ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

  แสดงกระทู้
หน้า: [1]
1  ความรู้ทั่วไป / Cryptocurrency / พระราชกำหนดสินทรัพย์ดิจิตอล ทำผิดกฏหมายมีโทษหนักทั้งอาญาและทางแพ่ง เมื่อ: 25 มีนาคม 2018, 18:54:42


พระราชกำหนดสินทรัพย์ดิจิตอล ทำผิดกฏหมายมีโทษหนักทั้งอาญาและทางแพ่ง



เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ทางสยามบล็อกเชนได้รายงานข่าว ภาษีเงินดิจิตอลเก็บภาษี 15% จากกำไรซื้อขาย ไปเมื่อวันที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมานั้น

วันที่ 19 มีนาคมอ้างอิงจากเว็บประชาชาติธุรกิจ ว่าพรก. การกำกับดูแลการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิตอล พ.ศ. … และร่าง พ.ร.ก. การจัดเก็บภาษีจากทรัพย์สินดิจิตอลได้เห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 13 มีนาคม และคณะกรรมการกฤษฎีกาคณะพิเศษได้พิจารณาเมื่อวันที่ 15-16 มีนาคมที่ผ่านมานั้น คาดว่าจะเรียบร้อยและทูลเกล้าฯภายในสัปดาห์นี้


โทเคนดิจิตอล

ในการเสนอขายโทเคนให้กับประชาชนนั้นต้องให้ทางก.ล.ต. อนุญาตพร้อมกับมีการแสดงรายการข้อมูลเสนอขายและร่างหนังสือชี้ชวนต่อ ก.ล.ต. อีกด้วย (ไฟลิ่ง) หากไม่ทำตามนี้ถือว่าผิดกฏหมายและต้องดำเนินการผ่านผู้ให้บริการที่ได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. เท่านั้น

    “ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิตอลจะต้องขอไลเซนส์จาก ก.ล.ต. ทั้งในส่วนของศูนย์ซื้อขาย นายหน้าซื้อขาย และ ผู้ค้าสินทรัพย์ดิจิตอล”

กล่าวโดย ก.ล.ต.

มีโทษทั้งอาญา-แพ่ง

อ้างอิงจากเว็บไซต์ประชาชาติธุรกิจกล่าวว่า พรก. ได้กำหนดบทลงโทษผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ทั้งทางอาญาและทางแพ่งอาทิ กรณีผู้เสนอขายโทเคนฯ โดยไม่ได้รับอนุญาต หรือไม่ทำผ่านตัวกลางที่ถูกกฎหมาย จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 เท่าของราคาขายโทเคนฯ ที่เสนอขาย โดยค่าปรับต้องไม่น้อยกว่า 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

หรือกรณีให้ข้อมูลในหนังสือชี้ชวนเป็นเท็จ จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 เท่าของที่เสนอขายโทเคน และต้องไม่น้อยกว่า 500,000 บาท หรือหากเสนอขายโทเคนฯ ระหว่างที่ ก.ล.ต. ระงับการไฟลิ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 เท่าของมูลค่าที่เสนอขาย หรือทั้งจำทั้งปรับ

ภาษี

อ้างอิงตามเว็บไซต์ประชาชาติธุรกิจ นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่าได้ออก พรก. 2 ฉบับเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิตอลโดยแยกเป็น กฎหมายกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิตอล และการเก็บภาษีที่เกี่ยวข้องกับการระดมทุนด้วยสินทรัพย์ดิจิตอล โดยหน่วยงานที่จะมาดูแลก็คือ ก.ล.ต.

โดยในส่วนของกรณีซื้อขาย Cryptocurrency แล้วมีกำไร ก็ให้หักภาษี ณ ที่จ่าย 15% รวมถึงภาษีเงินปันผลและภาษีมูลค่าเพิ่ม เนื่องจาก Cryptocurrency และการระดมทุน ICO คือทรัพย์สินดิจิตอล เมื่อเป็นสินทรัพย์หรือบริการ เมื่อมีการซื้อขาย ก็ต้องเสีย VAT โดยนิติบุคคลสามารถเคลมคืนได้ แบบภาษีซื้อภาษีขายทั่วไป ส่วนบุคคลธรรมดาจะยกเว้น VAT แต่กรณีมีกำไรจากการขายสินทรัพย์ดิจิตอลและได้รับเงินปันผล ก็ต้องถูกเก็บภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย 15% ทั้ง 2 กรณี แถมยังต้องนำไปรวมคำนวณภาษีตอนปลายปีอีกด้วย

