ThaiSEOBoard.com

พอดีที่บ้านว่างๆ ว่าจะเปิดร้นขายของแบบ มินิมาร์ท ไม่ทราบท่านใดพอจะมีคำแนะนำบ้างไหมครับ
ไม่ค่อยรู้เรื่องค้าขายเท่าไหร่ จะเริ่มต้นตรงไหน ยังไงดี  ขอบคุณล่วงหน้าครับ

ช่วยดันกระทู้ครับ

พอดีบ้านผมไม่ใช่มินิมาทอะครับ

เป็นร้านขายต้นไม้กระถางต้นไม้

ช่วยดันด้วยคับ

พอดีผมไม่ได้ขายมินิมาร์ท

แต่ผมซื้อของในมินิมาร์ททุกวัน

เปิดขาย ของชำ ขายกาแก ตอนเช้าให้ อาแป๊ะมานั่งคุยกัน  :D ธรรมดา ก็ ได้แล้ว ครับ ต้นทุน ไม่เยอะด้วย

ยากกว่าอีก   :'(

 ;D ผมว่าเอาที่คุณมีมาบอกก่อนดีกว่าครับว่าจะทำอาไร.  ??? ..จะทำ Ecom หรือจะขายของแถวบ้าน..  :-[
ที่บอกมามันกว้างเกินไปครับ..ไม่มีใครตอบถูกประเด็นหรอกครับ..
 ;) จะทำ Ecom มีคนตอบแยะแน่นอนครับ ในบอรท์นี้
 :D ขายของแถวบ้าน.. ก็ไปถามคนแถวบ้านครับ...  ::)

ปล.ขออภัยถ้าตอบแรงไป.. :-*

ถ้าไม่ห่วงทุนจมก้อทำอ่ะครับ เพราะไงมันก้อได้กำไร แต่เงินมันจะไปหมุนเป็นของซะส่วนใหญอ่ะ

ร้านมินิมาร์ท หรือที่เขาเรียกว่าร้านโชห่วย ไหมครับ

ผมว่าตอนนี้จะลำบากนะครับ เพราะว่า 7 วิ่งเข้าไปทุกตรอกซอกซอยเลย

ผมว่าทำร้านขายอาหารน่าจะดี

รอโดนฟันกลับครับ..ช่วงนี้บอรท์เงียบจังเลย.....  :P :P

เมื่อก่อนเคยขายโปรแกรม พวก stock ครับ 

-หลักๆ ก็ คอมตัวนึง  เอาที่มีอยู่มาลงโปรแกรมใหม่ ก็ได้
-ลิ้นชักเก็บเงิน    น่าจะสัก สามพันมั้ง  ไม่แน่ใจ
-barcode laser  ตอนนี้ถูกๆ น่าจะไม่เกิน 4-5 พัน
-โปรแกรม  stock  ครั้งที่แล้วผมโพสไปทีนึง โปรแรกมสต็อก พี่ไทย ใช้ได้ฟรี ๆ
-print slip หรือ  epson lq 300 ที่มีอยู่ 
-พนักงาน อาจจะเป็นเราก็ได้   

รวมงบทั้งหมด  ไม่รวมคอม   ลิ้นชัก + barcode  โปรแกรมเดียวจัดให้ฟรี   ก็ไม่น่าเกิน หมื่นนึง ( epson จำราคาไม่ได้)  :P

ปล ร้าน minimart  ไม่ค่อยมี brand คนไม่ค่อยเข้านะครับ  แต่หากแถวๆ นั้นไม่ค่อยมีคู่แข่งก็น่าจะเปิดได้อยู่   :P

อ่า... ไม่เป็นไรครับไม่แรงหรอก 
เพียงแค่อยากถามท่านที่เคยค้าขายแนวๆนี้มาก่อน ไม่ใช่ Ecom หรอกครับ
ผมบอกแล้วว่า ใช้พื้นที่บ้านของตนเองทำ  แต่อยากรู้คือ ลู่ทาง  แนวทางในธุรกิจนี้ ยังพอไปได้ไหม
ถ้าจะทำร้านขายของแบบ มินิมาร์ท ที่ลงทุนทำเองตกแต่งเอง จะพอมีวิธีการบริหารจัดการอย่างไรบ้าง
ประเด็นคือ ผม มองว่า บอร์ดนี้ มีสมาชิกมาจากหลายสาขาอาชีพ บางคนเป็นเจ้าของกิจการ
บางคนผ่านงานมาหลายรูปแบบ จึงอยากขอแชร์ ความรู้บ้างก็เท่านั้น ครับผม

