ThaiSEOBoard.com

ความรู้ทั่วไป => Search Engine Optimization => ข้อความที่เริ่มโดย: eyejan ที่ 23 กันยายน 2016, 09:57:37



หัวข้อ: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: eyejan ที่ 23 กันยายน 2016, 09:57:37
1. Content Upgrade

ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา มีเทคนิคนึงที่ seo blog ฝรั่งพูดถึงกันมากเลย คือการทำ on-page แบบที่คำนึงถึงผู้อ่านเป็นหลัก เราลองมาดูวิธีการกันครับว่ามันทำยังไง

- หาเวลาว่างๆวันนึง

- สมมุติว่า blog ของท่านมีบทความประมาณ 100 บทความ ให้ท่านดูสถิติ Pageviews ดูว่า บทความไหน Pageviews ต่ำที่สุดเป็น 10 อันดับแรก
(10% ของบทความที่คนอ่านน้อยสุดของเวปท่าน)

- ดูให้แน่ว่า 10 บทความนั้นไม่มี backlink ใดๆ

- ดูให้แน่ว่าปุ่ม social share เงียบกริบ

- จากนั้น พยายามดูว่า 10 บทความนั้น มีบทความไหนที่มีเนื้อหาใกล้เคียงกัน ก็จัดเป็นกลุ่มๆ (สมมุติว่าจัดได้ประมาณ 3 กลุ่ม)

- ทำ keyword research ใหม่ หาคีย์ใหม่ให้แต่ละกลุ่ม

- เอาเนื้อหามารวมกัน จัดรูปแบบให้อ่านง่าย เช่นเขียนอะไรที่มีขั้นตอนแบบนี้แหละ

- เพิ่มเติมเนื้อหานิดนึง ให้บทความมีความสมบูรณ์ และมีความยาวมากกว่า 500 คำ

- ทำรูปภาพประกอบให้สวยงาม

- ก่อนจะ publish ก็จัด on-page แบบที่เคยทำมานั่นแหละ

- redirect link เดิมมาที่บทความใหม่

- บทความไหนไม่เข้าพวก ก็ลบไปซะ แล้วเอาบทความนั้นไปโพสท์ที่อื่น แล้วทำ backlink กลับมา (จะได้ไม่เสียของ)

เพียงเท่านี้ ท่านก็จะได้บทความใหม่ที่ดีขึ้น ดีสำหรับผู้อ่าน

หลายท่านคงแย้งว่า แหม... เสียดายบทความเก่า จะบอกว่า ที่มันไม่มีคนอ่าน ไม่มี traffic เพราะกู๋ไม่ปรื้มแล้วไง อย่าเก็บไว้

ลองทำดูครับ แล้วท่านจะรู้ว่า เจ้าแพนดาเนี่ย มันไม่ได้มีหน้าที่ลงโทษเวปไซด์ที่มีเนื้อหาไม่ดีนะ เวปขนาดเล็กที่มีเนื้อหาที่ดีมันก็ช่วย

*** Matt Cutts เคยบอกว่า ช่วงปี 2014 ว่า จะมีแพนดาอัลกอแบบใหม่ที่ช่วยเวปขนาดเล็ก เค้าพูดจริงนะครับ ตอนนั้น traffic ผมขึ้น 50% เลย

อยากให้ลองจริงๆนะครับ

ถ้าชอบช่วย +1 ให้ด้วยครับ จะได้เอาหลักการเกี่ยวกับการทำเนื้อหามาลงให้อีก


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: Gangzaa! ที่ 23 กันยายน 2016, 10:11:49
เทคนิคใหม่ ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ +1


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: hatyaiwebdesign ที่ 23 กันยายน 2016, 10:13:11
ขอบคุณครับ


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: Jocho99 ที่ 23 กันยายน 2016, 10:13:55
เดียวต้องลองไปศึกษาดูครับ แต่ได้ความรู้ใหม่มาศึกษาเพิ่มขอบคุณมากครับ


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: EyeShild21 ที่ 23 กันยายน 2016, 10:18:25
จริงครับ เห็นด้วยเลย +1ครับ  :wanwan013: :wanwan013:


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: sys2528 ที่ 23 กันยายน 2016, 10:22:51
ขอบคุณมากครับ  :wanwan017:


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: icokezaa ที่ 23 กันยายน 2016, 10:26:24
ขอบคุณที่แชร์ครับ ไว้จะลองไปทำตามดู ^^


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: mahatang ที่ 23 กันยายน 2016, 10:28:58
ขอบคุณมากครับ


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: jamm ที่ 23 กันยายน 2016, 10:32:53
ต้องลอง ขอบคุณครับ


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: eyejan ที่ 23 กันยายน 2016, 10:56:26
2. เทคนิค Social Proof

ท่านต้องยอมรับความจริงของชีวิตว่า

เนื้อหาที่ดี - อยู่บนเวปใหญ่ = ซุโค่ย
เนื้อหาที่ไม่ดี - อยู่บนเวปใหญ่ = ดีมาก
เนื้อหาที่ดี - อยู่บนเวปเล็ก = เฉยๆ/ห่วย
เนื้อหาที่ไม่ดี - อยู่บนเวปเล็ก = โค ตะ ระ ห่วย

คนทุกคนมีความโน้มเอียงอยู่ในตัวเอง และเวปเล็กจะทำยังไงเพื่อลดความโน้มเอียงนี้ครับ

- เค้าไปที่บทความของท่าน

- ดูว่าบทความไหนไม่มีคนกดปุ่ม แชร์เลยบ้าง

- ท่านกดปุ่นแชร์เองเลยครับ ปุ่มละ 10-20 ที แล้วก็ escape ออก ไม่ต้องแชร์จริง

- จดไว้ว่ากดเองบทความอะไรบ้าง กดไปกี่ที

- แต่ละเดือนลองประเมินผลดู

- ถ้าได้ผล มีคนแชร์เพิ่มขึ้นอย่างสังเกตุได้ กดเพิ่มเองทั้งเวปเลย

ลองคิดดูว่า ถ้าท่านไม่กดแชร์เอง แล้วใครจะมากดกับท่าน เหมือนไทยมุงนะ คนเป็นลม ไม่ช่วย แต่พอมีคนมาเริ่มเยอะ ก็จะเริ่มมีคนมาช่วย

ถึงแม้ว่ากู๋จะยังไม่ได้ใช้ social signal อะไรมากมาย แต่ก็ลองทำดูครับ ดีกว่าอยู่เปล่าๆนะ

ปล. ถ้าท่านมีระบบคอมเมนต์ แต่ไม่มีคนมาคอมเมนต์เลย เอาออกเลยครับ


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: rukrean ที่ 23 กันยายน 2016, 11:31:18
ไปเขียนหลังบ้านให้ได้ตามนี้ https://developers.google.com/search/docs/data-types/articles?hl=th#article_types
แล้วเขียนบทความไปเรื่อยๆ ทำ h1, strong, keyword link ทุกบทความ รับรองรุ่งแบบไม่ต้องทำอะไรมาก


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: repair ที่ 23 กันยายน 2016, 11:49:55
ขอบคุณมากๆครับ  :wanwan017:


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: eyejan ที่ 23 กันยายน 2016, 12:02:04
3. การเพิ่ม Page Speed

- เลือกบทความมาหนึ่งบทความ ที่มีรูปภาพขนาดใหญ่

- ทดสอบ Pagespeed แล้วจดคะแนนไว้
https://developers.google.com/speed/pagespeed/insights/

- โหลดโปรแกรมย่อไฟล์มาย่อไฟล์ (ฟรี)

https://pnggauntlet.com/

- ตั้งชื่อไฟล์โดยรวม keyword ไว้ด้วย

- อย่าลืมเติม alt tag โดยรวม keyword ไว้ด้วย

- ทดสอบ pagespeed อีกรอบ

- ถ้าคะแนนเพิ่มขึ้นชัดเจน ควรพิจารณาลดขนาดไฟล์ภาพทั้งเวป



หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: gd,lN ที่ 23 กันยายน 2016, 12:07:16
ทำในรูปแบบ link in page ด้วยครับ Google ชอบมากๆๆ
/#ddd
/#eee


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: sinderella ที่ 23 กันยายน 2016, 12:30:43
ขอบคุณมากครับ


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: konderntang ที่ 23 กันยายน 2016, 13:38:49
เจ๋งมาก ขอบคุณครับ


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: Appman ที่ 23 กันยายน 2016, 15:01:52
ขอบคุณมากๆครับ อันนี้เรื่องจริงครับ ถ้าในมุมของสินค้าที่ไม่แอคทีฟควรนำออกจากเว็บ อย่าเน้นมากครับไม่งั้นจะถูกลำดับให้ไม่สำคัญ


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: kam ที่ 23 กันยายน 2016, 15:53:51
ขอบคุณสำหรับ เทคนิคคะ


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: Thanan ที่ 23 กันยายน 2016, 17:04:53
เยี่ยมๆ

 :wanwan020:


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: eyejan ที่ 23 กันยายน 2016, 19:05:45
4. มาดู Title Tag กันบ้าง

Title Tag ที่กู๋ชอบ ก็คือ Title Tag ที่คนอ่านเห็นแล้วอยากจะคลิ๊ก แล้วทำไงหละ

- เปิด microsoft excel ขึ้นมา พิมพ์ชื่อบทความลงที่ cell A1

- ไปที่ cell B1 แล้วพิมพ์สูตรการนับตัวอักษรเข้าไป =LEN(TRIM(A1))

- ท่านก็จะเห็นจำนวนคำ รวมถึง space ด้วย อย่าให้เกิน 55

- อย่าลืมใส่ keyword ที่่ต้องการใน Title Tag

- คิดชื่อบทความขึ้นมาอย่างต่ำ 3 แบบ

- ถามคนนั่งข้างๆ หรือ คนที่บ้าน ว่าแบบไหนอ่านแล้วน่าสนใจที่สุด

- แล้วก็ใช้อันนั้นแหละ

เดี๋ยวมีอีก


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: maridb204 ที่ 23 กันยายน 2016, 19:16:45
ขอบคุณมากๆ ครับ :wanwan017: :wanwan017:


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: Ceramiclover ที่ 23 กันยายน 2016, 20:39:08
ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา มีเทคนิคนึงที่ seo blog ฝรั่งพูดถึงกันมากเลย คือการทำ on-page แบบที่คำนึงถึงผู้อ่านเป็นหลัก เราลองมาดูวิธีการกันครับว่ามันทำยังไง

1. หาเวลาว่างๆวันนึง

2. สมมุติว่า blog ของท่านมีบทความประมาณ 100 บทความ ให้ท่านดูสถิติ Pageviews ดูว่า บทความไหน Pageviews ต่ำที่สุดเป็น 10 อันดับแรก
(10% ของบทความที่คนอ่านน้อยสุดของเวปท่าน)

3. ดูให้แน่ว่า 10 บทความนั้นไม่มี backlink ใดๆ

4. ดูให้แน่ว่าปุ่ม social share เงียบกริบ

5. จากนั้น พยายามดูว่า 10 บทความนั้น มีบทความไหนที่มีเนื้อหาใกล้เคียงกัน ก็จัดเป็นกลุ่มๆ (สมมุติว่าจัดได้ประมาณ 3 กลุ่ม)

6. ทำ keyword research ใหม่ หาคีย์ใหม่ให้แต่ละกลุ่ม

7. เอาเนื้อหามารวมกัน จัดรูปแบบให้อ่านง่าย เช่นเขียนอะไรที่มีขั้นตอนแบบนี้แหละ

8. เพิ่มเติมเนื้อหานิดนึง ให้บทความมีความสมบูรณ์ และมีความยาวมากกว่า 500 คำ

7. ทำรูปภาพประกอบให้สวยงาม

9. ก่อนจะ publish ก็จัด on-page แบบที่เคยทำมานั่นแหละ

10. redirect link เดิมมาที่บทความใหม่

11. บทความไหนไม่เข้าพวก ก็ลบไปซะ แล้วเอาบทความนั้นไปโพสท์ที่อื่น แล้วทำ backlink กลับมา (จะได้ไม่เสียของ)

เพียงเท่านี้ ท่านก็จะได้บทความใหม่ที่ดีขึ้น ดีสำหรับผู้อ่าน

หลายท่านคงแย้งว่า แหม... เสียดายบทความเก่า จะบอกว่า ที่มันไม่มีคนอ่าน ไม่มี traffic เพราะกู๋ไม่ปรื้มแล้วไง อย่าเก็บไว้

ลองทำดูครับ แล้วท่านจะรู้ว่า เจ้าแพนดาเนี่ย มันไม่ได้มีหน้าที่ลงโทษเวปไซด์ที่มีเนื้อหาไม่ดีนะ เวปขนาดเล็กที่มีเนื้อหาที่ดีมันก็ช่วย

*** Matt Cutts เคยบอกว่า ช่วงปี 2014 ว่า จะมีแพนดาอัลกอแบบใหม่ที่ช่วยเวปขนาดเล็ก เค้าพูดจริงนะครับ ตอนนั้น traffic ผมขึ้น 50% เลย

อยากให้ลองจริงๆนะครับ

ถ้าชอบช่วย +1 ให้ด้วยครับ จะได้เอาหลักการเกี่ยวกับการทำเนื้อหามาลงให้อีก

เยี่ยมเลยครับ +1 ให้ด้วยครับ


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: cloudsphere ที่ 23 กันยายน 2016, 21:20:13
เยี่ยมเลยครับ ขอบคุณครับ  :wanwan003: :wanwan003:


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: xemmy ที่ 23 กันยายน 2016, 22:38:59
สุดยอดไปเรยค่ะ  :wanwan003:


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: 1ZAA ที่ 23 กันยายน 2016, 22:53:01
ขอบคุณครับ


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: eyejan ที่ 24 กันยายน 2016, 14:10:26
5. Keyword Research ด้วย Google Trends

เคยไหมครับ อยู่หน้าหนึ่ง แต่ไม่มี Traffic...

