ThaiSEOBoard.com

ตามหัวข้อเลยครับ เมื่อก่อนรายได้ดี  :-X

เปิดไกล้ๆมหาวิทยาลัยผมว่าอยู่ได้นะ แต่เสี่ยงกับค่าเสื่อม  :P :P

แล้วแต่บริเวณ สถานที่ที่เปิดเป็นอย่างไร ถ้าเป็นชุมชน โรงเรียนและมหาวิทยาลัยก็จะไม่เจ๊งน่ะครับ ในแง่ความคิดของผมน่ะครับ

คือทุนใน7ปีคุ้มปะครับ?

ลงทุน 3 แสน รายได้หักนู้นหักนี่ เหลิอกำไรเดือนละ 6-7พันบาท คุ้มปะครับ? :'(

ผมว่าที่รอดอยู่นี่เป็นส่วนน้อยนะครับ

 :-[ร้านผมสองสาขาแิดตัวลงอย่สงถสวรก็ปีนี้แหละครับ หาอย่างอื่นทำดีกว่าครับ

ร้านที่ผมไปเล่นประจำ ก็ยังโอเคนะครับ ชั้นละ 50 เครื่อง 2 ชั่น ไปเมื่อไหร่ก็เต็ม

มันดีตรงที่ว่า เก้าอี้ เมาส์ คีบอร์ด หูฟัง ทุกอย่างโอเค น่าใช้หมดครับ ผมว่าเป็นส่วนสำคัญอีกอย่างสำหรับร้านเกมเลยก็ได้

แค่บ้างร้าน หูฟังเน่าๆ ผมก็ไม่อยากเล่นละ

ยุคนี้ผมว่าไม่คุ้มแล้วครับ ลงทุนสูง เครื่องอยู่ได้ 3-5 ปีก็ต้องอัพใหม่

แต่ถ้าคิดว่าเปิดแล้วมีคนเล่นตลอดก็น่าลงทุนครับ

ปล.เดี๋ยวนี้ส่วนมากมีคอมมีเน็ตกันแทบทุกบ้านเลยครับ

ถ้าทำเลดีก็รุ่งครับ :wanwan003:

ผมก็เคยเปิดเมื่อปี 2548เหนื่อยมาก  ไม่ได้นอนเลย  จะตายเอา   หาอย่างอื่นทำดีกว่าครับ  หมดสมัยแล้วครับ    ถ้าดีเดี๋ยวก็มีคู่แข่งมาตั้งแข่งข้างๆเครื่องใหม่ แถมราคาต่ำกว่า      แถมยังมีเรื่องเกี่ยวกับเงินๆทองๆ    ถ้าเก็บเงินเองหล่ะก็   เจ้าของร้านแทบจะไม่ได้นอนเลยหล่ะ  จะตายเอา หรือกลายเป็นผีตาดำ... น็อค  ถ้าจ้างเด็กเฝ้าร้านก็โดนจิ๊กเงินอีก

ประเด็นอยู่ที่ทำเลครับ   ทุกวันนี้หลายๆมหาลัยตาม ตจว ก็ยังผุดขึ้นมาเรื่อยๆ

เน็ตหอกาก สุดท้ายเด็กๆก็ต้องมาเล่นร้านอยู่ดี

ทำเลครับ อันดับหนึ่งเลย
ทำเล ทำเล แล้วก็ทำเล
อย่างอื่นก็มีค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ครับ
 :laugh:

ธุรกิจแบบนี้คู่แข่งเยอะครับ
ในจะเจอ เรียกเก็บอีก

โดยส่วนตัวนะครับ ผมว่าถ้ามีเงินถึงขั้นจะเปิดร้านเน็ตได้ ลองมองธุรกิจอื่นๆดูดีกว่าครับ จำพวกซื้อมาขายไปทุนต่ำซื้อจำนวนมากๆ กำไลเยอะๆ หรือของที่เป็นเป้าหมายของพวกสาวๆครับ ผมว่า น่าจะโอเคกว่า ลองดูครับ สู้ๆ  :wanwan003:

