ขอไปด้วยคนครับ
กำลังศึกษาเรื่องนี้ที่บอร์ดอื่นอยู่พอดี น่าสนใจมากครับ

คุณ Ayumi เก่งจุงเบย  ร้อยเล่มได้พันกว่าเหรียญแล้ว
เดี๋ยวนี้ใครทำ public domain ส่วนมาก 20-30 เล่มก็โดนแบนแล้ว
ผมโดนตามแบนมา 4-5 รอบแล้ว

คุณ Ayumi เป็นอะไรกับคุณ netsim ครับ
อะไรๆหลายอย่างเหมือนกับคนคนเดียวเลย

lulu รับแต่หนังสือทำเองครับ pd ไม่รับ

ถ้าเขียนหนังสือเองได้ ไม่ต้องห่วงครับ ไม่ใช่แค่ lulu ทางเดียว ช่องทางมีมากมายประมาณ 20-30 เว็บ
แต่ที่ซึ่งรับ pd มันมีจำกัดมาก แค่ 1-2 เท่านั้นเอง และอีกไม่นาน คงจะเหลือแค่ 0

PD หมดอนาคตแล้วครับ ไม่ว่าเราจะทำให้ดีขนาดไหน วันหนึ่งเขาก็ต้องปิดของเรา
ไปเปิดแอคเคาท์ใหม่ ถ้ามันมีข้อมูลเชื่อมโยงกับอันเก่าเพียงเล็กน้อย เขาก็จะตามไปปิดอีก

ถ้าจะอยู่รอดต่อไป ต้องเขียนเอง จ้างเขียน หัดทำหนังสือเองกันเท่านั้นครับผม
ผมก็ยังนั่งงงอยู่เหมือนกัน โดนแบนไปสามรอบแล้ว กำลังหาทางทำหนังสือเองอยู่
แต่ public domain หมดเวลาของมันไปเรียบร้อยแล้วครับ เพื่อนๆ

ไม่ได้เข้ามาอ่านเสียหลายวัน
พอเข้ามาดูอีกที อ้าว idol ของผม คุณ deeday โดนปิดบัญชีไปแล้ว
ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ ของคุณทำได้หกเดือน ของผมเจ็ดเดือน ไม่ต่างกันมาก

ผมเขียนไปขอความเห็นใจ สารภาพผิดกับเขา เขาก็ถอนบล็อคให้สองอาทิตย์ แล้วกลับมาปิดอีก
ตรงนี้อย่าไปหวังอะไรมากครับ ผมก็เคยคิดว่าเขียนไปแล้ว จะกระตุ้นให้เขาสนใจคนที่ทำหนังสือมีคุณภาพให้ักับเขามากกว่านี้
แต่แล้วก็ป่วยการเปล่า เลยยังหันรีหันขวางไปต่อไม่ถูก อยากทำ pd ต่อ แต่โดนแบนมาสามรอบ ใจชักไม่สู้อีกแล้ว

ลองเขียนเป็นภาษาไทยแล้วไปจ้างเขาแปลเหมือนกัน เขาคิดหน้าละ 200 บาท
ของผมมี 15 หน้า เขาคิดมา 3000 ต่อเรื่อง จึงไม่มีทุนจะทำต่อ
แต่คิดว่าคนที่เขียนเอง และทำหนังสือเองคงจะอยู่ยาวกว่าครับ

วิธีที่อาจารย์ netsim แนะนำว่าใ้ห้เพิ่มเนื้อหา 30% ก็น่าสนใจครับ
แต่ถ้าต้องเพิ่มขนาดนั้น ไปเิริ่มต้นใหม่กับหนังสือทำเองมันก็เสียเวลาพอๆกัน และถ้าทำ
เหมือนกันมากๆ คือเพิ่มมุมมองใหม่ใน public domain ผมว่าอีกไม่นานก็แบนกันเเป็นแถวอีก
ตอนนี้ำก็เลยคงจะทำหนังสือเองดีกว่า  แต่ยังติดขัดที่ต้องใช้ทุนเยอะนี่แหละ ยังเก้ๆกังๆ ไปต่อไม่ค่อยเป็น

ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ คุณ pattaradit2
ตอนผมตอนโดนปิดบัญชีรอบแรกก็แบบนี้แหละ
กำลังเพลิดเพลินและเป็นปลื้มกับยอดขายในแต่ละวัน
วันที่โดนปิดนั้นจำได้ว่าถึง 37 เหรียญต่อวันแล้ว วางแผนจะเอาเงิน
ไปส่งบ้านเอื้ออาทรซึ่งซื้อต่อจากเพื่อน ตกลงราคากันเีรียบร้อยแล้ว