สมัย 3-4 ปีก่อน คนทำ adsense เค้าสอนต่อๆกันว่า ให้ใช้ Google Keyword Planner หาคีย์ที่คนค้นเยอะๆ แล้วก็ CPC สูงๆ แล้วก็เลือกคีย์นั้นแหละ

หารู้ไม่ คีย์ที่คนค้นเยอะๆ ส่วนใหญ่เค้าเอาคีย์ย่อยๆมากจับกลุ่มรวมกัน

ยิ่งสมัยนี้แล้ว Google Keyword Planner ก็ให้ข้อมูลจำกัดมาก ให้แค่เป็นช่วงๆ

ดังนั้น ลองวิธีนี้เลยครับ

- ใช้ keyword tool ตัวไหนก็ได้ (ถ้าภาษาอังกฤษแนะนำ https://serps.com/tools/keyword-research/

- เมื่อเจอคีย์ที่ต้องการ ให้เอาไปค้นต่อที่ Google Trends https://www.google.com/trends/

- เลือกประเทศที่ท่านต้องการ

- คีย์ไหนที่่ Google Trends ไม่สามารถโชว์กราฟได้ แสดงว่า คีย์นั้นไม่มีคนค้นจริงๆ

- คีย์ไหนที่แสดงกราฟได้ ทั้ง ย้อนหลัง 5 ปี 1 ปี 90 วัน คีย์นั้นแหละ ลุยเลย

ไม่ต้องเชื่อครับ แต่อยากให้ลองดู


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: oob2528 ที่ 24 กันยายน 2016, 16:59:14
เยียมมากครับ ถ้าสองต่อเลย 1 อัพเดทบล๊อคให้มีความเคลื่อนไหว 2 บทความไม่ดีน้อยลง 3 เพิ่มบทความคุณภาพ



หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: eyejan ที่ 24 กันยายน 2016, 18:39:41
6. มารู้จัก RankBrain กัน

มาหาคีย์ที่คนอื่นหาไม่เจอกัน

เมื่อปีทีแล้ว กู๋มีการใช้อัลกอใหม่เรียกว่า "RankBrain" มันทำหน้าที่ตีความคำค้นที่กู๋ไม่เคยพบมาก่อน ซึ่งมีประมาณ 15% ของคำค้นทั้งหมด
ที่กู๋ได้รับในแต่ละปี ตัวอย่างเช่น

"ร้านอาหารแถวสีลม" - OK
"เลิกงานแล้วกินไรดีชิวชิวแถวตึกยูไนเต็ด" - What?

เพราะว่าคนค้นกู๋โดยใช้คำถามมากขึ้นเรื่อยๆ Rankbrain ก็มีหน้าที่ต้องเข้าใจว่า ตึกยูไนเต็ดอยู่แถวสีลม ดังนั้น ให้แสดงผลของร้านอาหารแถวสีลมด้วย

แล้วเราจะเอาหลักการนี้มาใช้ได้อย่างไร

- เลือก webboard, forum , facebook group ที่มีขนาดใหญ่ใน niche ของท่านประมาณ 5-10 ที่

- ไปลองอ่านดู แล้วหาคำถามที่ไม่มีคนตอบ แล้วจดไว้

- หาคำถามที่มีคนตอบด้วยก็ได้ แต่คำตอบไม่ดีพอ หรือ มั่ว

- รวบรวมคำถามทั้งหมด จัดกลุ่มคำถามที่ซ้ำกันเป็นคำถามเดียว

- เขียนบทความเกี่ยวกับคำถามนั้นเลย แล้วตอบให้ดี ละเอียดกว่าชาวบ้าน

- อาจจะพิจารณา เขียนแค่ 1 บทความ แต่ข้างในมี 10 คำถาม แล้วตอบแต่ละคำถามสั้นหน่อย

- ย้อนกลับไปที่บอร์ดเดิม แล้วไปตอบแค่บางส่วน แล้วทิ้งลิงค์ไว้

- ถ้าท่านตอบดี ร้อยทั้งร้อย มักไม่โดนลบ

- และสิ่งที่ตามมาคือ ได้บทความที่มีประโยชน์, ได้ลิงค์, ได้ social share และได้ long tail traffic จาก Rankbrain

ลองทำดูครับ


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: gd,lN ที่ 24 กันยายน 2016, 18:42:30
ต่อๆๆ ครับ อิอิ


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: Doraking ที่ 24 กันยายน 2016, 20:31:19
ขอบคุณครับ


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: wrighter ที่ 24 กันยายน 2016, 21:44:51
ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ :wanwan017:


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: wattasin ที่ 24 กันยายน 2016, 21:55:18
ขอบคุณสำหรับเทคนิคครับ


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: eyejan ที่ 24 กันยายน 2016, 22:01:26
7. เรามารู้จัก Supplementary Content กัน

แปลเป็นไทย น่าจะเรียกว่า เนื้อหาเสริมนั่นแหละครับ ซึ่งประกอบด้วย รูปภาพ, วิดีโอ แล้วก็ ส่วนคอมเมนต์ แต่ในกรณีนี้
จะพูดถึงรูปภาพ

รูปภาพที่ดีเป็นอย่างไร?

สมมุติว่า ผมกำลังเขียนบทความเกี่ยวกับอัลกอเพนกวิน ผมมีตัวเลือกรูปภาพที่จะใส่ประกอบคือ

1. รูปนกเพนกวิน

2. รูปภาพวิวทิวทัศน์สวยๆ แล้วพิมพ์ชื่อบทความลงไป

3. แผนภูมิการทำงานของอัลกอเพนกวิน

4. แผนภูมิที่ทำเป็นเช็คลิสต์เพื่อหลีกเลี่ยงการโดนเพนกวินตบ

ในแง่ของการเป็น Supplementary Content ที่ดี ข้อ 1 และ 2 เป็นอะไรที่ห่วยที่สุด แล้วคนก็ชอบทำที่สุดด้วย

กู๋ชอบแบบ 3 กับ 4 เพราะ มันเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน ทำให้ผู้อ้านเข้าใจแนวคิดที่ซับซ้อนได้ดีขึ้น

พอรู้แล้วว่ารูปประกอบที่ดีเป็นยังไง มา มาลองทำกัน

- เข้าไปที่เวปนี้เลยครับ https://www.canva.com/

- มันจะมี template ที่เหมาะกับจุดประสงค์ต่างๆ มีทั้งที่ฟรีและเสียเงิน แต่ตัวที่ฟรีมีเยอะมาก ใช้ไม่หมด

- ไม่ต้องกลัวทำแล้วไม่สวย สวยทุกอัน แค่ใส่ตัวหนังสือลงไป (แต่สำหรับภาษาไทยมีฟอนต์เดียวนะครับ แต่ปรับขนาดได้)

- ก็ใช้เครื่องมือตัวนี้แหละ ทำรูปประกอบที่มีประโยชน์ แบบทีอธิบายไปแล้วข้างต้น

- อย่าลืมตั้งชื่อไฟล์กับ alt tag เป็น keyword (ยิ่งมีภาพประกอบมาก ก็มี keyword มากไปด้วยแบบที่ไม่ต้อง spam)

- ตรวจสอบดูว่าเวปท่านมี copyright policy หรือไม่ ถ้ามี ย้ายมาอยู่ด้านบนๆให้เห็นได้ง่าย

- ใส่ข้อความทำนองนี้ "ในกรณีที่ท่านต้องการใช้รูปภาพประกอบจากเวปนี้ กรุณาลิงค์กลับมาที่บทความต้นฉบับด้วยครับ"

- โอกาสได้ลิงค์ 50% ของคนที่เอารูปไปใช้ (ถือว่าสูงนะ)

จะเห็นได้ว่า การทำรูปภาพที่ดี นอกจากจะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านแล้ว ก็เป็น on-page กับ Link Building ด้วยนะ

ฝรั่งจำนวนมาก เรียกวิธีนี้ว่า Link Building Using Image

ยิงปืนนัดเดียว ได้นก 3 ตัว (ผมได้ gov backlink มา 2 อันแบบเหลือเชื่อเพราะเทคนิคนี้แหละ)

ถ้าถนัด Microsoft Vizio ก็ลองดูครับ สวยดีเหมือนกัน

ลองดูครับ


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: 1ZAA ที่ 24 กันยายน 2016, 23:11:09
เยี่ยมครับ ติดตามตลอดครับ


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: ipommmmm ที่ 24 กันยายน 2016, 23:47:20
เป็นเทคนิคที่น่าสนใจมากครับ


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: atzcret ที่ 25 กันยายน 2016, 17:57:59
ตามมา +1 ค่ะ

 :wanwan003:


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: factorythai ที่ 25 กันยายน 2016, 18:14:24
ขอบคุณที่ออกมาแชร์ข้อมูลให้เพื่อนสมาชิกครับ


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: Tutorcuu ที่ 25 กันยายน 2016, 20:37:52
ขอบคุณครับ เก็บไว้อ่านๆ


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: Mal2s ที่ 25 กันยายน 2016, 22:21:49
ต่อ...

มาหาคีย์ที่คนอื่นหาไม่เจอกัน

เมื่อปีทีแล้ว กู๋มีการใช้อัลกอใหม่เรียกว่า "RankBrain" มันทำหน้าที่ตีความคำค้นที่กู๋ไม่เคยพบมาก่อน ซึ่งมีประมาณ 15% ของคำค้นทั้งหมด
ที่กู๋ได้รับในแต่ละปี ตัวอย่างเช่น

"ร้านอาหารแถวสีลม" - OK
"เลิกงานแล้วกินไรดีชิวชิวแถวตึกยูไนเต็ด" - What?

เพราะว่าคนค้นกู๋โดยใช้คำถามมากขึ้นเรื่อยๆ Rankbrain ก็มีหน้าที่ต้องเข้าใจว่า ตึกยูไนเต็ดอยู่แถวสีลม ดังนั้น ให้แสดงผลของร้านอาหารแถวสีลมด้วย

แล้วเราจะเอาหลักการนี้มาใช้ได้อย่างไร

1. เลือก webboard, forum , facebook group ที่มีขนาดใหญ่ใน niche ของท่านประมาณ 5-10 ที่

2. ไปลองอ่านดู แล้วหาคำถามที่ไม่มีคนตอบ แล้วจดไว้

3. หาคำถามที่มีคนตอบด้วยก็ได้ แต่คำตอบไม่ดีพอ หรือ มั่ว

4. รวบรวมคำถามทั้งหมด จัดกลุ่มคำถามที่ซ้ำกันเป็นคำถามเดียว

5. เขียนบทความเกี่ยวกับคำถามนั้นเลย แล้วตอบให้ดี ละเอียดกว่าชาวบ้าน

6. อาจจะพิจารณา เขียนแค่ 1 บทความ แต่ข้างในมี 10 คำถาม แล้วตอบแต่ละคำถามสั้นหน่อย

7. ย้อนกลับไปที่บอร์ดเดิม แล้วไปตอบแค่บางส่วน แล้วทิ้งลิงค์ไว้

8. ถ้าท่านตอบดี ร้อยทั้งร้อย มักไม่โดนลบ

9. และสิ่งที่ตามมาคือ ได้บทความที่มีประโยชน์, ได้ลิงค์, ได้ social share และได้ long tail traffic จาก Rankbrain

ลองทำดูครับ

สุดยอดไอเดียครับ  :wanwan017:


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: nongkai27 ที่ 25 กันยายน 2016, 22:46:02
อื้อหือ เจอของดีแล้ว :'(


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: Blanked ที่ 25 กันยายน 2016, 22:47:19
สุดยอดมั๊กๆ  :wanwan017:


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: longdoodi ที่ 26 กันยายน 2016, 00:19:28
ขอบคุณครับ


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: eyejan ที่ 26 กันยายน 2016, 06:47:33
ผมควรเขียนต่อมั๊ยครับเนี่ย คนไม่ค่อยอ่าน


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: esanza.com ที่ 26 กันยายน 2016, 07:39:35
เยี่ยม


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: Ceramiclover ที่ 26 กันยายน 2016, 09:08:57
ผมควรเขียนต่อมั๊ยครับเนี่ย คนไม่ค่อยอ่าน

มีคนอ่านไป 1700 กว่าครั้งแล้วนะครับ ผมว่าข้อมูลที่ลงมาดีมากครับ เขียนต่อเถอะครับ


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: killer777 ที่ 26 กันยายน 2016, 11:05:01
+1 ให้ครับ


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: patcharapong ที่ 26 กันยายน 2016, 11:25:55
ขอบคุณมากเลยครับ เหมือนการรีมิกซ์เอากลับมาทำใหม่ครับผม  :wanwan017:


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: Mal2s ที่ 26 กันยายน 2016, 15:44:03
ผมควรเขียนต่อมั๊ยครับเนี่ย คนไม่ค่อยอ่าน

ต่อเลยครับ ติดตามอยู่


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: nongkai27 ที่ 26 กันยายน 2016, 22:02:38
ต่อเลยค่ะ  :P


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: bompople ที่ 27 กันยายน 2016, 02:07:48
ผมควรเขียนต่อมั๊ยครับเนี่ย คนไม่ค่อยอ่าน
ข้อมูลดีครับ เป็นกำลังใจให้ครับ และแอบติดตามอยู่ด้วย


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: coolsweet ที่ 27 กันยายน 2016, 08:10:39
ยอดเลยครับผม  :wanwan017:


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: tvdigitalthai ที่ 27 กันยายน 2016, 09:22:36
 :wanwan017:


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: Kalin ที่ 27 กันยายน 2016, 09:25:32
แนวคิดดีมากครับ เดี๋ยวลองเอาไปใช้บ้าง :wanwan011:


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: champooko1 ที่ 27 กันยายน 2016, 11:05:11
แวะมาเก็บข้อมูลครับ เดียวลองเอาไปประยุกต์ใช้ดู


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: eyejan ที่ 27 กันยายน 2016, 19:48:05
8. การทดสอบ On-Page

ความเหมือนกันระหว่าง การทำ on-page seo กับ การตรวจภูมิแพ้

การทำ on-page นี่เป็นอะไรที่เถียงกันได้ไม่จบสิ้น ว่าสูตรไหนถึงจะดี ผมเลยอยากยกเรื่องเปรียบเทียบดังนี้

- บางท่านเวลาเช้าๆ ไอจามมีน้ำมูกตลอดปีตลอดชาติ ไม่หายซักที คิดว่าตัวเองเป็นภูมิแพ้ เลยไปตรวจภูมิแพ้

- หมอเค้าก็จะเอาเข็มที่ไปจุ่มลงในสารก่อภูมิแพ้ เช่น ไรฝุ่น เชื้อรา ฯลฯ มาจิ้มที่ผิวหนังเรา ถ้าผิวหนังมีรอยนูนขึ้นมา แปลว่า แพ้สารนั้น ต้องหลีกเลี่ยง

- แต่ก่อนทำ ต้องงดการกินยาแก้ภูมิแพ้มาก่อนล่วงหน้า 7-10 วัน ไม่งั้น เอาสารอะไรมาจิ้มมันก็ไม่นูน เพราะมันมีสารต้านภูมิแพ้อยู่ในร่างกาย


การทำ on-page seo ก็เหมือนกัน เพราะส่วนใหญ่

- ทำเวปใหม่ปุ๊ป ทำ on-page ปั๊ป แล้วซักพักการทำ BL ตาม

- หรือไม่ก็จ้างทำ seo เดือนแรกทำ on-page เดือนสองทำ BL


แล้วสรุปว่า ที่อันดับขึ้นเพราะ on-page หรือ BL หรือ เพราะทั้งสองอย่าง?

