล  ควรอยู่ในบทความ หรือ ในกระทู้ต่างๆ

3. ลิ้งบริเวณพื้นที่อื่นๆ เช่น footer sidebar  พวนนี้มีความเสี่ยงในการทำสูง อาจให้ผลเป็น - หรือ + ก็ได้ขึ้นอยู่กับว่าได้มาจากเว็บแบบไหน ถ้าเป็นเว็บขยะติดลบยาวๆ ผมไม่ชอบทำลิ้งแบบนี้แล้วเพราะไม่ค่อยคุ้มค่าทำให้คุณภาพเว็บเสีย

4. จากข้อ 1. หลายๆ คนคงคิดว่าเราจะไปได้ลิ้งจากเว็บที่ดังๆ ได้ยังงัยมันยาก ใช่ครับ ปกติผมก็ไม่ได้เหมือนกัน แต่เราสามารถสร้างเว็บที่มีเนื้อหาแบบเว็บข่าว หรือ เว็บวาไรตี้ หรือ เว็บบอร์ดแบบนี้ ไว้เป็นเน็ทเวิคส่วนตัวได้  ถ้าเราทำตามทุนทรัพย์ ทำไปเรื่อยๆ ให้มีซัก 10 - 20 เว็บ มันใช่ทำอะไรได้เยอะ  เราจะไม่หวังกับคียใหญ่ๆ แต่คียเล็กๆ เราจะสามารถเก็บได้

นอกจากนั้นยังมีอย่างอื่นที่เป็นรายละเอียดอีกหลายข้อ แต่คิดว่าคงรู้กันอยู่แล้ว ใจเย็น ค่อยๆ ทำ เน้นคุณภาพ ไหวอยู่
5  ความรู้ทั่วไป / Search Engine Optimization / Re: ปกติทำ Backlink กันเว็บไหนบ้างครับ เมื่อ: 25 กันยายน 2018, 01:31:49
ทำ Backlink ถ้าจัดที่ pantip แบบเนียนๆ ได้ก็จัดไปเลยครับ ที่เหลือเน้นลิ้งจากเว็บที่มีเนื้อหาอัพเดตตลอด มีในมือซัก 20 เว็บทำอะไรได้เยอะ   ถ้ามีเว็บคุณภาพในมือซัก 10 - 20 เว็บ คียเล็กๆ เก็บกินได้เรื่อยๆ ครับ
6  ความรู้ทั่วไป / Adsense / Re: ถามแบบตรงๆ ตอนนี้มีใครทำ adsense ได้เดือนละ 30,000บาท+++ บ้าง เมื่อ: 18 กันยายน 2018, 00:43:19
ถ้าเป็นเมื่อ 5 6 7 ปีที่แล้วผมคงมายกมือในกระทู้นี้ด้วย ตั้งแต่ ตั้งหลักจากแพนด้า แพนกวินได้ ผมก็ไปทำอีคอมยาวๆ จนไม่ได้ทำเว็บหาเงินจาก  adsense  อีกเลยช่วงพีคสุดจุดหนึ่งของรายได้ในชีวิตผมเลย  adsense 40-50เค  ทุกเดือน ค่าโฆษณาอีก 100 - 150 เค  ทุกวันนี้ขายของออนไลน์อย่างเดี่ยวครับ 


 wanwan019 wanwan019 wanwan019  ปีหน้าตั้งใจว่าจะกลับไปลุยสาย  adsense   ใหม่เหมือนกัน


ถ้าถามว่าทำไมผมเลิกทำ  adsense   ตอนนั้นผมอกหักพอดีไม่กะใจทำงาน เว็บไม่ค่อยอัพเดต บวกกับแพนด้า แพนกวิน อะไรสมัยนั้นมาเป็นมรสุมชีวิตอีก คนเข้าเว็บก็ค่อยๆ ตกจาก 40เค ก็เหลือ 15 เค จากนั้นก็ไปบวช กลับมาเช็คเมล์ เว็บโดนแบนจาก  adsense  ไม่ได้แบนทั้งบัญชีนะครับ เฉพาะเว็บทำเงินเว็บเดี่ยวเล่นเอาเงิบไปเลย และคนลงโฆษณาก็หายหมด เลยหมดกำลังใจทำเว็บไปเลยช่วงนั้น  โชคดีมีเงินทุนติดตัวเยอะเลยไปลุยอีคอม พอกลับมาตั้งหลักชีวิตได้


