ThaiSEOBoard.com

อื่นๆ => Cafe => ข้อความที่เริ่มโดย: bslclinicit ที่ 19 พฤศจิกายน 2021, 13:56:17



หัวข้อ: แชร์ 5 เคล็ดลับ รักษาสิวด้วยตัวเอง ต้องเป็นสิวแบบไหน รักษาเห็นผล !!
เริ่มหัวข้อโดย: bslclinicit ที่ 19 พฤศจิกายน 2021, 13:56:17
(https://bslclinic.co.th/wp-content/uploads/2021/11/01-19-11-2021-1.jpg)

อยากสิวหาย มีหน้าผิวหน้าที่ขาวใส ต้องรักษาสิวให้ถูกวิธีและการ รักษาสิว (https://bslclinic.co.th/acne-treatment/)ด้วยตัวเอง คงต้องเป็นวิธีแรกๆ ที่คนเป็นสิวเลือกอย่างแน่นอน แต่จะว่าไปการดูแลรักษาสิว แบบไม่ต้องพึ่งหมอคลินิค ก็มีข้อดี-ข้อเสีย ที่หลายๆ คนควรชั่งใจไว้เหมือนกันนะ

เปรียบเทียบข้อดี - ข้อเสีย ของการ รักษาสิวด้วยตัวเอง

(https://bslclinic.co.th/wp-content/uploads/2021/11/02-19-11-2021-1.jpg)

ผิวหน้ามีสิวกวนใจ ทำยังไงดี ใครที่กำลังเลือกวิธีรักษาสิว จะบอกว่าถ้าเราเสิร์ชหาข้อมูลเกี่ยวกับวิธีทำให้สิวหาย จะมีข้อมูลเยอะมากๆ และหนึ่งในช้อยส์ที่ส่วนมากคนจะเลือกคือ รักษาสิว (https://bslclinic.co.th/acne-treatment/)ด้วยตัวเอง แต่มีใครเคยเช็คลิสต์ไหมว่าวิธีนี้ดีจริงหรือเปล่า ถ้าเปรียบเทียบระหว่างข้อดีกับข้อเสียของการดูแลรักษาสิวด้วยวิธีนี้

(https://bslclinic.co.th/wp-content/uploads/2021/11/03-19-11-2021-1.jpg)

ข้อดีของการรักษาสิวด้วยตัวคุณเอง

ไม่เสียเวลา ไม่เสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางเข้าไปรักษาสิวตามคลินิกหรือสถานพยาบาล พอได้รักษาสิวด้วยตัวคุณเอง คุณอาจจะถ่ายรูปสิวของคุณทุกวัน ว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นอย่างไรบ้าง ทำให้คุณเปรียบเทียบได้ว่าสิวลดลง หรือเป็นหนักขึ้น จากการที่คุณดูแลรักษาด้วยตัวเอง

ข้อเสียของการรักษาสิวด้วยตัวคุณเอง

เห็นเป็นแค่สิวเม็ดเล็กๆ แต่ก็ทำให้ใครหลายๆ คนหมดความมั่นใจได้ ส่วนข้อเสียของการรักษาสิวด้วยตัวคุณเองก็มีไม่ใช่น้อย เช่น มีโรคผิวหนังหลายชนิดที่มีลักษณะหน้าตาคล้ายสิว แต่ไม่ใช่สิว ซึ่งมีการรักษาที่แตกต่างกัน การใช้ยาที่ไม่ตรงกับกับชนิดของสิวที่เป็นอยู่ อีกข้อหนึ่งก็เป็นการใช้ยาผิดวิธี เพราะไม่อยู่ในการดูแลของคุณหมอผู้เชี่ยวชาญ ก็อาจทำให้สิวไม่หาย หรือมากไปกว่านั้น จากสิวที่เป็นน้อยๆ เมื่อดูแลอย่างผิดวิธีก็อาจทำให้อาการของสิวรุนแรงขึ้น จนกลายเป็นสิวเรื้อรัง ที่ยากต่อการรักษาได้

รู้หรือไม่ สิวก็มีเลเวล มาเช็คผิวด่วน คุณเป็นสิวเยอะระดับไหน

(https://bslclinic.co.th/wp-content/uploads/2021/11/04-19-11-2021-1.jpg)

ระดับอาการของสิวที่มีความแตกต่างกัน ทำให้แนวทางและวิธีการในการรักษาสิวไม่เหมือนกัน ถ้าหากผิวคุณสิวอยู่ ลองเช็คผิว ว่าคุณเป็นสิวเยอะ ระดับไหน