แล้วจะสรุปได้อย่างไรว่า on-page แบบไหนมันเวิร์คจริงๆ ที่ทำ on-page อยู่มันอาจจะไม่ดีก็ได้ แต่ มันได้อานิสงษ์จาก BL

ดังนั้น ถ้าท่านจะทดสอบวิธีการทำ on-page แบบที่ไม่เคยทำจริงๆ ควรจะ

- ห่างจากการทำ BL ประมาณ 3-6 เดือน และ/หรือ

- เป็นหน้าที่ไม่มีอันดับโดยสิ้นเชิง (ไม่ติด top 1000 คีย์ไหนทั้งสิ้น ไม่ได้อานิสงษ์จาก BL โดยสิ้นเชิง)

ลองดูครับ

Coming up next...

เปรียบเทียบการทำ on-page แบบง่ายๆ 1 เทคนิค ระหว่าง Lazada Vs เวปของท่านผู้อ่าน (ผมเลือกไว้แล้ว)

ถ้าอยากอ่าน กรุณา +1

ขอบพระคุณที่ติดตามครับ


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: wrighter ที่ 27 กันยายน 2016, 22:59:18
ต่อ....

ความเหมือนกันระหว่าง การทำ on-page seo กับ การตรวจภูมิแพ้

การทำ on-page นี่เป็นอะไรที่เถียงกันได้ไม่จบสิ้น ว่าสูตรไหนถึงจะดี ผมเลยอยากยกเรื่องเปรียบเทียบดังนี้

- บางท่านเวลาเช้าๆ ไอจามมีน้ำมูกตลอดปีตลอดชาติ ไม่หายซักที คิดว่าตัวเองเป็นภูมิแพ้ เลยไปตรวจภูมิแพ้

- หมอเค้าก็จะเอาเข็มที่ไปจุ่มลงในสารก่อภูมิแพ้ เช่น ไรฝุ่น เชื้อรา ฯลฯ มาจิ้มที่ผิวหนังเรา ถ้าผิวหนังมีรอยนูนขึ้นมา แปลว่า แพ้สารนั้น ต้องหลีกเลี่ยง

- แต่ก่อนทำ ต้องงดการกินยาแก้ภูมิแพ้มาก่อนล่วงหน้า 7-10 วัน ไม่งั้น เอาสารอะไรมาจิ้มมันก็ไม่นูน เพราะมันมีสารต้านภูมิแพ้อยู่ในร่างกาย


การทำ on-page seo ก็เหมือนกัน เพราะส่วนใหญ่

- ทำเวปใหม่ปุ๊ป ทำ on-page ปั๊ป แล้วซักพักการทำ BL ตาม

- หรือไม่ก็จ้างทำ seo เดือนแรกทำ on-page เดือนสองทำ BL


แล้วสรุปว่า ที่อันดับขึ้นเพราะ on-page หรือ BL หรือ เพราะทั้งสองอย่าง?

แล้วจะสรุปได้อย่างไรว่า on-page แบบไหนมันเวิร์คจริงๆ ที่ทำ on-page อยู่มันอาจจะไม่ดีก็ได้ แต่ มันได้อานิสงษ์จาก BL

ดังนั้น ถ้าท่านจะทดสอบวิธีการทำ on-page แบบที่ไม่เคยทำจริงๆ ควรจะ

- ห่างจากการทำ BL ประมาณ 3-6 เดือน และ/หรือ

- เป็นหน้าที่ไม่มีอันดับโดยสิ้นเชิง (ไม่ติด top 1000 คีย์ไหนทั้งสิ้น ไม่ได้อานิสงษ์จาก BL โดยสิ้นเชิง)

ลองดูครับ

Coming up next...

เปรียบเทียบการทำ on-page แบบง่ายๆ 1 เทคนิค ระหว่าง Lazada Vs เวปของท่านผู้อ่าน (ผมเลือกไว้แล้ว)

ถ้าอยากอ่าน กรุณา +1

ขอบพระคุณที่ติดตามครับ


ขอบคุณครับ :wanwan017: :wanwan017:


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: simplify ที่ 28 กันยายน 2016, 12:51:44
เป็นประโยชน์ สุดยอดมากเลยครับ +1  :wanwan008:


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: businessman ที่ 28 กันยายน 2016, 13:18:56
ขอบคุณครับ


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: eyejan ที่ 28 กันยายน 2016, 22:08:38
จ๊ากติดงานด่วนครับ ขออภัยด้วย ไว้ต่อภาค 2 เร็วๆนี้

 :wanwan017:


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: dez ที่ 28 กันยายน 2016, 23:23:42
ขอบคุณครับ :wanwan017:


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: sodaice ที่ 29 กันยายน 2016, 00:04:39
+1


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: champooko1 ที่ 29 กันยายน 2016, 11:15:24
แวะมาเก็บข้อมูลครับผม


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: sangsood7 ที่ 29 กันยายน 2016, 11:24:45
ขอบคุณมากๆครับ


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: iteasy2u ที่ 29 กันยายน 2016, 14:06:24
ต่อ....

เรามารู้จัก Supplementary Content กัน

แปลเป็นไทย น่าจะเรียกว่า เนื้อหาเสริมนั่นแหละครับ ซึ่งประกอบด้วย รูปภาพ, วิดีโอ แล้วก็ ส่วนคอมเมนต์ แต่ในกรณีนี้
จะพูดถึงรูปภาพ

รูปภาพที่ดีเป็นอย่างไร?

สมมุติว่า ผมกำลังเขียนบทความเกี่ยวกับอัลกอเพนกวิน ผมมีตัวเลือกรูปภาพที่จะใส่ประกอบคือ

1. รูปนกเพนกวิน

2. รูปภาพวิวทิวทัศน์สวยๆ แล้วพิมพ์ชื่อบทความลงไป

3. แผนภูมิการทำงานของอัลกอเพนกวิน

4. แผนภูมิที่ทำเป็นเช็คลิสต์เพื่อหลีกเลี่ยงการโดนเพนกวินตบ

ในแง่ของการเป็น Supplementary Content ที่ดี ข้อ 1 และ 2 เป็นอะไรที่ห่วยที่สุด แล้วคนก็ชอบทำที่สุดด้วย

กู๋ชอบแบบ 3 กับ 4 เพราะ มันเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน ทำให้ผู้อ้านเข้าใจแนวคิดที่ซับซ้อนได้ดีขึ้น

พอรู้แล้วว่ารูปประกอบที่ดีเป็นยังไง มา มาลองทำกัน

1. เข้าไปที่เวปนี้เลยครับ https://www.canva.com/

2. มันจะมี template ที่เหมาะกับจุดประสงค์ต่างๆ มีทั้งที่ฟรีและเสียเงิน แต่ตัวที่ฟรีมีเยอะมาก ใช้ไม่หมด

3. ไม่ต้องกลัวทำแล้วไม่สวย สวยทุกอัน แค่ใส่ตัวหนังสือลงไป (แต่สำหรับภาษาไทยมีฟอนต์เดียวนะครับ แต่ปรับขนาดได้)

4. ก็ใช้เครื่องมือตัวนี้แหละ ทำรูปประกอบที่มีประโยชน์ แบบทีอธิบายไปแล้วข้างต้น

5. อย่าลืมตั้งชื่อไฟล์กับ alt tag เป็น keyword (ยิ่งมีภาพประกอบมาก ก็มี keyword มากไปด้วยแบบที่ไม่ต้อง spam)

6. ตรวจสอบดูว่าเวปท่านมี copyright policy หรือไม่ ถ้ามี ย้ายมาอยู่ด้านบนๆให้เห็นได้ง่าย

7. ใส่ข้อความทำนองนี้ "ในกรณีที่ท่านต้องการใช้รูปภาพประกอบจากเวปนี้ กรุณาลิงค์กลับมาที่บทความต้นฉบับด้วยครับ"

8. โอกาสได้ลิงค์ 50% ของคนที่เอารูปไปใช้ (ถือว่าสูงนะ)

จะเห็นได้ว่า การทำรูปภาพที่ดี นอกจากจะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านแล้ว ก็เป็น on-page กับ Link Building ด้วยนะ

ฝรั่งจำนวนมาก เรียกวิธีนี้ว่า Link Building Using Image

ยิงปืนนัดเดียว ได้นก 3 ตัว (ผมได้ gov backlink มา 2 อันแบบเหลือเชื่อเพราะเทคนิคนี้แหละ)

ถ้าถนัด Microsoft Vizio ก็ลองดูครับ สวยดีเหมือนกัน

ลองดูครับ

สุดยอดเลยครับ ผมอ่านทุกคอมเม้นเลย มีคำผิดนิดนึง  Microsoft Vizio น่าจะเป็น  Microsoft Visio ครับ


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: exchange ที่ 29 กันยายน 2016, 16:16:16
เยี่ยมเลยครับ ข้อมูลล้วนๆ ขอเก็บครับ


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: OptimusPrime ที่ 29 กันยายน 2016, 16:20:11
 :wanwan003: เดียวเก็บก่อนครับ ไว้อ่านต่อที่บ้าน ขอบคุณมากครับ


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: taedexde ที่ 29 กันยายน 2016, 17:08:35
มารับความรู้ครับ  :wanwan017: :wanwan017:


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: EyeShild21 ที่ 29 กันยายน 2016, 18:01:03
On-page ดีมีชัยไปกว่า 90% ครับ  จัดทำดีๆ Google รัก Google หลง ครับ

:wanwan013: :wanwan013: :wanwan013:


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: kingseo ที่ 29 กันยายน 2016, 18:30:44
ขอบคุณความรู้ดีดีครับ แต้งกิ้ว


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: eyejan ที่ 29 กันยายน 2016, 19:26:50
9. จะเอาตัวหนา หรือ ไม่หนาดี

กรณีศึกษา e-commerce เพื่อไม่ให้เป็นการโน้มเอียง ไม่บอกทั้ง keyword ไม่บอกทั้ง site รู้อยู่อย่างเดียวว่าอันนึงเป็น lazada

keyword = เกี่ยวกับอาหารเสริม

Site 1
H1 = ชื่อหมวดสินค้า
H2 = อยู่ใน content area
H3 = อยู่ใน content area
ตัวหนา/bold/strong = ไม่มี
ตัวเอียง/italic/em = ไม่มี

Site 2
H1 = ชื่อหมวดสินค้า
H2 = เหมือนเป็นชื่อบทความที่กดไปเพื่ออ่านต่อ อยู่ใน content area
H3 = side bar บางอันก็มี keyword บางอันก็ไม่มี
ตัวหนา/bold/strong = มี
ตัวเอียง/italic/em = มี

- สรุป Site 1 เน้น H1, H2, H3 อยู่ใน content area ทั้งหมด ไล่ระดับกัน ไม่ใช้ตัวหนาตัวเอียงใน content area

- สรุป Site 2 H1,H2,H3 ไม่ไล่ระดับกัน ไม่อยู่ใน content area ทั้งหมด แต่มีการใช้ strong/em

คำถาม (ไม่เอาปัจจัยอื่นๆมาคิดโดยสินเชิง ดูแค่ตัวแปลที่มี อย่าไปแอบเปิดดูเวปจริง)

1. แบบไหนกู๋ชอบมากกว่ากัน ?

2. แบบไหนผู้อ่าน/ผู้ซื้อสินค้าชอบมากกว่ากัน?

ลองดูครับ


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: wrighter ที่ 29 กันยายน 2016, 19:34:30
ติดตามๆ ขอบคุณครับ :wanwan017:


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: doktup ที่ 30 กันยายน 2016, 04:47:42
สุดยอดครับ เกาะกระทู้เลยครับ :wanwan003:


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: evev9 ที่ 30 กันยายน 2016, 07:51:44
เยี่ยมเลยคร้าบ


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: eyejan ที่ 30 กันยายน 2016, 10:18:48
10. เมื่อคุณภาพเนื้อหากลายเป็นปัจจัยการจัดอันดับ

มาคุยกันเรื่องปัจจัยในการจัดอันดับเวป (Ranking Factors) กันดีกว่า

เป็นที่ทราบกันอยู่ทั่วไปว่า ปัจจัยในการจัดอันดับเวปมี 2 กลุ่มใหญ่ๆคือ on-page และ off-page

แต่....

ในเดือนมีนาคม 2016 เจ้าหน้าที่ของกู่ได้เปิดเผยปัจจัยในการจัดอันดับตัวใหม่ นั่นก็คือ... เนื้อหา

จากที่ได้เล่าไปแล้วว่า กู๋เค้ามีอัลกอตัวใหม่ที่ชื่อว่า Rank Brain ซึ่งมันเข้าใจบริบทของ keyword ได้ดีกว่าเก่า

แล้วเจ้า Rank Brain นี่แหละ ที่มันสามารถตรวจสอบคุณภาพของเนื้อหาของเวปแต่ละอันได้ เช่น

- เวลาคนค้นหาแล้ว คลิ๊กเวปไหน เวปไหนคนไม่คลิ๊ก

- คลิ๊กไปแล้วอ่านหรือเปล่า อ่านนานแค่ไหน อ่านไปกี่หน้า

- คลิ๊กแล้วหยุดอ่านหรือเปล่า หรือต้องค้นกู๋ไปอีกถึง หน้า 10 ถึงจะหยุดอ่าน

ซึ่งข้อมูลที่เอาเข้ามาป้อนให้ Rank Brain ส่วนหนึ่งก็มาจาก Google Chrome นั่นแหละ

ดังนั้น ปัจจัยในการจัดอันดับจึงเปลี่ยนใหม่คือ on-page, off-page, content (rank brain)

แต่ถ้าเรามอง on-page แบบกว้างๆ จะเห็นได้ว่า on-page ที่ดีต้องรวมถึง content ที่ดีด้วย

นั่นหมายความว่า ถ้าเราพยายามทำ on-page แบบที่ให้ผู้อ่าน/ลูกค้าพึงพอใจ เราสามารถควบคุมปัจจัยในการจัดอันดับได้ถึง 2 ใน 3 ส่วน

อ้างอิง

https://searchenginewatch.com/2016/03/24/google-reveals-its-three-most-important-ranking-signals/

ลองดูครับ


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: fox4 ที่ 30 กันยายน 2016, 12:23:18
อุต๊ ถ้าจำไม่ผิดพึ่งปรับเนื้อหาในกระทู้นี้ใช่ไหมครับ ปรับแล้วสอนแบบจัดเต็มมากครับ +1  :wanwan017:


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: eyejan ที่ 30 กันยายน 2016, 13:49:53
11. Keyword Frequency is dead?

