ผมก็ใช้ Work Shop จากสองเล่มนี้ครับ





ส่วนเล่มที่เอาไว้หาวิธีการใช้ฟังก์ชั่นต่างๆคือเล่มนี้

คู่มือเรียน PHP และ MySQL สำหรับผู้เริ่มต้น

http://www.provision.co.th/ind...n=com_virtuemart&Itemid=31

ทุกวันนี้ใช้เล่มนี้เล่มเดียว ผมไม่ได้ซื้อหนังสือ PHP เพิ่มมาหลายปีแล้ว

เพราะยุคก่อนๆอินเตอร์เน็ตจะช้ามาก การมีหนังสือไว้ซักเล่มจะรวดเร็วกว่า

ส่วนยุคหลังๆมานี้เน็ตไวเหลือเชื่อ บางทีไวกว่าที่เราจะพลิกหาในหนังสือซะอีก

แต่มีหนังสือไว้ก็ดีกว่าไม่มีนะครับ ทุกวันนี้ผมก็เอาเข้าไปอ่านในห้องน้ำทบทวนบ่อยๆ

ในยุคเริ่มต้นของบราวเซอร์

โปรแกรม Mosaic ถูกเขียนขึ้นด้วยคนๆเดียวนะครับ คือ Marc Andressen

หลังจากนั้นก็ถูกมหาวิทยาลัยยึดโปรเจคนี้ไปโดยอ้างว่า Marc เขียนในระหว่างที่ใช้ทุนของมหาลัยอยู่

หลังจากนั้น Marc ก็ไม่มีอะไรทำ เตะฝุ่นไปวันๆ

ในขณะเดียวกัน James Clark ก็เพิ่งถูกขับออกจาก SGI บริษัทที่เขาก่อตั้งขึ้นมาเอง (โดนเหมือน Steve Jobs)

James ก็ไม่รู้จะทำอะไรเหมือนกัน คิดแต่ว่าจะทำยังไงที่จะสร้างบริษัทที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิมขึ้นมาได้

เพื่อนของ James เข้ามาเยี่ยม แล้วดาวน์โหลดโปรแกรม Mosaic ให้ James ดู จากนั้นก็ทิ้งเบอร์โทรของ Marc ไว้ให้

James แปลกใจที่พบว่ามันใช้งานง่ายมาก ก็เลยนัดคุยกับ Marc เพื่อที่พัฒนามันให้ดีกว่าเดิมและดูว่าจะทำกำไรจากมันได้ยังไง

เขาทั้งสองเริ่มสร้างมันขึ้นมาใหม่แล้วตั้งชื่อว่า Mozilla (ก็อซซิลล่าผู้พิฆาต Mosaic) แล้วก็เพิ่มทีมงานเข้ามาเรื่อยๆ หลายสิบคน

ก่อนที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในชื่อว่า Netscape เพื่อไม่ให้มีปัญหากับทางมหาลัย (ชื่อ Mozilla มันหยามกันไปนิด)

หลังจากนั้น Netscape ก็เปิดตัวอย่างสวยงามในตลาดหลักทรัพย์และมีมูลค่าเป็นพันล้านบาท

จนไมโครซอฟต์ต้องหันมาเล่นด้วย ด้วยการออก IE ฝังไว้กับ Windows แม่มเลย

หลังจากนั้น Netscape ก็เริ่มตายลงอย่างช้าๆ ทีมงานบางส่วนก็ผันตัวมาทำ Firefox ก่อนที่ Netscape จะปิดกิจการลง

ชอบด้านเว็บ ลุยด้านเว็บครับ

ถ้าไม่ได้คิดจะเอา javascript มาทำอะไรหวือหวา เช่น หิมะโปรยตามเมาส์ ฯลฯ

แต่ต้องการเอา javascrip มาใช้มาผนวกใช้กับ Ajax ผมแนะนำ jQuery ครับ

ทุกวันนี้ผมก็ลืมไปแล้วว่า Ajax แบบดั้งเดิมเค้าเขียนกันยังไง



http://www.unzeen.com/article/669/ajax- ของง่ายถ้าใช้-jquery





ป.ล. Web App ไม่จำเป็นต้องมี Javascript เสมอไป

table ล้วนๆแบบนี้ เขียนเองแน่นอนครับ

ของผมถูกไล่ออกให้ไปใช้ vps ไม่คืนเงินด้วย

ไม่มีอะไรแนะนำต่อ บอกผมมาแค่นี้ผมเลยต้องไปหาเอง

ไม่ดูดีกว่า ดูทีไรทีมตัวเองแพ้ทุกที (แมนยู) 

ตอนแบกร่มขึ้น มันหนักน่ะสิครับ

Panerai

 

