ThaiSEOBoard.com

< กดยุบ (ห้องยกเลิกการใช้งาน) => สาระคำถามทั่วไป (ย้ายไป cafe) => ข้อความที่เริ่มโดย: washiravit ที่ 18 กรกฎาคม 2009, 17:25:04



หัวข้อ: บทขออโหสิกรรมเเละอฐิษฐานจิตครับ
เริ่มหัวข้อโดย: washiravit ที่ 18 กรกฎาคม 2009, 17:25:04
คำขอขมาและอธิษฐานจิต

อธิษฐานหน้าพระพุทธรูป  หรือสวดมนต์ก่อนนอนก็ได้

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (3 จบ)

สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต อุกาสะ ทะวารัตตะเยนะ กะตัง
สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต อุกาสะ ขะมามิ ภันเต

          หากข้าพเจ้า จงใจหรือประมาทพลาดพลั้งล่วงเกินบิดา มารดา ครูบาอาจารย์ พระพุทธ พระธรรม พระอรหันต์ทุกพระองค์ พระอริยสงฆ์เจ้า ตลอดจนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย รวมถึงผู้มีพระคุณ และท่านเจ้ากรรมนายเวร จะด้วยกาย วาจา  ใจ  ก็ดี  ขอได้โปรดอโหสิกรรมแก่ข้าพเจ้าด้วย  หากข้าพเจ้ามีเจ้าของในตัวติดมาขออนุญาตมีคู่ มีครอบครัวได้เหมือนคนปกติทั่วไป  ขอถอนคำอธิษฐาน คำสาบานที่จะติดตามคู่ในอดีต ขอให้ต่างฝ่ายต่างเป็นอิสระต่อกัน

          ข้าพเจ้าจะประพฤติตนในทางที่ถูก ที่ชอบ ที่ควร ขอบุญบารมีในอดีตกาลที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน จงส่งผลให้ข้าพเจ้าและครอบครัว ตลอดจนบริวารที่เกี่ยวข้องจงเจริญด้วยอายุ วรรณะ สุขะ พละ ลาภ ยศ สุขสรรเสริญ สติปัญญา ปฏิภาณ ธนสารสมบัติ อุปสรรคใด ๆ โรคภัยใด ๆ ขอให้มลายสิ้นไป ขอให้ข้าพเจ้ามีความสว่างทั้งทางโลก ทางธรรม ตั้งแต่บัดนี้ตราบเข้าสู่พระนิพพานเทอญ

          หากมีผู้ใดเคยสร้างเวรสร้างกรรมกับข้าพเจ้าไม่ว่าจะชาติใดภพใดก็ตาม  ข้าพเจ้ายินดีอโหสิกรรมให้ ขอถอนความพยาบาท ความอาฆาต และคำสาปแช่งในทุกชาติทุกภพ ขอให้ข้าพเจ้าพ้นจากคำสาปแช่งของปวงชน ของเจ้ากรรมนายเวร  ขอให้พ้นนรกภูมิ  พบแสงสว่างทั้งทางโลกทางธรรมเทอญ

คนเราเกิดมาหลายภพหลายชาติ  แต่ละคนมีเจ้ากรรมนายเวรที่แตกต่างกัน  การสวดขอขมาเพื่อลดและปลดเปลื้องกรรมให้น้อยลง

ขอให้ผู้ได้รับใบคำขอขมาและอธิษฐานจิตนี้ กรุณาส่งให้ผู้อื่นต่อ เพื่อสร้างผลบุญและบารมีต่อไป


หัวข้อ: Re: บทขออโหสิกรรมเเละอฐิษฐานจิตครับ
เริ่มหัวข้อโดย: pacapao ที่ 18 กรกฎาคม 2009, 18:41:07
ท่านอาจาน เมื่อไหร่จะไปทายรูปอีกคับ


หัวข้อ: Re: บทขออโหสิกรรมเเละอฐิษฐานจิตครับ
เริ่มหัวข้อโดย: iris_flower ที่ 18 กรกฎาคม 2009, 21:39:25
ขอบคุณค่ะ :)