เมื่อไม่กี่วันทีผ่านมา มีเพื่อนสมาชิกท่านหนึ่งถามว่า เค้าใช้ yoast seo plug-in แต่มันนับ keyword density ภาษาไทยไม่ได้ ควรทำอย่างไรดี

ผมก็ตอบกลับไปว่า แม้แต่ yoast เอง ก็แนะนำว่า ไม่ต้องสนใจ keyword density มาก แล้วก็แนบลิ้งค์ไปที่บทความอ้างอิงจาก yoast

เรามาดูเหตุผลกันว่า ทำไม keyword density อาจจะไม่จำเป็นนัก....

ปี 2014 (ถ้าจำไม่ผิด) Google มีการเผยแพร่ข้อมูลของอัลกอตัวหนึ่ง เรียกว่า TF-IDF หรือ Term Frequency-Inverse Document Frequency

ผมเคยอ่านเจอเกี่ยวกับอัลกอตัวนี้หลายทีแล้ว แต่เพิ่งเจอคนที่อธิบายได้ละเอียด กลไกการทำงานของอัลกอนี้คือ

- นับ keyword density ของบทความนั้นๆ เช่น บทความยาว 500 คำ มี keyword 5 ที ก็ 1%

- จากนั้น มันจะทำการนับ keyword density ของบทความที่มีหัวข้อเดียวกันทั้งหมด

- แล้วมันก็จะสรุปเป็น % ว่า บทความแนวนี้ มี keyword density ของ keyword ที่คนมักไว้ใช้ค้นประมาณเท่าไหร่

- จากนั้น ถ้าท่านมี keyword density เกินงาม เกินหน้าชาวบ้าน ก็กดอันดับ

- แต่ถ้าชาวบ้านมี keyword density พอๆกับท่าน ก็รอดตัวไป

จะเห็นได้ว่า keyword density ขึ้นอยู่กับแต่ละคีย์จริงๆ ไม่มีสูตรสำเร็จ

สรุปได้ว่า ต้องดูคู่แข่งด้วย ทุกคีย์ และ ต้องทดสอบ

แต่ถ้าเอาแบบง่ายๆ คนอ่านๆแล้วไม่งง ก็ 1 ย่อหน้าใส่ทีนึง


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: aoypremmika ที่ 30 กันยายน 2016, 18:25:52
ตอนนี้ต้องหากำลังใจทำก่อน เหนื่อยเหลือเกิน :wanwan004:


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: adsene5438 ที่ 30 กันยายน 2016, 23:28:43
เอาไปศึกษาตามนี้นะ Onpage SEO

Title
Description
Meta
Keywords
Site Maps
Tags
Image Alt Tags
Inbound   Links
Canonical Element
Anchor Text Links
Privacy   Policy
Local SEO
International SEO
Social SEO
Content
Content   Length
Content   Updates
Update   Frequency
Grammar   Spelling
Multimedia Content
User Friendly Content
Duplicate Content
Mobile Optimisation
Mobile Page Speed
Mobile usability
Compression
Minify   codes
Expires   caching
Inlining critical CSS
Optimising images
Reduce HTTP Requests
Server Response   Times
CSS image sprites
Eliminating JS–CSS
Fast Speed Scores
UX Design
Responsive design
Architecture Hierarchy
Website   usability
Number of pages
URL Structure
Broken   Links
Html Validation
Down Time
Categories
Domain SEO

ผมไม่ได้บอกอีกหลายตัวนะ แต่นี้ก็ 90 เปอร์เซนต์แหละ


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: phitsanu_ru ที่ 01 ตุลาคม 2016, 17:30:09
เยี่ยมเลยครับ  อธิบายได้ละเอียด เขียนได้เก่งมากครับ


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: coolsweet ที่ 01 ตุลาคม 2016, 19:16:21
ขอบคุณมากๆเลยคร้าบ  :wanwan017:


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: nongkai27 ที่ 01 ตุลาคม 2016, 22:42:07
มาเก็บข้อมูลเพิ่มเติม ค่ะ :wanwan019:


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: eyejan ที่ 01 ตุลาคม 2016, 22:50:00
12. เมื่อชื่อเสียงของเวปกลายเป็นปัจจัยในการจัดอันดับ

อากู๋ชอบเข้าข้างแบรนด์ใหญ่ๆ จริงหรือไม่

ตอบเลยว่าจริง...

Google มีการจ้างเจ้าหน้าที่เพื่อทำการวิจัยโดยการให้คนทำการค้นหาตามคีย์ที่กำหนด แล้วประเมินว่าผลการค้นหาที่แสดงมามีคุณภาพหรือไม่

ผู้ที่มีหน้าที่ประเมินคุณภาพผลการค้นหาจะมีคู่มือที่เรียกว่า Quality Rater Guideline ซึ่งคู่มือดังกล่าว ได้หลุด (หรือจงใจทำหลุด) มาอยู่ในมือของนัก SEO

ตั้งแต่ปี 2008 คู่มือรุ่นล่าสุด ปี 2016 มีการให้ผู้ประเมินทำกาตรวจสอบ ชื่อเสียง หรือ "Reputation" ของแต่ละเวปด้วย โดยมีวิธีการดังนี้

- สมมุติว่าเวปท่านชื่อ hxxp://www.amazingapple.com

- เค้าจะให้ค้นหาโดยค้นว่า "amazingapple.com" -site:amazingapple.com คือการค้นว่ามีคำว่า amazingapple.com บนเวปอื่นๆหรือไม่ (โดยไม่ให้แสดงผลจากเวป amazingapple.com)

ซึ่งจะได้ผลออกมา 3 แบบคือ

1) bare url เช่น hxxp://www.amazingapple.com/contactus คลิ๊กได้ปกติ

2) unlink html  เช่น hxxp://www.amazingapple.com/contactus คลิ๊กไม่ได้ เป็น text เฉยๆ

3) amazingapple.com  ประมาณว่า ก๊อปบทความมาจากเวปนี้ แต่ไม่ link back

- ต่อมาให้ค้นคำว่า "amazing apple" -site:amazingapple.com ซึ่งจะเป็นการค้นว่า มีการกล่าวถึงชื่อเวปนี้ในที่ใดบ้าง (brand mention)

- จากนั้นก็ทำการประเมินผล ถ้าพบว่า มีการกล่าวถึงเวปนี้ บนเวปที่มีชื่อเสียง เช่นเวปข่าว, wikipedia , edu ,gov ,review site ทั้งแบบ bare url, unlink html, brand mention

แสดงว่า เวปนั้นๆมีชื่อเสียง ก็จะได้คะแนนเพิ่มขึ้น

บทสรุปก็คือ

- เวปไซด์ที่ดีมักโดนลอก ดังนั้นเราต้องพยายามเขียนบทความให้ดีเพื่อให้คนมาลอก

- ลอกแล้วไม่ link back ก็ได้ ไม่เป็นไร แค่กล่าวถึงเวปเราเฉยๆ ก็แสดงว่าเวปเรามีชื่อเสียง ได้คะแนนเพิ่ม

- ถ้าท่านไม่เล่น social แล้วใครจะมากล่าวถึงเวปท่านครับ

- ถ้าเปิดเว็ปมาปุ๊ป เจอ header ตัวการ์ตูนหวานเย็น, หรือ QR Code อันยักษ์ๆ ใครจะจำชื่อเวปท่านได้ครับ

การสร้าง "แบรนด์" และ ประสบการ์ณการใช้งานที่ดีของผู้อ่านและลูกค้า จึงเป็นเรื่องที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับนักทำ SEO และ Internet Marketing ยุคนี้

หวังว่าอธิบายคงไม่งงนะครับ


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: mango ที่ 02 ตุลาคม 2016, 04:41:09
ขอบคุณครับ  :wanwan011: :wanwan011:


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: ~กaับกaๅe~ ที่ 02 ตุลาคม 2016, 09:53:30
มาเก็บข้อมูลขอบคุณค่ะ :wanwan017:


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: ~กaับกaๅe~ ที่ 02 ตุลาคม 2016, 13:28:52
อ่านจบสักทีก อ่านๆ หยุดๆ ถึงตัวจะไม่ว่างแต่ใจมันก็อยากจะอ่าน เนื้อหาดีมากค่ะ อ่านตั้งแต่เกือบ10โมงยันบ่ายกว่า และคาดว่าจะอ่านอีก ฮ่าๆ ขอบคุณค่ะ


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: friendly ที่ 09 ตุลาคม 2016, 13:15:29
มีประโยชน์มาก และอธบายเข้าใจง่ายดี

ขอบคุณค่ะ


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: eyejan ที่ 09 ตุลาคม 2016, 13:47:04
13. หน้า 404 แบบไฮโซ

ท่านทราบหรือไม่ว่า กู๋เค้าดูคุณภาพของเวปไซด์ทุกหน้า แม้กระทั่งหน้าที่มันไม่อยู่แล้ว (เพราะโดนลบไปแล้ว)

จากที่ได้เคยกล่าวถึง คู่มือตรวจคุณภาพเวป หรือ Quality Rater Guideline ไปแล้วนั้น มีหลักเกณฑ์หนึ่งที่เพิ่งอ่านเจอ

(แบบว่ามันร้อยกว้าหน้า เลยดูผ่านๆ เพิ่งมีเวลามาดูละเอียดขึ้น) เค้าบอกว่า เวปที่มีคุณภาพ ต้องมีคุณภาพทุกหน้า แม้กระทั่งหน้า 404 Page Not Found

กู๋ได้ให้เกณฑ์การทำหน้า 404 ที่มีประโยชน์ดังนี้


- ต้องมีข้อความเป็นประโยคอธิบายให้ผู้อ่านได้ทราบว่า บทความที่เค้าพยายามจะอ่าน หรือ หน้าที่เค้าต้องการจะดูมันไม่อยู่แล้ว

(เขียนแค่ว่า 404, 404 Page Not Found, Oops...., โอ้ย!, จ๊าก! หรืออะไรก็ตามที่ไม่ได้อธิบายให้ชัดเจน ถือว่า... ไม่ผ่าน)

- ต้องมี Link ไปที่บทความ หรือ หน้าเวปที่ดีที่สุดของท่าน 1 Link

- ต้องมี วิธีในการที่จะให้ผู้อ่าน แจ้งให้ผู้ดูแลได้รับทราบว่า ลิงค์มันเสียด้วย

- หน้า 404 ต้องมีหน้าตาและการออกแบบที่เหมือนกับหน้าอื่นๆของเวป

- ต้องกันไม่ให้ bot ทำการ index หน้า 404 ด้วย (ต้อง remove url ใน search console)

- แถมเพิ่มให้เอง หน้า 404 แบบไฮโซที่ว่ามานี้ ต้องแสดงผลทั้งแบบ desktop แล้วก็ มือถือด้วยนะครับ

ท่านใดมีครบตามนี้บ้าง ยกมือขึ้น

อ้างอิงตามนี้

https://support.google.com/webmasters/answer/93641?hl=en



หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: ~กaับกaๅe~ ที่ 09 ตุลาคม 2016, 14:53:43
ตามรออ่านเรื่อยๆค่ะ ขอบคุณค่ะ :wanwan017:


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: eyejan ที่ 09 ตุลาคม 2016, 18:52:00
14. มารู้จักกับ Entity Database

กู๋เคยทดลองเอา backlink ออกจากการจัดอันดับเวปไปเลย แล้วดูว่าจะเป็นอย่างไร ปรากฏว่า เค้าบอกว่า

ผลการค้นหาแย่มากๆ เพราะมันไม่มีอะไรไว้จัดอันดับได้นอกจาก on-page seo (เวปที่ยัดคีย์ยิ่งเยอะยิ่งทำอันดับดี)

ในปี 2013 เค้าเลยออกอัลกอมาตัวนึงเรียกว่า เจ้านกฮัมมิ่งเบิร์ด Hummingbird

Hummingbird มีหน้าที่ในการระบุตัวตนว่า ใครเป็นใคร เขียนบทความอยู่เวปไหน เขียนด้านไหน มีชื่อเสียงด้านไหน

ฐานข้อมูลตัวนี้เรียกว่า Entity Database เหตุผลที่จัดทำ Entity Database เพื่อที่จะให้น้ำหนักกับบทความของผู้เขียนที่มีชื่อเสียง

ในด้านนั้นๆ แทนการใช้ backlink

แล้วกู๋ก็ให้เราเอา Google  Profile ไปแปะไว้ที่เวปเราใช่ป่ะ เพื่อสร้างความเชื่อมโยงว่า เราคือใคร เขียนให้เวปไหน

แต่.... Google  ไปไม่รอด กู๋เลยบอกว่า งั้น Google  Profile ก็ไม่ต้องแปะไว้ที่เวปแล้วหละ ไม่ใช้แล้ว


แล้วแนวคิดของ Entity Database ยังอยู่หรือเปล่า ตอบเลยว่าอยู่ครับ

แล้วจะใช้อะไรแทน Google  Profile ตอบว่าใช้ Schema ครับ

Schema คืออะไร ก็คือ ป้ายกำกับครับ คล้ายๆ meta tag นั่นแหละ แต่มันมีหมวดหมู่มากกว่าครับ พวกที่โชว์ดาวสีส้มๆในผลการค้นหา

ก็คือ Schema ชนิดนึง

แต่ Schema ที่ไว้ใช้บ่งบอกตัวตน ในที่นี้ขอแนะนำ Schema Website ครับ

โค๊ด:
<script type='application/ld json'> 
{
  "@context": "http://www.schema.org",
  "@type": "WebSite",
  "name": "Red Apple Inc",
  "alternateName": "RAI",
  "url": "http://www.redappleinc.com"
}
 </script>

จากโค้ดตัวอย่าง จุดที่เราต้องแก้คือ

- Red Apple Inc (ใส่ชื่อเป็นทางการของเวปของท่านไปแทน)

- RAI (ใส่ชื่อย่อหรือชื่ออื่นๆของเวปของท่านไปแทน)

- URL (ใส่ URL ของเวปของท่านไปแทน)

แล้วก็เอาไปแปะตรงจุดที่ติด Google Analytics ก็ได้ แค่นั้นจบ ไม่ทำให้เวปโหลดช้า ไม่ต้องแก้ template/theme อะไรทั้งนั้น

ลองดูนะครับ


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: ~กaับกaๅe~ ที่ 10 ตุลาคม 2016, 03:24:27
ตามมาอ่านอีกแล้ว ขอบคุณค่ะ


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: kingseo ที่ 10 ตุลาคม 2016, 10:11:03
ขอบคุณครับสำหรับข้อมูล จะเอาไปใช้


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: eyejan ที่ 12 ตุลาคม 2016, 09:34:07
15. URL แบบไหนดี

กู๋เค้าเคยออกคู่มือ SEO ฉบับทางการมาแล้ว คิดว่าทุกท่านคงเคยอ่าน แต่ถ้าไม่เคย ก็ตามลิงค์นี้ครับ

https://static.googleusercontent.com/media/www.google.com/en//webmasters/docs/search-engine-optimization-starter-guide.pdf

ที่เอามาอ้างอิง เพราะอยากพูดถึงเรื่องโครงสร้างของ URL ครับ ตัวอย่าง

1. redappleinc.com/best-red-apple-in-the-entire-world.html และ

2. redappleinc.com/red-apple.html

ถ้าตามคู่มือของกู๋เค้าบอกว่า ให้ใช้แบบที่ 2 คือ ตามด้วย keyword = red apple ไปเลย (แบบที่ 1 มันยาวเกิน)

ทีนี้มีอีกแนวนึงคือทำแบบนี้ครับ

3. redappleinc.com/fruit/red-apple.html

คือมีอีก keyword ขั้น ก่อนจะถึง keyword จริง (เป็น subfolder)

แบบ subfolder นี่แหละที่เป็นแบบที่หวังให้ติด ทั้งสอง keyword คือ ทั้ง fruit และ red apple

แต่ถ้าแบบนี้เรียกว่า spam เต็มๆเลยครับ 4. redappleinc.com/red-apple/red-apple.html

ถ้าท่านใดยังใช้แบบที่ 1 อยู่ก็เป็นการเสียโอกาสในการทำอันดับนะครับ



หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: perasak ที่ 12 ตุลาคม 2016, 10:32:15
ดีครับ


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: adsene5438 ที่ 12 ตุลาคม 2016, 10:49:05
อ้างถึง
กู๋เค้าเคยออกคู่มือ SEO ฉบับทางการมาแล้ว คิดว่าทุกท่านคงเคยอ่าน แต่ถ้าไม่เคย ก็ตามลิงค์นี้ครับ

https://static.googleuserconte...optimization-starter-guide.pdf

ที่เอามาอ้างอิง เพราะอยากพูดถึงเรื่องโครงสร้างของ URL ครับ ตัวอย่าง

1. redappleinc.com/best-red-apple-in-the-entire-world.html และ

2. redappleinc.com/red-apple.html

ถ้าตามคู่มือของกู๋เค้าบอกว่า ให้ใช้แบบที่ 2 คือ ตามด้วย keyword = red apple ไปเลย (แบบที่ 1 มันยาวเกิน)


อย่าเชื่อที่ google บอกมากครับ

https://www.google.com/search?num=10&site=&source=hp&q=best+double+stroller

ลองดูคีย์นี้ครับ คำยาวๆใน URL เพียบเลย

ปล. ผมเอามาให้ดูนะครับ บางจุด google ก็ไม่ได้ทำตามที่ตัวเองบอกหรอกครับ ไม่มีเจตนาดิสเครดิต เจ้าของกระทู้นะครับ

แก้ไข ปล. นะครับ


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: Tanawatwt ที่ 12 ตุลาคม 2016, 11:51:09
ขอบคุณครับ  :wanwan020:


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: nong4534 ที่ 12 ตุลาคม 2016, 19:03:37
้เยี่ยมครับ  :wanwan003:


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: eyejan ที่ 13 ตุลาคม 2016, 08:00:01
16. มารู้จัก Social Listening กัน

Social Listening พูดแบบง่ายๆก็คือ การตรวจสอบดูว่า มีใครพูดถึงแบรนด์ของเรา หรือ เวปไซด์ของเราตามเครือข่ายสังคมหรือไม่ อย่างไร

Social Listening Tool ปกติแพงมาก มักจะใช้กันในองค์กรที่มีฝ่ายประชาสัมพันธ์หรือสื่อสารที่่เป็นเรื่องเป็นราว

วันนี้ผมจะมาแนะนำ Tool ที่ไม่เสียเงิน เรียกว่า Social Bearing เจ้าตัวนี้มันใช้ติดตามบทสนทนาใน Twitter มีวิธีใช้คือ

- เข้าไปที่

โค๊ด:
https://socialbearing.com

- ใส่ชื่อเวปไซด์ของเราเข้าไป มันก็จะแสดงว่ามีใคร tweet บทความจากเวปไซด์เราบ้าง

- พยายามดู Twitter Profile ว่าเขาเป็นใคร (ถ้ามีบุคคลที่มีชื่อเสียง tweet เวปเรา แสดงว่าเวปเราค่อนข้างมีมาตรฐาน เป็นตัวบ่งบอกคุณภาพของเวป)

- ดูว่าส่วนใหญ่บทความที่คน Tweet เป็นแนวไหน ก็ทำแนวนั้นอีก

- ใส่ชื่อเวปไซด์ของคู่แข่งเราเข้าไป

- ดูว่าส่วนใหญ่บทความที่คน Tweet จากเวปไซด์คู่แข่งเป็นแนวไหน ก็ทำแนวนั้น แต่ให้ดีกว่ามากๆ เช่น คู่แข่งทำบทความ "10 สถานที่ท่องเที่ยวสำหรับเด็กและครอบครัว"

เราทำบ้าง แต่ 10 ไม่เอา เอา 50 หรือ 100 ไปเลย

ถามว่าทำไมต้องทำบทความแล้วให้คน tweet ... คิดง่ายๆเลยครับ ถ้าคุณขายของ คนเข้าเวปเข้าไม่ได้ซื้อทันที บางทีต้องแวะมาเวปเราถึง 5-10 ครั้งกว่าจะซื้อ

การทำบทความให้คนแชร์มันก็เป็นการทำให้คนคุณเคยกับเวปเราก่อนที่จะทำการซื้อจริงๆ

ลองดูนะครับ


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: insidecom ที่ 13 ตุลาคม 2016, 08:18:49
 :wanwan017: ขอบคุณครับ ได้ความรู้ใหม่ๆ


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: Ceramiclover ที่ 13 ตุลาคม 2016, 20:28:30
ต่อ.....

มารู้จัก Social Listening กัน

Social Listening พูดแบบง่ายๆก็คือ การตรวจสอบดูว่า มีใครพูดถึงแบรนด์ของเรา หรือ เวปไซด์ของเราตามเครือข่ายสังคมหรือไม่ อย่างไร

Social Listening Tool ปกติแพงมาก มักจะใช้กันในองค์กรที่มีฝ่ายประชาสัมพันธ์หรือสื่อสารที่่เป็นเรื่องเป็นราว

วันนี้ผมจะมาแนะนำ Tool ที่ไม่เสียเงิน เรียกว่า Social Bearing เจ้าตัวนี้มันใช้ติดตามบทสนทนาใน Twitter มีวิธีใช้คือ

1. เข้าไปที่

โค๊ด:
https://socialbearing.com

2. ใส่ชื่อเวปไซด์ของเราเข้าไป มันก็จะแสดงว่ามีใคร tweet บทความจากเวปไซด์เราบ้าง

3. พยายามดู Twitter Profile ว่าเขาเป็นใคร (ถ้ามีบุคคลที่มีชื่อเสียง tweet เวปเรา แสดงว่าเวปเราค่อนข้างมีมาตรฐาน เป็นตัวบ่งบอกคุณภาพของเวป)

4. ดูว่าส่วนใหญ่บทความที่คน Tweet เป็นแนวไหน ก็ทำแนวนั้นอีก

5. ใส่ชื่อเวปไซด์ของคู่แข่งเราเข้าไป

6. ดูว่าส่วนใหญ่บทความที่คน Tweet จากเวปไซด์คู่แข่งเป็นแนวไหน ก็ทำแนวนั้น แต่ให้ดีกว่ามากๆ เช่น คู่แข่งทำบทความ "10 สถานที่ท่องเที่ยวสำหรับเด็กและครอบครัว"

เราทำบ้าง แต่ 10 ไม่เอา เอา 50 หรือ 100 ไปเลย

ถามว่าทำไมต้องทำบทความแล้วให้คน tweet ... คิดง่ายๆเลยครับ ถ้าคุณขายของ คนเข้าเวปเข้าไม่ได้ซื้อทันที บางทีต้องแวะมาเวปเราถึง 5-10 ครั้งกว่าจะซื้อ

การทำบทความให้คนแชร์มันก็เป็นการทำให้คนคุณเคยกับเวปเราก่อนที่จะทำการซื้อจริงๆ

ลองดูนะครับ

ขอบคุณครับ ใช้วิธีนี้เจอของดีเพียบเลย


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: eyejan ที่ 23 ตุลาคม 2016, 13:25:38
17. การทำ 301 Redirect ถ้าทำไม่ดี อาจมีปัญหา

บางทีเราต้องการลบบทความ แต่บทความนั้นดันมี Backlink เราก็เลย Redirect บทความเก่ามาบทความใหม่ เพื่อรักษา Backlink เอาไว้ใช่ป่ะ

แต่ ถ้า บทความต้นทาง กับ บทความปลายทาง มีเนือหาที่ไม่ค่อยเกี่ยวกับ Redirect ไป ก็ไม่ได้ Backlink ครับ กู๋จะมองว่าเป็น 404

โค๊ด:
http://www.gsqi.com/marketing-blog/redirects-less-relevant-pages-soft-404s/

กรณีศึกษาอันนี้คือเป็นเวป อีคอม ทำการปรับปรุงเวปใหม่ ลบหน้าที่เป็นสินค้าที่ไม่ขายแล้วออก แล้ว redirect ไปหน้าอื่นๆ

กู๋ส่งจดหมายมาบอกว่า พบหน้า 404 จำนวนมาก



อันนี้อาจเป็นอีกเหตุผลว่า ทำไมเวลาบางท่านไปซื้อ domain เก่าที่มี Backlink แล้ว Redirect มาที่เวปตัวเอง แล้วรอ...รอ...รอ... อันดับก็ไม่ขึ้น

เพราะหน้าต้นทาง กับ ปลายทาง กู๋มองว่า ไม่ค่อยเกี่่ยวกัน เลยไม่นับ Backlink

กู๋เขี้ยวจังเลยนะ



หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: eyejan ที่ 24 ตุลาคม 2016, 07:11:44
18. On-Page Ranking Factor 2016

มาดู ปัจจัยในการจัดอันดับที่สำคัญกันครับ

ทุก 2 ปี Moz เค้าจะส่งแบบสอบถามเกี่ยวกับปัจจัยในการจัดอันดับให้นัก SEO ประมาณ 150 คนตอบ แล้วก็มาข้อมูลมาวิเคราะห์และเผยแพร่

ปีล่าสุดที่ทำคือปี 2015

สำหรับปี 2016 มีการทำปัจจัยการจัดอันดับโดย SearchMetric

โค๊ด:
http://www.bruceclay.com/blog/seo-ranking-factors-smx/

โดยวิธ๊ที่เค้าใช้ คือ วิเคราะห์โดยตรงจากผลการค้นหาเลย โดยดูว่า เวปหน้าหนึ่งมีองค์ประกอบอะไรบ้าง

ซึ่งมีปัจจัยที่สำคัญ (ที่เค้าให้ดู) ดังนี้

- 87% ของเวปหน้าหนึ่ง มีการใช้ H1 Tag

- 38% ของเวปหน้าหนึ่ง มีการใช้ keyword ใน H1 Tag

- เวปหน้าหนึ่งส่วนใหญ่ มีความยาวประมาณ 1,633 คำ

- เวปหน้าหนึ่งส่วนใหญ่ มี Internal Link ประมาณ 126 Link

ลองทดสอบดูนะครับ


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: Tutorcuu ที่ 24 ตุลาคม 2016, 17:36:44
ขอบคุณครับ เดี่ยวกลับมาอ่าน


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: eyejan ที่ 25 ตุลาคม 2016, 08:22:54
19. Title Tag Optimization

มาดูเทคนิคที่ทำแล้วเห็นผลได้รวดเร็วที่สุด (ในสายตาของผมนะ)

ได้เคยบอกไว้ว่า Title Tag ควรมีความยาวไม่เกิน 55 ตัวอักษร และ ควรพยายามทำประมาณ 2-3 แบบ เพื่อเปรียบเทียบดูว่าแบบไหน คนน่าจะคลิ๊กมากที่สุด

แต่ก็มีอีกแนวคิดนึง บอกว่า Title Tag ที่ดี ควรจะเริ่มต้นด้วย Keyword ที่ต้องการ เช่น keyword = กระเทียมโทน

แบบที่ 1 = กระเทียมโทน: 10 ประโยชน์ที่ท่านไม่เคยรู้มาก่อน

แบบที่ 2 = 10 ประโยชน์ของกระเทียมโทนที่ท่านไม่เคยรู้มาก่อน

ถ้าแบบที่ 1 ก็ถือว่า optimize ที่สุด แต่ไม่น่าคลิ๊ก

ถ้าแบบที่ 2 ก็อ่านแล้วดูเป็นธรรมชาติมากกว่า แต่ไม่ optimize

แล้วเอาแบบไหนดีหละ

โค๊ด:
https://www.distilled.net/resources/testing-titles-and-h1s-seo-impact/

การทดลองอันนี้ ฝรั่งเค้าเปรียบเทียบ traffic จาก title tag 2 แบบคือ

แบบที่ 1 = <<Location>> Hotel, NY

แบบที่ 2 = Hotels near <<Location>>

<<Location>> ก็เป็นที่ตั้งอะไรก็เปลี่ยนไปตามที่เราต้องการ

ที่เค้าต้องทดสอบ เพราะว่า จริงๆแล้ว Title Tag แบบทีเริ่มต้นด้วย Keyword อาจจะไม่ได้ผลดีที่สุด หรือ ทำอันดับได้ดีที่สุด

ท่านต้องลองทดสอบดูครับ โดยการ

- เลือกบทความที่อยู่ประมาณ หน้า 5 มาทดสอบ (เอาบทความหน้า 10 มาทดสอบก็ได้ แต่ถ้ามันอันดับมันขึ้นมาอยู่หน้า 5 คนก็ยังไม่เข้าอยู่ดี)