ขออภัย ที่ทำให้บางท่าน ต้องลำบากเข้ามาตอบกระทู้นะครับ
ยังไงก้อขอขอบคุณทุกคำตอบครับผม :-*

กะทู้ค้ายๆ กันคับ อ่านเอาหนุกนะคับ

*http://talk.mthai.com/topic/25027

ผมมีประสบการณ์ครับ เคยไปเซ้งร้านค้ามา ตอนนั้น เซ้ง 70,000 เพราะคนเก่าเค้าไม่มีเวลาทำแ้ล้ว

สิ่งที่ควรจะดูก่อนทำกิจการ
1. มีคนไหม
2. คู่แข่งเยอะไหม
3. ร้านค้าใหญ่หรือเล็ก
4. กลุ่มลูกค้าประเภทไหน
5. เงินทุนที่เรามี

ตอนผมนี่ผมไปดูแล้วก็เดินแถว ๆ นั้นดูครับว่า มีคนไหม โชคดีที่ว่าเป้น Area ปิด หมายถึงเป็นที่อยู่ของฝรั่งเยอะมาก เป็นพวก ห้องพักแพงๆ แล้วก็เป็นทางผ่านออกได้หลายทาง มีคนงานเดินผ่าน

ด้านนอกมีโชว์ห่วย แ่่่ต่เค้าเล็กกว่าเยอะ มีของไม่เท่าเราแน่นอน เดินไป 700 เมตร เจอ 7-11 (คิดในใจ ใครจะเดิน ไกลนะเนี่ย ของถูกกว่าักัน 1-2 บาท)

ผมเลยตัดสินใจมัดจำเลยครับ (ไม่เคยทำการค้ามาก่อนเลย  :P) แฟนก็บอกว่า คิดง่าย ๆ ทำเลตรงนี้ ถ้าเราไม่อยากทำ เราก็เซ้งต่อ 130000 ยังไงก็มีคนเอา (คิดแบบเลวร้ายเลย)

หลังจากนั้น ก็หา computer + software มา control สินค้าครับ ผมใช้ Senior Soft อ่ะ ตอนนั้น ซื้อ license 9000 บาท

แ้ล้วก็ซื้อของเข้าร้าน โดยทำบัตร Credit Makro (เพื่อดึงเวลาการชำระเงิน) จากนั้น ก็หาของเข้าร้าน เปิดขาย

ระยะแรก ลูกค้าก็ยังไม่ค่อยเข้า เพราะแปลกหน้าคนขาย ถ้าลูกค้ามาก็ต้องยิ้มแย้ม และชวนคุยครับ 555

จากนั้น ค่อย ๆ ดูว่าเค้าต้องการอะไร เช่น สินค้าที่เรามาลงเนี่ย เค้าชอบหรือไม่ชอบ ปกติเค้าก็จะถามหา เช่น ผงซักฟอกยี่ห้อนี้มีไหม ขนาด 10 บาท ทำนองนี้ เราก็จะค่อยๆ เรียนรู้ พฤติกรรม เค้าไปเรื่อยๆ  ก็หาสินค้ามาสนองความต้องการ

ยอดขายผมก็โตขึ้นเรื่อยๆ ครับ จนเฉลี่ยต่อวัน 8000 บาทครับ กำไรวันละ 1300 บาท ก็นับว่าโอเคนะ

แต่ผมขายต่อไปแล้วเพราะทำไม่ไหว แม่ป่วยพอดี

การลงทุนมีความเสี่ยงครับ ยังไงศึกษาให้ละเีอียดก่อนจะทำ ไม่มีใครทำสำเร็จตลอดครับ

^
ผมเคยเป็น support senior  บริษัทนึงในเชียงใหม่ ครับ  อันไหนโปรแกรมทำไม่ได้ ก็ apply เอาไปจนทำได้  แต่ตอนนี้เลิกแล้วครับ เบื่อกับการมาตอบปัญหา จิปาถะ   :P

