ThaiSEOBoard.com

แบบว่าเป้นแค่เพียงตัวแทนจำหน่าย  ไม่ได้เป็นเจ้าของสินค้าเอง

เวลาลูกค้ามีปัญหา เราต้องมานั่งแก้ไขปัญหาให้ลูกค้าไหม 

บางทีสินค้ามีปัญหานิดหน่อย ผมก็แจ้งทางลูกค้าไปว่า  ให้แจ้งหรือสอบถามไปทางบริษัท พร้อมกับให้ข้อมูลการติดต่อไป

คิดได้ 2 แง่ครับ แล้วก็ต้องดูเงื่อนไขครับ ฮ่าๆ
กรณีแรก ลูกค้าจะคิดว่าตราบใดที่ซื้อของจากเราไป เราต้องเป็นคนรับผิดชอบครับ เพราะเราคือตัวแทนจำหน่าย

อีกแง่นึงต้องดูเงื่อนไขของบริษัทเจ้าของสินค้าครับ ว่าเค้ามีเงื่อนไขการรับประกันอย่างไร หรือไม่งั้นเราก็ต้องคอยประสานงานให้ลูกค้าครับ

ผิดถูกยังไงขออภัยด้วยนะครับ

ประสานเท่าที่ทำได้ครับ 


ดีกว่าส่งต่อ  คุณ  จะ ได้ใจลูกค้ามากกว่า

สินค้าตัวเดียวกันมีขายไม่รู้กี่ร้าน แต่ที่ต่างกันก็คือบริการหลังการขาย

นอกจากราคาแล้ว ลูกค้าบางคนยังติดสินใจซื้อจากบริการหลังการขายด้วย เป็นตัวแทนจำหน่ายควรจะมีความรู้ความเข้าใจในตัวสินค้าพอประมาณและสามารถให้คำแนะนำลูกค้าได้ครับ

บางทีผมซื้อสินค้าแล้วมีอะไรเล็กน้อยจะสอบถาม เจอคนขายให้ติดต่อบริษัทเจ้าของสินค้าอย่างเดียวก็แอบเซ็งเหมือนกันนะ

เขาซื้อกับใคร คนนั้นก็ คือคนที่ต้องดูแลเขาครับ เพราะเวลาเขาซื้อเขาฟังเราเสนอสินค้า เขาเชื่อใจเรา ไม่ใช่ บริษัท  ลูกค้ามองแบบนั้น
เวลาเราซื้อสินค้า จาก ตัวแทน ไม่ว่าจะประกัน หรือ ครีม หรือ รถยนต์ แล้ว พอมีปัญหา เราโยนให้บริษัท เราก็ทำไม่รู้ไม่ชี้ ไม่สนใจ
ลองคิดดูว่าลูกค้า จะคิดกลับมาซื้อ กับเราอีกไหมครับ

คนขาย = ผู้ต้องดูแล

ตัวแทนควรจะแก้ปัญหาเบื้องต้นนะครับ หลังจากนั้นถ้ามันยากหรือมีข้อย่อยอื่นๆที่ลึกลงไปตัวบริษัทจะช่วยหาทางออกให้เองครับ

ดูแลเบื้องต้น

เคยช่วยแก้ปัญหาในขั้นต้น และเป็นคนกลางประสานงานให้ครับ

เราเป็นคนขาย ควรต้องดูแลปัญหาให้ลูกค้าก่อนครับ
ส่วนบริษัทก็จะคอย support เราอีกที
บริการดีๆ ลูกค้าประทับใจ เกิดการบอกต่อ โปรโมทร้านเรา หรือกลับมาซื้อซ้ำ

เข้ามาฟังด้วยครับ น่าจะช่วยเหลือไป เท่าที่ช่วยได้นะครับ  :wanwan017:

ควรจะช่วยเหลือและค่อยประสานงานครับ เพื่อให้ลูกค้าพึงพอใจแล้วกลับมาใช้บริการเราอีกครั้ง

แก้ก่อนครับ ถ้าทำไม่ได้ถึงส่งต่อ

เค้าซื้อกับเรา มีปัญหามาหาเราก็ถูกแล้วครับ เราจะต้องส่งต่ออีกทีก็เป็นหน้าที่เรา ไม่ใช่ลูกค้ายกเว้น สำหรับผมนะ
ตอนขายแจ้งลูกค้าก่อนเลยว่าสินค้าของใคร เราเป็นดิลเลอร์ใคร อยู่ที่ไหน มีปัญหาปรึกษาเรา มาหาเราได้
แต่ถ้า ลูกค้าสะดวกไปที่ผู้นำเข้าโดยตรงอีกทีก็ตามที่ลูกค้าสะดวก

ผมเคยเจอเคสลูกค้ามีปัญหามาหาผม ผมดูปัญหาเกิดจริง ผมส่งต่อให้
พอไปถึงผู้น้ำเข้าบอกไม่เจอ ลูกค้ามาปรึกษาเรา ผมรับกรรมแทนซื้อคืน
หารุ่นอื่นให้ลูกค้า ขาดทุน 1 รายการ แต่ได้ลูกค้าเพิ่มครับ
เพื่อน ญาติลูกค้ามาหาผมหมดเลย :)

เล่าสู่กันฟังครับ

การเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้า... เท่าที่ผมทราบ จะมีสองแบบครับ

แบบแรก คือการจำหน่ายสินค้าอย่างเดียว ที่เหลือ ต้องส่งให้บริษัทเขาเป็นคนจัดการแก้ไขปัญหาได้

แบบสอง คือการจำหน่ายสินค้าด้วย และรับซ่อมสินค้าให้ด้วย (ซึ่งเราจะได้ผลตอบแทนจากบริษัท ในการซ่อมสินค้านั้นให้ลูกค้า จากบริษัทแม่ กรณีอยู่ในประกัน)

แต่ไม่ว่าแบบแรกหรือแบบสอง ก็ควรมีบริการหลังการขายครับ มันดีกับร้านของคุณเอง อยู่ที่ว่าคุณจะทำแค่ไหน ถ้าทำแบบที่คุณบอก ก็ไม่ผิดครับ  แต่โอกาสจะเสียลูกค้าก็มีสูงขึ้นครับ  เพราะลูกค้าไม่ได้มาสนใจว่าสินค้านั้น ใครเป็นเจ้าของ แต่เขาซื้อกับร้านของคุณ สิ่งที่ลูกค้าคิด ให้คุณช่วยบริการหลังการขาย

ลองเปรียบเทียบสองร้านให้เห็นนะครับ ว่าคุณจะเลือกซื้อสินค้ากับร้านไหน

ร้านแรก ขายสินค้า แต่พอมีปัญหา บอกให้ไปติดต่อกับบริษัทผลิตโดยตรงเอง   

ร้านสอง ขายสินค้า แต่พอมีปัญหา ช่วยแก้ไขให้ในเบื้องต้น แต่ถ้าอาการหนัก ก็อาจจะอธิบายให้ลูกค้าฟัง และช่วยนำส่งซ่อมให้ลูกค้า
 

มันก็ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งในหน้าที่นะคะ เขาซื้อของกับคุณ คุณก็ได้เงินจากเขาเหมือนกัน ไม่ได้เป็นลูกจ้างรายเดือนที่สักแต่ว่าขายๆ ให้เถ้าแก่ซักหน่อย เราเห็นคุณมีปัญหาการขายกับลูกค้าบ่อยมาก เห็นบอกว่าขายมานานหลายปีด้วย อยากรู้ว่าทำมาได้ยังไงตั้งนาน? เพราะเหมือนไม่ได้รักในสิ่งที่ทำเลย นิดหน่อยก็รำคาญแล้ว คุณเหมาะกับงานประเภทที่แบบว่าไม่ต้องดิวกับลูกค้าโดยตรงมากกว่า แบบทำงานตามใบสั่ง ไม่ต้องไปจัดการปัญหากับเหล่ามนุษย์  :wanwan023:

ถ้าเป็นคนอื่นเขาคงพลิกวิกฤตเป็นโอกาส ลูกค้าจะซื้อเพราะเรา ไม่ใช่เพราะสินค้า เพราะสินค้าบางอันจะซื้อที่ไหนก็ได้ เหมือนผู้หญิ่งบางคนอ่ะ ไปตัดผมไกลแค่ไหนก็ไป เพราะชอบในฝีมือและการให้บริการของร้านประจำ

ลองติดตามเพจ Sales101 ดูนะคะ คุณน่าจะได้แง่คิดหลายอย่าง

ถ้าผมเป็นผู้ซื้อ มุมมองผมคือ

คนขายต้องเป็นคนออกหน้าเสมอ ลุกค้ามีปัญหา เราต้องรับเรื่อง แล้วไปคุยกับบริษัท
 (เว้นแต่จะพวก กำหนดประกันผู้นำเข้าชัดเจน แบบพวกอุปกรณ์คอม เราดูแล 3-7 วัน ที่เหลือติดต่อเอง)


ถ้าซื้อปุ๊บ มีปัญหาโยนไปให้บริษัท  แบบนี้ ผมขอซื้อตรงดีกว่าครับ

ยังไงก็ต้องคุยก่อน
ส่วนเรื่องเข้าเนื้อนั่นทีหลัง
ถ้ากลัวก็ต้องเลือกเจ้าของสินค้าที่ไว้ใจได้
คุณไม่ใช่ลูกน้องเขา คุณเป็นลูกค้าเขาต่างหาก

ก่อนอื่นเลย ต้องเลือกเจ้าของสินค้าที่ดูแลตัวแทนขายด้วยครับ กำไล500บาท/ชิ้นครั้งเดียว แต่Supportลูกค้าตลอดไปก็ไม่ไหว
เจ้าของสินค้าบางรายขายสินค้าบอกว่าส่วนต่างเยอะ แต่แอบไปขายของตัดราคาแข่งกับตัวแทนขายก็มี ตัวแทนขายก็ต้องลดราคามาแข่งกับบริษัทที่เอามาขาย ได้กำไลไม่กี่บาท
คุยให้ชัดเจนตั้วแต่แรกเลยครับเรื่องความรับผิดชอบ