อืม ถามนิดค่ะ
เราสามารถกรวดน้ำตอนเย็นได้มั้ยค่ะ


หัวข้อ: Re: บทขออโหสิกรรมเเละอฐิษฐานจิตครับ
เริ่มหัวข้อโดย: washiravit ที่ 20 กรกฎาคม 2009, 21:02:06
ท่านอาจาน เมื่อไหร่จะไปทายรูปอีกคับ

สนใจเหรอครับ ต้องรอความขัยนก่อนครับ ตอนนี้ขี้เกียจอย่างเเรง

ขอบคุณค่ะ :)

อืม ถามนิดค่ะ
เราสามารถกรวดน้ำตอนเย็นได้มั้ยค่ะ


กรวดตอนไหนก็ได้ครับ

เพิ่มเติม พระอาจารย์บางท่านบอกว่าเวลากรวดห้ามใช้น้ำ ให้กรวดเเห้ง พระอาจารย์บางท่านบอกให้ใช้น้ำ อย่ากรวดเเห้ง

สรุป ควรกรวดทั้งน้ำเเละกรวดเเห้งด้วยครับ


หัวข้อ: Re: บทขออโหสิกรรมเเละอฐิษฐานจิตครับ
เริ่มหัวข้อโดย: zZzZ ที่ 20 กรกฎาคม 2009, 21:17:00
การให้อภัยเป็นการแสดงถึงจิตใจที่ฝึกฝนมาได้อย่างดี ขออนุโมทนาด้วยครับ ขอให้มีความเจริญขึ้นๆไป
ถ้าทุกคนพยายามมีสติ ให้อภัยกันและกันได้ สังคมจะสงบสุขขึ้นมากเลย

เรื่องพิธีกรรม โดยส่วนตัว เชื่อว่าหากเจตนาตั้งใจดี
ปรารถนาที่จะให้อย่างบริสุทธิ์ พิธีกรรมแทบจะไม่สำคัญเสียด้วยซ้ำ
เพราะพิธีกรรมเป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นมาเอง จนบางทีทำกันจนลืมไปด้วยซ้ำ
ว่าแก่นของพิธีกรรมที่ให้ทำนั้นคืออะไร

บางครั้งยึดติดกับพิธีกรรม กับคำสอนจนลืมคำสอนของพระพุทธองค์ว่า ให้ปล่อยวาง
แต่ดันยึดติดพิธีกรรมไปซะได้

ก็ตลกดี


หัวข้อ: Re: บทขออโหสิกรรมเเละอฐิษฐานจิตครับ
เริ่มหัวข้อโดย: iris_flower ที่ 20 กรกฎาคม 2009, 22:04:41

ขอบคุณค่ะ :)

อืม ถามนิดค่ะ
เราสามารถกรวดน้ำตอนเย็นได้มั้ยค่ะ


กรวดตอนไหนก็ได้ครับ

เพิ่มเติม พระอาจารย์บางท่านบอกว่าเวลากรวดห้ามใช้น้ำ ให้กรวดเเห้ง พระอาจารย์บางท่านบอกให้ใช้น้ำ อย่ากรวดเเห้ง

สรุป ควรกรวดทั้งน้ำเเละกรวดเเห้งด้วยครับ
[/quote]
แล้วควรตั้งจิตอุทิศผล ถึงคนๆเดียว หรือ แบบยาวๆค่ะ แบบกลอนง่าค่ะ แบบไหนดีกว่า
ผึ้งขอรบกวนถามอีกครั้ง


หัวข้อ: Re: บทขออโหสิกรรมเเละอฐิษฐานจิตครับ
เริ่มหัวข้อโดย: แป้งฝุ่น~Richy~ ที่ 20 กรกฎาคม 2009, 22:14:13
อยากรุ้ว่าถ้าเราไปนั่งปฏิบัติธรรม วิปัสนา จะได้กุศลดีมั๊ยคะคือว่าพึ่งไปบวชมาคะและถ้าว่างจะไปบ่อยๆ ::)


หัวข้อ: Re: บทขออโหสิกรรมเเละอฐิษฐานจิตครับ
เริ่มหัวข้อโดย: doonet ที่ 20 กรกฎาคม 2009, 22:31:17
การให้อภัย การไม่จองเวร เป็นสิ่งที่ควรทำเป็นอย่างยิ่งในสังคมไทยเราครับ :)


