ThaiSEOBoard.com

หลายคนคงรู้สึก Bitcoin เป็นอย่างดี หลายคนก็อยากลองขุด เพราะด้วยเป็นเรื่องใหม่ ศึกษาไว้ไม่เสียหลาย
ผมเองก็ได้ลงไปลองมาแล้ว มี BTC อยู่บ้าง ลองไปเทรดเล่นบ้าง พบว่าเจ็บตัวเปล่าๆครับ คนที่รวยสุดคือคนที่ทำ Hardware ขายครับ
คนที่ซื้อเครื่องมาขุด ถ้าเพื่อการศึกษาแล้วถือว่าคุ้ม แต่ถ้าเพื่อทำกำไรแล้วผมว่าไม่คุ้มค่าครับ ทั้งเครื่องร้อนระดับ 60 - 80 องศา ทั้งค่าไฟเดือนละหลายพัน ค่า Diff ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยกับ Coin ที่ได้รับความนิยมสูง ต้องวิ่งหาที่แลก ต้อง set up  

สายเทรดก็ต้องมาตามดูอัตรแลกเปลี่ยน บางทีขึ้นบางทีลง วันก่อนลงไป $102 จาก $600 ก่อนหน้านี้วิ่งแถว $850  โอ้วมีโอกาสเจ็บตัวมากๆ หากตามตลาดไม่ทัน

แต่ปัญหาใหญ่หลวงที่หลายคนอาจจะมองไม่ออก ก็คือการแลกเปลี่ยนครับ
ผมอยู่ในวงการ  e-currency มานาน ตั้งแต่สมัย IncGold, E-gold, Liberty Reserve แล้วละครับ สุดท้ายก็ต้องล้มเพราะพวกทำผิดกฏหมายหันมาใช้เยอะ ถามว่าทำไมเมื่อกลางปี Bitcoin ถึงพุ่งพรวด อันนั้นเพราะ Liberty Reserve ล่มครับปิดตัวไปแล้ว บรรดามาเฟีย เลยหันมาหาเป้าหมายตัวใหม่ในการรับส่งเงิน

 Concept ของ Crypto Currency คือการไม่มีระบบ Centralized ไม่มีหน่วยงานกลางจัดการ ทำได้เพียงแค่มีการรับ Exchange เท่านั้น เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่มีหน่วยงานกลาง FBI ก็จะพยายามทำให้ล่มทันที เพื่อไม่ให้ระบบนี้มีอยู่ในโลก เพื่อให้ง่ายต่อการควบคุมอาชญากรรมข้ามชาติ  ทุกครั้งที่ e-currency ล่มผมตามไปอ่านดูก็คือ เจ้าของมักจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับอเมริกา เมื่อทรัพย์สินในอเมริกาโดนยึด ก็ไม่มีเงินสดจ่ายกลับให้คนที่ถอน (Exchanger รายใหญ่) ระบบก็ล่มโดยปริยาย

ผมคิดไว้ก็คือ ไม่ว่า Exchanger เจ้าไหนๆ ก็ต้องล่มครับ ภายในเวลาที่ไม่นาน จะหาเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ แต่อย่าลืมว่า Bitcoin ไม่มีอะไรหนุนหลังแนวเดียวกับ USD ที่มีแค่คำว่า service หนุนหลัง ทำให้ไม่มี real cash มา backup

ขอยกตัวอย่าง Currency อย่าง Perfect Money, LR, OKPay อะไรเหล่านี้ เริ่มต้นจะมีเงิน Digital ออกมาได้ ต้องมีคนเอาเงินจริงไปฝาก หากมีการถอนก็สามารถแปลงกลับเป็นเงินจริงออกมาได้จากเงินของคนที่ไปฝากก่อนหน้านี้ จนเกิดกระแสหมุนเวียนเงินเป็นจำนวนมากในระบบ Digital ส่วนเงินจริงเจ้าของ PM,LR ก็อาจจะเอาไปลงทุน เอาไปเข้ากระเป๋า แอบปล่อยตัวเลขเงิน Digital ออกมา เหมือนพิมพ์แบงค์ออกมาเรื่อยๆได้ในช่วงหลังๆ การแลกเปลี่ยนเงินก็ทำกันเป็นทอดๆ จนเจ้าใหญ่ๆ จะต้องติดต่อไปยัง PM,LR เพื่อขอแลกเงินเป็นจำนวนมากระดับล้านเหรียญเป็นเงินสดคืนได้ ระบบก็จะยังคนอยู่ วันใดที่เจ้าของโดนจับ นั่นหมายถึงการโอนเงินสดกลับเข้ามือผู้ที่ต้องการแลกไม่ได้ เงินนั้นก็ล่ม

หันมามอง Bitcoin บ้าง ใครก็ตามที่รับแลก คิดดูนะครับ หากมีคนมาขอแลกผ่านระบบซัก 1 ล้านเหรียญ จะเอาเงินที่ไหนไปให้เขาครับ ถ้าเป็นระบบ LR,PM ก็แค่ไปแลกกับ official exchanger ซึ่งสุดท้ายก็เป็นเงินที่อยู่ในคลังของ LR , PM แต่ในกรณี Bitcoin มีการขุดออกมาเรื่อยๆ คนเก่าๆ ที่ได้เงิน BTC มาถามว่าจ่ายไปด้วยเงินสดหรือไม่ แล้วหากมีคนต้องการแลกมากๆ แล้วจะเอาเงินสดๆ มาจากไหนครับ

อย่างวันก่อนทาง FBI ยึดเงินของ Silkrode ไปหลายล้านเหรียญ ถามว่าหากทางการต้องการแลกคืนกลับเป็นเงินสด จะไปแลกกับใคร ถ้ามาปล่อยกับ Btc-e หรือ MtGox เว็บเหล่านี้จะเอาเงินมาจากไหนจ่าย

สิ่งเหล่านี้อาจจะมีคนเทียบได้กับทองคำ ที่ว่าขุดมาเรื่อยๆ ก็ถือเป็นการเติมเงินในระบบ มีทองมากๆ ก็รวย แลกเป็นเงินสดได้เสมอไม่มีวันหมด อันนี้จริงครับ เพราะตลาดโลกที่ใหญ่มาก ทุกประเทศใช้ระบบเงินตราเป็นทองหนุนหลัง มีไม่กี่ประเทศที่เอาทองมาขายแล้วถือว่าบริการคือการหนุนหลังอย่างอเมริกาเป็นต้น แต่อย่าลืมนะครับว่า หากมีทองคำเยอะๆในตลาด เราสามารถเอาทองคำมาทำเครื่องประดับ มาเคลือบวงจรอิเลคทรอนิคส์ได้ การใช้งานทองคำจริงนั้นมีหลากหลายวิธี

แต่ทองคำดิจิตอล  Bitcoin ถามว่าหากมีมากๆแล้วจะไปแลกที่ไหนเพื่อให้เป็นเงินสดมาใช้งานได้ เลยเกิดกระแสปั่นราคาสูงเพื่อแลกเป็นเงินสด ตอนนี้เริ่มมีปัญหาว่าบางที่รอเงินนานมาก อันเนื่องจากกระแสเงินสดขาดหายไป อาจจะโดนยึด โดนแฮกก็แล้วแต่ครับ

ดังนั้นผมขอสรุปว่า เกาะติดกระแส เล่นกับมันเล็กน้อยพองาม อย่าทุ่มเงินล้านไปกับมันมากนะครับ แค่หลักหมื่นนี่ผมคิดว่าเหมาะแล้วสำหรับคนที่ต้องการเรียนรู้เทคโนโลยี  อย่าไปคิดว่ามันจะทำให้คุณรวยได้นะครับ ผมลองมาแล้วหลายทาง หากคุณไม่ได้นั่งหน้าคอมพ์ตลอดเพื่อเทรด ก็หมดสิทธิ์  จะวางเครื่องขุด สุดท้ายก็ไม่คุ้มค่าไฟกับบ้านรอ้น จะฝากวางเดือนหลังๆ ก็ไม่คุ้มค่าเช่าครับผม

โดนใจครับ เมื่อวานเจอข่าว Mt. Gox มีปัญหาไม่สามารถจ่ายเงินได้ ตอนนี้ไม่รู้เป็นไงนะ