สิวเล็กน้อย (Mild acne)
มีหัวสิวไม่อักเสบ สิวอุดตันเป็นส่วนใหญ่ หรือมีสิวอักเสบ ที่เป็นตุ่มแดง ตุ่มหนอง ไม่เกิน 10 จุด และไม่มีสิวที่เป็นก้อนสีแดงภายในมีหนองปนเลือด ลักษณะโดยรวมแบบนี้ถือว่า เป็นสิวเล็กน้อย

สิวปานกลาง (Moderate acne)
มีสิวอักเสบ ตุ่มแดงและ ตุ่มหนอง ขนาดเล็กจำนวนมากกว่า 10 จุด และมีสิวที่เป็นก้อนสีแดงภายในมีหนองปนเลือดน้อยกว่า 5 จุด

สิวรุนแรง (Severe acne)
ลักษณะสิวประเภทนี้น่าเป็นห่วง เพราะมีทั้งสิวอักเสบตุ่มแดง ตุ่มหนอง ขึ้นเยอะ บวกกับ สิวที่เป็นก้อนสีแดงภายในมีหนองปนเลือดอักเสบอยู่นาน กลับเป็นซ้ำหรือมีหนองไหล  และสิวที่เป็น Cyst ก้อนนูนแดง นิ่ม ภายในมีหนองปนเลือดขึ้นหลายหัวติดกัน ที่มากไปกว่านั้นมีการอักเสบอย่างเรื้อรังเกิดขึ้น

เป็นสิวระดับแบบไหน สิวแบบ ที่เหมาะกับการรักษาด้วยตัวเอง

(https://bslclinic.co.th/wp-content/uploads/2021/11/05-19-11-2021-1.jpg)

ระดับสิวที่คุณคิดไว้ในใจ จะใช่ไหมนะ? สิวที่เหมาะกับการรักษาด้วยตัวเองมากที่สุด ก็ต้องเป็นสิวระดับเล็กน้อย เท่านั้น !!! ปัญหาสิวก็คือ มีหัวสิวไม่อักเสบป็นส่วนใหญ่ ก็คือเป็นสิวอุดตัน หรือถ้ามีสิวอักเสบ (papule/pustule) ก็ไม่เกิน 10 จุด แต่ทางที่ดีที่สุด การรักษาสิวที่ตรงกับสาเหตุของการเกิดสิว ตั้งแต่เริ่มเป็น จะช่วยป้องกันไม่ให้สิวลุกลาม หรือเพิ่มระดับความรุนแรงขึ้น อีกทั้งยังช่วยไม่ให้ผิว เกิดรอยแผลเป็นหลุมสิวตามมาอีกด้วย

5 เคล็ดลับ รักษาสิวด้วยตัวเอง ให้หน้าเนียนใส ผิวดีขึ้นจริงๆ

(https://bslclinic.co.th/wp-content/uploads/2021/11/06-19-11-2021-2.jpg)

1. เช็คปัญหาสิวของคุณก่อน อยู่ในระดับไหน?
อย่างที่บอกไปข้างต้น ระดับสิวที่เหมาะกับการรักษาด้วยตัวเองมากที่สุด คือ สิวระดับเล็กน้อย ทางที่ดีคุณจึงควรเช็คระดับสิวที่เป็นอยู่ และคำนึงถึงลักษณะผิวที่เป็น คุณเป็นคนผิวมัน ผิวแห้ง ผิวผสม ทำความเข้าใจเกี่ยวกับผิว ผิวแบบที่เราเป็นอยู่ควรต้องได้รับการดูแลแบบไหนเป็นพิเศษไหมนะ จึงเป็นการเริ่มต้นของการดูแลผิว รักษาสิวด้วยตัวคุณเองที่ดีเลย

