ส่วนมากคนดูจากประเทศอะไรหรือครับ

ค่าธรรมเนียมแบงค์กรุงเทพ เท่านี้ครับ

กรณีเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากผู้รับประโยชน์

หมายเหตุ ผู้รับเงินจะไม่ได้รับเงินเต็มจำนวน เนื่องจากธนาคาร
กรุงเทพจะหักค่าธรรมเนียมการรับเงินโอนต่างประเทศก่อน
นำเงินเข้าบัญชีผู้รับ

0.25% ของมูลค่าเงินโอน (ขั้นต่ำ 200 บาท สูงสุด 500 บาท)


สรุปต่ำสุด 200 บาท สุงสุด 500 บาทครับ

ให้ดูตาม email ที่ส่งครับ

คุณ Pimlada คนนี้เป็นเจ้าหน้าที่ของ YouTube เมืองไทยครับ

จริงๆ ต้องบอกว่าส่วนหนึ่งมาจากเศรษฐกิจของประเทศเราที่หลายๆ คนน่าจะรู้กันอยู่ว่ามันไม่ค่อยดีเท่าไร (แย่ถึงแย่มาก) ทำให้ในส่วนงบค่าโฆษณาลดน้อยลงซึ่งเป็นไปตามเศรษฐกิจครับ ถามว่าแก้ยังไง คงแก้ไม่ได้ง่ายๆ

ในส่วนของเราเองก็ต้องพัฒนาครับ แรกสุดเลยคือ จำนวนคนดู ผมพูดเลยถ้าคนดูเป็นคนไทย ต้องใช้จำนวนมากกว่าเดิมมาก ตอนต้นปีอาจจใช้มากขึ้นอีกเท่าหนึ่ง คือ 200% ถึงจะได้เงินเท่าปีก่อนๆที่ผ่านมา แต่ ณ.ตอนนี้ครึ่งปีหลังอาจจะต้องใช้ 300-400% ของจำนวนคนดูเลยทีเดียวถึงจะได้เงินเท่ากับปีที่ผ่านๆ มา

อีกอย่างคือต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบต่างๆ ไปตามเวลา เพราะอะไรที่เกี่ยวกับ IT มันไม่หยั่งยืนเท่าไรครับ มาเร็วไปเร็ว อีก 5-10 ปี อาจจะไม่มี Product Adsense ก็เป็นไปได้ เหมือน MSN HI5 หรืออะไรต่างๆ ที่หายไปตามเวลา มีวัฎจักรของมัน ถ้ามีเงินลงทุนที่เก็บมาได้ควรจะหาทางช่องทางอื่นไว้บ้างครับ อาจจะเป็นอะไรที่เป็น Physical จับต้องได้ก็ได้ครับ หรือจะเป็นด้านเดิมก็ได้แต่ต้องตามกระแสให้ทันครับ

ขอให้ทุกท่านโชคดีในช่วงนี้ครับ ถ้ารอดกันมาได้ ก็เตรียมลอยลำรอเศรษฐกิจขาขึ้นครับ (ไม่รู้เมื่อไร 5555+)

ผมว่าสู้กันยาก มันคนระบบกันเลย

รอบ YouTube จะคล้ายๆ Adsense เป็นแบบนี้ครับ

คือจะมีจบงบทุกเดือน ทุก 3 เดือน และทุกปี

คือภายใน 1 เดือนให้สังเกตปลายเดือนรายได้จะมากที่สุด และพอกลับมาต้นเดือนรายได้จะต่ำสุด เพราะมันต้อง run โฆษณาให้หมดในเดือนนั้นๆ

รอบ 3 เดือนหรือไตรมาศ จะเริ่มเดือน 1-3 4-6 7-9 10-12 เดือนที่ได้น้อยสุดคือไตรมาศแรก ที่พวกบริษัท agency ยังไม่ได้ลงโฆษณากันเท่าไร มากสุดคือไตรมาศ 4 ที่ต้องใช้งบโฆษณาทั้งปีให้หมด ลองสังเกตเลยว่าปลายปีช่วงเดือน 11-12 จะรายได้ดีที่สุด ส่วนช่วงหมดไตรมาศ 2 ช่วงกลางปี คือช่วงต้นเดือน 7 รายได้จะลงต่ำ เพราะบางครั้งใช้งบใหหมดในช่วงครึ่งปี


