|
หัวข้อ: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ เริ่มหัวข้อโดย: SOS9 ที่ 17 เมษายน 2017, 13:32:35 โดนจดหมายเรียกตั้งแต่ต้นปี 59 โดยย้อนหลังปี 56 57 58 เนื่องจากทำธุรกิจขายของออนไลน์ พอรู้จึงปิด web เลยเพราะยอดขายตกลงไปเยอะมาก เรื่องเงียบไป จนต้นปี 60 เจ้าหน้าที่ก็มาที่บ้าน เรียกให้ไปคุยใจก็ไม่อยากไป จนโทรมาขู่ทุกอาทิตย์ พ่อบอกให้ไปคุยดู ก็ไปโดยเรื่องของจด VAT 7% ทำให้โดนหนักเลย ปี 56 5 หมื่นกว่า ปี 57 3 แสนกว่า ปี 58 1 แสนกว่า รวมเกือบ 5 แสน ให้จ่ายในเดือนนี้เกือบ 5 แสน ไม่งั้นโดนค่าปรับ 2 เท่าและค่าปรับจ่ายช้าเดือนละ 1000 รวมล้านนิดๆ และจะฟ้องล้มละลาย
ทางออก 1. เจรจาขอลด จะลดได้เยอะไหม เหลือซักแสน ไม่เอา vat มาคิด จะเป็นไปได้ จะลองคุยขอเงินพ่อมาจ่ายแต่ถ้าเยอะมากคงไม่ไหว 2. ยอมถูกฟ้องล้มละลาย เพราะทรัพย์มีแค่ มอไซค์ 1 คัน ที่เป็นชื่อเรา เนื่องจากธุรกิจ มันไม่ดีเหมือนก่อน หาเงินก็ไม่ง่าย ไอ้เราก็ไม่ใช่โรงงานผู้ผลิต ซื้อมา ขายไปโดน VAT7% บอกได้เลยว่า โครตโหดร้ายเลย เข้าใจว่าต้องจ่ายภาษี แต่โดนขนาดนี้ ล้มเป็นล้ม ให้ละลายไปเลย ใครมีประสบการณ์ หรือทางออกช่วยแนะนำทีครับ หรือหลังไมค์ได้ครับ เพิ่มเติม บางคนไม่ได้อ่าน ที่ผมแจ้งกระทู้ล่างๆ พอดีมีเพื่อนเป็น สจ๊วต หุ้นกันนำของแท้มือสอง กระเป๋า นาฬิกา มาขายกันนะครับ ถ้าคิด vat 7% กำไรก็ไม่เหลือแล้วครับ ยอดปี 56 2 ล้านกว่า ปี 57 3 ล้านกว่า แต่จ่ายภาษี 5 หมื่น กับ 3 แสนกว่า สองยอดต่างกันไม่เยอะ แต่พอโดน vat เท่านั้นเหมือนโดนคูณ 10 เท่า หัวข้อ: Re: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ เริ่มหัวข้อโดย: amfashion ที่ 17 เมษายน 2017, 13:39:00 กำลังจะขายของออนไลน์เหมือนกันครับ แต่เจอแบบนี้ ถึงกับหวั่นเลยเหมือนกัน
หัวข้อ: Re: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ เริ่มหัวข้อโดย: skit ที่ 17 เมษายน 2017, 13:45:59 โทษครับ รายรับต่อปี ประมาณเท่าไหร่ครับ ถึงโดนเรียกเก็บ
หัวข้อ: Re: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ เริ่มหัวข้อโดย: JeffyPluS ที่ 17 เมษายน 2017, 13:47:19 แนะนำลองเข้าไปคุยดูก่อนครับ เปิดใจคุยกับเขาว่า ปัจจุบันเป็นอย่างไร ตรง ๆ ไปเลยครับ
แล้ว ถ้าทางออกดูแล้วไม่ดี คิดว่าจะยอมถูกฟ้องล้มละลาย ก็ ถือเป็นทางเลือกสุดท้ายครับ แต่อย่างน้อย ก็ได้ลองหาทางออกอื่น ๆ ดูก่อนแล้ว หัวข้อ: Re: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ เริ่มหัวข้อโดย: mammo8899 ที่ 17 เมษายน 2017, 14:02:27 ลองเอาไปโพสลงพันทิพไหมคะ น่าจะมีผู้เขี่ยวชาญช่วยตอบเยอะกว่า หนักหนานะเนี่ย สู้ๆค่ะ หัวข้อ: Re: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ เริ่มหัวข้อโดย: dekbannok14 ที่ 17 เมษายน 2017, 14:06:33 ขอติดตามด้วยคนครับ
หัวข้อ: Re: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ เริ่มหัวข้อโดย: aodblog.com ที่ 17 เมษายน 2017, 14:11:31 บิลเอกสารการซื้อขายมีไหม ขายของต้องออกบิลให้ลูกค้าตลอดนะ ไม่งั้นแย่เลย เก็บบิลไว้ที่เราด้วยทุกครั้ง ทำธุรกิจ ยอดขายขนาดนั้น ไม่ใช้เด็กเล่นขายของละ มืออาชีพหน่อยครับ เอกสารต้องมี อย่างน้อยบิลเงินสด เก็บไว้ ของผมกระจายไปให้พ่อ น้องชาย ด้วย กระจายหลายๆบัญชีครับ
เคยอ่านเจอผ่อนจ่ายได้ครับ หากฎหมายดูครับ มันมีกฎหมายของมันอยู่ไม่ใช้สรรพากรจะใหญ่ ขู่ใครก็ได้ พวกนี้มันมีกฎหมายของมันโดยเฉพาะ vat 7% ต้องยอดขายเกินล้านแปด ยอดขายถึงไหม ต้องตรวจดู ไม่ใช้กลัวสรรพากรขี้แตก แบบนั้นเขาขู่เอาครับ สรรพากรมันมีกฎหมายคุมอยู่ ใช้อำนาจพละการไม่ได้ ไม่ได้ใหญ่ ที่ใหญ่คือ พรบ สรรพากร หัวข้อ: Re: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ เริ่มหัวข้อโดย: wut555 ที่ 17 เมษายน 2017, 14:12:10 เคยมีเคสใน pantip ครับ แต่ก็ลดไม่ได้เยอะเท่าไหร่ เค้าจะยกเว้นให้เฉพาะพวกเบี้ยปรับครับ
สุดท้ายก็จะต้องจ่ายอยู่ดี หัวข้อ: Re: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ เริ่มหัวข้อโดย: aomaaaaa ที่ 17 เมษายน 2017, 14:16:17 มาฟังครับ :wanwan044:
หัวข้อ: Re: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ เริ่มหัวข้อโดย: thaicoffin ที่ 17 เมษายน 2017, 14:16:57 แนะนำลองเข้าไปคุยดูก่อนครับ เปิดใจคุยกับเขาว่า ปัจจุบันเป็นอย่างไร ตรง ๆ ไปเลยครับ แล้ว ถ้าทางออกดูแล้วไม่ดี คิดว่าจะยอมถูกฟ้องล้มละลาย ก็ ถือเป็นทางเลือกสุดท้ายครับ แต่อย่างน้อย ก็ได้ลองหาทางออกอื่น ๆ ดูก่อนแล้ว :P ฟ้องล้มละลาย ก็ ถือเป็นทางเลือกสุดท้ายครับ หัวข้อ: Re: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ เริ่มหัวข้อโดย: vanavat ที่ 17 เมษายน 2017, 14:55:57 แนะนำลองเข้าไปคุยดูก่อนครับ เปิดใจคุยกับเขาว่า ปัจจุบันเป็นอย่างไร ตรง ๆ ไปเลยครับ แล้ว ถ้าทางออกดูแล้วไม่ดี คิดว่าจะยอมถูกฟ้องล้มละลาย ก็ ถือเป็นทางเลือกสุดท้ายครับ แต่อย่างน้อย ก็ได้ลองหาทางออกอื่น ๆ ดูก่อนแล้ว :P ฟ้องล้มละลาย ก็ ถือเป็นทางเลือกสุดท้ายครับ ล้มละลายก็ต้องจ่ายอยู่ดีครับ เพียงแต่ว่าจะผ่อนได้ จากเดิม ได้ไม่เกิน 3 เดือน จากนั้นต้องไปคุยกันที่ศาลครับ เชื่อผม ผมโดนมาแล้ว ฟ้องล้มละลายไม่ได้เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ดีที่สุดตอนนี้คือ ไปหาทนายความ ห้ามตอบและยื่นอะไรให้ สรรพากรตอนนี้ เชื่อผม โทรหาทนายตอนนี้ก่อนจะแก้อะไรไม่ได้ ย้ำๆๆๆๆ ของผมหลักล้านครับ หัวข้อ: Re: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ เริ่มหัวข้อโดย: Takashi3 ที่ 17 เมษายน 2017, 15:02:08 ที่โดนเยอะขนาดนี้แสดงว่าต้องยอดเกิน 1.8 ล้านมาหลายปีแล้ว และไม่ได้เข้าไปจ่ายภาษีเลยจึงโดนหนัก ปัญหาของกรณีนี้คือ ยอดเงินสะสมที่ต้องจ่ายภาษีมันทบจนยอดเงินมันก้อนใหญ่แล้ว ทางออกที่ดีที่สุดคือทำเรื่องขอผ่อนจ่ายเป็นงวดๆ ไปครับ ดิ้นมากไม่ได้กรณีแบบนี้ และที่ตรวจย้อนหลังเจอยอดเยอะขนาดนี้ไม่ทราบว่าคุณขายของให้พวกบริษัทต่างๆ รึเปล่าครับ ถ้าขายให้รายย่อย ไม่น่าจะมีข้อมูลตัวเลขเยอะขนาดนี้
หัวข้อ: Re: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ เริ่มหัวข้อโดย: ฟาร์มเฮ้า ที่ 17 เมษายน 2017, 15:06:51 แนะนำลองเข้าไปคุยดูก่อนครับ เปิดใจคุยกับเขาว่า ปัจจุบันเป็นอย่างไร ตรง ๆ ไปเลยครับ แล้ว ถ้าทางออกดูแล้วไม่ดี คิดว่าจะยอมถูกฟ้องล้มละลาย ก็ ถือเป็นทางเลือกสุดท้ายครับ แต่อย่างน้อย ก็ได้ลองหาทางออกอื่น ๆ ดูก่อนแล้ว :P ฟ้องล้มละลาย ก็ ถือเป็นทางเลือกสุดท้ายครับ ล้มละลายก็ต้องจ่ายอยู่ดีครับ เพียงแต่ว่าจะผ่อนได้ จากเดิม ได้ไม่เกิน 3 เดือน จากนั้นต้องไปคุยกันที่ศาลครับ เชื่อผม ผมโดนมาแล้ว ฟ้องล้มละลายไม่ได้เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ดีที่สุดตอนนี้คือ ไปหาทนายความ ห้ามตอบและยื่นอะไรให้ สรรพากรตอนนี้ เชื่อผม โทรหาทนายตอนนี้ก่อนจะแก้อะไรไม่ได้ ย้ำๆๆๆๆ ของผมหลักล้านครับ ล้มละลายจะถูกยึดทรัพย์ทั้งหมดไปใช้หนี้ ถึงจะไม่พอใช้หนี้ แต่อีก 3 ปีก็จะได้ปลดล้มละลาย เริ่มต้นใหม่ไม่ต้องใช้หนี้แล้ว หรือผมเข้าใจอะไรผิดไป หัวข้อ: Re: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ เริ่มหัวข้อโดย: Takashi3 ที่ 17 เมษายน 2017, 15:17:26 แนะนำลองเข้าไปคุยดูก่อนครับ เปิดใจคุยกับเขาว่า ปัจจุบันเป็นอย่างไร ตรง ๆ ไปเลยครับ แล้ว ถ้าทางออกดูแล้วไม่ดี คิดว่าจะยอมถูกฟ้องล้มละลาย ก็ ถือเป็นทางเลือกสุดท้ายครับ แต่อย่างน้อย ก็ได้ลองหาทางออกอื่น ๆ ดูก่อนแล้ว :P ฟ้องล้มละลาย ก็ ถือเป็นทางเลือกสุดท้ายครับ ล้มละลายก็ต้องจ่ายอยู่ดีครับ เพียงแต่ว่าจะผ่อนได้ จากเดิม ได้ไม่เกิน 3 เดือน จากนั้นต้องไปคุยกันที่ศาลครับ เชื่อผม ผมโดนมาแล้ว ฟ้องล้มละลายไม่ได้เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ดีที่สุดตอนนี้คือ ไปหาทนายความ ห้ามตอบและยื่นอะไรให้ สรรพากรตอนนี้ เชื่อผม โทรหาทนายตอนนี้ก่อนจะแก้อะไรไม่ได้ ย้ำๆๆๆๆ ของผมหลักล้านครับ ล้มละลายจะถูกยึดทรัพย์ทั้งหมดไปใช้หนี้ ถึงจะไม่พอใช้หนี้ แต่อีก 3 ปีก็จะได้ปลดล้มละลาย เริ่มต้นใหม่ไม่ต้องใช้หนี้แล้ว หรือผมเข้าใจอะไรผิดไป ถ้าผมจำไม่ผิดถ้าเป็นหนี้เกี่ยวกับภาษี ต่อให้ล้มละลายไปแล้วหนี้ก็ไม่หายนะครับ รัฐสามารถตามมาเก็บได้ต่ออีก ต่างกับการล้มละลายทั่วไป ซึ่งตรงนี้ถามทนายดีกว่าครับ หัวข้อ: Re: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ เริ่มหัวข้อโดย: vanavat ที่ 17 เมษายน 2017, 15:38:36 พ.ร.บ.ล้มละลาย 2483 กรณีการใช้อำนาจบังคับทรัพย์สินเพื่อชำระหนี้ภาษีอากรหลังจากบุคคลได้รับการปลดจากการเป็นบุคคลล้มละลาย และกรณีที่มีการประนอมหนี้แล้ว
โดยกรณีบุคคลธรรมดาค้างชำระภาษีอากรถูกคำพิพากษาให้เป็นบุคคลล้มละลาย ต่อมาพ้นกำหนดระยะเวลา 3 ปี ซึ่งกฎหมายกำหนดให้ปลดบุคคลนั้นพ้นจากการเป็นบุคคลล้มละลาย เมื่อกรมสรรพากรสอบสวนทรัพย์สินพบว่า ผู้ค้างภาษีมีทรัพย์สินซึ่งอาจมีอยู่ก่อนล้มละลายหรือเป็นทรัพย์สินที่ได้มาหลังจากปลดจากล้มละลายแล้ว กรมสรรพากรจะสามารถบังคับทรัพย์สินดังกล่าวเพื่อชำระภาษีที่ค้างได้หรือไม่ ซึ่งคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ 11) มีความเห็นว่า กรมสรรพากรจะสามารถบังคับทรัพย์สินเพื่อชำระภาษีที่ค้างได้ แต่ทรัพย์สินดังกล่าวจะต้องได้มาภายหลังจากพ้นการเป็นบุคคลล้มละลายแล้ว คณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ 11) ยังให้ความเห็นกรณีกรมสรรพากรไม่ได้ยื่นขอรับชำระหนี้ภาษีในคดีที่ผู้ค้างภาษีถูกฟ้องคดีล้มละลาย จะมีผลต่อการบังคับชำระหนี้ภาษีหรือไม่ ว่า ตามมาตรา 77 แห่ง พ.ร.บ.ล้มละลาย บัญญัติเพียงว่าคำสั่งปลดจากล้มละลายจะทำให้บุคคลล้มละลายหลุดพ้นจากหนี้ทั้งปวงได้ แต่มีข้อยกเว้นกรณีหนี้ภาษีอากรไว้ ซึ่งข้อยกเว้นดังกล่าวกฎหมายไม่ได้มีบทบัญญัติว่าต้องเป็นหนี้ที่ได้ยื่นขอรับชำระแล้วหรือต้องอยู่ภายใต้บังคับของมาตรา 91 แห่ง พ.ร.บ.ล้มละลาย ดังนั้น กรมสรรพากรจึงมีอำนาจบังคับกับทรัพย์สินเพื่อให้ได้รับชำระภาษีอากรค้างได้ สรุปตรงนี้เลยนะครับเพื่อจะได้ไม่เข้าใจผิดกันต่อไป 1 . หากฟ้องล้มละลาย ทรัพย์สินที่จะยึดและเอามาใช้ภาษีที่ค้างได้ต้องเป็นทรัพย์สินดังกล่าวจะต้องได้มาภายหลังจากพ้นการเป็นบุคคลล้มละลายแล้ว 2 . บุคลล้มละลาย หนี้หาย ยกเว้นหนี้ภาษีครับ 3. การปล่อยให้ฟ้องล้มละลายมีเหตุผลอยู่อย่างนึงคือหมดหนทางจริงๆ ต้องการขึ้นศาลเพื่อประนอมหนี้ผ่อนจ่ายอะไรก็ว่าไป แต่นั้น มันคือหลังจากคุณเอาทนายความไปสู้แล้วนะครับ หัวข้อ: Re: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ เริ่มหัวข้อโดย: tidgerd ที่ 17 เมษายน 2017, 15:40:07 เยอะจัด
หัวข้อ: Re: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ เริ่มหัวข้อโดย: ฟาร์มเฮ้า ที่ 17 เมษายน 2017, 16:15:40 พ.ร.บ.ล้มละลาย 2483 กรณีการใช้อำนาจบังคับทรัพย์สินเพื่อชำระหนี้ภาษีอากรหลังจากบุคคลได้รับการปลดจากการเป็นบุคคลล้มละลาย และกรณีที่มีการประนอมหนี้แล้ว โดยกรณีบุคคลธรรมดาค้างชำระภาษีอากรถูกคำพิพากษาให้เป็นบุคคลล้มละลาย ต่อมาพ้นกำหนดระยะเวลา 3 ปี ซึ่งกฎหมายกำหนดให้ปลดบุคคลนั้นพ้นจากการเป็นบุคคลล้มละลาย เมื่อกรมสรรพากรสอบสวนทรัพย์สินพบว่า ผู้ค้างภาษีมีทรัพย์สินซึ่งอาจมีอยู่ก่อนล้มละลายหรือเป็นทรัพย์สินที่ได้มาหลังจากปลดจากล้มละลายแล้ว กรมสรรพากรจะสามารถบังคับทรัพย์สินดังกล่าวเพื่อชำระภาษีที่ค้างได้หรือไม่ ซึ่งคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ 11) มีความเห็นว่า กรมสรรพากรจะสามารถบังคับทรัพย์สินเพื่อชำระภาษีที่ค้างได้ แต่ทรัพย์สินดังกล่าวจะต้องได้มาภายหลังจากพ้นการเป็นบุคคลล้มละลายแล้ว คณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ 11) ยังให้ความเห็นกรณีกรมสรรพากรไม่ได้ยื่นขอรับชำระหนี้ภาษีในคดีที่ผู้ค้างภาษีถูกฟ้องคดีล้มละลาย จะมีผลต่อการบังคับชำระหนี้ภาษีหรือไม่ ว่า ตามมาตรา 77 แห่ง พ.ร.บ.ล้มละลาย บัญญัติเพียงว่าคำสั่งปลดจากล้มละลายจะทำให้บุคคลล้มละลายหลุดพ้นจากหนี้ทั้งปวงได้ แต่มีข้อยกเว้นกรณีหนี้ภาษีอากรไว้ ซึ่งข้อยกเว้นดังกล่าวกฎหมายไม่ได้มีบทบัญญัติว่าต้องเป็นหนี้ที่ได้ยื่นขอรับชำระแล้วหรือต้องอยู่ภายใต้บังคับของมาตรา 91 แห่ง พ.ร.บ.ล้มละลาย ดังนั้น กรมสรรพากรจึงมีอำนาจบังคับกับทรัพย์สินเพื่อให้ได้รับชำระภาษีอากรค้างได้ สรุปตรงนี้เลยนะครับเพื่อจะได้ไม่เข้าใจผิดกันต่อไป 1 . หากฟ้องล้มละลาย ทรัพย์สินที่จะยึดและเอามาใช้ภาษีที่ค้างได้ต้องเป็นทรัพย์สินดังกล่าวจะต้องได้มาภายหลังจากพ้นการเป็นบุคคลล้มละลายแล้ว 2 . บุคลล้มละลาย หนี้หาย ยกเว้นหนี้ภาษีครับ 3. การปล่อยให้ฟ้องล้มละลายมีเหตุผลอยู่อย่างนึงคือหมดหนทางจริงๆ ต้องการขึ้นศาลเพื่อประนอมหนี้ผ่อนจ่ายอะไรก็ว่าไป แต่นั้น มันคือหลังจากคุณเอาทนายความไปสู้แล้วนะครับ ขอบคุณครับ เคลียร์เลยครับ หนี้ภาษีนี่น่ากลัวจริง ๆ หัวข้อ: Re: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ เริ่มหัวข้อโดย: wasantec ที่ 17 เมษายน 2017, 16:29:34 ภาษีขนาดนี้ งั้นก็แสดงว่าขายของได้หลายล้าน เลยสิขายอะไรหลอครับ
หัวข้อ: Re: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ เริ่มหัวข้อโดย: gemble40 ที่ 17 เมษายน 2017, 16:35:22 โหยยยยยย
หัวข้อ: Re: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ เริ่มหัวข้อโดย: SOS9 ที่ 17 เมษายน 2017, 16:46:00 พอดีมีเพื่อนเป็น สจ๊วต หุ้นกันนำของแท้มือสอง กระเป๋า นาฬิกา มาขายกันนะครับ ถ้าคิด vat 7% กำไรก็ไม่เหลือแล้วครับ ยอดปี 56 2 ล้านกว่า ปี 57 3 ล้านกว่า แต่จ่ายภาษี 5 หมื่น กับ 3 แสนกว่า ต่างกันไม่เหมือนยอดขายเลย
หัวข้อ: Re: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ เริ่มหัวข้อโดย: ฮารุมิจิ ที่ 17 เมษายน 2017, 17:08:25 ยอดขายเยอะมากครับ แต่ก็น่าเห็นใจตรงรายได้จริงมันไม่ได้เยอะตามยอดขาย คงต้องหาทางคุยกับสรรพากรดูครับถ้าในเคสนี้
หัวข้อ: Re: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ เริ่มหัวข้อโดย: NHK ที่ 17 เมษายน 2017, 17:16:05 ตอนคุณขายของ ทำไมไม่จ่ายภาษีให้เค้าล่ะครับ ทำไม่ถูกต้องเอง
ก็ต้องโดนเป็นธรรมดา ผมโดนสองล้าน เคลียร์ 4 งวด จบๆ กันไป ตอนนี้ เอาเข้าระบบหมดแล้ว เริ่มใหม่ ... หัวข้อ: Re: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ เริ่มหัวข้อโดย: kamchun777 ที่ 17 เมษายน 2017, 17:28:05 อืม เขอะจริง ถือว่าช่วยชาติซื้อเรือดำน้ำละกันครับ
หัวข้อ: Re: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ เริ่มหัวข้อโดย: eyejan ที่ 17 เมษายน 2017, 17:50:12 พอดีมีเพื่อนเป็น สจ๊วต หุ้นกันนำของแท้มือสอง กระเป๋า นาฬิกา มาขายกันนะครับ ถ้าคิด vat 7% กำไรก็ไม่เหลือแล้วครับ ยอดปี 56 2 ล้านกว่า ปี 57 3 ล้านกว่า แต่จ่ายภาษี 5 หมื่น กับ 3 แสนกว่า ต่างกันไม่เหมือนยอดขายเลย ดีนะครับที่ไม่โดนภาษีศุลกากรอีกกระทง หัวข้อ: Re: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ เริ่มหัวข้อโดย: indyseo ที่ 17 เมษายน 2017, 18:13:10 ตอนคุณขายของ ทำไมไม่จ่ายภาษีให้เค้าล่ะครับ ทำไม่ถูกต้องเอง ก็ต้องโดนเป็นธรรมดา ผมโดนสองล้าน เคลียร์ 4 งวด จบๆ กันไป ตอนนี้ เอาเข้าระบบหมดแล้ว เริ่มใหม่ ... นั่นสิครับ ถ้าเข้าระบบหรือทำให้ถูกต้องเสียก็สบายละ หัวข้อ: Re: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ เริ่มหัวข้อโดย: aodblog.com ที่ 17 เมษายน 2017, 19:20:05 ทีหลังขายของควรเก็บเงินไว้ในบัญชีบ้างครับ ใช้ยามฉุกเฉิน ผมเห็นบางคนพอมีรายได้ขายได้เยอะซื้อรถ ซื้อบ้านบ้างละ ชีวิตสโลไล 55 :P เพื่อนผมเอง 55 เงินในบัญชีไม่มีสักกะบาท แล้วจะหนาว ไม่มีเงินต่อลอง ขายของมีขึ้นมีลงอย่าประมาท มีเงินเก็บไว้ในบัญชีสัก 10 ล้านอุ่นใจ 55 มีเงินนี้ขึ้นศาลสู้คดีผมไม่กลัวเลย แต่ไม่มีเงินหนาว 555
