1. google ลดงบกับ search ไปทุ่มกับ AI และ GSE แทน
2. พวกเว็บสายเทา ดำ สแปม เก่งขึ้นเยอะ เทคโนโลยีดีขึ้น ฉลาดขึ้น google พยายามพัฒนาแต่ตามไม่ทัน

ผมเปลี่ยนมาโพสต์ pantip แล้วครับ

สู้ไม่ได้ ก็เข้าร่วมแม่งเลย 555555

SGE มันจะคุ้มจริงหรอ

น่าสนใจสำหรับคนที่ใช้ AI อยู่นะครับ EU จะออกกฎหมายเกี่ยวกับการควบคุม AI ฉบับแรกแล้ว รายละเอียดตามนี้ https://www.facebook.com/photo...09&set=a.10150547951876809 คิดว่าในอนาคต ประเทศอื่นๆ น่าจะอ้างอิงแนวทางของ EU ในอนาคตแน่นอนครับ

คนที่โดนๆด้วยข้อหา spam ด้วย automation without human effort ครับ ดังนั้นไม่ได้โดนด้วยข้อหาใช้ AI แต่โดนด้วยข้อหาสร้างเนื้อหาโดยอัตโนมัติที่ไม่ได้มีการเพิ่มคุณค่าโดยมนุษย์อย่างเพียงพอ

ไม่มีแจ้งเตือนด้วยนะ ไม่มีขึ้นใน manual actions ให้แก้ไขไรด้วย มาถึง penalty เลย อย่างดุเลยรอบนี้

เห็นเว็บที่ใช้ AI สร้าง content โดนแบนยกเว็บ (เอาออกจากหน้า SERP ไปเลยทั้งเว็บ) เพียบเลย อย่างโหด

ต่ำเตี้ยมาก เดี๋ยวนี้อยากเห็นรายได้เยอะๆต้องไป tiktok

เนื่องจาก OpenAI ที่เป็นคนทำ ChatGPT ได้สร้างบอทของตัวเองชื่อ GPTBot เพื่อเก็บข้อมูลจากเว็บไซต์ต่างๆไปให้ AI เรียนรู้ ถ้าเราไม่ต้องให้ AI นำข้อมูลเราไปใช้ ก็ต้องบล็อก GPTbot ทีนี้อยากทราบว่าใครมีวิธีไหนในการบล็อก GPTbot บ้างครับ

อันนี้ที่ผมลองไปดูๆศึกษามา

https://www.businessinsider.co...iF37Eyz92fIYBQOzflSkIx_kSTQ9qQ
https://twitter.com/Goran_Maji...tatus/1688664959801008129?s=20
https://www.zdnet.com/article/...wler-from-ingesting-your-data/

1. traffic น้อย (เดือน ก.ค. ที่ผ่านมา มีแค่ประมาณ 43 UIP)
2. เว็บเชิงพาณิชย์ ไม่ใช่เป็นเว็บให้ความรู้ google ไม่ชอบ
3. ไม่มีบล็อก หรือบทความที่เป็นประโยชน์กับผู้คนหา (แนะนำเขียนบทความเพิ่ม เช่น แนะนำวิธีการเลือกรถเฮี๊ยบ อะไรแบบนี้)

จริงๆ ถ้าจะทำเพื่อหวังติด google adsense ควรทำเป็นเว็บบล็อกมาก่อน พออนุมัติแล้วค่อยมาใส่อย่างอื่นเพิ่ม จะอนุมัติง่ายกว่า

ปล.ช่วงนี้รู้สึกว่า ถ้าคนตรวจเว็บมาจาก USA (ดูจาก traffic คนเข้า) จะอนุมัติง่าย มีบทความสักประมาณ 10 บทความ ยังไม่มี traffic ก็อนุมัติละ แต่ถ้าคนตรวจมาจากไทยจะอนุมัติยากกว่า บทความต้อง 20-30 มี traffic ประมาณ 100 UIP ต่อวัน หรือถ้า traffic น้อยก็ต้องอายุเว็บ 3 เดือนขึ้น ไม่งั้นไม่ผ่าน