- แก้ Title Tag แล้วก็เรียก bot มาเก็บ

- แล้วก็รอครับ อย่างเร็วเห็นผลภายใน 24 ชั่วโมง อย่างช้า 1-2 เดือน

- ถ้าแก้แล้วอันดับมันกระเด็นหายไปเลย ไม่กลับมา ไม่ต้องตกใจ กู๋อาจมองว่าท่าน over-optimize (ด้วยองค์ประกอบ on-page อื่นๆ ที่มีอยู่ในหน้านั้นด้วย)

แก้กลับเป็นอันเดิม แล้วเรียก bot มาเก็บ

- บันทึกไว้ด้วยครับ ว่า ทำบทความไหน อันดับก่อนทำอยู่หน้าไหน bot มาเก็บวันไหน เวอร์ชั่นทั้งเก่าและใหม่คืออะไร


จะเห็นว่า เทคนิคที่เขียนทั้งหมด ผมพยายามเขียนโดยให้เป็นวิทยาศาสตร์ที่สุด แล้วก็มีแหล่งอ้างอิงมาให้เพิ่มเติมด้วย

ดังนั้น กระทู้นี้จะไม่มีประโยชน์โดยสิ้นเชิง ถ้าท่านอ่านแล้ว ไม่เอาไปทดสอบ

ลองทดสอบดูครับ หวังว่าคงจะมีประโยชน์นครับ

ขอบคุณที่ติดตามอ่านมาถึง 7,000 pageviews




หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: eyejan ที่ 26 ตุลาคม 2016, 07:31:12
20.  มารู้จักอัลกอด้านคุณภาพ Phantom Update กัน

เวลาเวปไซด์อันดับตก ปฏิกิริยาของคนส่วนใหญ่คือ "เดี่ยวมันก็กลับมา" แต่จริงๆแล้ว กู๋มีการปรับเกี่ยวกับอัลกอคุณภาพ แล้วก็ไม่ค่อยยืนยันด้วยนะ

ว่ามีการปรับ แต่จะรู้ได้ก็ต่อเมื่อมีคนที่มีเวปขนาดใหญ่อยู่ในมือจำนวกมาก เอาสถิติเวปออกมาโชว์พร้อมกับบทวิเคราะห์

วันนี้ขอแนะนำอัลกอที่ชื่อว่า Phantom

โค๊ด:
http://blog.searchmetrics.com/us/2015/06/10/return-of-the-phantom/

Phantom เป็นอัลกอที่ถูกค้นพบโดยนัก SEO ชื่อ Glenn Gabe (ใครสนใจเรื่องอัลกอคุณภาพต้องตามอ่านบทความของคนนี้)

แต่บทความที่อ้างอิง SearchMetrics เค้าวิเคราะห์ผลการค้นหาจริง เพื่อยันยันสมมุติฐานของ Glenn Gabe อีกที

Phantom มีกลไกการทำงานต่างกับ Panda โดยมันจะกดอันดับเวปที่มีคุณลักษณะดังนี้

- มี pop-up กวนใจผู้อ่าน หรือ มี ads ที่รกรุงรัง

- เนื้อหาไม่มีคุณภาพ (สังเกตุได้จาก bounce rate คือ คนเข้าเวปปุ๊ปออกปั๊ป)

- การออกแบบเวปไซด์ที่อ่านยาก

- มี broken link เยอะ (แสดงว่าเวปขาดการดูแล)

- มี blog comment เยอะเกินเมื่อเทียบกับเนื้อหา

SearchMetrics เค้ามีตัวอย่างของเวปที่ อันดับขึ้น และ อันดับตก หลังจากการปรับอัลกอมายืนยันด้วย

ซึ่งเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องที่เราสามารถแก้ไขได้เองทั้งสิ้น ดังนั้น อย่ารอ

phantom มันปรับอันดับบ่อยเหมือนกันนะครับ อาจมีปัจจัยอื่นๆด้วย แต่บทสรุปก็คือ ถ้าท่านคิดถึงผู้อ่าน/ลูกค้าเยอะๆ มีแต่ได้ ไม่มีเสีย



หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: tvdigitalthai ที่ 26 ตุลาคม 2016, 08:10:15
ขอบคุณครับ


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: thaicoffin ที่ 26 ตุลาคม 2016, 09:04:18
 :wanwan009: algo


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: hatyaiwebdesign ที่ 26 ตุลาคม 2016, 09:30:21
ขอบคุณครับ


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: dkgibson ที่ 27 ตุลาคม 2016, 10:02:43
ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ +1


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: seemee ที่ 27 ตุลาคม 2016, 10:03:36
ขอบคุณมากครับ เป็นแนวทางที่ดีครับ


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: eyejan ที่ 27 ตุลาคม 2016, 10:08:05
21. เมื่อ Backlink อาจมีน้ำหนักลดลงไป

อันนี้ยาวมากๆ

อ้างถึง Quality Rater Guideline ดังนี้

โค๊ด:
https://static.googleusercontent.com/media/www.google.com/en//insidesearch/howsearchworks/assets/searchqualityevaluatorguidelines.pdf

เวอร์ชั่นปัจจุบันเป็นเวอร์ชั่นปี 2016 แต่ผมไปไล่ดู เวอร์ชั่นเก่าๆ แล้ว พบว่า มีความแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง คือ

เวอร์ชั่นปี 2016 พูดถึง การประเมินคุณภาพของเวป แต่ เวอร์ชึ่นปี 2015 และที่เก่ากว่านั้น พูดถึงการดูว่าเวปนั้น spam หรือเปล่า ทั้ง on-page และ off-page

แต่ทำไมมันถึงแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง?

เวลาที่ Google ประกาศอะไรออกมาให้ webmaster รับทราบ จะมีการตีความอย่างต่ำ 3 แบบ คือ

- เชื่อทุกคำที่กู๋บอก

- ไม่เชื่อทุกคำที่กู๋บอก

- พยายามอ่านเจตนาว่ากู๋ต้องการจะสื่ออะไรกันแน่

การที่กู๋ปล่อย quality rater guideline มาให้อ่าน ผมตีความว่า

- backlink จะมีน้ำหนักลงเรื่อยๆ สังเกตุดูได้จากตอนนี้ คีย์ภาษาอังกฤษ ซึ่ง wikipedia เคยครองหน้า 1 อันดับ 1 ตอนนี้หลายคีย์ตกลงมาแล้ว

- Page Rank ก็ไม่ปล่อยมาให้ดูแล้ว เค้าเริ่มบีบเราเรื่อยๆ

- กู๋ได้เริ่มใช้ คุณภาพของเวปเป็นปัจจัยในการจัดอันดับแล้ว แบบว่า จะใช้แล้ว เลยปล่อยมาให้อ่าน

ช่วงวันหยุดที่ผ่านมา ผมไปนั่งอ่าน quality rater guideline แบบตั้งใจเลย แล้วก็พบประเดินสำคัญคือ หลักการ E-A-T

ย่อมากจาก Expertise-Authoritativeness-Trustworthiness

แปลทีละตัว

Expertise = ทักษะ ของคนทำเวปนั้น
Authoritativeness = คุณภาพและความถูกต้องของเนื้อหา
Trustworthiness = ความน่าเชื่อถือของเวปนั้น


เวปที่มีคุณภาพสูง จะมีระดับ E-A-T สูง เวปที่มีคุณภาพต่ำ จะมีระดับ E-A-T ต่ำ

แล้วจริงๆกู๋มีวิธ๊วัดแต่ละปัจจัยอย่างไร

Expertise = ทักษะ ของคนทำเวปนั้น

วัดจากรายละเอียดใน "About Us" หรือ "About" คือ มันจะหาดูว่า

- มีการใส่ชื่อคนทำเวปนั้นหรือไม่

- คนๆนั้นเรียนมาด้านไหน

- คนนั้นมีประสบการณ์การทำงานอย่างไร

- คนๆนั้นเคยได้รับรางวับที่เกี่ยวข้องกับเวปหรือไม่

สรุปคือ About Us ท่านต้องเขียนเหมือนเขียนบทความเลย เขียนยาวๆ มีอะไรจะอวดก็ใส่ไปให้หมด


Authoritativeness = คุณภาพและความถูกต้องของเนื้อหา

- วัดจากความยาวของเนื้อหา

- กลุ่มของเนื้อหา เช่น เวปเกี่ยวกับ การท่องเที่ยว เวลาเขียนเกี่ยวกับสุขภาพ ย่อมมีความถูกต้องน้อยกว่า เวปเกี่ยวกับสุขภาพเขียนเนื้อหาเอง

- ความพึงพอใจของผู้อ่าน เช่น low bounce rate

Trustworthiness = ความน่าเชื่อถือของเวปนั้น

- มีชื่อผู้เขียนบทความ (ที่มีตัวตนจริงๆ) อยู่ที่ทุกหน้าของบทความ

- มี รายละเอียดการติดต่อชัดเจน อย่างต่ำต้องเป็น e-mail address เห็นได้จากทุกหน้าของเวป

- ถ้าเป็นเวป e-commerce หรือ เวปที่เกี่ยวกับความเป็นความตายของคน เช่น เวปเกี่ยวกับสุขภาพ ต้องมี ที่อยู่ เบอร์โทร

แล้วหลักการ E-A-T ใช้ประเมินคุณภาพของเวปจริงๆ ได้อย่างไร

สมมุติมีเวปขายของ Amazon เวปนึงนะ

- posted by admin หรือ posted by John หรือ posted by Mary

- "About Us" ยาวแค่ 1 ย่อหน้า ไม่มีรายละเอียดอะไรมากมายเกี่ยวกับคนที่ทำเวป หรือมีรายละเอียดแต่ไม่มีตัวตนจริงๆ

- ไม่มีลิงค์ให้เข้าถึงหน้า "About Us" ได้

- ใช้แบบฟอร์มให้คนติดต่อ (ไม่มี อีเมล์ ไม่มีเบอร์โทร ไม่มีที่อยู่)

- ไม่มีลิงค์ให้เข้าถึงหน้า "Contact Us" ได้

- ไม่มีบทความไหนที่ไม่ขายของ amazon (มี affiliate link ทุกหน้า)

ไม่ได้บอกว่า ถ้าไม่มีองค์ประกอบเหล่านี้แล้วอันดับจะตกนะครับ ลิงค์ยังมีผล แต่ ตอบไม่ได้เลยว่ากู๋จะเอาจริงเมื่อไหร่

แล้วถ้าท่านทำแบบที่กู๋ต้องการ ท่านคิดว่ามันจะดีกับเวปท่านหรือไม่ ลองถามใจตัวเองดูนะครับ






หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: Mal2s ที่ 27 ตุลาคม 2016, 10:24:53
ติดตามต่อไปครับ มีประโยชน์มากครับ


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: hnonmai ที่ 27 ตุลาคม 2016, 13:58:41
ติดตามครับ


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: eyejan ที่ 28 ตุลาคม 2016, 07:37:47
22. Content Ideas in Boring Niche

ผมค่อนข้างงงๆกับเวป e-com จำนวนมาก ว่าทำไมไม่เขียนบทความ เพราะว่าการเขียนบทความ

- นำมาซึ่ง Long Tail Traffic

- ทำให้คนคุณเคยกับเวปเราก่อนที่จะซื้อของๆเราจริงๆ

- เป็นแหล่งที่อุดมสมบูรณ์ในการทำ Internal Link

ก็จะมีคนบอกว่า ของที่ฉันขายไม่รู้จะเขียนบทความอะไร ไม่มีหรอก เพราะมันเป็น Niche ที่น่าเบื่อ

เรามาดูกันว่า วิธีการหาไอเดียในการเขียนบทความสำหรับ Niche ที่มันน่าเบื่อควรทำอย่างไร

Keyword: วัสดุปูพื้น (บ้าน, คอนโด, สำนักงาน) - น่าเบื่อปะ?

- ใช้การค้นดังนี้ "Keyword" + Blog เช่น "Flooring" Blog (ค้นเป็นภาษาอังกฤษ)

- คุณก็จะเจอ blog ต่างๆของฝรั่งที่มีบทความเกี่ยวกับ วัสดุปูพื้น

- ก๊อปชื่อบทความมา แล้วลองแปรเป็นไทยดู ถ้าไม่ถนัด ก็ใช้  google translate แปล

- ดูว่าบทความแบบไหนที่ประยุกต์ได้กับเมืองไทย

- คุณก็จะได้ไอเดียในการเขียนบทความนับร้อยนับพัน แล้วแต่ความขยันในการค้นของคุณ

- แล้วก็ขึ้นอยู่กับตัวคุณแล้ว ว่าจะลงมือเขียนจริงๆหรือเปล่า

วัสดุปูพื้นยังไม่น่าเบื่อพอ? เอาแบบน่าเบื่อกว่านี้อีก?

