ThaiSEOBoard.com

อื่นๆ => Cafe => ข้อความที่เริ่มโดย: เดี๋ยวจะบอกว่าชื่ออะไร ที่ 12 มีนาคม 2008, 14:17:46



หัวข้อ: วิสัยทัศน์ผู้บริหาร
เริ่มหัวข้อโดย: เดี๋ยวจะบอกว่าชื่ออะไร ที่ 12 มีนาคม 2008, 14:17:46
แบบทดสอบที่ 1 : ปัญหาการลาอันน่าแคลงใจ?

แบบทดสอบเหล่านี้
นำมาจากประสบการณ์จริงเป็นส่วนใหญ่ (มีบ้างที่สมมุติขึ้น) เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน
บางเรื่อง ท่านอาจไม่เคยพบและอาจไม่พบเลยในชีวิต
บางเรื่อง ท่านก็อาจเคยได้ผ่านประสบการณ์นั้นมา
แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ก็จะมีคำตอบที่หลากหลาย
ที่ท่านสามารถเก็บเกี่ยว และอาจเป็นประโยชน์ต่อการทำงานของท่าน
+++++++++++++++++

แบบทดสอบที่ 1 "ปัญหาการลางานที่น่าแคลงใจ"

เริ่มต้นด้วยปัญหาที่ดูง่ายๆ (แต่ลึกซึ้ง)

สมมุติว่า ท่านเป็นผู้บริหารงานระดับฝ่ายในบริษัทแห่งหนึ่ง มีพนักงานหลายสิบคน

วันหนึ่ง พนักงานชื่อ ก. โทรศัพท์มาลาป่วยโดยบอกว่าปวดท้องมากจนเดินไม่ไหว ซึ่งท่านก็ได้แสดงความห่วงใยตามสมควรและอนุญาตให้ลาได้

วันต่อมา ก. มาทำงานเป็นปกติ และได้เขียนใบลาถูกต้องตามระเบียบบริษัท แต่ช่วงสาย พนักงานชื่อ ข. ซึ่งลาพักร้อนไปหลายวันได้เริ่มกลับมาทำงานและเข้ามาบอกท่านว่า เมื่อวานนี้ตอนบ่าย ได้เห็น ก. ไปเดินที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งกับแฟน โดยไม่มีอาการของคนป่วยเลย

ท่านจะจัดการกับเรื่องนี้อย่างไร ในฐานะของผู้ที่ต้องรักษาผลประโยชน์ขององค์กร เพื่อให้การทำงานร่วมกันต่อไปได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพสูงสุด




(สงสัยข้อแรกจะยุ่งยากไป ก็ข้ามมาข้อที่ 2 ที่เชื่อว่าหลายท่านจะเคยเห็นมาก่อนและมีคำตอบแล้ว)


ระหว่าง งานสำคัญแต่ไม่เร่งด่วน กับ งานเร่งด่วนแต่ไม่สำคัญ

ท่านจะเลือกทำงานใดก่อน (โปรดให้เหตุผลประกอบ)


แบบทดสอบที่ 3 : คัดเลือกพนักงานจากคำถามเดียว

ในสถานการณ์เร่งด่วนที่ท่านจะต้องรับพนักงานใหม่ 1 คน มีผู้มาสมัคร 6 คน

ท่านเลือกที่จะใช้เพียงคำถามเดียว คือ "หากท่าน (หมายถึงผู้สมัครงาน) เป็นพนักงานขององค์กรนี้ แล้ว วันหนึ่งเกิดโชคดีถูกล๊อตเตอรี่รางวัลที่ 1 ได้เงินรางวัล 40 ล้านบาท ท่านจะทำอย่างไรกับงานประจำที่ทำอยู่ที่นี่?"

คำตอบของผู้สมัครทั้ง 6 คน แตกต่างกันไป

คนที่ 1 ลาออกทันทีในวันที่ทราบว่าถูกล๊อตเตอรี่ (รวยแล้วนี่) และออกจากงานในวันนั้นเลย
คนที่ 2 ยื่นใบลาออกตามระเบียบขององค์กรทันที (เช่น ล่วงหน้าอย่างน้อย 30 วัน)
คนที่ 3 ปรึกษาผู้บังคับบัญชาว่าควรจะทำงานต่อไป หรือลาออก และจะเชื่อตามที่ผู้บังคับบัญชาแนะนำ
คนที่ 4 ทำงานที่นี่ต่อไประยะหนึ่งก่อน ค่อยๆ คิดดูว่าจะทำอย่างไรต่อไป
คนที่ 5 ไม่แน่ใจว่าจะทำอย่างไรดี (รอให้ถูกล๊อตเตอรี่จริงๆ ก่อนเถอะ)
คนที่ 6 คงเป็นไม่ได้ เพราะไม่เคยซื้อล๊อตเตอรี่เลย

ท่านจะเลือกผู้สมัครคนใดร่วมทำงานกับท่าน ?

ท่านเป็นเจ้าของบริษัทใหญ่แห่งหนึ่ง

วันหนึ่ง นาย ก. ซึ่งเป็นผู้จัดการฝ่ายขาย ได้เข้ามาหาท่าน และยื่นใบลาออก ซึ่งจะมีผลในสิ้นเดือนนี้ เพื่อจะไปเป็นเจ้าของบริษัทเล็กๆ ที่ไม่ใช่คู่แข่งกับท่าน

นาย ก. เป็นพนักงานที่มีความสามารถมาก คิดกลยุทธ์ทั้งการจัดการภายในฝ่ายและการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีความขยันและซื่อตรงต่อองค์กรตลอดระยะเวลาการทำงาน 5 ปีที่ผ่านมา

ท่านคิดอย่างไรที่ตรงกับใจที่สุด ให้เลือกเพียง 1 ข้อ (ห้ามโลภมาก)

