สำหรับผมไม่ได้เป็นคำถามหรอกครับ แต่ด้วยตัวมันที่เป็นหนึ่งใน core guideline อยู่แล้ว มันทำให้ไม่จำเป็นต้องมาตั้งเป็นคำถาม เพราะควรจะทำอยู่แล้ว คำถามคือแบบไหนแน่ ที่ "น่าจะ" เวิร์ค ไม่ใช้คำว่าแบบไหนเวิร์ค เพราะไม่มีทางสรุปได้ 100%
เพียงแค่พูดว่า EETA ก็พูดได้ 2 ทศวรรต เชื่อว่าถึงปี 2030 เวลาบอก Webmaster Guideline ก็ยังใช้คำเดิม EETA ได้ ไม่ต่างจากการนั่งจับจดเรื่อง Page Speed ที่สุดท้ายก็แค่ของมันต้องมี
กลายเป็นคำที่แทบไม่ต่างจากพูดว่า
คอนเทนท์ต้องดี ต้องมีคุณภาพ หรือ Content is King แบบสมัยก่อน
ถ้าเอาเชิง Field Practicality ผมว่าน่าสนใจกว่าหากจะถกกันแบบเบรกดาวน์ลงมาว่าคอนเทนท์แบบไหนที่มีโอกาสเข้าเป้า EETA มากที่สุด ของใครเข้าวินเพราะอะไร มันมีวิธี breakdown ออกมาเป็นข้อๆจริงๆครับ เพราะสุดท้ายต่อให้พึ่งพานักเขียน นักเขียนที่เป็นมนุษย์ มันก็ผิดพลาดได้อยู่ดี ถ้าไม่มี writing guideline/framework
ยิ่งในวันที่ serp มันมั่วๆ แบบนี้ ยิ่งน่าเอา big data, stat ต่างๆ มาช่วยด้วยซ้ำ เพราะมันเกินขอบเขตไปเยอะนะบางที
พอเอา EETA มาถกกัน บางทีมันก็เหมือนเอาเรื่องที่มัน Subjective มากๆ มาถกกัน คือมันอยู่มานาน จนกลายจะเป็นนามธรรมไปละครับ แล้วก็จะมีข้อโต้แย้งอืนมากมาย เช่น คอนเทนท์กาก เว็บแรง คอนเทนท์ดี แพ้เว็บใหญ่ บลาๆ แล้วปรากฏมันก็จะมีรอบ ที่ได้สังเกตุวิธีการที่ชัดๆ ที่เอามาทำอันดับได้ดี ไม่ต่างจาก 10 ปีที่แล้ว
เช่น เทรนด์ย้อนยุคอย่าง cloaked links, auctioned domain ดันกลับมาบูม 2023 (ทั้งขาวและเทา ทำได้หมด) ซึ่งไม่รู้ว่าทำเพื่ออะไร? ซึ่งถ้ามองในอีกแง่ ก็นี่ไงครับ EETA โดเมนดี โดเมนแพง ก็มี Authority ไง สรุป Google ก็ยังต้องคลำตัวเองอยู่ตลอด?
สุดท้ายก็มาลื่นไหลตาม Algo อีกอยู่ดี ช่วงนี้มีเว็บดีๆ มากมายที่ดับไป ทั้งๆ ที่ผมก็มองไม่เห็นข้อเสีย (ไม่นับเชิง technical seo) ก็คอนเทนท์ดี อ่านได้ประโยชน์มากๆๆ ดีกว่าไปเอาเว็บใหญ่ ที่ให้ข้อมูลไม่ตรง
ซึ่งถ้าวิเคราะห์ของปี 2023 ไอ้ที่มันไปบ้งตรง auctioned/aged domain ก็เพราะมีการสลับเอา authority มานำหน้า E ตัวอื่นนี่ละครับ 555 กลายเป็นโบราณกว่าเดิม ถ้ายิ่งเอาเว็บใหญ่ขึ้น ก็แสดงว่า ML ศึกษาเรื่องคอนเทนท์ ได้ฉลาดน้อยลง ? เพราะไปพึ่งพาองค์ประกอบที่ง่ายมากกว่า และตีเป็น metric ได้ แบบพวกค่าพลังโดเมน
ดังนั้นแปลว่าจริงๆ EETA ก็ยังไม่ได้ข้อสรุปของตัวเอง และถูก exploited (หาโอกาสจากช่องโหว่/unfair advantage seo) ได้อยู่ดี ก็แค่เป็นอีกรอบการทำลอง เขย่าๆๆ ของ Google มันเลยจัดอันดับสอดคล้องไปทางเดียวกันหมด ก็เป็นเทรนด์ เป็นรอบ จบเทรนด์ หรือยิงยาว
แต่ที่แน่ๆ ถ้าเป็นเว็บใหญ่แล้ว โอกาสอยู่รอดได้ มีมากกว่าแน่นอน (ซึ่งน่าจะปกติอยู่แล้ว นึกไม่ออกก็ต้องโชว์ของจากแบรนด์ที่ทุกคนรู้จักชัวร์ๆ ถูกไหมครับ?)
อย่างตัวอย่างของ Author ที่ยกมาด้านบน ผมไม่แน่ใจว่าโดเมนไหนนะ
www.mindbodygreen.com/wc/sarah-regan 
ซึ่งเดาว่าน่าจะอยู่เว็บนี้เป็นหลัก เท่าที่เห็นภายใน 1 ปี 2023-2024 ทราฟฟิกก็ลดไปกว่า 50% ซึ่งเชื่อว่าเกิน 10% หลุดไปอยู่กับ Nytimes, Forbes, และ News Portal ยักษ์ใหญ่อื่นๆ ที่เหลืออาจจะสลายหายไปกับแพลทฟอร์มอื่นก็เป็นได้