2. เลือกใช้ยารักษาสิว ที่เป็นการรักษามาตรฐาน
การรักษามาตรฐาน (First line treatment) คือการรักษาที่ขึ้นกับความรุนแรงของสิว โดยลักษณะสิวที่เป็นเล็กน้อย สามารถรักษาโดยพิจารณาใช้ยาทาเฉพาะที่ได้
  • Benzoyl peroxide (เบนโซอิลเพอร์ออกไซด์) 2.5%-5% เป็นยาทาสำหรับรักษาสิว มีสรรพคุณต้านเชื้อแบคทีเรียและช่วยทำให้ผิวแห้ง ผิวแห้งใช้ 2.5% ผิวมันใช้ 5%
  • Topical retinoids 0.01%-0.1% จะออกฤทธิ์ ผลัดเซลล์ผิว ลดการอุดตัน หรือลดการอักเสบด้วย ใช้สำหรับรักษา สิวอุดตันและสิวอักเสบ
  • Clindamycin 1% solution มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิว
  • Erythromycin 2%-4% solution หรือ gel มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิว ใช้ทาเฉพาะบริเวณที่มีสิวอักเสบ วันละ 2-3 ครั้ง ผลข้างเคียง คือ ผิวลอก ผิวบาง แสบผิว
  • Salicylic acid กรด BHA ชนิดหนึ่ง ช่วยลดการอักเสบของผิวหนัง ทำให้สามารถยับยั้งป้องกันการเกิดสิว
  • Azelaic acid ยานี้จะช่วยยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย ละลายสิวอุดตัน ลดรอยดำ และการอักเสบของสิว
ไม่ควรใช้ยาทาฆ่าเชื้อทาเพียงอย่างเดียว เนื่องจากมีความเสี่ยงต่อการเกิดเชื้อดื้อยาในระยะยาวได้

3. ปรับพฤติกรรมที่เป็นตัวกระตุ้นสิว
  • ไม่ควรล้างหน้าบ่อยๆ แนะนำให้ล้างหน้าเพียงวันละ 2 ครั้งก็เพียงพอ หากแต่งหน้าหรือเพียงแค่ทาครีมกันแดด ก็ควรใช้ทำความสะอาดเครื่องสำอางให้หมดจด ก่อนเข้านอน ด้วยเป็นคลีนซิ่งที่ใช้นิ้วมือ วนเบาๆ แทนการใช้สำลี เพื่อขจัดคราบเครื่องสำอางก่อนการล้างหน้า
  • ไม่แคะ แกะ เกา ไม่บีบสิว ไม่กดสิว เพราะจะทำให้ผิวและสิวเกิดการระคายเคืองและอักเสบได้ง่ายขึ้น
  • หมั่นทำความสะอาดปลอกหมอน ผ้าปูที่นอน ที่สัมผัสกับใบหน้าของเราในทุกๆ วันอย่างน้อยอาทิตย์ละหนึ่งครั้ง เพื่อลดการสะสมของเชื้อโรค และฝุ่นละอองที่ทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง
  • ไม่ควรนอนดึก พักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 8-10 ชม. เพราะการที่ร่างกายของคุณหลับสนิท จะทำให้เกิดการซ่อมแซมในส่วนที่สึกหลอของร่างกาย ส่งผลให้การรักษาสิวมีประสิทธิภาพที่ดี ทำให้ผิวดูสดใส
  • การดื่มน้ำที่เพียงพอเป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับการฟื้นฟูผิวพรรณ

4. บำรุงฟื้นฟูให้ผิวแข็งแรง
เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน (oil-free) หรือผลิตภัณฑ์ประเภท Non - Comedogenic ที่หมายถึงผลิตภัณฑ์ชนิดนั้นไม่มีส่วนผสมที่ทำให้เกิดภาวะรูขุมขนอุดตันได้ ช่วยไม่ให้ผิวเกิดการระคายเคือง ส่วนนี้จึงช่วยลดการอุดตันที่เป็นสาเหตุของสิวได้เป็นอย่างดี

5. ติดตามผลการเปลี่ยนแปลงรักษาสิวด้วยตัวเองอย่างใกล้ชิด
ข้อนี้สำคัญมากๆ เพราะจะช่วยทำให้คุณเห็นผลการเปลี่ยนแปลงของสิวได้เป็นอย่างดี คำแนะนำควรถ่ายรูปผิวหน้าที่เป็นสิวที่เป็นช่วงเวลาเดียวกัน เก็บไว้ทุกวัน เช่น หลังล้างหน้าตอนเช้า หรือผิวหน้าก่อนนอน เพื่อเเปรียบเทียบให้เห็นการเปลี่ยนเปลง ในกรณีที่เป็นสิวรุนแรงขึ้นหรือไม่สนองต่อวิธีการรักษาใน 2-3 เดือน ควรรีบปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสิวโดยเฉพาะ จะดีที่สุด

เลือกคลินิกรักษาสิวอย่างไรดี กดดูข้อมูลเพิ่มเติมที่
https://bslclinic.co.th/acne-treatment/


หัวข้อ: Re: แชร์ 5 เคล็ดลับ รักษาสิวด้วยตัวเอง ต้องเป็นสิวแบบไหน รักษาเห็นผล !!
เริ่มหัวข้อโดย: ethanwick ที่ 01 ธันวาคม 2021, 11:00:24
ดีมากๆ เลยครับ :wanwan013: (https://starvegas-auto.com/ฝาก-ถอนอัตโนมัติ)