เฉพาะ ดอท อะไรบ้างครับ
ผมลองกับ .im ไม่ได้ครับ

ทำได้แร่ะครับ จำไม่ได้ว่าหาจากเว็บอะไร พอก็อปวิธีมาใส่ในโน๊ตแล้วปิดหน้านั้นไป
แล้วมานั่งทำตามดู

1. สร้างไฟล์ .htaccess แล้วนำไปใส่ไว้ใน public_html
โดยใน .htaccess ไฟล์ให้ใส่ข้อความดังนี้

2. ให้สร้างไฟล์ url-friendly.php ขึ้นมาและใส่ข้อความดังนี้

เทสปั้บ ได้ปุ๊บเลย ฮาาาาา 
กลับไปตั้ง URL ภาษาไทยตามเดิม กุญแจสีเขียวก็ไม่หายแร้วว

หากหน้าปกติ หรือหน้าอื่นๆ ที่ url ไม่ได้เป็นภาษาไทยก็เขียวหมดอ่ะครับ
แต่หากมีภาษาไทยใน url สักตัวล่ะก็ กุญแจเขียว หายเลยอ่ะครับ

ปล.พอมาค้นดูตัวอย่าง เว็ปในไทยดังๆ หลายเว็บ ก็พยายามหลีกเลี่ยง Url ภาษาไทยเหมือนกันนะเนี่ยะ แม้บทความจะเป็นหัวข้อภาษาไทยก็ตาม เค้าก็จะตั้ง Url เป็นภาษาอังกฤษ กันทั้งนั้นเลย
 

เวลาเข้าเว็บส่วนตัว หน้าหลักก็ขึ้นเป็น secure กุญแจสีเขียวดีอยู่หรอก แต่พอเข้าหน้าบทความหรือโพสต่างๆ จะขึ้นเป็น insecure เครื่องหมายตกใจทุกที
 
พอมาค้นหาปัญหาดูดีๆ ก็พบว่าเพราะกำหนด permalink เป็นชื่อโพสหรือบทความ(ซึ่งเป็นภาษาไทย)
แล้วพอเปลี่ยน permalink เป็นตัวเลขลำดับโพสหรืออื่นๆ ที่ไม่มีภาษาไทย เช่น /?p=123 ก็ไม่เจอปัญหาเครื่องหมายตกใจอีกเลย
 
อยากรู้ว่ามีวีธีที่จะใช้ url หรือกำหนด permalink เป็นชื่อหน้า,โพส,บทความ ซึ่งเป็นภาษาไทย และขึ้นเป็น secure url รูปกุญแจสีเขียว มั้ยครับ
  

ตอนจำกัดการสมัคร คนเล่นเยอะ คนอยากสมัครก็เยอะ 
แต่พอ เปิดให้สมัครไม่จำกัด คนดันเล่นน้อย คนอยากสมัครก็น้อย
 

อ่านเงื่อนไขดีๆ นะครับ
โดยเฉพาะข้อที่ว่า

6. ข้าพเจ้าขอมอบหมายให้กระทรวงการคลังหรือผู้จัดทำระบบให้กระทรวงการคลัง เป็นผู้รับมอบอำนาจดำเนินการยื่นคำขอตรวจสอบข้อมูลเครดิตของข้าพเจ้าที่มีต่อสถาบันการเงินใด ๆ ต่อบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด แทนข้าพเจ้า เพื่อประโยชน์ในการพิจารณาทบทวนสิทธิ ในการนี้ ให้กระทรวงการคลังหรือผู้จัดทำระบบให้กระทรวงการคลังมีอำนาจรับมอบข้อมูลเครดิตของข้าพเจ้าและให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบข้อมูลเครดิตแก่บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด

หมายความว่า หากเรายินยอม ก็หมายถึงให้เค้าสามารถเข้าไปดูข้อมูลเครดิต ข้อมูลการเงินต่างๆ ของเราได้เองเลย โดยไม่ต้องขออนุญาติจากเรา

 

หากว่ากันตามเงื่อนไข งานรับจ้างอิสระ (ฟรีแลนซ์) ก็อยู่ในข่าย เพราะ หลายคนไม่มีประกันสังคม
และผลกระทบที่คนจ้างงานก็น้อยลงในช่วงแบบนี้ (แต่บางคนก็เยอะขึ้น เพราะลูกค้าสั่งงานออนไลน์ในช่วงกักตัวอยู่บ้าน)

