สวัดดีครับ  เปิดให้บริการ CLOUD HOSTING ต่างประเทศ เริ่มต้นที่ 500/ปี

มีแบคอัพไปต่าง server ทุกวัน ย้อนหลังได้สูงสุด 7 วัน

รายละเอียด Server
PHP 5.4.45
Mod ruid (ไม่สนค่า permission)
ระบบ Auto Install CMS
Controlpanel Directadmin
เปิดให้ใช้งาน Cronjob

กรณีโอนเงินผ่าน Bank ระบบเปิดให้อัตโนมัติ เมื่อแจ้งโอนผ่าน Billing.in.th/payment.php
กรณีโอนเงินผ่าน Paypal ระบบเปิดให้อัตโนมัตื โดยไม่ต้องแจ้งโอนเงิน
กรณีต้องการจดโดเมนด้วย ให้กรอกข้อมูลส่วนตัวเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น (ถ้ากรอกภาษาไทยเสียเ้วลาแก้ โดเมนจดไม่ผ่าน)

แพลน 1
พื้นที่ 5GB
   Unlimit Domain
   Unlimited Data Transfer
   Unlimited Subdomains
   Unlimited Email Accounts
   Unlimited FTP Accounts
   Unlimited Databases
   Unlimited Databases
   เปิดให้ใช้ SSH สามารถใช้ SSL ได้
   ราคา 500/ปี
สั่งซื้อคลิ๊ก   https://www.billing.in.th/cart.php?a=add&pid=105

แพลน 2
พื้นที่ 10GB
   Unlimit Domain
   Unlimited Data Transfer
   Unlimited Subdomains
   Unlimited Email Accounts
   Unlimited FTP Accounts
   Unlimited Databases
   เปิดให้ใช้ SSH สามารถใช้ SSL ได้
   ราคา 800/ปี
สั่งซื้อคลิ๊ก   https://www.billing.in.th/cart.php?a=add&pid=106


แพลน 3
พื้นที่ 15GB
   Unlimit Domain
   Unlimited Data Transfer
   Unlimited Subdomains
   Unlimited Email Accounts
   Unlimited FTP Accounts
   Unlimited Databases
   Limited INODE 100000
   เปิดให้ใช้ SSH สามารถใช้ SSL ได้
   ราคา 1200/ปี
สั่งซื้อคลิ๊ก   https://www.billing.in.th/cart.php?a=add&pid=107


บัญชีธนาคาร
ขั้นตอนการชําระค่าบริการ


กสิกรไทย
ชื่อ เจ้าของบัญชี นาย ภัทรวุฒิ อินทร์จันทร์
สาขา  ย่อยโลตัส สุขาภิบาล 1  เลขที่บัญชี 773-2-01916-7
ไทยพาณิชย์
ชื่อเจ้าของบัญชี นาย ภัทรวุฒิ อินทร์จันทร์
สาขา  รามอินทรา(แฟชั่นไอส์แลนด์)  เลขที่บัญชี 171-225582-4
กรุงเทพ
ชื่อเจ้าของบัญชี นาย ภัทรวุฒิ อินทร์จันทร์
สาขา  ย่อยโลตัส สุขาภิบาล 1  เลขที่บัญชี 045-0-20952-3

ทาง Paypal ทําตามระบบสั่งซื้อได้เลยครับ


ผู้ขาย
นาย ภัทรวุฒิ อินทร์จันทร์
โทร 0850882251
Email support@billing.in.th

ขอสอบถามเพิ่มเติมครับ ผมส่งขอยกเลิก  https://secure.hostgator.com/cancel.php ไปอีกครั้งใส่เหตุผลในการยกเลิกใหม่ ได้ฉบับนี้มา



แล้วใน Billing Status Package ที่ผมจะยกเลิกเป็น Cancelled แล้วครับ อยากจะถามว่าแล้วเราจะทำอย่างไรกับ รีเควส ที่ส่งไปก่อนหน้านี้ดีครับ ใน Rep.1 รบกวนช่วยตอบหน่อยนะครับ

ผมอุตส่าห์ไปค้นหาภาพเมื่อปีที่แล้ว เพื่อหารหัสเลขต่างๆมากรอก แต่ก็ไม่ได้สักที  :-\
ไม่ต้องสนใจข้อมูลเก่าละ Run ตามนี้เลยครับ 

1. ขอIDใหม่เลย -> Retrieve Customer Number


2. ใส่ชื่อโดเมนของเราลงไปในช่อง


3. ไปรอรับ ID ในEmail
Your Log In ID is:
12345678

4. กลับไปที่
https://www.domainsbyproxy.com...ount.aspx?myaurl=%2flogin.aspx
เพื่อขอทำ Password ใหม่ -> Reset Password

5. login: https://www.domainsbyproxy.com/login.aspx
โดยใช้ ID ใหม่ กับ Password ใหม่

6. เข้ามาแล้วกดที่ Mydomains ก็จะปรากฎชื่อโดเมนของเราออกมาให้ ติ๊ก ได้แล้วครับ

7. เวลาการUpdate ผลของการปลดPrivacy นั้น เรียกได้ว่าทันที สามารถRenew ต่ออายุได้เลย

8. ใช้Code: hash3 ราคาโดเมนแบบสุทธิจาก $9.19 จะเป็น $7.15

9.