เดียวนี้ทำอะไรใช้เงินพูดครับง่ายหมด ถ้าคุณมีเงินรับรองเขาพูดจาดีเลยละ :wanwan019: หัวข้อ: Re: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ เริ่มหัวข้อโดย: ฮารุมิจิ ที่ 17 เมษายน 2017, 20:05:18 ทีหลังขายของควรเก็บเงินไว้ในบัญชีบ้างครับ ใช้ยามฉุกเฉิน ผมเห็นบางคนพอมีรายได้ขายได้เยอะซื้อรถ ซื้อบ้านบ้างละ ชีวิตสโลไล 55 :P เพื่อนผมเอง 55 เงินในบัญชีไม่มีสักกะบาท แล้วจะหนาว ไม่มีเงินต่อลอง ขายของมีขึ้นมีลงอย่าประมาท มีเงินเก็บไว้ในบัญชีสัก 10 ล้านอุ่นใจ 55 มีเงินนี้ขึ้นศาลสู้คดีผมไม่กลัวเลย แต่ไม่มีเงินหนาว 555 เดียวนี้ทำอะไรใช้เงินพูดครับง่ายหมด ถ้าคุณมีเงินรับรองเขาพูดจาดีเลยละ :wanwan019: +1000 เลยครับ สมัยนี้ผมว่าหาเงินจากงานออนไลน์จากกว่าแต่ก่อนเยอะ :P หัวข้อ: Re: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ เริ่มหัวข้อโดย: tesla ที่ 17 เมษายน 2017, 20:47:44 คือ สมัยก่อน คนทั่วไปมักขายของออนไลน์คล้ายกับขายของตลาดนัดหรือเปิดท้ายขายของ ซึ่งเป็นงานอดิเรกคือทำจริงจังร่วมกับออฟไลน์ แต่เมื่อโซเซียลมีเดียกลายมาเป็นปัจจัยสำคัญในชีวิตออนไลน์ ทำให้การขายของออนไลน์ของคนทั่วไปเปิดกว้างมากขึ้น สะดวกและรวดเร็วกว่าการเปิดร้านออนไลน์หรือออฟไลน์มาก ทำให้หลายคนไม่คิดในเรื่องผลการดำเนินงานด้านธุรกิจ ประมาณว่ามีเงินสดหมุนไปมา และจ่ายในส่วนที่เราเห็นว่าควรทำแค่นั้น มายุคนี้อีคอมเมิร์สกลายเป็นสิ่งสำคัญในประเทศทำให้คนไทยส่วนใหญ่เริ่มซื้อของออนไลน์มากขึ้น มีเจ้าใหญ่เปิดตัวสู้กันมากขึ้น การทำแบบจริงจังจึงมีมากขึ้นด้วย
เชื่อว่าหลายคนที่ทำแบบเคสนี้ยังรอด หรือยอมจ่ายในบ้างส่วนไปตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้นแรกๆ เพราะสามารถต่อรองหรือหาหลักฐานที่เรามีอยู่ไปคุยได้ง่ายกว่า หลายคนรอดตัวไป มีบางคนที่ปล่อยปะละเลยจนบานปลาย ยากต่อการแก้ไข เงินจึงจำเป็นมากในเคสนี้ อย่างแรกคือใช้ในทางกฏหมายเพื่อหาข้อต่อรองให้ได้ประโยชน์ต่อตัวเองมากที่สุด เคสแบบนี้จ่ายแน่แต่จะจ่ายมากน้อยก็อยู่ในการต่อรองกันอยู่แล้ว ถ้าปล่อยเลยตามเลยก็คงโดนบีบข้างเดียวแน่ สรุปคือ หนึ่งใช้เงินหาทนายที่เก่งด้านภาษี ปรึกษาและจ้างไปต่อรอง สอง หาเงินจ่ายในส่วนที่ตัวเองรับได้ในเงื่อนไขที่ตัวเองทำได้ ทนายคงจะหาช่องต่อรองให้ครับ ข้อคิด คือ คนหาช่องทางกฏหมายจ่ายภาษีนิดเดียวเองครับ ผมเห็นคนรวยๆ ในธุรกิจออฟไลน์เยอะมาก พวกเขาจ่ายภาษีน้อยกว่าคนที่ทำงานออนไลน์แบบเราด้วย กำไรก็เยอะด้วย การหาช่องทางเลี่ยงไม่ใช่การลืมเอกสาร แต่เป็นการสร้างเอกสารที่น่าเชื่อถือแต่ทำให้เสียภาษีหรือได้กำไรสูงสุดต่างหาก ยังไงก็เอาใจช่วยให้ใช้เงินไปแก้ไขปัญหาให้ตรงจุดและไม่เสียเงินมากจนเกินไปแบบนี้ครับ หัวข้อ: Re: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ เริ่มหัวข้อโดย: conviction ที่ 18 เมษายน 2017, 00:01:04 ยอดขายเท่าไหร่ครับเนี่ย ภาษี 5 แสน :wanwan023: ของผมได้ล้านกว่าๆ หลักจากหักค่าใช้จ่ายเคยเสียสูงสุดแค่ 200 บาทเอง ส่วน VAT7% จริงๆ ส่วนนี้เรียกเก็บจากลูกค้าครับ เราไม่ได้จ่ายเอง
ยิ่งถ้าเป็นธุรกิจซื้อมาขายไปนี่หักค่าใช้จ่ายแบบเหมาได้ 80% หรือหักตามจริงก็ได้ (ต้องมีใบเสร็จค่าใช้จ่ายต่างๆ) หัวข้อ: Re: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ เริ่มหัวข้อโดย: jrpclasza ที่ 18 เมษายน 2017, 00:11:38 ยอดขายเยอะขนาดนั้นความจริงน่าเป็นอาเสี่ยไปแล้วนะครับ ไหงมีแค่แมงกะไซคันเดียว
ยังไงก็เอาใจช่วยแล้วกันครับ ทุกวันนี้ค้าขายเริ่มซบเซา ร้านค้าออนไลน์มีเยอะมากจริงๆ หัวข้อ: Re: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ เริ่มหัวข้อโดย: dekdoo ที่ 18 เมษายน 2017, 00:37:03 ผมแอบสงสัย ทำไมโดนภาษีหนักจัง ยอดขายคงหลักหลายสิบล้าน
ยอดขายขนาดนี้ทำไมไม่เตรียมตัวเรื่องภาษีล่ะครับ หากข้อมูลนี้เป็นความจริง ก็ไปจ่ายเถอะครับ หัวข้อ: Re: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แส&# เริ่มหัวข้อโดย: Patumhost ที่ 18 เมษายน 2017, 06:48:03 ตารางภาษีบุคคลธรรมดา
แนะนำให้ไปทำเรื่องขอผ่อนจ่ายครับลองขอคำแนะนำที่เจ้าหน้าที่ดูครับ (มีดอกเบี้ยด้วยครับ) (https://www.mx7.com/i/179/Y8sPUT.png) หัวข้อ: Re: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ เริ่มหัวข้อโดย: pond_z1000 ที่ 18 เมษายน 2017, 10:19:59 ผมเห็นใจจริงๆ
หัวข้อ: Re: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ เริ่มหัวข้อโดย: Witchdee ที่ 18 เมษายน 2017, 10:27:48 สู้ๆ คับ :wanwan003: :wanwan003:
หัวข้อ: Re: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ เริ่มหัวข้อโดย: Arale1994 ที่ 18 เมษายน 2017, 10:38:06 โดนเยอะเหมือนกันนะครับ น่าจะลองขอเจรจาดูนะครับ ขอลดน่าจะได้ สู้ๆครับๆ
หัวข้อ: Re: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ เริ่มหัวข้อโดย: SOS9 ที่ 18 เมษายน 2017, 11:58:21 โดนเยอะเหมือนกันนะครับ น่าจะลองขอเจรจาดูนะครับ ขอลดน่าจะได้ สู้ๆครับๆ ขอบคุณครับ หัวข้อ: Re: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ เริ่มหัวข้อโดย: SOS9 ที่ 18 เมษายน 2017, 12:00:15 ผมแอบสงสัย ทำไมโดนภาษีหนักจัง ยอดขายคงหลักหลายสิบล้าน ยอดขายขนาดนี้ทำไมไม่เตรียมตัวเรื่องภาษีล่ะครับ หากข้อมูลนี้เป็นความจริง ก็ไปจ่ายเถอะครับ ตามนี้ครับ ยอดไม่ได้เยอะหลัก 10 ล้านนะครับ พอดีมีเพื่อนเป็น สจ๊วต หุ้นกันนำของแท้มือสอง กระเป๋า นาฬิกา มาขายกันนะครับ ถ้าคิด vat 7% กำไรก็ไม่เหลือแล้วครับ ยอดปี 56 2 ล้านกว่า ปี 57 3 ล้านกว่า แต่จ่ายภาษี 5 หมื่น กับ 3 แสนกว่า ต่างกันไม่เหมือนยอดขายเลย หัวข้อ: Re: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ เริ่มหัวข้อโดย: 9arduino ที่ 18 เมษายน 2017, 12:48:10 เขารู้ได้ไงครับ ได้ไปแสดงหลักฐานการเสียภาษีป่าวครับ ถึงเขาได้รู้ว่า รายได้เท่าไร ตามด้วยคนหัวอกพ่อค้าเหมือนกันครับ :wanwan003:
หัวข้อ: Re: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ เริ่มหัวข้อโดย: jukkree ที่ 18 เมษายน 2017, 16:33:34 แล้วพวก ทำรายได้จาก พวก popads อะไรพวกนี้ จะโดนย้อนหลังไหมครับ
หัวข้อ: Re: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ เริ่มหัวข้อโดย: nuonly ที่ 18 เมษายน 2017, 16:34:48 แล้วพวก ทำรายได้จาก พวก popads อะไรพวกนี้ จะโดนย้อนหลังไหมครับ ไม่นะครับ หัวข้อ: Re: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ เริ่มหัวข้อโดย: koravic001 ที่ 18 เมษายน 2017, 16:36:29 โดนเยอะเลยนะครับ
เริ่มกลัวสิละเรา :wanwan017: หัวข้อ: Re: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ เริ่มหัวข้อโดย: KPmemory ที่ 18 เมษายน 2017, 16:38:22 คงต้องเป็นไปตามกฎหมาย :wanwan009:
หัวข้อ: Re: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ เริ่มหัวข้อโดย: LoveRomyui88io ที่ 18 เมษายน 2017, 17:29:36 โดนเยอะเลยนะครับ
หัวข้อ: Re: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ เริ่มหัวข้อโดย: aodblog.com ที่ 18 เมษายน 2017, 17:42:09 ถ้ายื่นจ่ายแต่แรก สบายเลยครับ มันมีค่าลดหย่อน เยอะมาก ของผมบริษัท ขายไปเรื่อยๆ ไม่เสียเสียภาษี มีแต่เสียเวต
ยื่นภาษีให้ถูกไม่น่ากลัวครับ มีค่าลดหย่อนโครตเยอะ 555 ประกันภัยย กองทุน งานบริจาค ทำบุญเอามาลดย่อนภาษีได้หมด ถึงว่าบริษัทใหญ่ๆชอบทำบุญ :wanwan007: แต่เคสคุณยัง งงเขารู้ได้ไงครับ :P หัวข้อ: Re: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ เริ่มหัวข้อโดย: kritt88 ที่ 18 เมษายน 2017, 18:32:36 มีรายได้เกิน 30,000 บาทต่อปี ยังไงก็ต้องยื่นแบบภาษีครับ ยื่นให้ถูกให้ครบดีในระยะยาว
ตอนนี้ขายออนไลน์หรือหารายได้ออนไลน์เป็นที่เพ่งเล็งมากอยู่แล้วด้วยครับ ตราบใดที่เงินวิ่งเข้า-ออกบัญชีธนาคาร ยังไงก็หนีไม่พ้น เส้นทางที่มาของเงินตรวจสอบไม่ยาก หัวข้อ: Re: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ เริ่มหัวข้อโดย: everz1230 ที่ 18 เมษายน 2017, 18:42:30 เยอะจริงๆ :'( :'(
หัวข้อ: Re: โดนภาษีขายของอภอนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ เริ่มหัวข้อโดย: Hybrid ที่ 18 เมษายน 2017, 19:04:25 ภาษี 5 แสน นี่เขาวัดจากอะไรครับ ข้อมูลการขายเราก็ไม่ได้แจ้งเขา หรือเขาประมาณการเอาครับ :P :P
หัวข้อ: Re: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ เริ่มหัวข้อโดย: keanwoo ที่ 18 เมษายน 2017, 20:11:38 สวัสดีครับ
ขอให้เป็นวิทยาทานสำหรับคนที่ยังทำไม่ถูก หรือยังไม่โดนนะครับ หรือคนที่โดนแล้ว จะได้รับมือกัน ไม่อยากให้เป็นเหมือนผม หรือหลายๆ คนครับ เพิ่งโดนเหมือนกันช่วงปลายปี 58 ที่แล้วครับ หนักครับ นอนไม่หลับไป 4 เดือน เรื่องมาจบเมื่อต้นปี 59 ครับ ตอนนี้เหตุการณ์ผ่านมาได้ 1 ปีกว่าๆ แล้ว ขอบอกเพื่อนๆ ตามนี้นะครับ -------------------------------- 1. สรรพากรรู้ได้ยังไง? ไม่ยากครับ สมัยก่อน ก็ดูจาก... - ใบหักภาษี ณ ที่จ่าย จากบริษัททั่วไป (อันนี้แต่ก่อนผมก็เลี่ยงนะ โดยการคุมไม่ให้เกิน 1.8M แต่ก็ไม่รอด เดี่ยวจะบอกว่า ไม่รอดยังไงนะครับ) - ทีมสำรวจ โดยตรวจดูจากเว็บไซต์ครับ ง่ายที่สุด ก็เข้าไปดูเว็บ แล้วก็ไปที่ หน้าวิธีชำระเงิน แล้วก็ดูบัญชีธนาคารที่เราโชว์ไว้นั่นแหละครับ เค้าก็จะดูจากฐานข้อมูลว่า มีการเสียภาษีไหม แล้วจดแจ้งสมเหตุสมผลไหม ถ้าดูแล้วมีพิรุธ เช่น แจ้งว่า มีรายได้นิดเดียว แต่ในเว็บโชว์ยอดการขาย โชว์ว่าส่งของเท่านั้นเท่านี้ ฯลฯ แล้วก็จะมีหนังสือเชิญจากสรรพากรมาที่บ้านท่านครับ ใครมีใบนี้ส่งไปที่บ้าน ให้หายใจลึกๆ แล้วทำใจครับ (ตัวผมโดนจากเคสนี้) แต่ก่อนสรรพากรบอกว่า สมัยก่อนตั้งทีมเป็นทีมเล็กๆ แต่หลังๆ เริ่มจริงจังมากขึ้นเรื่อยๆ ครับ ตอนนี้มีหน่วยงานตรวจโดยเฉพาะแล้วนะครับ - ทีมล่อซื้อ สำหรับพวกที่หัวหมอ ไม่เปิดเว็บ ไม่โชว์หน้าบัญชี ก็จะเจอในรูปแบบ ลูกค้ามาซื้อ แล้วก็ขอเลขบัญชี ก็โดนครับ ยาวๆ ไปเช่นกัน หลักๆ ก็โดนจากเคสพวกนี้ครับ ยิ่งช่วงหลัง สรรพากร ได้เริ่มทดลองใช้ระบบพร้อมเพย์ ที่ผูกเลขบัญชี เข้ากับ ID Card ถ้าสำเร็จ ต่อไป น่าจะเป็นกฎหมายแล้วบังคับใช้ได้ แต่ไปรัฐ ก็จะดูกระแสเงินของแต่ละคนได้สบายๆ ครับ นโยบายลักษณะนี้เริ่มออกมาเรื่อยๆ นะครับ ลองติดตามกัน ---------------------------------- 2. ถ้าโดนแล้ว สรรพากรรู้ได้ยังไงว่า เรามีรายได้เท่าไร? ไม่ยากครับ เค้าก็มีหนังสือมาที่บ้านบอกว่า เราพบว่า ท่านมีการทำธุรกิจออนไลน์ จากเว็บไซต์ บลาๆๆ แต่ไม่มีข้อมูลการเสียภาษี ให้นำ Statement ย้อนหลัง 5 ปี หรือตั้งแต่เริ่มทำธุรกิจ เอามาแสดงกับสรรพากรท้องที่นั้นๆ บัญชีธนาคารนั้น ก็คือ บัญชีที่ท่านวางไว้หน้าเว็บ หรือใช้ในการรับเงินน่ะแหละ มีกี่บัญชีก็จัดกันไป แล้ววิธีคิดก็ไม่ยากครับ เค้าก็นำรายรับ เน้นนะครับ ช่อง "รายรับ" ทั้งหมด มาบวกรวมกันครับ (ตอนที่ผมโดน ผมดีดตัวเลขนี่มือสั่นเลยครับ ที่มือสั่นเพราะ ผมโดนบัญชีส่วนตัวด้วย เพราะมันมีรายรับจากโน่น นี่ นั่น จากที่ให้เพื่อนยืมบ้าง แล้วโอนคืนบ้าง ยืมไป ยืมมา ของผมรวมๆ แล้วหลายแสนครับ ถ้ารวมทั้งปี) ต่อครับ จากนั้น ถ้ารายรับทั้งปี เกิน 1,800,000 บาท ท่านจะโดน VAT จากรายรับนั้นครับ ที่หนักคืออย่างนี้ ดังนั้น ภาษีที่ต้องเสีย ก็จะมี ภาษีบุคคลธรรมดาปลายปี + ค่าปรับ และ VAT + ค่าปรับ x เท่า แค่นี้เองครับ T T พูดแล้วน้ำตาจะไหล ที่ไม่พูดถึง ภาษีบุคคลธรรมดาเท่าไร เพราะไม่หนักมากครับ แต่ที่หนักจริง แล้วน่ากลัวจริงๆ คือ VAT ครับ เพราะ VAT คิดจากรายรับ สมมุติว่าเรามีรายรับรวมแล้ว 2,000,000 บาท เค้าไม่ได้มาหักต้นทุนอะไรนะครับ คุณต้องจ่ายเลย 7% จาก 2M เป็นเงิน 140,000 บาทและถ้าโดยค่าปรับ 2 เท่า ท่านก็ต้องเสีย 280,000 บาท ในปีนั้นคร๊าบบบบบบบ นี่แหละ ที่น่ากลัวกว่า ภาษีบุคคลธรรมดาเยอะครับ เพราะนั่นยังเอารายจ่ายมาหักได้ มีอะไรลดหย่อนได้ครับ แต่ VAT ถ้าไม่มีเอกสารที่ถูกต้อง ก็หักอะไรไม่ได้ทั้งนั้นครับ --------------------------------- 3. ถ้าโดนแล้ว จะทำยังไง? ให้ลองไปหาอ่านใน Google ครับ ส่วนมากก็ไม่รอดครับ สำหรับผม คนธรรมดาไม่มีอะไรเลย เบื้องต้น - ทำใจให้ได้ครับ ตั้งสติให้ดี ยอมรับความจริงให้ได้ - ปรึกษาผู้รู้จริงครับ เน้นว่า รู้จริง และต้องผ่านประสบการณ์แบบนี้มาแล้วเท่านั้น แม้ทนาย ก็ต้องเป็นทนายที่ผ่านคดีแบบนี้มานะครับ ผมแนะนำ สนง. บัญชี ครับ ปรึกษาให้เค้าดีดตัวเลขว่า โดนเท่าไร ถ้าแย่ที่สุดต้องทำยังไง แล้วถ้าผ่านไปได้ ต้องทำยังไง ขั้นตอนนี้สำคัญมากนะครับ - เข้าหาสรรพากร เพื่อขอคำปรึกษาเลยครับ - ถ้าดื้อรั้นไม่ไป หรือไม่ให้ความร่วมมือ ก็จะมีจดหมายเรียก โทรมาหา หรือ แวะมาเยี่ยมครับ ถ้าหลบได้ ก็หลบครับ คดีภาษีไม่มีอายุความ ฟ้องล้มแล้ว ก็ล้มได้อีกเรื่อยๆ จนกว่าจะตายครับ ที่สำคัญ พวกที่ดื้อ ไม่คัด Statement ไป พอถึงจุดนึง ถ้าเรื่องถึงผู้ใหญ่ เค้ามีอำนาจขอให้ธนาคาร เอา Statement ไปให้เค้าทั้งหมดได้นะครับ ตรงนี้สำคัญ เพราะบางทีเรามี บัญชีโชว์ไว้ 2 บัญชี แต่มีบัญชีที่ไม่ได้โชว์ไว้ x บัญชี ทั้งหมด จะโดนทั้งกระบินะครับ ดังนั้น ถ้าเส้นท่านไม่ใหญ่พอ ขอความเมตตาเถอะครับ - ถ้าจะหัวหมอ ผ่อนก็ได้ เดือนละเท่าไรก็ว่าไป แต่กฎหมายบอกว่า ผ่อนได้ 3 งวด พร้อมดอกเบี้ยครับ โดยอาจจะทำเรื่องขอให้ลดเบื้ยปรับลงได้ ก็แล้วแต่ความเมตตาครับ หรือจะขอยืดเวลาผ่อนออกไปได้อีก ไม่แน่ใจว่ากี่เดือน แต่ไม่เกิน 10 เดือน ดังนั้น ถ้าจะผ่อนยาวๆ แบบผ่อนบ้านหละก็ หมดสิทธิครับ - ให้ฟ้องล้มละลายไปเลย ก็ได้นะครับ แต่ถ้าพ้นจากบุคคลล้มละลายแล้ว ถ้าสรรพากรพบว่า ท่านมีรายได้ มีทรัพย์สินอื่น ก็ตามฟ้องล้มได้อีกเรื่อยๆ จนกว่าจะตายไปข้างนึงครับ - สำหรับผม ผมยอมรับผิด แล้วเดินเข้าไปหาเจ้าหน้าที่สรรพากรแล้วขอปรึกษาเลยว่า "ทำอย่างไรได้บ้าง ช่วยอะไรได้บ้าง" อย่าหัวหมอครับ เพราะช่องโหว่ของเราเยอะมากครับ ของผมทำแบบนี้ เค้ามีหนทางช่วยของเค้าเองครับ แต่ก็แล้วแต่ที่ด้วยนะครับ วิธีช่วยก็มีหลายแบบ แต่ต้องตรงไปตรงมา กล้าๆ ครับ ผมว่า อย่าไปด่าว่า ประเทศเราระบบภาษีไม่เหมือนเมืองนอกเลยครับ (ผมด่ามาก่อน) ถ้าเมืองนอกนี่ ก่อนทำธุรกิจ เค้าจะมีทีมมาสอนทำบัญชี ทำภาษีก่อนครับ แต่ถ้าเจอว่าผิด ติดคุกครับ โทษหนักมาก แต่ประเทศเรา ไม่เคยมีการสอนอะไรทั้งนั้น ถ้าโดน ก็ถือว่าซวยไป จะอ้างว่า ไม่รู้ไม่ได้ แต่ทางออกก็มีแบบไทยๆ ครับ เพราะคนไทยยังไงก็ยังมีน้ำจิตน้ำใจ มีความเมตตาอยู่มากครับ --------------------------------- 4. หลังจากโดนแล้ว ทำยังไง? ท่านจะโตอีกขั้นนึงเลยครับ เหมือนหนอนแปลงร่างเป็นผีเสื้อเลย ถ้าท่านเจอ สนง. บัญชีเก่งๆ เค้าจะแนะนำเองว่า ธุรกิจแบบนี้ จะเข้าระบบแบบไหน จะทำบัญชีแบบไหน สำหรับผมจดบริษัทเลยครับ เดี่ยวนี้ง่ายครับ เค้าจะช่วงวางระบบเอกสารให้ ถ้าเราทำเองได้ก็ทำ แต่แนะนำให้หา Admin รวมเอกสารไว้ 1 คน ก็พอครับ แต่เบื้องต้นเราต้องรู้เสียก่อนว่า ภาษีมีอะไรบ้าง แนะนำคอร์สภาษีออนไลน์ของครูอัสก็ได้ครับ ตอนนั้นผมเรียกผ่าน Skilllens เรารู้แค่ภาพรวมก็พอ แต่ถ้าท่านจะเลี่ยงต่อ ก็แล้วแต่ครับ เพราะสรรพากร ก็ฉลาดมาก้ขึ้นทุกทีๆ --------------------------------- บทเรียนที่สำคัญในชีวิตครับ 1. ให้ปรึกษาคนที่รู้จริงเท่านั้น คนรู้จริงในที่นี้หมายถึง คนที่รู้เรื่องบัญชี กฎหมายภาษี ที่ Contact กับสรรพากรบ่อยๆ อย่าปรึกษาพวกที่เหมือนจะรู้นะครับ ตอนที่ผมโดนนี่ จริงๆ เริ่มจาก 0 แล้วพอเริ่มขายได้ มีรายได้บ้าง ก็อยากเข้าระบบแต่ช่วงนั้นก็กลัวย้อนหลัง ก็เลยผลัดไปเรื่อยๆ จนโดนนี่แหละครับ ช่วงนั้นก็ปรึกษาคนรู้จักหลายๆ คน เค้าก็บอกว่า โอ๊ยยย รายได้แค่นี้ ไม่ถึงล้าน หรือไม่ถึง 10ล้าน ไม่ต้องหรอก เลี่ยงๆ พวกใบหัก 3% ณ ที่จ่ายก็พอ หรือสารพัดที่จะเลียง จะบอกว่า ไอ้ที่เลี่ยงๆ นี่ เวลาโดน มันโดนแบบรวบยอดเลยนะครับ 55555+ จี๊ดได้ใจจริงๆ ที่เจ็บกว่านั้น คือ เวลาที่เราโดนแล้ว ไปปรึกษาคนเหล่านี คำตอบคือ เดี่ยวนี้เค้าเอาอย่างนี้แล้วเหรอ / ไม่รู้ว่าจะโดน / ไม่คุยด้วย / บางคนก็บอกว่า ภาษีเป็นหน้าที่ที่คนไทยต้องจ่าย ทำไมไม่จ่าย สรุปคือ น้ำตาไหลครับ เราโง่เอง แล้วคนที่ยืมเงินเราไป สรรพากรก็ดีนะ เค้าแนะนำให้เราทำหนังสือให้เค้าเซนต์ว่า เงินก้อนนี้ คนนี้ยืมไปจริง แต่เกิดอะไรรู้ไหม? ไม่มีใครยอมเซนต์เลย หลบหนีหน้าไปหมด ตอนนั้นเหมือนโดดเดี่ยวจริงๆ ครับ 2. ยอมรับผิด และชีวิตต้องเดินต่อครับ ทำให้ถูกต้องซะ สบายใจ สบายตัว ที่สำคัญ ไม่ยากอย่างที่คิดครับ สนง. บัญชีเก่ง ช่วยได้ อันนี้ยืนยันครับ ถ้ารู้จัก หรือสนิทสนมหรือมี Connection หน่อย จะช่วยได้มากนะครับ กับทีมบัญชี ใครที่โดนก็สู้ๆ นะครับ ท่านต้องผ่านไปได้ แต่ถ้ายังไม่โดน ถือว่า โครตโชคดี รีบวางแผน ทำให้ถูกต้องซะนะครับ ในระหว่างที่ท่านกำลังโกยยย รัฐบาลก็หาวิธีเก็บภาษีท่านนั่นแหละ ถ้ารอดก็โชคดี แต่ถ้าไม่รอดบอกคำเดียวว่า หนักครับ เหมือนที่ทำมาหลายๆ ปี เป็นศูนย์ หรือติดลบไปเลย สุดท้ายนี้ เมื่อมีรายได้ ก็ควรเสียภาษีให้ถูกต้องครับ อย่าลืมว่า การที่เราเลี่ยงภาษี เลี่ยงโน่นนี่ เรากำลังเอาเปรียบคนอื่นที่ทำถูกต้องอยู่ครับ คนที่เข้าระบบถูกต้อง หลายๆ คนต้องมีต้นทุนที่สูงขึ้น อย่างน้อยๆ ก็ VAT หละ แต่ก็มาโดนพวกที่ทำงานใต้ดิน "ตัดราคา" ผมว่าหลายๆ คนน่าจะเคยเจอแบบนี้ เป็นกำลังใจให้คนที่ทำถูกต้อง และกำลัง หรืออยากที่จะทำถูกต้องนะครับ ส่วนคนที่รวยเงียบๆ ขอให้รอดจากเงื้อมมือสรรพากรและหน่วยงานของรัฐอื่นๆ เช่น สรรพาสามิต ศุลกากร อ.