หัวข้อ: "กินเจ" ให้เป็น - วิธีการกินเจที่ถูกต้อง เริ่มหัวข้อโดย: whitebmw ที่ 15 ตุลาคม 2007, 14:24:28 คอลัมน์ วาไรตี้เฮลท์
เห็นธงเหลืองตัวอักษรสีแดงปลิวไสวไปทั่วบ้านทั่วเมืองเช่นนี้ เป็นสัญลักษณ์ว่า เทศกาล "กินเจ" ได้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง กินเจเป็นประเพณีทางพุทธศาสนาฝ่ายมหายานถือได้ว่าเป็นเทศกาลบุญที่สืบทอดติดต่อกันมาอย่างยาวนาน โดยจะเริ่มตั้งแต่วันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 9 ไปจนถึงวันขึ้น 9 ค่ำ เดือน 9 ตามปฏิทินจีน เวลานั้นผู้คนจะพากันละเว้นการเบียดเบียน ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต งดเว้นการกินเนื้อสัตว์และหันไปรักษาศีล ปฏิบัติธรรม ให้บริสุทธิ์ทั้งกาย วาจา และใจ จึงนับได้ว่าเป็นช่วงเวลาแห่งการทำบุญได้ดียิ่ง แต่ถ้าเป็นในเรื่องของสุขภาพ ขอบอกว่า ประโยชน์ของการกินเจมีอยู่เพียบ นั่นเป็นเพราะเมื่องดเนื้อสัตว์แล้วหันมาบริโภคพืชผักแทนจะทำให้ร่างกายสามารถขับถ่ายของเสียออกได้หมด จะทำให้ระบบการย่อยอาหารเป็นไปปกติ อวัยวะภายในอย่างหัวใจ, ไต, ม้าม, ตับ, ปอด, ลำไส้เล็ก, ลำไส้ใหญ่, กระเพาะปัสสาวะ, กระเพาะอาหาร, ถุงน้ำดี ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เลือดจะถูกฟอกให้สะอาด เซลล์ในร่างกายก็จะเสื่อมช้าลง ผิวพรรณสดชื่นผ่องใส ทำให้ร่างกายต้านทานต่อสารพิษและรังสีต่างๆ ได้มากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นกินเจยังสามารถป้องกันโรคอันไม่พึงประสงค์อย่างโรคมะเร็ง, โรคหัวใจ, ความดันโลหิตสูง, เส้นเลือดตีบ, ไขมันอุดตันในเส้นโลหิต, โรคไต, ไขข้ออักเสบ, โรคเกาต์, โรคเบาหวาน รวมถึงโรคที่เกี่ยวกับระบบการย่อย การขับถ่าย และโรคทางเดินอาหารด้วย แม้จะมีข้อดีเลิศประการใด แต่การกินเจก็อาจส่งผลข้างเคียงต่อผู้ที่สภาวะร่างกายไม่แข็งแรงสมบูรณ์ เด็กเล็ก หรือสตรีที่กำลังตั้งครรภ์ เพราะอาจจะได้รับสารอาหารไม่พอเพียง ดังนั้นการกินเจได้อย่างมีคุณค่านั้น มีข้อแนะนำดังนี้ - ผู้ที่ไม่รับประทานเนื้อสัตว์ทุกชนิด ไข่ ผลิตภัณฑ์จากนม เนย หัวหอม กระเทียม กุยช่าย หลักเกียว และใบยาสูบ คนกลุ่มนี้ต้องเติมอาหารที่มีกรดอะมิโนทดแทน ประเภทถั่วเหลือง ถั่วเขียว ถั่วแดง ถั่วดำ เป็นการเสริมสารอาหารจำพวกโปรตีน ธาตุเหล็ก - ผู้ที่ไม่รับประทานเนื้อสัตว์ ไข่ หัวหอม กระเทียม หัวไชเท้า กุยช่าย พริกแดงแต่ดื่มนมแทน กลุ่มนี้นอกจากอาหารประเภทถั่วเมล็ดแห้งแล้ว ควรเสริมกลุ่มเกลือแร่และกินผักผลไม้ช่วยด้วยจะเป็นการดี - ผู้ที่ไม่รับประทานเนื้อสัตว์แต่กินไข่และนมเนยทุกชนิด ร่างกายของคนกลุ่มนี้จะยังได้รับสารอาหารโดยเฉพาะโปรตีนและแคลเซียมอย่างพอเพียง รูปแบบของการกินประเภทนี้เด็กที่ต้องการกินเจก็สามารถร่วมกิจกรรมได้ - อย่าเลือกรับประทานแต่ผักเพราะจะทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารไม่ครบ จึงควรทานธัญพืช เช่น เมล็ดงา ลูกเดือย ลูกบัว หรือพืชตระกูลถั่ว หรือถั่วแปรรูปอย่างเต้าหู้ และพืชจำพวกที่เป็นหัวในดิน เช่น เผือก มัน กลอย ร่วมไปด้วย เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่จำเป็น - คนกินเจควรบันยะบันยังในเรื่องของการบริโภคแป้งในรูปแบบต่างๆ รวมไปถึงอาหารที่ผัด ทอดที่ใช้น้ำมันมาก กลายเป็นอาหารไขมันสูง เป็นที่มาของโรคอ้วนในที่สุด ทางที่ดีจึงควรเลือกอาหารที่ผ่านการปรุงด้วยการต้ม นึ่ง ย่าง ยำ อบ - ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสเค็มจัด จากการใช้ซีอี๊วขาว เต้าเจี้ยว หรือเกลือแทนน้ำปลา เพราะอาจเป็นอันตรายต่อไตและความดันโลหิตสูงได้ - ไม่ควรรับประทานอาหารรสจัด เพราะจะส่งผลไปถึงอวัยวะต่างๆ ขมจัดส่งผลต่อหัวใจ เค็มจัดส่งผลต่อไต หวานจัดส่งผลต่อม้าม เปรี้ยวจัดส่งผลต่อตับ เผ็ดจัดส่งผลต่อปอด - ควรรับประทานอาหารสดที่ปรุงใหม่ หรือผักสดผลไม้ มากกว่าของหมักดองหรืออาหารกระป๋องสำเร็จรูป - ควรล้างทำความสะอาดพืช ผัก ผลไม้ที่นำมาปรุงอาหารเพื่อลดสารพิษที่อาจปนเปื้อน อย่างไรก็ตามอย่าลืมที่จะออกกำลังกายร่วมด้วยจะเป็นส่วนช่วยเสริมทำให้สุขภาพแข็งแรงได้ดียิ่งขึ้น 9 วันแห่งเทศกาลบุญปีนี้จะได้เป็นจุดเริ่มต้นของความสมบูรณ์ทั้งกายและใจแบบสุดๆ ไปเลย... ที่มา ประชาชาติธุรกิจ http://www.matichon.co.th/prachachat/prachachat_detail.php?s_tag=02spo01151050&day=2007-10-15§ionid=0219 |