ThaiSEOBoard.com

อยากรูปว่าแนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศไทยจะเป็นไปในทิศทางไหนครับ

ค่าเงินบาทจะลอยตัวมั้ย
การลงทุนจะดีขึ้นรึป่าว
รายได้เฉลี่ยต่อหัวจะขึ้นหรือลง


พอดีอยากฟังความคิดเห้นหลายๆคนครับตอนนี้แผนจะทำธุรกิจอย่างนึงอยู่(อายุยังน้อยด้อยประสบการณ์ แต่ต้องการความรู้เพิ่ม)

ผมคิดว่าไม่น่าเป็นผลดีต่อประเทศไทยครับ การรวมตัวหลวมๆแบบต่างคนต่างอยู่ ไม่รู้จะรวมกลุ่มหาอะไร ข้อดีอาจจะมีอยู่บ้างสำหรับธุรกิจ ตรงที่ผู้ประกอบการได้แรงงานที่ถูก เพราะการไหล่บ่าของแรงงานข้ามชาติ...การควบคุมปัญหาอาชญากรรมคงทำได้ยากยิ่งขึ้น....ข้อดีคงมีสำหรับขาใหญ่ที่อยากลงทุนครับ แต่ประเทศไทยไม่รู้จะเหลืออะไรให้น่าลงทุน ต่างกับประเทศเพื่อนบ้านใครมีทุน น่าไปครับทรัพยากรสมบรูณ์กว่าเรามากๆ ภาพรวมสำหรับประชาชนทั่วๆไป ไม่น่าจะเป็นผลดี.... :wanwan017:

ที่แน่ๆ คนไทยโดนแย่งงาน....ใครไม่เก่งอยู่ยาก ขึ้น   :wanwan044:

ตลาดแรงงาน IT เปลี่ยนแปลงมากขึ้นแน่นอนครับ. เรื่องเศรษฐกิจ ไม่รู้จะยังไงง  :P

ผลดีกับนายทุนครับ สำหรับลูกจ้างลำบากหน่อย
ภาษาก็ไม่เก่ง

ถ้าผมมีทุนจะลงไปพม่า ทำอสังหาฯ กับธุรกิจรถยนต์ เปิดก่อนได้เปรียบปั่นราคาที่ดิน เละแล้วก็ย้ายไปประเทศอื่น

ใช่เลยครับ  :P

ดูจากผู้ใหญ่ที่คอยบริหารบ้านเมือง และคอยเป็นฝ่ายตรวจสอบฝ่ายบริหารในตอนนี้
ผมละเพลีย ถ้า เปิด AEC แล้วเป็นแบบนี้เน่ากว่านี้แน่ๆ
 :-X

ผมคิดว่าประเทศไทยยังไม่พร้อมที่จะเข้ารวมกับ AEC

ยกตัวอย่างเป็นภาพกว้างๆแล้วกันนะครับ

1. รัฐบาลยังขาดวินัยทางการคลัง

2. นักเรียน นักศึกษา ยังขาดความเข้าใจ AEC อยู่มาก ภาษาก็ยังอ่อน ถ้าเทียบกับประเทศอย่าง มาเล สิงคโปร์ ล่าสุดผมได้เจอวิศวกรเวียดนามมาดูงาน ภาษาอังกฤษเขาดีมาก เพื่อนที่ไปสร้าง plant ที่เวียดนามก็บอกว่า คนเวียดนามตอนนี้ค่อนข้างใส่ใจกับภาษาอังกฤษมาก

3. โครงสร้างพื้นฐานในประเทศมีความพร้อมในระดับหนึ่ง แต่ถือว่ายังอยู่ในระดับปานกลาง

4. นับตั้งแต่เรามีน้ำท่วมใหญ่ บริษัทญี่ปุ่นและอีกหลายๆชาติ เริ่มกระจายความเสี่ยงไปลงทุนในประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้น เพราะเมื่อเราน้ำท่วมทำให้ระบบ supply chain ของหลายๆบริษัทมีปัญหา ของไม่สามารถผลิตได้ทัน ขาดทุนมหาศาล

5. ถ้าเปิด AEC อาจเกิดภาวะสมองไหล คนเก่งๆจะแห่กันไปอยู่ประเทศที่ให้ค่าตอบแทนสูงอย่าง มาเลฯ สิงคโปร์ แต่ต้องเป็นอาชีพที่เขากำหนดไว้แล้ว รายละเอียดค่อนข้างเยอะ เช่น ถ้าเป็นวิศวกร ก็ต้องมี กว ทำงานอย่างน้อยกี่ปีก็ว่าไป