แต่เพราะ งานแบบนี้ ไม่ได้มีรายได้ประจำเช่นเงินเดือนคงที่ ไม่ได้ถูกปิดหรือพักงาน และการทำงานประเภทนี้ ส่วนใหญ่ก็ทำมานานแล้ว อาจจะไม่ใช่ผลกระทบตรงๆ แค่ช่วงนี้ จากโควิด

แล้วแบบนี้ ควรจะลงทะเบียน หรือไม่ลงดี 
แม้ข้อมูลที่ลงไปจะเป็นความจริง ว่า ทำงานอิสระ หรือ ฟรีแล้นซ์ หรือ รับออกแบบงานต่างๆ 

อยากรู้ว่า เวลาเพื่อนๆ ตอนเริ่มหัดทำเว็บ หรือมีโอกาสได้ทำเว็บเองแรกๆ
จะใช้ชื่อตัวเอง หรือฉายาตัวเอง จดเป็นชื่อโดเมนกันบ้างมั้ยครับ

ส่วนใหญ่เท่าที่เห็นเยอะหน่อย ก็จะเป็นยูทูปเบอร์ ที่พอมีคนติดตามเยอะๆ หน่อย ก็จะจดชื่อโดเมนด้วยชื่อตนเอง หรือฉายาที่ใช้เรียกรู้จักกัน เป็นชื่อเว็บ
แล้วก็ใส่คลิปรีวิวนู้น นี่ ที่ตนเองทำรวมไว้ในเว็บอีกที แม้จะดูทั้งหมดได้ใน channal ยูทูปของตัวเองได้ก็ตาม 
ยกตัวอย่างเช่น iaumreview ; iannnn ; asayhi ; 2how ฯลฯ

แต่สงสัย ว่าเพื่อนสายทำเว็บทั่วไป ไม่ได้เป็นยูทูปเบอร์ อาจจะเป็น คนทั่วไป ฟรีแลนด์ มือปืนรับจ้าง หรือรับทำเว็บจริงจัง
หลายๆ คน มักจะจดโดเมนชื่อ หรือฉายาตัวเอง เอาไว้กันบ้างมั้ยครับ
และหากจดไว้ ส่วนใหญ่ จะใส่เนื้อหาอะไรกันในเว็บบ้างครับ
เป็น Blog เอาไว้บันทึกหรือเขียนบทความที่สนใจ ไดอารี่ รีซูเม่ หรือประวัติส่วนตัว กันครับ
 

ขอบคุณครับ สำหรับคำแนะนำ 

ตอนนี้ผมลองเปลี่ยนมาใช้ Authy ดู รู้สึกโอเคกว่า Google Authenticator หน่อยนึง  
ตรงที่มีเวลาให้ใส่รหัสได้นานกว่า(ไม่ได้ลองจับเวลา แต่รู้สึกได้ว่านานกว่า)
สามารถตั้ง Pincode หรือ ใส่ลายนิ้วมือ ไบโอเมตริกอื่นๆ เพื่อความปลอดภัย ก่อนเข้าแอพ
สามารถแบ็คอัพสำรองข้อมูลและเว็บไซต์ออนไลน์ไว้ได้ด้วย
และสามารถสร้าง widget ไว้บนหน้าโฮมโทรศัพท์ เพื่อการเข้าถึงแต่ละเว็บไซต์หรือบัญชีต่างๆ ได้ง่ายขึ้น  

ผมตั้งให้ใช้ 2FA กับการล็อคอินไซต์ที่สำคัญๆ ไว้
แต่ละครั้งที่ต้องใช้ มาหยิบโทรศัพท์เปิดแอพ ใส่รหัส แทบไม่ทัน มีวิธีตั้ง ให้เวลาเพิ่มขึ้นมั้ยครับ
ดูการตั้งค่าในแอพ ก็มีแค่ตั้งเวลาแอพให้ตรงกับเว็บไซต์แค่นั้นเอง
 