Keyword: ขายโลงศพ ค้นด้วย "Funeral Home" Blog

ถ้าคุณมีความพยายาม ก็ไม่มีอะไรรั้งคุณไว้ได้แล้ว จริงๆนะ

หมายเหตุ: ที่เขียนมาตั้งแต่ต้นเนี่ย ผมหวังว่าท่านสมาชิกที่กำลังเริ่มทำ e-com ส่วนใหญ่จะได้อ่านนะครับ

ผมเข้าใจดีว่า คนที่หันมาทำ e-com หลายๆคน อยู่ในช่วงที่ชีวิตกำลังจะเปลี่ยนผ่าน จากการเป็นพนักงาน กลายมาเป็นเจ้าของกะเขาบ้าง เลยอยากสนับสนุน


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: kingseo ที่ 28 ตุลาคม 2016, 09:46:26
ข้อมูลเยอะดีครับ +


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: sys2528 ที่ 28 ตุลาคม 2016, 09:59:13
ขอบคุณมากครับ    :wanwan017:


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: Tutorcuu ที่ 28 ตุลาคม 2016, 12:26:25
+1 ครับ


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: dekdoo ที่ 28 ตุลาคม 2016, 22:39:47
ขอบคุณมากครับ เป็นเทคนิคที่น่าสนใจ มีประโยชน์ต่อคนรุ่นใหม่มาก ๆ


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: eyejan ที่ 29 ตุลาคม 2016, 19:09:31
23. มาดูกันว่ากู๋ชอบเวปแบบไหน

อ้างอิง Google Quality Rater Guideline อีกทีครับ

จริงๆแล้ว มันมีการแบ่งเวปไซด์ออกเป็น 5 ระดับคือ ดีที่สุด/ดีมาก/ปานกลาง/แย่/แย่ที่สุด

แล้วแต่ละระดับก็จะมีตัวอย่างของเวปแต่ละแบบด้วย เช่น เวปบทความ, เวปบอร์ด, อีคอม ฯลฯ โดยมี link อ้างอิงไปที่เวปนั้นๆ

พร้อมกับบอกเหตุผลว่า ทำไมเวปนั้นๆได้คะแนนเท่านั้น

แต่... ลิงค์พวกนั้นคนนอกดูไม่ได้ครับ

จะดีกว่าไหม ถ้าเราเห็นด้วยตาตัวเองว่ากู๋ชอบเวปแบบไหน

เคยจำได้ว่า Quality Rater Guideline ของ 1-2 ปีที่แล้ว มันมีตัวอย่างเวปแบบแคปหน้าจอในคู่มือด้วย

งั้นมาดูกันว่า มันคือเวปอะไร

โค๊ด:
http://inchoo.net/online-marketing/ecommerce-seo-different-seo-types-websites/

หมายเหตุ: เวปอ้างอิงอันนี้เค้าแคปหน้าจอเอาไว้ได้

เวปที่กู๋ให้คะแนนระดับ "สูงสุด" เป็นเวปอีคอมชื่อ LL Bean

พอดูตัวอย่างหน้าจอแล้วก็มาวิเคราะห์กันเลย

- เปิดมาปุ๊ปเจอแถบเขียวบนสุด มีจุดขายบอกไว้เลยคือ "Shipped for Free, Guarantee to Last" หรือ จัดส่งฟรี ของเราดีเลยไม่ค่อยพัง

- บนแถบเขียวขวาสุดเจอ ทั้งวิธีการติดต่อ และ เบอร์โทร โชว์ความโปร่งใส

- ถัดมาเจอโลโก้ LL Bean อันนิดเดียว

- ถัดมาอีกเจอ โปรโมชั่น

เอาแค่นี้ก่อนเลย ถ้าเป็นอีคอมไทย เปิดมาเจออะไรครับ = header การ์ตูน หรือ รูปภาพอื่นๆ สุดแต่จินตนาการของคนออกแบบ

- ถัดลงมาคือ Drop Down Menu Bar (แหล่งทำ internal link ระดับ 5 ดาว?)

- รูปภาพสินค้า คุณภาพสูง ชัดเจน

- ปุ่ม "Call to Action" (ภาษาไทยเรียกว่าอะไรนะ?) "Add to Bag" ชัดเจน เป็นสีส้ม (ทำไมเค้านิยมโทนสีส้มกันนะ?)

หยุดแค่นี้ก่อน จะบอกว่า เค้าไม่มีสิ่งที่เวปอีคอมไทยชอบมีคือ "Distractions" หรือ สิ่งที่รบกวนสมาธิของผู้ใช้ใดๆเลย เช่น

Content Slider, Animation, ตัววิ่ง, ตัวกระพริบ, รูปที่ไม่ใช่สินค้า, Fixed Header (เจ้าเมนูที่เวลาเราเลื่อนเมาส์แล้วเมนูมันล็อคอยู่ด้านบน)

ตอนนี้เวป LL Bean ก็มีโครงสร้างเวปคล้ายแบบนี้เลย แต่ดูสะอาดตากว่านี้เยอะมาก

การบ้าน (ถ้าท่านอยากทำ)

- เปิดเวป LL Bean, Lazada.co.th, Zalora.co.th, เทพช็อป, ตลาด, วีเลิฟ พร้อมกัน

- เปรียบเทียบรายองค์ประกอบเลย ว่า แต่ละองค์ประกอบของแต่ละเวป มีความแตกต่างกันอย่างไร

- อะไรเป็นองค์ประกอบที่ควรมี

- อะไรเป็นองค์ประกอบที่ไม่ควรมี

ลองดูครับ




หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: eyejan ที่ 31 ตุลาคม 2016, 12:53:35
24. ตำแหน่งที่ดีทีสุดในการทำ Internal Links

วันนี้ผมขออ้างอิงแหล่งข้อมูลอีกแหล่งหนึ่ง ที่คนไทยอาจไม่เคยรู้

เกริ่นนำก่อนเลยว่า Google จริงๆแล้ว เป็นบริษัทที่ตั้งขึ้นจากรากฐานงานวิจัยที่ มหาลัย Stanford

(Top Computer Science ที่เมกามี 3 ที่คือ Stanford, MIT, CMU)

Larry Page เข้าเรียนปริญญาเอกที่ Stanford โดยมี Sergey Bin เป็นรุ่นพี่ที่เรียนอยู่แล้ว

Page พบว่า Search Engine สมัยก่อน เช่น Infoseek, Lycos, Hotbot มีผลการค้นหาที่ไม่ดี เนื่องจากมีการจัดอันดับโดยการใช้

ปัจจัยด้าน on-page อย่างเดียว Page เลยตั้งสมมุติฐานว่า ถ้าจัดอันดับเวปโดยใช้หลักการเดียวกับการอ้างอิงบทความทางวิทยาศาสตร์ก็จะดี

เช่น นักวิจัยคนหนึ่ง ตีพิมพ์ผลงานทางวิชาการ เวลามหาวิทยาลัยจะขึ้นวิทยาฐานะ และ เงินเดือนก็ต้องดูว่า ผลงานวิจัยนั้น ถูกนำไปอ้างอิง

มากน้อยขนาดไหน ถูกอ้างอิงโดยวารสารทางวิชาการที่มีคุณภาพหรือไม่ (หลักการนี้เรียกว่า Citation Analysis)

Page ก็เอา Citation Analysis นี่แหละ มาประยุกต์ใช้ในการจัดอันดับเวป โดยนับ link เสมือนหนึ่งการที่ผลงานวิจัยถูกอ้างอิง

Surgey คอยช่วย Page ในการสร้าง bot เพื่อเก็บข้อมูลจากเวปไซด์ เพื่อให้เพจนำมาคำนวณสิ่งที่เรียกว่า PageRank

พอทำวิจัยจบ Page จบปริญญาเอก (แต่ Surgey เรียนไม่จบ) งานวิจัยของ Page ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของ Stanford

Page ต้องจ่ายเงินให้ Stanford เพื่อขอนำงานวิจัยที่ตัวเองเป็นคนทำกะมือ เอาออกมาใช้งานเชิงพาณิชย์ แล้วทั้งคู่ก็ออกมาตั้งบริษัท

โดยไปชวน Susan Wojcicki ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการโฆษณา ออกมาตั้ง search engine โดยตั้งบริษัทในโรงรถหลังบ้านของ Susan

เข้าเนื้อเรื่อง

จะเห็นได้ว่า Google มีรากฐานของการทำวิจัยและเป็นนักวิทยาศาสตร์สูงมาก หลังจากนั้น อัลกอทั้งหลายที่กู๋คิดขึ้นมา ก็จะต้องไปขึ้นทะเบียน

สิทธิ์บัตรก่อน จะได้ไม่โดนใครฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย ซึ่งใช้เวลาในการขึ้นทะเบียนสิทธิบัตรอัลกอประมาณ 2-3 ปี แล้วหลังจากนั้น ปีสองปีถึงจะกลาย

มาเป็นอัลกอที่ใช้งานได้

(ไม่เหมือน Samsung กับ Apple ที่ต้องทำสินค้าออกมาให้เร็วโดยยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนสิทธิบัตร แล้วก็ต้องมีคดีความฟ้องร้องกัน)

ก็จะมีนัก SEO จำนวนหนึ่ง ที่ไปเอาสิทธิบัตรของ Google ที่ขึ้นทะเบียนไว้แล้ว มาวิเคราะห์ หนึ่งในสิทธิบัตรนั้นคือ สิทธิบัตรเกี่ยวกับ

อัลกอที่ประเมินตำแหน่งของ Link (Link Analysis)

โค๊ด:
http://patft.uspto.gov/netacgi/nph-Parser?Sect1=PTO2&Sect2=HITOFF&u=%2Fnetahtml%2FPTO%2Fsearch-adv.htm&r=1&p=1&f=G&l=50&d=PTXT&S1=7,716,225.PN.&OS=pn/7,716,225&RS=PN/7,716,225

อัลกอตัวนี้บอกว่า ตำแหน่งของ Link ที่มีน้ำหนักที่สุด จะอยู่ที่ด้านบนสุดของ HTML Code เพราะว่ามันมีแนวโน้มจะถูกคลิ๊กจากคนอ่านมากที่สุด

ถ้าวัดตามตำแหน่งของ HTML Code เราจะสามารถจัดลำดับความสำคัญของตำแหน่งของ Link ได้จากมากไปน้อยดังนี้

Header---Content Area---Side Bar---Footer

แปลเป็นไทยง่ายๆ

- ถ้าจะทำ internal link ทำเป็น drop down menu ที่ใกล้ header มากที่สุด

- ลองลงมาคือ ทำ internal link ในตัวบทความ

- หรือไม่ก็ทำ internal link ที่ side bar

- footer เอาไว้ใส่ internal link พวก about us, copyright, privacy

(ถ้าท่านซื้อ backlink ลองตรองดูว่า ควรซื้อ backlink แถว footer หรือเปล่า)

ข้อคิดจากเรื่องนี้

มันมีสิทธิบัตรหลายตัว ที่กู๋สามารถเอาไว้ใช้จัดอันดับเวปแทนที่ backlink ได้รับการอนุมัติออกมาแล้วครับท่าน

ถ้าท่านไม่เริ่มทำเวปคุณภาพ อีกไม่นาน มีหนาว  :wanwan009:


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: weerayut888 ที่ 31 ตุลาคม 2016, 15:03:04
ขอจำไปใช้นะครับ


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: pongsak01 ที่ 31 ตุลาคม 2016, 15:21:53
*-*


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: clinton ที่ 01 พฤศจิกายน 2016, 07:30:20
ขอบคุณครับ :wanwan017:


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: Miso-Shoyu ที่ 01 พฤศจิกายน 2016, 12:48:48
ข้อมูลเยอะ ยังอ่านไม่จบแต่ก็ขอบคุณครับ


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: eyejan ที่ 02 พฤศจิกายน 2016, 12:33:29
25. เพิ่ม Organic Click Through Rate ด้วย Power Word

วันนี้เอาเรื่องเบาๆบ้างครับ

กู๋ให้ความสำคัญกับ Organic Click Through Rate เพิ่มมากขึ้น แต่มันคืออะไร

Organic Click Through Rate หรือ บางทีก็เรียกว่า CTR คืออัตราการที่เวปไซด์ของเราถูกคลิ๊ก เมื่อแสดงผลการค้นหาบน Google

เวปที่เวลาแสดงผลขึ้นมาแล้วคนคลิ๊ก กู๋มองว่าคือเวปคุณภาพ ต้องดันอันดับขึ้น

เราลองสังเกตุดู เวลาเราค้นตามคีย์ต่างๆ เราไม่ได้คลิ๊กทุกเวปไซด์ที่อยู่บนหน้าหนึ่งใช่ป่ะครับ แล้วเวปที่เราคลี๊กมันมีคุณสมบัติอย่างไร มาดูกัน

- ชื่อบทความ (Title Tag) สอดคล้องกับสิ่งที่เรากำลังค้นหา

- ชื่อเวปไซด์เป็นชื่อที่เราจดจำได้ เราเลยเชื่อถือ

- ชื่อบทความมีความน่าสนใจ

เจ้าปัจจัยที่ 3 นี่แหละ ที่ตอนนี้ฝรั่งให้ความสำคัญ โดยการใช้เทคนิคในการเติมคำบางคำลงไป เพื่อเรียกร้องความสนใจให้คนคลิ๊ก

คำเหล่านี้เรียกกว่า "Power Word" ตัวอย่างเช่น

- How to…
- Review
- Best
- Fast
- Checklist
- Guide
- Tips
- Easy
- Simple

แต่ Power Word จริงๆมีเยอะเป็นกระบุง เวปนี้เค้ารวบรวม Power Word มากถึง 355 คำ

โค๊ด:
https://sumome.com/stories/power-words

สำหรับเวปไทย คำพวกนี้พอแปลมาแล้วอาจจะใช้ไม่ได้ผล แต่ผมมีเทคนิคที่ท่านอาจลองประยุกต์ใช้ดูดังนี้

- ตื่นเช้ามาเล่น Facebook เลย

- คลิ๊กอ่านบทความอะไรก็ได้ ที่คุณอยากอ่าน

- อ่านเสร็จถามตัวเอง เฮ้ย ทำไมเราคลิ๊กอ่านบทความนั้น

- ดูชื่อบทความนั้น แล้วเอาคำนามออก แทนที่ด้วย "keyword' ที่ท่านทำอยู่

- ปรับแต่งรูปประโยคให้สวยงาม

สรุปว่า สำหรับเวปไทย ก็คือการย้อนรอย เอาลักษณะโครงสร้างของชื่อบทความที่มันน่าสนใจใน niche อื่น มาใช้ใน niche ของเรานั่นเอง

ลองดูครับ ความรู้มีอยู่ทุกที่จริงๆ


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: ten1312 ที่ 02 พฤศจิกายน 2016, 13:53:16
เก็บไว้ก่อน เดี๋ยวกลับมาอ่าน


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: BOYWINDOWN88 ที่ 02 พฤศจิกายน 2016, 13:55:05
เดี๋ยวกลับมาอ่าน


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: soodgame ที่ 02 พฤศจิกายน 2016, 15:08:18
ขอบคุณครับ  :wanwan017:


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: maprang1990 ที่ 02 พฤศจิกายน 2016, 16:48:39
 :wanwan013: อย่างนี้ต้องจัดหน่อยแล้วค่ะ
 ขอบคุณคะ :-[


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: cherdkiettis ที่ 02 พฤศจิกายน 2016, 17:23:21
ขอมาปักไว้ก่อน  แล้วจะกลับมาอ่านครับ


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: pipatkab02 ที่ 02 พฤศจิกายน 2016, 17:33:30
ขอบคุณครับ สำหรับ เทคนิค  :wanwan017:

ทำSEO สำคัญอันดับแรก On-Page ต้องดี

ผมก็ศึกษา seo ในบอร์ดนี้จนตอนนี้ หน้า 1 หลายคีย์มาก

ไม่เคยได้ขอบคุณใครเลย เพราะไม่ได้เป็นสมาชิก



หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: TH-JOBS ที่ 02 พฤศจิกายน 2016, 19:20:41
Thank you..