จากประสบการณ์การทำงาน 7-11

*การเงิน
อย่างแรกคงต้องวางแผนการลงทุน การเงินก่อนครับ

ว่าจะต้องใช้เงินเท่าไหร่ทั้งสั้น ยาว หมุนเวียน

คาดว่าจะมีผลตอบแทนสักเท่าไหร่ เมื่อไหร่จะคืนทุน   ธุรกิจจะเดินไปได้ก็ตรงนี้เลยสภาพคล่อง



*เรื่องบริหารจัดการ

มินิมาทคงมีแต่การเลือกสินค้า สั่งสินค้านี่หล่ะสำคัญ  กำไรจะมาจากตรงนี้เลย

แม้ว่ากำไรต่อหน่วยจะไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าต้องสรรหา แสหวงหาสินค้าขายดี  หลายๆอย่างมันก็เยอะ

ต้องบันทีกไว้ว่าอะไรขายได้สักเท่าไหร่  จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการสั่งซื้อแต่ละครั้งได้ และสินค้าจะไม่ขาดไม่ทำให้เสียโอกาศไป

เหล้าเบียกำไรดีมาก  แต่ของขายดีในบางพื้นที่ก็ขายไม่ได้คับ ของขายได้น้อยแต่ก็ควรมีไว้บริการบ้าง

ลูกค้าจะไม่ผิดหวัง  ให้เค้านึกอยากได้อยากกินอะไรก็มาที่ร้านเรา

เฟ้นหาของแปลกใหม่ๆขายเสมอ



*location

เค้าวิจัยกันว่า ลูกค้าจะเลือกเข้าร้านได ใช้เวลาตัดสินใจเพียง 2 3 วินาที

หน้าร้านจึงสำคัญ โปร่ง สว่าง  มองเห้นสินค้า  ความสะอาด

จำนวนคู่แข่งไม่มากหรือไม่มี  สี่แยก ปากซอย หอพัก โรงาน

- ทำร้านให้เป้นที่พักผ่อนหย่อนไจ ถ้ามีพื้นที่มากพอ

เพราะคนในระแวกมักจะยึดเป้นที่ดื่ทที่กิน พบปะพูดคุยกัน

*เพิ่มกำไรโดยการ หาทางลดค่าใช้จ่าย
สั่งซื้อครั้งละมากๆ  ของบางอย่างควรพิจราณาจำนวนเนื่องจากถ้าขายไม่ได้จะทำไห้เงินจม


-ความปลอดภัย
ร้านมินิมาทโดนได้ทุกที่เลยไม่เว้น  ถ้ามีก้องไว้ก็ดี
ที่7-11 มักจะฝากแบงทุกวัน และไม่เก็บเงินไว้ที่เครื่องคิดเงินเกิน 2000 บาท
เงินที่เกินกว่านั้นจะเก้บไว้ในตู้พิเศษ ที่สามารถกดเงินออกมาได้แต่ตู้จะหน่วงเวลาไว้
หากมีการจีเอาเงิน ก็ไม่สามารถเอาไปได้หมด

*การบริการก็เป็นเรื่องสำคัญลำดับต้นๆคับ  อย่างขายของแบบยื่นหมูยื่นแมว
ให้คิดว่าเป้นการบริการ จัดหา จัดให้ ลูกค้าพอใจ ก็มาที่ร้านบ่อยๆ
กริยามารยาท ที่ 7 ห้าไม่ให้ สังเกตุ รบกวนลูกค้าด้วยสายตา ห้ามชี้นิ้วให้แบบมือออก
ปล่อยให้ลูกค้าเลือกสินค้าได้อย่างอิศระ ถ้าเค้าไม่ต้องการให้ช่วยก็อย่าไปยุ่ง
ไม่ไห้มองลูกค้าตั้งแต่หัวจรดเท้า รู้จักกาละเทศะ