ของผมไม่ถึง 4000 เล่มหรอกครับ แค่ 400 กว่าเล่ม ทำวันละสองเล่มอยู่เจ็ดเดือน ผมเคยอ่านจากบอร์ดโน้น
แต่ยังไม่สนใจ ยังไม่ได้ทำ ทีหลังมาอ่านจากบอร์ดนี้อีกรอบ
ทราบข่าวว่าท่านอาจารย์ netsim ทำยอดได้หลายแสนบาทต่อเดือน เลยลงมือทำจริงจังเสียที
ทำอยู่ไ้ด้เจ็ดเดือนก็ถึงจุดจบ ยอดกำลังวิ่งฉิวถึง $1200 ต่อเดือน หายไปหมดในวันเดียว

เปิดบัญชีใหม่เพื่อทำ pd อีก ก็โดนปิดอีกสองรอบ ตอนนี้เลยขอหยุดพักก่อน ยังทำใจไม่ได้
และยังไม่รู้จะเริ่มต้นใหม่แบบไหนดี  ตอนที่เรายังได้ไม่มาก เขาอาจไม่ค่อยสนใจ แต่วันไหน
ยอดเราเริ่มเยอะ ขอให้ระวัง ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทุ่มเททำมา และฝากความหวังไว้กับมันมากๆ
อาจไม่เหลืออะไรเลย

pd ขายได้จริงๆครับ
แม้หนังสือจะเก่า แต่มันยังมีคุณภาพสูง
ชืือเสียงของผู้แต่งแต่ละคนก็อยู่ยงคงกะพันมาเป็นร้อยปี
เลือกหนังสือดี เลือกภาพประกอบดี ทำงานให้มีคุณตะพาบ ก็ยังขายได้อยู่
แต่นั่นแหละครับ ที่เราคิดว่าคุณตะพาบแล้วในสายตาเรา
อาจยังไม่ดีพอในสายตาเขา ไม่รู้เหมือนกันว่า เขาจะย่องมาดับฝันเราวันไหน

แค่เล่าให้ฟังด้วยความเห็นใจครับ เพราะผมโดนมาก่อน สู้กันต่อไปเด๊อ

ผมก็เลิกแล้วเหมือนกันครับ
อ่านมาตั้งแต่กระแสเรื่องนี้เริ่มที่ sem.or.th เมื่อปีกว่ามาแล้ว เคยเห็นอาจารย์ netsim ที่บอร์ดโน้น
พอมาโพสท์ที่นี่ ผมก็ตามมาอ่านอีก แต่ปีกว่าผ่านไป อะไรหลายอย่างมันเปลี่ยนไปมากแล้ว
มันไม่เหมือนเดิม

ผมโดนแบนแอคเคาท์ไปสามครั้งด้วยข้อหาเดิม เลยหมดใจจะทำต่อ
ใครจะทำต่อไปก็ต้องคุณภาพสูงมากเหมือนคุณ deeday หรือไม่ก็ต้องทำหนังสือเอง
ผมเวลาไม่มี ความสามารถไม่พอ เลยขออำลาดีกว่า แต่ก็ติดตามอ่านหาความรู้อยู่เสมอๆ

โดนปิดแอคเคาท์แบบถาวร ใช้อันนี้ไม่ได้อีกแล้ว
เขาบอกว่า ส่งหนังสือเล่มที่โดนปฎิเสธไปแล้วกลับเข้ามาอีก ทำแบบนี้หลายครั้ง เลยปิดบัญชีเสียเลย
ต้องไปเปิดแอคเคาท์ใหม่เท่านั้นครับ หาชื่อเพื่อน ชื่อญาติ ที่นามสกุลไม่เหมือนกันมาใช้แทน
ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ ข้อมูลทุกอย่างอย่าให้เหมือนของเดิม ไม่งั้นก็จะโดนปิดอีก

ได้ยินข่าวที่คุณ run95 ทำเงิน $1000+ ด้วยหนังสือเล่มเดียวเหมือนกัน
แต่กว่าจะได้ตังค์จริงๆ คงอีกหลายเดือนกระมังครับ

Note that you are no longer eligible to receive unpaid royalties for sales that occurred prior to this termination.