เป็นบทความที่อิงทฤษฎีเศรษฐศาสตร์ค่อนข้างมาก อ่านยากจุง
แต่มีประโยชน์ดีครับผม

ที่อ่านๆ ข้อมูลจากหลายๆ แหล่งก็แอบเป็นห่วงเหมือนกันครับ

ว่า ในระยะยาวอาจจะมีปัญหา เพราะว่าไม่มีการไปอ้างอิงกับสินทรัพย์ต่างๆ (แบบ ทองคำ เป็นต้น)

แถมด้วย อัตราการเกิดขึ้นของ bit-coin ในโลกนี้ มันเหมือนจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ (แต่ลึกๆผมยังเชื่อว่า ก็อาจจะมีมนุษย์ที่อยู่เบื้องหลัง ที่อาจจะสามารถบังคับได้ว่า ช่วงไหนจะให้ขุด bit-coin ได้มาก หรือ ขุดได้น้อย เพื่อเอาไว้กำหนดราคาตลาด ยิ่งไม่มีหน่วยงานกลางในการควบคุมด้วยแล้ว ยิ่งน่ากลัวครับ)

ทั้งหมดนี้เป็นมุมมองส่วนตัวนะครับ ถ้าผิดพลาดก็ขออภัยด้วยครับ :P

ขอบคุณ จขกท มากครับ สำหรับข้อมูล บอกตรงๆ ตอนรู้จัก Bitcoin แรกๆ ตื่นเต้นมาก ผมเกือบเอาเงินเก็บก้อนสุดท้ายไปลงทุนแล้ว ดีที่หาข้อมูลก่อน  :P

อยากลงทุนเหมือนกัน อิอิ
แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง

ขอบคุณที่มาเตือนค่ะ :wanwan017:

เป็นมุมมองใหม่สำหรับผมเลยครับ ขอบคุณมากครับ

ผมตามดูกราฟราคาบิทคอยน์ ตอนนี้ลงมาเร็วมากๆครับ มากจนน่าตกใจเลย

ผมว่ามันคือสัญญาณที่ราคาจะพุ่งสูงขึ้นมาก

รอดูกันก่อนซักพักก็แล้วกัน  :wanwan013:

kingofdollars
คนขายฮาร์แวร์เขารวยอยู่แล้ว เขาไม่ได้จัดตั้งโรงงานมาทำเครื่องขุดบิทคอยน์อย่างเดียวนี่ เขาทำแขนงอื่น ๆ อยู่ก่อนแล้วแค่มีผัง pcb มีอะไหล่เขาก็ทำเครื่องได้แล้ว ไม่ใช่มารวยเพราะทำเครื่องพวกนี้ขายโดยเฉพาะหรอก มันแค่เป็นโอกาสทางธุรกิจอย่างหนึ่งของเขา เราไม่มีทุนจัดตั้งโรงงานเราก็จัดตั้งแท่นขุดไป

สายเทรดทำกำไรระยะสั้นใครกดตอน $100 ทันวันนี้ก็รวยแล้วกำไร $500+ พวกนี้ต้องดูกราฟเป็น ส่วนใหญ่จะเป็นพวกมือเก๋ามาจาก forex ไม่งั้นอย่าหวังว่าจะได้ง่าย ๆ

การใช้เป็นสือกลางผิดกฎหมายมีมานานแล้ว แหละมันก็ดังได้มากจากการที่ silkroad ใช้มันเป็นตัวกลางในการซื้อขายสิ่งผิดกฎหมาย จนคนทำเว็บโดนจับไป (เมื่อซัก 3 - 5 เดือนก่อนมั๊งข่าวนี้) แต่การที่มันสะดวก และมีค่าธรรมเนียมโอนที่ถูก แถมระยะเวลาโอนไม่นาน ถ้าคุณเอามาใช้ในทางถูกกฎหมายมันจะเป้นข้อดีที่คุณจะได้รับ เช่นการขายสินค้าให้ลูกค้าต่างประเทศ หรือการโอนเงินให้ญาติที่อยู่ต่างประเทศเขาจะได้รับเงินที่ไวมาก จะเห็นว่าตามแหล่งท่องเที่ยวบ้านเราจะมีฝรั่งมารับแลก bitcoin อยู่นั่นเขาก็มีรายได้จากการที่รับแลกนี่ และคนแลกก็คงเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เที่ยวจนเงินหมด แต่อยากเที่ยวต่อ

ระบบ cryptocurrency นี้นะครับถ้าคุณไม่หวังความสะดวกมากนักคุณสามารถใช้ Wallet QT ได้มันจะติดตั้งลงบนเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณเลย แต่อย่าลืมสำรองข้อมูลกระเป๋าใส่แฟรชไดร์เก็บไว้ด้วยละ ฮาร์ดิสเจ๊งมันพังไปกับฮาร์ดิสเลยนะ วิธีการนี้ต่อให้เว็บแลกเปลี่ยน หรือเว็บกระเป่าตังถูกปิด เงินคุณก็ไม่หายไปไหนเพราะเมื่อคุณเปิดกระเป๋าของคุณอีกครั้งและรอการจัดสรรข้อมูลซักพัก (นานหน่อย) เงินก็จะยังคงอยู่ และไม่โดนแฮกโดยง่าย

ร้านรับแลกล่มเป็นไปได้ตอนนี้ mtgox กำลังจะล่มไป หรือบางเจ้าโกงปิดเว็บหนีก็มีนะครับเคยได้ข่าว แต่อย่างที่บอกเก็บใน qt ครับปลอกภัยจะเทรดโอนเข้าไปเทรดเก็บไว้ในนั้นนิดหน่อย ที่เหลือเอามาลง qt ไว้ปลอดภัยกว่า

OKPay รับ bitcoin, litecoin นะครับคุณเอาเงินดิจิตัลใส่เข้าไปมันก็เปลี่ยนเป็นทรัพยสินให้คุณแล้ว (เงินจริง) ส่วนการใช้งานก็อย่าไปฝากไว้เยอะจะซื้อของค่อยโอนเข้าไปเอาให้เกินจากที่จะใช้นิดหน่อยก็พอ เพราะพวกนี้ก็ไม่ต่างจากเว็บแลกเปลี่ยน เพียงแต่ใช้เติมค่าบริการต่าง ๆ ได้เพิ่มขึ้นมา

กรณีเว็บรับแลก bitcoin นะครับเท่าที่ผมสังเกตุเขาไม่ได้มีทุนเองทั้งหมด เขาใช้วิธีการเป็นตัวกลางมากกว่า เช่นคนหนึ่งต้องการซื้อ bitcoin ก็เสนอราคาไว้ คนขายพอใจราคาก็ขายผ่านกระเป๋าของเว็บแลกเปลี่ยน (ต้องเอา bitcoin หรือ usd ใส่ก่อนนะ) ไม่พอใจราคาเสนอซื้อก็ตั้งราคาเสนอขายขึ้นมาเองได้ เวลาจะถอนเงินออกก็หักค่าถอนตามแต่จะกำหนดไว้ อย่าง btc-e.com ถอนเป็น bitcoin ก็เสีย 0.001btc ถ้าโอน usd ออกก็จะมีเรทแตกต่างไปเช่น Perfect money 3.5% Paypal 7% Okpay 0% เป็นต้น ถ้าจะเอากลับมาเป็นเงินบาทก็มาทาง paypal 7% แล้วเสียให้ธนาคารไทยอีกทอดอย่าง ธ.กรุงเทพก็ 200 ถึง 500บาท+5ดอลล่าร์ ก็จะได้มาเป็นเงินบาท

fbi กะล้มระบบ bitcoin อาจไม่เอาออกมาแลก แต่ถ้าเอาออกมาก็ต้องเสนอซื้อขายตามราคาตลาดแบบที่บอก btc-e ไม่ใช่ผู้จ่ายตังนะครับ

bitcoin ถูกออกแบบมาให้เหมือนทองคือ มีจำนวนน้อย และมีวันหมด (ครบ 21ล้าน จะขุดไม่ได้) ถ้าขุดแล้วไม่มั่นใจก็เปลี่ยน bitcoin เป็นทองเก็บไว้ได้ มีเว็บรับแลกอยู่แต่อาจจะหักค่ากำเน็จมากหน่อย ซึ่งก็ไม่แปลกอะไรเพราะการซื้อขายสินค้าด้วย bitcoin มันมีเป็นปกติ