แต่ถ้าเปิด AEC แล้วคิดว่ารายได้เฉลี่ยต่อหัวน่าจะมากขึ้น การลงทุนก็จะแข่งขันกันสูงขึ้น

ยังมีรายละเอียดอีกมากมาย ลองหาอ่านบทความวิเคราะห์ได้ตามเว็บกระทรวงนะครับ

ผมว่าลูกจ้างบางจำพวก แย่เลยครับ บางจำพวกสบายหายห่วงเลย

ทุกด้านมีดี และ ไม่ดีครับ จะมองหาปัญหาในโอกาส หรือ จะมองหาโอกาส ในปัญหาก็ได้

หางานยากขึ้นแน่นอน

เคยได้ยินเจ้านายเก่าไปพม่ามา  ถ้าคุณจะทำธุรกิจเกี่ยวกับที่ดินที่นั้น ผมไม่แนะนำ เค้าบอกอย่างงี้เลย เพราะพม่ายังมีทหารที่หากินอยู่กับพวกที่ดินเยอะ โก่งราคาที่ดินสูงมาก   แต่จะให้แนะำนำ คงเป็นประเทศเวียดนาม เพราะทุกอย่างเค้าเป็นขาขึ้น การเกณท์กำไรจะไม่ต้องรอนาน

ส่วนการเปิด AEC เปรียบเสมือนการเปิดกรอบโกยผลกำไร สำหรับผู้ผลิต    ส่วนพวกลูกจ้าง ผมมองเป็น สองมุม   
มุมที่ #1 คนไทยที่ยังขาดความสามารถ และขาดทักษะ จะตกงานเยอะขึ้น   
มุมที่ #2 มุมนีเป็นโอกาสสำหรับคนเก่ง ที่จะไปหางานในบริษัทที่ให้ผลตอบแทนสูง และเป็นธรรมไม่เอาเปรียบ

สำหรับเรา สายงาน IT ผมอยากให้มองมุมที่ 2 มากกว่า  แล้วคุณจะรู้ว่า วงการ IT บ้านเรายังมีการเอารัดเอาเปรียบกันอีกเยอะ

ต้องเก่งค่ะ การแข่งขันงานผุดเป็นดอกเห็ด ไม่เก่งอยู่ไม่ได้ ไม่ว่าธุรกิจไหนๆ การบริหารสำคัญมาก ความสามารถด้วย พัฒนาตัวเองอยู่เสมอค่ะ

อยู่ยากขึ้นครับ ปัญหาตามมาเยอะ คนไม่เก่งอังกฤษก้อ ทำใจครับ  :wanwan044:

ขายข้าวแกง

เข้ามาฟังด้วยคร้าบ

ผมกำลังจะจบนะ หางานยากแน่เลย :wanwan031: :wanwan031:

คนไทยจะอยู่ยากขึ้นครับ แต่ยังไงผมก็เชื่อว่าระบบการศึกษาจะดีขึ้นอย่างแน่นอน แต่แรกๆคงเสียเปรียบเค้าเยอะอะครับ เค้ามาแรงกว่าเรามาก

ธุรกิจ ไทย เติมโต

ต้องรอดู :wanwan008:

คงจะเหนื่อยกันหนักเลยล่ะ  :wanwan009:

 :wanwan016: คิดว่าคนที่ทุนหนาก็น่าจะยิ่งโตขึ้น ทิ้งห่างคู่แข่งที่ทุนน้อยไปเรื่อยๆ เดี๋ยวซักพักบริษัทยักษ์ใหญ่ต่างๆก็จะไร้คู่แข่ง ส่วนที่เหลือก็เหนื่อย แข่งกันเอง