เข้ามานอนยันใ้ห้อีกเสียงครับ อันที่จริง คนไทยเราเรียกกันซะเพี้ยนจากความหมายทางเทคนิคไปเหมือนกัน (ผมเองยังเรียกอย่างนั้นเลย)

นานๆมาที สิ่งแรกคือขอบคุณ ThaiSEO สำหรับพื้นที่ในการแชร์ Content ที่ผมมี
ขอบคุณทุกคนที่ติดตาม หลายคนที่ติดตามมาแต่แรกๆ ก็มาจาก ThaiSEO
ตอนนี้ผมก็หนุกหนานกับการพัฒนาเนื้อหาของบล็อก Community ก็โตขึ้นเรื่อยๆครับ

เงินก้อนแรกในการหาเงินหรือการทำการตลาดออนไลน์ของผมอาจจะแตกต่างจากหลายๆคน

1. ผมได้เงินก้อนแรกจาก Services ของตัวเองนั่นคือการแปลอิสระ
2. เงินก้อนต่อมาผมได้มาจาก Information Product ของตัวเองนั่นคืออีบุ๊ค
3. และในที่สุดผมก็พัฒนา Live event ของตัวเอง ทั้งหมดจากการสร้าง Authority หรือความเป็นเจ้าของเนื้อหาใน Niche ของตัวเองจากบล็อกเดียว

เป็นกำลังใจให้คนทำบล็อกคุณภาพครับ บล็อกเดียวทำดีๆ Positioning ตัวเองให้ชัดเจนแล้วทำเงินจากทักษะและความรู้นั้นขอบอกว่าหากินได้ยั่งยืนครับ... มันไม่ได้ได้เงินเร็วนะครับ ไม่ใช่เดือนสองเดือน ต้องบิวต์ต้องปั้นกันนานแต่พอ Break event  แล้วโตยาวครับ

ด้วยเหตุนี้ผมเลยชอบศึกษา บล็อกเกอร์ ที่พัฒนาสินค้าและบริการของตัวเองมากเป็นพิเศษ และไปเจอผู้นี้มา รายได้อย่างโหด John Lee Dumas เจ้าของบล็อก www.entrepreneuronfire.com

รายได้สุทธิจากบล็อกเดียวและภายในเดือนเดียวของ John Lee Dumas คือ $166,284 หรือ 5 ล้านกว่าบาท
ถ้ามา Break down แล้วพบว่า Affiliate marketing ของเขากินสัดส่วนเพียง 2%
ที่เหลือเป็นรายได้จาก Information product และค่าโฆษณา

ฺBreak down %%
- 21% ของรายได้มาจากค่าโฆษณา
- 2% มาจาก Affiliate marketing
- ที่เหลือมาจากอีบุ๊ค, คอร์ส, และโค๊ชชิ่งต่างๆ ที่เกี่ยวการทำ Podcast และ Internet marketing ที่เป็นโปรดักท์ของตัวเอง

แต่ยอมรับว่าคนนี้ทำงานหนักมากๆ Podcast เดือนละ 20-30 เรื่องและบทความเขียนอีกต่างหาก กว่าจะมาถึงจุดนี้ Thump up!

บล็อกเกอร์คุณภาพโฟกัสที่จุดแข็งของตัวเองแล้วต่อยอดเนื้อหาพัฒนาผลิตภัณฑ์ของตัวเองขึ้นมาซึ่งกำไรมันสูงที่สุด

- เก่งทำวิดีโอ สอนทำวิดีโอ
- เก่งเขียน App สอนทำ App
- เก่งเล่นหุ้น สอนเล่นหุ้น
- เก่งโฟโต้ช็อป สอนทำโฟโต้ช็อป
- เก่งเขียน สอนเขียน อ้าวมีนะ! คุณบอย วิสูตร คอร์สละ 5,000 เปิดจองสองวันร้อยที่นั่งเต็ม
ฯลฯ

บางคนบอก ก็เพราะเขามีชื่ออยู่แล้ว... แต่อย่าลืมนะครับ เขาสร้างชื่อมานานถึง 15 ปี ตั้งแต่ยังไม่มี Facebook