นอกเรื่องนิดนึงครับ
อยากรู้เวบบอร์ดในเว็บเค้า ใช้ CMS อะไร หรือเขียนเองอ่ะครับ 

ขอบคุณครับผม

 
ตามหาลิ้งค์ดาวน์โหลดจาก เว็บไหนๆ ก็เจ๊งไปหมดแล้วครับ แม้แต่ Discuzthai
มีเพื่อนท่านใด ยังมีตัวติดตั้ง หรือ addon อื่นๆ เก็บไว้บ้างครับ ขอรบกวนแบ่งปันให้ผมดาวน์โหลดเก็บไว้หน่อยครับ
 

ปลั๊กอิน แบ็คอัพ มันมาหมด หรือ ต่อให้สามารถแยกประเภท ก็เลือกได้แค่ว่า จะแบ็คอัพ database ; themes ; plugins ; media files หรือ ทั้งหมด 

บางครั้งผมต้องการแบ็คอัพ หรือส่งออกแค่ โพส หรือ บทความกับภาพในบทความแค่นั้นอ่ะครับ ไม่ได้อยากได้ทั้งหมด
เพราะการตั้งค่าเว็บก็อยากตั้งค่าใหม่หมดไม่นานมาก แต่บทความบางครั้งมีเยอะ จะ import แล้วมาใส่ภาพประกอบอีกครั้ง เยอะจนปวดหัวเลยทีเดียว 

เคยใช้ ส่งออก ของ wp เอง ก็ได้เป็นแค่ เรื่อง บทความนั้นๆ แต่ภาพที่ประกอบในบทความไม่ได้มาด้วย ทำให้ต้องมานั่งใส่รูปหรือหารูปใส่ใหม่ตลอด ยิ่งมีบทความเยอะนี่ตายเลยย
 
นั่งหาปลั๊กอิน ส่วนใหญ่ ก็จะมาแค่บทความไม่รวมรููปอีกเหมือนกัน
เลยอยากรู้ว่ามีปลั๊กอิน หรือ วิธีการอื่น ที่จะสามารถ export บทความพร้อมไฟล์สื่อไปพร้อมกันมั้ยครับ
 

น่าติดตาม 

อ่ะ จริงดิครับ 

live chat หน้าเว็บเหรอครับ ผมเห็นขึ้น offline ตลอดเลยนิน่า 

จริงๆ ตอนที่ถามหน้า เพจ ของทางโฮส เรื่อง inodes ตั้งแต่ แพลน 3 ขึ้นไปไม่จำกัด 
สเปคอื่นๆ ของโฮสก็ตอบโจทย์
แต่ดูจากช่องทางการติดต่อ หาข้อมูลของโฮส จากที่อื่นๆ ก็ไม่มีการพูดถึง . . เริ่ม ไม่กล้าเสี่ยงแร้วสิ   
กลัวแล้ววววอ่า ไม่เสี่ยงดีกว่าเน๊าะ ครับ 555+ 

หากทักในเพจ FB เค้าตอบครับ
(ตอนแรกทักไปถามตอนค่ำ ไม่มีการตอบ เค้าตอบกลับมา เช้าอีกวันนึง แล้วก็ถามตอบกันสักพัก แสดงว่าน่าจะดูแล(เพจFB)หรือทำงานกันแค่กลางวัน) 
แต่ Live Chat หน้าเว็บ ไม่เคยขึ้นสถานะ online เลย ดูมาครึ่งเดือนแร่ะ เห็น offline ทุกวัน

. . . ยั่งงี้ ไม่ควรเสี่ยงใช่มั้ย ครับ 

เผื่อมีใครเล่นโดเมนอื่น ที่ไม่ใช่ dot com บ้าง  ไว้เป็นทางเลือก

เริ่มวันที่ 15 ก.ค. ถึง 24 ก.ค.

JULYSALE19

$0.99 domains:  .club   .me

$1.49 domains:  .live

$1.99 domains:  .agency   .life   .space   .today

$2.99 domains:  .center   .codes   .energy   .media   .moda   .news   .plus   .services   .style

$3.99 domains:  .tech

$4.99 domains:  .charity   .dog   .games   .video

$7.99 domains:  .community   .education   .school

ปล. ความจิงผมชอบ .me นะ แต่ราคาต่ออายุ แพงกว่า .com อื้อเลย