ผมขุดเมื่อ 5 เดือนก่อนผมมีไม่เยอะหรอก แต่ผมไม่ค่อยได้แลกผมใช้งานเลย เพราะผมถือว่ามันเป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่า ณ เวลานั้นพอใจก็ใช้งาน ไม่พอใจก็เก็บไว้ความเสี่ยงมีแต่ถ้ายอมรับได้ก็ถือไว้ไม่เสียหาย เพราะเมื่อ 5 เดือนก่อนมัน btc ละ $130 มาตอนนี้แม้ราคาตกแต่มัน btc ละ $700 ผมไม่ถือว่ามีความเสี่ยงแล้ว

ผู้ไม่มั่นใจควรลงทุนแต่น้อยประกันความเสี่ยง ถ้าจะทุ่มทุนมหาศาลต้องมีความรู้ระดับหนึ่ง เช่นเครื่องขุดที่ไหนราคาถูกที่สุด หรืออาจจะไปหาซื้อจากโรงงานที่จีนเลย ถ้าสายเทรดต้องเล่นเป็นไม่ใช่ทะเร่อทะร่าเข้าไปโดยไม่มีความรู้ด้านนี้ มันไม่มีอาชีพไหนหรอกครับที่เป็นสูตรสำเร็จทำแบบนี้รวยรับรอง ทำแบบนั้นรวยรับรอง คุณต้องมองหาความถนัดและสนใจในตัวคุณเองให้ได้ก่อน แล้วค่อยมองหาลู่ทางทำเงินกับมัน มันอาจจะไม่ทำให้คุณรวย แต่ผมอยากให้มองว่าเป็นโอกาสในการเพิ่มรายได้ให้กับคุณมากกว่า เพราะการมีหนทางการทำเงินเพิ่มย่อมดีกว่ามีหนทางการทำเงินแค่ทางเดียว

SoldOut
RIP MtGox คาดว่าจะเจ๊งปิดตัวแน่นอน แต่เป็นที่ระบบ mtgox เองไม่ใช่เพราะระบบของ bitcoin

akira_s
bitcoin มีการกำหนดไว้ว่าทุก ๆ 2016บล๊อคจะปรับความยาก (difficulty) 1 ครั้งโดยจะกำหนดให้สามารถแก้รหัสได้ 1บล๊อคทุก ๆ 10 นาทีเพื่อกันหมดไวเกินไป และเป็น peer tp peer + open source ไม่มีใครคุมระบบครับ และถ้า bitcoin หมดยังมีตัวอื่นให้ขุดอีก แน่นอนราคาอาจจะไม่ดีเท่า bitcoin

pomsuay
เริ่มจากเอาคอมตัวเองขุด litecoin ดูก่อนครับถ้าการ์ดจอเป็น amd รุ่น 7950 7970 7990 280x 290 จะดีมาก ทำซัก 2 - 3 เดือนอย่างผมมี 7990 ผมก็ขุดเล่น ๆ ตอนเปิดคอมเวลานอนก็ปิดไป แต่คนลงทุนจริงเขาจะใช้ 290 5 - 6ใบเปิดทั้งวันทั้งคืน

http://cryptnews.com/index.php?topic=61.msg80;topicseen#new

เอาเว็บBitcoinที่เค้าต้องการขยายตลาดมาแจกBitcoinฟรีครับ มีเก็บไว้จะได้ไม่ตกเทรน  :wanwan004:

ขายอุปกรณ์ขุด bitcoin รวยกว่า  :wanwan019:

เก็บกระทู้ก่อน เดี่ยวมาอ่าน

เม้นก่อน เด๋วมาอ่าน  :-[

สวัสดีสมาชิกทุกท่านที่ติดตามอ่านและโต้แย้งกันนะครับ ท่านใดมีความคิดเห็นประการใดก็เชิญได้เลยนะครับ ผมไม่มีการโต้เถียงแบบมาม่าแน่นอน เพียงแต่ที่เขียนขึ้นมาก็เพื่อจะเตือนบรรดานักลงทุนหน้าใหม่ที่อาจจะเห็นเขาฮิทเรื่องนี้กันตอนนี้ กลัวว่าทราบข้อมูลไม่รอบด้านจะกลายเป็นเจ็บตัวกันเปล่าๆนะครับ

ผมขอเล่าย้อนอดีตเล็กน้อยนะครับ เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับคนที่อยากรู้ว่าที่มาที่ไปของ crypto-currency มาได้อย่างไร

ยุคทองของการทำเงิน online เมื่อประมาณ 8 ปีก่อนหน้านี้คือ Hyip กับ Autosurf ผมผ่านยุคนั้นมาด้วยข้อมูลจากเว็บ talkgold.com  moneymakergroup.com  เว็บทำเงินที่โด่งดังสมัยนั้นก็ 12dailypro.com ผมยังได้เช็คเงินคืนมาเลยครับ 170USD จากการที่รัฐบาลสหรัฐไปจับกุมเจ้าของเว็บ สมัยนั้นอาศัย ecurrency คือ e-gold.com ที่ Anonymouse มากจนบรรดาอาชญากรรมข้ามชาติหันมาใช้กันมาก หลักๆที่รัฐบาลสหรัฐรับไม่ได้คือ child photography ครับ  เจ้าของไอเดียเป็นคนอเมริกัน แม้ server จะอยู่ ตปท แต่ก็โดนบุกจับจนได้เพราะ  office อยู่ในอเมริกา

ถัดมาเป็นยุคหลอกเงินในบ้านเราก็พวก colonial invest ที่อาศัยเติมเงินเข้าระบบเว็บนั้นๆ กันไปเลยแล้วซื้อขายเหรียญกันเองผ่านเว็บ MLM แบบ Moneygame ตัวการใหญ่ก็อยู่แถวสี่จังหวัดชายแดนภาคใต้  อาศัยการร่วมทุนกับคนมาเลย์ และคนเชียงราย

กลับมาที่ e-currency หลัง e-gold.com ล่ม Perfect Money กับอีกหลายๆเจ้าก็โผล่มา ที่เด็ดที่สุดคือ  Liberty Reserve อยู่ได้นานหลายปีจนเจ้าของถูกจับตัวไปเมื่อปีที่แล้วนี่เอง ปัญหาของ e-currency พวกนี้คือต้องอาศัย server ตัวกลาง ต้องไปตั้ง server off-shore หน้าเว็บต้องประกาศว่าห้ามคนอเมริกันเล่น เว็บนี้มีทีท่าว่าจะบริหารด้วยคนรัสเซีย แต่ไม่รู้พลาดท่าอิท่าไหน ทำให้เงินในบัญขีที่อเมริกาถูกยึดหมด เจ้าตัวก็ถูกจับไปดำเนินคดี เพราะรัฐบาลอเมริกันมองว่ามีส่วนร่วมให้เกิดอาชญากรรม ต้องได้รับโทษ  ที่ต้องมีบัญชีในอเมริกา เพราะว่าเป็นฐานลูกค้าขนาดใหญ่ มีการฝากเงินถอนเงินสดเข้าระบบหลายล้านเหรียญต่อวัน ทำให้ต้องมีการเปิด  office ในอเมริกาด้วยแม้จะในนามของ official exchanger ก็เหอะ แต่ถ้าโดนยึดเงินไปมากๆ ก็ไม่สามารถโอนให้ลูกค้าได้

ไอเดียของ crypto-currency ก็เลยเกิดขึ้นมาเพื่อเลี่ยงปัญหาว่า server ตัั้งอยู่ที่ประเทศใดประเทศหนึ่งแล้วจะโดนจับ แม้จะไปตั้งในประเทศคอมมิวนิสต์ ก็อาจจะโดนรัฐบาลสหรัฐกดดันได้ เช่นจะแลกเปลี่ยนสายลับที่โดนจับหากรัฐบาลนั้นๆ ไปจับเจ้าของเว็บ e-currency เป็นต้น ตอนนี้ทำให้ e-currency  อย่าง webmoney, perfectmoney, okpay ต้องทำการ  verify ยืนยันตนกันทุกรายเพื่อป้องกันพวกผิดกฏหมายมาใช้งาน เพราะถ้ามาใช้ก็สามารถตามตัวได้