1. คนมันไม่มีใจเสียแล้ว ดึงเอาไว้ก็เสียเวลาเปล่า (อยากจะไปไหนก็เชิญเลย)
2. เกลี้ยกล่อมให้ทำงานต่อ โดยการเพิ่มเงินเดือน (คนเก่งอย่างนี้หายาก)
3. เสนอเลื่อนตำแหน่งและหุ้นบางส่วนให้ หากเปลี่ยนใจอยู่ทำงานต่อ (คนเก่งอย่างนี้หายาก)
4. อนุญาตเลยดีกว่า คนเก่งขนาดนี้ควรมีอนาคตไกล (จะมามัวกินเงินเดือนดักดานอยู่ทำไม)
5. จะออกก็ได้เลย และเสนอขอลงทุนร่วมโดยการซื้อหุ้นด้วย (คนเก่งอย่างนี้ รุ่งอยู่แล้ว)
6. จะเอายังไงกับมันดีฟะ ? (ตอนมาสมัครงาน มันบอกปานจะอยู่ทำงานตลอดชาติเลยอะ)

เจอมาจากไหนแล้วจะบอกทีหลัง ลองตอบดูก่อน

คำถามไม่มีคำตอบที่ถูกต้อง เพียงแค่ดูวิสัยทัศน์ของเรางับ

ปล.ให้เหตุผลด้วยนะคับ



หัวข้อ: Re: วิสัยทัศน์ผู้บริหาร
เริ่มหัวข้อโดย: sealinda ที่ 13 มีนาคม 2008, 01:57:07
อยากได้เฉลยอ่ะท่าน
แต่ไม่อยากแสดงความเห็นอ่ะ กลัวแสดงความเห็นเห่ยเฝ่ยออกไป  :o อายเค้า  :P


หัวข้อ: Re: วิสัยทัศน์ผู้บริหาร
เริ่มหัวข้อโดย: Nongkhai_tong ที่ 13 มีนาคม 2008, 02:05:43
 :)


หัวข้อ: Re: วิสัยทัศน์ผู้บริหาร
เริ่มหัวข้อโดย: khanom ที่ 13 มีนาคม 2008, 02:12:07
ขอเฉลยด้วยค๊าบบบบบบ ตอบแล้ว ตอบในใจ ยังไงก็พีเอมมาบอกด้วยนะค๊าบบบบบบบบ :-*


หัวข้อ: Re: วิสัยทัศน์ผู้บริหาร
เริ่มหัวข้อโดย: zern ที่ 13 มีนาคม 2008, 02:14:29
ผมขอตอบนะ ชอบเล่น ฝึกสมอง ถึงแม้จะไม่ค่อยมีให้ฝึก  :D
1. ข้อนี้ยากสุดเลยอ่ะ แต่คิดว่าถ้าเป็นผมคงจะทำเป็นไม่รู้เรื่องแต่จะแกล้งไปคุยกับนาย ก. แบบเป็นห่วงภายหลังประมาณว่า "ปวดท้องหายดีหรือยัง ต้องการยามั้ยจะเบิกให้ ฯลฯ" ให้นาย ก. รู้สึกว่าเราห่วง และให้นาย ก. สงสัยว่าเรารู้หรือไม่เพื่อที่นาย ก. จะได้รู้สึกผิดในใจ+กลัวเรารู้และไม่ทำเช่นนี้อีก
2. งานสำคัญสิ เพราะว่างานเร่งด่วนอาจจะไม่จำเป็นต้องทำก็ได้แต่งานสำคัญไม่ทำไม่ได้เด็ดขาด
3. เลือกคนที่ 3 เพราะเป็นคนเดียวที่รายงานให้เราฟัง ทำให้เราสามารถมีข้อมูลที่จะตัดสินใจได้ ว่า จะทำอย่างไรเพื่อไม่ให้ออก หรือ แผนสำรองเผื่อมันออกจะทำอย่างไร
4. เลือกข้อ 3 เพราะว่าคนมีความสามารถอีกทั้งขยันและซื่อตรงต่อองค์กร หายากยิ่งกว่าอะไรดี ต้องพยายามเท่าที่ทำได้เพื่อไม่ให้ออก ผลประโยชน์สูงสุดของบริษัทต้องมาก่อน

คิดได้แค่นี้(ก็บุญแล้ว)แหละครับ  :P


หัวข้อ: Re: วิสัยทัศน์ผู้บริหาร
เริ่มหัวข้อโดย: ก้ามปู ที่ 13 มีนาคม 2008, 02:31:34
1. ด่า เพราะหมั่นไส้มันได้แฟนสวย (เกี่ยวป่าวหว่า)
2. งานด่วน เพราะงานด่วนยืมถึงไวกว่างานไม่ด่วน
3. เลือกคนที่ 4 (ข้อนี้เป็นข้อเดียวที่ผมใช้ความคิด) เพราะ
- คนที่ 1 มันงี่เง่าเกิน ตอบแบบคนไม่มีความคิด
- คนที่สอง ดีขึ้นมาหน่อย ยังยอมทำตามกติกา แต่ว่าดันลาออกโดยไม่มีแผน แสดงว่าหมอนี่ ยังมีความรอบคอบไม่เพียงพอ
- คนที่ 3 หมอนี่ผมจะไม่มีทางเลือกมันเลย เพราะดูก็รู้แล้วว่าชอบเลีย (เก่งรึเปล่าไม่รู้) หมั่นไส้
- คนที่ 4 ผมเลือกหมอนี่เพราะ หมอนี่ท่าทางจะเป็นครอบคอบ จนถึงขั้นที่เรียกได้ว่ายึดติดกับความมั่นคงเลยก็ว่าได้ (ที่สำคัญ หมอนี่ท่าทางจะไม่ซื้อล็อตเตอรี่แน่ๆ 555  ;D)
- คนที่ 5 ไม่ค่อยชอบเลย ผมว่าหมอนี่เป็น คนฉลาด แต่ชอบหนีปัญหา
- คนที่ 6 ถ้าไม่มีคนอื่น ผมก็คงรับหมอนี่ แต่ว่าจริงๆไม่อยากรับเล้ย นอกจากจะไม่กล้าตัดสินใจแล้ยังไม่รู้เรื่องว่าเค้าสมมุติให้ตัวเองตัดสินใจ รับมาทำงานด้วยนี่รังแต่จะเกิดปัญหา จากความฉลาดใจเร็วของมัน