หัวข้อ: Re: บทขออโหสิกรรมเเละอฐิษฐานจิตครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Himalayan ที่ 20 กรกฎาคม 2009, 22:33:03
โมทนาครับ... กรวดตอนไหนก็ได้ครับ อยู่ที่เจตนาครับ หากคนรับที่เราอุทิศให้ไปอยู่ในที่ๆ สามารถรับได้เขาก็จะมาอนุโมทนาไปครับ
อีกอย่างเสริมครับ เคยได้ยินที่ว่าเราไม่ชอบใครแล้วให้แผ่ให้เขาด้วยไหมครับ อันนี้ ต้องแผ่ดีๆ นะครับ จะได้ผลดีมาก โดนส่วนใหญ่เราไม่ชอบใครจิตเราก็จะเกิดโทสะ หรือคิดไม่ดีกับคนนั้นๆ ทางที่ดีหากใจเราสามารถอโหสิกรรมก่อนได้ก็จะดีมาก เป็นการตัดใจเราไม่ให้โกรธเขาก่อน จากนั้นค่อยแผ่เมตตาไปให้เขาเหล่านั้น จึงจะเกิดประโยชน์มากที่สุดครับ (แต่อาจจะทำยากนิดนะครับ) :)

อยากรุ้ว่าถ้าเราไปนั่งปฏิบัติธรรม วิปัสนา จะได้กุศลดีมั๊ยคะคือว่าพึ่งไปบวชมาคะและถ้าว่างจะไปบ่อยๆ ::)

ขออนุญาตตอบเท่าที่รู้นะครับ และอนุโมทนากับบุญในการไปปฏิบัติธรรมด้วยนะครับ  :) ว่าแต่ไปเจริญสติที่ไหนมาครับ

ได้แน่นอนครับ เพราะเรามีความตั้งใจที่จะไปทำความดี ย่อมได้กุศลดีตอบกลับมาแน่นอนครับ


หัวข้อ: Re: บทขออโหสิกรรมเเละอฐิษฐานจิตครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Kamilia ที่ 20 กรกฎาคม 2009, 22:35:07
ทำยังไงให้ไม่ใครมาจองเวรเราค่ะ

....เพราะเป็นคนเลี้ยงลูกๆไว้ในปากเยอะ

คนไม่ชอบก็เลยเยอะทำยังไงค่ะ


หัวข้อ: Re: บทขออโหสิกรรมเเละอฐิษฐานจิตครับ
เริ่มหัวข้อโดย: m-16-150 ที่ 20 กรกฎาคม 2009, 23:07:57
ถ้าเราสวดมนต์ + กรรมฐาน ก่อนนอน เราควรกรวดน้ำไหมคับ
ปรกติผมจะ แผ่เมตตา โดย

อิมินา ปุญญะกัมเมนะ ด้วยผมบุญแห่งข้าพเจ้าได้สร้างในวันนี้ ข้าพเจ้าขออุทิศให้...

พอจะได้ป่าว  ปรกติผมไม่ได้กรวดน้ำเลย


หัวข้อ: Re: บทขออโหสิกรรมเเละอฐิษฐานจิตครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Himalayan ที่ 20 กรกฎาคม 2009, 23:39:05
ถ้าเราสวดมนต์ + กรรมฐาน ก่อนนอน เราควรกรวดน้ำไหมคับ
ปรกติผมจะ แผ่เมตตา โดย

อิมินา ปุญญะกัมเมนะ ด้วยผมบุญแห่งข้าพเจ้าได้สร้างในวันนี้ ข้าพเจ้าขออุทิศให้...

