ThaiSEOBoard.com

เขียน HTML, CSS, JAVA, PHP ได้บ้าง
และ Photoshop, Flash ก็ได้บ้าง
แต่ไม่เก่งพอที่จะไปหางานประจำทำด้านนี้ได้
ก็เลยยังไม่มีใครจ้างไปทำงานด้านนี้เลย

ทำงานสายอื่นที่ไม่ได้ชอบไม่ได้รักมาเกือบปีละ ทนทำทุกวัน ทุกข์ใจมาก
ได้แต่คิดว่า ถ้าได้งานสายที่ตัวเองชอบ น่าจะมีความสุข
หรือถ้ามีปัญหา ก็น่าจะยินดีแก้ไขกว่านี้
แต่ก็ยังลาออกมาไม่ได้ เพราะยังไม่มีงานใหม่รองรับ

จริงๆถ้าทำงานเป็นทีม งานก็อาจจะเสร็จสมบูรณ์เป็น website ดีๆออกมาได้
สมัยเรียนก็มีเพื่อนร่วมชั้นกับอาจารย์คอยช่วยให้งานออกมาสำเร็จ
แต่พอสมัครงานตำแหน่งผู้ช่วย webmaster โดยลง resume ไว้ตาม web หางาน กลับไม่มีใครติดต่อมาเลย

อยากกลับไปเรียนใหม่มากกกกก
หรือถ้ามีเวลาศึกษาด้วยตัวเอง หรือไปลง course คงจะดีมากๆ
แต่มีงานประจำอยู่ ไม่ค่อยมีเวลาว่างเลย

ใครเป็นเหมือนเราบ้าง รู้หลายอย่างแต่แค่ผิวเผิน
แล้วเพื่อนๆแก้ปัญหากันยังไงคะ

ใช้เวลาหลังเลิกงานหรือวันหยุดเรียนแบบออนไลน์ก็ได้นี่ครับ

งานประจำที่ทำอยู่เอาเวลาไปหมดเลยค่ะ แทบไม่มีวันหยุด
คือต้องขายให้ได้ยอดตามเป้าที่บริษัทกำหนด จะต้องใช้เวลาเท่าไหร่ก็ต้องทำ
มันเลยไม่เหลือเวลาอ่ะคะ
เศร้าค่ะ

งานอะไรครับเนี่ย ธนาคารเปล่า

ที่บอกว่า PHP JAVA CSS HTML นี้ทำได้ ได้ไหนระดับไหนครับ (ทำไมที่อื่นถึงไม่รับ)
สามารถพัฒนาออกมาเป็นโปรดักได้เลยไหม ส่วนตัวผมก็เป็นฟรีแลนเต็มตัวเลยนะครับ
ไม่ได้ทำงานที่บริษัทไหนเลยนอกจากเขาจะจ้างทำงานร่วมทีมกับพวกพี่ๆ เขาบางโปรดักเท่านั้น

เพิ่มเติม: จริงๆ เรียนเพิ่มออนไลน์ได้นะครับ เหลือเวลาไว้ศึกษาวันละ 1-2 ชั่วโมงก็ดีครับ

HTML กับ CSS สามารถทำออกมาเป็น web ที่ใช้งานได้จริง
ส่วน JAVA กับ PHP ทำได้แต่ต้องดู tutorial เป็นตัวอย่าง หรือเปิดหนังสือแล้วทำตามค่ะ

ตอนเขียน resume เขียนแค่ HTML & CSS ค่ะ
อาจจะน้อยไปสำหรับการจ้าง

ถ้าใช้เวลาแค่วันละ 1 - 2 ชั่วโมง เกรงว่าจะอีกหลายเดือนกว่าจะมีความสามารถพออ่ะค่ะ

คุณ romance69 เขียนอะไรบ้างคะ

ที่ผมถนัดเลยก็จะเป็น PHP CSS HTML JS ลองมาก็เป็น JAVA Python ถูๆ ไถๆ ไปได้ครับ
ส่วน freamwork ภาษาที่กล่าวมาก็อาศัยอ่าน Doc เอาอีกที

ผมก็ไม่ได้เก่งอะไรนะครับ อันไหนไม่เข้าใจจริงๆ ก็อาศัยโพสต์ถามในกลุ่มเอาครับ
 :wanwan012:

เท่าที่พอแนะนำได้นะครับ

- ไม่ลองใส่ผลงาน ลงไปใน resume ดูละครับ

- ส่วนมากบริษัทต่างๆเขาก็มี Website อยู่แล้ว ที่ต้องทำผมว่า ส่วนมากอาจจะเป็นการอัพเดทข้อมูลข่าวสาร บทความ