เก็บ $TOTALRATE ลง array ได้ไหมครับ

แล้วค่อยเอาไปลูปบวกราคากันอีกที

http://www.krabiholiday.com/booking.php?hotel_id=318

อินทนนท์ผมก็เคยขึ้นครั้งนึงครับ สมัยเริ่มปั่นใหม่ๆ ใช้เวลา 6 ชั่วโมงในการขึ้น

แต่ไปถึงแค่ด่านสองแล้วเฟืองเกียร์รูด ก็เลยต้องนั่งรถเซอร์วิสแทน

ตอนขากลับมีพี่คนนึงเป็นไข้ ก็เลยขอยืมรถพี่เขาลงดอยเพราะเป็นเสือภูเขา บังคับง่ายกว่าเสือหมอบ

ขาลงใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง กลับถึงบ้านแทบสลบ เป็นทริปที่เหนื่อยที่สุดในชีวิตแล้วครับ

ผมว่าดอยสุเทพนี่แหละครับกำลังดี

 

หาไม่ยากเลยครับตำแหน่งนี้

น่าทำมากครับ แต่อยู่เชียงใหม่ 

ที่ blognone มีข่าวออกมาว่าเป็นภาพปลอมแล้วครับ

http://www.blognone.com/news/2...%88%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%87

เมื่อก่อนผมปั่นขึ้นดอยสุเทพทุกวันเลยครับ ไม่ปั่นเช้าก็ปั่นเย็น มีความสุขมากครับ

เอาจักรยานเสตอลิงถูกๆ ที่เพื่อนที่ปั่นด้วยกันยกให้ ค่อยๆเก็บเงินค่าขนมมาเปลี่ยนอะไหล่ไปเรื่อยๆ

จนรถทั้งคันเหลือแต่โครงเท่านั้นที่เป็นของเดิม พ่นสีเขียวเลียนแบบพระเอกในการ์ตูนสิงห์นักปั่น

ขาขึ้นชอบจินตนาการว่าตัวเองเป็น โนโนมูระ กำลังไล่ตาม เอล คอนดอร์ อย่างติดๆ ส่วนขาลงชอบคิดว่าตัวเองเป็นยูตะ 5555

ตอนนั้นฟิตมาก เวลาเฉลี่ยประมาณ 23 นาที ส่วนพี่ที่รู้จักที่เคยเป็นอดีตทีมชาติเค้าบอกว่าทำได้ประมาณ 17 นาที

สมัยนี้ทำได้ประมาณ 40 นาที ด้วยอายุที่มากขึ้น และน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นอีก 15 กิโลครับ



ส่วนเจ้าของกระทู้เอา Full Suspension ขึ้นนี่แน่มากครับ ยกนิ้วให้ ผมยังมิกล้าเลยขอบอก หนักมว๊ากกกกกก

ขอให้โชคดีทุกท่านนะครับ 

ใช้ Drupal ได้เก่งมาก

ผมก็เคยครับ ทัศนคติไม่ตรงกัน ผมก็อึดอัดใจ เขาก็เลยเรียกไปคุย เราก็อยากคุยอยู่พอดี ก็เลยจบลงที่จากกันด้วยดี

เงินชดเชยเขาก็ไม่ได้ให้ เราก็ไม่ได้เรียกร้องอะไร เพราะส่วนหนึ่งมันอยู่ที่เราทำงานแบบที่เขาต้องการไม่ได้จริงๆ

ไม่ใช่ว่าเราทำไม่ได้ แต่ทัศนคติไม่ตรงกัน ทำให้ผลงานเราออกมาไม่ตรงกับที่เขาอยากได้ เขาก็ไม่สมควรต้องมาจ่ายในสิ่งที่เขาไม่อยากได้ มันถูกต้องแล้ว

1 ปีผ่านไป เขาโทรเรียกผมอีกครั้ง ตอนนี้ผมก็ยังทำงานกับเขาได้ดีไม่มีปัญหาครับ เหมือนจะดีกว่าเมื่อก่อนด้วยซ้ำ แต่เป็นฟรีแลนซ์นะ

หลายความเห็นได้แนะนำกันไปเยอะแล้ว ซึ่งแนวทางของผมก็คงไม่ต่างจากเหล่านี้เท่าไหร่

ทีนี้อยากรู้ครับว่าคุณจะเลือกเอาแนวคิดของใครไปปฏิบัติ ได้ผลอย่างไร มาเล่าสู่กันบ้างนะครับ

ใครที่คิดว่ารักแท้ในโลกไซเบอร์ไม่มีจริง คนนั้นน่าสงสารครับ

ผมคิดว่าความรักเกิดขึ้นได้ไม่จำกัดสถานที่และเวลา ต้องลองเปิดใจดูครับ