ความเป็น crypto-currency  ที่หา server ตัวกลางไม่ได้เพราะเป็นแบบ peer to peer เลยเป็นแนวความคิดที่ไม่ว่ารัฐบาลไหนก็แตะต้องไม่ได้ เพราะทุก transaction ที่เกิดก็เป็น block  ต่อแถววิ่งไปวิ่งมาอยู่ในระบบเครือยข่าย ใครอยากรู้ว่าตัวเองมีเงินเท่าไหร่ก็แค่เกาะขบวนแล้วอ่านข้อมูลตัวเองเอา  เอาไปว่าไม่ขออธิบายระบบการทำงานของ bitcoin มากนะครับ เพราะเรื่องมันยาว

และด้วยความที่เป็น open source ก็ต้องมี coin ที่เลียนแบบออกตามมามากมาย มีทั้งร่วง มีทั้งรุ่ง ใครอยากจะขุดอันไหนก็แล้วแต่สดวก จะถืออันไหนก็แล้วแต่ใจชอบ แต่อันหลักที่แพงสุดก็ยังคงเป็น  bitcoin


คราวนี้กลับมาถึงประเด็นที่ผมนำเสนอนะครับ ผมขอเรียกทุก coin ว่า bitcoin แล้วกันเพราะไม่งั้นจะงงในแง่ของประเด็นที่จะหยิบขึ้นมา 

สิ่งที่ทุกคนรู้กันดีคือ

สายขุด ความเสี่ยงคือ difficulty จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ถ้าสั่งซื้อ ASIC วันนี้กว่ามันจะมาถึง  Difficulty ที่ปรับทุกๆ ประมาณ 10 วันก็จะกินพลังมันหมดแล้วครับ  เช่นสั่ง 1 THash  วันนี้ที่ราคาประมาณ $5000 USD (150,000) บาท คำนวนวันนี้จะขุดได้วันละ 0.1918 bitcoin จากเว็บบอกว่าได้ $130 USD ต่อวัน ราวๆ 4000 บาทต่อวัน แต่จะได้อัตรานี้แค่ 10 วันก็ตก 40,000 บาท

อีก 10 วันต่อมาก็จะเหลือวันละประมาณวันละ 0.1603 BTC ราว $112 USD ต่อวันเป็นเวลาประมาณ 10 วันหรือราวๆ 34,000
อีก 10 วันต่อมาก็เหลือ $93 USD ต่อวัน 10 วันก็ 28,883

รวมแล้ว 1 เดือนประมาณ 100,000 บาท  ไม่ใช่ 120,000 ที่คุณจะคิดเลขเร็วๆในใจว่า 4,000 x 30 วัน

เดือนต่อมา จะได้ 24,565+ 20,880 + 17,748 = 63,193

ดูเหมือนจะคืนทุนในสองเดือนแล้วใช่ไหมครับ

แต่ความจริงคือตัวเลขข้างต้นสมมุติว่า ความเร็วไม่ตก เครื่องไม่ร้อนมาก ไฟไม่ดับ เน็ตไม่ล่ม   จากประสบการณ์ที่ผม run พบว่าเครื่องจะวิ่งไม่ค่อยนิ่ง ถ้าร้อนมากความแรงจะตก  และปัญหาของ pool คือโชคไม่เข้าข้าง บางวันขุดได้ไม่ถึงขั้นต่ำที่คำนวนจากเว็บต่อวันเลยครับ โดยเฉพาะวันอาทิตย์ หากมีคนโอนเงิน BTC กันน้อย มันจะไม่เกิด transaction มากนัก การจะได้ Block Reward ก็น้อยตามไปด้วย ยิ่งถ้าดวงไม่ดี pool อื่นแย่ง block ไปได้รายได้เราก็จะน้อยตามไปด้วย

อันนั้นไม่เท่าไหร่ ถ้าคุณสั่งเครื่อง 1 TH วันนี้ กว่าจะได้เครื่องก็ราวปลายมีนาคม นับดูซิครับผ่าน 10 วันไปครั้ง กว่าจะได้เริ่มขุด คุณก็อาจจะตกอยุ่ในช่วง 10 วัน 28,000 หรือ 10 วัน 24,000 ไปแล้ว  อาจจะไม่คืนทุนในสองเดือนแล้วนะครับ แต่จะเป็นสามเดือน ยิ่งเครื่องมาช้ายิ่งเข้าเนื้อ ช้าไป 1 วันก็เท่ากับที่คำนวนไว้นั่นแหละครับ

หลายคนเลยหันมาขุด coin อื่น เพื่อนำไปแลกเป็น Bitcoin อีกที อย่างขุดสาย script ใช้ เครื่องคอมพ์กับ  card จอ ขุด coin ใหม่เมื่อคำนวนกับเงินที่ซื้อแล้วยังคุ้มกว่าซื้อ ASIC แถม การ์ดจอมีค่า ขายต่อได้ เสียก็เคลมได้


สำหรับคนที่คิดจะซื้อเครื่องขุด หรือประกอบคอมพ์ขุด คิดให้ดีๆนะครับ ความร้อน ค่าไฟ ค่าเสียเวลานั่งเฝ้าเครื่อง บางทีแทบจะไม่คุ้มกับผลตอบแทนที่ได้นะครับ แต่ถ้าคิดว่าเพื่อการศึกษาก็อาจจะคุ้มครับ


กลับมาประเด็นหลักของผมนะครับ

ใครอยากขุดคำนวนความเสี่ยงให้รอบด้าน อย่าเชื่อคนขายเอาที่ขุดได้ต่อวัน x จำนวนวันต่อเดือน เชียวนะครับ  อาจจะขาดทุนตั้งแต่ได้เครื่องมาแล้ว

ใครอยาก trade  ถ้าคุณไม่เคยเล่น  forex มาก่อน ไม่มีเวลานั่งเฝ้าจอ ก็อย่าเอาเงินไปจมมากนะครับ  หากคุณเล่น  1 BTC ตีว่าตอนนี้ซัก $700 USD 21,000 บาท  คุณ trade ให้ได้ซัก 1 Cycle สมมุติว่าเอาเงินเข้าไป 1 BTC ซื้อได้ 700 USD รอให้มันตกไป $650 ซื้อคืนมา ได้ 1.0769 BTC หรือง่ายๆ ได้กำไร 7.69% หรือ 1,600 กว่าบาท  คุณต้องรอนานไหมกว่าราคาจะดิ่งลงถึง ถ้าไม่มีเวลาเฝ้าจอผมว่าเสียสุขภาพจิตเปล่าๆครับ เพราะตลาดมันไม่มีวันหยุดมัน trade 24 ชั่วโมง ทั้ง 7 วัน  ไม่เป็นอันหลับอันนอนกันเลยครับ ต้องนั่งหน้าคอมพ์ตลอด ดึกๆก็ต้องตื่นมาตั้งราคาซื้อขายไว้ ถ้าอยากได้กำไรสมน้ำสมเนื้อผมว่าต้องตั้งไม้ละ 1 BTC 20 ไม้ขึ้นไป ก็ต้องลงทุนเสี่ยงราว 400,000 บาท ความเห็นส่วนตัวผม คิดว่าเครียดเปล่าๆครับ เพราะทั้งจีน ทั้งรัสเซียมันทั้งทุบทั้งดันกินเงินพวกหน้าใหม่ ไม่มีใครมาเป็น  regulator ให้นะครับ แถมเจอปัญหาแบบ mtGox ทั้งทุนทั้งกำไรหายหมด


ประเด็นผมที่ผมพูดถึงก็คือ ระบบ BTC มันไม่มี central server มันไม่มีเจ้าภาพ เงินทุกอย่างที่อยู่ในระบบก็เป็นแค่ความเชื่อว่ามันมีค่าของมัน จะขึ้นจะลงผันผวนมาก  หากมีคนเติมเงิน BTC เข้าระบบ exchange อย่าง btc-e,mtGox เรื่อยๆ แล้วขอถอนเงินเป็น  USD ออกมา  เราจะเอาเงิน  USD ออกมาจากระบบได้จากไหนครับ  เพราะไม่ได้มีใครเอาเงิน USD เข้าไปแลกออกมาเป็น  BTC ตั้งแต่แรก  สมัยแรกๆ ขุดกันได้วันละมากมาย หลายคนยังถือ BTC  อยู่เป็นจำนวนมาก  ถ้าคนที่มี  BTC  ตั้งต้นอยู่มากๆ รวมหัวกันปั่นไปจนถึง $5000 แล้วค่อยๆทยอยเอา BTC ออกมาขายผมก็เลยคิดว่าใครจะเอา USD $5000 มาจากไหนมาจ่ายเขาครับ