ย. ฯลฯ ไปได้ตลอดรอดฝั่งครับ สู้ๆ ครับ :wanwan003: เพิ่มเติมนะครับ ไม่คิดว่าโพสนี้จะได้รับความสนใจมากขนาดนี้ ภาษาที่เขียนเป็นภาษาพูดทั่วไปนะครับ เขียนจากใจเลย แต่อยากจะบอกว่า เจ้าหน้าที่สรรพากรทุกท่านที่ผมสัมผัสมา น่ารัก และให้ความเมตตา และความช่วยเหลือเป็นอย่างดีครับ แต่ท่านเหล่านั้นต่างก็ต้องทำตามระบบ ตามกฏที่วางไว้ครับ จุดประสงค์ที่เขียน ไม่ใช่ว่าหน่วยงานรัฐ เรพาะกฏหมายภาษีมีมานานแล้ว เพียงแต่เริ่มเอาจริงมากขึ้นเรื่อยๆ และยังมีคนที่ไม่รู้อีกมากนะครับ ระบบมันอย่างนี้เราไปเปลี่ยนอะไรไม่ได้ เจ้าหน้าที่ก็ต้องทำตามหน้าที่ สิ่งที่แก้ได้ อยู่ที่พวกเราจะปรับตัวครับ ทำตามกฏซะให้ถูกต้อง อย่าหลบ อย่าเลี่ยง แต่ให้วางแผนและบริหารภาษีของเราให้ถูกต้องกันเถอะนะครับ ***** ส่วนภาครัฐ ก็ฟังเสียงประชาชนบ้างก็ดีครับ อย่าลืมว่า ความรู้เรื่องภาษีมันซับซ้อน แต่ยุคนี่ ใครก็ตามที่มีมือถือ ก็สามารถทำ e-commerce ได้แล้วนะครับ ลองนึกภาพถึงชาวบ้านที่มีมือถือ แล้วโพสขายของซิครับ ทุกคนทำธุรกิจอยู่ แต่แทบจะไม่มีความรู้ทางภาษีจริงๆ เลย แต่ถ้าถึงเวลาโดนเข้า มันโหดร้ายครับ ถ้าไม่มากเกินไป ให้โอกาสเขากลับตัวเถอะนะครับ แล้วเขาจะมาเป็นกำลังเป็นกระบอกเสียงให้ท่านเหมือนผม เขาจะเตือนคนรอบข้างให้ระวัง ให้ทำอย่างถูกต้องครับ ส่วนคนทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ก็จัดหนักไปตามโทษานุโทษเลยครับ หัวข้อ: Re: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ เริ่มหัวข้อโดย: @Roverpost ที่ 18 เมษายน 2017, 20:49:36 สวัสดีครับ ขอให้เป็นวิทยาทานสำหรับคนที่ยังทำไม่ถูก หรือยังไม่โดนนะครับ หรือคนที่โดนแล้ว จะได้รับมือกัน ไม่อยากให้เป็นเหมือนผม หรือหลายๆ คนครับ เพิ่งโดนเหมือนกันช่วงต้นปีที่แล้วครับ หนักครับ นอนไม่หลับไป 4 เดือน ขอบอกเพื่อนๆ ตามนี้นะครับ -------------------------------- 1. สรรพากรรู้ได้ยังไง? ไม่ยากครับ สมัยก่อน ก็ดูจาก... - ใบหักภาษี ณ ที่จ่าย จากบริษัททั่วไป (อันนี้แต่ก่อนผมก็เลี่ยงนะ โดยการคุมไม่ให้เกิน 1.8M แต่ก็ไม่รอด เดี่ยวจะบอกว่า ไม่รอดยังไงนะครับ) - ทีมสำรวจ โดยตรวจดูจากเว็บไซต์ครับ ง่ายที่สุด ก็เข้าไปดูเว็บ แล้วก็ไปที่ หน้าวิธีชำระเงิน แล้วก็ดูบัญชีธนาคารที่เราโชว์ไว้นั่นแหละครับ เค้าก็จะดูจากฐานข้อมูลว่า มีการเสียภาษีไหม แล้วจดแจ้งสมเหตุสมผลไหม ถ้าดูแล้วมีพิรุธ เช่น แจ้งว่า มีรายได้นิดเดียว แต่ในเว็บโชว์ยอดการขาย โชว์ว่าส่งของเท่านั้นเท่านี้ ฯลฯ แล้วก็จะมีหนังสือเชิญจากสรรพากรมาที่บ้านท่านครับ ใครมีใบนี้ส่งไปที่บ้าน ให้หายใจลึกๆ แล้วทำใจครับ (ตัวผมโดนจากเคสนี้) แต่ก่อนสรรพากรบอกว่า สมัยก่อนตั้งทีมเป็นทีมเล็กๆ แต่หลังๆ เริ่มจริงจังมากขึ้นเรื่อยๆ ครับ ตอนนี้มีหน่วยงานตรวจโดยเฉพาะแล้วนะครับ - ทีมล่อซื้อ สำหรับพวกที่หัวหมอ ไม่เปิดเว็บ ไม่โชว์หน้าบัญชี ก็จะเจอในรูปแบบ ลูกค้ามาซื้อ แล้วก็ขอเลขบัญชี ก็โดนครับ ยาวๆ ไปเช่นกัน หลักๆ ก็โดนจากเคสพวกนี้ครับ ยิ่งช่วงหลัง สรรพากร ได้เริ่มทดลองใช้ระบบพร้อมเพย์ ที่ผูกเลขบัญชี เข้ากับ ID Card ถ้าสำเร็จ ต่อไป น่าจะเป็นกฎหมายแล้วบังคับใช้ได้ แต่ไปรัฐ ก็จะดูกระแสเงินของแต่ละคนได้สบายๆ ครับ นโยบายลักษณะนี้เริ่มออกมาเรื่อยๆ นะครับ ลองติดตามกัน ---------------------------------- 2. ถ้าโดนแล้ว สรรพากรรู้ได้ยังไงว่า เรามีรายได้เท่าไร? ไม่ยากครับ เค้าก็มีหนังสือมาที่บ้านบอกว่า เราพบว่า ท่านมีการทำธุรกิจออนไลน์ จากเว็บไซต์ บลาๆๆ แต่ไม่มีข้อมูลการเสียภาษี ให้นำ Statement ย้อนหลัง 5 ปี หรือตั้งแต่เริ่มทำธุรกิจ เอามาแสดงกับสรรพากรท้องที่นั้นๆ บัญชีธนาคารนั้น ก็คือ บัญชีที่ท่านวางไว้หน้าเว็บ หรือใช้ในการรับเงินน่ะแหละ มีกี่บัญชีก็จัดกันไป แล้ววิธีคิดก็ไม่ยากครับ เค้าก็นำรายรับ เน้นนะครับ ช่อง "รายรับ" ทั้งหมด มาบวกรวมกันครับ (ตอนที่ผมโดน ผมดีดตัวเลขนี่มือสั่นเลยครับ ที่มือสั่นเพราะ ผมโดนบัญชีส่วนตัวด้วย เพราะมันมีรายรับจากโน่น นี่ นั่น จากที่ให้เพื่อนยืมบ้าง แล้วโอนคืนบ้าง ยืมไป ยืมมา ของผมรวมๆ แล้วหลายแสนครับ ถ้ารวมทั้งปี) ต่อครับ จากนั้น ถ้ารายรับทั้งปี เกิน 1,800,000 บาท ท่านจะโดน VAT จากรายรับนั้นครับ ที่หนักคืออย่างนี้ ดังนั้น ภาษีที่ต้องเสีย ก็จะมี ภาษีบุคคลธรรมดาปลายปี + ค่าปรับ และ VAT + ค่าปรับ x เท่า แค่นี้เองครับ T T พูดแล้วน้ำตาจะไหล ที่ไม่พูดถึง ภาษีบุคคลธรรมดาเท่าไร เพราะไม่หนักมากครับ แต่ที่หนักจริง แล้วน่ากลัวจริงๆ คือ VAT ครับ เพราะ VAT คิดจากรายรับ สมมุติว่าเรามีรายรับรวมแล้ว 2,000,000 บาท เค้าไม่ได้มาหักต้นทุนอะไรนะครับ คุณต้องจ่ายเลย 7% จาก 2M เป็นเงิน 140,000 บาทและถ้าโดยค่าปรับ 2 เท่า ท่านก็ต้องเสีย 280,000 บาท ในปีนั้นคร๊าบบบบบบบ นี่แหละ ที่น่ากลัวกว่า ภาษีบุคคลธรรมดาเยอะครับ เพราะนั่นยังเอารายจ่ายมาหักได้ มีอะไรลดหย่อนได้ครับ แต่ VAT ถ้าไม่มีเอกสารที่ถูกต้อง ก็หักอะไรไม่ได้ทั้งนั้นครับ --------------------------------- 3. ถ้าโดนแล้ว จะทำยังไง? ให้ลองไปหาอ่านใน Google ครับ ส่วนมากก็ไม่รอดครับ มีบ้างที่แนะนำว่า อย่าให้ Statement หรือถ้าท่านมีเส้น หรือแบ๊กดี ให้เข้าไปคุย เจรจา อันนี้แล้วแต่นะครับ แต่สำหรับผม คนธรรมดาไม่มีอะไรเลย เบื้องต้น - ทำใจให้ได้ครับ ตั้งสติให้ดี ยอมรับความจริงให้ได้ - ปรึกษาผู้รู้จริงครับ เน้นว่า รู้จริง และต้องผ่านประสบการณ์แบบนี้มาแล้วเท่านั้น แม้ทนาย ก็ต้องเป็นทนายที่ผ่านคดีแบบนี้มานะครับ ผมแนะนำ สนง. บัญชี ครับ ปรึกษาให้เค้าดีดตัวเลขว่า โดนเท่าไร ถ้าแย่ที่สุดต้องทำยังไง แล้วถ้าผ่านไปได้ ต้องทำยังไง ขั้นตอนนี้สำคัญมากนะครับ - ถ้าดื้อรั้นไม่ไป หรือไม่ให้ความร่วมมือ ก็จะมีจดหมายเรียก โทรมาหา หรือ แวะมาเยี่ยมครับ ถ้าหลบได้ ก็หลบครับ คดีภาษีไม่มีอายุความ ฟ้องล้มแล้ว ก็ล้มได้อีกเรื่อยๆ จนกว่าจะตายครับ ที่สำคัญ พวกที่ดื้อ ไม่คัด Statement ไป พอถึงจุดนึง ถ้าเรื่องถึงผู้ใหญ่ เค้ามีอำนาจขอให้ธนาคาร เอา Statement ไปให้เค้าทั้งหมดได้นะครับ ตรงนี้สำคัญ เพราะบางทีเรามี บัญชีโชว์ไว้ 2 บัญชี แต่มีบัญชีที่ไม่ได้โชว์ไว้ x บัญชี ทั้งหมด จะโดนทั้งกระบินะครับ ดังนั้น ถ้าเส้นท่านไม่ใหญ่พอ ขอความเมตตาเถอะครับ - ถ้าจะหัวหมอ ผ่อนก็ได้ เดือนละเท่าไรก็ว่าไป แต่กฎหมายบอกว่า ผ่อนได้ 3 งวด พร้อมดอกเบี้ยครับ โดยอาจจะทำเรื่องขอให้ลดเบื้ยปรับลงได้ ก็แล้วแต่ความเมตตาครับ หรือจะขอยืดเวลาผ่อนออกไปได้อีก ไม่แน่ใจว่ากี่เดือน แต่ไม่เกิน 10 เดือน ดังนั้น ถ้าจะผ่อนยาวๆ แบบผ่อนบ้านหละก็ หมดสิทธิครับ - ให้ฟ้องล้มละลายไปเลย ก็ได้นะครับ แต่ถ้าพ้นจากบุคคลล้มละลายแล้ว ถ้าสรรพากรพบว่า ท่านมีรายได้ มีทรัพย์สินอื่น ก็ตามฟ้องล้มได้อีกเรื่อยๆ จนกว่าจะตายไปข้างนึงครับ - สำหรับผม ผมยอมรับผิด แล้วเดินเข้าไปหาเจ้าหน้าที่สรรพากรแล้วขอปรึกษาเลยว่า "ทำอย่างไรได้บ้าง ช่วยอะไรได้บ้าง" อย่าหัวหมอครับ เพราะช่องโหว่ของเราเยอะมากครับ ของผมทำแบบนี้ เค้ามีหนทางช่วยของเค้าเองครับ แต่ก็แล้วแต่ที่ด้วยนะครับ วิธีช่วยก็มีหลายแบบ แต่ต้องตรงไปตรงมา กล้าๆ ครับ ผมว่า อย่าไปด่าว่า ประเทศเราระบบภาษีไม่เหมือนเมืองนอกเลยครับ (ผมด่ามาก่อน) ถ้าเมืองนอกนี่ ก่อนทำธุรกิจ เค้าจะมีทีมมาสอนทำบัญชี ทำภาษีก่อนครับ แต่ถ้าเจอว่าผิด ติดคุกครับ โทษหนักมาก แต่ประเทศเรา ไม่เคยมีการสอนอะไรทั้งนั้น ถ้าโดน ก็ถือว่าซวยไป จะอ้างว่า ไม่รู้ไม่ได้ แต่ทางออกก็มีแบบไทยๆ ครับ เพราะคนไทยยังไงก็ยังมีน้ำจิตน้ำใจ มีความเมตตาอยู่มากครับ --------------------------------- 4. หลังจากโดนแล้ว ทำยังไง? ท่านจะโตอีกขั้นนึงเลยครับ เหมือนหนอนแปลงร่างเป็นผีเสื้อเลย ถ้าท่านเจอ สนง. บัญชีเก่งๆ เค้าจะแนะนำเองว่า ธุรกิจแบบนี้ จะเข้าระบบแบบไหน จะทำบัญชีแบบไหน สำหรับผมจดบริษัทเลยครับ เดี่ยวนี้ง่ายครับ เค้าจะช่วงวางระบบเอกสารให้ ถ้าเราทำเองได้ก็ทำ แต่แนะนำให้หา Admin รวมเอกสารไว้ 1 คน ก็พอครับ แต่เบื้องต้นเราต้องรู้เสียก่อนว่า ภาษีมีอะไรบ้าง แนะนำคอร์สภาษีออนไลน์ของครูอัสก็ได้ครับ ตอนนั้นผมเรียกผ่าน Skilllens เรารู้แค่ภาพรวมก็พอ แต่ถ้าท่านจะเลี่ยงต่อ ก็แล้วแต่ครับ เพราะสรรพากร ก็ฉลาดมาก้ขึ้นทุกทีๆ --------------------------------- บทเรียนที่สำคัญในชีวิตครับ 1. ให้ปรึกษาคนที่รู้จริงเท่านั้น คนรู้จริงในที่นี้หมายถึง คนที่รู้เรื่องบัญชี กฎหมายภาษี ที่ Contact กับสรรพากรบ่อยๆ อย่าปรึกษาพวกที่เหมือนจะรู้นะครับ ตอนที่ผมโดนนี่ จริงๆ เริ่มจาก 0 แล้วพอเริ่มขายได้ มีรายได้บ้าง ก็อยากเข้าระบบแต่ช่วงนั้นก็กลัวย้อนหลัง ก็เลยผลัดไปเรื่อยๆ จนโดนนี่แหละครับ ช่วงนั้นก็ปรึกษาคนรู้จักหลายๆ คน เค้าก็บอกว่า โอ๊ยยย รายได้แค่นี้ ไม่ถึงล้าน หรือไม่ถึง 10ล้าน ไม่ต้องหรอก เลี่ยงๆ พวกใบหัก 3% ณ ที่จ่ายก็พอ หรือสารพัดที่จะเลียง จะบอกว่า ไอ้ที่เลี่ยงๆ นี่ เวลาโดน มันโดนแบบรวบยอดเลยนะครับ 55555+ จี๊ดได้ใจจริงๆ ที่เจ็บกว่านั้น คือ เวลาที่เราโดนแล้ว ไปปรึกษาคนเหล่านี คำตอบคือ เดี่ยวนี้เค้าเอาอย่างนี้แล้วเหรอ / ไม่รู้ว่าจะโดน / ไม่คุยด้วย / บางคนก็บอกว่า ภาษีเป็นหน้าที่ที่คนไทยต้องจ่าย ทำไมไม่จ่าย สรุปคือ น้ำตาไหลครับ เราโง่เอง แล้วคนที่ยืมเงินเราไป สรรพากรก็ดีนะ เค้าแนะนำให้เราทำหนังสือให้เค้าเซนต์ว่า เงินก้อนนี้ คนนี้ยืมไปจริง แต่เกิดอะไรรู้ไหม? ไม่มีใครยอมเซนต์เลย หลบหนีหน้าไปหมด ตอนนั้นเหมือนโดดเดี่ยวจริงๆ ครับ 2. ยอมรับผิด และชีวิตต้องเดินต่อครับ ทำให้ถูกต้องซะ สบายใจ สบายตัว ที่สำคัญ ไม่ยากอย่างที่คิดครับ สนง. บัญชีเก่ง ช่วยได้ อันนี้ยืนยันครับ ถ้ารู้จัก หรือสนิทสนมหรือมี Connection หน่อย จะช่วยได้มากนะครับ กับทีมบัญชี ใครที่โดนก็สู้ๆ นะครับ ท่านต้องผ่านไปได้ แต่ถ้ายังไม่โดน ถือว่า โครตโชคดี รีบวางแผน ทำให้ถูกต้องซะนะครับ ในระหว่างที่ท่านกำลังโกยยย รัฐบาลก็หาวิธีเก็บภาษีท่านนั่นแหละ ถ้ารอดก็โชคดี แต่ถ้าไม่รอดบอกคำเดียวว่า หนักครับ เหมือนที่ทำมาหลายๆ ปี เป็นศูนย์ หรือติดลบไปเลย สุดท้ายนี้ เมื่อมีรายได้ ก็ควรเสียภาษีให้ถูกต้องครับ อย่าลืมว่า การที่เราเลี่ยงภาษี เลี่ยงโน่นนี่ เรากำลังเอาเปรียบคนอื่นที่ทำถูกต้องอยู่ครับ คนที่เข้าระบบถูกต้อง หลายๆ คนต้องมีต้นทุนที่สูงขึ้น อย่างน้อยๆ ก็ VAT หละ แต่ก็มาโดนพวกที่ทำงานใต้ดิน "ตัดราคา" ผมว่าหลายๆ คนน่าจะเคยเจอแบบนี้ เป็นกำลังใจให้คนที่ทำถูกต้อง และกำลัง หรืออยากที่จะทำถูกต้องนะครับ ส่วนคนที่รวยเงียบๆ ขอให้รอดจากเงื้อมมือสรรพากรและหน่วยงานของรัฐอื่นๆ เช่น สรรพาสามิต ศุลกากร อ.ย. ฯลฯ ไปได้ตลอดรอดฝั่งครับ สู้ๆ ครับ :wanwan003: +1 ให้ครับ ความรู้ดีมากๆ หัวข้อ: Re: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ เริ่มหัวข้อโดย: poo1059 ที่ 18 เมษายน 2017, 21:41:44 สวัสดีครับ ขอให้เป็นวิทยาทานสำหรับคนที่ยังทำไม่ถูก หรือยังไม่โดนนะครับ หรือคนที่โดนแล้ว จะได้รับมือกัน ไม่อยากให้เป็นเหมือนผม หรือหลายๆ คนครับ เพิ่งโดนเหมือนกันช่วงต้นปีที่แล้วครับ หนักครับ นอนไม่หลับไป 4 เดือน ขอบอกเพื่อนๆ ตามนี้นะครับ -------------------------------- 1. สรรพากรรู้ได้ยังไง? ไม่ยากครับ สมัยก่อน ก็ดูจาก... - ใบหักภาษี ณ ที่จ่าย จากบริษัททั่วไป (อันนี้แต่ก่อนผมก็เลี่ยงนะ โดยการคุมไม่ให้เกิน 1.8M แต่ก็ไม่รอด เดี่ยวจะบอกว่า ไม่รอดยังไงนะครับ) - ทีมสำรวจ โดยตรวจดูจากเว็บไซต์ครับ ง่ายที่สุด ก็เข้าไปดูเว็บ แล้วก็ไปที่ หน้าวิธีชำระเงิน แล้วก็ดูบัญชีธนาคารที่เราโชว์ไว้นั่นแหละครับ เค้าก็จะดูจากฐานข้อมูลว่า มีการเสียภาษีไหม แล้วจดแจ้งสมเหตุสมผลไหม ถ้าดูแล้วมีพิรุธ เช่น แจ้งว่า มีรายได้นิดเดียว แต่ในเว็บโชว์ยอดการขาย โชว์ว่าส่งของเท่านั้นเท่านี้ ฯลฯ แล้วก็จะมีหนังสือเชิญจากสรรพากรมาที่บ้านท่านครับ ใครมีใบนี้ส่งไปที่บ้าน ให้หายใจลึกๆ แล้วทำใจครับ (ตัวผมโดนจากเคสนี้) แต่ก่อนสรรพากรบอกว่า สมัยก่อนตั้งทีมเป็นทีมเล็กๆ แต่หลังๆ เริ่มจริงจังมากขึ้นเรื่อยๆ ครับ ตอนนี้มีหน่วยงานตรวจโดยเฉพาะแล้วนะครับ - ทีมล่อซื้อ สำหรับพวกที่หัวหมอ ไม่เปิดเว็บ ไม่โชว์หน้าบัญชี ก็จะเจอในรูปแบบ ลูกค้ามาซื้อ แล้วก็ขอเลขบัญชี ก็โดนครับ ยาวๆ ไปเช่นกัน หลักๆ ก็โดนจากเคสพวกนี้ครับ ยิ่งช่วงหลัง สรรพากร ได้เริ่มทดลองใช้ระบบพร้อมเพย์ ที่ผูกเลขบัญชี เข้ากับ ID Card ถ้าสำเร็จ ต่อไป น่าจะเป็นกฎหมายแล้วบังคับใช้ได้ แต่ไปรัฐ ก็จะดูกระแสเงินของแต่ละคนได้สบายๆ ครับ นโยบายลักษณะนี้เริ่มออกมาเรื่อยๆ นะครับ ลองติดตามกัน ---------------------------------- 2. ถ้าโดนแล้ว สรรพากรรู้ได้ยังไงว่า เรามีรายได้เท่าไร? ไม่ยากครับ เค้าก็มีหนังสือมาที่บ้านบอกว่า เราพบว่า ท่านมีการทำธุรกิจออนไลน์ จากเว็บไซต์ บลาๆๆ แต่ไม่มีข้อมูลการเสียภาษี ให้นำ Statement ย้อนหลัง 5 ปี หรือตั้งแต่เริ่มทำธุรกิจ เอามาแสดงกับสรรพากรท้องที่นั้นๆ บัญชีธนาคารนั้น ก็คือ บัญชีที่ท่านวางไว้หน้าเว็บ หรือใช้ในการรับเงินน่ะแหละ มีกี่บัญชีก็จัดกันไป แล้ววิธีคิดก็ไม่ยากครับ เค้าก็นำรายรับ เน้นนะครับ ช่อง "รายรับ" ทั้งหมด มาบวกรวมกันครับ (ตอนที่ผมโดน ผมดีดตัวเลขนี่มือสั่นเลยครับ ที่มือสั่นเพราะ ผมโดนบัญชีส่วนตัวด้วย เพราะมันมีรายรับจากโน่น นี่ นั่น จากที่ให้เพื่อนยืมบ้าง แล้วโอนคืนบ้าง ยืมไป ยืมมา ของผมรวมๆ แล้วหลายแสนครับ ถ้ารวมทั้งปี) ต่อครับ จากนั้น ถ้ารายรับทั้งปี เกิน 1,800,000 บาท ท่านจะโดน VAT จากรายรับนั้นครับ ที่หนักคืออย่างนี้ ดังนั้น ภาษีที่ต้องเสีย ก็จะมี ภาษีบุคคลธรรมดาปลายปี + ค่าปรับ และ VAT + ค่าปรับ x เท่า แค่นี้เองครับ T T พูดแล้วน้ำตาจะไหล ที่ไม่พูดถึง ภาษีบุคคลธรรมดาเท่าไร เพราะไม่หนักมากครับ แต่ที่หนักจริง แล้วน่ากลัวจริงๆ คือ VAT ครับ เพราะ VAT คิดจากรายรับ สมมุติว่าเรามีรายรับรวมแล้ว 2,000,000 บาท เค้าไม่ได้มาหักต้นทุนอะไรนะครับ คุณต้องจ่ายเลย 7% จาก 2M เป็นเงิน 140,000 บาทและถ้าโดยค่าปรับ 2 เท่า ท่านก็ต้องเสีย 280,000 บาท ในปีนั้นคร๊าบบบบบบบ นี่แหละ ที่น่ากลัวกว่า ภาษีบุคคลธรรมดาเยอะครับ เพราะนั่นยังเอารายจ่ายมาหักได้ มีอะไรลดหย่อนได้ครับ แต่ VAT ถ้าไม่มีเอกสารที่ถูกต้อง ก็หักอะไรไม่ได้ทั้งนั้นครับ --------------------------------- 3. ถ้าโดนแล้ว จะทำยังไง? ให้ลองไปหาอ่านใน Google ครับ ส่วนมากก็ไม่รอดครับ มีบ้างที่แนะนำว่า อย่าให้ Statement หรือถ้าท่านมีเส้น หรือแบ๊กดี ให้เข้าไปคุย เจรจา อันนี้แล้วแต่นะครับ แต่สำหรับผม คนธรรมดาไม่มีอะไรเลย เบื้องต้น - ทำใจให้ได้ครับ ตั้งสติให้ดี ยอมรับความจริงให้ได้ - ปรึกษาผู้รู้จริงครับ เน้นว่า รู้จริง และต้องผ่านประสบการณ์แบบนี้มาแล้วเท่านั้น แม้ทนาย ก็ต้องเป็นทนายที่ผ่านคดีแบบนี้มานะครับ ผมแนะนำ สนง. บัญชี ครับ ปรึกษาให้เค้าดีดตัวเลขว่า โดนเท่าไร ถ้าแย่ที่สุดต้องทำยังไง แล้วถ้าผ่านไปได้ ต้องทำยังไง ขั้นตอนนี้สำคัญมากนะครับ - ถ้าดื้อรั้นไม่ไป หรือไม่ให้ความร่วมมือ ก็จะมีจดหมายเรียก โทรมาหา หรือ แวะมาเยี่ยมครับ ถ้าหลบได้ ก็หลบครับ คดีภาษีไม่มีอายุความ ฟ้องล้มแล้ว ก็ล้มได้อีกเรื่อยๆ จนกว่าจะตายครับ ที่สำคัญ พวกที่ดื้อ ไม่คัด Statement ไป พอถึงจุดนึง ถ้าเรื่องถึงผู้ใหญ่ เค้ามีอำนาจขอให้ธนาคาร เอา Statement ไปให้เค้าทั้งหมดได้นะครับ ตรงนี้สำคัญ เพราะบางทีเรามี บัญชีโชว์ไว้ 2 บัญชี แต่มีบัญชีที่ไม่ได้โชว์ไว้ x บัญชี ทั้งหมด จะโดนทั้งกระบินะครับ ดังนั้น ถ้าเส้นท่านไม่ใหญ่พอ ขอความเมตตาเถอะครับ - ถ้าจะหัวหมอ ผ่อนก็ได้ เดือนละเท่าไรก็ว่าไป แต่กฎหมายบอกว่า ผ่อนได้ 3 งวด พร้อมดอกเบี้ยครับ โดยอาจจะทำเรื่องขอให้ลดเบื้ยปรับลงได้ ก็แล้วแต่ความเมตตาครับ หรือจะขอยืดเวลาผ่อนออกไปได้อีก ไม่แน่ใจว่ากี่เดือน แต่ไม่เกิน 10 เดือน ดังนั้น ถ้าจะผ่อนยาวๆ แบบผ่อนบ้านหละก็ หมดสิทธิครับ - ให้ฟ้องล้มละลายไปเลย ก็ได้นะครับ แต่ถ้าพ้นจากบุคคลล้มละลายแล้ว ถ้าสรรพากรพบว่า ท่านมีรายได้ มีทรัพย์สินอื่น ก็ตามฟ้องล้มได้อีกเรื่อยๆ จนกว่าจะตายไปข้างนึงครับ - สำหรับผม ผมยอมรับผิด แล้วเดินเข้าไปหาเจ้าหน้าที่สรรพากรแล้วขอปรึกษาเลยว่า "ทำอย่างไรได้บ้าง ช่วยอะไรได้บ้าง" อย่าหัวหมอครับ เพราะช่องโหว่ของเราเยอะมากครับ ของผมทำแบบนี้ เค้ามีหนทางช่วยของเค้าเองครับ แต่ก็แล้วแต่ที่ด้วยนะครับ วิธีช่วยก็มีหลายแบบ แต่ต้องตรงไปตรงมา กล้าๆ ครับ ผมว่า อย่าไปด่าว่า ประเทศเราระบบภาษีไม่เหมือนเมืองนอกเลยครับ (ผมด่ามาก่อน) ถ้าเมืองนอกนี่ ก่อนทำธุรกิจ เค้าจะมีทีมมาสอนทำบัญชี ทำภาษีก่อนครับ แต่ถ้าเจอว่าผิด ติดคุกครับ โทษหนักมาก แต่ประเทศเรา ไม่เคยมีการสอนอะไรทั้งนั้น ถ้าโดน ก็ถือว่าซวยไป จะอ้างว่า ไม่รู้ไม่ได้ แต่ทางออกก็มีแบบไทยๆ ครับ เพราะคนไทยยังไงก็ยังมีน้ำจิตน้ำใจ มีความเมตตาอยู่มากครับ --------------------------------- 4. หลังจากโดนแล้ว ทำยังไง? ท่านจะโตอีกขั้นนึงเลยครับ เหมือนหนอนแปลงร่างเป็นผีเสื้อเลย ถ้าท่านเจอ สนง. บัญชีเก่งๆ เค้าจะแนะนำเองว่า ธุรกิจแบบนี้ จะเข้าระบบแบบไหน จะทำบัญชีแบบไหน สำหรับผมจดบริษัทเลยครับ เดี่ยวนี้ง่ายครับ เค้าจะช่วงวางระบบเอกสารให้ ถ้าเราทำเองได้ก็ทำ แต่แนะนำให้หา Admin รวมเอกสารไว้ 1 คน ก็พอครับ แต่เบื้องต้นเราต้องรู้เสียก่อนว่า ภาษีมีอะไรบ้าง แนะนำคอร์สภาษีออนไลน์ของครูอัสก็ได้ครับ ตอนนั้นผมเรียกผ่าน Skilllens เรารู้แค่ภาพรวมก็พอ แต่ถ้าท่านจะเลี่ยงต่อ ก็แล้วแต่ครับ เพราะสรรพากร ก็ฉลาดมาก้ขึ้นทุกทีๆ --------------------------------- บทเรียนที่สำคัญในชีวิตครับ 1. ให้ปรึกษาคนที่รู้จริงเท่านั้น คนรู้จริงในที่นี้หมายถึง คนที่รู้เรื่องบัญชี กฎหมายภาษี ที่ Contact กับสรรพากรบ่อยๆ อย่าปรึกษาพวกที่เหมือนจะรู้นะครับ ตอนที่ผมโดนนี่ จริงๆ เริ่มจาก 0 แล้วพอเริ่มขายได้ มีรายได้บ้าง ก็อยากเข้าระบบแต่ช่วงนั้นก็กลัวย้อนหลัง ก็เลยผลัดไปเรื่อยๆ จนโดนนี่แหละครับ ช่วงนั้นก็ปรึกษาคนรู้จักหลายๆ คน เค้าก็บอกว่า โอ๊ยยย รายได้แค่นี้ ไม่ถึงล้าน หรือไม่ถึง 10ล้าน ไม่ต้องหรอก เลี่ยงๆ พวกใบหัก 3% ณ ที่จ่ายก็พอ หรือสารพัดที่จะเลียง จะบอกว่า ไอ้ที่เลี่ยงๆ นี่ เวลาโดน มันโดนแบบรวบยอดเลยนะครับ 55555+ จี๊ดได้ใจจริงๆ ที่เจ็บกว่านั้น คือ เวลาที่เราโดนแล้ว ไปปรึกษาคนเหล่านี คำตอบคือ เดี่ยวนี้เค้าเอาอย่างนี้แล้วเหรอ / ไม่รู้ว่าจะโดน / ไม่คุยด้วย / บางคนก็บอกว่า ภาษีเป็นหน้าที่ที่คนไทยต้องจ่าย ทำไมไม่จ่าย สรุปคือ น้ำตาไหลครับ เราโง่เอง แล้วคนที่ยืมเงินเราไป สรรพากรก็ดีนะ เค้าแนะนำให้เราทำหนังสือให้เค้าเซนต์ว่า เงินก้อนนี้ คนนี้ยืมไปจริง แต่เกิดอะไรรู้ไหม? ไม่มีใครยอมเซนต์เลย หลบหนีหน้าไปหมด ตอนนั้นเหมือนโดดเดี่ยวจริงๆ ครับ 2. ยอมรับผิด และชีวิตต้องเดินต่อครับ ทำให้ถูกต้องซะ สบายใจ สบายตัว ที่สำคัญ ไม่ยากอย่างที่คิดครับ สนง. บัญชีเก่ง ช่วยได้ อันนี้ยืนยันครับ ถ้ารู้จัก หรือสนิทสนมหรือมี Connection หน่อย จะช่วยได้มากนะครับ กับทีมบัญชี ใครที่โดนก็สู้ๆ นะครับ ท่านต้องผ่านไปได้ แต่ถ้ายังไม่โดน ถือว่า โครตโชคดี รีบวางแผน ทำให้ถูกต้องซะนะครับ ในระหว่างที่ท่านกำลังโกยยย รัฐบาลก็หาวิธีเก็บภาษีท่านนั่นแหละ ถ้ารอดก็โชคดี แต่ถ้าไม่รอดบอกคำเดียวว่า หนักครับ เหมือนที่ทำมาหลายๆ ปี เป็นศูนย์ หรือติดลบไปเลย สุดท้ายนี้ เมื่อมีรายได้ ก็ควรเสียภาษีให้ถูกต้องครับ อย่าลืมว่า การที่เราเลี่ยงภาษี เลี่ยงโน่นนี่ เรากำลังเอาเปรียบคนอื่นที่ทำถูกต้องอยู่ครับ คนที่เข้าระบบถูกต้อง หลายๆ คนต้องมีต้นทุนที่สูงขึ้น อย่างน้อยๆ ก็ VAT หละ แต่ก็มาโดนพวกที่ทำงานใต้ดิน "ตัดราคา" ผมว่าหลายๆ คนน่าจะเคยเจอแบบนี้ เป็นกำลังใจให้คนที่ทำถูกต้อง และกำลัง หรืออยากที่จะทำถูกต้องนะครับ ส่วนคนที่รวยเงียบๆ ขอให้รอดจากเงื้อมมือสรรพากรและหน่วยงานของรัฐอื่นๆ เช่น สรรพาสามิต ศุลกากร อ.ย. ฯลฯ ไปได้ตลอดรอดฝั่งครับ สู้ๆ ครับ :wanwan003: ถ้าเรายอดขายใกล้จะถึง1.8 ต้องจดvatนี้ต้องจดยังไงบ้างค่ะ เตรียมอะไรบ้าง สามารถหาข้อมูลได้ที่ไหนค่ะ หัวข้อ: Re: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ เริ่มหัวข้อโดย: aodblog.com ที่ 18 เมษายน 2017, 22:57:55 เอาอันนี้ไปอ้างดูครับ >> http://tax.bugnoms.com/hello-taxpayer-20/
เงินได้ที่ได้รับจากพ่อแม่เพื่อการเลี้ยงดูนั้น แม้จะถือเป็นเงินได้ แต่ได้รับยกเว้นตามมาตรา 42 (10) แห่งประมวลรัษฎากร โดยระบุไว้ชัดเจนเลยว่า “เงินได้ที่ได้รับจากการอุปการะโดยหน้าที่ธรรมจรรยา เงินได้ที่ได้รับจากการรับมรดก หรือจากการให้โดยเสน่หาเนื่องในพิธีหรือตามโอกาสแห่งขนบธรรมเนียมประเพณี” บอกเงินที่อยู่ในบัญชี ไม่ใช้ขายของอย่างเดียว พ่อแม่ผมให้มาด้วย :wanwan007: :wanwan019: หัวข้อ: Re: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ เริ่มหัวข้อโดย: aodblog.com ที่ 18 เมษายน 2017, 23:00:07 สวัสดีครับ ขอให้เป็นวิทยาทานสำหรับคนที่ยังทำไม่ถูก หรือยังไม่โดนนะครับ หรือคนที่โดนแล้ว จะได้รับมือกัน ไม่อยากให้เป็นเหมือนผม หรือหลายๆ คนครับ เพิ่งโดนเหมือนกันช่วงต้นปีที่แล้วครับ หนักครับ นอนไม่หลับไป 4 เดือน ขอบอกเพื่อนๆ ตามนี้นะครับ -------------------------------- 1. สรรพากรรู้ได้ยังไง? ไม่ยากครับ สมัยก่อน ก็ดูจาก... - ใบหักภาษี ณ ที่จ่าย จากบริษัททั่วไป (อันนี้แต่ก่อนผมก็เลี่ยงนะ โดยการคุมไม่ให้เกิน 1.8M แต่ก็ไม่รอด เดี่ยวจะบอกว่า ไม่รอดยังไงนะครับ) - ทีมสำรวจ โดยตรวจดูจากเว็บไซต์ครับ ง่ายที่สุด ก็เข้าไปดูเว็บ แล้วก็ไปที่ หน้าวิธีชำระเงิน แล้วก็ดูบัญชีธนาคารที่เราโชว์ไว้นั่นแหละครับ เค้าก็จะดูจากฐานข้อมูลว่า มีการเสียภาษีไหม แล้วจดแจ้งสมเหตุสมผลไหม ถ้าดูแล้วมีพิรุธ เช่น แจ้งว่า มีรายได้นิดเดียว แต่ในเว็บโชว์ยอดการขาย โชว์ว่าส่งของเท่านั้นเท่านี้ ฯลฯ แล้วก็จะมีหนังสือเชิญจากสรรพากรมาที่บ้านท่านครับ ใครมีใบนี้ส่งไปที่บ้าน ให้หายใจลึกๆ แล้วทำใจครับ (ตัวผมโดนจากเคสนี้) แต่ก่อนสรรพากรบอกว่า สมัยก่อนตั้งทีมเป็นทีมเล็กๆ แต่หลังๆ เริ่มจริงจังมากขึ้นเรื่อยๆ ครับ ตอนนี้มีหน่วยงานตรวจโดยเฉพาะแล้วนะครับ - ทีมล่อซื้อ สำหรับพวกที่หัวหมอ ไม่เปิดเว็บ ไม่โชว์หน้าบัญชี ก็จะเจอในรูปแบบ ลูกค้ามาซื้อ แล้วก็ขอเลขบัญชี ก็โดนครับ ยาวๆ ไปเช่นกัน หลักๆ ก็โดนจากเคสพวกนี้ครับ ยิ่งช่วงหลัง สรรพากร ได้เริ่มทดลองใช้ระบบพร้อมเพย์ ที่ผูกเลขบัญชี เข้ากับ ID Card ถ้าสำเร็จ ต่อไป น่าจะเป็นกฎหมายแล้วบังคับใช้ได้ แต่ไปรัฐ ก็จะดูกระแสเงินของแต่ละคนได้สบายๆ ครับ นโยบายลักษณะนี้เริ่มออกมาเรื่อยๆ นะครับ ลองติดตามกัน ---------------------------------- 2. ถ้าโดนแล้ว สรรพากรรู้ได้ยังไงว่า เรามีรายได้เท่าไร? ไม่ยากครับ เค้าก็มีหนังสือมาที่บ้านบอกว่า เราพบว่า ท่านมีการทำธุรกิจออนไลน์ จากเว็บไซต์ บลาๆๆ แต่ไม่มีข้อมูลการเสียภาษี ให้นำ Statement ย้อนหลัง 5 ปี หรือตั้งแต่เริ่มทำธุรกิจ เอามาแสดงกับสรรพากรท้องที่นั้นๆ บัญชีธนาคารนั้น ก็คือ บัญชีที่ท่านวางไว้หน้าเว็บ หรือใช้ในการรับเงินน่ะแหละ มีกี่บัญชีก็จัดกันไป แล้ววิธีคิดก็ไม่ยากครับ เค้าก็นำรายรับ เน้นนะครับ ช่อง "รายรับ" ทั้งหมด มาบวกรวมกันครับ (ตอนที่ผมโดน ผมดีดตัวเลขนี่มือสั่นเลยครับ ที่มือสั่นเพราะ ผมโดนบัญชีส่วนตัวด้วย เพราะมันมีรายรับจากโน่น นี่ นั่น จากที่ให้เพื่อนยืมบ้าง แล้วโอนคืนบ้าง ยืมไป ยืมมา ของผมรวมๆ แล้วหลายแสนครับ ถ้ารวมทั้งปี) ต่อครับ จากนั้น ถ้ารายรับทั้งปี เกิน 1,800,000 บาท ท่านจะโดน VAT จากรายรับนั้นครับ ที่หนักคืออย่างนี้ ดังนั้น ภาษีที่ต้องเสีย ก็จะมี ภาษีบุคคลธรรมดาปลายปี + ค่าปรับ และ VAT + ค่าปรับ x เท่า แค่นี้เองครับ T T พูดแล้วน้ำตาจะไหล ที่ไม่พูดถึง ภาษีบุคคลธรรมดาเท่าไร เพราะไม่หนักมากครับ แต่ที่หนักจริง แล้วน่ากลัวจริงๆ คือ VAT ครับ เพราะ VAT คิดจากรายรับ สมมุติว่าเรามีรายรับรวมแล้ว 2,000,000 บาท เค้าไม่ได้มาหักต้นทุนอะไรนะครับ คุณต้องจ่ายเลย 7% จาก 2M เป็นเงิน 140,000 บาทและถ้าโดยค่าปรับ 2 เท่า ท่านก็ต้องเสีย 280,000 บาท ในปีนั้นคร๊าบบบบบบบ นี่แหละ ที่น่ากลัวกว่า ภาษีบุคคลธรรมดาเยอะครับ เพราะนั่นยังเอารายจ่ายมาหักได้ มีอะไรลดหย่อนได้ครับ แต่ VAT ถ้าไม่มีเอกสารที่ถูกต้อง ก็หักอะไรไม่ได้ทั้งนั้นครับ --------------------------------- 3. ถ้าโดนแล้ว จะทำยังไง? ให้ลองไปหาอ่านใน Google ครับ ส่วนมากก็ไม่รอดครับ มีบ้างที่แนะนำว่า อย่าให้ Statement หรือถ้าท่านมีเส้น หรือแบ๊กดี ให้เข้าไปคุย เจรจา อันนี้แล้วแต่นะครับ แต่สำหรับผม คนธรรมดาไม่มีอะไรเลย เบื้องต้น - ทำใจให้ได้ครับ ตั้งสติให้ดี ยอมรับความจริงให้ได้ - ปรึกษาผู้รู้จริงครับ เน้นว่า รู้จริง และต้องผ่านประสบการณ์แบบนี้มาแล้วเท่านั้น แม้ทนาย ก็ต้องเป็นทนายที่ผ่านคดีแบบนี้มานะครับ ผมแนะนำ สนง. บัญชี ครับ ปรึกษาให้เค้าดีดตัวเลขว่า โดนเท่าไร ถ้าแย่ที่สุดต้องทำยังไง แล้วถ้าผ่านไปได้ ต้องทำยังไง ขั้นตอนนี้สำคัญมากนะครับ - ถ้าดื้อรั้นไม่ไป หรือไม่ให้ความร่วมมือ ก็จะมีจดหมายเรียก โทรมาหา หรือ แวะมาเยี่ยมครับ ถ้าหลบได้ ก็หลบครับ คดีภาษีไม่มีอายุความ ฟ้องล้มแล้ว ก็ล้มได้อีกเรื่อยๆ จนกว่าจะตายครับ ที่สำคัญ พวกที่ดื้อ ไม่คัด Statement ไป พอถึงจุดนึง ถ้าเรื่องถึงผู้ใหญ่ เค้ามีอำนาจขอให้ธนาคาร เอา Statement ไปให้เค้าทั้งหมดได้นะครับ ตรงนี้สำคัญ เพราะบางทีเรามี บัญชีโชว์ไว้ 2 บัญชี แต่มีบัญชีที่ไม่ได้โชว์ไว้ x บัญชี ทั้งหมด จะโดนทั้งกระบินะครับ ดังนั้น ถ้าเส้นท่านไม่ใหญ่พอ ขอความเมตตาเถอะครับ - ถ้าจะหัวหมอ ผ่อนก็ได้ เดือนละเท่าไรก็ว่าไป แต่กฎหมายบอกว่า ผ่อนได้ 3 งวด พร้อมดอกเบี้ยครับ โดยอาจจะทำเรื่องขอให้ลดเบื้ยปรับลงได้ ก็แล้วแต่ความเมตตาครับ หรือจะขอยืดเวลาผ่อนออกไปได้อีก ไม่แน่ใจว่ากี่เดือน แต่ไม่เกิน 10 เดือน ดังนั้น ถ้าจะผ่อนยาวๆ แบบผ่อนบ้านหละก็ หมดสิทธิครับ - ให้ฟ้องล้มละลายไปเลย ก็ได้นะครับ แต่ถ้าพ้นจากบุคคลล้มละลายแล้ว ถ้าสรรพากรพบว่า ท่านมีรายได้ มีทรัพย์สินอื่น ก็ตามฟ้องล้มได้อีกเรื่อยๆ จนกว่าจะตายไปข้างนึงครับ - สำหรับผม ผมยอมรับผิด แล้วเดินเข้าไปหาเจ้าหน้าที่สรรพากรแล้วขอปรึกษาเลยว่า "ทำอย่างไรได้บ้าง ช่วยอะไรได้บ้าง" อย่าหัวหมอครับ เพราะช่องโหว่ของเราเยอะมากครับ ของผมทำแบบนี้ เค้ามีหนทางช่วยของเค้าเองครับ แต่ก็แล้วแต่ที่ด้วยนะครับ วิธีช่วยก็มีหลายแบบ แต่ต้องตรงไปตรงมา กล้าๆ ครับ ผมว่า อย่าไปด่าว่า ประเทศเราระบบภาษีไม่เหมือนเมืองนอกเลยครับ (ผมด่ามาก่อน) ถ้าเมืองนอกนี่ ก่อนทำธุรกิจ เค้าจะมีทีมมาสอนทำบัญชี ทำภาษีก่อนครับ แต่ถ้าเจอว่าผิด ติดคุกครับ โทษหนักมาก แต่ประเทศเรา ไม่เคยมีการสอนอะไรทั้งนั้น ถ้าโดน ก็ถือว่าซวยไป จะอ้างว่า ไม่รู้ไม่ได้ แต่ทางออกก็มีแบบไทยๆ ครับ เพราะคนไทยยังไงก็ยังมีน้ำจิตน้ำใจ มีความเมตตาอยู่มากครับ --------------------------------- 4. หลังจากโดนแล้ว ทำยังไง? ท่านจะโตอีกขั้นนึงเลยครับ เหมือนหนอนแปลงร่างเป็นผีเสื้อเลย ถ้าท่านเจอ สนง. บัญชีเก่งๆ เค้าจะแนะนำเองว่า ธุรกิจแบบนี้ จะเข้าระบบแบบไหน จะทำบัญชีแบบไหน สำหรับผมจดบริษัทเลยครับ เดี่ยวนี้ง่ายครับ เค้าจะช่วงวางระบบเอกสารให้ ถ้าเราทำเองได้ก็ทำ แต่แนะนำให้หา Admin รวมเอกสารไว้ 1 คน ก็พอครับ แต่เบื้องต้นเราต้องรู้เสียก่อนว่า ภาษีมีอะไรบ้าง แนะนำคอร์สภาษีออนไลน์ของครูอัสก็ได้ครับ ตอนนั้นผมเรียกผ่าน Skilllens เรารู้แค่ภาพรวมก็พอ แต่ถ้าท่านจะเลี่ยงต่อ ก็แล้วแต่ครับ เพราะสรรพากร ก็ฉลาดมาก้ขึ้นทุกทีๆ --------------------------------- บทเรียนที่สำคัญในชีวิตครับ 1. ให้ปรึกษาคนที่รู้จริงเท่านั้น คนรู้จริงในที่นี้หมายถึง คนที่รู้เรื่องบัญชี กฎหมายภาษี ที่ Contact กับสรรพากรบ่อยๆ อย่าปรึกษาพวกที่เหมือนจะรู้นะครับ ตอนที่ผมโดนนี่ จริงๆ เริ่มจาก 0 แล้วพอเริ่มขายได้ มีรายได้บ้าง ก็อยากเข้าระบบแต่ช่วงนั้นก็กลัวย้อนหลัง ก็เลยผลัดไปเรื่อยๆ จนโดนนี่แหละครับ ช่วงนั้นก็ปรึกษาคนรู้จักหลายๆ คน เค้าก็บอกว่า โอ๊ยยย รายได้แค่นี้ ไม่ถึงล้าน หรือไม่ถึง 10ล้าน ไม่ต้องหรอก เลี่ยงๆ พวกใบหัก 3% ณ ที่จ่ายก็พอ หรือสารพัดที่จะเลียง จะบอกว่า ไอ้ที่เลี่ยงๆ นี่ เวลาโดน มันโดนแบบรวบยอดเลยนะครับ 55555+ จี๊ดได้ใจจริงๆ ที่เจ็บกว่านั้น คือ เวลาที่เราโดนแล้ว ไปปรึกษาคนเหล่านี คำตอบคือ เดี่ยวนี้เค้าเอาอย่างนี้แล้วเหรอ / ไม่รู้ว่าจะโดน / ไม่คุยด้วย / บางคนก็บอกว่า ภาษีเป็นหน้าที่ที่คนไทยต้องจ่าย ทำไมไม่จ่าย สรุปคือ น้ำตาไหลครับ เราโง่เอง แล้วคนที่ยืมเงินเราไป สรรพากรก็ดีนะ เค้าแนะนำให้เราทำหนังสือให้เค้าเซนต์ว่า เงินก้อนนี้ คนนี้ยืมไปจริง แต่เกิดอะไรรู้ไหม? ไม่มีใครยอมเซนต์เลย หลบหนีหน้าไปหมด ตอนนั้นเหมือนโดดเดี่ยวจริงๆ ครับ 2. ยอมรับผิด และชีวิตต้องเดินต่อครับ ทำให้ถูกต้องซะ สบายใจ สบายตัว ที่สำคัญ ไม่ยากอย่างที่คิดครับ สนง. บัญชีเก่ง ช่วยได้ อันนี้ยืนยันครับ ถ้ารู้จัก หรือสนิทสนมหรือมี Connection หน่อย จะช่วยได้มากนะครับ กับทีมบัญชี ใครที่โดนก็สู้ๆ นะครับ ท่านต้องผ่านไปได้ แต่ถ้ายังไม่โดน ถือว่า โครตโชคดี รีบวางแผน ทำให้ถูกต้องซะนะครับ ในระหว่างที่ท่านกำลังโกยยย รัฐบาลก็หาวิธีเก็บภาษีท่านนั่นแหละ ถ้ารอดก็โชคดี แต่ถ้าไม่รอดบอกคำเดียวว่า หนักครับ เหมือนที่ทำมาหลายๆ ปี เป็นศูนย์ หรือติดลบไปเลย สุดท้ายนี้ เมื่อมีรายได้ ก็ควรเสียภาษีให้ถูกต้องครับ อย่าลืมว่า การที่เราเลี่ยงภาษี เลี่ยงโน่นนี่ เรากำลังเอาเปรียบคนอื่นที่ทำถูกต้องอยู่ครับ คนที่เข้าระบบถูกต้อง หลายๆ คนต้องมีต้นทุนที่สูงขึ้น อย่างน้อยๆ ก็ VAT หละ แต่ก็มาโดนพวกที่ทำงานใต้ดิน "ตัดราคา" ผมว่าหลายๆ คนน่าจะเคยเจอแบบนี้ เป็นกำลังใจให้คนที่ทำถูกต้อง และกำลัง หรืออยากที่จะทำถูกต้องนะครับ ส่วนคนที่รวยเงียบๆ ขอให้รอดจากเงื้อมมือสรรพากรและหน่วยงานของรัฐอื่นๆ เช่น สรรพาสามิต ศุลกากร อ.ย. ฯลฯ ไปได้ตลอดรอดฝั่งครับ สู้ๆ ครับ :wanwan003: ถ้าเรายอดขายใกล้จะถึง1.8 ต้องจดvatนี้ต้องจดยังไงบ้างค่ะ เตรียมอะไรบ้าง สามารถหาข้อมูลได้ที่ไหนค่ะ หัวข้อ: Re: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ เริ่มหัวข้อโดย: aodblog.com ที่ 18 เมษายน 2017, 23:05:16 พนักงานสรรพากร ควรพูดดีกับเรานะเราเสียเงินให้ มีบางท่าน บางงเขต :wanwan010: พูดให้ดีหน่อย เขตหาดใหญ่ ยิ้มแย้มดีมากผมบวก AAA ให้เลย
หัวข้อ: Re: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ เริ่มหัวข้อโดย: Moyzier ที่ 18 เมษายน 2017, 23:12:21 โห ถือว่าเยอะมากนะครับ เสียภาษีตั้ง 5 แสน แบบนี้ควรไปคุยกับเค้าดีกว่าครับ พูดดีๆ อาจจะลดให้ก็ได้
หัวข้อ: Re: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ เริ่มหัวข้อโดย: dez ที่ 18 เมษายน 2017, 23:18:13 ความรู้ใหม่เลยนะนี่ ระวังไว้ :'(