เริ่มแรกก็คงมีหลาย ๆ อย่างเปลี่ยนแปลงละครับ ทั้งในด้านความเป็นอยู่อาชีพ การทำงาน และอื่น ๆ อีกมากมาย ที่ล้วนเปลี่ยนได้ตลอดเวลา แต่ผมว่าในด้านการเสียเปรียบแม้ว่าเราดูเหมือนจะมีข้อเสียเปรียบอยู่เยอะแต่ถ้ามองในอีกด้านเราก็อาจจะมีข้อได้เปรียบอยู่บ้าง ผมว่าหลาย ๆ ประเทศคงคิดแบบนี้แหละครับ เค้าเลยพยายามที่จะพัฒนาฐานความรู้ของเขาตลอดเวลา แต่กลับกันต่างจากคนไทยทั้ง ๆ ที่รู้ว่ากำลังจะเปิด AEC ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า แต่กลับไม่คิดที่จะพัฒนาฐานความรู้ของตนเองเลย ผมไม่โทษรัฐบาลในด้านพัฒนาในด้านการศึกษาองค์รวมทั้งประเทศนะครับ แต่ผมหมายถึงการพัฒนาทางด้านการศึกษาเฉพาะบุคคล เพราะใช่ว่าเราจะไม่สามารถพัฒนาด้วยตัวเองไม่ได้ แต่ก็ใช่ว่าประเทศเพื่อนบ้านจะกระตืนร้นพัฒนาตัวเองนะครับผมว่าก็มีบ้างอาจจะเยอะ ที่ไม่ยอมพัฒนา ทุกอย่างมีสองด้านเสมอครับ

กลัวจบไปไม่มีงานทำ  :'( eng ยิ่ง งุๆปลาๆ  :P

รอลุ้นอยู่เหมือนกันครับ

เข้ามาเก็บความรู้ :wanwan017:

เรียนสายอาชีพสิครับน่าจะไปได้สวย ตอนนี้เรียนอยู่กับครอบครัว (พ่อสั่ง เเม่ใช้นั้นเเหละ) :wanwan004:

เคยมีคนกล่าวเอาไว้ว่า
เรียนตรงเอาไว้สอบ เรียนสายอาชีพเอาไว้ทำงาน
ไม่รู้ว่ามันจริงหรือป่าว :wanwan016:

:wanwan001:

เห็นด้วยอย่างแรงครับ

คนไทยตกงานแน่เลย โดยเฉพาะแรงงานเพื่อนบ้านเราขยันกว่าเยอะ งานอื่นก็ได้เปรียบเรื่องภาษา

ผมว่า พฤษติกรรมคนไทยส่วนใหญ่ขี้เกียจครับ เรามีเวลามากพอ สำหรับการพัฒนาทักษะให้ตัวเอง แต่กับไม่ทำ คนที่เรียนก็เรียนอย่างเดียว คนที่ทำงานก็ทำงานอย่างเดียว ผมพี่เพื่อนหลายเชื่อชาติ
พวกนั้นขยันมากๆ โดยเฉพาะคนจีน และมันมีความมุ่งมั่นมากที่จะลงหลักปักฐานที่ไทย เปิด AEC เมื่อไหร่ เป็นอันรู้กัน  :-X

ตายอย่างเขียด

ผมเนี่ยคนนึงรออยู่ ได้เปรียบเห็นๆ เฉพาะผมนะ คนอื่นอาจลำบากกัน แต่ของผมธุรกิจโตขึ้นแน่นอน ทุกวันนี้ลูกค้าจ้างเขียนโปรแกรมมาจากต่างประเทศมากกว่าคนไทยแล้ว

ผมสังเกตได้ข้อนึ่งครับ และ ฟังมาจาก อ. หลายท่าน

หัวเมืองใหญ่ที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้าน  จะพัฒนาขึ้นครับ

เช่นบ้านผม  ที่อุบล หรือ    มีเซ็นทรัล , มาลงไว้รอแล้ว 

และ พวกธุรกิจ ก่อสร้างจะขยายตัวมากขึ้น  เพราะ จะมีการสร้างตึก อาคาร สำนักงาน มากขึ้น 

ธุรกิจขายอุปกรณ์ก่อสร้างจะโตตามหัวเมือง เช่นบ้านผม มี home hub  , home pro , อุบล วัสดุ ขยายตัวรอไว้แล้ว 


เชียงใหม่ , เชียงราย  จะเป็นยุทธศาสตร์ของจีน


ส่วนเรื่องอื่นๆ กำลังศึกษาอยู่ครับ

ทุกชีวิตดิ้นรนหนักกว่าเดิม ความเห็นแก่ตัวจะเพิ่มขึ้น การมีน้ำใจคนจะลดลง ผมว่าเปิด AEC ไทยเราเสียเปรียบสุดๆ

นักวิชาการ ราชการ จะรวยขึ้น
พนง ออฟฟิศ แม่ค้า ลูกจ้าง ประชาชนทั่วไป จะจนลงครับ
โจรเยอะขึ้น ข้าวของแพงขึ้น รฐบ กินเยอะขึ้น
 :wanwan031:

คนไทยอยู่สบายมาโดยตลอด การขวนขวายในเรื่องต่างๆ ต่างกับประเทศที่เคยตกเป็นเมืองขึ้นมาก เช่น เวียตนาม เคยมีโอกาสไปบรรยายและคุยกับนักศึกษาเวียตนาม เขาบอกว่า เขากลัวประเทศไทย เพราะเจริญกว่าเขามาก ดังนั้น เขาต้องขยันกว่าคนไทยหลายๆ เท่า เพื่อที่จะตามทัน และก้าวนำหน้า

นิสัยพื้นฐาน คนไทย ขี้อาย โอกาสที่จะเก่งภาษาจึงยาก อีกเรื่องก็คือ อะไรก็ได้ ดังนั้น การเจรจาต่อรองเรื่องต่างๆ จะเสียเปรียบและเป็นรองครับ

มันเป็นความจริงเลยหล่ะ เราก็เรียนมาทั้งสายสามัญและสายอาชีพ  ว่าจะแนะนำเด็กๆ เรียนสายอาชีพด้วย

ไทยเสียเปรียบเค้า คนของเราก็ห่วยกว่าเค้า

ถ้าตอบตรงคำถามที่ถามมา คือ  ดีขึ้นแน่นอนครับ ด้านเศรษฐกิจ
อย่างอื่นแล้วแต่วิเคราะห์และมุมมองครับ  ทุกอย่างมี 2 ด้านเสมอขึ้นอยู่ว่าเราจะรับรู้ด้านไหน

คนไทยส่วนใหญ่อ่อนภาษาอังกฤษกันอะคับ
 :P

พวกโรงงานที่ใช้แรงงานเยอะ ๆ เจ๊งเป็นแถบ ๆ ครับ

1.ในด้านยุทธศาสตร์ชัยภูมิที่ตั้ง มีศักยภาพเป็นศูนย์กลางการคมนาคมได้(ในระดับติดต่อกับนานาชาติ)
ภาคอีสาน ที่มีอาณาเขตติดต่อได้หลายประเทศ เห็นมีการจัดอบรมความรู้อะไรเยอะแยะในท้องถิ่นเพื่อรองรับ
จากที่ลองศึกษาดู ก็เข้าทีดีนะคะ ดูตื่นตัว คึกคักๆ มีการวางยุทธศาสตร์อะไรดีพอสมควร น่าสนใจ และน่าสนับสนุน

2.ในแง่ของธุรกิจภาคการผลิต ถ้ามองภาพรวมเมืองไทยยังยังถือว่าได้เปรียบเพื่อนบ้านอยู่
แต่ต่อไปเมื่อ AEC เปิด ก็ไม่แน่ ต้องดูว่าอัตราค่าจ้างแรงงานในประเทศเพื่อนบ้านจะปรับอย่างไร?
โดยเฉพาะใน ลาว พม่า กัมพูชา ถ้าค่าแรงเค้าปรับขึ้น คนงานเหล่านี้อาจย้ายกลับไปบ้านตัวเอง
แต่ถ้าเทียบแล้ว ประสิทธิภาพการทำงาน ไทย กับพม่า ก็พอสูสี ลาวกับกัมพูชา
นี่ยังไม่ค่อยได้ยินคำชม ส่วนมากออกแนวบ่นว่า ขี้เกียจ ซะมากกว่า
และประเทศที่น่าจับตามองมากที่สุด คือ อินโดนีเซีย และ มาเลเซีย(มุมมองส่วนตัว)
อย่างอินโดนีเซีย เค้า position ตัวเองว่าจะเป็นู้นำด้านแฟชั่นในภูมิภาคนี้
ส่วนทางด้านมาเลเซียเอง ก็ชัดเจนมากที่จะ position ตนเองเป็น ประเทศที่พัฒนาแล้วในปี พ.ศ.2563

แต่ประเทศเรา มีข้อบกพร่องอยู่เยอะมาก ถ้าเทียบกับจุดเด่น ที่เป็นเหมือนผักชีโรยหน้า
เพราะถ้าลองคุ้ยๆ เขี่ยหาสาระประโยชน์แบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยแล้ว ยังกลวง ในมุมมองของเราเองนะ
มันเน่าตั้งแต่ระบบการศึกษามาเลย พื้นฐานไม่ค่อยดี มันโตยาก..

เศรษฐกิจน่าจะดีขึ้นมีการแลกเปลี่ยนที่สูงขึ้นแต่ส่วนตัวไม่ชอบพม่า เขมรเลยครับ คือเคยเห็นเข้ามาแล้วทำถ่อย เห็นแล้วเซงมาก