และด้วยเทคโนโลยี Blockchain ทำให้ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าใครเป็นคนถือสินทรัพย์ในตัวนี้ทาง รมว. คลังเลยกล่าวว่า “สิ่งที่รัฐทำคือให้มีการควบคุมที่จุดเริ่มต้น จุดแลกเปลี่ยนที่มีการซื้อขาย โดยต้องกำหนดให้โบรกเกอร์หรือดีลเลอร์ ตลาดซื้อขายต้องมีไลเซนส์” และต้องมีระบบ KYC (Know-Your-Customer) สำหรับลูกค้าที่จะเข้ามาทำการซื้อขาย ขณะที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ก็ขอให้ต้องบอกได้ว่าเอาเงินมาจากไหน

ส่วนการเก็บภาษีจากการระดมทุน ICO จะต่างกับการเก็บภาษีจากการระดมทุน IPO ที่ไม่ต้องเสียภาษี แต่กรณีสินทรัพย์ดิจิตอลจะต้องเสียภาษีตั้งแต่เริ่มต้นทั้งภาษี VAT และภาษีเงินได้นิติบุคคล

 wanwan023
2  ความรู้ทั่วไป / Cryptocurrency / Huawei เตรียมผลิตมือถือ Blockchain เป็นกระเป๋าเก็บเงิน Cryptocurrency เมื่อ: 25 มีนาคม 2018, 18:50:37

Huawei เตรียมผลิตมือถือ Blockchain ใช้ SIRIN OS เน้นความปลอดภัยและเป็นกระเป๋าเก็บเงิน Cryptocurrencies



มีรายงานว่า Huawei เองก็สนใจที่จะเข้าร่วมตลาด Blockchain และ Cryptocurrencies อีกค่ายนึง (ก่อนหน้านี้มี Sugar S11) โดยจะนำเอา SIRIN OS มาใช้กับมือถือรุ่นใหม่ที่ผลิตออกมาโดยจะยังเป็นมือถือ Android อยู่แต่เน้นในเรื่องความปลอดภัยที่สูงขึ้น เพราะมันต้องทำหน้าที่เป็นกระเป๋าเงินคริปโตด้วย

รายงานจาก Bloomberg ระบุว่า Huawei ได้มีการเจรจากับ Sirin Labs เพื่อนำเอาระบบปฏิบัติการณ์ SIRIN OS มาใช้ร่วมกับสมร์ทโฟน Android OS ของตนเอง โดยการเจรจาในครั้งนี้ยังเป็นความลับอยู่ และยังไม่มีการเซ็นต์สัญญาอะไรทั้งนั้น แต่ตัวแทนของ Huawei และ Sirin Labs ยืนยันว่าได้พบกันจริง

ทาง Sirin Labs นั้นยังมีการพัฒนาสมารท์โฟนของตนเองที่ชื่อ Finney Phone ที่กำลังจะวางจำหน่ายในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ โดยมีราคาอยู่ที่ 1,000 เหรียญสหรัฐ หรือราวๆ 32,000 บาท ซึ่งตอนนี้มียอดจองไปแล้วกว่า 25,000 เครื่อง โดย Finney Phone นั้นมีขนาดหน้าจอ 5.5 นิ้ว RAM 6GB และพัฒนาขึ้นมาให้รองรับธุรกรรมที่มีความปลอกภัยสูง

การเข้ามาร่วมในครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่แบรนด์มือถือระดับโลกได้เดินทางเข้าสู่วงการ Blockchain และ Cryptocurrencies โดยมีเป้าหมายที่จะนำพาเอาเทคโนโลยีนี้ไปสู่ตลาดที่กว้างขึ้น ซึ่ง Cryptocurrencies นั้นแม้ว่าในปีนี้จะดูไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ แต่นับถึงตอนนี้ก็ถือว่ามีการเติบโตสูงถึง 15 เท่า ซึ่งคาดว่าฟีเจอร์หลักๆ ของ Huawei + SIRIN OS นั้นนอกจากการเทรด cryptocurrencies แล้วก็น่าจะมีกระเป๋า cold wallet หรือเป็นอุปกรณ์เก็บเงินคริปโตแบบ hardware นั่นเอง

 wanwan011

หน้า: [1]