4. คนเก่งๆหายากครับ เราเป็นเจ้านายควรให้การสนับสนุน โดยการลงทุนด้วยไปเลย ถ้าเค้าทำดีกำไรก็เป็นของเราเสียส่วนหนึ่ง ที่สำคัญถ้าคนได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก มันคงจะรุ่ง ถ้าไม่ริ่งซะก่อน อีกทั้งถ้าผมที่เป็นเจ้าของบริษัทใหญ่ออกทุนช่วย แล้วหละก็ ประสบการณ์ของผมท่าทางจะช่วยหมอนี่ให้ไปได้รอดแน่ๆเยย ในทางกลับกัน ถ้าปล่อยมันไปทำเองใช่ว่าจะประสบผลสำเร็จเสมอไป เพราะเก่งกับสำเร็จมันคนละเรื่องกันครับ

ผมตอบอะไรไปนี่ โอ้ววว มั่วชิปเป๋งเยย


หัวข้อ: Re: วิสัยทัศน์ผู้บริหาร
เริ่มหัวข้อโดย: หนึ่งสุดหล่อ ที่ 13 มีนาคม 2008, 02:39:40
น่าสนุกจังครับ

ข้อ1: ขอใบรับรองแพทย์จาก นาย ก. อย่าเพิ่งปักใจเชื่อนาย ข. เพราะจริงๆนาย ก อาจจะแค่ปวด Kee ก็ได้ พอโล่งท้องแล้วก็เดินตัวเบา

ข้อ2: ทำทั้งคู่ไปแหล่ะ แบ่งเวลาเป็นไม่ใช่เหรอ ขอแค่งานเสร็จทันกำหนดทั้งคู่ก็พอแล้ว

ข้อ3: ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของพนักงานคนนั้น แต่เท่าที่วิเคราะห์ดูจากการถูกรางวัลล้อตเตอรี่แล้วจะออกเลย คาดว่าเป็นระดับล่าง ผมขอเลือกคนที่สี่ดีกว่า เพราะ
โค๊ด:
คนที่ 1 ลาออกทันทีในวันที่ทราบว่าถูกล๊อตเตอรี่ (รวยแล้วนี่) และออกจากงานในวันนั้นเลย -- แย่ที่สุด ทำงานเพื่อเงินชัดๆ ไม่มีความรักในตัวงานเลย
คนที่ 2 ยื่นใบลาออกตามระเบียบขององค์กรทันที (เช่น ล่วงหน้าอย่างน้อย 30 วัน) -- ก็ยังดี
คนที่ 3 ปรึกษาผู้บังคับบัญชาว่าควรจะทำงานต่อไป หรือลาออก และจะเชื่อตามที่ผู้บังคับบัญชาแนะนำ -- ไม่มีความคิดเป็นของตัวเอง ทำตามหัวหน้าหมด
คนที่ 4 ทำงานที่นี่ต่อไประยะหนึ่งก่อน ค่อยๆ คิดดูว่าจะทำอย่างไรต่อไป -- ดูท่าทีก่อนปฎิบัติ = ฉลาด
คนที่ 5 ไม่แน่ใจว่าจะทำอย่างไรดี (รอให้ถูกล๊อตเตอรี่จริงๆ ก่อนเถอะ) -- ไม่ฉลาด ไม่มั่นใจในตัวเอง ไม่ควรรับด้วยประการทั้งปวง
คนที่ 6 คงเป็นไม่ได้ เพราะไม่เคยซื้อล๊อตเตอรี่เลย  -- ไม่คลิ๊ก ไม่รับ

ข้อ4: เลือกข้อ 5 เพราะถ้าเค้าเป็นคนเก่งจริง เค้าก็ตัดสินใจได้ด้วยตัวเองแล้ว ถึงเรายื้อแล้วอยู่ ก็ไม่นาน ปล่อยเขาไปดีกว่า แต่ขอมีเอี่ยวด้วยนิดๆ (ถ้าจับมาเป็น partner กะบริษัทได้ก็จะดีมาก) แต่ข้อนี้ถ้าเป็นผู้บริหารจริงๆจะเลือกข้อ 2 หรือ 3 คร๊าบ


หัวข้อ: Re: วิสัยทัศน์ผู้บริหาร
เริ่มหัวข้อโดย: Dj.wayne_Gum ที่ 13 มีนาคม 2008, 03:04:10
1.ประจาน เอ๊ยประชุมลับสองคน ก.กะ ข. สอบถามเหตุผล ถ้าจริง >:( ให้มาทำงานวันอาทิตย์กะยาม
2.ผมคงทำงานด่วนก่อนอ่ะ ถึงแม้มันจะไม่สำมะคัญ แต่มันก็ด่วนจิงมะ  ส่วนงานสำคัญทำพรุ่งนี้ทำทันทำพรุ่งนี้ก็ได้
3.ผมอยากเลือกคนที่ 1 นะ (ชอบ) แต่จริง ๆ คงต้อง คนที่สอง ให้เวลาผมหาตัวแทนหน่อย
4.แหมข้อนี้ อยากตอบว่า ขึ้นเงินเดือนยอมมั๊ย ไม่ยอม เลื่อนตำแหน่ง ยอมมั๊ย แต่ว่าให้เลือกคำตอบเดียวเหรอ อืม
   ปล่อยแม่ม ไปเห้อ