ที่ผมตั้งคำถามแบบนี้เพราะใน  e-currency  อย่าง LR (Liberty Reserve) นั้น หากเราต้องการซัก 1,000,000 USD LR เราก็ต้องเอาเงิน 32 ล้านบาทไปซื้อมาก่อน  พอเราโอนเงิน 1 Million USD LR ออกไป คนที่ได้รับก็จะไปขอแลกกลับเป็นเงินสด เขาก็จะได้เงินที่เราไปซื้อตั้งแต่ต้นนั้นกลับไป โดยผ่าน Exchanger  ( exchanger เจ้าใหญ่สุดก็คือเจ้าของเว็บ e-currency นั้นๆ นั่นแหละครับ) โอน 1M LR กลับไปหา เจ้าของเว็บ เจ้าของเว็บก็จ่ายเงิน 32 ล้านกลับมา  (อาจจะเป็นสกุลอื่นที่เทียบเท่าเมื่อโอนข้ามประเทศ)

กลับมาที่ BTC  (หรือ coin อื่นๆ )  จะเห็นว่า Volume exchange ตัวอย่างใน  btc-e จะอยู่ที่ประมาณหลักหมื่น BTC ต่อวัน ถามว่าหากมีคนเอา BTC ไปปล่อยซัก 100,000 BTC เปลี่ยนมาเป็น USD ในระบบของ btc-e แล้วขอถอนเป็น  USD ผมก็จะถามว่าเงินระดับ 70 ล้านเหรียญ USD btc-e จะจ่ายออกมาไหวไหมครับ เพราะเงินที่เติมเข้าระบบไป trade กันนั้นมาจาก BTC กันเป็นหลัก แล้วคนที่จ่ายเงิน USD สดๆ เข้าไปในระบบเพื่อซื้อ  BTC คงมีไม่มากหรอกครับ เพราะเงิน BTC มันไม่ได้เริ่มต้นมาจากการแลกเงินสดเข้าไป แต่มันมาจาก  Block Reward ตั้งแต่ต้น

ตอนนี้ทุกคนกำลังสนุกกับการขุดการ trade อยู่ครับ แต่วันใดที่คนเริ่มไม่เชื่อมั่น อยากจะเปลี่ยนเป็นเงินสดออกมา วันนั้นแหละครับที่ประสบการณ์แบบ MtGox จะถามหา มูลค่ามันจะหายวับไปกับตา  พร้อมส่งผลกระทบต่อเนื่องไปยัง e-currency แบบ Centralized อย่าง okpay,perfect money และอื่นๆตามไปด้วย  ด้วยเพราะทุกคนสั่งถอนเป็นเงินสด ที่มันไม่มีเงินสดเข้าไปในระบบจริงๆ จะไปแลก BTC คืนจากเจ้าของ ก็ไม่มีเจ้าภาพซะงั้น


นี่คือประเด็นที่ผมเป็นห่วงครับ เพราะ BTC ไม่สามารถเอาไปเคลือบแผ่นวงจร หรือเป็นเครื่องประดับที่ไม่ขึ้นสนิม งามวาว ได้เหมือนทองคำ  ดังนั้นการที่บอกว่าขุดทองคำดิจิตอล นั้นจึงเป็นการเปรียบเปรย 

BTC เป็นแค่สื่อกลางในวงจรการเงินแบบเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกานะครับ ที่ไม่มีทองคำหนุนหลังเหมือนประเทศอังกฤษหรือไทย
จึงอาจจะล่มวันไหนก็ได้ เหมือนเศรษฐกิจอเมริกาที่อาจจะล่มสลายเอาง่ายๆ

แต่ E-currency เจ้าอื่นเขามีเงินหนุนหลังอย่าง paypal  ที่เราต้องจ่ายเงินสดเราเข้าไปในระบบ อีกฝั่งก็ถอนออกได้ แต่หากหลายคนซื้อขายผ่านระบบ paypal ก็ไม่ต้องมีใครถอนออกมา ซึ่งเป็นสิ่งที่หลายๆคนอยากให้เกิดกับ BTC  คือสามารถเอาไปแลกบริการได้เลย

เราจึงเห็นข่าวปล่อยว่า ห้างนั้นห้างนี้รับ BTC เพื่อชำระค่าสินค้า แต่สิ่งที่หลายรัฐบาลไม่สนับสนุนและบอกว่าผิดกฏหมาย ก็คงเป็นประเด็นที่ผมยกมานี่แหละครับ เพราะวันใดก็ตามที่ห้างนั้นมีเงิน BTC เยอะมากๆใน Wallet ของตัวเอง ถามว่าเขาจะเอาไปแลกเงินสดคืนได้ที่ไหนในระดับ ล้านเหรียญ คงไม่มีเวลามานั่ง trade เป็นแน่ แถมราคาก็ผันผวน ยกเว้นว่าใน supply chain จะมีการรับเงิน BTC กันเป็นทอดๆ ซึ่งปัจจุบันก็เกิดอยู่บ้าง แต่ไม่เหมือน  paypal, perfect money

คนที่รับ BTC ก็มักจะเป็นปัจเจกชนเสียมากกว่า ผมมองว่าการออกข่าวดีๆมาก็เพื่อปั่นราคา BTC ในตลาดแลกเปลี่ยนซะมากกว่า สลับกับข่าวร้ายเพื่อทุบราคา อีกนานที่ BTC จะรับกันได้อย่างแพร่หลาย


ผมไม่เถียงนะครับสำหรับคนที่เกาะกระแส และไปถูกทาง ทำกำไรเป็นกอบเป็นกำ

แค่ผมขอแสดงความคิดเห็นว่า คนที่จะซวยที่สุดคือคนที่เป็น exchanger ครับ ที่ว่าเมื่อไหร่มีคน Dump BTC เป็น fiat money มากๆ เขาก็จะหยุดบริการการถอนเงิน ความเชื่อมั่นก็จะหายไป แล้วเขาก็จะล่ม ความหมายของ exchanger ก็คือบรรดา  OKpay, PerfectMoney และคนที่กำลังหากำไรส่วนต่างจากการแลกเปลี่ยนอยู่นั่นแหละครับ

เป็นอีกมุมมองนึ่งจากประสบการณ์ ขอบคุณมากครบที่มาแบ่งปัน

เจ้าของหระทู้พูด ถึง hyip,surf ,egold money booker นึกถึงความหลังเลยตอนนั้น จะมีเว็บดัง rubsub , konhatang เลย นึกถึงสมัยมีคนตามล่าหาเลขบัญชี อีโกลด์
ที่มีจำนวนหลักน้อย มีที่เลขบัญชี ห้าหลักสองสามบัญชี ไปประมูล  เผอิญตอนนั้น มีมากกว่ายี่สิบบัญชี  เอาไว้หมุนเงินเอา Ref จาก hyip แต่ได้เยอะอยู่ไม่ต่ำกว่า ยี่สิบเหรียญต่อคืน สั่งจ่ายเข้าอีโกลด์ ราคาตอนนั้นเทียบกับราคาทอง ถือว่าสบายประมาณหนึ่ง ว่างๆรอ hyip จ่ายปันผล ก็ไปขูด goldscrath อันนี้ไว้กินขนมเเล่นๆ สมัยนั้น ขุดได้ 25$ - 50$ คิดไปคิดมา ผ่านมาหลายปีเหมือนกัน แต่ hyip มาไว ไปไว ยิ่งพวกลง หนึ่งได้กลับมาสี่ ถอนครั้งเดียวเว็บหายไปเลย เลยคิดว่า อันนี้น่าจะเป็นไปตามวัฎจักรตามเจ้าของกระทู้บอกเช่นกัน รอแค่เวลาเมื่อไหร่แค่นั้น ยังจำได้เลยตอนนั้น เคยช่วยเพื่อนเคลียร์ปัญหาฟอกเงินกับธนาคารของอียู เอาเงินอีโกล์ด เข้า money bookers เพื่อจะ wire transfer โดนแจ้งข้อหาฟอกเงิน ต้องโทรส่งหลักฐานไปยืนยัน  :P ตอนนั้นมีแนวคิดเลยน่ะ จะจ้างฝรั่งสวิสเปิดบัญชีให้ คิดเหมือนในหนังเลยน่ะ ผนวกกับตอนนั้น เกาะคีย์แมนแหล่งฟอกเงินก็น่าสนคิดว่าจะลองดู แต่ทุกอย่างไม่หยั่งยืน แต่ถือว่าลุ้นเสี่ยงมากๆๆ ลุ้นเสี่ยงยังไง คนที่เคยเล่นสมัยนั้นคงรู็ดี ลง 100$ ได้กลับมา 400$ 600$ แล้วแต่เงื่อนไข ว่ากี่วัน แบงปันผลยังไง แต่ที่ดวงดี ตอนนั้น ลง hyip หลักหมื่น เกือบสองหมื่น ได้กลับมาเกือบแสน และกิน ค่า Ref ตัวเองด้วย นึกถึงวันวานแล้วคิดว่าอันนี้จะหยั่งยืนไหมน่ะ พูดซะเยอะ ดี่ยวเขาหาว่าเราแก่ :P จำได้ตอนนั้น gmail ตอนนั้นออกมาใหม่ ใช้เป็นเล่นยิงเมล์ ทำเป็นอีเมล์ มาร์เกตติ้ง ได้สบายเลยตอนนั้น สมัครเป็นร้อยๆได้เลย :'( นึกถึงวันเก่าๆ