ขอโทษทีครับที่มาบ่นอะไรในกระทู้นี้เนี่ย...  อ่านกระทู้แล้วรำลึกความหลังสมัย 20 กลางๆ ช่วงที่กำลังมีความฝัน  ที่เริ่มจากทำงานในออฟฟิศแล้วได้รู้จักเว็บ thaiseoboard จนวันหนึ่งออกจากงานมาทำเว็บไซต์เต็มตัว ไม่ง่ายเลยชีวิตวัยหนุ่มช่วงนั้น 555
7  ความรู้ทั่วไป / Search Engine Optimization / Re: เว็บไซต์หล่นไปไกล กู่ไม่กลับ ทำใหม่ดีไหม? เมื่อ: 09 กันยายน 2018, 19:16:43
ถ้าโดนจากรอบนี้แนะนำว่าเริ่มต้นทำเว็บใหม่ไปก็ไม่มีประโยชน์ ทำเว็บเก่าให้ดีขึ้นน่าจะได้ประโยชน์มากกว่าครับ  เพราะปัจจัยที่ทำให้เว็บเราตกนั้น มาจากกระบวนต่างๆ ที่ไม่ได้มาจากการปรับปรุ่งเว็บไซต์ ปรับ h1 h2 เขียน title ใหม่แล้วจะดีขึ้น อัดลิ้งก็ยิ่งจมยาวๆ ซึ่งกระบวนการที่จะทำให้เว็บเรากลับมาได้ ขึ้นอยู่กับว่าเราสามารถทำให้ระบบ AI ของ Google มองว่าเว็บไซต์เรานั้นมีคุณค่าสูงให้ได้ ผ่านตัวชี้วัดต่างๆ

- เวลาที่คนอยู่ในหน้าเว็บ
- เวลาที่คนค้นหาเจอเรา มีคนสนใจคลิก อย่างมีนัยยะสำคัญหรือไม่
- ความเชื่อมโยงของเนื้อหาต่อ คำค้นหามีความเกี่ยวข้องกัน และตรงกับความต้องการของผู้คนหาจริงๆ หรือไม
- ประสิทธิภาพของหน้าเว็บเราต่อผู้เข้าชมสูงหรือต่ำ โหลดเร็วหรือไม่ คนอยู่นานไหม สามารถสร้างอัตราการคลิ๊กต่อให้เกิดขึ้นไหม ผู้เข้าชมเว็บกลับมาซ้ำอีกหรือไม่

ซึ่งการแก้ปัญหาเหล่านี้เป็นโจทย์ใหม่ๆ ที่สร้างความท้าทายให้กับคนทำเว็บมากๆ ครับ ถ้าเราไม่ตีโจทย์ให้แตกก่อน เริ่มทำเว็บใหม่ผมว่าก็ไม่ได้ช่วยอะไรครับ
8  ความรู้ทั่วไป / Adsense / Re: โดนเรียกคุย ภาษี เมื่อ: 21 สิงหาคม 2018, 06:54:05
ถ้ารายได้ทั้งปีไม่เกิน 1.8 จะไม่นักเท่าไร เสียไม่เยอะหรอกครับ  แต่ถ้าเกิน 1.8 นิหนักเลย จากที่ผมเคยไปคุยมา ผมบอกได้เลยว่ามีเสียอยู่ 2 เรท ขึ้นอยู่กับว่าสรรพกรมองคุณแบบไหน