พอจะได้ป่าว  ปรกติผมไม่ได้กรวดน้ำเลย
ขออนุญาตตอบโดยยกคำตอบมาจาก ท่านดร.สนอง วรอุไร

"ในขณะอุทิศบุญกุศล ต้องทำจิตให้ตั้งมั่น ด้วยวิธีกรวดน้ำหรือไม่กรวดน้ำ แต่ต้องมีจิตจดจ่อขณะกล่าวคำอุทิศ"

"คำว่า “ บุญ ” หรือ “ กุศล ” มีความหมายเป็นสิ่งเดียวกัน ผู้ใดมีบุญ ผู้นั้นสามารถอุทิศบุญที่ตนมีให้กับคนอื่นได้ แต่เขาจะได้รับบุญหรือไม่ขึ้นอยู่กับปัจจัยสามอย่าง คือ มีผู้อุทิศบุญ มีบุญที่อุทิศ และมีผู้มารับบุญ หากปัจจัยสามอย่างนี้ถึงพร้อม การอุทิศบุญจึงจะสัมฤทธิ์ผล"


ปล. ขออนุโมทนาในบุญกุศลที่ทำด้วยนะครับ  :)


หัวข้อ: Re: บทขออโหสิกรรมเเละอฐิษฐานจิตครับ
เริ่มหัวข้อโดย: m-16-150 ที่ 21 กรกฎาคม 2009, 01:29:55
ถ้าเราสวดมนต์ + กรรมฐาน ก่อนนอน เราควรกรวดน้ำไหมคับ
ปรกติผมจะ แผ่เมตตา โดย

อิมินา ปุญญะกัมเมนะ ด้วยผมบุญแห่งข้าพเจ้าได้สร้างในวันนี้ ข้าพเจ้าขออุทิศให้...

พอจะได้ป่าว  ปรกติผมไม่ได้กรวดน้ำเลย
ขออนุญาตตอบโดยยกคำตอบมาจาก ท่านดร.สนอง วรอุไร

"ในขณะอุทิศบุญกุศล ต้องทำจิตให้ตั้งมั่น ด้วยวิธีกรวดน้ำหรือไม่กรวดน้ำ แต่ต้องมีจิตจดจ่อขณะกล่าวคำอุทิศ"

"คำว่า “ บุญ ” หรือ “ กุศล ” มีความหมายเป็นสิ่งเดียวกัน ผู้ใดมีบุญ ผู้นั้นสามารถอุทิศบุญที่ตนมีให้กับคนอื่นได้ แต่เขาจะได้รับบุญหรือไม่ขึ้นอยู่กับปัจจัยสามอย่าง คือ มีผู้อุทิศบุญ มีบุญที่อุทิศ และมีผู้มารับบุญ หากปัจจัยสามอย่างนี้ถึงพร้อม การอุทิศบุญจึงจะสัมฤทธิ์ผล"


ปล. ขออนุโมทนาในบุญกุศลที่ทำด้วยนะครับ  :)

ขอบคุณที่สละเวลาตอบคับ สาธุ :)


หัวข้อ: Re: บทขออโหสิกรรมเเละอฐิษฐานจิตครับ
เริ่มหัวข้อโดย: washiravit ที่ 21 กรกฎาคม 2009, 11:29:21
อยากรุ้ว่าถ้าเราไปนั่งปฏิบัติธรรม วิปัสนา จะได้กุศลดีมั๊ยคะคือว่าพึ่งไปบวชมาคะและถ้าว่างจะไปบ่อยๆ ::)


เห็นด้วยกับคุณที่ช่วยตอบคุณแป้งไปเเล้วนะครับ ก็ขออนุโมทนาเช่นกันครับ

เพิ่มเต้มครับ คุณเเป้งถามคล้ายๆว่าจะลังเลสงสัยในผลลัพธ์ครับ

ความจริงบุญมันดูค่อนข้างง่ายครับ เช่นถ้าไปปฏิบัติเเล้วคุณได้ประโยชน์ มีความสุข จิตใจอิ่มเอิบในการมองเห็นความทุกข์ เเละเข้าใจทุกสิ่งทุกอย่างที่มันไม่น่ายึดมั่นถือมั่น

ย่อมมีบุญเเน่นอน


คำถามนี้คล้ายกับคำถามที่ว่า ทำบุญต่อหน้าคนหรือทำบุญลับหลังคน อันไหนได้บุญเยอะกว่า