ประเด็นคือ มันไม่มี exchanger ไม่ใช่เหรอครับ ผมเห็นมันมีแต่ตัวกลางซื้อขายระหว่างคนซื้อกับคนขาย BTC นี่ครับ

เราเอา BTC ไปแลกเป็น USD แล้วสั่งถอนออกมาเป็นเงินได้ผ่าน paypal, okpay , perfectmoney ครับ อันนี้เป็นตัวอย่างใน  btc-e.com

ซึ่งก็คือ exchanger กลายๆ นันแหละครับ ถ้ามีคนสั่งถอนเยอะๆผ่าน paypal เขาจะเอา paypal มาจากไหนจ่ายเราครับ เพราะการตั้งต้นไม่ได้มีการเติม paypal ไปให้เขามากเท่ากับ BTC ที่มีอยู่ในระบบนะครับ

มันเป็นเงินที่ไม่มีรัฐบาลหรือหน่วยงานไหนรับรองด้วยครับ ผมว่าเหมาะสำหรับธุรกิจสีเทา
หรือการซื้อขายทั่วไประหว่าง Customer-Customer มากกว่าครับ ถ้าธุรกิจขนาดใหญ่ ไหนจะต้องมากังวลเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน
และจะต้องจัดการ Bitcoin ที่ได้รับมาวันละหลายล้าน $ หรือถ้ารับไว้เป็นทางเลือกก็น่าจะพอไหวครับ
ไหนจะเรื่องการทำบัญชี ภาษี หรือถ้าเกิดสมมุติมีพนักงานบริษัทยักยอกเงินไปจะแจ้งความกับใคร

เนื้อหาด้านบนนั้นต้องรอดูอีก 3 เดือนครับ แต่คืนทุน 2 - 3 เดือนเป็นไปได้ถ้าหาเครื่องราคาถูก ๆ ได้ แต่ผู้ลงทุนควรใช้เงินที่ไม่มีความรีบร้อนต้องใช้งาน เพราะอาจยาวนานถึง 5 - 6 เดือนได้ถ้าได้เครื่องราคาแพง และควรมีเงินเก็บไว้บ้าง และอย่างที่คุณบอกแหละถ้าไม่อยากเสี่ยงควรไปลงกับคอมขุด coin อื่น ๆ จะดีกว่าเสี่ยงน้อยกว่า

แต่ผมว่าคุณยังหลงประเด็นการอาเงินออกจาก btc-e นะครับ ตัวอย่างนะครับ ถ้าผมต้องการซื้อ btc ผมต้องฝาก $ เข้าระบบ และถ้าคุณต้องการขาย btc คุณก็ต้องฝาก btc เข้าระบบ (btc-e ไม่ได้มีเงินในระบบ เป็นแค่ตัวกลางคอยกิน % ตอนถอนออกไป) เมื่อผมซื้อ btc จากคุณได้ผมก็ถอนออก ผมเสียค่าดำเนินการตอนถอน 0.001btc คุณเสีย $ ตอนถอน 0 - 7% ซึ่งเงิน btc ที่ผมถอนก็คือเงินคุณและ $ ที่คุณถอนไปก็คือเงินผมไม่ใช่ของ btc-e แถมผมและคุณยังเสีย % ตอนถอนอีก (ตาอยู่ btc-e เอาไปกิน)

อีกอย่างคุณไม่ใช่สายเทรดคุณมองภาพการปั่น $5000 ไม่ออก http://bitcoin.clarkmoody.com ให้กดดูตรง Period ใต้กราฟจะเห็นความผันผวนของราคา ตัดขึ้นซื้อ ตัดลงขาย สำหรับสายเทรดจังหวะนี้เส้นส้มกับฟ้าตัดลงฉนั้นตามกฎคือขาย พอมันตัดขึ้นค่อยซื้อ และก็ไม่ต้องเฝ้าตลอดขนาดนั้นคุณใส่ราคาล่วงหน้าไว้ได้เลยมันจะไปเข้าแถวรอให้ถ้าลงไปถึงราคาซื้อของคุณ และมีคนต้องการขายคุณก็ได้มา ถ้าลงไปไม่ถึงก็อด เวลาขายก็เหมือนกัน แต่ต้องเซียน ๆ หน่อยถึงจะกำไรดีกว่าไปลงทุนขุด (ผมก็ไม่เป็นเหมือนกัน)

ถ้าคนไม่ยอมรับ btc ล่มแน่นอนครับแต่ปัจจุบันหลายร้านค้ายอมรับ btc ผมว่าโอกาสล่มน่าจะยาก และถ้าเราไม่ห่วงเรื่องราคา (โอกาสคืนทุนจะช้ามากๆ) เราสามารถขุด btc แล้วโอนเข้า paypal เพื่อแปลงเป็น $ ได้เลยผ่านทาง btc-e (โดนหัก 7%) สมมุติคุณขาย btc วันนี้ได้ $700 โดนหัก 7% คุณก็จะได้ $651 แต่ถ้าคุณเสี่ยงรอมันเป็น $1000 คุณก็จะมีรายได้เพิ่มขึ้น แต่ถ้าราคาไปไม่ถึงนั่นคือความเสี่ยงที่คุณต้องยอมรับ และรอต่อไป

http://cryptnews.com/index.php?topic=132.msg198;topicseen#new
http://thenextweb.com/microsoft/2014/02/10/microsoft-beats-google-adding-bitcoin-currency-conversion-bing/?fromcat=all#!vgwD2

http://paymentmagnates.com/corporate-news/fiverr-adds-bitcoin-as-payment-option

ถ้าคุณเคยใช้บริการ paypal ในการรับเงินจากลูกค้าต่างประเทศคุณอาจจะเคยเห็นระบบหนึ่ง คือการแปลงดอลล่าร์เป็นบาทในทันที่ที่ได้รับเงิน ผมว่าผู้ให้บริการอย่าง bitpay หรือ coinbase ก็ต้องมีระบบนี้ และแน่นอนราคาสินต้าก็ต้องอิง $ โดยเวลาจะจ่ายเงินจะมีการสร้างราคา btc ขึ้นมาใหม่เมื่อลูกค้าจ่าย btc มาตามเรทของผู้ให้บริการแล้ว ผู้ให้บริการจะนำ btc นั้นออกขายเป็น $ ในราคาขณะนั้นมาให้คุณ เมื่อถอนก็จะเป็นการถอน $ ไม่ใช่เอา btc ไปขายก่อนแล้วค่อยถอนออกมาได้

http://cryptnews.com/index.php?topic=123.msg187;topicseen#new

เป็นอีกมุมมองหนึ่งจากประสบการณ์ ที่ผมมาแบ่งปัน



ผมถึงบอกคุณยังไม่เข้าใจระบบตรงนี้ แต่ Driverhigh น่าจะมองออกแล้ว

อีกครั้งนะครับ การจะเอาเงิน btc เข้า paypal เพื่อโอนหรือถอนเป็น $ คุณต้องเทรด btc เป็น $ ตามราคาของ btc-e ก่อน ซึ่งก็คือการเสนอขาย btc ตามที่อธิบายข้างบน จากนั้นถึงจะถอนออกมาได้โดยเสียค่าบริการ 7% เงินนี้จะไปเป็น $ ใน paypal ถ้าคุณจะเอามาเป็นบาทกลับไทยก็รออีก 5 - 7 วันโดยเสียค่าธรรมเนียมธนาคารกรุงเทพ 200 ถึง 500บาท+5ดอลล่าร์

btc-e ไม่ได้เป็นเจ้ามือแลกจาก bitcoin เป็น paypal นะครับ เข้าใจใหม่

btc-e เป็นตัวกลาง ระหว่างคน กับ คน คือคนนึงถือ $ กับอีกคนนึง ถือ btc มาแลกกันครับ  มันจะล่มก็ต่อเมื่อ คนถือ $ ไม่อยากแลก btc