หัวข้อ: Re: วิสัยทัศน์ผู้บริหาร
เริ่มหัวข้อโดย: barbies55 ที่ 13 มีนาคม 2008, 03:19:41
ข้อหนึ่ง ไม่ว่าอะไร ไม่ว่านาย ข. จะพูดจริง หรือว่าโกหก เพราะนาย ก. ได้ทำถูกต้องตามระเบียบบริษัท
และในหนึ่งปี นายก. ก็มีสิทธิลาป่วยได้เจ็ดวันอยู่แล้ว(ที่อื่นไม่รู้นะ ที่ทำงานเก่าเราได้แบบนี้)
เมื่อนาย ก. ยินดีใช้สิทธิ เสียวันลาป่วยไปหนึ่งวัน ทำให้เหลือสิทธิอีกแค่หกวัน ก็ตามใจ ขอให้ทำอย่างถูกต้องก็พอละ

ข้อสอง จะเลือกทำงานสำคัญก่อน เหตุผล เพราะมันสำคัญ

ข้อสาม เลือกคนที่สี่
เพราะ คนที่หนึ่งไม่มีใจให้องค์กร ไม่รักในงานที่ทำ ไม่ทำตามกฎระเบียบบริษัท
คนที่สอง ทำตามกฎระเบียบบริษัท แต่ก้พร้อมจะไปจากงานได้ทุกเมื่อเหมือนกัน
คนที่สาม คิดเองไม่เป็น ตัดสินใจเองไม่ได้ ได้แต่เป็นผู้ตาม หรือไม่ก็ มันตอแหล ตอบเอาใจคนสมัคร
คนที่ห้า ไม่มีความยืดหยุ่น ไม่กล้ายอมรับสิ่งใหม่ๆ
คนที่หก มันไม่เข้าใจคำถามรึไง เค้าบอกว่าสมมติ งี่เง่าสุดในบรรดาหกคน

ข้อสี่ เลือกข้อห้า แต่ไม่ใช่เหตุผลตามในวงเล็บ เป็นการชวนคุยแบบทีเล่นทีจริงมากกว่า เราแค่อยากรู้ว่า การที่เค้าจะออกจากงานเราไปเนี่ย เค้าจะมีอนาคตที่ดีแน่หรือเปล่า
เป็นการถือโอกาสชวนคุยเกี่ยวกับรายละเอียดต่างๆภายในบริษัทที่เค้าจะเปิด เพื่อที่จะให้คำแนะนำอะไรกับเค้าได้บ้าง
เค้าทำงานเก่งก็จริง แต่ประสบการณ์อาจจะยังไม่แน่นพอ หรืออาจจะลืมคิดถึงรายละเอียดปลีกย่อยอะไรต่างๆที่เค้าไม่เคยรู้


หัวข้อ: Re: วิสัยทัศน์ผู้บริหาร
เริ่มหัวข้อโดย: Judas ที่ 13 มีนาคม 2008, 05:40:03
สนุกดีแฮะ

ข้อหนึ่ง นาย ข เ้ค้าไปยุ่งไรกับนาย ก หว่า เค้าจะโดดงานก็เรื่องของเค้า ผมก็แอบทำประจำ ลาป่วยได้ปีล่ะตั้ง 30 วัน

ข้อสอง เลือกงานด่วนก่อน เพราะ มันด่วน แต่มันก็ต้องดูด้วยนะ ว่าสำคัญนี่สำคัญขนาดไหน ด่วนนี่ด่วนขนาดไหน

ข้อสาม
- ถ้าผมเป็นเจ้านายผมก็เลือกคนที่ 4
- แต่ถ้าผมเป็นลูกจ้างผมจะเป็นคนที่ 2 ผมออกจากงานได้ทุกเมื่อแหล่ะ เมื่อผมพร้อม ในที่นี้คือเรื่องเงิน เพราะแผนการมันมีอยู่แล้ว

ข้อที่สี่
- ถ้าผมเป็นเจ้านายผมเลือกข้อที่ 5
- ถ้าผมเป็นลูกจ้าง ผมอยากให้เจ้านายเลือกข้อ 4 (ไม่ต้องมายุ่งกับผม ไม่ต้องมาหุ้นกับผมด้วย เพราะมันรุ่งเห็นๆ ถ้าไม่รุ่ง ไม่พร้อม แล้วจะลาออกจากงานที่เจ้านายรักขนาดนี้ทำไม)

รอดูคำตอบอยู่นะจ๊ะ


หัวข้อ: Re: วิสัยทัศน์ผู้บริหาร
เริ่มหัวข้อโดย: chuanguru ที่ 13 มีนาคม 2008, 06:07:52
เล่นด้วยๆ

1.บอก ข.ว่า ผมอนุญาติคือผมอนุญาติผมไม่สนใจว่าเขาจะไปทำอะไร เหมือนคุณลาพักร้อนนั่นแหล่ะ เพราะนั่นเป็นสิทธิ์ที่คุณสามารถทำได้ แต่ก็ขอบคุณ ข.มากนะที่ให้ข้อมูล ไปทำงานเถอะ

2.งานด่วน

3.คนที่ 1 เพราะตอบอย่าง จริงใจที่สุด มนุษย์ทุกคนมีความโลภถ้าคุณรับเงิน 40 ล้านคุณจะยังทำงานอีกเหรอ ใจเขาใจเรา

4.เลือก 5. จะออกก็ได้เลย และเสนอขอลงทุนร่วมโดยการซื้อหุ้นด้วย (คนเก่งอย่างนี้ รุ่งอยู่แล้ว)


