ดูให้ดีนะครับ ว่าบัญชีต่างประเทศที่ว่า เปิดที่ธนาคารที่มีสาขาในประเทศไทยหรือเปล่าครับ
เพราะเคยมีเคสที่คนกระทำความผิดฐานฟอกเงิน เปิดบัญชีกับธนาคารสวิสผ่านสำนักงานในประเทศไทย และ ปปง ก็อายัตบัญชีสกุล CHF นั้นได้ด้วยครับ
แต่ถ้าไปเปิดบัญชีที่ประเทศนั้นตรงๆก็ไม่มีปัญหา แต่ตอนนี้หลายประเทศไม่ได้ให้เปิดบัญชีถ้ามีแต่วีซ่าท่องเที่ยวนะครับ เพื่อป้องกันการฟอกเงิน อย่างน้อยก็ต้องมี work permit

Proxy ครับ

ไม่รู้ว่าเป็นแบบไหนนะครับ ถ้าเป็นการ broadcast ให้ผู้ใช้ทุกเครื่อง เช่น อยู่ๆมี notification แจ้งมาบน status bar
แบบนั้นต้องใช้ GCM ครับ เป็นระบบของ Google พัฒนาตัวส่งครั้งเดียว ใช้ได้ทั้ง android และ iOS (ต้องเพิ่ม Pod Project ชื่อ GCM ใน Xcode) หรือจะใช้ระบบของ Apple ตรงๆเลยก็ชื่อ APN
ดูจะยุ่งยากนิดนึง แต่ถ้าหมายถึงลูกค้าเปิดแอพเพื่อดูข่าวสาร อันนั้นไม่ใช่ notification แต่เหมือนเป็นการที่แอพเราไปดึง RSS หรือโหลดเว็บมาแสดง ก็เป็นระบบ web server ทั่วไปครับ

ตอบเป็นข้อนะครับ

- ถ้าผมจ้างทำแต่ไม่อัพขึ้นสโตรได้มั้ยครับ
ได้ครับ สำหรับ android แต่เครื่องผู้ใช้ จะต้องเปิด "Unknown Sources" ด้วย ดูได้ที่ http://gs4.wonderhowto.com/for...ps-outside-play-store-0150603/
แล้วเราก็แจกไฟล์ .apk ให้ไปติดตั้ง สำหรับ ios ไม่ได้ครับ เครื่องผู้ใช้ต้องมาติดตั้งที่ Mac ของนักพัฒนา

- แบบแอพข่าวงี้ พอข่าวใหม่มามันจะแจ้งเตือน
ต้องใช้ Push Notification ตรงนี้ android/ios จะมีระบบอยู่แล้ว ลองค้นหา GCM ดู

www.stats.in.th ก็ติดด้านล่าง ลองเข้าดูก็ไม่ช้านะครับ

ตอบในฐานะผู้มีประสบการณ์ครับ

เคสนี้บอกได้เลยครับว่าเราเสียเปรียบเต็มๆ เพราะเงินถูกโอนเข้าบัญชีเรา โดยบุคคลที่สาม
ดังนั้นตาม พรบ ซื้อขายสินค้า (จำชื่อเต็มๆไม่ได้) ถือว่าการซื้อขายนี่ไม่ถูกต้อง เพราะเราไม่ได้รับเงินจากผู้ที่สั่งซื้อโดยตรง แต่เป็นบุคคลที่สาม
ซึ่งถ้าเราไม่อยากเสียเวลาขึ้นโรงขึ้นศาล ต้องคืนเงินให้กับผู้ที่โอนเงินถ้าเขาแจ้งความว่าถูกฉ้อโกง และเราต้องไปตามไล่กับผู้ที่เอาบัญชีธนาคารเราไปใช้
ดังนั้นจึงตกเป็นหน้าที่ของผู้ขายที่จะต้องตรวจสอบและป้องกันความเสี่ยงนี้

แต่ก็ไม่ได้ว่าจะมีแต่เสียกับเสียอย่างเดียว พยายามเก็บข้อมูลลูกค้าให้ได้มากที่สุด , ไม่ขายสินค้าให้ลูกค้าที่ดูมีความเสี่ยง
และทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ พนักงานสอบสวน ครับ ถ้าเราพยายามอธิบายเขาดีๆ เอาหลักฐาน ข้อมูลไปอธิบายว่าซื้อขายยังไง ระบบเป็นแบบนี้แบบนั้น
ถ้าเขาเข้าใจ และผู้ที่โอนเงินเข้าใจ เขาก็จะถอนอายัดบัญชี และถอนแจ้งความให้ครับ แต่ถ้าเจอคนแรงๆ จะเอาเงินจากเราอย่างเดียวก็ต้องเผื่อใจด้วยครับ
เงินจะถูกอายัดไว้เพื่อตรวจสอบจนกว่าคดีจะสิ้นสุด (ซึ่งยังไงเราก็ไม่ผิด เพราะไม่มีหลักฐานมัดว่าเราไปฉ้อโกง นอกจากมีเงินเข้าบัญชี ซึ่งก็ชี้แจงได้ว่ามาจากการขายสินค้า)