แต่ขอบอกว่าปีนี้ราคาเป้นวัฎจักรนี้ก็จริง แต่ราคาโฆษณาค่อนข้างย่ำแย่มากๆ ทั้ง 2 ส่วน Adsense ไทยไม่ต้องพูดถึง ต่ำเตี่ยติดดินตลอดในปีนี้

ส่วน YouTube ปีนี้ก็เป็นปีทองเหมือน (ทองราคาตก) เพราะเป็นปีที่ราคาค่อนข้างต่ำ (ปรกติราคาเมืองไทยก้ต่ำสุดในโลกอยู่แล้ว แต่ปีนี้ต่ำยิ่งกว่าเดิม) จะให้ได้เงินเท่าปีที่แล้ว ต้องมีคนดูมากกว่าเดิมประมาณ 1 เท่าถึงจะได้พอๆ กับเดิม ดูทรงแล้วปลายปีนี้อาจจะได้น้อยกว่าทุกปีด้วย ต้องลุ้นกันต่อไปครับ

ถ้าเทียบกับปีก่อนๆแล้วละก็ ปีนี้เป็นปีที่แย่ที่สุดเลยครับ

ถึงแม้ผู้ชมจะมากขึ้นเกือบเท่าตัว แต่รายได้ไม่ได้มากขึ้นตามไปด้วย

ถ้าดูจากกราฟรายได้ช่วงปีนี้เทียบปีที่แล้ว รายได้เดือน เมษา พฤษภา มิถุนา ลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่วนปีที่แล้วกลับเพิ่มมากขึ้นตามลำดับ ปีนี้สวนทางกันเลยครับ

ในช่องที่ทำทั้งหมดมีช่องหนึ่งช่องใดกึ่งเสี่ยงหรือว่ากึ่งสีเทาไหมครับ ถ้ามี ก็มีโอกาสโดนไปหมดทุกช่องนะครับ

Google เป็นเจ้าหนึ่งที่จ่ายเงินตรงเวลาเสมอ ไม่น่ามีปัญหาในเรื่องการจ่ายเงินครับ

กลับกันกับบริษัทในไทย ที่กว่าจะจ่ายอาจจะยาวนานถึงครึ่งปีเลยทีเดียว

เข้าเมื่อวันศุกร์เรียบร้อยแล้วครับ

ตัวอย่างราคาของไทยเทียบกับชาติอื่นๆ อันนี้ราคารวมทุก Playback เล่นเยอะก็จริงแต่รายได้น้อยมากๆๆๆ (ในบางหมวดราคาจะต่ำกว่านี้ไปอีก)

เป็นข้อมูลสำหรับคนที่จะทำครับ

เค้าสรุปรายเดือน ประมาณวันที่ 15 ของเดือนถัดไปนะครับ

มันแจ้งอยู่ข้างบนหน้า adsense report นะครับ

เป็นแค่ส่วนหนึ่งครับ ถ้า Video เราไม่ดึงดูด ไม่มีอะไรเป็นจุดเด่น ทำเป็น 100+ วีดีโอ ก็ไม่มีคนสนใจครับ

อันนี้ช่องหนึ่งของผม 3 ปี ทำมา 2,500+ Videos ผมเน้นจำนวนเป็นหลัก คุณภาพปานกลาง

ขอยกเป็น 2 แบบครับ

1. เน้นคุณภาพ จำนวน Video น้อย แต่คนดูเยอะในแต่ละวีดีโอ
2. เน้นจำนวนวีดีโอ คุณภาพพอประมาณ เน้นจำนวนตัวคูณเยอะ

ต้องดูแนวทางของ content เราประกอบครับ ถ้าไม่ใช่ดาราหรือมีจุดเด่นจริงๆ คนดูเยอะ/วีดีโอ มีโอกาสน้อยมากครับ ต้องใช้จำนวนเป็นหลักครับ

งั้นผมเดาว่ายอดสะสมครับ เพราะสมัยก่อนตอนผมเล่นทำบางช่อง ถ้ายังไม่ connect adsense account เข้ากับ youtube account เงินจะสะสมไว้ครับ connected เมื่อไร เงินจะเข้ามาทีเดียวเลยครับ

เพิ่งเชื่อมบัญชีทั้งคู่ไปเมื่อเดือนที่แล้วใช่ไหมครับ ถ้าใช่ผมเดาว่าอย่างงั้นนะ


จะมีวิธีเช็คยอดรายวันคราวๆ ได้จาก adsense report โดยเข้า

Performance reports -> Products -> Hosted AdSense for Content  ดู Total earnings จะเป็นค่าประมาณการ รายได้จริงจะลดลงไปประมาณ 10% ครับ อันนี้อัพเดททุกวันครับ

