สรุป 7 เทคนิค SEO สำหรับการค้นหาที่ขับเคลื่อนด้วย AI Search
ผลการค้นหาใน ChatGPT นั้นมีแนวโน้มที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องครับ โดยเฉพาะในยุคที่ AI กำลังเข้ามามีบทบาทในทุกด้าน การที่ ChatGPT และเทคโนโลยี AI ช่วยเสริมการค้นหาข้อมูลได้แม่นยำและรวดเร็วขึ้นก็ทำให้หลายคนหันมาใช้มากขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องการให้คำแนะนำหรือการค้นหาสิ่งต่างๆ ที่ต้องการ นอกจากนี้ยังช่วยประหยัดเวลาและเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้งานอย่างมาก การที่ ChatGPT สามารถให้คำตอบที่เหมาะสมกับคำค้นหาได้ดีก็ส่งผลให้มีการเพิ่มการใช้มากขึ้นอีกด้วย ถือเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของ SEO และการค้นหาข้อมูลในยุค AI ครับ เพื่อที่จะเพิ่มโอกาสในการติดอันดับ SEO แล้วช่วยสร้างยอดขายให้กับธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพครับ นี่คือเทคนิค SEO ที่ช่วยให้เว็บไซต์ของคุณเหมาะสมกับการค้นหาผ่าน AI Search มากขึ้น
- 1. ใช้คีย์เวิร์ด + AI Keywords
การเข้าใจและใช้ คีย์เวิร์ดแบบ Long-tail ร่วมกับการใช้ Vector Search ที่จะช่วยให้ AI เข้าใจ intent (ความตั้งใจ) ของผู้ค้นหาได้ดีขึ้น สามารถช่วยให้การค้นหามีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเข้าใจ"ความตั้งใจ"ของผู้ค้นหาได้ดีขึ้น ดังนี้
คีย์เวิร์ดแบบ Long-tail
- คีย์เวิร์ดแบบ Long-tail คือคำค้นหาที่มีความยาวมากกว่า 2-3 คำขึ้นไป มีความเฉพาะเจาะจงสูง และมักจะมีปริมาณการค้นหาต่ำกว่าคำค้นหาสั้น แต่มีการแข่งขันน้อยกว่าคำค้นหาสั้น
- ตัวอย่างเช่น "สูตรอาหารไทยง่าย ๆ สำหรับมื้อเย็น" เป็น Long-tail Keyword ที่ช่วยให้ AI เข้าใจความตั้งใจของผู้ค้นหาได้ชัดเจน
Vector Search
- Vector Search เป็นเทคนิคที่ใช้ในการทำความเข้าใจความหมายของคำค้นหาโดยการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างคำและแนวคิดในโลกแห่งเวกเตอร์ ทำให้สามารถเชื่อมโยงคำที่มีความหมายใกล้เคียงกันและแสดงผลลัพธ์ที่เกี่ยวข้องได้แม่นยำ
- การค้นหาด้วยคำว่า "สูตรอาหารไทยง่าย ๆ สำหรับมื้อเย็น" AI จะใช้ Vector Search เพื่อแสดงผลลัพธ์ที่เกี่ยวข้อง เช่น เมนูอาหารไทยที่ทำง่ายและเหมาะกับมื้อเย็น และแสดงผลลัพธ์ที่เกี่ยวข้อง เช่น สูตรต้มจืด, สูตรผัดไทย, หรือสูตรแกงเขียวหวานที่ทำง่ายและเหมาะกับมื้อเย็น
- 2. ใช้ Schema Markup + เนื้อหาคุณภาพ + On-Page SEO
ใช้ Schema Markup เพื่อให้ AI เข้าใจเนื้อหาของเว็บไซต์ได้ง่ายขึ้น พร้อมกับการสร้างเนื้อหาคุณภาพและการทำ On-page SEO ที่ดี เช่น การใช้ หัวข้อ (headings) ที่ชัดเจนและการเขียนเนื้อหาที่เข้าใจง่ายและน่าอ่าน
- 3. ใช้ ภาษาสนทนา (Conversational)
ใช้ ภาษาสนทนา หรือการเขียนแบบถาม-ตอบ ให้คำตอบกระชับ ชัดเจนและเข้าใจง่าย ไม่ต้องซับซ้อนเกินไปครับ โดยเนื้อหาควรมีความยาวประมาณ 1,000-1,500 คำ เน้นให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์และตรงกับคำค้นหาของผู้ใช้
- 4. เพิ่มความเร็วในการโหลดหน้าเว็บและปรับให้เหมาะสมกับมือถือ
Page Speed และ Mobile Responsiveness เป็นปัจจัยสำคัญมากสำหรับ AI Search นะครับ โดยเฉพาะกับ Local Search ที่กำลังเป็นที่นิยม การทำให้เว็บไซต์โหลดเร็วและเหมาะสมกับมือถือเป็นสิ่งจำเป็นเลยครับ
- 5. Off-page SEO
การสร้าง Backlinks ที่มีคุณภาพและการเพิ่ม E-E-A-T (Expertise, Authoritativeness, Trustworthiness) จะทำให้ AI และผู้ใช้งานเห็นว่าเว็บไซต์ของคุณมีความน่าเชื่อถือ การรีวิวหรือแชร์ในโซเชียลมีเดียก็ช่วยเพิ่มการเข้าถึงและความน่าเชื่อถือได้ครับ
- 6. ขยันอัพเดตเนื้อหาบ่อยๆ
การ อัพเดตบทความเก่า ช่วยให้เว็บไซต์สดใหม่และมีโอกาสติดอันดับได้ดีขึ้น นอกจากนี้ การ repurpose เนื้อหาในรูปแบบต่างๆ เช่น วีดีโอ, โพสต์โซเชียลมีเดีย, อินโฟกราฟิก, หรือ PDF ก็เป็นอีกวิธีที่ช่วยเพิ่มการเข้าถึงและทำให้เนื้อหาน่าสนใจขึ้น
- 7. การปรับแต่ง Meta Tags & Descriptions
การปรับแต่ง Meta Tags และ Meta Descriptions ให้ตรงกับมาตรฐาน SEO ก็ยังคงสำคัญอยู่นะครับ ทำให้ข้อความดึงดูดและมีความหมายที่ชัดเจนเพื่อให้คนคลิกเข้ามาดู
ถ้าเรานำเทคนิคเหล่านี้ไปใช้รับรองได้ว่าเว็บไซต์ของเราจะเข้ากับการค้นหาผ่าน AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยให้การทำ SEO ประสบความสำเร็จในโลกออนไลน์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI นี้แน่นอนครับ