เราก็ต้องดูที่เจตนาครับ ขอเเบ่งเป็น 4 เจตนาดังนี้

1. ทำบุญต่อหน้าคนเพราะอยากโอ้อวดว่าตนใจดีใจบุญ อันนี้ได้บุญน้อย
2. ทำบุญลับหลังคนเพราะกลัวคนอื่นเเย่งบุญของตน หรือตนจะไม่ได้รับบุญเต็มเม็ดเต็มหน่วย อันนี้ได้บุญน้อย
3. ทำบุญต่อหน้าคนเพราะอยากเป็นเเบบอย่างให้คนอื่นเห็น ว่าการทำดีมันง่ายเเละได้รับความสุขที่มาก อันนี้มหากุศล
4. ทำบุญลับหลังคนเพราะไม่ได้อยากได้ชื่อเสียง ลาภยศ สรรเสริญ อันนี้ก็บุญเยอะครับ


หัวข้อ: Re: บทขออโหสิกรรมเเละอฐิษฐานจิตครับ
เริ่มหัวข้อโดย: washiravit ที่ 21 กรกฎาคม 2009, 11:31:02
ถ้าเราสวดมนต์ + กรรมฐาน ก่อนนอน เราควรกรวดน้ำไหมคับ
ปรกติผมจะ แผ่เมตตา โดย

อิมินา ปุญญะกัมเมนะ ด้วยผมบุญแห่งข้าพเจ้าได้สร้างในวันนี้ ข้าพเจ้าขออุทิศให้...

พอจะได้ป่าว  ปรกติผมไม่ได้กรวดน้ำเลย
ขออนุญาตตอบโดยยกคำตอบมาจาก ท่านดร.สนอง วรอุไร

"ในขณะอุทิศบุญกุศล ต้องทำจิตให้ตั้งมั่น ด้วยวิธีกรวดน้ำหรือไม่กรวดน้ำ แต่ต้องมีจิตจดจ่อขณะกล่าวคำอุทิศ"

"คำว่า “ บุญ ” หรือ “ กุศล ” มีความหมายเป็นสิ่งเดียวกัน ผู้ใดมีบุญ ผู้นั้นสามารถอุทิศบุญที่ตนมีให้กับคนอื่นได้ แต่เขาจะได้รับบุญหรือไม่ขึ้นอยู่กับปัจจัยสามอย่าง คือ มีผู้อุทิศบุญ มีบุญที่อุทิศ และมีผู้มารับบุญ หากปัจจัยสามอย่างนี้ถึงพร้อม การอุทิศบุญจึงจะสัมฤทธิ์ผล"


ปล. ขออนุโมทนาในบุญกุศลที่ทำด้วยนะครับ  :)


สวัสดีครับ คำตอบนี้เป็นคำตอบที่ดีมากครับ ขออนุโมทนาผู้ที่เข้ามาตอบนะครับ


หัวข้อ: Re: บทขออโหสิกรรมเเละอฐิษฐานจิตครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Himalayan ที่ 21 กรกฎาคม 2009, 12:43:47
ถ้าเราสวดมนต์ + กรรมฐาน ก่อนนอน เราควรกรวดน้ำไหมคับ
ปรกติผมจะ แผ่เมตตา โดย

อิมินา ปุญญะกัมเมนะ ด้วยผมบุญแห่งข้าพเจ้าได้สร้างในวันนี้ ข้าพเจ้าขออุทิศให้...

พอจะได้ป่าว  ปรกติผมไม่ได้กรวดน้ำเลย
ขออนุญาตตอบโดยยกคำตอบมาจาก ท่านดร.สนอง วรอุไร

"ในขณะอุทิศบุญกุศล ต้องทำจิตให้ตั้งมั่น ด้วยวิธีกรวดน้ำหรือไม่กรวดน้ำ แต่ต้องมีจิตจดจ่อขณะกล่าวคำอุทิศ"

"คำว่า “ บุญ ” หรือ “ กุศล ” มีความหมายเป็นสิ่งเดียวกัน ผู้ใดมีบุญ ผู้นั้นสามารถอุทิศบุญที่ตนมีให้กับคนอื่นได้ แต่เขาจะได้รับบุญหรือไม่ขึ้นอยู่กับปัจจัยสามอย่าง คือ มีผู้อุทิศบุญ มีบุญที่อุทิศ และมีผู้มารับบุญ หากปัจจัยสามอย่างนี้ถึงพร้อม การอุทิศบุญจึงจะสัมฤทธิ์ผล"