ผมเดาว่ามันคือเงินค้างที่ทาง YouTube ติดท่านไว้ จากจำนวน view ของ video ที่เล่นมาทั้งหมด ก่อนที่ท่านจะเปิด (ซึ่งตรงนี้อาจจะเป็น YouTube สั่งเปิดเองหรือท่านเปิดไปนานแล้ว แต่ไม่มีบัญชี Adsense ซึ่งทางนู้นไม่รู้จะส่งเงินยังไง ก็เลยสะสมไว้ก่อน ซึ่งจริงๆ ก็เกิดขึ้นได้ถ้ากรณียังไม่เชื่อมบัญชี adsense เข้ากับ YouTube)

ถ้าอยากรู้ให้กดตรง  ดูการชำระเงิน = View payments  ในบัญชี Adsense มันจะบอกว่าเงินมาจากไหนครับ

ถ้าคนดูเป็นคนไทยล้วนๆ อาจจะต้องใช้ View ประมาณ 10,000-40,000 Views/วัน ถึงจะได้เงินช่วง 10-20$/วัน ครับ

ถ้าเป็นต่างชาติผสมประมาณ 50% จะต้องใช้ View ประมาณ 5,000-15,000 Views/วัน ถึงจะได้เงินช่วง 10-20$/วัน

ถ้าเป็นต่างชาติประมาณ 95% จะใช้ View ประมาณ 3,000-6,000 Views/วัน ถึงจะได้เงินช่วง 10-20$/วัน หรือใช้ view น้อยกว่านั้น ขึ้นอยู่กับคนดูเป็นประเทศอะไรเป็นหลัก ถ้ายุโรปค่าโฆษณาแพงกว่าฝั่ง US


**เพิ่มเติมนะครับ**

บางหมวดหมู่ อาจจะไม่ได้ราคานี้นะครับ อาจจะสูงหรือต่ำกว่านี้ เพราะผ้ลงโฆษณาสามารถกำหนดหมวดหมู่ในการลงได้ ทำให้ Fill Rate ไม่เท่ากันในแต่ละหมวดหมู่ รวมทั้งผู้ลงโฆษณาสามารถเลือกช่องว่าลงช่องไหนเป็นพิเศษได้ด้วย

การเล่นที่สร้างรายได้ที่คาดการณ์ = ESTIMATED MONETIZED PLAYBACKS  คือการเล่นวีดีโอที่มีโฆษณาขึ้นนั้นเอง (เรียกง่ายๆ วีดีโอที่เล่นแล้วมีโฆษณาขึ้น เพราะการเล่นวีดีโอแต่ละครั้งไม่ได้มีโฆษณาขึ้นทั้งหมด)

ที่เขียนคือ 1,172 ครั้ง

รายได้รวมตามการเล่น = PLAYBACK-BASED GROSS REVENUE คือ จำนวนรายได้ทั้งหมด ก่อนหักส่วนแบ่ง

ถ้าอยากรู้รายได้เดือนนั้นประมาณเท่าไร ต้องไปเรียกดูที่ Estimated earnings ครับ อันนั้นคือหักส่วนแบ่งเรียบร้อยแล้วครับ

ทำมาจะครบสามปีละ ให้เป็นกำลังใจครับ

บอกเลยทำ YouTube เมืองไทย ถ้าวิวไม่เยอะ ไม่มีทางได้เงินเป็นกอบเป็นกำครับ ลองดูยอดวิว + กันดูครับ ว่าต้องใช้เยอะขนาดไหน ช่วงปีนี้ยอดวิวเกือบ 600,000 วิว/วัน ยังได้ประมาณนี้เท่านั้น

ระดับวิวน้อยกว่า 10,000 วิว/วัน อยู่ยากครับ

เดือนนี้

เว็บไทยค่าคลิ๊ก 0.04$ คนคลิ๊กน้องลงไปด้วยเกือบครึ่ง

เว็บนอกค่าคลิ๊ก 0.24$ คนคลิ๊กมากขึ้น

ค่าคลิ๊กต่างกัน 6 เท่า เว็บไทย ค่าคลิ๊กแบบไทยๆ มันช่างอถาจแท้ๆ