ทั้งนี้ทั้งนั้น ถ้าคำนวณค่าเดินทางไปตามหมายเรียกแล้วไม่คุ้ม เช่น เรื่องเกิดที่ยะลา แล้วมูลค่าเงินหลักร้อย ก็คืนไปดีกว่าครับ

เพราะเว็บนี้ลงข่าวหนึ่งที่พาดพิงถึงพระมหากษัตริย์ครับ URL ข่าว เอามาโพสไม่ได้เพราะผิดกฏหมายไทย

ต้องมียอดครับ ถ้าไม่มียอดก็ติดต่อตรงๆเองไม่ได้ครับ

ถ้าซื้อขายกับนิติบุคคลบ่อยๆ แนะนำจด VAT เลยครับ เพราะบางบริษัท ถ้าไม่ออกใบกำกับภาษี เขาไม่ซื้อขายด้วยครับ

ขึ้นกับสัญญาครับ แต่คิดว่าคงไม่ ยกเว้นให้ทางทำเพิ่มเติมให้เหมาะสมกับประเทศไทย

AES มีหลาย mode ครับ default ใน PHP และ VB.NET ไม่เหมือนกันครับ
http://en.wikipedia.org/wiki/Block_cipher_mode_of_operation

    4.1 Electronic Codebook (ECB)
    4.2 Cipher Block Chaining (CBC)
        4.2.1 Propagating Cipher Block Chaining (PCBC)
    4.3 Cipher Feedback (CFB)
    4.4 Output Feedback (OFB)
    4.5 Counter (CTR)

หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคลครับ ราคาอ้างอิงจาก dotarai ปีละ 799 บาท

stats คำนวณจาก IP เป็นหลักครับ ซึ่งจะเป็นผลกับมหาวิทยาลัย , หน่วยงานขนาดใหญ่ ที่ระบบจะมองเห็นเป็น IP เดียว
histats น่าจะมีการใช้ cookie ควบคู่ด้วย อาจจะทำให้ 1 IP มองได้เป็นหลาย Visitors ครับ

ไม่ใช่พัฒนาอย่างเดียวแล้วจะสำเร็จครับ มีหลายปัจจัยด้วยไหนจะแบรนด์ การตลาดอีก
ทำไม Google+ มีทั้งเงินและคน ถึงยังไม่สามารถเทียบเท่า Facebook ได้

ไม่ส่งได้ครับ แต่โดนหนักกว่าส่งครับ

wepay มีจำหน่ายผ่าน API ไม่ต้อง stock ครับ

ใช้อยู่ ก็โอเคครับ

บอกให้คร่าวๆก็ได้ครับ เครือข่ายไม่เปิด API ให้ง่ายๆหรอกครับ
อย่างของผม จะต้องพยายามติดต่อกับฝ่ายดูแลคู่ค้าของเครือข่าย เพื่อทำสัญญา แถมมีเงื่อนไขมากครับ เช่น ยอดไม่ถึงเดือนละกี่ล้านก็อด
ถ้าเริ่มต้นก็ต้องใช้ซิมการ์ดต่อแล้วกดเมนูเอาครับ ถ้าสนใจจริงๆ ผมมี API wePAY ให้ครับผมทั้งเติมเงินมือถือ และบัตรเติมเงิน

ถ้าลดราคาแล้วเข้าเนื้อก็ไม่ work หรอกครับ ดูอย่าง cutrue สุดท้ายก็ต้องขึ้นราคา
ลองคำนวณดู กว่าจะหายอดได้ 1 ล้านบาทต่อเดือน ซึ่งจะได้ส่วนต่าง 8000 บาท ยังไม่หักค่าใช้จ่าย
เช่น ค่าโฆษณา ค่าไฟ ค่าเซิฟเวอร์ ค่าเสื่อมต่างๆ ค่าจ้างคน (หรือว่าคนเดียวทำทุกอย่าง) ค่าความรู้ ค่าเหนื่อย ค่าความเสี่ยง ค่าประกันตัว (กรณีเจอคดีความ)
ภาษีเงินได้ และค่าสังคมต่างๆ (อย่าคิดว่าทำไประดับนึง จะไม่โดนสรรพากร หรือหน่วยงานรัฐมาจับตามอง)
ทุกวันนี้คนทำธุรกิจมุ่งแต่ตัดราคาจนลืมต้นทุนตัวเอง
ถ้าคิดจะตัดราคา สำคัญว่าคุณภาพบริการต้องไม่ลดลงครับ