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: lnwza007 ที่ 02 พฤศจิกายน 2016, 19:46:47
ขอบคุณครับ  :wanwan017:


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: uniquegreentea ที่ 02 พฤศจิกายน 2016, 20:47:20
ขอบคุณครับ...เยี่ยมมมมม  :wanwan017:


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: insidecom ที่ 02 พฤศจิกายน 2016, 21:14:02
ขอบคุณครับ ความรู้ใหม่ๆ ทั้งนั้นเลย


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: eyejan ที่ 03 พฤศจิกายน 2016, 09:46:29
26. Meta Description ยังสำคัญอยู่หรือไม่

ถ้าท่านสังเกตุดูดีๆ ผลการค้นหาหน้าหนึ่งในหลายๆคีย์จะเจอ facebook กับ youtube ค่อนข้างเยอะ

แต่... facebook กับ youtube ไม่มี Meta Description?

โค๊ด:
https://support.google.com/webmasters/answer/35624?hl=en

ตามข้อมูลนี้ กู๋บอกว่า

"Google will sometimes use the meta description of a page in search results snippets, if we think it gives users a more accurate description than would be possible purely from the on-page content."

แปลง่ายๆว่า บางทีก็ใช้ Meta Description ในการแสดง Snippet บางทีก็ใช้เนื้อหาในหน้านั้นมาแสดงเป็น Snippet

ผมเลยทำการทดสอบว่า จริงๆ Google ใช้ Meta Description บ่อยขนาดไหน โดยทำการเก็บข้อมูลดังนี้

- ใช้ Internet Explore ในการค้น โดยเคลียร์ Cache ทั้งหมด เก็บข้อมูลประมาณสี่ทุ่มของวันที่ 2 พย

- ค้น keyword แข็งๆเลย คือ "SEO" ที่ Google.com โดยเข้า Google.com ผ่าน proxysite เพื่อเปลี่ยน IP ของเครื่องเป็น IP ที่อเมริกา

- ผลการค้นหาหน้าหนึ่ง ได้ผลลัพท์ที่เป็นเวปไซด์ 8 อัน โดยสรุปผลได้ดังนี้

ผลการค้นหาอันดับ 1 = มีการใช้ Meta Description / กู๋ใช้เนื้อหาในหน้านั้นแสดงผลใน Snippet

ผลการค้นหาอันดับ 2 = มีการใช้ Meta Description / กู๋ใช้เนื้อหาในหน้านั้นแสดงผลใน Snippet

ผลการค้นหาอันดับ 3 = ไม่มีการใช้ Meta Description / กู๋ใช้เนื้อหาในหน้านั้นแสดงผลใน Snippet

ผลการค้นหาอันดับ 4 = ไม่มีการใช้ Meta Description / กู๋ใช้เนื้อหาในหน้านั้นแสดงผลใน Snippet

ผลการค้นหาอันดับ 5 = มีการใช้ Meta Description / กู๋ใช้เนื้อหาในหน้านั้นแสดงผลใน Snippet

ผลการค้นหาอันดับ 6 = มีการใช้ Meta Description / กู๋ใช้ Meta Description แสดงผลใน Snippet

ผลการค้นหาอันดับ 7 = มีการใช้ Meta Description / กู๋ใช้ Meta Description แสดงผลใน Snippet

ผลการค้นหาอันดับ 8 = มีการใช้ Meta Description / กู๋ใช้เนื้อหาในหน้านั้นแสดงผลใน Snippet

ข้อสังเกตุ

ไม่ว่าท่านจะมีหรือไม่มี Meta Description เลยก็ตาม กู๋มีแนวโน้มที่จะใช้ เนื้อหาช่วงย่อหน้าแรกของบทความเป็นมาแสดงเป็น Snippet

ดังนั้น ถ้าเราเขียนย่อหน้าแรกเหมือนเขียน meta description แบบให้คนอ่านรู้เรื่อง ก็ไม่จำเป็นต้องทำ Meta Description ต่างหากอีกหนึ่งชุด

ข้อดีของการที่กู๋ใช้เนื้อหาในหน้านั้นมาทำ Snippet ก็คือหน้านั้นๆก็สามารถติดอันดับได้หลายคีย์

เท่าที่เคยทดสอบ

เท่าที่ทดสอบด้วยตัวเอง พบว่า การเพิ่ม หรือ การถอด Meta Description ไม่มีผลต่ออันดับเลยครับ ส่วนตัวผมเลยเลิกทำ Meta Description ไปแล้ว

ยกเว้นหน้าแรก (root domain) ที่เป็นหน้ารวมของบทความ

ลองทดสอบดูครับ


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: soodgame ที่ 03 พฤศจิกายน 2016, 11:10:10
สุดยอดความรู้เพิ่มพูน  :wanwan020:


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: eyejan ที่ 04 พฤศจิกายน 2016, 08:08:54
27. การหายไปของ "Home" Button

ท่านสังเกตุหรือไม่ ตอนนี้เวปหลายๆเวปเริ่มเลิกใช้ปุ่ม "Home" หรือ ปุ่มกลับ "หน้าหลัก" ที่เมนูด้านบนแล้ว

เท่าที่่ค้นดู ในหมู่คนออกแบบเวปบอกว่า ผู้ใช้ส่วนใหญ่รู้แล้วว่าการคลี๊กที่โลโก้ด้านบนสุดของเวปคือการกลับไปหนัาหลัก

ดังนั้น จึงไม่มีความจำเป็นต้องใส่ปุ่มกลับหน้าหลักอีก เวปนี้มีตัวอย่างของการออกแบบที่กำจัดปุ่ม "Home" ไปเลย

โค๊ด:
http://www.webdesignerdepot.com/2015/08/the-ux-case-against-the-home-button/


ท่านที่ใช้ Google Analytics ลองเข้าไปที่ Inpage Analytics แล้วลองเข้าไปดูว่า ปุ่มไหนของเมนูด้านบนถูกคลิ๊กเป็นปริมาณเท่าไหร่

แล้วก็จัดอันดับจาก มากที่สุดอยู่ซ้ายสุด น้อยที่สุดอยู่ขวาสุด เท่านี้ทุกท่านก็สามารถเพิ่ม pageviews และ สร้างยอดขายได้เพิ่มขึ้น

ลองทดสอบดูนะครับ


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: Mal2s ที่ 04 พฤศจิกายน 2016, 10:57:55
มีประโยชน์มากครับ อันนี้ไม่เคยรู้เลย


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: Nasir ที่ 04 พฤศจิกายน 2016, 11:00:12
ขอบคุณครับ


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: eyejan ที่ 05 พฤศจิกายน 2016, 08:01:07
28. Footer Link ดีจริงๆหรือ

Footer Link ที่ผมพูดถึงก็คือ Internal Link ที่มี keyword หลายอันแต่ทั้งหมดมันวิ่งไปที่หน้าหลัก Root ทั้งหมด

เช่นในกรณีของไทยเซียวเอง มี 4 อันคือ

SEO ลิงค์ไปที่ thaiseoboard.com

Adwords ลิงค์ไปที่ thaiseoboard.com

Adsense ลิงค์ไปที่ thaiseoboard.com

Affiliate ลิงค์ไปที่ thaiseoboard.com

ส่วนตัวผมคิดว่า ในอดีต เทคนิคนี้อาจจะใช้ได้ผล แต่ตอนนี้นี่ผมสงสัยอยู่เหมือนกัน (ตัวผมเองไม่ได้ทำ)

แต่อยากเอาตัวอย่างของเวปของประเทศเพื่อนบ้านมาให้ดูดังนี้

ShoutMeLoud - อินเดีย

โค๊ด:
http://www.shoutmeloud.com/

MyBloggerTricks - ปากีสถาน

โค๊ด:
http://www.mybloggertricks.com/

Blogger Sentral - มาเลเซีย

โค๊ด:
http://www.bloggersentral.com/

ถ้าท่านดูดีๆ 3 เวปนี้ไม่มีใครทำ Footer Link แบบที่ไทยเซียวทำเลย

จริงๆผมได้ทำการเก็บข้อมูลและประมวลผลมาแล้ว แต่ขอไม่แสดงผลการทดสอบ และอยากให้ท่านลองวิเคราะห์ดูว่า Footer Link ยังเวิร์คหรือไม่ อย่างไร


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: asnowman ที่ 05 พฤศจิกายน 2016, 08:07:21
Thank You  :wanwan017:


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: compeak ที่ 05 พฤศจิกายน 2016, 08:09:54
เยี่ยม อ่านเพลินเลยครับ


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: Techit13 ที่ 05 พฤศจิกายน 2016, 11:50:27
ขอบคุณมากครับ :wanwan017:


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: sweedphoto ที่ 05 พฤศจิกายน 2016, 13:16:31
 :wanwan017: ขอบคุณครับผม  :wanwan017:
 


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: Loverikfmf99 ที่ 05 พฤศจิกายน 2016, 13:48:44
ขอบคุณครับผม


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: noomseo ที่ 05 พฤศจิกายน 2016, 14:19:13
ขอบคุณครับ :wanwan020:


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: Loverikfmf99 ที่ 05 พฤศจิกายน 2016, 17:28:55
ขอบคุณครับ


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: online999 ที่ 05 พฤศจิกายน 2016, 18:06:53
ขอบคุณครับ  :wanwan017:


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: pinghatyai ที่ 06 พฤศจิกายน 2016, 16:48:06
ขอบคุณครับ แต่ยังงงงง


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: Hybrid ที่ 06 พฤศจิกายน 2016, 19:55:58
ขอบคุณครับ content สำคัญจริงๆ


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: dkgibson ที่ 07 พฤศจิกายน 2016, 15:21:29
ขอบคุณมากๆ ค่ะ +1


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: eyejan ที่ 07 พฤศจิกายน 2016, 17:40:45
29. ผลกระทบของ Mobile First Index

เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายนที่ผ่านมา กู๋ประกาศว่า จะใช้เนื้อหาบน mobile web เป็นตัวจัดอันดับ จากเดิม ใช้เนื้อหาบน desktop เวป ในการจัดอันดับ

โค๊ด:
https://webmasters.googleblog.com/2016/11/mobile-first-indexing.html

กู๋บอกว่า เนื่องจากตอนนี้ผู้คนที่ใช้ Google ส่วนใหญ่ ค้นหาจากมือถือเป็นหลัก เลยอยากจัดอันดับเวปจากเนื้อหาที่แสดงบนมือถือ ดังนั้น

- ถ้าเวปของท่านไม่ได้เป็น responsive design หรือ มีเนื้อหาสำหรับมือถือ น้อยกว่า เนื้อหาสำหรับคอมตั้งโต๊ะ (เช่น เวป e-com หลายๆที่) อันดับท่านอาจจะตกได้

- ฟันธงเลยว่า กู๋ต้องการใช้คุณภาพของเนื้อหาในการจัดอันดับ เพราะผู้ใช้มือถือมีพฤติกรรมการอ่านเนื้อหาที่สั้นกว่า เช่น เจอเนื้อหาไม่ดี ad เยอะเกะกะ ก็ปิดทิ้งเลย

ดังนั้น เวปที่สามารถทำให้ผู้อ่าน อ่านหน้าที่เข้ามาได้นานๆ หรือ เข้ามาแล้วอ่านไปหลายหน้า (อัตราการตีกลับ หรือ bounce rate ต่ำ) มีแนวโน้มที่อันดับจะขึ้น

สรุป: ยุคของ content มาถึงจริงๆแล้วสินะ




หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: OnlineDay ที่ 08 พฤศจิกายน 2016, 16:34:58
 :'( ยังไงก็คงยังต้องปรับ On Pageให้ถูกใจผู้ใช้ และผู้ตรวจ(พี่ Goo๋) :o


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: mulan ที่ 08 พฤศจิกายน 2016, 17:16:47
 :wanwan017: :wanwan017: :wanwan017: :wanwan017:


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: FatCat6 ที่ 08 พฤศจิกายน 2016, 20:37:13
ขอบคุณครับ  :wanwan017:


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: eyejan ที่ 21 พฤศจิกายน 2016, 07:01:48
30. มาดู On-Page แบบเทพๆ ในคีย์ของท่านกัน

นักทำ SEO ต่างประเทศหลายๆคน เค้าบอกว่า เวลาตามดู Backlink คนอื่น ไม่ให้ตามดูพวกที่อยู่หน้า 1 แต่ให้ตามดูพวกที่อยู่หน้า 5

เพราะพวกนี้จะดิ้นรนมาก เพราะใกล้เส้นชัยแล้วแต่ไม่ถึงซักที กลุ่มนี้มักจะมีเทคนิค Backlink ที่ต่างจากชาวบ้าน

ทีนี้เรามาดูกันว่า เราควรตามดู On-Page ของใคร

- เลือกคีย์ที่หินที่สุดที่ท่านเล็งเอาไว้

- ค้น Google เพื่อดูผลการค้นหาเฉพาะหน้า 1

- เอาชื่อเวปของพวกหน้าหนึ่งทั้งหมด ไปตรวจสอบ backlink ที่ Ahrefs

- จดเอาไว้ว่า แต่ละเวปมี ปริมาณ Backlink เท่าไหร่

เวปที่ On-Page ที่เทพที่สุด ที่ท่านควรเอาเป็นแบบอย่างคือ On-Page ของเวปที่มี Backlink "น้อยที่สุด" ในกลุ่มของหน้า 1

เช่น ในคีย์ที่ผมทำ เกือบทุกเวปในหน้า 1 มี backlink ประมาณ 1 ล้าน!

แต่มีเวปนึง มี backlink น้อยกว่านั้นหลายๆเท่า แต่สามารถติดหน้าหนึ่งได้ แสดงว่า On-Page เวปนี้โคตรเทพ เราจึงควรดูเป็นตัวอย่างทุกองค์ประกอบเลย

ลองดูนะครับ


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: tongchimlang ที่ 21 พฤศจิกายน 2016, 08:53:32
ขอบคุณมากครับ.. :wanwan017:


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: manisakunrat ที่ 21 พฤศจิกายน 2016, 13:24:26
ขอบคุณคะ


หัวข้อ: Re: เทคนิค On-Page ที่กู๋ก็ว่าใช่ ผู้อ่านก็ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: NKRSEO ที่ 22 พฤศจิกายน 2016, 01:36:29
อ่านกระทู้ท่านแล้วผมโคตรมีไฟเลยครับ ขอบคุณสำหรับกระทู้ดีๆคุณภาพแบบนี้นะครับ อยากจะเรียกว่าท่านอาจารย์เลยทีเดียว