***เห็นว่าเป้นประโยชน์ จะขอเพิ่มเติมไว้น่ะคับ

- การจัดวางสินค้า

   การจัดวางสินค้าก็มีผลกับยอดขายคับ  สินค้าที่วางในระดับสายตาจะขายได้ดีกว่า
อะไรขายไม่ได้ ของที่เร่งขายหรือ สินค้าใหม่แนะนำให้เอาไปวางที่เค้าเตอร์ สิ้นค้าไกล้หมดอายุ  sale ลงมาอีก30%
อย่าให้ต่ำเกินลูกค้าจะแครงใจ  หรือมีเช้ลสำหรับวางของลดราคา กู้เงินที่จมไปกับของบางตัวที่ขายไม่ได้

   วางสินค้าให้ชัดเจนหันหน้าฉลากออก เพราะลูกค้าจะมองแค่ปราดเดียวเท่านั้น
FIFO เข้าก่อนออกก่อน วางเรียงสินค้าเป้นแถวโดยป้อนเข้าด้านหลัง เพื่อให้ของที่มาก่อนขายออกก่อน
แก้ปัญหา ของหมดอายุ

   พื้นที่ขายควรเป็นพื้นที่ของลูกค้า ทำกิจกรรมใดๆให้ไปที่หลังร้าน พนักงานไม่ควรคุยกันเสียงดัง
มองลูกค้าเป้นช่วงๆก็พอ

   แบนเนอร์โฆษณา แปะไว้ให้รู้ว่าร้านเรามีอะไรบ้าง และเป็นการช่วยส่งเสริมการขายร่วมกับ supplier


  * pluse sale เพิ่มยอดขาย

   พูดขายหน้าเค้าเต้อช่วยเพิ่มยอดและสร้างสำพันอีกทาง เป็นดาบสุดท้าย
แนะนำสินค้าใหม่ หรือสินค้าที่ขายไม่ได้

    เราอาจสังเกตุได้ว่าลูกค้าหาสิ่งที่เค้าต้องการไม่เจอ
แนะนำสินค้าที่ประกอบกันเช่น ซื้อน้ำอัดลมก็ pluse sale น้ำแข็ง ขนมขบเคี้ยว
ซื้อบุหรี่ ก็ควรคิดว่าลูกค้าคนนี้จะมีความต้องการอย่างอื่นอีกอะไรบ้าง
หมากฝรั่ง ลูกอม ไฟแช็ค

ลูกค้าคนนี้ดูง่วงหงาวหาวนอน ขับรถมาไกล คุณควรจะแนะนำอะไร


สำคัญที่สุดตรงนี้คือจับอารมณ์ลูกค้าให้ได้ ถ้าดูว่าเร่งรีบก็อย่าดีกว่า
ดูลูกค้ามองไปมองมาทั่วร้านอันนี้ คุยไม่ยากเลย

ลูกค้าเจ้าประจำ มาซื้อของอย่างเดิมประจำ  ลองแนะนำยี่ห้อใหม่สิคับ
ลูกค้าซื้อของน้อย อย่างสองอย่างอย่าพลาดโอกาส บางครั้งเพราะว่าเลือกไม่ถูก
 ซื้อแบบนี้อีกชิ้นไม๊ค่ะ 2 ชิ้นแถม 1 ชิ้น


*แต่จะ pluse sale อย่างไรขอให้ลูกค้ารู้สึกว่าเค้าได้ประโยชน์ ไม่งั้นเค้าจะปิดประตูใส่หน้าเราทันที

-ในต่างจังหวัดสามารถมีรายได้อีกทาง จากการสั่งซื้อผ่าน Catalog

*สุดท้ายอย่าลืมสร้างสำพันอันดีกับคนในระแวกร้าน เพราะเค้าจะซุบซิบ พูดต่อๆกันถึงร้านเราแน่
แต่ก็ขอเป็นเรื่องดีๆน่ะครับ

 :-* แหล่มครับ เจ้าของกระทู้ต้อง + ให้แล้ว  :)

 :) โอ้ได้ความรู้เยอะเลย..