- แทนที่จะเขียนเฉยๆว่า HTML CSS >> เขียนไปเลยมีความรู้เรื่อง Website สามารถเขียนบทความได้ บลาๆๆๆ

- มองที่ผลลัพธ์เป็นหลัก วิธีการไม่ค่อยสำคัญ เดี่ยวนี้ พวก CMS มีเยอะแยะ Template Website ต่างๆที่เป็น html5 ก็มีให้โหลดฟรีเยอะแยะ รวมถึงโหลดจากที่เสียเงินมาแบบฟรี  พวก Tools Website builder ต่างๆก็มี คือแทนที่จะเขียนเองแบบเริ่มจากหน้าเปล่าๆ ก็เอาของเขาที่เขียนอยู่แล้วมาลองแก้ๆ แกะๆ ประยุกษ์ เป็นตามที่เราต้องการ ดูน่าจะดีกว่า+ประหยัดเวลา

- พวก Course ต่างๆ ถ้าถนัด ภาษาอังกฤษ ก็น่าจะช่วยได้มาก  เพราะ ต่างประเทศมีคูปอง เรียน Course ดีๆฟรีๆเยอะมาก เช่น Udemy(ประมาณว่าแจกคูปอง ก่อน โปรโมท Course  ให้ดูว่ามีคนมาลงเรียนเยอะๆ แล้วค่อยเปลี่ยนเป็น Course  คิดตังค์ทีหลัง)


พยายามเข้าครับ อีกหน่อยอาจจะทำได้หลายอย่างเก่งหลายอย่างก็ได้

พยายามเข้านะครับงานปัจจุบันทำอะไรอยู่ งานขายลองเอาความรู้เราไปพัฒนาต่อยอดการขายดู

แล้วนี่อายุเท่าไหร่หรอครับ

ไม่ได้มีเจตนาโอ้อวด แต่จะมาให้กำลังใจครับ

ผมคนนึงที่เคยมองว่าตัวเองเป็น เหมือน จขกท. เหมือนกันครับ คือ เป็นหมดทุกอย่าง HTML,PHP,JAVA,CSS,Java Script,C#,ASP.NET
หรือแม้กระทั้ง Photoshop, Sound Mix, VDO Editing

ดูเหมือนเยอะใช่ไหมครับ แต่เอาเข้าจริงๆ สิ่งที่ผมกล่าวมา คืออาจจะเป็นแค่ 20% ของมันทั้งหมด ไม่สามารถเป็น Pro ด้านใดด้านหนึ่งได้เลย
จนกระทั่ง ช่วง หนึ่งของการทำงาน ผมอาศัยการเรียนรู้เพิ่มเติมไปทีละนิดๆ เติมส่วนที่ขาดหาย หรือสิ่งที่ (ผู้ว่าจ้างส่วนมากต้องการ)

ขอยกตัวอย่างเล็กๆ อย่างผมเขียนใน Resume ว่า PHP แค่นี้อาจจะไม่พอ ผมลองไปดู Spec คร่าวๆว่า สาย PHP นั้น ส่วนมากจะต้องมีอะไรที่เขารับกันมากๆ
ในตอนนั้นผมเจอ Laravel, PHP Framework อื่นๆ ทำให้ผมรู้ตัวในทันทีว่า เห้ย ที่เราเคยรู้ว่า PHP มีแค่นี้ จริงๆแล้วไปได้ไกลกว่านี้ อีกทั้ง Java Script ที่ผมรู้จัก ช่วงหลังมี Java Script Framework, Angular JS
ทำให้ผมรู้ตัวได้ทันทีเลยว่า สิ่งที่เราเขียนๆ มา รู้เยอะๆเนี่ยจริงๆแล้ว เรายังไม่รู้อะไรอีกมากครับ

เลยอยากจะแนะนำ จขกท. ลองศึกษาพวก เทคโนโลยี ที่มาใหม่ แล้วลองเรียนรู้กับมัน เอาสิ่งนั้นไปใส่ ใน Resume ดูครับ รับรอง ได้ผล

สู้ๆครับ  :wanwan003: :wanwan003:

เรียนออนไลน์ น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดครับตอนนี้

แต่ต้องเริ่มทำเว็บของตัวเองซัก 1 เว็บก่อน เอาแบบมาสเตอร์พีสให้ได้ก่อน ถ้าทำได้ผมว่าน่าจะต่อยอดได้อีกไกลครับ