ตรงนี้เจ็บปวดมากครับ เขาบอกว่าเงินที่ค้างจ่าย จะไม่จ่ายให้
ตำราอาหารแม้จะเขียนเอง แต่โอกาสที่จะคล้ายคลึงกับของคนอื่นมันก็มีมากครับ

ต้นฉบับในคอมก็น่าจะเหลืออยู่
เอาตรงนั้นมาแสดงก็ได้ จะได้ช่วยกันวิเคราะห์ ช่วยกันดู ว่าพลาดตรงไหน
ตัวอย่างเพียงเล่มเดียว อาจจะช่วยคนอื่นได้อีกหลายสิบคน

สงสัยว่าพวกเราบางคน(ไม่ใช่ทุกคน) จะใช้วิธีระดมส่งหนังสือไม่มีคุณภาพเข้าไป
อย่างหนักมือไปหน่อย  เขาเลยจ้องจับผิดเฉพาะคนไทย
ตอนนี้ถ้า publisher จากเมืองไทย จะถูกจับตาเป็นพิเศษเลยครับ
การตรวจสอบเข้มกว่าปีก่อนมากเลย

คนที่เคยทำเมื่อปีที่แล้วกับวันนี้ ทุกคนบอกได้ตรงกัน
ว่ามันไม่เหมือนกันอีกแล้ว

ผมเองไม่ไ้ด้ส่งไปมากนักหรอกครับ มือสมัครเล่นจริงๆ  แต่พูดในฐานะผู้ที่ติดตามความเปลี่ยนแปลง
มาโดยตลอด ตั้งแต่เรื่องนี้ถูกจุดประเด็นขึ้นที่บอร์ดเพื่อนบ้านเมื่อกลางปีก่อน ใครที่รีบทำในช่วงนั้น
รวยกันถ้วนหน้า แต่ใครมาเริ่มตอนนี้ ผมว่ายากกว่าเดิมหลายเท่า  ต้องรู้ลึกมากๆถึงจะอยู่ต่อไปได้

Susanna C.
ชื่อนี้กำลังเป็นที่กล่าวขานกันทั้งสองบอร์ดเลยนะครับ
ผมอ่านจากบอร์ดเพื่อนบ้าน เขาก็เอ่ยถึงชื่อนี้กันไม่ขาดสายเหมือนกัน
เจ๊แกขยันจริงๆ ( ขยันแบนคนไทย )

ผมทำเล่นๆ ไม่ได้ทำต่อเนื่อง นานๆมาเปิดดูแอคเคาท์ที ก็ยังพอขายได้อยู่
ทำทิ้งไว้ 50 เล่ม มาเปิดดูเมื่อเช้านี้ก็เดือนละ 80 เหรียญแล้ว แค่นี้ก็พอใจ
สำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลา

โดนบล็อคกันเยอะมากจนน่าตกใจ
ใครก็ได้สักสามสี่คนที่โดน ควรจะเอารูปแบบที่ตัวเองทำมาแจกแจงให้ดูว่ามันยังไงกัน
ถ้ามีรูปแบบที่คล้ายคลึงกัน คนอื่นจะได้รู้ว่ารูปแบบนี้แหละที่เป็นปัญหา

ไปดูบอร์ดเพื่อนบ้าน เขาไม่ค่อยมีปัญหาโดนบล็อคกันเท่าไหร่
เป็นเพราะมีประสบการณ์มากกว่าหรือไงก็ไม่ทราบ เห็นเรื่องนี้เงียบๆกันอยู่

ผมก็ทำๆหยุดๆมาพักหนึ่งแล้ว ไม่ได้เข้าบอร์ดเสียหลายเดือน
ยอดขายก็โอเค ประมาณ 4-5 เหรียญต่อวัน และยังไม่เคยโดนบล็อค
แต่เข้ามาอ่านดูัวันนี้ ตกใจเลย

หลายคนลงมือทำ โดยที่ยังไม่มีความเข้าใจเรื่อง ลิขสิทธิื เรื่องทรัพย์สินทางปัญญา และ กฎกติำกาของ KDP

ผมว่าก่อนจะทำแบบจริงจัง ควรทำความเข้าใจกับภาพรวมๆ ภาพกว้างๆก่อน ไม่เช่นนั้นก็จะทำอะไร
ผิดพลาดกันเยอะแยะ เช่น ละเมิดลิขสิทธิื์ ทำผิดกฎ KDP  ลงมือทำไปตั้งจำนวนมาก มาโดนปิดบัญชี
แบบนี้ เสียดายแทนครับ คงมีคนรอคิวที่จะโดนปิดเพราะความผิดพลาดต่างๆกันอีกมาก

หนังสือที่ได้ 70% จะมีค่าใช้จ่ายในการดาวน์โหลดด้วย
เขาจะหักต้นทุนตรงนี้ออกไปก่อน

หนังสือภาพจะต้องใช้ bandwidth สูงกว่าหนังสือที่มีแต่ข้อความ
ดังนั้นจึงไม่แปลกครับที่เหลือนิดเดียว