แบบที่ 1. มองว่าคุณทำคนเดี่ยว แบบนี้หักเหมาจ่ายได้น้อยมากๆ เสียภาษีเยอะแน่นอน

แบบที่ 2. มองว่าคุณทำแบบเป็นทีมมีต้นทุนการจ้างคน ทำเป็นทีมงาน  ถ้าเป็นแบบนี้จะหักเหมาจ่ายเป็นเปอร์เซ็นได้ทั้งหมด เวลาเสียจริงจะไม่เยอะ  แต่เขาอาจจะขอพวกรายจ่าย เช่น ใบเสร็จค่าจ้างคนที่เราจ้าง ค่าใช้จ่ายที่เอามาอ้างอิงได้ เอกสารพวกนี้ ถ้ามีก็หักเหมาๆ ได้ ทำให้เสียภาษีไม่เยอะ
9  ความรู้ทั่วไป / E-commerce / Re: มีใครขายของบนเว็บไซต์ ได้เยอะกว่า ขายบนเพจ หรือ ig บ้างครับ เมื่อ: 10 สิงหาคม 2018, 15:13:44
ของผมทำแต่เว็บกับ Line@ ยอดขายดีอยู่ครับ ขายได้เรื่อยๆ แม้ช่วงนี้จะเป็นขาลงอยู่บ้าง แต่ก็ถือว่าอยู่ได้อีกนานหลายปีโดยไม่ต้องปรับอะไรมากครับ ส่วนตัวผมเลิกทำ Facebook มานานแล้วไม่คุ้มค่าลงโฆษณาครับ
10  ความรู้ทั่วไป / Search Engine Optimization / Re: ฝ่า 9 นรกไปกับพระเจ้า ภาค2 / Google Algorithm 2018 เมื่อ: 06 สิงหาคม 2018, 15:18:20
แล้วล่าสุดที่พึ่งปล่อยเกี่ยวกับอะไรคับ Huh?


ล่าสุดก็มหาเทพ "Broad Core Algorithm" เลยครับ มาแบบโอมากาเสะ ไม่ต้องถามไถ่จัดให้เลยอร่อยแน่นอน ส่วนไอ้ผู้คุมกฎ 9 ตัวนั่นก็ทำตามหน้าที่ไปตามอัธยาศัย
http://www.thaiseoboard.com/in...p/topic,411062.msg5422057.html

 wanwan031


 "Broad Core Algorithm" ตัวนี้หนักสุดสายขาวเว็บสะอาด แต่ถ้าเป็นเว็บเล็กๆ เนื้อหาน้อยก็แพ้เว็บใหญ่แน่นอน  อยู่รอดมาหลายปี ปีนี้โดนเต็มๆ โชคดีที่เป็นเว็บ E-com  ถึงอันดับตกแต่เอาเงินซื้อคืนได้   wanwan019 wanwan019 wanwan019  แต่ถ้าเป็นไปได้ไม่อยากเสียเงินเลยจริงๆ   wanwan019 wanwan019 wanwan019


เอาเงินซื้อคืนยังไงครับ มีด้วยเหรอ


จ่ายเงินซื้อ Adwords เอาครับ เพราะร้านขายของมันต้องการติดอันดับไม่กี่คียหรอกครับ ก็ขายของได้แล้ว ถ้าอันดับตกไม่ติดหน้าแรก ก็เอาเงินไปอัดซื้อโฆษณาเพื่อยอดขายเอา
11  ความรู้ทั่วไป / Search Engine Optimization / Re: ฝ่า 9 นรกไปกับพระเจ้า ภาค2 / Google Algorithm 2018 เมื่อ: 06 สิงหาคม 2018, 13:15:46
แล้วล่าสุดที่พึ่งปล่อยเกี่ยวกับอะไรคับ Huh?


ล่าสุดก็มหาเทพ "Broad Core Algorithm" เลยครับ มาแบบโอมากาเสะ ไม่ต้องถามไถ่จัดให้เลยอร่อยแน่นอน ส่วนไอ้ผู้คุมกฎ 9 ตัวนั่นก็ทำตามหน้าที่ไปตามอัธยาศัย
http://www.thaiseoboard.com/in...p/topic,411062.msg5422057.html