ถ้าเราทำ GDPR อยู่แล้ว แต่ทำโดยใช้ปลั๊กอินอื่น แล้วเราจำเป็นต้องเปลี่ยนไปใช้ของ google เท่านั้นไหม คือของ google มันขึ้นมาทีเต็มหน้าจอเลยอ่ะ ไม่ user friendly เลย

ช่วงโควิด ผมนี่ 0.01 เลย ตอนนี้ดีขึ้นมาหน่อยเป็น 0.04 

Atom เร็ว และ ดี แต่ความเสถียรยังสู้ hostneverdie ไม่ได้ Atom >>> https://support.hostatom.com/aff.php?aff=2672

Hostneverdie เสถียรดี ไม่ค่อยล่ม แต่ช้า server response time เยอะ และระบบหลังบ้านจะโบราณหน่อยๆ Hostneverdie >>> https://support.hostneverdie.com/aff.php?aff=4192

ยุคนี้สาย influencer ครับ สายเว็บรายได้ตกไปเยอะ แต่ก็พอได้ค่าขนมนิดหน่อยอยู่นะ

ลองดูตัวอย่างของคุณเป็ปเปอร์ก็ได้ครับ สาย aff ที่ทำแล้วมีรายได้มากพอทดแทนงานประจำ https://pitipatdiary.com/%e0%b...iate-experiences-and-examples/

อันนี้ประสบการณ์ของเป็ปเปอร์ เป็น affiliate สายการเงินครับ ใครสาย affiliate ต้องอ่าน https://pitipatdiary.com/%e0%b...iate-experiences-and-examples/

เอาจริงๆทุกวันนี้อเมริกาก็ปั๊ม QE พิมพ์แบ๊งกงเต๊กออกมาจนสภาพคล่องล้นตลาดไปหมด

แต่ด้วยความที่มันคือดอลล่าไง ถึงจะรู้ทั้งรู้ว่าเป็นแบงค์กงเต๊ก แต่คนก็ยังยอมรับมูลค่าของมัน และเอา productivity จริงๆไปแลกมา

ปัจจัยภายใน google adsense เอง

- มันขึ้นอยู่กับคนลงโษณาจะประมูลมาได้ราคาสูงหรือต่ำ ถ้าการแข่งขันน้อยราคา CPC ก็ต่ำ ดังนั้นก็ขึ้นกับ keywordและเว็บไซต์เรามีคนแข่งขันกันประมูลเพื่อมาลงโฆษณาเยอะไหม

ปัจจัยภายนอก

- เดี๋ยวนี้การตลาดออนไลน์มีหลายช่องทาง ทั้ง facebook youtube tiktok ig shopee lazada แต่ละบริษัทก็กระจายงบไปในแต่ละ platform ไม่ได้อัดงบมาที่เว็บไซต์ที่เดียวเหมือนแต่ก่อน การแข่งขันมันลดลง ราคาก็ดร็อปลงไป

บทความที่ใช้ AI เขียน ตรวจได้จาก Perplexity กับ Burstiness ซึ่งตรวจไม่ยาก มี tool ตรวจ และค่อนข้างแม่นระดับ 99%

ถ้าไม่อยากให้จับได้ ต้องเอาคนเขียนเสริมหรือแทรก rewrite ไปเยอะๆ หรือให้มันแก้เพื่อหลบการตรวจจับ  Perplexity กับ Burstiness แบบ automation ก็ได้ แต่ผลที่ออกมาจะกลายเป็นบทความอ่านยาก ไม่ค่อย human friendly

ล่าสุด Google เพิ่ม Human Effort ลงใน Quality Rater Guideline แล้วนะครับ สรุปก็คือ

- Google ไม่แบน AI content แล้ว
- Google แบน AI content ที่สร้างออกมาโดยไม่เพิ่มคุณค่า หรือสแปม
- Google ให้คะแนนบทความที่เขียนโดยมนุษย์เยอะกว่า AI

ลบๆๆๆ โพสต์ผิด