ทำเลไม่ดีพอ อย่าเปิดครับ

คุณ AntacticA ข้อมูลแม่นมากเลย
มาขอเก็บความรู้ด้วยคนค่ะ  :)

ยินดีมักๆคับ

จิงๆมีรายละเอียดเยอะกว่านี้ แต่ว่าถ้าได้ทำจิงๆเดี่ยวก้รู้เอง

AntacticA  ขอบคุณครับ  +1

อยากมาแชร์บ้างนะคะ  ที่บ้านก็เปิดร้านเล็กๆไว้เป็นรายได้เสริมเหมือนกัน คิดอยู่นานว่าอยากทำอะไรดี พอดีบ้านอยู่ในหมู่บ้านใหญ่พันกว่าครัวเรือน อยู่ใกล้ทางเข้านิคมอมตะนคร ตรงข้ามบ้านเป็นร้านขายของเล็กๆของอาม่าอากง ถัดมาอีกนิดเป็นโรงเรียนสอนพิเศษตอนเย็น

ด้วยความไม่รู้ทิศทาง เลยจัดการเปิดร้าน มีทั้งรับถ่ายเอกสาร ปรินท์งาน เติมหมึก เติมเงินออนไลน์ ขายอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือ ซ่อมคอมพิวเตอร์ และอินเตอร์เน็ตฯลฯ

การที่เปิดร้านที่มีเกือบครบ มีข้อดีที่จะมีลูกค้าเรื่อยๆ ไม่อันใดก็อันนึง กิจการที่ทำกำไรได้มากที่สุดคือเติมหมึก ขายอุปกรณ์มือถือ ซ่อมคอม อินเตอร์เน็ต แต่ลูกค้าจะไม่มากเท่าถ่ายเอกสาร ปรินท์งาน และเติมเงินออนไลน์ ซึ่งได้เงินทีละน้อยๆ

เลยอยากมาสรุปคร่าวๆว่า
- ทำเลในการเปิดร้านสำคัญมาก แต่ไม่ใช่ที่สุด ถ้าทำเลไม่ค่อยดี แต่การโปรโมทเยี่ยมก็พอไปได้
- การบริหารจัดการต้องเนี้ยบ ไม่งั้นปัญหาเข้ามาให้แก้ทุกวันแน่ๆ เหนื่อยสุดๆ
- ทีมงานก็สำคัญ เราต้องไม่แบกทุกอย่างไว้คนเดียว ควรหาคนดูแลงานเฉพาะไป ไม่งั้นถ้ามีปัญหามาจะลำบาก โยนความผิดกันวุ่นวาย แก้ไม่จบไม่สิ้น
- ก่อนลงมือทำอะไรต้องศึกษาให้ดี และเมื่อลงมือทำแล้วต้องอดทน อาจต้องมีล้มลุกคลุกคลานบ้าง ถ้าฝ่าไปได้ อนาคตที่สวยงามก็รอเราอยู่
- อย่าเอาเงินทั้งหมดลงไปทีเดียวแล้วหวังว่ากำไรจะวิ่งมา ควรเผื่อไว้ยามฉุกเฉินด้วย มีเงินหมุนเวียน เราอาจขาดทุนได้เป็นบางครั้ง ต้องทำใจนะคะ
- และยังมีอีกมากมายที่เราจะเจอ อย่าท้อ อย่าคาดหวังมากไป ค่อยๆทำไป สักวันมันจะดีเอง

ที่เล่ามาเป็นประสบการณ์เล็กๆน้อยๆนะคะ อาจไม่เกี่ยวกับมินิมาร์ท แต่ก็อาจเป็นแนวทางให้สำหรับคนที่อยากทำธุรกิจด้านอื่นๆดูค่ะ

ขอบคุณที่อ่านมาจนจบนะคะ :-[

 

ขอบคุณครับ  :-*

ผมเพิ่มเติมไว้อีกนิดน่ะครับ

เห้นว่าเป้นที่สนใจ

ผมเคยเปิดมาบ้างแล้วครับ แต่มีปัญหาพอควร

ผมเลยเขียนบทความไว้ตามนี้เผื่อเป็นกำลังใจที่ดีๆ ให้ได้ครับ
อยากเปิดร้านขายของลองอ่านดูนะครับ (http://samredhost.com/%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87)