 wanwan031


 "Broad Core Algorithm" ตัวนี้หนักสุดสายขาวเว็บสะอาด แต่ถ้าเป็นเว็บเล็กๆ เนื้อหาน้อยก็แพ้เว็บใหญ่แน่นอน  อยู่รอดมาหลายปี ปีนี้โดนเต็มๆ โชคดีที่เป็นเว็บ E-com  ถึงอันดับตกแต่เอาเงินซื้อคืนได้   wanwan019 wanwan019 wanwan019  แต่ถ้าเป็นไปได้ไม่อยากเสียเงินเลยจริงๆ   wanwan019 wanwan019 wanwan019
12  ความรู้ทั่วไป / E-commerce / Re: มีใครจดทะเบียนพานิชย์ อิเล็กทรอนิกส์ บ้างครับ เมื่อ: 05 สิงหาคม 2018, 12:18:03
ตามหัวข้อเลยครับ ขายของออนไลน์ มีใครจดทะเบียนพานิชย์ อิเล็กทรอนิกส์ บ้างครับ

1.อยากสอบถามถ้าเราไปจดทะเบียนพาณิชย์มันยุ่งยากมากมาย
ไม่ครับ แป๊ปเดี่ยวก็เสร็จ

2.มีผลต่อการขายเรามากน้อยแค่ไหนครับ
ไม่มีผลแบบเป็นนัยสำคัญ มีไม่มีก็ขายของได้เหมือนเดิม มีแล้วขายดีขึ้นผมให้น้ำหนักไม่ถึง 1 เปอร์เซ็น เพราะคนซื้อของส่วนใหญ่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร

3.แล้วต้องเกี่ยวเนื่องกับการเสียภาษีใหมครับ
มีผลอย่างมีนัยยะสำคัญ เพราะตอนผมจดทะเบียนพาณิชย์เสร็จ ในปีนั้นก็มีสรรพกรมาเยี่ยมเลย เป็นจดหมายเรียกเกี่ยวกับธุรกิจที่ทำ สอบถามเรื่องการยื่นภาษีและการจดทะเบียนต่างๆ ซึ่งผมเตรียมตัวไปอย่างดี  ถ้าเจอคนหัวหมอหรือทำงานแบบหวังผลประโยชน์คงแย่เพราะผมก็เคยเจอเจ้าหน้าที่ไม่ดี ตอนทำเรื่องภาษีป้ายหน้าร้าน ซึ่งจริงๆ ผมก็ไม่ได้อยากทำ แต่เจ้าหน้าที่สรรพกรที่มาเยี่ยมบ้านบอกว่าต้องไปจดตามกฏหมาย พอดีที่บ้านแม่เปิดขายของเล็กๆ น้อยๆ ในบ้านที่เป็นอาคารพาณิย์ เปิดมาเป็น 10 ปีแล้วแต่ขายไม่ดี เรียกว่าขายขำๆ แบบคนแก่  ผมเลยไปจดภาษีป้ายเป็นชื่อผมและเอาธุรกิจตัวนี้เป็นชื่อตัวเองแทนซึ่งก็มีการจดทะเบียนพานิชย์ธรรมดาอย่างเดี่ยว รอบนี้แหละมีปัญหาพอสมควร มองหน้าผมอย่างมีปัญหาว่าทำไมพึงมาจดภาษีป้าย เปิดร้านมาเป็น 10 ปี ผมก็ตอบไปตามตรงว่ามาทำให้ถูกต้องเฉยๆ พ่อแม่ขายของขำๆ ไม่ได้จริงจังไม่ใช่รายได้หลัก และเขาแนะนำให้มาจดภาษีป้ายทำอะไรให้มันถูกต้องผมก็เลยต้องทำ และป้ายก็พึงติด (เป็นสติ๊กเกอร์เล็กๆ ขนาด กว้าง 30 เซ็น สูง 150 เซ็น เป็นตัวอักษรตัดแป๊ะทั้งหมด) ซึ่งเสียค่าภาษีแค่ 200 บาทต่อปี หลังจากนั้นเขาก็เงียบๆ