อย่าท้อนะครับทำไปเรื่อยๆ

สู้ๆ ครับ หัดลองทำ อย่างใดอย่างนึง สักระยะ อาจจะช่วยได้

เป็นเช่นกันค่ะ..สู้สู้ :(

ผมก็เป็นครับ งู ๆ ปลา ๆ หลายอย่าง เพียงแต่เราต้องเลือกสิ่งที่เราชอบมากที่สุดเอามาเป็นหลักในการสร้างอาชีพ แล้วค่อย ๆ เอาความรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ มาช่วย เช่น มีความรู้ในการสร้างเว็บ ถ่ายภาพเป็นนิดหน่อย ทำ fanpage เป็นบ้าง ก็ทำเว็บแจกภาพ โดยโปรโมทผ่าน fanpage ก็ได้ครับ หวังว่าคงจะเห็นภาพนะครับ

เป็นเช่นกันค่ะ ทุกวันนี้เริ่มเบื่องานที่ทำ เหมือนไม่ใช่งานถนัด ไอ้งานที่ถนัดก็ไม่เก่ง ไม่สามารถทำเป็นงานหลักได้


เราอยากลงเรียนเพิ่ม แต่คอร์สบางคอร์สก็ค่อนข้างแพง เลยเรียนออนไลน์ไปก่อนช่วงนี้ค่ะ

ไงมาสู้ไปด้วยกันนะคะ :wanwan013:

ลองหาเวลาเรียนเพิ่มดูไหมคะ เรียนออนไลน์วันละนิดวันละหน่อย สุดท้ายจะกลายเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ :)
สู้ๆ นะคะ

ถ้าวันนี้คุณท้อ..

งั้นมาเปลี่ยนคำเหล่านี้ใหม่ดีมั้ยคะ อย่าให้มันถูกเซ็ทเป็นโปรแกรมผิดๆ ที่เราติดตั้งฝังไว้ในสมองอีกต่อไปเลย

เพราะคำเหล่านี้ จะถูกเซ็ทเป็นโปรแกรมควบคุมจิต ส่งผลต่อทัศนคติทำให้ความคิดตกผลึกในแง่ลบ
จนทำให้ตัวเราหมดพลัง บั่นทอนโอกาสต่างๆ ที่ควรจะเกิด ไม่ให้เกิด

แทนที่คุณจะสามารถหาเวลาได้ แต่คำนี้ มันจะสั่งการบอกคุณว่า "คุณจะต้องไม่มีเวลาเลย"
แทนที่คุณจะเก่งกาจสักด้าน เอาดีให้ได้สักเรื่อง แต่คำนี้ มันก็จะตรึงคุณไว้กับคำว่า "ไม่มีเวลาเลย"

ถ้าเราเป็นแบบนี้ คิดแบบนี้ เราเองก็โคตรจะเหนื่อยหน่ายกับชีิวิตเลยค่ะ
วันๆ ไม่ต้องทำอะไร ตื่นเช้าไปทำงาน กลับมาอาบน้ำกินข้าวนอน หมดไปวันนึง ชีวิตจบ !
โปรแกรมชีวิตวนลูปแค่นี้ เราอาจจะท้อมากกว่าคุณ 2 เท่าเลยทีเดียว

ถามว่าเวลาดีๆ ที่ควรเซ็ทให้ตัวเองสัก 30 นาที หรือ 1-2 ชั่วโมง หายไปไหน?

เพราะถ้าเป็นเรา เราชอบอ่านหนังสือ อยากเป็นนักเขียน (ฝันมานาน)
เริ่มต้นจากมีเวลา 10 นาที จน 30 นาที จนกระทั่ง 1-2 ชั่วโมง (เราพอแล้วในการฝึกอ่าน ฝึกเขียน) แล้วเวียนไปทำอย่างอื่น
เริ่มจากค่อยๆ ก้าวทีละก้าว เดินช้า-ดีกว่าวิ่งล้ม ..ดีกว่าไม่ถึงค่ะ
สะสมไปแบบนี้ ค่อยๆ เป็นค่อยไปช้าๆ ฝึกปรือฝีมืออย่างละเมียดละไมใจเย็น
ผ่านคืน ผ่านวัน ผ่านเดือน ผ่านปี ผ่านมาไม่กี่ปี มารู้ตัวอีกที อ้าว.. เป็นนักเขียนเมื่อไรไม่รู้ตัว

เราแค่อยากให้คุณเริ่มมองชีิวิตเป็นเรื่องสนุก มีพลังที่จะค้นหาและเล่นกับมันอย่างท้าทาย
อย่ากลัว อย่าเพิ่งเหนื่อยหน่าย ทดท้อ เพราะมันจะทำให้คุณหมดพลังชีวิตเล่นเกมส์นี้ตั้งแต่ยังไม่เริ่ม

ดังนั้น เราลองมาเปลี่ยนความคิด เซ็ทโปรแกรมในสมองให้ตัวเราเองใหม่กันดูมั้ย?