หัวข้อ: Re: วิสัยทัศน์ผู้บริหาร
เริ่มหัวข้อโดย: tinnoi ที่ 13 มีนาคม 2008, 07:20:48
แบบทดสอบที่ 1 "ปัญหาการลางานที่น่าแคลงใจ"

>> ผมคงเรียก ก. มาคุย หรือหาโอกาสคุย บอกว่า ผมเป็นคนตรง ๆ ถ้าอยากลาป่วยก็มาลาป่วย อยากพักร้อนก็มาลาพักร้อน
ผมไม่ชอบพนักงานที่ไม่ซื่อสัตย์



2. ระหว่าง งานสำคัญแต่ไม่เร่งด่วน กับ งานเร่งด่วนแต่ไม่สำคัญ
>> นี่เป็นเหตุการณ์จริงของที่ทำงานผมเลยนะเนี่ย มีโปรเจคใหญ่ ๆ ที่ไม่เร่งด่วนเข้ามา กับงานเล็ก ๆ ( งานแก้เว็บเล็ก ๆ น้อย ๆ ของลูกค้า )
ทีแรก ผมบอกพนักงานไปเลยว่า priority หลักคือโปรเจคใหญ่  เราต้องทุ่มเทพลัง เวลา และความคิดทั้งหมดให้งานนี้
แต่ถ้ามีงานเร่งด่วนเล็ก ๆ เข้ามาให้ ขยับมาทำก่อน แต่อย่าให้เสียเวลามาก
( ประมาณว่า เผาได้ก็เผาส่งไปเลย .. )

แบบทดสอบที่ 3 : คัดเลือกพนักงานจากคำถามเดียว
>> ผมคงเลือก คนที่ตอบ ข้อ 3 หรือ 4 ครับ
แน่นอนการที่คนเราทำงาน ปัจจัยหลัก ๆ คือเรื่องของการหาเงิน แต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อย ที่ทำงานเพราะว่ารักในงานที่ตัวเองทำ
ผมเคยเห็นข่าวพนักงานทำความสะอาด ถูกลอตเตอรี่ รางวัลใหญ่ แต่ก็ยังทำงานของตัวเองอยู่ เพราะชอบในสิ่งที่ตัวเองทำครับ

ถ้ามีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นจริง ๆ คนที่ทำตามข้อ 3 ,4 มีเยอะแน่

ถ้าเลือกได้ข้อเดียวก็คงข้อ 4



4. ท่านเป็นเจ้าของบริษัทใหญ่แห่งหนึ่ง
>> คงเลือกข้อ 4 , 5 น่ะครับ ผมมองว่า ท้ายที่สุดแล้ว ทุกอย่างก็จะวิ่งเข้าสู่สมดุล มันกำลังจะเป็นอย่างที่ควรจะเป็น
คนเก่งขนาดมีพลังพอจะไปสร้างกิจการของตัวเอง ยังไงก็ไม่ควรจะรั้งไว้ครับ

และถ้าเรามองว่า กิจการของเขาน่าจะไปได้สวย เราก็เสนอตัวไปช่วย หรือร่วมลงทุนเลย

ถ้าเลือกได้ข้อเดียวคงเลือก 5 แต่ 4 กับ 5 มันคล้าย ๆ กัน อยู่ที่ว่าเขาจะยอมแบ่งหุ้นให้เราซื้อบางไหมนะ  :-[



หัวข้อ: Re: วิสัยทัศน์ผู้บริหาร
เริ่มหัวข้อโดย: เดี๋ยวจะบอกว่าชื่ออะไร ที่ 13 มีนาคม 2008, 11:15:07
มันไม่มีคำตอบที่ถูกต้องอะคับ คือคำตอบทุกคำตอบถูกหมดทุกข้ออยู่แล้ว - -

สำหรับผมข้อแรกเหมือนของหยินอะ


ข้อสองผมเลือกทำงานสำคัญไม่เร่งด่วนครับ

งานเร่งด่วนไม่สำคัญ ก็น่าจะเหมือนกับทำหรือไม่ทำก็ไม่น่าจะต่างกันมากนะครับ ให้คนอื่นทำก็ได้  :-[ :-[

ข้อสาม เลือกคนที่ สี่คับ

1.คนนี้ไม่รักการทำงานประจำ(ซึ่งอาจหมายถึงอยากไปทำธุรกิจ) แต่ขาดความรอบคอบ รีบร้อนในการตัดสินใจเกินไป คนนี้จึงไม่เหมาะจะรับเข้าทำงานประจำ ไร้ระเบียบและความรับผิดชอบ กล้าตอบดี

2.คนนี้คล้ายคนแรก ไม่ได้บอกว่ารอบคอบ เพราะตัดสินใจเลย เพียงแต่ทำตามระเบียบ คนนี้ยึดระเบียบกฎเกณฑ์เป็นสำคัญ (จะมีคนตอบหรือ)

3.คนนี้ขาดความเชื่อมั่นในความคิดของตนเอง (จริงๆแล้วไม่รู้ว่าจะตอบอะไรดี ปั้นคำพูดขึ้นมาให้ดูดี)

4.คนนี้อาจแสดงว่าที่ผ่านมาไม่เคยคิดเรื่องทำธุรกิจหรือออกจากงาน จึงชะลอการตัดสินใจออกไป จึงแสดงว่าคนนี้พอใจกับการทำงานประจำระดับหนึ่ง และมีความรอบคอบ (ขอคิดดูก่อนแล้วผมค่อยตอบคำถามข้อนี้วันหลัง)

5.คนนี้จริงๆ จะคล้ายคนที่ 4 แต่ถ้าพูดคำพูดในวงเล็บด้วย ถ้าไม่เป็นคนขาดความเชื่อมั่นในโชคของตัวเอง ก็เป็นคนทำอะไรปลอดภัย ไม่เสี่ยง ไม่คิดไกลตัว ไม่คาดหวังอนาคตที่ยังมาไม่ถึง (ก็จริงใจดี แต่ไม่มีidea
)

6.คนนี้มีจิตคิดเรื่องเหตุผลความเป็นจริงอยู่ในใจ เป็นพวกตรวจสอบความเชื่อ ไม่เชื่ออะไรง่ายๆ จึงทำให้เขวไปตอบผิดประเด็นคำถามที่ผู้ถามต้องการ และอาจเป็นดังที่คุณเดหลีกล่วไว้ ขาดจินตนาการความเชื่อในตัวเองนิด ไม่คิดว่าโชคดีที่เป็นลาภลอยจะเกิดกับตัวเอง เชื่อในการกระทำล้วนๆ (ไม่รับมุข รับมาก็ได้แต่วันหนึ่งคุณให้งานอะไรใหม่ๆไปทำก็คงจะบอกว่า ทำไม่ได้เพราะไม่เคยทำ)

ข้อที่สี่ เลือกข้อเจ็ด

เกลี้ยกล่อมให้ทำงานต่อ เพราะยุคนี้ เศรษฐกิจแบบนี้ การเมืองอย่างนี้ ลงทุนใหม่มีแต่เจ๊งกับเจ๊ง (ดีกับทั้งสองฝ่าย)

(เพิ่มขึ้นมาเอง)




หัวข้อ: Re: วิสัยทัศน์ผู้บริหาร
เริ่มหัวข้อโดย: thenetxx ที่ 13 มีนาคม 2008, 11:26:15
1. ผมดูที่องค์ประกอบหลายอย่างครับ เช่น ปกติทำงานเป็นอย่างไร ในระหว่างที่หยุดมีงานสำคัญค้างไว้รึป่าว กลับมาทำงานแล้วงานสะดุดรึป่าว ถ้าไม่มีปัญหาอะไร ก็สิทธิ์ของเค้า จะลาอะไร ไปทำอะไรถ้าไม่กระทบองค์กร นิด ๆ หน่อย ๆ ปล่อยบ้างก็ได้ครับ

2.ทุกงานมีความสำคัญครับ ก็ทำตาม timeline และ que -*- ถ้าเร่งด่วนมาก สามารถทำได้ ก็ทำเร่งด่วนก่อนโดยไม่ให้งานสำคัญกระทบครับ

3.ผมจะพิจารณา 3 คนข้างล่างครับ เพราะการรับคนเข้าทำงานดูจากหลายองค์ประกอบ แค่คำถามนี้คำถามเดียว ยังไม่ตอบโจทย์ที่ว่าผมจะรับเค้าเข้าทำงานรึป่าวครับ
อ้างถึง
คนที่ 3 ปรึกษาผู้บังคับบัญชาว่าควรจะทำงานต่อไป หรือลาออก และจะเชื่อตามที่ผู้บังคับบัญชาแนะนำ
คนที่ 4 ทำงานที่นี่ต่อไประยะหนึ่งก่อน ค่อยๆ คิดดูว่าจะทำอย่างไรต่อไป
คนที่ 5 ไม่แน่ใจว่าจะทำอย่างไรดี (รอให้ถูกล๊อตเตอรี่จริงๆ ก่อนเถอะ)

ข้อสุดท้าย ผมตอบ

5. จะออกก็ได้เลย และเสนอขอลงทุนร่วมโดยการซื้อหุ้นด้วย (คนเก่งอย่างนี้ รุ่งอยู่แล้ว)


หัวข้อ: Re: วิสัยทัศน์ผู้บริหาร
เริ่มหัวข้อโดย: kazama ที่ 13 มีนาคม 2008, 11:37:35
1. เรียกนาย ก. คุยและทำหนังสือเตือนนาย ก.
บริษัทมีลาพักร้อน  ลากิจอยู่แล้ว พนักงานก็ไม่ซื่อสัตย์ไม่พูดความจริง  และพนักงานบางส่วนได้รู้เรื่องแล้ว  ถ้าไม่ทำอะไรที่ดูเหมือนว่านาย ก. ถูกลงโทษ จะกลายเป็นว่าพนักงานที่ทำตามกฎระเบียบจะเสียกำลังใจไป     ลาป่วยไม่ใช่สวัสดิการที่ใช้ได้โดยที่ไม่ป่วย  ถาม HR ได้ทุกบริษัท
2. เล่นเนตก่อน  :o
3. คนที่ 4
4. ข้อสอง เกลี้ยกล่อมให้ทำงานต่อ โดยการเพิ่มเงินเดือน
เพราะข้อหนึ่งกับข้อหกแย่เกินไป
ข้อสาม เหมือนว่าที่ผ่านมาไม่ให้ความสำคัญเขา จะมาให้ตอนที่เขาคิดจะจากไป
ข้อสี่ อันนี้ก็ถูกแต่ บางทีเขาอาจแค่ลังเล  ควรหาทางเหนี่ยวรั้งเขาไว้
ข้อห้า คนทำงานเก่ง  บางครั้งก็ทำธุรกิจไม่รุ่ง


หัวข้อ: Re: วิสัยทัศน์ผู้บริหาร
เริ่มหัวข้อโดย: เกรียนเทพ ที่ 13 มีนาคม 2008, 11:44:08
1. เรียกนาย ก. คุยและทำหนังสือเตือนนาย ก.
บริษัทมีลาพักร้อน  ลากิจอยู่แล้ว พนักงานก็ไม่ซื่อสัตย์ไม่พูดความจริง  และพนักงานบางส่วนได้รู้เรื่องแล้ว  ถ้าไม่ทำอะไรที่ดูเหมือนว่านาย ก. ถูกลงโทษ จะกลายเป็นว่าพนักงานที่ทำตามกฎระเบียบจะเสียกำลังใจไป     ลาป่วยไม่ใช่สวัสดิการที่ใช้ได้โดยที่ไม่ป่วย  ถาม HR ได้ทุกบริษัท
2. เล่นเนตก่อน  :o
3. คนที่ 4
4. ข้อสอง เกลี้ยกล่อมให้ทำงานต่อ โดยการเพิ่มเงินเดือน
เพราะข้อหนึ่งกับข้อหกแย่เกินไป
ข้อสาม เหมือนว่าที่ผ่านมาไม่ให้ความสำคัญเขา จะมาให้ตอนที่เขาคิดจะจากไป
ข้อสี่ อันนี้ก็ถูกแต่ บางทีเขาอาจแค่ลังเล  ควรหาทางเหนี่ยวรั้งเขาไว้
ข้อห้า คนทำงานเก่ง  บางครั้งก็ทำธุรกิจไม่รุ่ง