ผมก็วนเวียนอยู่ในวงการนี้มานานหลายปี แม้จะยังไม่ประสบความสำเร็จสักที เพราะไม่ค่อยมีเวลาจะทำเต็มที่

แต่ประเด็นนี้เข้าใจดีครับ การเปิดเผยข้อมูลผ่านบอร์ดใหญ่ๆแบบนี้ คงเปิดได้แต่ความรู้ระดับพื้นฐานเท่านั้น
ด้านลึกๆก็ต้องกันเอาไว้บ้าง เพราะบางสิ่งบางอย่างหากเปิดเผยออกไปแล้ว
วิธีเดียวกันอาจถูกลอกเลียนกันมากมายจนใช้ไม่ได้ผลอีกต่อไป

ผมเห็นมาเยอะแล้ว ทั้งบอร์ดนี้และบอร์ดโน้น เปิดออกไปทีเดียว เจ้าตำรับโดนก๊อปจนยอดขายตกไปเลย
แต่ละคนต้องไปพัฒนากันต่อ ถ้าคิดเพียงว่าเอาของ gutenberg มาตัดหัวตัดท้าย อีกหน่อยก็คงทำเหมือน
กันหมด ไล่ทันกันหมด แข่งขันกันเองด้วยจำนวนคนที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ต้องมีอะไรแปลกใหม่มากกว่านี้ถึงจะอยู่ได้

ใส่เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติม ทำได้ เช่น บอกว่าเรื่องนี้ไปอ่านบทวิจารณ์
เพิ่มเติมได้ที่เว็บนั้นเว็บนี้ อาจจะส่งไปเว็บเราเองได้ เว็บอื่นๆก็ได้

แต่ถ้าใส่เพื่อโฆษณาสินค้าตัวอื่น ดูเหมือนว่าเขาจะห้ามครับ

เห็นด้วยกับคุณ kurng อย่างมากครับ
ถ้าไม่หวังผลอย่างรวดเร็ว ทำไปเรื่อยๆ วันหนึ่งก็ต้องถึงเป้าหมาย
หากไปกำหนดว่าเราต้องทำให้ได้ในเวลาเท่านั้นเท่านี้
มันเป็นการกดดันตัวเองมากเกินไป

ผมก็ติดตามเรื่องนี้จากทั้งสองบอร์ด ทั้งที่ sem.or.th ด้วย
เท่าที่อ่านๆดู บางคนก็ได้ผลเร็ว ทำไม่กี่วันได้ 100 เหรียญแล้ว
บางคนก็เห็นผลช้า ขายเป็นเดือนได้เล่มเดียวก็มี

แต่ละคนที่ทำสำเร็จ เราก็ไม่รู้ว่าพื้นฐานเขาเป็นยังไงกันมาบ้าง
อย่างคุณ netsim แม้จะเพิ่งมาทำ Kindle ไม่นาน แต่ประสบการณ์
ด้านอื่นเขามีเพียบอยู่แล้ว เอาพื้นฐานเก่าๆมาประยุกต์ใช้ได้ แต่พวกเรา
บางคนประสบการณ์ด้านอื่นยังอ่อน มาเริ่มต้น kindle ไม่กี่วัน หวังจะให้
ได้ความสำเร็จเท่าเขา ผมว่าคงยากครับ ต่อให้เขาเอาหนังสือมาแจกฟรี
ผมก็ไม่คิดว่าเราจะขายดีเท่าเขาอยู่นั่นเอง

ค่อยๆสะสมความรู้ สะสมประสบการณ์ไปดีกว่าครับ ผมอ่านจากกระทู้ที่บอร์ดโน้น
คนที่ทำยอดได้เยอะๆ เขาเคยทำแนวอื่นมาก่อนแล้ว บางคนทำ PPC บางคนทำ clickbank
เขาเอาความรู้เก่าๆมาประยุกต์ใช้ตรงนี้ได้ทันที

คนที่ยังขายไม่ไ้ด้ หรือ ทำได้ไม่ค่อยดี ต้องใจเย็นๆครับ ค่อยๆเรียนรู้ไป
ผมทำมาพักหนึ่ง เป็นเดือนแล้ว เพิ่งขายได้สองเล่ม แต่ยังไม่ท้อหรอกครับ
ทำต่อไป เรียนรู้ต่อไป หาทางแก้ไขข้อบกพร่อง แล้วปรับปรุงงานชิ้นใหม่ให้ดีขึ้นเรื่อยๆ
วันหนึงต้องเป็นวันของเราบ้าง

ที่ขายง่าย มักจะเป็น New Release หรือหนังสือออกใหม่
แต่ถ้าจะให้ขายได้เรื่อยๆอย่างต่อเนื่อง ยากกว่า