แต่ในปัจจุบัน ยังคงมีคนที่มี $ จะซื้อ btc เรื่อยๆ เพราะเค้ามองว่ามันมีค่า ระบบเลยยังไม่ล่มครับ

ขอบคุณ Hermiss ที่พยายามอธิบายครับ

ผมรู้ดีครับว่า Btc-e ไม่ใช่เจ้ามือ

แต่การที่ Btc-e ยังอยู่ได้เพราะ Volume การแลกเปลี่ยนยังน้อยเมื่อเทียบกับ BTC ที่อยู่ในระบบทั้งหมดไงครับ


แต่หากเราคิดถึง BTC  ทั้งระบบแล้ว มันไม่มีอะไรหนุนหลังเลยไม่เหมือน Paypal ที่ทุก Dollar ใน paypal มีเงินจริงหนุนหลัง ต่อให้ทุกคนถอนหมดก็ไม่ล่ม
สำหรับ  BTC หากเจ้าใหญ่อยากเอาเงินออกจากระบบเมื่อไหร่ ผ่าน Exchanger ทุกเจ้า สุดท้ายก็ล่ม  แต่ที่ไม่ล่มเพราะรายใหญ่ยังเชื่อในคุณค่าของมันอยู่


อย่างระบบธนาคาร ทุกตัวเลขในบัญชีมีเงินหนุนหลัง แต่ค่าความเป็น liquidity อาจจะไม่ทุกบาท แต่ยังมีมูลค่าของมันอยู่แม้อาจจะปล่อยกู้ในรูปของอสังหาริมทรัพย์ไปแล้ว
แต่หากคนแห่กันถอนเงิน ธนาคารก็ล้มได้เหมือนกัน เพราะแปลงทรัพย์เป็นเงินสดไม่ทัน

ส่วน BTC ไม่มีอะไรหนุนหลังเลย แถมคนที่ขุดมาหลายปีก่อนหน้านี้ยังถือมันไว้ในมือโดยมาจาก Block reward ล้วนๆ ไม่มีอะไรหนุนหลัง คุณค่าของมันเลยอยู่ที่ความเชื่อว่าจะมีค่าสูงขึ้นล้วนๆ  การผันผวนเลยมีสูง  จนกว่ามันจะแพร่หลายในระดับรากหญ้านั่นแหละครับคือทุกคนช่วยกันถือ และคนส่วนใหญ๋เชื่อมั่น ราคาถึงจะนิ่งอยู่ได้

อันนี้แหละที่น่ากลัว  :wanwan035:

ขอบคุณครับ ได้ข้อคิดดีมาก   
สาเหตุที่ผมยังไม่ตัดสินใจลงมือBitcoin  ก็เพราะหลายๆเหตุผลแบบนี้แหละ  ที่ยังคลุมเครือ
แต่ก็มีเพื่อนๆหลายคน  ที่กระโดดลงBitcoinเต็มตัวครับ   เสี่ยงเอาครับ   น้ำขึ้นให้รีบตัก  แต่ถ้าตักได้แต่น้ำที่มีโกาสเสียๆ  ที่อาจจะไม่มีค่า  แถมผิดกฎหมาย ก็น่าคิดครับ

ผมมองประเด็นนี้ยังคงเป็นประเด็นหลักที่น่าสนใจอยู่มากๆครับ

กลับกันหากมองว่าตอนนี้เค้าปั่น ปล่อยข่าวเพื่อให้เกิดแระแส เอาเงินจริงมาลงในตลาดนี้หรือป่าวครับ

ความรู้ +1

ผมว่าเรื่องที่น่าสนใจตอนนี้คือ  ผู้ถือ btc ตอนนี้มันมีสมาคมหรือ Guild อยู่ซึ่งแต่ละ Guild ต่างแย่ง btc ในการครอบครองเพื่อเมื่อใดที่กลุ่มใดมี btc ในมือมากจะสามารถควบคุมราคาหรือมุลค่าของ btc  ด้วยเหตุนี้ BTC ยังเป็นที่ต้องการอยู่เรื่อยๆ

+1 ครับ
ตามอยู่ห่างๆ ส่วนตัวคิดว่าเงินที่ไม่มีการรับรองจากภาครัฐ คือสิ่งผิดกฏหมาย
แนวคิดที่ไม่ผู้ติดกับกฏทางการเงินแต่ใช้ความเชื่อใจ มันไม่น่าจะอยู่ได้นานเลย
แต่หากผมคิดจะฟอกเงิน ผมก็คงลงทุนซื้อ coin ใว้แลกเปลื่ยนกับ $
ถึงจะไม่เท่าทุนแต่ก็เปลื่ยน ดำให้เป็นขาวได้  :wanwan004:

ผมมองว่า คนกลุ่มที่สนับสนุน Bitcoin นั้นต้องการสกุลเงินที่ก้าวกระโดดครับ

อย่างอเมริกา สมัยก่อนมีทองคำหนุนหลังทุกดอลล่าห์  ต่อมาเศรษฐกิจไม่ดี ก็ตัดสินใจเอาทองคำที่หนุนเงินดอลอยู่มาขาย เพื่อเอาไปใช้ในการลงทุนทางด้านเศรษฐกิจ
และบอกว่าสิ่งที่หนุนหลังเงินดอลล่าอยู่คือ service หรือการบริการ

นั่นคือว่าทุกๆดอลล่าห์จะมีบริการหนุนหลัง คุณเอาเงินดอลมาผมก็บริการคุณไม่ว่าจะบริการเป็นตัวสินค้าหรืออะไรก็แล้วแต่


จะเห็นว่าโมเดลเริ่มต้นคือมีทองหนุนหลัง พอทุกคนเชื่อถือ ก็ขายทองออก มี service หนุนหลัง

หลายๆประเทศก็เริ่มทำตาม คือเอาทองคงคลังออกมาขาย



แต่ประเทศเรายังมีทองคำหนุนหลังอยู่นะครับ คือหากเราอยากได้ทองคำจากคลังของรัฐก็เอาเงินสดที่มีในมือไปเบิกมาได้ แต่กระบวนการยุ่งยาก ค่าธรรมเนียมเยอะ ไปซื้อที่ร้านทองเองสะดวกกว่า  อันนี้จะเหมือน Cex.io  ที่เราซื้อ cloud mining ได้ หากอยากได้เครื่องก็โอน BTC กลับไปหาเขา เขาก็ส่งเครื่องมาให้เราได้โดยไม่มี power supply เพื่อยืนยันว่าไม่ได้เอาเงินเราไปปั่นแบบ money game


คราวนี้ BTC  เองเริ่มต้นก็ไม่มีอะไรหนุนหลังเลย กะว่าจะก้าวกระโดดแบบมี Service หนุนหลังทันที อาศัยการสร้างความเชื่อมั่นไปเรื่อยๆ ซึ่งก็ต้องใช้เวลากันนานหน่อยละครับ


Paypal เขาก็มีเงินจริงหนุนหลังอยู่  เมื่อทุกคนเชื่อมั่นว่าแลกกลับเป็นเงินจริงได้เสมอ หลายๆคนก็ถือเอาไว้ในบัญชีเพื่อไว้ซื้อบริการอื่นๆต่อไปเป็นทอดๆ ไม่ต้องแลกกลับไปกลับมา Paypal ก็เลยอาจจะเอาเงินจริงที่หนุนหลังอยู่และไม่มีใครมาเบิกคืนเอาไปลงทุนอย่างอื่นเพื่อหากำไรเพิ่มได้ เหมือนสหรัฐขายทองคำไปนั่นแหละครับ  แต่ความเชื่อมั่นก็คงอยู่เสมอ