คนยุคนี้สบายกว่าเยอะ เพราะเครื่องมือการตลาดอินเตอร์เน็ตเพียบ ขอเพียงหาแนวตัวเองให้เจอ อย่าไปเฮโลตามกระแส

เก่งอะไรก็ทำสิ่งนั้น หากไม่เก่งแต่สนใจก็ต้องศึกษาหนักหน่อย
ไม่มีอะไรที่ Get rich quick และ Ger rich free นะครับ

บางโดเมน PR น้อย แต่ BL แน่น กับ PR เยอะ แต่ BL น้อยหรือแทบไม่มีเลย ผมเลือก PR น้อยดีกว่า

สรุปง่ายๆก็คือ เลือกโดเมนที่มี BL แจ๋วจะดี เดี๋ยวนี้ PR แทบจะไม่ค่อยดูเป็นอันดับแรกๆละ เพราะต้องพูดว่ามีพวกขายกันเยอะครับ โดเมน PR สูงแต่ไร้ BL แรกๆก็มีคนซื้อกันเยอะ แต่หลังๆเริ่มมีคนแชร์ความรู้ คนขายก็เลยหามาได้น้อยลง

พอดีช่วงนี้กำลังเขียน EBook สร้างรายได้ง่ายๆ ด้วยการเขียนบทความภาษาไทย ยังไม่เสร็จหรอก 555+
เขียนมาถึงขั้นจะหาข้อมูลที่ไหนมาเขียนบทความ ก็เลยคิดไว้ว่า เอาส่วนนี้มาเเชร์เพื่อนๆ ดีกว่า
อย่าด่าผมล่ะ ผมรับมานาน อยากแชร์อะไรบ้าง ไม่แอดว้านส์หรอก พื้นๆ อ่านแล้วไม่ฉลาดขึ้น ก็ไม่โง่ลงแน่นอนครับ 555+ ล้อเล่นๆ อ่ะ เข้าเรื่องครับ

จะหาข้อมูลที่ไหนมาเขียน

เรื่องนี้เป็นปัญหาโลกแตกเลยนะครับ สำหรับคนทำงานเขียนบทความ ผมจะพยายามลิตส์ให้ได้มากที่สุดนะครับ

1.   Google – ง่ายที่สุด แต่ก็มีคนทำมากที่สุดเช่นกัน เข้า Google พิมพ์ Keyword ที่ต้องการ มีบทความต้นฉบับเยอะแยะ นำมาเขียนได้เลย ข้อเสียอย่างหนึ่งคือมีคนเอามาใช้ซ้ำๆ กัน หลายครั้งแล้ว

2.   หนังสือ นิตยสารฯ – ข้อมูลเหล่านี้เป็นข้อมูลชั้นดีครับ ผ่านบรรณาธิการมาแล้ว เชื่อถือได้ในระดับหนึ่ง วิธีเข้าถึงข้อมูลจำพวกนี้ได้ดีที่สุดคือ หอสมุด ห้องสมุด ครับ

3.   Youtube – ใช่ครับ เว็บไซต์ดูวีดีโอนั่นแหละครับ ลองพิมพ์ “วิธีทำผิวขาว” ดูสิครับ วีดีโอเพียบ เราก็แค่ฟังสิ่งที่เขาแนะนำ แล้วก็เขียน เรียบเรียงใหม่ อย่าไปพิมพ์จากคำพูดเขาทั้งหมดล่ะ เนียนๆ หน่อย

 
4.   Webboard – ตรงนี้อาจจะ Advance หน่อยสำหรับมือใหม่ เพราะการอ่านกระทู้ถามตอบแล้วนำมาเขียนเป็นบทความนั้น ต้องอาศัยการฝึกฝนพอสมควร ลองดูตัวอย่างที่ผมเคยทำไว้ครับ

(ต้นฉบับ จาก Pantip)
มาเริ่มกันที่เทคนิคสำหรับ part reading part นี้ จะเป็นpart เดียวที่เรามีโอกาส ทำได้ ครบ 100 ข้อ โอกาสที่จะได้คะแนนจึงมีมากกว่า part reading
แต่ปัญหาคือ ฟังที่เค้าพูดไม่ออก...แล้วจะทำข้อสอบได้ยังไง!!!
เราฝึกตัวเราเองแบบนี้นะ
1.เวลาฝึกฟัง ห้ามใช้หูฟังเด็ดขาด เพราะเวลาอยู่ในห้องสอบต้องฟังจากลำโพง ต้องฝึกให้ชินไว้
2.ข้อสอบ 1 ชุด ฟังอย่างน้อย 3 รอบ
รอบแรก ฟัง และทำข้อสอบตาม จดบันทึกคะแนนที่ได้ เพื่อเก็บเป็นสถิติไว้
รอบสอง ฟัง และอ่านสคริปตาม เพื่อดูว่า แต่ละประโยค คำแต่ละคำเค้าออกเสียงยังไง รอบสาม ฟัง แบบไม่ดูสคริป แล้วเปิดสคริปตามทีละประโยค เพื่อดูว่า ที่เราฟังออก กับสคริปจริง มันตรงกันมั้ย