เปลี่ยนจากคำว่า "ทำได้บ้าง" >> "เราต้องทำให้ได้"
เปลี่ยนจากคำว่า "ไม่เก่งสักอย่าง" >> "เราต้องเก่งให้ได้สักอย่าง!"

เอาดี เอาแน่ให้ได้ก่อน 1 อย่าง เริ่มจากค้นหาตัวเองให้เจอ ว่ารักอะไร อยากทำอะไร อยากเป็น อยากเก่งอะไร
รัก ชอบที่จะทำอันไหน อันนั้นแหละ ตัดสินแล้วว่า "เราเหมาะหรือควรเลือกทำสิ่งนั้น"
เพราะการทำสิ่งที่รัก จะทำให้เราทำมันได้ดี
เพราะการทำสิ่งที่รัก มันจะทำให้คุณมีใจฮึดสู้ ฝ่าฟันอุปสรรคไปได้

มันจะทำให้คุณเปลี่ยนจากคำว่า "ติดงานประจำ, ไม่ค่อยมีเวลา" มาเป็น
ติดงานประจำ > แล้วไง? ฉันจะหาเวลาว่างที่เหลือจากงานประจำมาทำให้ได้ !!
ไม่ค่อยมีเวลา > ไม่ได้หมายความว่า "ไม่มีเวลาเลย"
เพราะคำว่า "ไม่ค่อยมีเวลา" ยังแปลว่า "เวลายังมี"

เจาะเวลาตรงนั้น จัดสรรปันส่วนมาให้ตัวเองสักหน่อย
้ถ้าทนทำอย่างอื่นแบบฝืนๆ มาได้ตั้งเป็นปี
ทำไมเราจะจัดสรรปันส่วนมันสัก 1-2 ชม.เพื่อชีวิตที่ดีขึ้น จะไม่ได้เลยเชียวหรือ

กว่าจะมีเงินล้าน ก็ต้องเริ่มต้นจากเงิน 1 บาท
กว่าจะเรียนจบปริญญา ก็ต้องเริ่มจากอนุบาล
กว่าจะเป็นนักปราชญ์ ผู้เชี่ยวชาญ
ก็ต้องเริ่มจากหัดฝึก หัดอ่าน จาก 5 นาที 10 นาที วันละ 30 นาที ครึ่งชม. เป็น 1-2 ชม.
ซึ่งจะกลายเป็นการสะสม ต่อยอดวิชาความรู้ไปทีละนิดเรื่อยๆ ผ่านเดือน เป็นปี เป็น 2-3 ปีเรื่อยๆ จนเชี่ยวชาญ

ถึงเวลานั้น ที่ไหนก็อยากจะได้ตัว
ถึงเวลานั้น คุณจะเหนือกว่าการนั่งทำงานภายใต้คำสั่งเจ้านาย
เผลอๆ คุณอาจจะเป็นฝ่ายนั่งกุมบังเหียน คอยกำกับชีวิตการทำงานของตัวคุณเองด้วยซ้ำ

กว่าจะมาเป็นต้นไม้ใหญ่ ยังต้องเริ่มต้นจากการเป็นเมล็ดจิ๋ว
มองปัญหาให้เป็นเรื่องขี้ประติ๋ว พลิกวิกฤตให้เจอโอกาส อย่าให้พลาด..
เพราะคำว่า "ไม่มีเวลา" อีกต่อไปเลยนะคะ สู้ๆ น้า

มัวแต่เขียนเพลินเลยยาวไปหน่อย :P

ลองสมัครงาน IT ของส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจดูไหมครับ บางที่ต้องการความรู้กว้างแต่อาจไม่ต้องลึก ตอนนี้ก็พยายามลงมือทำเยอะๆครับ

หาสิ่งที่ ถนัดที่ สู้แล้วทำสิ่งนั้นเยอะๆ

ไม่ถนัดเหมือนกันครับ ต้องตามเก็บความรู้เพิ่ม :P

ขอบคุณนะครับ ขอเก็บกระทู้เข้าคลังไว้เป็นแนวทางในการทำงานครับ  :wanwan017:

การลงมือทำจริง สำคัญสุดครับ ไม่ต้องไปเรียนแล้ว