หัวข้อ: Re: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ เริ่มหัวข้อโดย: inthachak ที่ 18 เมษายน 2017, 23:53:04 โดนจดหมายเรียกตั้งแต่ต้นปี 59 โดยย้อนหลังปี 56 57 58 เนื่องจากทำธุรกิจขายของออนไลน์ พอรู้จึงปิด web เลยเพราะยอดขายตกลงไปเยอะมาก เรื่องเงียบไป จนต้นปี 60 เจ้าหน้าที่ก็มาที่บ้าน เรียกให้ไปคุยใจก็ไม่อยากไป จนโทรมาขู่ทุกอาทิตย์ พ่อบอกให้ไปคุยดู ก็ไปโดยเรื่องของจด VAT 7% ทำให้โดนหนักเลย ปี 56 5 หมื่นกว่า ปี 57 3 แสนกว่า ปี 58 1 แสนกว่า รวมเกือบ 5 แสน ให้จ่ายในเดือนนี้เกือบ 5 แสน ไม่งั้นโดนค่าปรับ 2 เท่าและค่าปรับจ่ายช้าเดือนละ 1000 รวมล้านนิดๆ และจะฟ้องล้มละลาย ทางออก 1. เจรจาขอลด จะลดได้เยอะไหม เหลือซักแสน ไม่เอา vat มาคิด จะเป็นไปได้ จะลองคุยขอเงินพ่อมาจ่ายแต่ถ้าเยอะมากคงไม่ไหว 2. ยอมถูกฟ้องล้มละลาย เพราะทรัพย์มีแค่ มอไซค์ 1 คัน ที่เป็นชื่อเรา เนื่องจากธุรกิจ มันไม่ดีเหมือนก่อน หาเงินก็ไม่ง่าย ไอ้เราก็ไม่ใช่โรงงานผู้ผลิต ซื้อมา ขายไปโดน VAT7% บอกได้เลยว่า โครตโหดร้ายเลย เข้าใจว่าต้องจ่ายภาษี แต่โดนขนาดนี้ ล้มเป็นล้ม ให้ละลายไปเลย ใครมีประสบการณ์ หรือทางออกช่วยแนะนำทีครับ หรือหลังไมค์ได้ครับ อ่านแล้วเดาว่า ท่านคงจดทะเบียนนิติบุคคลแล้วก็จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มด้วย ดังนั้น หากซื้อมาขายไป สามารถนำรายจ่ายที่ซื้อมามี vat ก็นำไปเคลมคืนได้ทุกเดือน โดยต้องมีใบกำกับภาษีมูลค่าเพิ่มจากผู้ขาย แต่หากผู้ขายขายสินค้าให้ท่านไม่มีใบกำกับภาษี ท่านก็ไม่สามารถนำใบเสร็จรับเงินมาเคลมได้ หลังจากท่านทำการขายสินค้าให้ลูกค้า ต้องออกใบกำกับภาษีให้กับลูกค้า ท่านมี Vat ท่านรับ Vat จากลูกค้ามาเท่าไร ก็ส่งคืนสรรพากรทุกเดือน อันนี้ก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าไม่ยอมส่งให้สรรพากร เก็บมาเองเหมือนรายได้ตัวเอง อันนี้ก็ต้องรับภาระตามใบกำกับภาษี ที่ท่านออกค่ะ ดังนั้น สรรพากร จะต้องสืบหาที่มาที่ไปของรายได้ และรายจ่าย ค่ะ หากขาไหนขาดเอกสารสำคัญ ก็เป็นอันที่ต้องพิสูจน์กันต่อไปค่ะ ขอให้คำปรึกษาเบื้องต้นแค่นี้ก่อนนะคะ หัวข้อ: Re: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ เริ่มหัวข้อโดย: subport ที่ 19 เมษายน 2017, 00:50:24 สวัสดีครับ ขอให้เป็นวิทยาทานสำหรับคนที่ยังทำไม่ถูก หรือยังไม่โดนนะครับ หรือคนที่โดนแล้ว จะได้รับมือกัน ไม่อยากให้เป็นเหมือนผม หรือหลายๆ คนครับ เพิ่งโดนเหมือนกันช่วงต้นปีที่แล้วครับ หนักครับ นอนไม่หลับไป 4 เดือน ขอบอกเพื่อนๆ ตามนี้นะครับ -------------------------------- 1. สรรพากรรู้ได้ยังไง? ไม่ยากครับ สมัยก่อน ก็ดูจาก... - ใบหักภาษี ณ ที่จ่าย จากบริษัททั่วไป (อันนี้แต่ก่อนผมก็เลี่ยงนะ โดยการคุมไม่ให้เกิน 1.8M แต่ก็ไม่รอด เดี่ยวจะบอกว่า ไม่รอดยังไงนะครับ) - ทีมสำรวจ โดยตรวจดูจากเว็บไซต์ครับ ง่ายที่สุด ก็เข้าไปดูเว็บ แล้วก็ไปที่ หน้าวิธีชำระเงิน แล้วก็ดูบัญชีธนาคารที่เราโชว์ไว้นั่นแหละครับ เค้าก็จะดูจากฐานข้อมูลว่า มีการเสียภาษีไหม แล้วจดแจ้งสมเหตุสมผลไหม ถ้าดูแล้วมีพิรุธ เช่น แจ้งว่า มีรายได้นิดเดียว แต่ในเว็บโชว์ยอดการขาย โชว์ว่าส่งของเท่านั้นเท่านี้ ฯลฯ แล้วก็จะมีหนังสือเชิญจากสรรพากรมาที่บ้านท่านครับ ใครมีใบนี้ส่งไปที่บ้าน ให้หายใจลึกๆ แล้วทำใจครับ (ตัวผมโดนจากเคสนี้) แต่ก่อนสรรพากรบอกว่า สมัยก่อนตั้งทีมเป็นทีมเล็กๆ แต่หลังๆ เริ่มจริงจังมากขึ้นเรื่อยๆ ครับ ตอนนี้มีหน่วยงานตรวจโดยเฉพาะแล้วนะครับ - ทีมล่อซื้อ สำหรับพวกที่หัวหมอ ไม่เปิดเว็บ ไม่โชว์หน้าบัญชี ก็จะเจอในรูปแบบ ลูกค้ามาซื้อ แล้วก็ขอเลขบัญชี ก็โดนครับ ยาวๆ ไปเช่นกัน หลักๆ ก็โดนจากเคสพวกนี้ครับ ยิ่งช่วงหลัง สรรพากร ได้เริ่มทดลองใช้ระบบพร้อมเพย์ ที่ผูกเลขบัญชี เข้ากับ ID Card ถ้าสำเร็จ ต่อไป น่าจะเป็นกฎหมายแล้วบังคับใช้ได้ แต่ไปรัฐ ก็จะดูกระแสเงินของแต่ละคนได้สบายๆ ครับ นโยบายลักษณะนี้เริ่มออกมาเรื่อยๆ นะครับ ลองติดตามกัน ---------------------------------- 2. ถ้าโดนแล้ว สรรพากรรู้ได้ยังไงว่า เรามีรายได้เท่าไร? ไม่ยากครับ เค้าก็มีหนังสือมาที่บ้านบอกว่า เราพบว่า ท่านมีการทำธุรกิจออนไลน์ จากเว็บไซต์ บลาๆๆ แต่ไม่มีข้อมูลการเสียภาษี ให้นำ Statement ย้อนหลัง 5 ปี หรือตั้งแต่เริ่มทำธุรกิจ เอามาแสดงกับสรรพากรท้องที่นั้นๆ บัญชีธนาคารนั้น ก็คือ บัญชีที่ท่านวางไว้หน้าเว็บ หรือใช้ในการรับเงินน่ะแหละ มีกี่บัญชีก็จัดกันไป แล้ววิธีคิดก็ไม่ยากครับ เค้าก็นำรายรับ เน้นนะครับ ช่อง "รายรับ" ทั้งหมด มาบวกรวมกันครับ (ตอนที่ผมโดน ผมดีดตัวเลขนี่มือสั่นเลยครับ ที่มือสั่นเพราะ ผมโดนบัญชีส่วนตัวด้วย เพราะมันมีรายรับจากโน่น นี่ นั่น จากที่ให้เพื่อนยืมบ้าง แล้วโอนคืนบ้าง ยืมไป ยืมมา ของผมรวมๆ แล้วหลายแสนครับ ถ้ารวมทั้งปี) ต่อครับ จากนั้น ถ้ารายรับทั้งปี เกิน 1,800,000 บาท ท่านจะโดน VAT จากรายรับนั้นครับ ที่หนักคืออย่างนี้ ดังนั้น ภาษีที่ต้องเสีย ก็จะมี ภาษีบุคคลธรรมดาปลายปี + ค่าปรับ และ VAT + ค่าปรับ x เท่า แค่นี้เองครับ T T พูดแล้วน้ำตาจะไหล ที่ไม่พูดถึง ภาษีบุคคลธรรมดาเท่าไร เพราะไม่หนักมากครับ แต่ที่หนักจริง แล้วน่ากลัวจริงๆ คือ VAT ครับ เพราะ VAT คิดจากรายรับ สมมุติว่าเรามีรายรับรวมแล้ว 2,000,000 บาท เค้าไม่ได้มาหักต้นทุนอะไรนะครับ คุณต้องจ่ายเลย 7% จาก 2M เป็นเงิน 140,000 บาทและถ้าโดยค่าปรับ 2 เท่า ท่านก็ต้องเสีย 280,000 บาท ในปีนั้นคร๊าบบบบบบบ นี่แหละ ที่น่ากลัวกว่า ภาษีบุคคลธรรมดาเยอะครับ เพราะนั่นยังเอารายจ่ายมาหักได้ มีอะไรลดหย่อนได้ครับ แต่ VAT ถ้าไม่มีเอกสารที่ถูกต้อง ก็หักอะไรไม่ได้ทั้งนั้นครับ --------------------------------- 3. ถ้าโดนแล้ว จะทำยังไง? ให้ลองไปหาอ่านใน Google ครับ ส่วนมากก็ไม่รอดครับ มีบ้างที่แนะนำว่า อย่าให้ Statement หรือถ้าท่านมีเส้น หรือแบ๊กดี ให้เข้าไปคุย เจรจา อันนี้แล้วแต่นะครับ แต่สำหรับผม คนธรรมดาไม่มีอะไรเลย เบื้องต้น - ทำใจให้ได้ครับ ตั้งสติให้ดี ยอมรับความจริงให้ได้ - ปรึกษาผู้รู้จริงครับ เน้นว่า รู้จริง และต้องผ่านประสบการณ์แบบนี้มาแล้วเท่านั้น แม้ทนาย ก็ต้องเป็นทนายที่ผ่านคดีแบบนี้มานะครับ ผมแนะนำ สนง. บัญชี ครับ ปรึกษาให้เค้าดีดตัวเลขว่า โดนเท่าไร ถ้าแย่ที่สุดต้องทำยังไง แล้วถ้าผ่านไปได้ ต้องทำยังไง ขั้นตอนนี้สำคัญมากนะครับ - ถ้าดื้อรั้นไม่ไป หรือไม่ให้ความร่วมมือ ก็จะมีจดหมายเรียก โทรมาหา หรือ แวะมาเยี่ยมครับ ถ้าหลบได้ ก็หลบครับ คดีภาษีไม่มีอายุความ ฟ้องล้มแล้ว ก็ล้มได้อีกเรื่อยๆ จนกว่าจะตายครับ ที่สำคัญ พวกที่ดื้อ ไม่คัด Statement ไป พอถึงจุดนึง ถ้าเรื่องถึงผู้ใหญ่ เค้ามีอำนาจขอให้ธนาคาร เอา Statement ไปให้เค้าทั้งหมดได้นะครับ ตรงนี้สำคัญ เพราะบางทีเรามี บัญชีโชว์ไว้ 2 บัญชี แต่มีบัญชีที่ไม่ได้โชว์ไว้ x บัญชี ทั้งหมด จะโดนทั้งกระบินะครับ ดังนั้น ถ้าเส้นท่านไม่ใหญ่พอ ขอความเมตตาเถอะครับ - ถ้าจะหัวหมอ ผ่อนก็ได้ เดือนละเท่าไรก็ว่าไป แต่กฎหมายบอกว่า ผ่อนได้ 3 งวด พร้อมดอกเบี้ยครับ โดยอาจจะทำเรื่องขอให้ลดเบื้ยปรับลงได้ ก็แล้วแต่ความเมตตาครับ หรือจะขอยืดเวลาผ่อนออกไปได้อีก ไม่แน่ใจว่ากี่เดือน แต่ไม่เกิน 10 เดือน ดังนั้น ถ้าจะผ่อนยาวๆ แบบผ่อนบ้านหละก็ หมดสิทธิครับ - ให้ฟ้องล้มละลายไปเลย ก็ได้นะครับ แต่ถ้าพ้นจากบุคคลล้มละลายแล้ว ถ้าสรรพากรพบว่า ท่านมีรายได้ มีทรัพย์สินอื่น ก็ตามฟ้องล้มได้อีกเรื่อยๆ จนกว่าจะตายไปข้างนึงครับ - สำหรับผม ผมยอมรับผิด แล้วเดินเข้าไปหาเจ้าหน้าที่สรรพากรแล้วขอปรึกษาเลยว่า "ทำอย่างไรได้บ้าง ช่วยอะไรได้บ้าง" อย่าหัวหมอครับ เพราะช่องโหว่ของเราเยอะมากครับ ของผมทำแบบนี้ เค้ามีหนทางช่วยของเค้าเองครับ แต่ก็แล้วแต่ที่ด้วยนะครับ วิธีช่วยก็มีหลายแบบ แต่ต้องตรงไปตรงมา กล้าๆ ครับ ผมว่า อย่าไปด่าว่า ประเทศเราระบบภาษีไม่เหมือนเมืองนอกเลยครับ (ผมด่ามาก่อน) ถ้าเมืองนอกนี่ ก่อนทำธุรกิจ เค้าจะมีทีมมาสอนทำบัญชี ทำภาษีก่อนครับ แต่ถ้าเจอว่าผิด ติดคุกครับ โทษหนักมาก แต่ประเทศเรา ไม่เคยมีการสอนอะไรทั้งนั้น ถ้าโดน ก็ถือว่าซวยไป จะอ้างว่า ไม่รู้ไม่ได้ แต่ทางออกก็มีแบบไทยๆ ครับ เพราะคนไทยยังไงก็ยังมีน้ำจิตน้ำใจ มีความเมตตาอยู่มากครับ --------------------------------- 4. หลังจากโดนแล้ว ทำยังไง? ท่านจะโตอีกขั้นนึงเลยครับ เหมือนหนอนแปลงร่างเป็นผีเสื้อเลย ถ้าท่านเจอ สนง. บัญชีเก่งๆ เค้าจะแนะนำเองว่า ธุรกิจแบบนี้ จะเข้าระบบแบบไหน จะทำบัญชีแบบไหน สำหรับผมจดบริษัทเลยครับ เดี่ยวนี้ง่ายครับ เค้าจะช่วงวางระบบเอกสารให้ ถ้าเราทำเองได้ก็ทำ แต่แนะนำให้หา Admin รวมเอกสารไว้ 1 คน ก็พอครับ แต่เบื้องต้นเราต้องรู้เสียก่อนว่า ภาษีมีอะไรบ้าง แนะนำคอร์สภาษีออนไลน์ของครูอัสก็ได้ครับ ตอนนั้นผมเรียกผ่าน Skilllens เรารู้แค่ภาพรวมก็พอ แต่ถ้าท่านจะเลี่ยงต่อ ก็แล้วแต่ครับ เพราะสรรพากร ก็ฉลาดมาก้ขึ้นทุกทีๆ --------------------------------- บทเรียนที่สำคัญในชีวิตครับ 1. ให้ปรึกษาคนที่รู้จริงเท่านั้น คนรู้จริงในที่นี้หมายถึง คนที่รู้เรื่องบัญชี กฎหมายภาษี ที่ Contact กับสรรพากรบ่อยๆ อย่าปรึกษาพวกที่เหมือนจะรู้นะครับ ตอนที่ผมโดนนี่ จริงๆ เริ่มจาก 0 แล้วพอเริ่มขายได้ มีรายได้บ้าง ก็อยากเข้าระบบแต่ช่วงนั้นก็กลัวย้อนหลัง ก็เลยผลัดไปเรื่อยๆ จนโดนนี่แหละครับ ช่วงนั้นก็ปรึกษาคนรู้จักหลายๆ คน เค้าก็บอกว่า โอ๊ยยย รายได้แค่นี้ ไม่ถึงล้าน หรือไม่ถึง 10ล้าน ไม่ต้องหรอก เลี่ยงๆ พวกใบหัก 3% ณ ที่จ่ายก็พอ หรือสารพัดที่จะเลียง จะบอกว่า ไอ้ที่เลี่ยงๆ นี่ เวลาโดน มันโดนแบบรวบยอดเลยนะครับ 55555+ จี๊ดได้ใจจริงๆ ที่เจ็บกว่านั้น คือ เวลาที่เราโดนแล้ว ไปปรึกษาคนเหล่านี คำตอบคือ เดี่ยวนี้เค้าเอาอย่างนี้แล้วเหรอ / ไม่รู้ว่าจะโดน / ไม่คุยด้วย / บางคนก็บอกว่า ภาษีเป็นหน้าที่ที่คนไทยต้องจ่าย ทำไมไม่จ่าย สรุปคือ น้ำตาไหลครับ เราโง่เอง แล้วคนที่ยืมเงินเราไป สรรพากรก็ดีนะ เค้าแนะนำให้เราทำหนังสือให้เค้าเซนต์ว่า เงินก้อนนี้ คนนี้ยืมไปจริง แต่เกิดอะไรรู้ไหม? ไม่มีใครยอมเซนต์เลย หลบหนีหน้าไปหมด ตอนนั้นเหมือนโดดเดี่ยวจริงๆ ครับ 2. ยอมรับผิด และชีวิตต้องเดินต่อครับ ทำให้ถูกต้องซะ สบายใจ สบายตัว ที่สำคัญ ไม่ยากอย่างที่คิดครับ สนง. บัญชีเก่ง ช่วยได้ อันนี้ยืนยันครับ ถ้ารู้จัก หรือสนิทสนมหรือมี Connection หน่อย จะช่วยได้มากนะครับ กับทีมบัญชี ใครที่โดนก็สู้ๆ นะครับ ท่านต้องผ่านไปได้ แต่ถ้ายังไม่โดน ถือว่า โครตโชคดี รีบวางแผน ทำให้ถูกต้องซะนะครับ ในระหว่างที่ท่านกำลังโกยยย รัฐบาลก็หาวิธีเก็บภาษีท่านนั่นแหละ ถ้ารอดก็โชคดี แต่ถ้าไม่รอดบอกคำเดียวว่า หนักครับ เหมือนที่ทำมาหลายๆ ปี เป็นศูนย์ หรือติดลบไปเลย สุดท้ายนี้ เมื่อมีรายได้ ก็ควรเสียภาษีให้ถูกต้องครับ อย่าลืมว่า การที่เราเลี่ยงภาษี เลี่ยงโน่นนี่ เรากำลังเอาเปรียบคนอื่นที่ทำถูกต้องอยู่ครับ คนที่เข้าระบบถูกต้อง หลายๆ คนต้องมีต้นทุนที่สูงขึ้น อย่างน้อยๆ ก็ VAT หละ แต่ก็มาโดนพวกที่ทำงานใต้ดิน "ตัดราคา" ผมว่าหลายๆ คนน่าจะเคยเจอแบบนี้ เป็นกำลังใจให้คนที่ทำถูกต้อง และกำลัง หรืออยากที่จะทำถูกต้องนะครับ ส่วนคนที่รวยเงียบๆ ขอให้รอดจากเงื้อมมือสรรพากรและหน่วยงานของรัฐอื่นๆ เช่น สรรพาสามิต ศุลกากร อ.ย. ฯลฯ ไปได้ตลอดรอดฝั่งครับ สู้ๆ ครับ :wanwan003: ความรู้ระดับ Hi-def ครับ ยกย่อง หัวข้อ: Re: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ เริ่มหัวข้อโดย: zentrady115 ที่ 19 เมษายน 2017, 12:19:46 ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ เริ่มหัวข้อโดย: keanwoo ที่ 19 เมษายน 2017, 13:45:02 เอาอันนี้ไปอ้างดูครับ >> [url]http://tax.bugnoms.com/hello-taxpayer-20/[/url] เงินได้ที่ได้รับจากพ่อแม่เพื่อการเลี้ยงดูนั้น แม้จะถือเป็นเงินได้ แต่ได้รับยกเว้นตามมาตรา 42 (10) แห่งประมวลรัษฎากร โดยระบุไว้ชัดเจนเลยว่า “เงินได้ที่ได้รับจากการอุปการะโดยหน้าที่ธรรมจรรยา เงินได้ที่ได้รับจากการรับมรดก หรือจากการให้โดยเสน่หาเนื่องในพิธีหรือตามโอกาสแห่งขนบธรรมเนียมประเพณี” บอกเงินที่อยู่ในบัญชี ไม่ใช้ขายของอย่างเดียว พ่อแม่ผมให้มาด้วย :wanwan007: :wanwan019: ชี้แจงอย่างที่บอกได้ครับ แต่จะชี้แจงปากเปล่าไม่ได้ครับ แต่ต้องมีหลักฐาน และเอกสารที่ชัดเจน สมเหตุสมผลครับ เวลาชี้แจง ต้องชี้แจงทีละรายการครับ เช่น รายการรายรับ ของวันที่ .... เป็นรายการของ ...... แล้วก็ทำหนังสือรับรองรายได้ตรงนี้ว่า เป็นของคนนี้ให้มาจริง พร้อมเซนต์ + แนบสำเนาบัตรประชาชน - อันนี้สรรพากรแนะนำมาครับ แต่ก็อย่างที่บอกครับ เงินหลายๆ ส่วน เช่น มาจากที่เพื่อนยืมแล้วคืนบ้าง เวลาถึงเวลาจริง ไม่มีใครมายอมเซนต์ให้ครับ เพราะแค่ว่า โดนสรรพากร ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้หลายๆ คนหนีหน้าไปเลย หัวข้อ: Re: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ เริ่มหัวข้อโดย: keanwoo ที่ 19 เมษายน 2017, 13:48:34 สวัสดีครับ ขอให้เป็นวิทยาทานสำหรับคนที่ยังทำไม่ถูก หรือยังไม่โดนนะครับ หรือคนที่โดนแล้ว จะได้รับมือกัน ไม่อยากให้เป็นเหมือนผม หรือหลายๆ คนครับ เพิ่งโดนเหมือนกันช่วงต้นปีที่แล้วครับ หนักครับ นอนไม่หลับไป 4 เดือน ขอบอกเพื่อนๆ ตามนี้นะครับ -------------------------------- 1. สรรพากรรู้ได้ยังไง? ไม่ยากครับ สมัยก่อน ก็ดูจาก... - ใบหักภาษี ณ ที่จ่าย จากบริษัททั่วไป (อันนี้แต่ก่อนผมก็เลี่ยงนะ โดยการคุมไม่ให้เกิน 1.8M แต่ก็ไม่รอด เดี่ยวจะบอกว่า ไม่รอดยังไงนะครับ) - ทีมสำรวจ โดยตรวจดูจากเว็บไซต์ครับ ง่ายที่สุด ก็เข้าไปดูเว็บ แล้วก็ไปที่ หน้าวิธีชำระเงิน แล้วก็ดูบัญชีธนาคารที่เราโชว์ไว้นั่นแหละครับ เค้าก็จะดูจากฐานข้อมูลว่า มีการเสียภาษีไหม แล้วจดแจ้งสมเหตุสมผลไหม ถ้าดูแล้วมีพิรุธ เช่น แจ้งว่า มีรายได้นิดเดียว แต่ในเว็บโชว์ยอดการขาย โชว์ว่าส่งของเท่านั้นเท่านี้ ฯลฯ แล้วก็จะมีหนังสือเชิญจากสรรพากรมาที่บ้านท่านครับ ใครมีใบนี้ส่งไปที่บ้าน ให้หายใจลึกๆ แล้วทำใจครับ (ตัวผมโดนจากเคสนี้) แต่ก่อนสรรพากรบอกว่า สมัยก่อนตั้งทีมเป็นทีมเล็กๆ แต่หลังๆ เริ่มจริงจังมากขึ้นเรื่อยๆ ครับ ตอนนี้มีหน่วยงานตรวจโดยเฉพาะแล้วนะครับ - ทีมล่อซื้อ สำหรับพวกที่หัวหมอ ไม่เปิดเว็บ ไม่โชว์หน้าบัญชี ก็จะเจอในรูปแบบ ลูกค้ามาซื้อ แล้วก็ขอเลขบัญชี ก็โดนครับ ยาวๆ ไปเช่นกัน หลักๆ ก็โดนจากเคสพวกนี้ครับ ยิ่งช่วงหลัง สรรพากร ได้เริ่มทดลองใช้ระบบพร้อมเพย์ ที่ผูกเลขบัญชี เข้ากับ ID Card ถ้าสำเร็จ ต่อไป น่าจะเป็นกฎหมายแล้วบังคับใช้ได้ แต่ไปรัฐ ก็จะดูกระแสเงินของแต่ละคนได้สบายๆ ครับ นโยบายลักษณะนี้เริ่มออกมาเรื่อยๆ นะครับ ลองติดตามกัน ---------------------------------- 2. ถ้าโดนแล้ว สรรพากรรู้ได้ยังไงว่า เรามีรายได้เท่าไร? ไม่ยากครับ เค้าก็มีหนังสือมาที่บ้านบอกว่า เราพบว่า ท่านมีการทำธุรกิจออนไลน์ จากเว็บไซต์ บลาๆๆ แต่ไม่มีข้อมูลการเสียภาษี ให้นำ Statement ย้อนหลัง 5 ปี หรือตั้งแต่เริ่มทำธุรกิจ เอามาแสดงกับสรรพากรท้องที่นั้นๆ บัญชีธนาคารนั้น ก็คือ บัญชีที่ท่านวางไว้หน้าเว็บ หรือใช้ในการรับเงินน่ะแหละ มีกี่บัญชีก็จัดกันไป แล้ววิธีคิดก็ไม่ยากครับ เค้าก็นำรายรับ เน้นนะครับ ช่อง "รายรับ" ทั้งหมด มาบวกรวมกันครับ (ตอนที่ผมโดน ผมดีดตัวเลขนี่มือสั่นเลยครับ ที่มือสั่นเพราะ ผมโดนบัญชีส่วนตัวด้วย เพราะมันมีรายรับจากโน่น นี่ นั่น จากที่ให้เพื่อนยืมบ้าง แล้วโอนคืนบ้าง ยืมไป ยืมมา ของผมรวมๆ แล้วหลายแสนครับ ถ้ารวมทั้งปี) ต่อครับ จากนั้น ถ้ารายรับทั้งปี เกิน 1,800,000 บาท ท่านจะโดน VAT จากรายรับนั้นครับ ที่หนักคืออย่างนี้ ดังนั้น ภาษีที่ต้องเสีย ก็จะมี ภาษีบุคคลธรรมดาปลายปี + ค่าปรับ และ VAT + ค่าปรับ x เท่า แค่นี้เองครับ T T พูดแล้วน้ำตาจะไหล ที่ไม่พูดถึง ภาษีบุคคลธรรมดาเท่าไร เพราะไม่หนักมากครับ แต่ที่หนักจริง แล้วน่ากลัวจริงๆ คือ VAT ครับ เพราะ VAT คิดจากรายรับ สมมุติว่าเรามีรายรับรวมแล้ว 2,000,000 บาท เค้าไม่ได้มาหักต้นทุนอะไรนะครับ คุณต้องจ่ายเลย 7% จาก 2M เป็นเงิน 140,000 บาทและถ้าโดยค่าปรับ 2 เท่า ท่านก็ต้องเสีย 280,000 บาท ในปีนั้นคร๊าบบบบบบบ นี่แหละ ที่น่ากลัวกว่า ภาษีบุคคลธรรมดาเยอะครับ เพราะนั่นยังเอารายจ่ายมาหักได้ มีอะไรลดหย่อนได้ครับ แต่ VAT ถ้าไม่มีเอกสารที่ถูกต้อง ก็หักอะไรไม่ได้ทั้งนั้นครับ --------------------------------- 3. ถ้าโดนแล้ว จะทำยังไง? ให้ลองไปหาอ่านใน Google ครับ ส่วนมากก็ไม่รอดครับ มีบ้างที่แนะนำว่า อย่าให้ Statement หรือถ้าท่านมีเส้น หรือแบ๊กดี ให้เข้าไปคุย เจรจา อันนี้แล้วแต่นะครับ แต่สำหรับผม คนธรรมดาไม่มีอะไรเลย เบื้องต้น - ทำใจให้ได้ครับ ตั้งสติให้ดี ยอมรับความจริงให้ได้ - ปรึกษาผู้รู้จริงครับ เน้นว่า รู้จริง และต้องผ่านประสบการณ์แบบนี้มาแล้วเท่านั้น แม้ทนาย ก็ต้องเป็นทนายที่ผ่านคดีแบบนี้มานะครับ ผมแนะนำ สนง. บัญชี ครับ ปรึกษาให้เค้าดีดตัวเลขว่า โดนเท่าไร ถ้าแย่ที่สุดต้องทำยังไง แล้วถ้าผ่านไปได้ ต้องทำยังไง ขั้นตอนนี้สำคัญมากนะครับ - ถ้าดื้อรั้นไม่ไป หรือไม่ให้ความร่วมมือ ก็จะมีจดหมายเรียก โทรมาหา หรือ แวะมาเยี่ยมครับ ถ้าหลบได้ ก็หลบครับ คดีภาษีไม่มีอายุความ ฟ้องล้มแล้ว ก็ล้มได้อีกเรื่อยๆ จนกว่าจะตายครับ ที่สำคัญ พวกที่ดื้อ ไม่คัด Statement ไป พอถึงจุดนึง ถ้าเรื่องถึงผู้ใหญ่ เค้ามีอำนาจขอให้ธนาคาร เอา Statement ไปให้เค้าทั้งหมดได้นะครับ ตรงนี้สำคัญ เพราะบางทีเรามี บัญชีโชว์ไว้ 2 บัญชี แต่มีบัญชีที่ไม่ได้โชว์ไว้ x บัญชี ทั้งหมด จะโดนทั้งกระบินะครับ ดังนั้น ถ้าเส้นท่านไม่ใหญ่พอ ขอความเมตตาเถอะครับ - ถ้าจะหัวหมอ ผ่อนก็ได้ เดือนละเท่าไรก็ว่าไป แต่กฎหมายบอกว่า ผ่อนได้ 3 งวด พร้อมดอกเบี้ยครับ โดยอาจจะทำเรื่องขอให้ลดเบื้ยปรับลงได้ ก็แล้วแต่ความเมตตาครับ หรือจะขอยืดเวลาผ่อนออกไปได้อีก ไม่แน่ใจว่ากี่เดือน แต่ไม่เกิน 10 เดือน ดังนั้น ถ้าจะผ่อนยาวๆ แบบผ่อนบ้านหละก็ หมดสิทธิครับ - ให้ฟ้องล้มละลายไปเลย ก็ได้นะครับ แต่ถ้าพ้นจากบุคคลล้มละลายแล้ว ถ้าสรรพากรพบว่า ท่านมีรายได้ มีทรัพย์สินอื่น ก็ตามฟ้องล้มได้อีกเรื่อยๆ จนกว่าจะตายไปข้างนึงครับ - สำหรับผม ผมยอมรับผิด แล้วเดินเข้าไปหาเจ้าหน้าที่สรรพากรแล้วขอปรึกษาเลยว่า "ทำอย่างไรได้บ้าง ช่วยอะไรได้บ้าง" อย่าหัวหมอครับ เพราะช่องโหว่ของเราเยอะมากครับ ของผมทำแบบนี้ เค้ามีหนทางช่วยของเค้าเองครับ แต่ก็แล้วแต่ที่ด้วยนะครับ วิธีช่วยก็มีหลายแบบ แต่ต้องตรงไปตรงมา กล้าๆ ครับ ผมว่า อย่าไปด่าว่า ประเทศเราระบบภาษีไม่เหมือนเมืองนอกเลยครับ (ผมด่ามาก่อน) ถ้าเมืองนอกนี่ ก่อนทำธุรกิจ เค้าจะมีทีมมาสอนทำบัญชี ทำภาษีก่อนครับ แต่ถ้าเจอว่าผิด ติดคุกครับ โทษหนักมาก แต่ประเทศเรา ไม่เคยมีการสอนอะไรทั้งนั้น ถ้าโดน ก็ถือว่าซวยไป จะอ้างว่า ไม่รู้ไม่ได้ แต่ทางออกก็มีแบบไทยๆ ครับ เพราะคนไทยยังไงก็ยังมีน้ำจิตน้ำใจ มีความเมตตาอยู่มากครับ --------------------------------- 4. หลังจากโดนแล้ว ทำยังไง? ท่านจะโตอีกขั้นนึงเลยครับ เหมือนหนอนแปลงร่างเป็นผีเสื้อเลย ถ้าท่านเจอ สนง. บัญชีเก่งๆ เค้าจะแนะนำเองว่า ธุรกิจแบบนี้ จะเข้าระบบแบบไหน จะทำบัญชีแบบไหน สำหรับผมจดบริษัทเลยครับ เดี่ยวนี้ง่ายครับ เค้าจะช่วงวางระบบเอกสารให้ ถ้าเราทำเองได้ก็ทำ แต่แนะนำให้หา Admin รวมเอกสารไว้ 1 คน ก็พอครับ แต่เบื้องต้นเราต้องรู้เสียก่อนว่า ภาษีมีอะไรบ้าง แนะนำคอร์สภาษีออนไลน์ของครูอัสก็ได้ครับ ตอนนั้นผมเรียกผ่าน Skilllens เรารู้แค่ภาพรวมก็พอ แต่ถ้าท่านจะเลี่ยงต่อ ก็แล้วแต่ครับ เพราะสรรพากร ก็ฉลาดมาก้ขึ้นทุกทีๆ --------------------------------- บทเรียนที่สำคัญในชีวิตครับ 1. ให้ปรึกษาคนที่รู้จริงเท่านั้น คนรู้จริงในที่นี้หมายถึง คนที่รู้เรื่องบัญชี กฎหมายภาษี ที่ Contact กับสรรพากรบ่อยๆ อย่าปรึกษาพวกที่เหมือนจะรู้นะครับ ตอนที่ผมโดนนี่ จริงๆ เริ่มจาก 0 แล้วพอเริ่มขายได้ มีรายได้บ้าง ก็อยากเข้าระบบแต่ช่วงนั้นก็กลัวย้อนหลัง ก็เลยผลัดไปเรื่อยๆ จนโดนนี่แหละครับ ช่วงนั้นก็ปรึกษาคนรู้จักหลายๆ คน เค้าก็บอกว่า โอ๊ยยย รายได้แค่นี้ ไม่ถึงล้าน หรือไม่ถึง 10ล้าน ไม่ต้องหรอก เลี่ยงๆ พวกใบหัก 3% ณ ที่จ่ายก็พอ หรือสารพัดที่จะเลียง จะบอกว่า ไอ้ที่เลี่ยงๆ นี่ เวลาโดน มันโดนแบบรวบยอดเลยนะครับ 55555+ จี๊ดได้ใจจริงๆ ที่เจ็บกว่านั้น คือ เวลาที่เราโดนแล้ว ไปปรึกษาคนเหล่านี คำตอบคือ เดี่ยวนี้เค้าเอาอย่างนี้แล้วเหรอ / ไม่รู้ว่าจะโดน / ไม่คุยด้วย / บางคนก็บอกว่า ภาษีเป็นหน้าที่ที่คนไทยต้องจ่าย ทำไมไม่จ่าย สรุปคือ น้ำตาไหลครับ เราโง่เอง แล้วคนที่ยืมเงินเราไป สรรพากรก็ดีนะ เค้าแนะนำให้เราทำหนังสือให้เค้าเซนต์ว่า เงินก้อนนี้ คนนี้ยืมไปจริง แต่เกิดอะไรรู้ไหม? ไม่มีใครยอมเซนต์เลย หลบหนีหน้าไปหมด ตอนนั้นเหมือนโดดเดี่ยวจริงๆ ครับ 2. ยอมรับผิด และชีวิตต้องเดินต่อครับ ทำให้ถูกต้องซะ สบายใจ สบายตัว ที่สำคัญ ไม่ยากอย่างที่คิดครับ สนง. บัญชีเก่ง ช่วยได้ อันนี้ยืนยันครับ ถ้ารู้จัก หรือสนิทสนมหรือมี Connection หน่อย จะช่วยได้มากนะครับ กับทีมบัญชี ใครที่โดนก็สู้ๆ นะครับ ท่านต้องผ่านไปได้ แต่ถ้ายังไม่โดน ถือว่า โครตโชคดี รีบวางแผน ทำให้ถูกต้องซะนะครับ ในระหว่างที่ท่านกำลังโกยยย รัฐบาลก็หาวิธีเก็บภาษีท่านนั่นแหละ ถ้ารอดก็โชคดี แต่ถ้าไม่รอดบอกคำเดียวว่า หนักครับ เหมือนที่ทำมาหลายๆ ปี เป็นศูนย์ หรือติดลบไปเลย สุดท้ายนี้ เมื่อมีรายได้ ก็ควรเสียภาษีให้ถูกต้องครับ อย่าลืมว่า การที่เราเลี่ยงภาษี เลี่ยงโน่นนี่ เรากำลังเอาเปรียบคนอื่นที่ทำถูกต้องอยู่ครับ คนที่เข้าระบบถูกต้อง หลายๆ คนต้องมีต้นทุนที่สูงขึ้น อย่างน้อยๆ ก็ VAT หละ แต่ก็มาโดนพวกที่ทำงานใต้ดิน "ตัดราคา" ผมว่าหลายๆ คนน่าจะเคยเจอแบบนี้ เป็นกำลังใจให้คนที่ทำถูกต้อง และกำลัง หรืออยากที่จะทำถูกต้องนะครับ ส่วนคนที่รวยเงียบๆ ขอให้รอดจากเงื้อมมือสรรพากรและหน่วยงานของรัฐอื่นๆ เช่น สรรพาสามิต ศุลกากร อ.ย. ฯลฯ ไปได้ตลอดรอดฝั่งครับ สู้ๆ ครับ :wanwan003: ถ้าเรายอดขายใกล้จะถึง1.8 ต้องจดvatนี้ต้องจดยังไงบ้างค่ะ เตรียมอะไรบ้าง สามารถหาข้อมูลได้ที่ไหนค่ะ ไม่ยากครับ 1. ไม่ต้องจดเลย พอถึงเวลาก็เข้าไปโดยอัตโนมัติครับ แต่ต้องจ่าย VAT นะครับ 2. ไปแจ้งจด ภพ30 ที่สรรพากรได้เลยครับ แนะนำว่า ปรึกษา สนง. บัญชีนะครับ เพราะจด VAT จดเข้าง่าย จดออกยากมากครับ ข้อมูลเพิ่มเติม http://www.aommoney.com/business-tax/%E0%B8%81%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%88%E0%B8%B0%E0%B8%96%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%88%E0%B8%94-vat-%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B9%84%E0%B8%AB%E0%B8%A1-%E0%B8%A1%E0%B8%B2#gs.ckX9__s หรือหาใน google นะครับ แนะนำว่า ปรึกษา สนง. บัญชี หรือคนที่ทำงานด้านนี้จริงๆ ที่ติดต่อสรรพากรจริงๆ ดีที่สุดครับ หัวข้อ: Re: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ เริ่มหัวข้อโดย: keanwoo ที่ 19 เมษายน 2017, 13:51:55 พนักงานสรรพากร ควรพูดดีกับเรานะเราเสียเงินให้ มีบางท่าน บางงเขต :wanwan010: พูดให้ดีหน่อย เขตหาดใหญ่ ยิ้มแย้มดีมากผมบวก AAA ให้เลย อย่าไปกลัวครับ ตอนผมโดน ผมกลัวมากก นอนไม่หลับไปเป็นเดือนๆ ทำใจยอมรับ ชี้แจงไปตรงๆ เลย ว่าเรามีเท่านี้ จะทำยังไงได้บ้าง ทุกอย่างมีทางออกครับ แต่อย่าไปเบ่ง หรือหัวหมอใส่เด็ดขาดครับ ไม่งั้นหนักเลย หลักเหตุผล ความถูกต้อง กับวัฒนธรรมแบบไทยๆ บางทีก็ต้องลู่ตามลมครับ สองมือพนมเข้าไป ทุกอย่างง่ายดายครับ หัวข้อ: Re: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ เริ่มหัวข้อโดย: fielddev ที่ 19 เมษายน 2017, 13:53:58 โดนเยอะจังครับ :P
หัวข้อ: Re: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ เริ่มหัวข้อโดย: sajai ที่ 19 เมษายน 2017, 14:21:28 โอ้ววว ขอให้หนักเป็นเบาจ้า
หัวข้อ: Re: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ เริ่มหัวข้อโดย: tobythebook ที่ 19 เมษายน 2017, 16:47:56 ให้กำลังใจ จขกท เราว่าไปคุยแหละดีที่สุด
แล้วก็ขอบคุณหลาย ๆ เม้นท์ที่ให้ความรู้นะคะ :wanwan017: หัวข้อ: Re: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ เริ่มหัวข้อโดย: ^One-Piece^ ที่ 19 เมษายน 2017, 20:09:36 ผมเริ่มโดน VAT ตั้งแต่ปี 56,57,58,59 รวมหนี้ 22 เดือน + 7 เดือน เบี้ยปรับ ก่อนพี่สรรพากรให้ผมยื่น ภพ.01 คำขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม หยุดเบี้ยปรับ แต่โดนสองเท่าของเงินภาษีที่ต้องเสียในเดือนภาษี
รวมเงินเบี้ยปรับ + เงินเพิ่ม 1.5% ต่อเดือน เกือบ 2 ล้านครับ ตอนนี้ก็กำลังหาทางออกอยู่ ซึ่งโดนเรียกสอบตั้งแต่ปลายปี 58 ตอนนี้โดนอายัดทรัพย์ไปบางส่วนแล้ว ตั้งใจเขียนบทความไว้ บันทึกเป็นช่วงๆ ว่าดำเนินการอะไรไปบ้าง แล้วผลเป็นอย่างไร เผื่อเอาไว้เป็นวิทยาทาน เคยคิดปล่อยให้ฟ้องล้มละลายไปเลย แต่พอเห็นว่าครอบครัวต้องลำบาก เราจำเป็นต้องสู้ครับ ต้องผ่านมันไปให้ได้ หัวข้อ: Re: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ เริ่มหัวข้อโดย: SOS9 ที่ 20 เมษายน 2017, 00:04:00 ผมเริ่มโดน VAT ตั้งแต่ปี 56,57,58,59 รวมหนี้ 22 เดือน + 7 เดือน เบี้ยปรับ ก่อนพี่สรรพากรให้ผมยื่น ภพ.01 คำขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม หยุดเบี้ยปรับ แต่โดนสองเท่าของเงินภาษีที่ต้องเสียในเดือนภาษี รวมเงินเบี้ยปรับ + เงินเพิ่ม 1.5% ต่อเดือน เกือบ 2 ล้านครับ ตอนนี้ก็กำลังหาทางออกอยู่ ซึ่งโดนเรียกสอบตั้งแต่ปลายปี 58 ตอนนี้โดนอายัดทรัพย์ไปบางส่วนแล้ว ตั้งใจเขียนบทความไว้ บันทึกเป็นช่วงๆ ว่าดำเนินการอะไรไปบ้าง แล้วผลเป็นอย่างไร เผื่อเอาไว้เป็นวิทยาทาน เคยคิดปล่อยให้ฟ้องล้มละลายไปเลย แต่พอเห็นว่าครอบครัวต้องลำบาก เราจำเป็นต้องสู้ครับ ต้องผ่านมันไปให้ได้ ผมก็กำลังเลือกทางออกอยู่ครับ ว่าทางออกไหนดีสุด แต่ยังไม่เจอทางออกที่เจอทางสว่าง แต่ก็ทำใจไว้แล้ว จ่ายเท่าที่ไหวดูครับ ว่าจะจ่ายจบที่เท่าไหร่ ยังไงคนที่จะขายของออนไลน์ ก็ศึกษาลู่ทาง เรื่องภาษี เดี๋ยวนี้ใกล้ตัวมากจริงๆ ถ้าเตรียมการรับมือล่วงหน้า ไม่ยากเลย อย่ามองข้ามเหมือนผม อย่าคิดว่าไม่โดน โดนทีไม่คุ้ม บอกได้เลยว่ารัฐเอาจริง หัวข้อ: Re: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ เริ่มหัวข้อโดย: LoveRomyui88io ที่ 20 เมษายน 2017, 05:53:43 โอ้ววว
หัวข้อ: Re: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ เริ่มหัวข้อโดย: lionkingz ที่ 20 เมษายน 2017, 10:23:15 โอ้วววบ๊ระเจ้า :'(
หัวข้อ: Re: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ เริ่มหัวข้อโดย: insthync ที่ 20 เมษายน 2017, 12:04:04 สอบถามด้วยครับ อย่างผมขาย Source code ตามตลาดออนไลน์ รับเงินผ่าน Paypal แล้วถอนจาก Paypal อีกที จะมีปัญหาเรื่องภาษีอะไรไหมครับ ?
หัวข้อ: Re: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ เริ่มหัวข้อโดย: Zouave ที่ 20 เมษายน 2017, 14:15:41 เอาอันนี้ไปอ้างดูครับ >> [url]http://tax.bugnoms.com/hello-taxpayer-20/[/url] เงินได้ที่ได้รับจากพ่อแม่เพื่อการเลี้ยงดูนั้น แม้จะถือเป็นเงินได้ แต่ได้รับยกเว้นตามมาตรา 42 (10) แห่งประมวลรัษฎากร โดยระบุไว้ชัดเจนเลยว่า “เงินได้ที่ได้รับจากการอุปการะโดยหน้าที่ธรรมจรรยา เงินได้ที่ได้รับจากการรับมรดก หรือจากการให้โดยเสน่หาเนื่องในพิธีหรือตามโอกาสแห่งขนบธรรมเนียมประเพณี” บอกเงินที่อยู่ในบัญชี ไม่ใช้ขายของอย่างเดียว พ่อแม่ผมให้มาด้วย :wanwan007: :wanwan019: ปีที่แล้ว เริ่มมีการเก็บภาษีมรดก นอกจากนั้นยังรวมถึงการให้โดยเสน่หาด้วย ถ้ารับจากพ่อแม่ไม่เกิน 20 ล้านไม่ต้องเสียภาษี ถ้ารับจากคนอื่นที่ไม่ใช่ญาติไม่เกิน 10 ล้าน รายละเอียดเพิ่มเติมดูได้จากตรงนี้ http://www.rd.go.th/publish/fileadmin/user_upload/borkor/Revenue_Code_Amendment_Act_40.pdf หัวข้อ: Re: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ เริ่มหัวข้อโดย: Zouave ที่ 20 เมษายน 2017, 14:25:31 สอบถามด้วยครับ อย่างผมขาย Source code ตามตลาดออนไลน์ รับเงินผ่าน Paypal แล้วถอนจาก Paypal อีกที จะมีปัญหาเรื่องภาษีอะไรไหมครับ ? เอาง่าย ๆ ว่ามันเป็นหน้าที่เราที่ต้องจ่ายภาษี หากมีรายได้เกินตามที่กฏหมายกำหนด ก็ต้องยื่นแบบจ่ายให้ถูกต้อง ซึ่งการยื่นแบบให้ถูกต้องเราสามารถยื่นลดหย่อนโน่น นี่ นั่น ได้สารพัด หากวางแผนภาษีดี ๆ ก็จ่ายไม่เยอะเท่าไร ส่วนเรื่องรายได้จาก paypal ทีนี้ก็อยู่ที่ว่าสรรพากรจะตามตรวจสอบถึง paypal ได้ไหม ถ้าตามไม่ได้ก็ลักไก่หนีภาษีไป แต่ถ้าวันดีคืนดีเค้าตามได้ขึ้นมา โดนย้อนหลังนี่อ่วมแน่นอน ไหนจะต้องหาหลักฐานย้อนหลัง(ซึ่งจะมีสักกี่คนที่เก็บไว้ละเอียดจนไปแย้งกับสรรพากรได้) แล้วก็ไม่สามารถลดหย่อนได้เหมือนยื่นปกติรายปี แถมโดนเบี้ยปรับ พร้อมดอกเบี้ยย้อนหลังอีกต่างหาก หัวข้อ: Re: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ เริ่มหัวข้อโดย: Aunpao ที่ 20 เมษายน 2017, 14:29:09 โดนเยอะจัง ขอให้ผ่านไปด้วยดีนะคะ
หัวข้อ: Re: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ เริ่มหัวข้อโดย: tcshutdown ที่ 20 เมษายน 2017, 14:35:17 โดนแบบนี่สู้ๆนะครับ
หัวข้อ: Re: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ เริ่มหัวข้อโดย: Junior1984 ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2018, 15:38:39 สวัสดีครับ ขอให้เป็นวิทยาทานสำหรับคนที่ยังทำไม่ถูก หรือยังไม่โดนนะครับ หรือคนที่โดนแล้ว จะได้รับมือกัน ไม่อยากให้เป็นเหมือนผม หรือหลายๆ คนครับ เพิ่งโดนเหมือนกันช่วงปลายปี 58 ที่แล้วครับ หนักครับ นอนไม่หลับไป 4 เดือน เรื่องมาจบเมื่อต้นปี 59 ครับ ตอนนี้เหตุการณ์ผ่านมาได้ 1 ปีกว่าๆ แล้ว ขอบอกเพื่อนๆ ตามนี้นะครับ -------------------------------- 1. สรรพากรรู้ได้ยังไง? ไม่ยากครับ สมัยก่อน ก็ดูจาก... - ใบหักภาษี ณ ที่จ่าย จากบริษัททั่วไป (อันนี้แต่ก่อนผมก็เลี่ยงนะ โดยการคุมไม่ให้เกิน 1.8M แต่ก็ไม่รอด เดี่ยวจะบอกว่า ไม่รอดยังไงนะครับ) - ทีมสำรวจ โดยตรวจดูจากเว็บไซต์ครับ ง่ายที่สุด ก็เข้าไปดูเว็บ แล้วก็ไปที่ หน้าวิธีชำระเงิน แล้วก็ดูบัญชีธนาคารที่เราโชว์ไว้นั่นแหละครับ เค้าก็จะดูจากฐานข้อมูลว่า มีการเสียภาษีไหม แล้วจดแจ้งสมเหตุสมผลไหม ถ้าดูแล้วมีพิรุธ เช่น แจ้งว่า มีรายได้นิดเดียว แต่ในเว็บโชว์ยอดการขาย โชว์ว่าส่งของเท่านั้นเท่านี้ ฯลฯ แล้วก็จะมีหนังสือเชิญจากสรรพากรมาที่บ้านท่านครับ ใครมีใบนี้ส่งไปที่บ้าน ให้หายใจลึกๆ แล้วทำใจครับ (ตัวผมโดนจากเคสนี้) แต่ก่อนสรรพากรบอกว่า สมัยก่อนตั้งทีมเป็นทีมเล็กๆ แต่หลังๆ เริ่มจริงจังมากขึ้นเรื่อยๆ ครับ ตอนนี้มีหน่วยงานตรวจโดยเฉพาะแล้วนะครับ - ทีมล่อซื้อ สำหรับพวกที่หัวหมอ ไม่เปิดเว็บ ไม่โชว์หน้าบัญชี ก็จะเจอในรูปแบบ ลูกค้ามาซื้อ แล้วก็ขอเลขบัญชี ก็โดนครับ ยาวๆ ไปเช่นกัน หลักๆ ก็โดนจากเคสพวกนี้ครับ ยิ่งช่วงหลัง สรรพากร ได้เริ่มทดลองใช้ระบบพร้อมเพย์ ที่ผูกเลขบัญชี เข้ากับ ID Card ถ้าสำเร็จ ต่อไป น่าจะเป็นกฎหมายแล้วบังคับใช้ได้ แต่ไปรัฐ ก็จะดูกระแสเงินของแต่ละคนได้สบายๆ ครับ นโยบายลักษณะนี้เริ่มออกมาเรื่อยๆ นะครับ ลองติดตามกัน ---------------------------------- 2. ถ้าโดนแล้ว สรรพากรรู้ได้ยังไงว่า เรามีรายได้เท่าไร? ไม่ยากครับ เค้าก็มีหนังสือมาที่บ้านบอกว่า เราพบว่า ท่านมีการทำธุรกิจออนไลน์ จากเว็บไซต์ บลาๆๆ แต่ไม่มีข้อมูลการเสียภาษี ให้นำ Statement ย้อนหลัง 5 ปี หรือตั้งแต่เริ่มทำธุรกิจ เอามาแสดงกับสรรพากรท้องที่นั้นๆ บัญชีธนาคารนั้น ก็คือ บัญชีที่ท่านวางไว้หน้าเว็บ หรือใช้ในการรับเงินน่ะแหละ มีกี่บัญชีก็จัดกันไป แล้ววิธีคิดก็ไม่ยากครับ เค้าก็นำรายรับ เน้นนะครับ ช่อง "รายรับ" ทั้งหมด มาบวกรวมกันครับ (ตอนที่ผมโดน ผมดีดตัวเลขนี่มือสั่นเลยครับ ที่มือสั่นเพราะ ผมโดนบัญชีส่วนตัวด้วย เพราะมันมีรายรับจากโน่น นี่ นั่น จากที่ให้เพื่อนยืมบ้าง แล้วโอนคืนบ้าง ยืมไป ยืมมา ของผมรวมๆ แล้วหลายแสนครับ ถ้ารวมทั้งปี) ต่อครับ จากนั้น ถ้ารายรับทั้งปี เกิน 1,800,000 บาท ท่านจะโดน VAT จากรายรับนั้นครับ ที่หนักคืออย่างนี้ ดังนั้น ภาษีที่ต้องเสีย ก็จะมี ภาษีบุคคลธรรมดาปลายปี + ค่าปรับ และ VAT + ค่าปรับ x เท่า แค่นี้เองครับ T T พูดแล้วน้ำตาจะไหล ที่ไม่พูดถึง ภาษีบุคคลธรรมดาเท่าไร เพราะไม่หนักมากครับ แต่ที่หนักจริง แล้วน่ากลัวจริงๆ คือ VAT ครับ เพราะ VAT คิดจากรายรับ สมมุติว่าเรามีรายรับรวมแล้ว 2,000,000 บาท เค้าไม่ได้มาหักต้นทุนอะไรนะครับ คุณต้องจ่ายเลย 7% จาก 2M เป็นเงิน 140,000 บาทและถ้าโดยค่าปรับ 2 เท่า ท่านก็ต้องเสีย 280,000 บาท ในปีนั้นคร๊าบบบบบบบ นี่แหละ ที่น่ากลัวกว่า ภาษีบุคคลธรรมดาเยอะครับ เพราะนั่นยังเอารายจ่ายมาหักได้ มีอะไรลดหย่อนได้ครับ แต่ VAT ถ้าไม่มีเอกสารที่ถูกต้อง ก็หักอะไรไม่ได้ทั้งนั้นครับ --------------------------------- 3. ถ้าโดนแล้ว จะทำยังไง? ให้ลองไปหาอ่านใน Google ครับ ส่วนมากก็ไม่รอดครับ สำหรับผม คนธรรมดาไม่มีอะไรเลย เบื้องต้น - ทำใจให้ได้ครับ ตั้งสติให้ดี ยอมรับความจริงให้ได้ - ปรึกษาผู้รู้จริงครับ เน้นว่า รู้จริง และต้องผ่านประสบการณ์แบบนี้มาแล้วเท่านั้น แม้ทนาย ก็ต้องเป็นทนายที่ผ่านคดีแบบนี้มานะครับ ผมแนะนำ สนง. บัญชี ครับ ปรึกษาให้เค้าดีดตัวเลขว่า โดนเท่าไร ถ้าแย่ที่สุดต้องทำยังไง แล้วถ้าผ่านไปได้ ต้องทำยังไง ขั้นตอนนี้สำคัญมากนะครับ - เข้าหาสรรพากร เพื่อขอคำปรึกษาเลยครับ - ถ้าดื้อรั้นไม่ไป หรือไม่ให้ความร่วมมือ ก็จะมีจดหมายเรียก โทรมาหา หรือ แวะมาเยี่ยมครับ ถ้าหลบได้ ก็หลบครับ คดีภาษีไม่มีอายุความ ฟ้องล้มแล้ว ก็ล้มได้อีกเรื่อยๆ จนกว่าจะตายครับ ที่สำคัญ พวกที่ดื้อ ไม่คัด Statement ไป พอถึงจุดนึง ถ้าเรื่องถึงผู้ใหญ่ เค้ามีอำนาจขอให้ธนาคาร เอา Statement ไปให้เค้าทั้งหมดได้นะครับ ตรงนี้สำคัญ เพราะบางทีเรามี บัญชีโชว์ไว้ 2 บัญชี แต่มีบัญชีที่ไม่ได้โชว์ไว้ x บัญชี ทั้งหมด จะโดนทั้งกระบินะครับ ดังนั้น ถ้าเส้นท่านไม่ใหญ่พอ ขอความเมตตาเถอะครับ - ถ้าจะหัวหมอ ผ่อนก็ได้ เดือนละเท่าไรก็ว่าไป แต่กฎหมายบอกว่า ผ่อนได้ 3 งวด พร้อมดอกเบี้ยครับ โดยอาจจะทำเรื่องขอให้ลดเบื้ยปรับลงได้ ก็แล้วแต่ความเมตตาครับ หรือจะขอยืดเวลาผ่อนออกไปได้อีก ไม่แน่ใจว่ากี่เดือน แต่ไม่เกิน 10 เดือน ดังนั้น ถ้าจะผ่อนยาวๆ แบบผ่อนบ้านหละก็ หมดสิทธิครับ - ให้ฟ้องล้มละลายไปเลย ก็ได้นะครับ แต่ถ้าพ้นจากบุคคลล้มละลายแล้ว ถ้าสรรพากรพบว่า ท่านมีรายได้ มีทรัพย์สินอื่น ก็ตามฟ้องล้มได้อีกเรื่อยๆ จนกว่าจะตายไปข้างนึงครับ - สำหรับผม ผมยอมรับผิด แล้วเดินเข้าไปหาเจ้าหน้าที่สรรพากรแล้วขอปรึกษาเลยว่า "ทำอย่างไรได้บ้าง ช่วยอะไรได้บ้าง" อย่าหัวหมอครับ เพราะช่องโหว่ของเราเยอะมากครับ ของผมทำแบบนี้ เค้ามีหนทางช่วยของเค้าเองครับ แต่ก็แล้วแต่ที่ด้วยนะครับ วิธีช่วยก็มีหลายแบบ แต่ต้องตรงไปตรงมา กล้าๆ ครับ ผมว่า อย่าไปด่าว่า ประเทศเราระบบภาษีไม่เหมือนเมืองนอกเลยครับ (ผมด่ามาก่อน) ถ้าเมืองนอกนี่ ก่อนทำธุรกิจ เค้าจะมีทีมมาสอนทำบัญชี ทำภาษีก่อนครับ แต่ถ้าเจอว่าผิด ติดคุกครับ โทษหนักมาก แต่ประเทศเรา ไม่เคยมีการสอนอะไรทั้งนั้น ถ้าโดน ก็ถือว่าซวยไป จะอ้างว่า ไม่รู้ไม่ได้ แต่ทางออกก็มีแบบไทยๆ ครับ เพราะคนไทยยังไงก็ยังมีน้ำจิตน้ำใจ มีความเมตตาอยู่มากครับ --------------------------------- 4. หลังจากโดนแล้ว ทำยังไง? ท่านจะโตอีกขั้นนึงเลยครับ เหมือนหนอนแปลงร่างเป็นผีเสื้อเลย ถ้าท่านเจอ สนง. บัญชีเก่งๆ เค้าจะแนะนำเองว่า ธุรกิจแบบนี้ จะเข้าระบบแบบไหน จะทำบัญชีแบบไหน สำหรับผมจดบริษัทเลยครับ เดี่ยวนี้ง่ายครับ เค้าจะช่วงวางระบบเอกสารให้ ถ้าเราทำเองได้ก็ทำ แต่แนะนำให้หา Admin รวมเอกสารไว้ 1 คน ก็พอครับ แต่เบื้องต้นเราต้องรู้เสียก่อนว่า ภาษีมีอะไรบ้าง แนะนำคอร์สภาษีออนไลน์ของครูอัสก็ได้ครับ ตอนนั้นผมเรียกผ่าน Skilllens เรารู้แค่ภาพรวมก็พอ แต่ถ้าท่านจะเลี่ยงต่อ ก็แล้วแต่ครับ เพราะสรรพากร ก็ฉลาดมาก้ขึ้นทุกทีๆ --------------------------------- บทเรียนที่สำคัญในชีวิตครับ 1. ให้ปรึกษาคนที่รู้จริงเท่านั้น คนรู้จริงในที่นี้หมายถึง คนที่รู้เรื่องบัญชี กฎหมายภาษี ที่ Contact กับสรรพากรบ่อยๆ อย่าปรึกษาพวกที่เหมือนจะรู้นะครับ ตอนที่ผมโดนนี่ จริงๆ เริ่มจาก 0 แล้วพอเริ่มขายได้ มีรายได้บ้าง ก็อยากเข้าระบบแต่ช่วงนั้นก็กลัวย้อนหลัง ก็เลยผลัดไปเรื่อยๆ จนโดนนี่แหละครับ ช่วงนั้นก็ปรึกษาคนรู้จักหลายๆ คน เค้าก็บอกว่า โอ๊ยยย รายได้แค่นี้ ไม่ถึงล้าน หรือไม่ถึง 10ล้าน ไม่ต้องหรอก เลี่ยงๆ พวกใบหัก 3% ณ ที่จ่ายก็พอ หรือสารพัดที่จะเลียง จะบอกว่า ไอ้ที่เลี่ยงๆ นี่ เวลาโดน มันโดนแบบรวบยอดเลยนะครับ 55555+ จี๊ดได้ใจจริงๆ ที่เจ็บกว่านั้น คือ เวลาที่เราโดนแล้ว ไปปรึกษาคนเหล่านี คำตอบคือ เดี่ยวนี้เค้าเอาอย่างนี้แล้วเหรอ / ไม่รู้ว่าจะโดน / ไม่คุยด้วย / บางคนก็บอกว่า ภาษีเป็นหน้าที่ที่คนไทยต้องจ่าย ทำไมไม่จ่าย สรุปคือ น้ำตาไหลครับ เราโง่เอง แล้วคนที่ยืมเงินเราไป สรรพากรก็ดีนะ เค้าแนะนำให้เราทำหนังสือให้เค้าเซนต์ว่า เงินก้อนนี้ คนนี้ยืมไปจริง แต่เกิดอะไรรู้ไหม? ไม่มีใครยอมเซนต์เลย หลบหนีหน้าไปหมด ตอนนั้นเหมือนโดดเดี่ยวจริงๆ ครับ 2. ยอมรับผิด และชีวิตต้องเดินต่อครับ ทำให้ถูกต้องซะ สบายใจ สบายตัว ที่สำคัญ ไม่ยากอย่างที่คิดครับ สนง. บัญชีเก่ง ช่วยได้ อันนี้ยืนยันครับ ถ้ารู้จัก หรือสนิทสนมหรือมี Connection หน่อย จะช่วยได้มากนะครับ กับทีมบัญชี ใครที่โดนก็สู้ๆ นะครับ ท่านต้องผ่านไปได้ แต่ถ้ายังไม่โดน ถือว่า โครตโชคดี รีบวางแผน ทำให้ถูกต้องซะนะครับ ในระหว่างที่ท่านกำลังโกยยย รัฐบาลก็หาวิธีเก็บภาษีท่านนั่นแหละ ถ้ารอดก็โชคดี แต่ถ้าไม่รอดบอกคำเดียวว่า หนักครับ เหมือนที่ทำมาหลายๆ ปี เป็นศูนย์ หรือติดลบไปเลย สุดท้ายนี้ เมื่อมีรายได้ ก็ควรเสียภาษีให้ถูกต้องครับ อย่าลืมว่า การที่เราเลี่ยงภาษี เลี่ยงโน่นนี่ เรากำลังเอาเปรียบคนอื่นที่ทำถูกต้องอยู่ครับ คนที่เข้าระบบถูกต้อง หลายๆ คนต้องมีต้นทุนที่สูงขึ้น อย่างน้อยๆ ก็ VAT หละ แต่ก็มาโดนพวกที่ทำงานใต้ดิน "ตัดราคา" ผมว่าหลายๆ คนน่าจะเคยเจอแบบนี้ เป็นกำลังใจให้คนที่ทำถูกต้อง และกำลัง หรืออยากที่จะทำถูกต้องนะครับ ส่วนคนที่รวยเงียบๆ ขอให้รอดจากเงื้อมมือสรรพากรและหน่วยงานของรัฐอื่นๆ เช่น สรรพาสามิต ศุลกากร อ.ย. ฯลฯ ไปได้ตลอดรอดฝั่งครับ สู้ๆ ครับ :wanwan003: เพิ่มเติมนะครับ ไม่คิดว่าโพสนี้จะได้รับความสนใจมากขนาดนี้ ภาษาที่เขียนเป็นภาษาพูดทั่วไปนะครับ เขียนจากใจเลย แต่อยากจะบอกว่า เจ้าหน้าที่สรรพากรทุกท่านที่ผมสัมผัสมา น่ารัก และให้ความเมตตา และความช่วยเหลือเป็นอย่างดีครับ แต่ท่านเหล่านั้นต่างก็ต้องทำตามระบบ ตามกฏที่วางไว้ครับ จุดประสงค์ที่เขียน ไม่ใช่ว่าหน่วยงานรัฐ เรพาะกฏหมายภาษีมีมานานแล้ว เพียงแต่เริ่มเอาจริงมากขึ้นเรื่อยๆ และยังมีคนที่ไม่รู้อีกมากนะครับ ระบบมันอย่างนี้เราไปเปลี่ยนอะไรไม่ได้ เจ้าหน้าที่ก็ต้องทำตามหน้าที่ สิ่งที่แก้ได้ อยู่ที่พวกเราจะปรับตัวครับ ทำตามกฏซะให้ถูกต้อง อย่าหลบ อย่าเลี่ยง แต่ให้วางแผนและบริหารภาษีของเราให้ถูกต้องกันเถอะนะครับ ***** ส่วนภาครัฐ ก็ฟังเสียงประชาชนบ้างก็ดีครับ อย่าลืมว่า ความรู้เรื่องภาษีมันซับซ้อน แต่ยุคนี่ ใครก็ตามที่มีมือถือ ก็สามารถทำ e-commerce ได้แล้วนะครับ ลองนึกภาพถึงชาวบ้านที่มีมือถือ แล้วโพสขายของซิครับ ทุกคนทำธุรกิจอยู่ แต่แทบจะไม่มีความรู้ทางภาษีจริงๆ เลย แต่ถ้าถึงเวลาโดนเข้า มันโหดร้ายครับ ถ้าไม่มากเกินไป ให้โอกาสเขากลับตัวเถอะนะครับ แล้วเขาจะมาเป็นกำลังเป็นกระบอกเสียงให้ท่านเหมือนผม เขาจะเตือนคนรอบข้างให้ระวัง ให้ทำอย่างถูกต้องครับ ส่วนคนทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ก็จัดหนักไปตามโทษานุโทษเลยครับ +1 จ้า ความรู้เพียบ หัวข้อ: Re: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ เริ่มหัวข้อโดย: Screen168 ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2018, 23:23:16 เขาเก็บข้อมูลครับส่งไปรษณีย์นี่เลย เดียวอีกปีสองปีเจอเช็คบิลแน่ครับ
จากเหมา 80 20 ล่อเป็น 60 40 แล้วนะครับ ผมนี่รีบไปจดนิติอย่างไว บอกเลยยิ่งมีพรอมเพ ไปราณีย์ ขนส่งต่างๆก็เก็บบัตรประชาชนแล้ว ไม่เกิน 1-2 ไล่เช็คบิลแน่ๆครับ ผมเคยทำบริษัทเองมาก่อน ยิ่งต้องมาส่งแวตนะไส้แตก ส่งช้าโดนปรับ 500 คนมันวิ่งหางานอะครับ ถ้ามาทำธุรกิจเองทำทุกอย่างเอง ไหนจะบัญชี ไหนจะหางาน ไหนจะออกแบบ วิ่งไส้แตกครับ เขาไม่เห็นใจหรอกครับ ทำให้ถุกต้อง คนไม่ค่อยรู้เรื่องพวกนี้เยอะนะครับ เลยทำผิดกันเยอะ แต่ขายครีมนี่รวยจริงครับ ผมเห้นล้วอิจฉาเลย ซึ่งมันยังไม่โดนเช็คบิลกันไง พอโดนแล้วจะร้องเลยอะครับ หัวข้อ: Re: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ เริ่มหัวข้อโดย: dream160 ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2018, 00:34:27 ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ
หัวข้อ: Re: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ เริ่มหัวข้อโดย: ufath111 ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2018, 00:36:02 เก็บเป็นความรู้ จะได้มีหนทางป้องกัน :wanwan017:
หัวข้อ: Re: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ เริ่มหัวข้อโดย: Aunpao ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2018, 00:41:03 มาเก็บความรู้..สู้ๆนะคะ
หัวข้อ: Re: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ เริ่มหัวข้อโดย: T@NG555 ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2018, 09:40:08 เป็นข้อมูลนะครับ ใครที่ยังไม่คิดเข้าระบบ จดบริษัท คิดได้แล้วนะครับ กฏหมายผ่านแล้ว ต่อไปนี่ สรรพกรสั่งให้ธนาคารเปิดเผย บช เราได้ ถ้าเขาต้องการดู เข้าระบบ วางแผนภาษี ง่ายกว่าที่คิดครับ ดีกว่าด้วย
หัวข้อ: Re: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ เริ่มหัวข้อโดย: ad2002 ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2018, 12:53:25 สวัสดีครับ ขอให้เป็นวิทยาทานสำหรับคนที่ยังทำไม่ถูก หรือยังไม่โดนนะครับ หรือคนที่โดนแล้ว จะได้รับมือกัน ไม่อยากให้เป็นเหมือนผม หรือหลายๆ คนครับ เพิ่งโดนเหมือนกันช่วงปลายปี 58 ที่แล้วครับ หนักครับ นอนไม่หลับไป 4 เดือน เรื่องมาจบเมื่อต้นปี 59 ครับ ตอนนี้เหตุการณ์ผ่านมาได้ 1 ปีกว่าๆ แล้ว ขอบอกเพื่อนๆ ตามนี้นะครับ -------------------------------- 1. สรรพากรรู้ได้ยังไง? ไม่ยากครับ สมัยก่อน ก็ดูจาก... - ใบหักภาษี ณ ที่จ่าย จากบริษัททั่วไป (อันนี้แต่ก่อนผมก็เลี่ยงนะ โดยการคุมไม่ให้เกิน 1.8M แต่ก็ไม่รอด เดี่ยวจะบอกว่า ไม่รอดยังไงนะครับ) - ทีมสำรวจ โดยตรวจดูจากเว็บไซต์ครับ ง่ายที่สุด ก็เข้าไปดูเว็บ แล้วก็ไปที่ หน้าวิธีชำระเงิน แล้วก็ดูบัญชีธนาคารที่เราโชว์ไว้นั่นแหละครับ เค้าก็จะดูจากฐานข้อมูลว่า มีการเสียภาษีไหม แล้วจดแจ้งสมเหตุสมผลไหม ถ้าดูแล้วมีพิรุธ เช่น แจ้งว่า มีรายได้นิดเดียว แต่ในเว็บโชว์ยอดการขาย โชว์ว่าส่งของเท่านั้นเท่านี้ ฯลฯ แล้วก็จะมีหนังสือเชิญจากสรรพากรมาที่บ้านท่านครับ ใครมีใบนี้ส่งไปที่บ้าน ให้หายใจลึกๆ แล้วทำใจครับ (ตัวผมโดนจากเคสนี้) แต่ก่อนสรรพากรบอกว่า สมัยก่อนตั้งทีมเป็นทีมเล็กๆ แต่หลังๆ เริ่มจริงจังมากขึ้นเรื่อยๆ ครับ ตอนนี้มีหน่วยงานตรวจโดยเฉพาะแล้วนะครับ - ทีมล่อซื้อ สำหรับพวกที่หัวหมอ ไม่เปิดเว็บ ไม่โชว์หน้าบัญชี ก็จะเจอในรูปแบบ ลูกค้ามาซื้อ แล้วก็ขอเลขบัญชี ก็โดนครับ ยาวๆ ไปเช่นกัน หลักๆ ก็โดนจากเคสพวกนี้ครับ ยิ่งช่วงหลัง สรรพากร ได้เริ่มทดลองใช้ระบบพร้อมเพย์ ที่ผูกเลขบัญชี เข้ากับ ID Card ถ้าสำเร็จ ต่อไป น่าจะเป็นกฎหมายแล้วบังคับใช้ได้ แต่ไปรัฐ ก็จะดูกระแสเงินของแต่ละคนได้สบายๆ ครับ นโยบายลักษณะนี้เริ่มออกมาเรื่อยๆ นะครับ ลองติดตามกัน ---------------------------------- 2. ถ้าโดนแล้ว สรรพากรรู้ได้ยังไงว่า เรามีรายได้เท่าไร? ไม่ยากครับ เค้าก็มีหนังสือมาที่บ้านบอกว่า เราพบว่า ท่านมีการทำธุรกิจออนไลน์ จากเว็บไซต์ บลาๆๆ แต่ไม่มีข้อมูลการเสียภาษี ให้นำ Statement ย้อนหลัง 5 ปี หรือตั้งแต่เริ่มทำธุรกิจ เอามาแสดงกับสรรพากรท้องที่นั้นๆ บัญชีธนาคารนั้น ก็คือ บัญชีที่ท่านวางไว้หน้าเว็บ หรือใช้ในการรับเงินน่ะแหละ มีกี่บัญชีก็จัดกันไป แล้ววิธีคิดก็ไม่ยากครับ เค้าก็นำรายรับ เน้นนะครับ ช่อง "รายรับ" ทั้งหมด มาบวกรวมกันครับ (ตอนที่ผมโดน ผมดีดตัวเลขนี่มือสั่นเลยครับ ที่มือสั่นเพราะ ผมโดนบัญชีส่วนตัวด้วย เพราะมันมีรายรับจากโน่น นี่ นั่น จากที่ให้เพื่อนยืมบ้าง แล้วโอนคืนบ้าง ยืมไป ยืมมา ของผมรวมๆ แล้วหลายแสนครับ ถ้ารวมทั้งปี) ต่อครับ จากนั้น ถ้ารายรับทั้งปี เกิน 1,800,000 บาท ท่านจะโดน VAT จากรายรับนั้นครับ ที่หนักคืออย่างนี้ ดังนั้น ภาษีที่ต้องเสีย ก็จะมี ภาษีบุคคลธรรมดาปลายปี + ค่าปรับ และ VAT + ค่าปรับ x เท่า แค่นี้เองครับ T T พูดแล้วน้ำตาจะไหล ที่ไม่พูดถึง ภาษีบุคคลธรรมดาเท่าไร เพราะไม่หนักมากครับ แต่ที่หนักจริง แล้วน่ากลัวจริงๆ คือ VAT ครับ เพราะ VAT คิดจากรายรับ สมมุติว่าเรามีรายรับรวมแล้ว 2,000,000 บาท เค้าไม่ได้มาหักต้นทุนอะไรนะครับ คุณต้องจ่ายเลย 7% จาก 2M เป็นเงิน 140,000 บาทและถ้าโดยค่าปรับ 2 เท่า ท่านก็ต้องเสีย 280,000 บาท ในปีนั้นคร๊าบบบบบบบ นี่แหละ ที่น่ากลัวกว่า ภาษีบุคคลธรรมดาเยอะครับ เพราะนั่นยังเอารายจ่ายมาหักได้ มีอะไรลดหย่อนได้ครับ แต่ VAT ถ้าไม่มีเอกสารที่ถูกต้อง ก็หักอะไรไม่ได้ทั้งนั้นครับ --------------------------------- 3. ถ้าโดนแล้ว จะทำยังไง? ให้ลองไปหาอ่านใน Google ครับ ส่วนมากก็ไม่รอดครับ สำหรับผม คนธรรมดาไม่มีอะไรเลย เบื้องต้น - ทำใจให้ได้ครับ ตั้งสติให้ดี ยอมรับความจริงให้ได้ - ปรึกษาผู้รู้จริงครับ เน้นว่า รู้จริง และต้องผ่านประสบการณ์แบบนี้มาแล้วเท่านั้น แม้ทนาย ก็ต้องเป็นทนายที่ผ่านคดีแบบนี้มานะครับ ผมแนะนำ สนง. บัญชี ครับ ปรึกษาให้เค้าดีดตัวเลขว่า โดนเท่าไร ถ้าแย่ที่สุดต้องทำยังไง แล้วถ้าผ่านไปได้ ต้องทำยังไง ขั้นตอนนี้สำคัญมากนะครับ - เข้าหาสรรพากร เพื่อขอคำปรึกษาเลยครับ - ถ้าดื้อรั้นไม่ไป หรือไม่ให้ความร่วมมือ ก็จะมีจดหมายเรียก โทรมาหา หรือ แวะมาเยี่ยมครับ ถ้าหลบได้ ก็หลบครับ คดีภาษีไม่มีอายุความ ฟ้องล้มแล้ว ก็ล้มได้อีกเรื่อยๆ จนกว่าจะตายครับ ที่สำคัญ พวกที่ดื้อ ไม่คัด Statement ไป พอถึงจุดนึง ถ้าเรื่องถึงผู้ใหญ่ เค้ามีอำนาจขอให้ธนาคาร เอา Statement ไปให้เค้าทั้งหมดได้นะครับ ตรงนี้สำคัญ เพราะบางทีเรามี บัญชีโชว์ไว้ 2 บัญชี แต่มีบัญชีที่ไม่ได้โชว์ไว้ x บัญชี ทั้งหมด จะโดนทั้งกระบินะครับ ดังนั้น ถ้าเส้นท่านไม่ใหญ่พอ ขอความเมตตาเถอะครับ - ถ้าจะหัวหมอ ผ่อนก็ได้ เดือนละเท่าไรก็ว่าไป แต่กฎหมายบอกว่า ผ่อนได้ 3 งวด พร้อมดอกเบี้ยครับ โดยอาจจะทำเรื่องขอให้ลดเบื้ยปรับลงได้ ก็แล้วแต่ความเมตตาครับ หรือจะขอยืดเวลาผ่อนออกไปได้อีก ไม่แน่ใจว่ากี่เดือน แต่ไม่เกิน 10 เดือน ดังนั้น ถ้าจะผ่อนยาวๆ แบบผ่อนบ้านหละก็ หมดสิทธิครับ - ให้ฟ้องล้มละลายไปเลย ก็ได้นะครับ แต่ถ้าพ้นจากบุคคลล้มละลายแล้ว ถ้าสรรพากรพบว่า ท่านมีรายได้ มีทรัพย์สินอื่น ก็ตามฟ้องล้มได้อีกเรื่อยๆ จนกว่าจะตายไปข้างนึงครับ - สำหรับผม ผมยอมรับผิด แล้วเดินเข้าไปหาเจ้าหน้าที่สรรพากรแล้วขอปรึกษาเลยว่า "ทำอย่างไรได้บ้าง ช่วยอะไรได้บ้าง" อย่าหัวหมอครับ เพราะช่องโหว่ของเราเยอะมากครับ ของผมทำแบบนี้ เค้ามีหนทางช่วยของเค้าเองครับ แต่ก็แล้วแต่ที่ด้วยนะครับ วิธีช่วยก็มีหลายแบบ แต่ต้องตรงไปตรงมา กล้าๆ ครับ ผมว่า อย่าไปด่าว่า ประเทศเราระบบภาษีไม่เหมือนเมืองนอกเลยครับ (ผมด่ามาก่อน) ถ้าเมืองนอกนี่ ก่อนทำธุรกิจ เค้าจะมีทีมมาสอนทำบัญชี ทำภาษีก่อนครับ แต่ถ้าเจอว่าผิด ติดคุกครับ โทษหนักมาก แต่ประเทศเรา ไม่เคยมีการสอนอะไรทั้งนั้น ถ้าโดน ก็ถือว่าซวยไป จะอ้างว่า ไม่รู้ไม่ได้ แต่ทางออกก็มีแบบไทยๆ ครับ เพราะคนไทยยังไงก็ยังมีน้ำจิตน้ำใจ มีความเมตตาอยู่มากครับ --------------------------------- 4. หลังจากโดนแล้ว ทำยังไง? ท่านจะโตอีกขั้นนึงเลยครับ เหมือนหนอนแปลงร่างเป็นผีเสื้อเลย ถ้าท่านเจอ สนง. บัญชีเก่งๆ เค้าจะแนะนำเองว่า ธุรกิจแบบนี้ จะเข้าระบบแบบไหน จะทำบัญชีแบบไหน สำหรับผมจดบริษัทเลยครับ เดี่ยวนี้ง่ายครับ เค้าจะช่วงวางระบบเอกสารให้ ถ้าเราทำเองได้ก็ทำ แต่แนะนำให้หา Admin รวมเอกสารไว้ 1 คน ก็พอครับ แต่เบื้องต้นเราต้องรู้เสียก่อนว่า ภาษีมีอะไรบ้าง แนะนำคอร์สภาษีออนไลน์ของครูอัสก็ได้ครับ ตอนนั้นผมเรียกผ่าน Skilllens เรารู้แค่ภาพรวมก็พอ แต่ถ้าท่านจะเลี่ยงต่อ ก็แล้วแต่ครับ เพราะสรรพากร ก็ฉลาดมาก้ขึ้นทุกทีๆ --------------------------------- บทเรียนที่สำคัญในชีวิตครับ 1. ให้ปรึกษาคนที่รู้จริงเท่านั้น คนรู้จริงในที่นี้หมายถึง คนที่รู้เรื่องบัญชี กฎหมายภาษี ที่ Contact กับสรรพากรบ่อยๆ อย่าปรึกษาพวกที่เหมือนจะรู้นะครับ ตอนที่ผมโดนนี่ จริงๆ เริ่มจาก 0 แล้วพอเริ่มขายได้ มีรายได้บ้าง ก็อยากเข้าระบบแต่ช่วงนั้นก็กลัวย้อนหลัง ก็เลยผลัดไปเรื่อยๆ จนโดนนี่แหละครับ ช่วงนั้นก็ปรึกษาคนรู้จักหลายๆ คน เค้าก็บอกว่า โอ๊ยยย รายได้แค่นี้ ไม่ถึงล้าน หรือไม่ถึง 10ล้าน ไม่ต้องหรอก เลี่ยงๆ พวกใบหัก 3% ณ ที่จ่ายก็พอ หรือสารพัดที่จะเลียง จะบอกว่า ไอ้ที่เลี่ยงๆ นี่ เวลาโดน มันโดนแบบรวบยอดเลยนะครับ 55555+ จี๊ดได้ใจจริงๆ ที่เจ็บกว่านั้น คือ เวลาที่เราโดนแล้ว ไปปรึกษาคนเหล่านี คำตอบคือ เดี่ยวนี้เค้าเอาอย่างนี้แล้วเหรอ / ไม่รู้ว่าจะโดน / ไม่คุยด้วย / บางคนก็บอกว่า ภาษีเป็นหน้าที่ที่คนไทยต้องจ่าย ทำไมไม่จ่าย สรุปคือ น้ำตาไหลครับ เราโง่เอง แล้วคนที่ยืมเงินเราไป สรรพากรก็ดีนะ เค้าแนะนำให้เราทำหนังสือให้เค้าเซนต์ว่า เงินก้อนนี้ คนนี้ยืมไปจริง แต่เกิดอะไรรู้ไหม? ไม่มีใครยอมเซนต์เลย หลบหนีหน้าไปหมด ตอนนั้นเหมือนโดดเดี่ยวจริงๆ ครับ 2. ยอมรับผิด และชีวิตต้องเดินต่อครับ ทำให้ถูกต้องซะ สบายใจ สบายตัว ที่สำคัญ ไม่ยากอย่างที่คิดครับ สนง. บัญชีเก่ง ช่วยได้ อันนี้ยืนยันครับ ถ้ารู้จัก หรือสนิทสนมหรือมี Connection หน่อย จะช่วยได้มากนะครับ กับทีมบัญชี ใครที่โดนก็สู้ๆ นะครับ ท่านต้องผ่านไปได้ แต่ถ้ายังไม่โดน ถือว่า โครตโชคดี รีบวางแผน ทำให้ถูกต้องซะนะครับ ในระหว่างที่ท่านกำลังโกยยย รัฐบาลก็หาวิธีเก็บภาษีท่านนั่นแหละ ถ้ารอดก็โชคดี แต่ถ้าไม่รอดบอกคำเดียวว่า หนักครับ เหมือนที่ทำมาหลายๆ ปี เป็นศูนย์ หรือติดลบไปเลย สุดท้ายนี้ เมื่อมีรายได้ ก็ควรเสียภาษีให้ถูกต้องครับ อย่าลืมว่า การที่เราเลี่ยงภาษี เลี่ยงโน่นนี่ เรากำลังเอาเปรียบคนอื่นที่ทำถูกต้องอยู่ครับ คนที่เข้าระบบถูกต้อง หลายๆ คนต้องมีต้นทุนที่สูงขึ้น อย่างน้อยๆ ก็ VAT หละ แต่ก็มาโดนพวกที่ทำงานใต้ดิน "ตัดราคา" ผมว่าหลายๆ คนน่าจะเคยเจอแบบนี้ เป็นกำลังใจให้คนที่ทำถูกต้อง และกำลัง หรืออยากที่จะทำถูกต้องนะครับ ส่วนคนที่รวยเงียบๆ ขอให้รอดจากเงื้อมมือสรรพากรและหน่วยงานของรัฐอื่นๆ เช่น สรรพาสามิต ศุลกากร อ.ย. ฯลฯ ไปได้ตลอดรอดฝั่งครับ สู้ๆ ครับ :wanwan003: เพิ่มเติมนะครับ ไม่คิดว่าโพสนี้จะได้รับความสนใจมากขนาดนี้ ภาษาที่เขียนเป็นภาษาพูดทั่วไปนะครับ เขียนจากใจเลย แต่อยากจะบอกว่า เจ้าหน้าที่สรรพากรทุกท่านที่ผมสัมผัสมา น่ารัก และให้ความเมตตา และความช่วยเหลือเป็นอย่างดีครับ แต่ท่านเหล่านั้นต่างก็ต้องทำตามระบบ ตามกฏที่วางไว้ครับ จุดประสงค์ที่เขียน ไม่ใช่ว่าหน่วยงานรัฐ เรพาะกฏหมายภาษีมีมานานแล้ว เพียงแต่เริ่มเอาจริงมากขึ้นเรื่อยๆ และยังมีคนที่ไม่รู้อีกมากนะครับ ระบบมันอย่างนี้เราไปเปลี่ยนอะไรไม่ได้ เจ้าหน้าที่ก็ต้องทำตามหน้าที่ สิ่งที่แก้ได้ อยู่ที่พวกเราจะปรับตัวครับ ทำตามกฏซะให้ถูกต้อง อย่าหลบ อย่าเลี่ยง แต่ให้วางแผนและบริหารภาษีของเราให้ถูกต้องกันเถอะนะครับ ***** ส่วนภาครัฐ ก็ฟังเสียงประชาชนบ้างก็ดีครับ อย่าลืมว่า ความรู้เรื่องภาษีมันซับซ้อน แต่ยุคนี่ ใครก็ตามที่มีมือถือ ก็สามารถทำ e-commerce ได้แล้วนะครับ ลองนึกภาพถึงชาวบ้านที่มีมือถือ แล้วโพสขายของซิครับ ทุกคนทำธุรกิจอยู่ แต่แทบจะไม่มีความรู้ทางภาษีจริงๆ เลย แต่ถ้าถึงเวลาโดนเข้า มันโหดร้ายครับ ถ้าไม่มากเกินไป ให้โอกาสเขากลับตัวเถอะนะครับ แล้วเขาจะมาเป็นกำลังเป็นกระบอกเสียงให้ท่านเหมือนผม เขาจะเตือนคนรอบข้างให้ระวัง ให้ทำอย่างถูกต้องครับ ส่วนคนทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ก็จัดหนักไปตามโทษานุโทษเลยครับ :o ความรู้ระดับ MasterPiece :wanwan017: หัวข้อ: Re: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ เริ่มหัวข้อโดย: ad2002 ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2018, 12:54:02 แก้ไข.... ซ้ำ
หัวข้อ: Re: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ เริ่มหัวข้อโดย: Kanomroo ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2018, 15:54:51 สวัสดีครับ ขอให้เป็นวิทยาทานสำหรับคนที่ยังทำไม่ถูก หรือยังไม่โดนนะครับ หรือคนที่โดนแล้ว จะได้รับมือกัน ไม่อยากให้เป็นเหมือนผม หรือหลายๆ คนครับ เพิ่งโดนเหมือนกันช่วงปลายปี 58 ที่แล้วครับ หนักครับ นอนไม่หลับไป 4 เดือน เรื่องมาจบเมื่อต้นปี 59 ครับ ตอนนี้เหตุการณ์ผ่านมาได้ 1 ปีกว่าๆ แล้ว ขอบอกเพื่อนๆ ตามนี้นะครับ -------------------------------- 1. สรรพากรรู้ได้ยังไง? ไม่ยากครับ สมัยก่อน ก็ดูจาก... - ใบหักภาษี ณ ที่จ่าย จากบริษัททั่วไป (อันนี้แต่ก่อนผมก็เลี่ยงนะ โดยการคุมไม่ให้เกิน 1.8M แต่ก็ไม่รอด เดี่ยวจะบอกว่า ไม่รอดยังไงนะครับ) - ทีมสำรวจ โดยตรวจดูจากเว็บไซต์ครับ ง่ายที่สุด ก็เข้าไปดูเว็บ แล้วก็ไปที่ หน้าวิธีชำระเงิน แล้วก็ดูบัญชีธนาคารที่เราโชว์ไว้นั่นแหละครับ เค้าก็จะดูจากฐานข้อมูลว่า มีการเสียภาษีไหม แล้วจดแจ้งสมเหตุสมผลไหม ถ้าดูแล้วมีพิรุธ เช่น แจ้งว่า มีรายได้นิดเดียว แต่ในเว็บโชว์ยอดการขาย โชว์ว่าส่งของเท่านั้นเท่านี้ ฯลฯ แล้วก็จะมีหนังสือเชิญจากสรรพากรมาที่บ้านท่านครับ ใครมีใบนี้ส่งไปที่บ้าน ให้หายใจลึกๆ แล้วทำใจครับ (ตัวผมโดนจากเคสนี้) แต่ก่อนสรรพากรบอกว่า สมัยก่อนตั้งทีมเป็นทีมเล็กๆ แต่หลังๆ เริ่มจริงจังมากขึ้นเรื่อยๆ ครับ ตอนนี้มีหน่วยงานตรวจโดยเฉพาะแล้วนะครับ - ทีมล่อซื้อ สำหรับพวกที่หัวหมอ ไม่เปิดเว็บ ไม่โชว์หน้าบัญชี ก็จะเจอในรูปแบบ ลูกค้ามาซื้อ แล้วก็ขอเลขบัญชี ก็โดนครับ ยาวๆ ไปเช่นกัน หลักๆ ก็โดนจากเคสพวกนี้ครับ ยิ่งช่วงหลัง สรรพากร ได้เริ่มทดลองใช้ระบบพร้อมเพย์ ที่ผูกเลขบัญชี เข้ากับ ID Card ถ้าสำเร็จ ต่อไป น่าจะเป็นกฎหมายแล้วบังคับใช้ได้ แต่ไปรัฐ ก็จะดูกระแสเงินของแต่ละคนได้สบายๆ ครับ นโยบายลักษณะนี้เริ่มออกมาเรื่อยๆ นะครับ ลองติดตามกัน ---------------------------------- 2. ถ้าโดนแล้ว สรรพากรรู้ได้ยังไงว่า เรามีรายได้เท่าไร? ไม่ยากครับ เค้าก็มีหนังสือมาที่บ้านบอกว่า เราพบว่า ท่านมีการทำธุรกิจออนไลน์ จากเว็บไซต์ บลาๆๆ แต่ไม่มีข้อมูลการเสียภาษี ให้นำ Statement ย้อนหลัง 5 ปี หรือตั้งแต่เริ่มทำธุรกิจ เอามาแสดงกับสรรพากรท้องที่นั้นๆ บัญชีธนาคารนั้น ก็คือ บัญชีที่ท่านวางไว้หน้าเว็บ หรือใช้ในการรับเงินน่ะแหละ มีกี่บัญชีก็จัดกันไป แล้ววิธีคิดก็ไม่ยากครับ เค้าก็นำรายรับ เน้นนะครับ ช่อง "รายรับ" ทั้งหมด มาบวกรวมกันครับ (ตอนที่ผมโดน ผมดีดตัวเลขนี่มือสั่นเลยครับ ที่มือสั่นเพราะ ผมโดนบัญชีส่วนตัวด้วย เพราะมันมีรายรับจากโน่น นี่ นั่น จากที่ให้เพื่อนยืมบ้าง แล้วโอนคืนบ้าง ยืมไป ยืมมา ของผมรวมๆ แล้วหลายแสนครับ ถ้ารวมทั้งปี) ต่อครับ จากนั้น ถ้ารายรับทั้งปี เกิน 1,800,000 บาท ท่านจะโดน VAT จากรายรับนั้นครับ ที่หนักคืออย่างนี้ ดังนั้น ภาษีที่ต้องเสีย ก็จะมี ภาษีบุคคลธรรมดาปลายปี + ค่าปรับ และ VAT + ค่าปรับ x เท่า แค่นี้เองครับ T T พูดแล้วน้ำตาจะไหล ที่ไม่พูดถึง ภาษีบุคคลธรรมดาเท่าไร เพราะไม่หนักมากครับ แต่ที่หนักจริง แล้วน่ากลัวจริงๆ คือ VAT ครับ เพราะ VAT คิดจากรายรับ สมมุติว่าเรามีรายรับรวมแล้ว 2,000,000 บาท เค้าไม่ได้มาหักต้นทุนอะไรนะครับ คุณต้องจ่ายเลย 7% จาก 2M เป็นเงิน 140,000 บาทและถ้าโดยค่าปรับ 2 เท่า ท่านก็ต้องเสีย 280,000 บาท ในปีนั้นคร๊าบบบบบบบ นี่แหละ ที่น่ากลัวกว่า ภาษีบุคคลธรรมดาเยอะครับ เพราะนั่นยังเอารายจ่ายมาหักได้ มีอะไรลดหย่อนได้ครับ แต่ VAT ถ้าไม่มีเอกสารที่ถูกต้อง ก็หักอะไรไม่ได้ทั้งนั้นครับ --------------------------------- 3. ถ้าโดนแล้ว จะทำยังไง? ให้ลองไปหาอ่านใน Google ครับ ส่วนมากก็ไม่รอดครับ สำหรับผม คนธรรมดาไม่มีอะไรเลย เบื้องต้น - ทำใจให้ได้ครับ ตั้งสติให้ดี ยอมรับความจริงให้ได้ - ปรึกษาผู้รู้จริงครับ เน้นว่า รู้จริง และต้องผ่านประสบการณ์แบบนี้มาแล้วเท่านั้น แม้ทนาย ก็ต้องเป็นทนายที่ผ่านคดีแบบนี้มานะครับ ผมแนะนำ สนง. บัญชี ครับ ปรึกษาให้เค้าดีดตัวเลขว่า โดนเท่าไร ถ้าแย่ที่สุดต้องทำยังไง แล้วถ้าผ่านไปได้ ต้องทำยังไง ขั้นตอนนี้สำคัญมากนะครับ - เข้าหาสรรพากร เพื่อขอคำปรึกษาเลยครับ - ถ้าดื้อรั้นไม่ไป หรือไม่ให้ความร่วมมือ ก็จะมีจดหมายเรียก โทรมาหา หรือ แวะมาเยี่ยมครับ ถ้าหลบได้ ก็หลบครับ คดีภาษีไม่มีอายุความ ฟ้องล้มแล้ว ก็ล้มได้อีกเรื่อยๆ จนกว่าจะตายครับ ที่สำคัญ พวกที่ดื้อ ไม่คัด Statement ไป พอถึงจุดนึง ถ้าเรื่องถึงผู้ใหญ่ เค้ามีอำนาจขอให้ธนาคาร เอา Statement ไปให้เค้าทั้งหมดได้นะครับ ตรงนี้สำคัญ เพราะบางทีเรามี บัญชีโชว์ไว้ 2 บัญชี แต่มีบัญชีที่ไม่ได้โชว์ไว้ x บัญชี ทั้งหมด จะโดนทั้งกระบินะครับ ดังนั้น ถ้าเส้นท่านไม่ใหญ่พอ ขอความเมตตาเถอะครับ - ถ้าจะหัวหมอ ผ่อนก็ได้ เดือนละเท่าไรก็ว่าไป แต่กฎหมายบอกว่า ผ่อนได้ 3 งวด พร้อมดอกเบี้ยครับ โดยอาจจะทำเรื่องขอให้ลดเบื้ยปรับลงได้ ก็แล้วแต่ความเมตตาครับ หรือจะขอยืดเวลาผ่อนออกไปได้อีก ไม่แน่ใจว่ากี่เดือน แต่ไม่เกิน 10 เดือน ดังนั้น ถ้าจะผ่อนยาวๆ แบบผ่อนบ้านหละก็ หมดสิทธิครับ - ให้ฟ้องล้มละลายไปเลย ก็ได้นะครับ แต่ถ้าพ้นจากบุคคลล้มละลายแล้ว ถ้าสรรพากรพบว่า ท่านมีรายได้ มีทรัพย์สินอื่น ก็ตามฟ้องล้มได้อีกเรื่อยๆ จนกว่าจะตายไปข้างนึงครับ - สำหรับผม ผมยอมรับผิด แล้วเดินเข้าไปหาเจ้าหน้าที่สรรพากรแล้วขอปรึกษาเลยว่า "ทำอย่างไรได้บ้าง ช่วยอะไรได้บ้าง" อย่าหัวหมอครับ เพราะช่องโหว่ของเราเยอะมากครับ ของผมทำแบบนี้ เค้ามีหนทางช่วยของเค้าเองครับ แต่ก็แล้วแต่ที่ด้วยนะครับ วิธีช่วยก็มีหลายแบบ แต่ต้องตรงไปตรงมา กล้าๆ ครับ ผมว่า อย่าไปด่าว่า ประเทศเราระบบภาษีไม่เหมือนเมืองนอกเลยครับ (ผมด่ามาก่อน) ถ้าเมืองนอกนี่ ก่อนทำธุรกิจ เค้าจะมีทีมมาสอนทำบัญชี ทำภาษีก่อนครับ แต่ถ้าเจอว่าผิด ติดคุกครับ โทษหนักมาก แต่ประเทศเรา ไม่เคยมีการสอนอะไรทั้งนั้น ถ้าโดน ก็ถือว่าซวยไป จะอ้างว่า ไม่รู้ไม่ได้ แต่ทางออกก็มีแบบไทยๆ ครับ เพราะคนไทยยังไงก็ยังมีน้ำจิตน้ำใจ มีความเมตตาอยู่มากครับ --------------------------------- 4. หลังจากโดนแล้ว ทำยังไง? ท่านจะโตอีกขั้นนึงเลยครับ เหมือนหนอนแปลงร่างเป็นผีเสื้อเลย ถ้าท่านเจอ สนง. บัญชีเก่งๆ เค้าจะแนะนำเองว่า ธุรกิจแบบนี้ จะเข้าระบบแบบไหน จะทำบัญชีแบบไหน สำหรับผมจดบริษัทเลยครับ เดี่ยวนี้ง่ายครับ เค้าจะช่วงวางระบบเอกสารให้ ถ้าเราทำเองได้ก็ทำ แต่แนะนำให้หา Admin รวมเอกสารไว้ 1 คน ก็พอครับ แต่เบื้องต้นเราต้องรู้เสียก่อนว่า ภาษีมีอะไรบ้าง แนะนำคอร์สภาษีออนไลน์ของครูอัสก็ได้ครับ ตอนนั้นผมเรียกผ่าน Skilllens เรารู้แค่ภาพรวมก็พอ แต่ถ้าท่านจะเลี่ยงต่อ ก็แล้วแต่ครับ เพราะสรรพากร ก็ฉลาดมาก้ขึ้นทุกทีๆ --------------------------------- บทเรียนที่สำคัญในชีวิตครับ 1. ให้ปรึกษาคนที่รู้จริงเท่านั้น คนรู้จริงในที่นี้หมายถึง คนที่รู้เรื่องบัญชี กฎหมายภาษี ที่ Contact กับสรรพากรบ่อยๆ อย่าปรึกษาพวกที่เหมือนจะรู้นะครับ ตอนที่ผมโดนนี่ จริงๆ เริ่มจาก 0 แล้วพอเริ่มขายได้ มีรายได้บ้าง ก็อยากเข้าระบบแต่ช่วงนั้นก็กลัวย้อนหลัง ก็เลยผลัดไปเรื่อยๆ จนโดนนี่แหละครับ ช่วงนั้นก็ปรึกษาคนรู้จักหลายๆ คน เค้าก็บอกว่า โอ๊ยยย รายได้แค่นี้ ไม่ถึงล้าน หรือไม่ถึง 10ล้าน ไม่ต้องหรอก เลี่ยงๆ พวกใบหัก 3% ณ ที่จ่ายก็พอ หรือสารพัดที่จะเลียง จะบอกว่า ไอ้ที่เลี่ยงๆ นี่ เวลาโดน มันโดนแบบรวบยอดเลยนะครับ 55555+ จี๊ดได้ใจจริงๆ ที่เจ็บกว่านั้น คือ เวลาที่เราโดนแล้ว ไปปรึกษาคนเหล่านี คำตอบคือ เดี่ยวนี้เค้าเอาอย่างนี้แล้วเหรอ / ไม่รู้ว่าจะโดน / ไม่คุยด้วย / บางคนก็บอกว่า ภาษีเป็นหน้าที่ที่คนไทยต้องจ่าย ทำไมไม่จ่าย สรุปคือ น้ำตาไหลครับ เราโง่เอง แล้วคนที่ยืมเงินเราไป สรรพากรก็ดีนะ เค้าแนะนำให้เราทำหนังสือให้เค้าเซนต์ว่า เงินก้อนนี้ คนนี้ยืมไปจริง แต่เกิดอะไรรู้ไหม? ไม่มีใครยอมเซนต์เลย หลบหนีหน้าไปหมด ตอนนั้นเหมือนโดดเดี่ยวจริงๆ ครับ 2. ยอมรับผิด และชีวิตต้องเดินต่อครับ ทำให้ถูกต้องซะ สบายใจ สบายตัว ที่สำคัญ ไม่ยากอย่างที่คิดครับ สนง. บัญชีเก่ง ช่วยได้ อันนี้ยืนยันครับ ถ้ารู้จัก หรือสนิทสนมหรือมี Connection หน่อย จะช่วยได้มากนะครับ กับทีมบัญชี ใครที่โดนก็สู้ๆ นะครับ ท่านต้องผ่านไปได้ แต่ถ้ายังไม่โดน ถือว่า โครตโชคดี รีบวางแผน ทำให้ถูกต้องซะนะครับ ในระหว่างที่ท่านกำลังโกยยย รัฐบาลก็หาวิธีเก็บภาษีท่านนั่นแหละ ถ้ารอดก็โชคดี แต่ถ้าไม่รอดบอกคำเดียวว่า หนักครับ เหมือนที่ทำมาหลายๆ ปี เป็นศูนย์ หรือติดลบไปเลย สุดท้ายนี้ เมื่อมีรายได้ ก็ควรเสียภาษีให้ถูกต้องครับ อย่าลืมว่า การที่เราเลี่ยงภาษี เลี่ยงโน่นนี่ เรากำลังเอาเปรียบคนอื่นที่ทำถูกต้องอยู่ครับ คนที่เข้าระบบถูกต้อง หลายๆ คนต้องมีต้นทุนที่สูงขึ้น อย่างน้อยๆ ก็ VAT หละ แต่ก็มาโดนพวกที่ทำงานใต้ดิน "ตัดราคา" ผมว่าหลายๆ คนน่าจะเคยเจอแบบนี้ เป็นกำลังใจให้คนที่ทำถูกต้อง และกำลัง หรืออยากที่จะทำถูกต้องนะครับ ส่วนคนที่รวยเงียบๆ ขอให้รอดจากเงื้อมมือสรรพากรและหน่วยงานของรัฐอื่นๆ เช่น สรรพาสามิต ศุลกากร อ.ย. ฯลฯ ไปได้ตลอดรอดฝั่งครับ สู้ๆ ครับ :wanwan003: เพิ่มเติมนะครับ ไม่คิดว่าโพสนี้จะได้รับความสนใจมากขนาดนี้ ภาษาที่เขียนเป็นภาษาพูดทั่วไปนะครับ เขียนจากใจเลย แต่อยากจะบอกว่า เจ้าหน้าที่สรรพากรทุกท่านที่ผมสัมผัสมา น่ารัก และให้ความเมตตา และความช่วยเหลือเป็นอย่างดีครับ แต่ท่านเหล่านั้นต่างก็ต้องทำตามระบบ ตามกฏที่วางไว้ครับ จุดประสงค์ที่เขียน ไม่ใช่ว่าหน่วยงานรัฐ เรพาะกฏหมายภาษีมีมานานแล้ว เพียงแต่เริ่มเอาจริงมากขึ้นเรื่อยๆ และยังมีคนที่ไม่รู้อีกมากนะครับ ระบบมันอย่างนี้เราไปเปลี่ยนอะไรไม่ได้ เจ้าหน้าที่ก็ต้องทำตามหน้าที่ สิ่งที่แก้ได้ อยู่ที่พวกเราจะปรับตัวครับ ทำตามกฏซะให้ถูกต้อง อย่าหลบ อย่าเลี่ยง แต่ให้วางแผนและบริหารภาษีของเราให้ถูกต้องกันเถอะนะครับ ***** ส่วนภาครัฐ ก็ฟังเสียงประชาชนบ้างก็ดีครับ อย่าลืมว่า ความรู้เรื่องภาษีมันซับซ้อน แต่ยุคนี่ ใครก็ตามที่มีมือถือ ก็สามารถทำ e-commerce ได้แล้วนะครับ ลองนึกภาพถึงชาวบ้านที่มีมือถือ แล้วโพสขายของซิครับ ทุกคนทำธุรกิจอยู่ แต่แทบจะไม่มีความรู้ทางภาษีจริงๆ เลย แต่ถ้าถึงเวลาโดนเข้า มันโหดร้ายครับ ถ้าไม่มากเกินไป ให้โอกาสเขากลับตัวเถอะนะครับ แล้วเขาจะมาเป็นกำลังเป็นกระบอกเสียงให้ท่านเหมือนผม เขาจะเตือนคนรอบข้างให้ระวัง ให้ทำอย่างถูกต้องครับ ส่วนคนทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ก็จัดหนักไปตามโทษานุโทษเลยครับ +1 ให้เลยค่ะ หัวข้อ: Re: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ เริ่มหัวข้อโดย: wut555 ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2018, 16:14:46 แสดงว่าไม่เคยยื่นภาษี เพราะปกติถ้ายื่นภาษีทุกปี จะไม่โดน
หัวข้อ: Re: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ เริ่มหัวข้อโดย: sudaratps ที่ 09 มีนาคม 2018, 17:33:36 อนิจฉา ไม่กล้าขายของออนไลน์เลย
หัวข้อ: Re: โดนภาษีขายของออนไลน์ ย้อนหลังเกือบ 5 แสน โดนภาษีvat 7% หาทางออกทางไหนดีครับ เริ่มหัวข้อโดย: Narkorns ที่ 10 มีนาคม 2018, 00:45:29 รายได้เท่าไหร่ต่อเดือนถึงจะโดนเรียกเก็บภาษีครับ
|