ยุคนี้ยากแล้วครับ ใครๆก็มีคอม มีเน็ตแรงๆใช้เอง แถมยังเป็นช่วงขาลงของเกมส์ออนไลน์บนPCอีก ยุคนี้อะไรๆก็ mobile game ครับ ร้านเกมส์ที่เปิดกันทุกวันนี้ ส่วนใหญ่ก็กำไรไม่มากไม่มายอะไร พออยู่ได้

ไปทำซื้อมาขายไปเถอะครับ เอาทุนไปจ้างสาวสวยๆเอ็กซ์ๆตามfacebook ให้เขา live รีวิวสินค้าให้ดีกว่า แจ่มกว่าเยอะ ขายของได้ แถมได้ดูนมอีกด้วย คุ้มกว่าเยอะครับ  :wanwan020:

เสียวโดนไถ

ผ่านๆ หน้ามหาวิทยาลัย บางร้านก็เลิกลาไป เพราะทนกับค่าเช่า ค่าซ่อมคอมฯ ไม่ไหว ต้นทุนสูง คืนกำไรช้า
ลองมองหาธุรกิจอื่นดีกว่านะคะ ถ้ามีทำเลหน้ามหาวิทยาลัย ก็ทำวิทยานิพนธ์ เข้าเล่ม ถ่ายเอกสาร ให้เช่าคอมพิวเตอร์ทำงาน ไม่ให้เด็กมาเล่นเกมส์ เพราะได้ไม่คุ้มเสีย ลองเดินไปมองๆ แถวมหาวิทยาลัย ถ.พหลฯ  มีอยู่ร้านนึง ไม่รู้ป่านนี้ยังอยู่ป่ะ รวยไม่รู้เรื่องเลย ทำทุกอย่างเกี่ยวกับให้บริการนักศึกษาครบวงจร  ส่วนหน้ารามก็มีแหล่งที่สร้างรายได้เหมือนกัน มีหลากหลายรูปแบบ ถ้ามีฝีมือ มีความรู้อาจจะเปิดติวเตอร์ไปเลย สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ ติวเตอร์บางคนแถวหน้าราม ได้เดือนละ 200K up แต่ต้องอดทนกับนักศึกษาหน่อย บางคนถามจนไม่ได้ทานข้าวก็มี นักศึกษาบางคนทำงานส่งอาจารย์ไม่ทันมาให้ช่วยหาข้อมูลหรือไม่ก็ทำวิทยานิพนธ์ให้ทั้งเล่มก็มีค่ะ แต่บอกในนี้ไม่ได้ว่าที่ไหน เจอข้อหาไขข่าวอีก

ลองปรับเป็น Co working Space ดูครับ น่าจะรุ่งกว่า มันชิลลและตรงกับไลฟ์สไตล์ของคนยุคนี้ดีครับ ผมเองยังชอบไปนั่งทำงานอยู่บ่อยๆเลยครับ

เกมออกมาใหม่จะกินสเปคขึ้นเรื่อยๆ อายุเครื่องถถ้าลงทุนน้อยอายุก็ยิ่งสั้น กว่าจะคืนทุนก็ต้องอัพเครื่องใหม่อีก ถ้าจะทำก็ต้องมีอย่างอื่นทำควบคู่ไปด้วยครับ

เก็บเงินลงทุนไว้ทำเว็บดีๆสักเว็บดีกว่าครับ

เดี๋ยวนี้เด็กชอบเล่นกับมือถือ (ดูจากเด็กแถวบ้านผม)   :wanwan013:

ไม่น่ารอดนะร้านเกม  :wanwan005:

ร้านเกมส์ ร้านอินเตอร์เน็ต เพียวๆไปไม่รอดแล้วครับ ตอนนี้ความต้องการผุ้บริโภคเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ธุรกิจหลายๆอย่างต้องปิดตัวไปด้วย
แต่ มันก็ไม่ได้หมายความว่า ธุรกิจนี้จะหมดอนาคต นะครับ เพียงแค่อาจต้องไปรวมกับธุรกิจอื่น เพื่อต่อยอด สร้างความแตกต่าง กลายเป็นธุรกิจใหม่

ยกตัวอย่าง

1.ทำ co-working space + ร้านเกมส์ร้านอินเตอร์เน็ต + ขายกาแฟ เป็น จับทำเลใกล้มหาวิทยาลัย ขายกลุ่มนักศึกษา 
ถึงแม้พฤติกรรมคนเล่นเกมส์และ อินเตอร์เน็ตจะเปลี่ยน แต่กลุ่มนักศึกษาจะยังคงต้องการพื้นที่สำหรับ ติว,อ่านหนังสือ,ทำรายงาน,รวมกลุ่มซ้อมพรีเซ้น
ซึ่งถ้าคุณสามารถให้พื้นที่ที่เงียบสงบเหมาะสมในราคาที่เค้าจ่ายได้  จะมีนักศึกษามากมายเข้ามาใช้พื้นที่

2.หลังจากที่คนเข้ามาใช้ พื้นที่สิ่งที่ต้องการต่อมาคือ internet,การผ่อนคลาย เล่นเกมส์ หากลยุทธที่เหมาะสมในการขายบริการต่อแต่อย่างขาย
แบบ hard sales หรือขายตรงๆนะครับ อาจขาย internet เป็น service เช่น ถ้าเล่นเน็ตผ่าน อุปกรณ์ของลูกค้าเอง account ละ 20 บาท ต่อชั่วโมง หรือ ถ้าเล่นที่เครื่อง pc 25 บาทต่อชั่วโมง แต่สามารถ ตี DOTA พร้อมกับเพื่อนๆได้ เป็นต้น

3.กาแฟ คือ สินค้าที่จะเพิ่มมูลค่าได้ จัดให้ร้านกาแฟ อยู่นอกสุดเพื่อให้บริการได้ทั้งคนที่มาใช้บริการ co-working space และ คนภายนอกที่ต้องการแค่ดื่มกาแฟ

ทั้งหมดจะกลายเป็นร้าน game+internet ยุคใหม่ ที่น่าจะพอเป็นไปได้ครับ ผมยกตัวอย่างให้ดูเฉยๆนะครับ อาจลองหาทางฟิวชั่น กับตลาดอื่นๆ เพื่อให้เกิดธุรกิจใหม่ที่เป็น blue ocean ดูครับ

Devnow

เมื่อก่อนร้านอินเตอร์เน็ตและเกมจะมีลูกค้ามาใช้บริการทั้งเน็ตและเกม
แต่ปัจจุบันเนตส่วนตัว(มือถือหรือโน๊ตบุ๊คที่บ้านตัวเอง)ของลูกค้าเร็วกว่าเดิมมาก เขาไม่ต้องมาใช้เนตร้านแระ
แต่เกม ลุูกค้ายังต้องการจับกลุ่มเล่นเกมกับเพื่อนอยู่ ต้องชวนกันไปเล่นเกมที่ร้าน(ซึ่งอุปกรณ์ดี เนตเร็ว) ผมวิเคราะห์ได้ตามนี้น่ะคับ

ถ้าเงินที่นำมาลงทุนเป็นเงินเย็น ไม่ได้กู้ยื่มใครมาก็กินรอยาวๆๆ ได้อยู่ครับ

ถ้าทำเลดี เช่น หน้าโรงเรียน หน้ามหาลัย ผมว่าอยู่ยาวๆครับ เล่นเกมส์กับเพื่อนข้างๆมันส์กว่าเล่นคนเดียวครับ ขับผ่านมหาลัยทุกวันเห็นคนก็ท่วมทุกวัน  :wanwan019:

ทำเล เป็นปัจจัยหลักครับ

อาจจะต้องใช้ระยะเวลาคืนทุน ช้าหน่อย

ตลาดวายแล้วคับ หาอย่างอื่นที่ใช้ฝีมือคนทำได้น้อยดีกว่าครับ อันนี้มีตังเปิดได้ ค่าโสหุ้ยมันเยอะครับไม่คุ้มเสียครับ

ทำแล้วเสี่ยง คืนทุนนานครับ หรืออาจจะ เจ๊งก่อน   :P

เลือกทำเล ดี ๆ ครับ ใกล้โรงเรียน แหล่งชุมชน น่าจะไม่เจ๊ง

กำลังคิดอยู่เหมือนกันครับ อยากจะทำร้านเล็กๆ คอมสัก 10-20 เครื่อง เพราะแถวบ้านไม่มีร้านเกมส์ มีแต่ร้านเน็ตธรรมดา ถ่ายเอกสาร

ไม่รู้ต้องใช้งบเท่าไหร่ หุหุ

แบบที่ข้างบนบอกแหละครับ ต้องดูทำเลที่ตั้ง เป็นแหล่งชุมชนไมไรงี้  :wanwan021:

ยากครับ

ผมว่าหาทำเล แล้วทำร้านถ่ายเอกสารครับ คุ้ม

ณ ขณะนี้ยังพอไปได้ถ้าทำเลดีจริงๆ แต่ไม่ถึงขั้นรวยนะครับ เพราะทำเลดี คู่แข่งก็เยอะตาม ตัดราคากันกระจาย ชั่วโมงนึงได้ไม่ถึง 10 บาทต่อเครื่อง บางที่แข่งหนัก คิด 5-7 บาทต่อชั่วโมง จะหวัง 15-20 บาทต่อชั่วโมงแบบเมื่อก่อนไม่ได้แล้ว

อนาคต อินเตอร์เน็ตจะเร็วขึ้นเรื่อยๆ โทรศัพท์มือถือจะคุณภาพดีขึ้นเรื่อยๆ เล่นเกมแรงๆ ได้ เล่นเน็ตได้แบบลื่นๆ ความนิยมในการใช้บริการร้านเกมจะน้อยลงเรื่อยๆ ร้านเกมจะกลายเป็นบริการที่เจาะตลาด niche กลุ่มคนที่เน้นเล่นเกมประเภททีม เช่น DOTA2, LOL ฯลฯ

เปลี่ยนเป็นเปิดร้านพิมพ์เอกสารหน้า มหาวิทยาลัยดีกว่าครับผม ดูแล้วน่าจะรุ่งมากกว่า ถ่ายเอกสาร ปริ๊น ทำเล่ม  มีคนใช้บริการเยอะแน่นอนครับ

ถ้าทำร้านเน็ตแล้วมีจุดเด่นเป็นของตนเองน่าจะพอได้อยุ่นะครับ
ส่วนเรื่องการทำแล้วจะได้กำไลเหมือนเมื่อก่อนคงจะไม่ได้ อย่างมากก็ได้กินไปวันๆ หรืออาจจะ ใช้ระยะเวลาคืนทุน 2-3 ปี หรืออาจจะไม่เห็นทุน เพราะ กินใช้เองหมด

ทำเล เห็นหลายท่าน แนะนำว่า แถวมหาลัยดี เอาจริงๆ ไม่ดีหรอกครับ เพราะ มันเคยดี แต่คนแห่กันมาเปิด เกิดการแข่งขันกัน ตัดราคากันจากชั่วโมงละ 25 เหลือ ไม่ถึง 8 บาทต่อชั่วโมง
ไหนจะโดนแกล้ง จากคู่แข่งต่างๆนานา อีกครับ และอีกปัจจัย คอมพิวเตอร์สมัยนี้ ราคาถูกลงกว่าสมัยก่อนมาก เรียกได้ว่ามีเงิน 5000 - 10000 สามารถมีคอมพิวเตอร์ใช้ทำงานเล่นเกมส์ได้แล้ว
ยกเว้นคนบางกลุ่มที่ชอบเล่นกันเป็นกลุ่ม หรือชอบเล่นร้านเกมส์จริงๆ และหลายคนที่ไม่สะดวกจะซื้อคอมเท่านั้นที่ยังใช้บริการร้านเกมส์อยู่