ปล. ขออนุโมทนาในบุญกุศลที่ทำด้วยนะครับ  :)


สวัสดีครับ คำตอบนี้เป็นคำตอบที่ดีมากครับ ขออนุโมทนาผู้ที่เข้ามาตอบนะครับ
สาธุครับ  :)


หัวข้อ: Re: บทขออโหสิกรรมเเละอฐิษฐานจิตครับ
เริ่มหัวข้อโดย: iNspIr@Tion ที่ 21 กรกฎาคม 2009, 12:47:20
ขอบคุณครับ  :)


หัวข้อ: Re: บทขออโหสิกรรมเเละอฐิษฐานจิตครับ
เริ่มหัวข้อโดย: bigpop ที่ 21 กรกฎาคม 2009, 13:37:18
ขอบคุณครับ


หัวข้อ: Re: บทขออโหสิกรรมเเละอฐิษฐานจิตครับ
เริ่มหัวข้อโดย: abac401 ที่ 21 กรกฎาคม 2009, 15:25:33
อยากรุ้ว่าถ้าเราไปนั่งปฏิบัติธรรม วิปัสนา จะได้กุศลดีมั๊ยคะคือว่าพึ่งไปบวชมาคะและถ้าว่างจะไปบ่อยๆ ::)

ทำไมมันถึงดี?
มันสำคัญขนาดว่า ขาดตัวนี้ไปพระพุธองค์ ไม่ตรัสรู้ครับ
วันที่ตรัสรู้ คือวันที่ค้นพบ อริยสัจ 4 ซึ่งในข้อสี่คือวิธีการ มรรค8 (วิธีที่จะดับทุกข์ แบบถาวร)

สัมมาสมาธิ คือ เรื่องนึงที่พบในวันนั้น

 นั่งไปทำไม เพื่อ?

ทำเว็บ ก็ใช้ต้องใช้ สมาธิ ระดับนึง  อ่านหนังสือก็ต้องใช้สมาธิระดับนึง   พิจารณาชีวิตและธรรมะ หากต้องการจะให้เห็นจริงก็ต้องใช้สมาธิระดับนึง ถึงจำเป็นต้องนั่งเพื่อให้ เข้าสมาธิระดับนั้นให้ได้ก่อน แล้วค่อยนำไปพิจารณาชีวิตและธรรม

 เห็นคนทรง ก็นั่งสมาธิ พระฤษีก็นั่งสมาธิ มันเหมือนกันกับ สมาธิที่พระองค์ ค้นพบไหม?

ไม่เหมือน พระพุทธองค์ ก็มีอาจารย์ สอนนั่งสมาธิเป็นพระฤษี สองท่าน
สื่งที่แตกต่าง นั้นคือ
พระฤษี และคนทรง จะนั่งเพื่อให้ จิตว่างหรือ ท่องเที่ยว หรือให้มี พลังสมาธิและ พลังจิตที่สูงขี้น (ในทางพุทธเรียก
สมทะสมาธิ ซึ่งเสื่อมได้เมื่อหยุดฝึกฝน)

พระพุทธองค์ เมื่อเห็นว่ายังไม่ใช่สิ่งที่จะทำให้มนุษย์หลุดพ้นได้ จึงเพียรทดลองหาทางให้จงได้ ลองผิดลองถูกอยู่หลายวิธี

จนมาพบ วิธี วิปัสนา คือนำ กำลังของสมาธิที่มีจาก สมทะสมาธิ มาพิจารณากายและธรรมะ

ได้กุศลดีไหม?

ไม่ทราบเหมือนกัน แต่ในทางพุทธศาสนา คุณก็เดินไกล้เข้าไปอีกก้าวหนึ่งแล้วครับ




 (อันนี้เคยเท่าที่เคยศึกษามาครับ แต่ผมปฎิบัติยังสอบตกอยู่ครับ :P)


หัวข้อ: Re: บทขออโหสิกรรมเเละอฐิษฐานจิตครับ
เริ่มหัวข้อโดย: narisuwa ที่ 21 กรกฎาคม 2009, 15:29:11
อยากให้มีกระทู้ร่มเย็นแบบนี้เยอะๆ ในบอร์ดเราจังค่ะ