 wanwan004 wanwan004 wanwan004

สาเหตุเพราะเขาอยากจะปรับเงินผมเพิ่มครับจะเอาให้ได้ว่าง่ายๆ ปากก็บอกว่าทำไปตามกฏ ถ้าวันนั้นผมเสียภาษีป้ายเยอะๆ ผมก็จะไม่จดนะให้ยึดป้ายผมไปเลย แมร่งไม่มีค่าอะไร ทำเพราะอยากเข้าระบบไม่ให้มีปัญหาทีหลังเท่านั้นเอง แต่จดแล้วจดรอดก็โดนจนได้แต่ไม่เยอะ ข้อหาไม่มีป้ายหลังจดทะเบียนพาณิยช์โดนปรับ วันละ 20 บาท นับจาก 30 วันที่จดทะเบียนพาณิยช์ แต่เนื่องจากไม่เยอะผมก็เลยเสียๆ ไป


ในใจผมคิดเลยว่าถ้าโดนวันละ 20 บาท ค่าป้าย ผมมีทะเบียนพาณิชย์และไม่ขึ้นป้ายหน้าร้านหลายรายการเลยเพราะขายของในเว็บ ถ้าโดนวันละ 20 บาทนิ 3 - 5 ปี นิโดนหลายหมื่นแน่ๆ

 wanwan004 wanwan004 wanwan004

แต่ไปอ่านเจอกฏหมายเกี่ยวกับภาษีป้ายถ้าไม่มีเงินจ่ายค่าปรับจะยึดป้าย ผมนิสบายใจเลย  ปล. ภาษีป้าย  กับ  ภาษีสรรพกรที่จ่ายทุกปีเป็นคนละหน่วยงานกัน ดังนั้นเลยไม่ต้องกังวลนะครับ  ไม่ต้องมีป้ายก็ได้ถ้าขายออนไลน์อย่างเดี่ยว  แต่ถ้ามีหน้าร้านต้องไปทำให้ถูกต้องตามกฏหมายไม่งั้นพวกเขตจะมาเรียกรับเงินหรือสินบนได้  พวกนี้ตัวปัญหามากกว่าสรรพกรอีกจากประสบการณ์
13  ความรู้ทั่วไป / Search Engine Optimization / Re: ล่าสุดๆๆๆ วันนี้เว็บใครอันดับตกบ้างครับ เมื่อ: 03 สิงหาคม 2018, 01:34:13
จากที่ผมดูรอบนี้หนักมากๆ สำหรับเว็บขนาดเล็ก เรียกว่าแถบจะไม่มีที่ยืนกันเลย ต่างกับเว็บขนาดใหญ่ที่อันดับขึ้นเอาขึ้นเอา

เรียกว่าการปรับรอบนี้รายย่อยโดนกันทั่วหน้า รายใหญ่ยิ้มครับ

ในฐานะที่อยู่ในกลุ่มคนทำ E-com เว็บของผมโดนกันทั่วหน้า ปกติติดอันดับ 1-7 ในคียหลักๆ วันนี้หล่นไป 5-10 อันดับในหลายๆ คีย เรียกว่าโดนหนักเหมือนกัน

สาย E-com คงต้องเอาเงินซื้อ Adwords แก้ไปก่อน ส่วนสายทำเงินจาก Content + Adsense ถ้าทำจนมีขนาดใหญ่เนื้อหาเยอะๆ และเว็บมีขนาดใหญ่แล้วคิดว่ารอบนี้ผมกระทบไม่เยอะ เป็น + นิดๆ ด้วยซ้ำ