แต่คุณคิดว่า BTC นี่ถ้าความเชื่อมั่นลด คนแห่ถอน เราจะเอาเงินสดคืนมาจากไหนครับเพราะคนที่เขาเอาเงินสดซื้อไปนั้นนับว่าน้อยกว่ากันมากเมื่อเทียบกับกระแสของ BTC ทั้งหมด แถมแต่ละวันก็ขุดกันออกมาได้มากมายมหาศาล มีการเติมเงินเข้าระบบเรื่อยๆจาก Block reward

คนคิดระบบ bitcoin นี่หัวทำด้วยอะไร เสกลมเป็นเงินได้ สุดๆ

ขอบอกว่าไล่อ่านมาตั้งแต่แรก
เป็นกระทู้ที่มีความรู้มากจริงๆ ครับ
 :wanwan017:

สถาณะ ซุ้ม ครับ อิอิ

ประดับความรู้ เยี่ยมกันจริงๆ

เห็นด้วยครับ   ไล่อ่าน  ความรู้ดี  :wanwan017:

Exchange ทำกำไรจากค่าธรรมเนียมไงครับ เรื่องความเสี่ยงก็แล้วแต่ระบบของเขา
เรื่องพวกนี้ก็เหมือนค่าเงินทั่วไปที่เขาต้องรีบโอนเงินแล้วขายไป ไม่ใช่เก็บไว้ทำกำไรเอง (ค้ากำไรเองทำแบบนี้ส่วนใหญ่จะไม่รอด)
ส่วนเรื่องความน่าเชื่อถือจากจากโจมตี ก็แค่เพิ่มระบบรักษาความปลอดภัยเข้าไปอีกหน่อย
ไม่งั้นธนาคารทั่วโลกคงล่มจนเพราะถูกโจมตีไปแล้ว เพราะมาตรฐานยังต่ำกว่าการเข้ารหัสเงิน Crypto มากๆๆๆ

ทุกวันนี้เทพเจ้าที่โจมตีระบบก็ยังไม่สามารถเอา Bitcoin ออกไปากระบบเทรดได้แม้แต่ บิทเดียว แสดงถึงระบบที่ไร้ผู้ต่อต้านได้ดี
ทุกอย่างที่ว่ามาก็ขึ้นอยู่กับการปรับปรุงรุ่นของระบบการ เทรด เงินชนิดนี้ก็เท่านั้น

อย่าลืมว่า Exchange ที่ใช้ๆกันอยู่กยังเป็นรุ่น Beta กันอยู่เลยนะ ไงก็แค่ช่วงลองของ
ที่ hacker ลองกันแต่ก็เป็นเรื่องธรรมชาติของระบบ Public GNU น่ะครับ

ส่วนเรื่องไม่มีอะไรหนุนหลังก็ไม่ใช่ละ
สิ่งที่หนุนหลังก็คือ Security ไงล่ะ ยังไม่มี hacker หน้าไหนเจาะเอาเงินไป จากระบบเทรด ได้แม้แต่ บิต เดียว

ผมเคยอ่านแว๊บๆ ว่าราคาแพงมาก ...

เห็นหลายคนกลัวเรื่องถอนไม่มีเงินหนุนหลังอย่าง paypal บ้างไรบ้าง 555 ผมใช้อยู่ครับจะยากอะไร ตอนนี้มันยังไม่ล่ม แล้วอนาคตยังอีกไกล เราสามารถเปิดช่องทางให้ลูกค้าจ่ายเงินได้ครับเราไม่มั่นใจแต่อย่าลืมครับลูกค้าเราอาจจะเชื่อมั่นในระบบก็ได้ครับ อย่าให้โอกาสนี้เสียไป ถ้าเรากลัวว่าวันนึงมันจะร่วงเสี่ยงมากก็แค่ถอนออกมาเป็นเงินเข้าธนาคารมีเว็บไทยหลายเว็บบริการอยู่ครับ รับ Bitcoin มา ก็ถอนเป็นเงินบาทได้เลย เข้าธนาคารมันไม่ใช่ว่าเอาออกเป็นเงินไทยไม่ได้นิครับ ค่าธรรมเนียมถอนก็ไม่กี่บาท

 :-[ :-[ :-[

ช่วงนี้ยังเป็นกระแสใครขุดได้ก็ทำต่อเลยครับโอกาสรวยเห็นๆๆ แต่...มือใหม่ไม่ควรลงสนามครับ
ในมุมผมนะ Bitcoin ก็เหมือน มันนี่เกมส์ ถ้าคุณเล่นเป็นก็รวย ถ้าเล่นพลาดก็ต้องรับชะตากรรม โอกาสโตยังมีอีกไกลครับ แต่...ผมคนหนึ่งละที่ไม่เล่น  :wanwan004:

เคยคิดจะเล่น แต่ตอนนี้คงไม่ทันแล้ว  :wanwan031: :wanwan031:

Bitcoin อย่ามองระยะสั้นนะครับถ้าคิดจะทำกำไรกับมัน  ผมให้เวลาเลย 1-2 ปี  มันต้องขึ้นมาอีกมากแน่นอน  ให้คุณลงทุนโดยเอาเงินเย็นๆมาลงทุนครับ

ถามว่าจะทำกำไรระยะสั้นได้มั้ย  ก็ได้ครับ  แต่้องวิเคราะห์เทรนด์ให้ออกนะครับ  เช่น จะเทรด  BTC/USD  ผมมีเทคนิคครับ  ถ้าราคาเบรค  .000  .250 .750 อะไรพวกนี้  คุณ Buy ได้เลย เพราะราคาจะไปต่อแน่นอน  แต่การที่ราคาจะมาเบรคที่จุดดังกล่าวไม่ได้มีบ่อยๆครับ  ก็ต้องรอ

Bitcoin  ทั้งโลกมีจำกัดแค่ 21 ล้าน BTC  ตอนนี้ขุดไปแล้วกว่า 19-20 ล้าน  ก็เหลืออีกไม่มาก  แต่ที่ไม่มานั้นใช่ว่าจะขุดอีกไม่นานนะครับ  อีกนานเลยละ  เพราะยิ่งใกล้หมดการถอดรหัสในการขุดก็ซ้บซ้อนและยากมากขึ้นมากๆๆๆๆๆๆๆ  ก็เลยทำให้ต้องใช้เวลาอีกหลายปี

Bitcoin ไม่มีเงินเฟ้อ เพราะมีจำกัด  และที่มันมีจำกัดนี่แหละครับ  มันจะมีมูลค่าของตัวมันเอง

สรุปก็คือถ้าเอาง่ายๆ  ไปจ้องราคาที่มันลงมาต่ๆซักนิดที่ bx.in.th แล้วก็ซื้อเก็บไว้ก็ได้ครับ  ซื้อหลักพักบาทนี่แหละ  คุณก็จะได้ Bitcoin  มา 0.00?? ก็ว่าไป  อนาคตก็ค่อยว่าดูว่าราคาจะขึ้นไปแค่ไหนกี่ %

ไม่ต้องปวดหัวด้วยว่าวันนี้ราคาลงพรุ่งนี้ขึ้นฉันขาดทุน ไม่ต้องทำอะไรพอดี

ทั้งหมดนี้เป็นความคิดส่วนตัวนะครับ  เราต้องแยกการลงทุนให้ออกว่าเป็น short term หรือ long term

ขอบคุณเจ้าของกระทู้ที่ให้ความรู้ครับ

 :wanwan003:

รวยๆ ครับไม่รวยชาตินี้จะไปรวยต้อนไหน  :wanwan019:
ปล. ผมเริ่มลุยตังแต่ปีที่แล้วละ แผลเจ็บก็เยอะนะครับ ขาดทุนมั่งกำไรมั่ง แต่เราได้ข้อมูลของเราแน่ว่ามันจะไปทิศทางไหนต่อ

มีประโยชน์ดี

ผมเห็นเพื่อนผม เล่น onecoin  ลงทุนไป 3 แสน ตอนนี้ ได้มากว่า 50 กว่าล้าน ทำไมคนไม่ฮิตเล่น กัน ทั้งที่
แปบเดียวกำไร เยอะมากๆ

โอ้ววว รวยๆๆๆ  :wanwan011: