ThaiSEOBoard.com

http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1413619076

"ผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซมีบางส่วนอยู่ในระบบเสียภาษีแล้ว บางส่วนอาจจะยังเพราะรายได้ไม่ถึงเกณฑ์ หรือบางส่วนยังไม่เข้า เพราะไม่รู้ว่าจะต้องเข้าเสียภาษีด้วย ผมก็จะจัดสัมมนาให้เขารู้ เมื่อเขาเข้ามาแล้วจะได้เดินอยู่ในระบบที่ถูกต้อง เพราะเรามีข้อมูลว่า ใครบ้างอยู่ในธุรกิจตรงนี้ พอให้ความรู้เขาก็ไม่เดินผิดพลาด เราไม่อยากไปปรับอะไรเขาเลย อยากให้เขาเดินในสิ่งที่ตรงไปตรงมา ซึ่งจะเกิดประโยชน์กับเขา โดยเฉพาะการขายสินค้าข้ามประเทศ ตรงนี้ถ้าระบบไม่ถูกต้อง มันมีหลักฐาน"  :wanwan035:

ระยะนี้ข่าวแนวๆนี้ออกมาบ่อยจัง  :'(

แต่นี่เป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้ครับ ที่จะมาเล่นพวกค้าขายข้ามประเทศด้วย ปกติมีแต่ในไทย  :P

เค้าจะเช็คยังไงอะ :P

วันๆ ก็คิดแต่ทำเว็บ ต่อไปคงได้แบ่งเวลามาทำบัญชีว่าเว็บนี้เป็นไงๆ อีก แต่ละบัญชีมีอะไรบ้าง รายได้ ต้นทุน ล็อกไฟล์ต่างๆ อยากรู้จริงๆ ว่าน่าจะมีแผนงาน มีระบบ ให้รู้ว่าจะทำยังไงบ้าง อย่างคนทำ aff นี้บางคนมีหลายบัญชีธนาคาร หลายต้นทุน พวกเงินในรูปแบบอื่นๆ อีกละ น่าจะทำแผนให้ชัดกว่านี้ก่อน อธิบายสิ่งต่างๆ ให้คนเข้าใจตรงกัน เพราะคนทำเว็บก็มีเยอะและจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีใครไม่อยากจ่ายและอยากเห็นประเทศด้อยพัฒนาหรอก

เห็นแล้วเหนื่อยแทนครับ แต่ก็นะสุดท้ายแล้วหนทางเยอะแยะครับ

แต่ถ้าเพื่อความสบายใจ ก็จ่ายๆไปครับ สบายใจดีกว่า

มันต้องมีรายได้เท่าไหร่ถึงจะเข้าเกณฑ์ครับ

ที่ผ่านมาผมเสียทุกปีเลยครับ มีปีนี้มีแววไม่ได้เสีย  :'(

 :o ได้ยินคนบอกว่ารายได้ไม่เกิน 150k ไม่ต้องเสียครับ ไม่รู้จริงป่าวรอผู้รู้มาตอบอีกที

ต่อไปไม่แน่นะ  ถ้ารัฐบาลขอความร่วมมือ
เขาอาจจะส่งรายงานมาที่รัฐบาล
เพราะว่า Google, eBay และ Amazon  ให้ความร่วมมือ (ไม่ขัดแย้ง)  กับรัฐบาลหรือกฏหมายของประเทศนั้นๆ อยู่แล้ว

ธนาคารจะเป็นผู้สอบถามไปยังเจ้าของบัญชีค่ะ หากมียอดเงินสูงๆ ว่ามาจากท่ใด เขากลัวเรื่องฟอกเงิน
ส่วนใหญ่คนขายของต่างประเทศ เขาจะโอนเข้าบัญชีออมทรัพย์ หลายบัญชี หรือชื่อลูก
เขาจะทยอยโอน แต่ละบัญชีไม่เกิน 2 แสน หากเกินก็จะยังคงไม่ถอนเงินจาก Paypal

แต่อย่่างไรก็ตาม การเสียภาษรเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคน :wanwan007:

คนที่มีรายได้ออนไลน์จากต่างประเทศ น่าจะเป็นกลุ่มสุดท้ายที่ถูกตามเก็บภาษี
เท่าที่คุยกับจนท.ธนาคาร เค้าเก็บข้อมูลเพื่อส่งให้แบงค์ชาติ สรรพากรจะขอข้อมูลได้คือต้องมีคำสั่งศาล

คนที่รับเช็ก เวลาเอาเช็กไปขึ้นเงินก็ไม่ต้องให้แบงค์หักณที่จ่าย ถ้ามีการหัก ณ ที่จ่าย ต้องทำเรื่องเสียภาษีตอนสิ้นปี

ที่จริงเราก็เสียภาษีกันทุกวันอยู่แล้ว คือ VAT ที่รัฐได้จากการจับจ่ายใช้สอยของพวกเรา
เมื่อไหร่ที่คอรัปชั่นลดลง การให้บริการของรัฐดีขึ้น เราอาจจะไปขอเสียภาษีเองก็ได้

ตอนที่อยู่ที่อเมริกา การให้บริการของรัฐดีมากๆ เราขายของได้ เรายังไปทำเรื่องขอเสียภาษีเอง
แต่กับประเทศไทย รอไปเหอะ

ถูกต้องเลยครับ ทุกวันนี้ที่คนไม่อยากเสียภาษีและหลีกเลี่ยงเพราะแบบนี้แหล่ะครับ ถ้าคอรัปชั่นไม่มีหรือลดลงก็จะยอมเสียแบบเต็มใจหน่อย
เสียไปแล้วก็เหมือนเดิมไม่พัฒนาอะไรเลย :'( :'(

พี่ Trudy ขอความรู้หน่อยครับ ผมอ่านมาเดาว่าพี่น่าจะมีรายได้เข้าเรต VAT แล้ว (ยอดรับเงินรวมเกิน 1,800,000 บาทต่อปี) ตรงนี้เลยอยากถามว่าพี่ทำ VAT ส่งยังไงครับ ผมคิดหัวจะระเบิด ผมได้เคยสอบถามสำนักงานบัญชี 2-3 แห่ง เค้าบอกว่าการขายสินค้าผ่าน eCommerce ให้ต่างประเทศ ไม่สามารถทำ VAT 0% ได้เพราะการทำ VAT 0% (พูดง่ายๆไม่จ่าย VAT) ต้องทำพิธีการศุลกากรครบถ้วนเท่านั้น ดังนั้นการขายของผ่าน eBay หรือ Amazon ต้องจ่าย VAT 7% เหมือนการขายในไทยอะครับ ผมเลยสงสัยว่าทำยังไง คำนวณยุ่งยากมั้ย อยากขอประสบการณ์ด้วยครับ เพราะเท่าที่สอบถามมาการเข้าระบบ VAT วุ่นวายมาก ต้องยื่นภาษีทุกเดือน และถ้าทำผิดค่าปรับรุนแรงมากอะครับ  :wanwan017:

ข้าวเพิ่มเติมวันนี้ครับ เรื่อง VAT ที่ผมถามพี่ Trudy ว่าจัดการยังไงมีรายละเอียดในนี้ด้วยเผื่อท่านอื่นสนใจครับ

http://www.manager.co.th/iBizchannel/viewNews.aspx?NewsID=9570000120583

คุยกับบริษัทบัญชี ขนาดคนทำบัญชียัง งง และไม่เข้าใจ

ผมเลยจะจดนิติไปเลย

ก็ต้องเป็นไปตามนั้นหละครับ เราไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงได้ ถ้าเขาเช็คขึ้นมา..

ขู่กันรายวันเลยนะ

http://bit.ly/1olLzG2

นายประสงค์ ยังได้ยกตัวอย่างว่า ในปี 2555 ที่ผ่านมา กรมสรรพกร ได้เชิญผู้ประกอบการธุรกิจ E-Commerce จำนวน 1,300 รายเข้าตรวจสอบการชำระภาษี ซึ่งพบความผิดพลาดในการชำระภาษี ทำให้ผู้ประกอบการต้องเสียค่าเบี้ยปรับเงินเพิ่มเป็นเงินเกือบ 100 ล้านบาท ปัจจุบันยังเหลือผู้ประกอบการที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบอีก 600-700 ราย ซึ่งตนเห็นว่า ไม่เป็นสัญญาณที่ดี เพราะไม่ต้องการให้ผู้ประกอบการชำระภาษีเพิ่มขึ้น

"เราต้องการสนับสนุนให้ผู้ประกอบธุรกิจเหล่านี้ มีการเติบโตอย่างมั่นคง หากต้องเสียภาษีจำนวนมาก ก็จะขาดความมั่นใจในการประกอบธุรกิจ เราจึงสนับสนุนวิธีการเสียภาษีที่ถูกต้อง ยกตัวอย่าง ผู้ประกอบการรายหนึ่ง มีรายได้ปีละ 2 ล้านบาทต่อปี มีกำไรปีละ 1 แสน โดยภาษีย้อนหลัง 3 ปีบวกเบี้ยปรับเงินเพิ่ม 7 แสนบาท ถ้าเสียภาษีจำนวนขนาดนี้ ก็จะขาดกำลังใจ แต่ถ้าเข้าระบบถูกต้อง ก็จะเสียภาษีในจำนวนที่น้อยกว่ามาก" นายประสงค์ กล่าว

นอกจากนี้ นายประสงค์ ยังย้ำด้วยว่า ในจำนวนเบี้ยปรับของการเลี่ยงภาษีนี้ คือ 200% ของภาษี บวกเงินเพิ่มอีก 1.5% ต่อเดือนหรือ 18%ต่อปี

ในปี 2556 มีผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในระบบ E-Commerce จำนวนมากถึง 9 แสนราย คิดเป็น 58% ของผู้ประกอบการทั้งหมด 1.55 แสนราย รวมมูลค่าทั้งสิ้น 7.5 แสนล้านบาท โดยมูลค่าดังกล่าวเพิ่มขึ้นประมาณ 30% จากปี 2555 ในจำนวนผู้ประกอบการ 9 แสนรายดังกล่าว เป็นผู้ประกอบการรายย่อยประมาณ 1.45 แสนราย ในจำนวนนี้มี 9 หมื่นรายที่ยังไม่เข้าสู่ระบบการเสียภาษีอย่างถูกต้อง ส่วนที่เหลือเข้าสู่ระบบอย่างถูกต้องแล้ว

"ผู้ประกอบการทุกรายนั้น เรามีข้อมูลหมด เพราะเราประสานกับสถาบันการเงินเกี่ยวกับข้อมูลการโอนเงินซื้อขาย ถ้าเราใส่ตามกติกา ก็คงไม่ได้อยู่กันแบบปรองดอง แต่เราต้องการอยู่แบบส่งเสริมให้ผู้ประกอบธุรกิจเติบโต และมีทัศนคติในแง่บวก บอกให้เข้าใจถึงวิธีการเสียภาษีอย่างถูกต้อง ธุรกิจเหล่านี้ ก็จะมีการเติบโตที่ดี ไม่ต้องเสียภาษีแบบมีเบี้ยปรับเงินเพิ่ม ซึ่งจะกระทบสภาพคล่องในการทำธุรกิจ" เขากล่าว

โดยปกติสินค้าส่งออกจะได้สิทธิ์จ่าย VAT 0% หากสามารถปฏิบัติได้ตามคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ป. 97/2543

http://www.rd.go.th/publish/3557.0.html

ลองไปอ่านข้อมูลจากลิงค์ดูค่ะ ขายของหนึ่งชิ้น ราคาไม่แพง แต่ต้องเตรียมข้อมูลเพื่อเคลียร์ VAT ซะขนาดนั้น เลิกขายจะดีกว่ามั้ย หากต้องการจัดเก็บภาษีจากคนขายออนไลน์ไปต่างประเทศ สรรพากรต้องทำขั้นตอนเคลียร์ VAT นี้ให้ง่ายกว่านี้  และถ้าต้อง declare ตามจริง จะส่งของกันได้มั้ย สินค้าที่ขายในห้างเป็นส่วนใหญ่ จำพวกอาหาร ยา ครีมต่างๆ ต้องการใบอนุญาตส่งออก ปลายทางก็ต้องมีใบอนุญาตนำเข้า ยุ่งยากน่าดู ต้องจดทะเบียนเป็นผู้ส่งออกด้วย สินค้าหลายๆอย่างก็เป็นสินค้าควบคุม สินค้าบางอย่างต้องขอนุญาตส่งออกกันเป็นรายปี สินค้าบางอย่างต้องการผ่านขั้นตอนพิเศษอีก ค่าใช้จ่ายในการตรวจเพื่อผ่านพิธีการศุลกากรอาจจะแพงกว่าค่าสินค้าที่ขายได้


หากใครที่ขายของในอีเบย์อเมซอนและเสียภาษี ช่วยแชร์ข้อมูลด้วยค่ะว่าจัดการกับ VAT ยังไง

และคนที่เสียภาษี จะแข่งขันกับคนที่เลี่ยงภาษีได้ยังไง น่าคิด

ส่งข้อมูลไปออกสื่อทีวีครับ พวกเส้นก๋วยจับหรือแบ็คดีไม่ค่อยกลัวกฏหมายหรอก ต้องเป้นข่าวถึงจะโดนเล่นงานจริงจัง

เขาเช้คจาก transection ที่ผ่าน ธนาคารแห่งประเทศไทยครับ ( Bank ชาติ)  

เช็คได้ทั้งหมด  ไม่ว่า เงินจะผ่านมารูป แบบ ไหน  

 Bank ชาติ เขามี โปรแกรม Alerts ป้องกันการ ฝอกเงินครับ  

แล้ว  Bank ชาติ ค่อย ส่งให้ สรรพากร ว่าอยาก recheck อันไหน  หรือ อันไหนมัน  น่าสงสัย ก็เรียกมาชี้แจง แล้วก็เก็บภาษี    

แล้วถ้าใครไม่มา สรรพากร จะส่งเรื่องให้ ตำรวจเศรษฐกิจ ออก หมายเรียก มาครับ  

ผมเคยโดน หมายเรียก ตราครุฒ  จากตำรวจเศรษฐกิจ มาที่บ้านแล้วครับ  (ขี้แทบแตก)   

ให้ไปที่ ตำรวจเศษฐกิจ ที่ สาธรครับ  จ่ายค่าปรับ แล้วก็ไปทำเรื่องที่ สรรพากร ต่อ ครับ   

 :wanwan017:

ebay เป็น target แรกของ  กฎหมาย "กิจการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์" http://www.rd.go.th/publish/26215.0.html  

ที่ สรรพากร จะเก็บภาษีครับ  

คุณจำได้ไหมที่  เมือ 2-3 เดือนก่อน ธนาคารทุกธนาคาร แจ้ง ขอ อนุญาติ เปิดเผย บัญชี อะไร ซักอย่าง เกี่ยวกับ ฝอกเงิน อเมริกา แล้วคุณ ต้องให้คุณยอมรับ  

Target  แรก คือ  paypal  ครับ  เรื่อง ภาษีอย่างเดียว  และ เป็น ต้นเรื่องในการ  กฎหมาย "กิจการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์" http://www.rd.go.th/publish/26215.0.html  

แล้วเดียวจะตามก็บ  ทุก  อันครับ  


ในกฎหมาย ภาษี  มีข้อนึงเขียนประมาณว่า  ผู้ใด ที่อยู๋ในประเทศไทยเกิน 200 วัน (มั้งนะ)  ไม่ว่ารายได้มาจากที่ไหนของโลก ต้องยื่นภาษี  ( ต้องยื่น อย่างเดียวนะครับ แต่เสียไหม ไม่รู็ )  

คุณจะเสียไม่เสียภาษี ไม่รู็     แต่หน้าที่ของคุณ คือ ยื่นภาษี  ถ้าคุณอยู่ในประเทศไทย และ มีรายได้(จากที่ไหนในโลกนี้)

แล้วเดียว สรรพากร จะบอกเองว่าคุณต้องเสียภาษีไหม  


แต่ถ้าคุณไม่ยื่นภาษี = ผิด


ผมพึ่งคุยกับ สรรพากรมา  เขาบอกว่า  วันนี้ตรวจไม่เจอ คือ คุณ โชคดี  แต่ถ้าตรวจเจอ คุณ โดนภาษีย้อนหลัง 5 ปี พร้อมค่าปรับ พร้อม ดอกเบี้ยทบต้น และไม่มีการลดหย่อน


กฎหมาย "กิจการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์" http://www.rd.go.th/publish/26215.0.html     ออกมาแล้วครับ  และ มีผลภาษีย้อนหลังด้วยนะครับ

 :wanwan017:

อันไหนที่มีการค้าขายอย่างชัดเจนการบริการอย่างชัดเจนหลายคนยังไม่เข้าใจ ทำไมไม่ทำเว็บอธิบาย มีคลิปอธิบายบนยูทูป มีคอลเซนเตอร์ ขนาดนักบัญชีหลายคนยังมึน แล้วคนที่รู้ไม่ได้ตามข่าวเลยจะรู้ว่าทำอย่างไรบ้าง จะดูแค่ยอดเงินอย่างนั้นหรือ คนที่ลำบากคือคนตัวเล็กๆ ที่มีพอรายได้ระดับหนึ่งเท่านั้น ส่วนพวกตัวใหญ่เขามีวิธีซิกแซกไม่ให้เงินเข้าเกินได้อยู่ดีแหละ บัญชีต่างประเทศเขาเยอะแยะ เอาเงินที่ได้ไปทำกำไรต่อเป็น

กฎหมายประเทศไทย เก็บภาษีได้ เฉพาะ เงินที่อยู่ในประเทศไทยครับ 

ถ้าๆ่คุณไม่อยากอยาก เสีย ภาษี  คุณ เอา เงินไปพักไว้ที่ ฮอ้งกง แล้ว บินไป เอาได้ครับ  เปิดบัญชี citi 

มีวิธีเยอะแยะ    ไม่เสียภาษี 

แต่ถ้า ยอดขายไม่ถึง 10 ล ไม่ต้องไปเสียเวลาทำนะครับ

สิ่งที่หนีไม่พ้น
ภาษี
ความตาย

 :wanwan015:

อะไรๆ ก็ภาษีๆ

ผมคนหนึ่งล่ะรู้สึกเหมือนโดนเอาเปรียบในสังคมมานานเนินล่ะ

เราเสียภาษี แต่ใครไม่รู้ชอบเอาเงินภาษีเราเข้ากระเป๋าตัวเองในรูปแบบต่างๆนานา

ถ้ารัฐจัดการตรงนั้นได้ ประเทศไทยพัฒนากว่านี้เยอะครับขอบอก

รออัตราภาษีออกมาแน่นอนก่อน :wanwan016: :wanwan016:

ใกล้ถึงเวลาเสียภาษีแล้วสิ

ขอบคุณนะครับ

เราเคยถูกสรรพากรเรียกเข้าพบเมื่อ 2 ปีก่อน เรามีบริษัทนำเข้าส่งออก ทุนจดทะเบียนค่อนข้างสูง สิ้นปีเรายื่นเสียภาษีเป็นศูนย์ สรรพากรเลยเรียกเข้าไปชี้แจง เค้าถามอะไรมา เราก็ตอบไป ซักพักก็มีหัวหน้าและเจ้าหน้าที่คนอื่น ก็มาช่วยกันยิงคำถาม ถามวกไปวนมา เราก็ตอบไปตามปกติ ตอบบ้าง ถามกลับไปบ้าง คุยเสร็จก็ไม่มีอะไร และไม่เจอภาษีย้อนหลังแต่อย่างใด และเราก็ยื่นเสียภาษีเป็นศูนย์ทุกปีมาตลอด

ทุกอย่างอยู่ที่ใจ เรามองว่าสรรพากรเก่งเราก็จะกลัว  ที่จริงสรรพากรก็ไม่ได้เก่งอะไร ส่วนใหญ่มาแนวขู่ แล้วเราๆท่านๆก็กลัวที่เค้าขู่ จึงเอาข้อมูลใส่พานให้เค้าไป จากประสบการณ์ นักบัญชีที่เก่งๆฉลาดๆมักจะสอบได้เป็นผู้ตรวจสอบบัญชี หรือทำงานที่สนง.บัญชี สรรพากรส่วนใหญ่ที่เจอคือ สอนกันมาให้ขู่และขู่

ปล. เราเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี อย่าเอาอย่างเรานะ

เห็นด้วยที่สุด อย่าเอาข้อมุลใส่พานถวายให้เค้าครับ ผมคิดว่าทุกวันนี้เราเสียภาษีกันทุกคนมากพอแล้ว อยู่ที่พวกจะเอาไปใช้มากกว่าเอาไปใช้กันเต็มเม็ดเต็มหน่วยรึเปล่า ผมเลี่ยงทุกวิธี ซิกแซกได้ ผมจะทำ