(ผมรีไรท์)
เทคนิคการสอบ TOEIC Part Reading
ปัญหาของหลายๆ คนที่พบในการสอบ TOEIC Part Reading ก็คือ ฟังไม่รู้เรื่อง ไม่รู้เลยว่าข้อสอบกำลังพูดถึงเรื่องอะไรอยู่ วันนี้เรามีวิธีง่ายๆ มานำเสนอกันค่ะ เผื่อว่าหลายๆท่านอยากลองทำตาม วิธีนั้นก็คือ การฝึกฟัง ฟังดูง่ายใช่ไหมคะ ที่จริงแล้วการฝึกฟังเป็นการฝึกที่ต้องใช้ทักษะเหมือนกันนะคะ เอางี้ค่ะ เวลาฝึกฟัง ให้งดให้หูฟัง เพราะในสถานการณ์สอบจริงๆแล้ว เราต้องฟังจากลำโพง ฉะนั้นฝึกให้ชินไว้
การฟัง ให้ฟังสามรอบ โดยรอบแรกฟังแล้วทำข้อสอบตาม จากนั้นรอบที่สองให้ฟังแล้วอ่านสคริปตามไปด้วย รอบสุดท้ายให้ฟังแบบไม่ดูสคริป เมื่อสงสัยจึงค่อยเปิดดูทีละประโยค ว่าตรงกับที่เราเข้าใจหรือเปล่า ฝึกแบบนี้บ่อยๆ นะคะ รับรองว่าสอบ TOEIC Part Reading ครั้งหน้า คะแนนกระฉูดแน่นอน

เห็นมั้ยครับ ดูไม่ออกเลยใช่มั้ย ว่ามาจากอันเดียวกัน อันนี้ต้องอาศัยการฝึกฝนครับ ไม่ยากเกินความพยายามแน่นอนครับ

5.   เว็บไซต์ของหน่วยงาน – สมมติว่าคุณจะเขียนเรื่อง โรคกระดูก เว็บไซต์โรงพยาบาลคือแหล่งข้อมูลชั้นยอด ไม่ต้องห่วงเรื่องความผิดพลาดของข้อมูลอีกด้วย ลองค้น Google ด้วยคำว่า “โรคกระดูก โรงพยาบาล” ดูสิ


 
บางครั้งก็เป็นแค่โฆษณาเท่านั้นนะครับ ว่าโรงพยาบาลก็มีบริการนี้นะ เราก็หาเอาที่เป็นบทความ มาจัดการ

6.   ประสบการณ์ตรง – บทความท่องเที่ยวมักต้องการบทความที่เกิดจากประสบการณ์ตรง รวมถึงรูปถ่ายต่างๆ ด้วย เคยเจอรีวิวแหล่งท่องเที่ยวลงพันทิพมั้ยครับ นั่นแหละ ถ้าเอาไปขายได้หลายตังค์เลย เพราะประสบการณ์ล้วนๆ ภาพก็สวยๆ ทั้งนั้น บทความแนวนี้ยังสามารถอัพราคาขึ้นมาจากขั้นต่ำได้อีก 50-100 % เลยทีเดียว ไปเที่ยวครั้งหน้า อย่าเที่ยวแล้วเที่ยวเลยล่ะ หาตังค์ค่าตั๋วไปเที่ยวรอบต่อไปด้วยบทความของคุณกันดีกว่าครับ

7.   เรื่องเล่า – เกร็ดชาวบ้าน นิทาน เรื่องเล่าที่ได้ฟังมา คำบอกเล่าต่างๆ เป็นเรื่องราวชั้นดี ที่นำมาเขียนเป็นบทความได้ครับ

8.   แปลมาจากภาษาอื่นๆ – ถ้าความรู้ทางภาษาของคุณดี คุณสามารถอ่านแล้วเขียนในแบบของคุณได้ชิวๆ แต่ถ้าภาษาไม่แข็ง คุณก็สามารถใช้ Google Translate หรือ Baido Translate แปลคร่าวๆ ให้พอเข้าใจ แล้วเรียบเรียงออกมาใหม่ได้เช่นกันครับ
 


เพิ่มเติม

ครั้งเดียวเกินพอเจ้านี้ พูดแล้วขึ้น บริการแย่