การหาลูกค้า เกิดจากการบอกต่อๆกัน ความเป็นกันเองของเจ้าของร้าน และ การแก้ปัญหารวมถึงความเสถียร ในการใช้งาน คอมพิวเตอร์ มีอายุ 3-5 ปีโดยประมาณ แต่ หากนำมาใช้เปิดร้าน
อายุคอมเหล่านั้น จะเหลือเพียงแค่ 1-3 ปีเท่านั้น เพราะ สเปคคอมจะเริ่มล้าหลัง ไม่รวมวัสดุสิ้นเปลืองอย่างเก้าอี้ เมาส์ คีย์บอร์ด และ หูฟัง

เรื่องกฏหมาย อันนี้ถ้ามีการใช้ค่าดูแลให้กับทางเจ้าหน้าที่ก็จะไม่ค่อยมีปัญหาอะไร แต่ก็ต้องคอยสอดส่องรวมถึง รู้ทันกลต่างๆอยู่เสมอ

สรุปโดยรวม ผมมองว่าไม่เวิร์คครับ ยกเว้นใจรักหรือมีกลุ่มลูกค้าประจำจริงๆ


เห็นมีคนพูดถึงร้าน ถ่ายเอกสาร ต่างๆ อันนี้มองว่าเวิร์คนะครับ ถ้ามีทำเล ส่วนกลุ่มลูกค้าจะเน้นคุณภาพเป็นหลักและราคา รวมถึงการบอกต่อ และลูกค้าประจำ
กำไร ของธุระกิจนี้ เรียกได้ว่าถ้ารู้จัก เรื่องวัตถุดิบ ก็ได้กำไรมากกว่า 30 % และมากสุดถึง 80 % ครับ  กลุ่มมหาลัย เป็นอะไรที่น่าสนใจนะครับ แต่ก็ต้องดูเทรนคู่แข่งดีๆ เพราะจะมีเจ้าในหมาลัย เลย ที่เป็นตลาดผูกขาด
และเจ้ารอบมหาลัย ก็ต้องมาเฉียดเฉือน กันด้วยราคา และคุณภาพมหาโหด ผมเคย เป็นเด็กถ่ายเอกสาร ให้ร้านร้านนึงอยู่ครับ เรียกได้ว่า ลูกค้าเข้าร้านวันนึงไม่ถึง 15 คน บางวัน มีลูกค้าแค่ 1-2 คนเท่านั้น ลูกค้า 85-95 % เป็นลูกค้าประจำ
รายได้ต่อวัน ร้านที่ผมทำ มากกว่า 5000 - 17000 บาท และ แบ่งเป็นกำไรมากกว่า 40 % ครับ ส่วนรายละเอียดต่างๆ ต้องลองไปศึกษาเอาเพราะค่อนข้างละเอียด เช่น กระดาษถ่ายเอกสาร ทั่วไปรีมละ 80-120 แต่ ร้านที่ผมเคยทำ รับมาเพียงรีมละ 60 กว่าบาท และ กระดาษโรลเนียว รีมละเพียง 50 กว่าบาทเท่านั้น ซึ่ง ราคาถูกกว่านี้ก็มีแต่คุณภาพไม่สามารถทำงานใช้ให้งานราบลื่นได้

สุดท้ายจะทำธุระกิจอะไร ต้องมีใจรัก และลองศึกษาให้ละเอียด อย่ามองเพียงว่า ธุระกิจนั้น คนทำเยอะ สบาย กำไลดี เพราะ หลายคนคิดและลองทำแต่ไม่ได้ แบบร้านต้นแบบ เท่านั้นเอง

ขอให้โชคดีนะครับ ^-^