เป็นผู้บริหารได้เลยนะเนี่ย


หัวข้อ: Re: วิสัยทัศน์ผู้บริหาร
เริ่มหัวข้อโดย: arabanaki ที่ 13 มีนาคม 2008, 11:50:24
ตอบไม่ได้ครับ เพราะเป็นลูกน้องมาตั้งแต่เกิด


หัวข้อ: Re: วิสัยทัศน์ผู้บริหาร
เริ่มหัวข้อโดย: Bugnoms ที่ 13 มีนาคม 2008, 13:04:26
มาลองดูความคิดผมบ้าง  :D

แบบทดสอบที่ 1 "ปัญหาการลางานที่น่าแคลงใจ"

เรียกทั้งนาย ก และ นาย ข มาคุยกัน เพื่อให้แน่ใจว่าใครโกหก เพราะไม่แน่ว่านาย ข อาจจะโกหกเนื่องจากหมั่นไส้นาย ก อยู่ลึกๆ ก็ได้ (เรืองนี้ไม่รู้ว่าใครทำจริง ต้องให้ความเป็นธรรม)

แต่อาจจะบอกนาย ข ก่อนว่าจะเรียกนาย ก มาคุย เลยนะ ถ้าคุณโกหกเพื่อกลั่นแกล้งเพื่อนร่วมงาน โดนแน่ๆ

หากนาย ก ทำจริง ก็คงแค่ตักเตือน ไม่ได้ว่าอะไรมาก ถือว่าเป็นการสอนว่า ยังไม่เนียนพอนะไ้อ้น้อง  :D

เพราะผมมองการลาไม่ได้เป็นเี่รื่องใหญ่ ถ้าผลงานคุณมีประสิทธิภาพพอ


แบบทดสอบที่ 2 "เลือกงาน"

งานเร่งด่วน เพราะเราต้องการทำงานที่รับผิดชอบ "ทั้งหมด" ให้ "เสร็จ" ไม่ใข้ ทำงานสำคัญให้เสร็จก็พอ


แบบทดสอบที่ 3 "คัดเลือกพนักงานจากคำถามเดียว"


คนที่ 2 ยื่นใบลาออกตามระเบียบขององค์กรทันที (เช่น ล่วงหน้าอย่างน้อย 30 วัน)

เพราะ เป็นคนเดืยวที่มีคำตอบชัดเจนและไม่ผิดกฏของบริษัท ส่วนคนอื่นๆ

คนที่ 1 อันนี้เห็นแก่ตัวไป บ้าหรือป่าว ไปไม่ลา มาไม่ไหว้
คนที่ 3 อันนี้ออกแนวปังย่าอ่อน ถ้าเค้าบอกให้เอาเงินมาให้ จะเอามาไหม
คนที่ 4 ไม่ชัดเจน ไม่เคลียร์ อยู่ก็ได้ไม่อยู่ก็ได้ เรื่อยเปื่อย
คนที่ 5 หนักกว่า 4
คนที่ 6 อันนี้ ไร้สาระ เค้าบอกว่าเป็นคำถามทดสอบ ตอบแบบนี้จะรู้ความคิดแกไหม

ข้อสุดท้าย "ลาออก"

4. อนุญาตเลยดีกว่า คนเก่งขนาดนี้ควรมีอนาคตไกล (จะมามัวกินเงินเดือนดักดานอยู่ทำไม)

ไปเลย ตามสบาย แต่ต้องทิ้งท้ายว่า ถ้าลำบากยังไงก็อย่าลืมพี่นะ และช่วยเหลือเค้าเท่าที่ทำได้ เพราะ

1. ไม่ใช่คู่แข่ง ไม่มีผลทางธุรกิจ
2. สร้างบารมีและบุญคุณ ยังไงถ้าไปไม่รอด เค้าก็กลับมาหาเราอยู่ดี เพราะจากกันด้วยดี

นานๆที่จะตอบยาวๆ เหนื่อยแฮะ  :P



หัวข้อ: Re: วิสัยทัศน์ผู้บริหาร
เริ่มหัวข้อโดย: kazama ที่ 13 มีนาคม 2008, 13:19:13
เห็นบางคนตอบข้อแรกแบบให้สองคนมาเจอหน้ากัน   :o  ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง

เหมือนกับเด็กนักเรียนทำผิด แล้วเพื่อนไปเจอ แล้วไปบอกครู คนทำผิดโดนลงโทษ  ก็เลยผูกใจเจ็บคนมาฟ้อง

คนเราต่อให้เป็นผู้ใหญ่   แต่บางเรื่องก็เหมือนเด็ก ๆ อยู่ดี   ตัวเองทำผิดมีคนไปรายงาน แทนที่สำนึกผิด กลับเกลียดคนมาฟ้องซะอย่างนั้น


หัวข้อ: Re: วิสัยทัศน์ผู้บริหาร
เริ่มหัวข้อโดย: Bugnoms ที่ 13 มีนาคม 2008, 13:22:17
เห็นบางคนตอบข้อแรกแบบให้สองคนมาเจอหน้ากัน   :o  ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง

เหมือนกับเด็กนักเรียนทำผิด แล้วเพื่อนไปเจอ แล้วไปบอกครู คนทำผิดโดนลงโทษ  ก็เลยผูกใจเจ็บคนมาฟ้อง

คนเราต่อให้เป็นผู้ใหญ่   แต่บางเรื่องก็เหมือนเด็ก ๆ อยู่ดี   ตัวเองทำผิดมีคนไปรายงาน แทนที่สำนึกผิด กลับเกลียดคนมาฟ้องซะอย่างนั้น

 :o จริงหรือนี่ เพิื่่งรู้นะครับ ผมนึกว่าแบบ ถ้ากล้าฟ้องก็ต้องกล้าชน ส่วนไอ้คนถูกฟ้อง ถ้าผูกใจเจ็บก็ไม่ fair พอ

ขอบคุณมากครับ เก็บไว้เป็นความรู้เลย  :-[


หัวข้อ: Re: วิสัยทัศน์ผู้บริหาร
เริ่มหัวข้อโดย: ก้ามปู ที่ 13 มีนาคม 2008, 13:27:45
เห็นบางคนตอบข้อแรกแบบให้สองคนมาเจอหน้ากัน   :o  ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง

เหมือนกับเด็กนักเรียนทำผิด แล้วเพื่อนไปเจอ แล้วไปบอกครู คนทำผิดโดนลงโทษ  ก็เลยผูกใจเจ็บคนมาฟ้อง

คนเราต่อให้เป็นผู้ใหญ่   แต่บางเรื่องก็เหมือนเด็ก ๆ อยู่ดี   ตัวเองทำผิดมีคนไปรายงาน แทนที่สำนึกผิด กลับเกลียดคนมาฟ้องซะอย่างนั้น

 :o จริงหรือนี่ เพิื่่งรู้นะครับ ผมนึกว่าแบบ ถ้ากล้าฟ้องก็ต้องกล้าชน ส่วนไอ้คนถูกฟ้อง ถ้าผูกใจเจ็บก็ไม่ fair พอ

ขอบคุณมากครับ เก็บไว้เป็นความรู้เลย  :-[

สมัยเรียนเพื่อนๆผมมันต่อยกันก็เพราะรู้ว่าใครฟ้องนี่แหละครับ

จะเล่าให้ฟังเรื่องเกิดเร็วๆนี้ เรื่องมีอยู่ว่า

ผมมีเพื่อนสองคน อีกคนไปแทงบอลติดหนี้ ให้อีกคนใช้แทนให้ก่อน แต่หลังจากนั้นหมอนั่นก็ไม่ยอมใช้หนี้ อีกคนโทรหาก็ไม่รับ พยายามกดวางสาย โทรไปเป็นร้อยครั้ง ก็ไม่ยอมรับ และไม่โทรกลับ อีกคนเลยส่งข้อความไปว่าให้ติดต่อกลับ ไม่งั้นจะทนไม่ไหวแล้ว

แต่แล้วมันก็ไม่ติดต่อกลับมาเลย อีกคนโมโหและจำเป็นต้องใช้เงินจึงต้องโทรหาแม่ของอีกฝ่าย จนความจริงรู้ถึงหูแม่มันจนได้ มันเลยโทรมาด่าอีกคนว่าทำไมถึงทำแบบนี้ สรุปว่า คนที่อยากทวงตังกลายเป็นคนผิดในสายตามันซะงั้น

ไม่อยากบอกผมก็โดนหมอนั่นยืมตังแล้วทำแบบนั้นเหมือนกัน เลยเก็บกดนิดหน่อย  ;D

ลองคิดดู ถ้าเป็นกรณีอย่างคำถามมันจะเกลียดกันแค่ไหน  :P


หัวข้อ: Re: วิสัยทัศน์ผู้บริหาร
เริ่มหัวข้อโดย: เดี๋ยวจะบอกว่าชื่ออะไร ที่ 13 มีนาคม 2008, 17:48:24
เห็นบางคนตอบข้อแรกแบบให้สองคนมาเจอหน้ากัน   :o  ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง

เหมือนกับเด็กนักเรียนทำผิด แล้วเพื่อนไปเจอ แล้วไปบอกครู คนทำผิดโดนลงโทษ  ก็เลยผูกใจเจ็บคนมาฟ้อง

คนเราต่อให้เป็นผู้ใหญ่   แต่บางเรื่องก็เหมือนเด็ก ๆ อยู่ดี   ตัวเองทำผิดมีคนไปรายงาน แทนที่สำนึกผิด กลับเกลียดคนมาฟ้องซะอย่างนั้น

 :o จริงหรือนี่ เพิื่่งรู้นะครับ ผมนึกว่าแบบ ถ้ากล้าฟ้องก็ต้องกล้าชน ส่วนไอ้คนถูกฟ้อง ถ้าผูกใจเจ็บก็ไม่ fair พอ

ขอบคุณมากครับ เก็บไว้เป็นความรู้เลย  :-[

ใช่เลยคับ แต่อย่างน้อยสองคนนี้ต้องมีหนึ่งคนโกหกแน่ ๆ งิงิ

ถ้าหากเป็น ก.ทำผิด คงต้องพิจารณาจากผลงานที่ ก.เคยทำ แต่โดยรวมแล้วคงไม่มีอะไรมาก

แต่ถ้าข.โกหก นี่ แสดงว่าองค์กรกำลังมีปัญหา


หัวข้อ: Re: วิสัยทัศน์ผู้บริหาร
เริ่มหัวข้อโดย: เดี๋ยวจะบอกว่าชื่ออะไร ที่ 19 มิถุนายน 2008, 13:37:12
ขุดกระทู้เก่าตัวเองมาให้เล่นกันอีกรอบ

อิอิ