 wanwan004 wanwan004 wanwan004
14  ความรู้ทั่วไป / Search Engine Optimization / Re: ติดหน้า 1 Google แล้ว จำเป็นต้องซื้อ Adword อีกไหมคะ เมื่อ: 12 มิถุนายน 2018, 16:02:22
มันเป็นเรื่องของความคุ้มค่า และผลตอบกลับ ถ้าลงแล้วมียอดขายทำกำไรได้เพิ่มก็ยังแนะนำว่าควรลง แต่ถ้าลงแล้วไม่ได้กำไรเพิ่มก็ไม่ต้องลงครับ สำหรับผมแล้วตำแหน่งที่ดีที่สุดมีแค่อันดับ 1 - 4 เท่านั้น นอกจากนี้ถือว่ายังไม่สุด เพราะว่าอันดับในมือถือแสดงน้อยกว่าใน pc ดังนั้นอันดับแค่ติดหน้าแรกถ้าวัดจากเครื่อง pc อย่างเดี่ยวอาจจะไม่พอ
15  พัฒนาเว็บไซต์ / Brand & Authority / Re: สมัยนี้มีคนทำเว็บอนิเมะอยู่ไหมครับ เมื่อ: 11 มิถุนายน 2018, 18:13:12
โดยส่วนตัวผมไม่แนะนำให้ทำจะดีกว่าครับ มันมีหลายเหตุผล แต่ปัญหาหลักเลยคือ ข้อกฏหมาย ถ้าเป็นเว็บดูหนังอะไรพวกนี้ ขาก้าวหนึ่งก็อยู่ในเงามืดแล้วครับ  แต่ถ้าเป็นเว็บข้อมูล เว็บบอร์ดพวกนี้ก็คงสร้างได้กินไปเรื่อยๆ แต่รายได้ไม่ได้วือวาอะไรแน่นอน เพราะกลุ่มทุนเขาไม่สนใจพวกนี้ครับ ดังนั้นจึงหาได้แต่พวกค่าขนมเล็กๆ น้อย  ถ้าใจไม่รักด้านนี้ทำไปก็ไม่คุ้มทุน
16  ความรู้ทั่วไป / Search Engine Optimization / Re: เป็นนักทำ SEO เขาไม่สน จีบหญิง อ่านข้อความ 1 ชั่วโมง ค่อยมาตอบว่า จ๊ะ เมื่อ: 05 มิถุนายน 2018, 16:18:03
ในฐานะนักทำ SEO ผมคิดว่าการจีบสาวนั้นถ้า onpage เราดี ถือเป็นใบเบิกทางในการทำอันดับเลยครับ เสื้อผ้าหน้าผม สไตล์การแต่งตัวถ้ามีจุดเด่นซักนิดเนียเยี่ยมเลย มันจะทำให้คุณเข้าสู่หน้า 1 2 ได้ไม่ยาก แต่ถ้าจะให้สุดยอดต้องทำควบคู่หลายอย่างถ้าเรายังไม่อยู่ในอันดับที่ดี ช่วงแรกๆ พยายามบิด Adword ไปก่อนใช้เงินทำอันดับ   ค่าใช้จ่ายในช่วงเริ่มต้นมันสูงเป็นธรรมดา  แต่มันเป็นทางลัดและทำให้เราได้ศึกษาความคุ้มค้าของคีย์เวิร์ด(สาวๆ ที่เราสนใจ) ว่าใช้ในแบบที่เราต้องการรึเปล่า ถ้าไม่คุ้มเราก็หยุดทำอันดับแล้วไปหาคีย์ที่ทำกำไรดีกว่าครับ

การทำอันดับระยะยาวต้องไม่เน้นเงิน เพราะการใช้เงินเยอะๆ อาจจะไม่ใช่ทำตอบที่ดีที่สุด และทำให้เราจมทุนได้ การกลับมาปรับ onpage offpage อย่างมีคุณภาพน่าจะเป็นเรื่องที่ดีที่สุด  และสุดท้าย ความท้ายจริงๆ ในการทำอันดับในใจใครซักคนนั้นขึ้นอยู่กับระบบ AI ที่มีความซับซ้อนสูง แม้นเราลงทั้งเงินและเวลาก็อาจจะมีความผิดพลาดที่ไม่ได้ตั้งใจเกิดขึ้นได้ แต่นั้นไม่ใช้ข้อแก้ตัวของมืออาชีพที่คิดจะรักใครซักคน

ความผิดพลาดที่มากขึ้นจะทำให้คุณได้เรียนรู้การทำอันดับและมีประสบการณ์มากขึ้น ทั้งในด้านการหาคีย์ทำเงิน คีย์เวิร์ดมีคุณค่าสูง จนเมื่อคุณประสบความสำเร็จ คุณจะพบว่าคุณสามารถใช้ประโยชน์และหาคุณค่าจากมันได้ในระยะยาว  เพียงแต่คุณต้องอยากหยุดที่จะพยายาม  เพราะนั้นคือการแสดงคุณค่าที่แท้จริงของนักทำ SEO หรือ นักทำเสียวมืออาชีพ

โชคดีครับ
17  ความรู้ทั่วไป / Search Engine Optimization / Re: wordpress vs bloger อันไหนทำอันดับ ดีกว่ากัน ??? เมื่อ: 23 พฤษภาคม 2018, 02:00:03
ถ้าเป้าหมายเป็นคนไทย wordpress  ดีกว่าแน่นอนครับ  ต่างประเทศผมไม่รู้เพราะผมลุยอยู่แต่ในประเทศครับ  Tongue
18  ความรู้ทั่วไป / General (ถามคุยวิชาการ IM) / Re: ทำไมช่วงนี้หลายคนเริ้มไม่อยากทำเว็บกันเเล้วหลายคนล้มเลิกกันเยอะมาก เมื่อ: 23 เมษายน 2018, 20:58:54
ส่วนตัวผมมองว่าคนรุ่นใหม่ใจไม่สู้พอ คาดหวังผลที่รวดเร็วเกินไป ต้องการอะไรก็อยากได้ทันที การทำ SEO มันมีเรื่องของระยะเวลาเข้ามาเป็นปัจจัยสำคัญและมีปัจจัยประกอบที่เปลี่ยนแปลงเสมอ แต่เมื่อถึงจุดที่คุณจับทางได้แล้ว และพยายามเดินอยู่บนกรอบเส้นทางที่ไม่รีบร้อนผลตอบรับที่ดีๆ และความสำเร็จจากการทำ SEO ก็ไม่ไกลเกินไป แต่หลายๆ คนหยุดก่อนที่มันจะไปถึง

เช่น มีคนอยากเปิดร้านขายของออนไลน ผมก็แนะนำไปว่าทำได้สิไม่ยากแต่ต้องอดทนนะ ระยะเวลาที่จะขายของชิ้นแรกได้อาจจะต้องกินเวลาซักหน่อย แนะนำให้ทำ Adwords ก่อนจากนั้นได้ข้อมูลแล้วก็มาทำ SEO ต่อ ซึ่งมันอาจจะต้องลงทุนบ้าง แต่ถ้าต้นทุนน้อยต้องขยันมากหน่อย ระยะเวลาที่จะเริ่มอยู่ตัวก็น่าจะประมาณ 3 - 6 เดือน แปรเปลี่ยนตามความขยันและเงินทุน  สุดท้ายเราก็ทำได้แค่คุยกันและเขาก็หายไปจากชีวิตผมไป ไปขายของตลาดนัดแทน

แม้กระทั่งการทำเว็บเพื่อหาเงินจากค่าโฆษณา ผมก็เห็นมีหลายคนอยากทำแต่ทำได้ 2 - 3 เดือนก็เลิก ไม่ใช่ว่ามันยากอะไร แต่เพราะคนสมัยนี้ใจร้อนกันไปเอง เงินอยู่ตรงหน้าขึ้นอยู่กับว่าคุณจะหาแบบไหนมากกว่าครับ

19  ความรู้ทั่วไป / Social Media Marketing / Re: ปรกติลงโฆษณาเฟสบุ๊ค 300 บาทได้อะไรบ้างครับ เมื่อ: 14 เมษายน 2018, 01:31:41
ปัจจัยเรื่องความสำเร็จของการลงโฆษณากับเฟสบุ๊คเป็นอะไรที่ละเอียดอ่อนมากครับ และหลายๆ ครั้งการทำโฆษณาในเฟสก็ไม่ได้เหมาะกับหลายๆ ผลิตภัณฑ์ เพราะการที่เราจะลงโฆษณาแล้วได้รับผลตอบรับที่จุดคุ้มทุนมันไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว ผมมีธุรกิจขายเสื้อผ้าอยู่ 3 เว็บ เมื่อก่อนลงไปพอที่จะทำกำไรกลับมาบ้านในอัตราที่สมน้ำสมเนื้อ  เช่น งบลงไป 1000 คนเห็นหลักหมื่น หลักแสน แต่ดูตอนนี้ ลงไปแต่ละทีแถบจะไม่ได้อะไรเลย ดังนั้นผมเลยบอกว่าได้มันไม่สามารถเอามาขายของได้ง่ายๆ เหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว

เมื่อก่อนลง 1000 คนเห็น  30000 - 50000 ได้ทั้งคนติดตามอีกหลักร้อยหลักพัน ขายของได้กำไร 1000 - 3000 ต่อรอบ หักต้นทุนค่าโฆณาแล้วยังมีเหลือกำไรบ้าง พัน 2 พัน  แต่ปัจจุบันหมดเป็นพันยังไม่ได้ลูกค้าเลย นิเป็นข้อเสียของ facebook แม้แต่การพยายามทำรีมาเก็ตติ้งก็ทำได้ยาก ผมมีลูกค้าติดตามเพ็จร้านค้า 18k 30k 40k 8k 5k ทำรีมาร์เก็ตติ้งยัดเงินใสไปเป็นพันลูกค้าเห็นไม่ถึง 3000 คน ทุกวันนี้เลยปล่อยเฟสไปแล้วครับ เล่นอย่างอื่นสนุกกว่า

ผมใช้ line@ ทำรีมาเก็ตติ้งเดือนๆ หนึ่งได้ยอดขายสบายๆ ติดไม้ติดมือกลับมาตลอด ตอนนี้ไม่สนใจเฟสแล้วครับ
20  ความรู้ทั่วไป / Social Media Marketing / Re: ขายของออนไลน์โปรโมทวันละเท่าไหร่ถึงจะมีคนซื้อ เมื่อ: 12 มีนาคม 2018, 16:52:15
คือถ้าเรามองในมุมของเงินและงบประมาณอย่างเดี่ยว เราจะไม่สามารถคาดหวังผลลัพธ์ที่ดีและแน่นอนได้ เพราะมันมีปัจจัยหลายอย่างที่มากระทบ เช่น ตัวสินค้าของเราคืออะไร รูปแบบการนำเสนอการจัดทำโฆษณาของเราเป็นอย่างไร การลงโฆษณาเป็นแบบเจาะจงหรือไม่เจาะจง  คุณภาพและจำนวนคนที่เห็นโฆษณาของเราต่อเงินที่เราจ่ายไปคือเท่าไร  ซึ่งมันไม่แน่นอนแบบสุดๆ  


ดังนั้นคำตอบที่ได้คือ  คุณไม่สามารถคาดหวังอะไรได้เลยจากจำนวนเงินที่เสียไป  คุณอาจจะขายดียอดขายโตในเดือนแรกเลยก็ได้ หรือ ขาดทุนเงินจมหมดในเดือนแรกเลยก็ได้  แต่สิ่งที่คุณได้มามากที่สุดในการลงโฆษณา คือ "ข้อมูล"  คุณจะเรียนรู้ได้ว่ารูปแบบการลงโฆษณาแบบไหนเหมาะกับคุณ ลงแบบไหนให้ผลตอบรับอย่างไร  คนกลุ่มไหนสนใจสินค้าของคุณ  วิธีแบบไหนกระตุ้นให้ลูกค้าเกิดการสั่งซื้อได้ดี แต่นั้นก็อยู่บนพื้นฐานที่ว่าคุณมีเงินมากพอที่จะเอามาเทกับตลาดนี้ เพื่อแลกกับข้อมูลต่อไป

เฟสบุ๊คไม่ใช่ตลาดที่ทุกคนจะเข้าไปแล้วทำกำไรกลับมาได้ง่ายๆ  ขนาดที่โยนเงินกับไป 100 ได้กลับมา 1000  คุณอาจจะต้องมีเงินหลักหมื่นหรือหลักแสนเพื่อจ่ายค่าประสบการณ์ด้วยตัวเองครับ
หน้า: [1] 2 3 ... 47