ThaiSEOBoard.com

เมื่อวาน 19 มค 53 น้องเกิดอาการไข้สูงมาก เลยพาไปตรวจที่โรงพยาบาล แล้วพอไปตรวจกับหมอ หมอถามเป็นอย่างไรบ้าง
เขาก็ บอกว่า ปวดหัว มีน้ำมูก แล้วก็ที่สำคัญคือ ปวดขา !

พอหมอรู้ว่าปวดกล้ามเนื้อปุ๊ปก็สั่งไปตรวจหาเชื้อ โดยการ เอาไม้ลักษณะเหมือนก้านสำลีแคะหูแต่ยาวกว่า แทงเข้าไปในจมูกลึกมากเหมือนกันอ่ะ
เพราะแทงปุ๊ปน้องน้ำตาไหลเลย เพื่อหาเนื้อเยื่อไปตรวจ

รอประมาณ 1 ชม.ได้ผลออกมาน้องชายเป็น Full A Positive ผลก็คือ เป็นโรคไข้หวัดใหญ่หรือ ไข้หวัด 2009 แต่ว่าส่วนใหญ่เป็นไข้หวัด 2009

เอาเป็นว่าเราก็ยืนงงไปเลย...แบบเป็นห่วงน้องมาก

หมอบอกว่าคอร์สการรักษาจริงๆอยู่ที่ 5 วัน แต่ถ้าหากน้องไข้ลดแล้วก็ให้กลับบ้านได้เลย

คงต้องใช้เวลาประมาณ 2-3 วัน

ซึ่งที่ไปรักษาเป็นรพ.เอกชน ค่าห้องนอนเดี่ยวคืนละ 3000 บาท คิดดูละกัน งานนี้ต้องเตรียมไว้ประมาณ 30,000 บาทได้อ่ะ

แล้วหมอมาตรวจเมื่อเช้า 20 มค 53

ผลว่าปอดอักเสบ ปอดไม่ค่อยดีเท่าไหร่  :wanwan009: ตรงนี้แหละค่ะที่ทำให้เครียด

ทำอย่างไรดีค่ะ

มันอันตรายขนาดไหน

ปล.สอบถามน้องได้ความว่า มีเพื่อนคนหนึ่งเป็นไข้หวัด 2009 แล้วเด็กคนนั้น(แจ้งกับทางโรงเรียนมาได้ทำการรักษาหายเรียบร้อยและใส่หน้ากาก)มาสอบช่วย 1 อาทิตย์ก่อนที่น้องจะเป็น

คือน้องน่าจะติดมาจากที่โรงเรียนนะค่ะ

เลยอยากจะมาเตือนๆพี่ๆน้องๆในนี้ด้วยค่ะ

ไข้หวัดใหญ่ 2009 มันกลับมาแล้ว และรุนแรงกว่าไข้หวัดตัวเดิม

เป้นกำลังใจให้หายไวไวนะครับ

เป็นกำลังใจให้ด้วยคนครับ ขอให้น้องหายไวๆ ในโรงเรียนนี่เสี่ยงเหมือนกันนะผมว่า เพราะเด็กอยู่ในกลุ่มเสี่ยงอยู่แล้ว แถมเด็กยังใกล้ชิดกับเพื่อนๆมากด้วย

ใช่แล้วค่ะ สงสารน้องมากๆเลยค่ะ...

หมดแรงทำงานเลย เฮ้อ

ยังไงขอให้ หายเร็วๆน่ะครับ

โอกาส ยังมีเสมอ  :'(

แล้วมันอันตรายมากแค่ไหนอย่างไงค่ะ

เท่าที่ลองหาข้อมูลดู ตอนนี้มันเป็นไข้หวัดใหญ่+ปอดอักเสบใช่ไหมค่ะ
 :wanwan015:

เป็นกำลังใจให้ครับ ขอให้น้องชายหายไวไวนะครับ

เห็นข่าวว่ามีวัคซีนเพิ่งออกมา ไม่รู้ใช้การได้มั๊ย  :wanwan008:

มันจะฉีดก่อนเป็นนะค่ะ ที่ว่าจะฉีดให้กลุ่มเสี่ยงก่อน

ตอนนี้เป็นห่วงน้องมากๆๆๆๆๆๆ เลยค่ะ

เป็นกำลังใจให้ค่ะ หายไวๆนะคะ

ขอบคุณทุกกำลังใจ ไม่รู้จะตอบแทน อย่างไง +1 ทุกท่านแล้วกันจ้า

เป็นกำลังใจให้ครับ หายไวๆ ครับ

เอาใจช่วยนะคะ สู้ๆ น้องต้องหายแน่นอนค่ะ  :wanwan013:

เด็กมักจะมีอาการปอดอักเสบเพราะปอดยังไม่แข็งแรงเท่าผู้ใหญ่
ต้องใกล้หมอ ให้หมอคอยฟังปอดให้บ่อยๆ พ่นยา(ครอบจมูก) ทานยาตามเวลาอย่างเคร่งครัด ที่สำคัญคนใกล้ชิดต้องปิดจมูกตลอด รวมทั้งน้องด้วย (ระยะห่างทั่วไปไม่ควรเกิน 1 เมตร ยกเว้นห้องแอร์ที่อับชื้น) การตรวจพบว่าเป็น  Flu Typ A อาจไม่ใช่ 2009 และใช่ก็ได้ เพราะมันเป็นสายพันธุ์ไข้หวัดใหญ่เดียวกัน แต่ 2009 รุนแรงกว่า (อยากรู้ว่าเป็นจริงหรือไม่ต้องเอาเชื้อไปตรวจที่ศูนย์ เสียอีกหลาบพันบาท) การรักษาเหมือนกันทุกอย่างแนะนำว่าอย่าไปรู้เลยเอาไปเสียค่ายาดีกว่า เพราะสิ่งที่หมอไม่อยากทำคือให้ยาฆ่าเชื้อไวรัส (สายพันธุ์ใหนก็ตายหมด) หากดื้อยาจะแก้ยากขึ้น

ไม่ต้องตกใจครับขอยามากิน โรคแทรกซ้อนเท่านั้นที่อันตราย ของน้องคุณน่าจะดูปอดให้บ่อย จิบน้ำอุ่นอย่างเคร่งครัด ไข้ขึ้นสูงลดยาก ต้องช่วยเช็ดตัวตลอด กลางคืนก็ต้องคอยจับตัวดูเพราะไข้ขึ้นมากๆจะสั่นถึงกับช๊อกได้ เช็ดด้วยน้ำปกติอุณหภูมิห้องไม่เย็นไม่ร้อน เช็ดตัวลูบไปมาเบาๆ (อย่าลืมครอบจมูกตลอด เป็นไปได้ซื้อแบบผ้าหนาๆคล้ายของหมอจะดีกว่าแบบบางๆไม่ป้องกันได้)

อ้อ...ระยะการแพร่เชื้อสู่คนอื่นได้มากที่สุดคือ 3วันก่อนมีไข้ กับ 3 วันหลังไข้ลด

ให้ระวังเป็นพิเศษครับ(ใส่หน้ากาก) เพราะติดง่ายมากสำหรับคนที่ไม่เคยเป็น แค่เดินผ่านก็เป็นได้ 3 วันถึงแสดงอาการ คนสูงอายุอย่าเพิ่งเข้าใกล้ครับ เด็กจะเชื้อแรง อาการรุนแรงกว่าผู้ใหญ่เพราะมีภูมิฯน้อยกว่าโดยปกติ

ขอบคุณมากๆค่ะ อย่างนี้ เราเองก็ต้องระวังเหมือนกันค่ะ เพราะใกล้ชิดกับน้องตลอดเลย  :o

งานจะเข้าไหมค่ะเนี่ย

เมื่อกี้เพิ่งโทรไปถามเรื่องวัคซีน จากโรงบาลในเชียงราย

โรงบาลเอกชน บอกว่ายังไม่มีวัคซีนให้ ต้องรอช่วงธันวา O_0" เราก็อ้าว ปีที่แล้วเคยโทรถามก็บอกว่าธันวา นี่ต้องรออีกปีนึงเลยเหรอ เขาก็แห่ะๆ แล้วก็ให้คำตอบว่าวัคซีนยังไม่มา รัฐบาลยังไม่ไม่อนุมัติให้เอกชนใช้ ให้ลองติดต่อไปที่โรงบาลของรัฐ

โทรไปโรงบาลของรัฐ เขาก็จำกัดให้แค่กลุ่มเสี่ยง คือหญิงตั้งครรภ์ ผู้พิการที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ คนเป็นโรคความดัน-เบาหวาน คนเป็นโรคหอบหืด คนที่เป็นโรคอ้วน นอกนั้นก็ไม่สามารถให้วัคซีนได้ ให้ลองติดต่อไปที่โรงบาลเอกชน O_0"

 :-X

แล้วตกลงมันมีไหมค่ะ ป้องกันได้ใช่ไหมค่ะ

มีค่ะ แต่ประชาชนทั่วไปยังไม่สามารถรับวัคซีนได้ นอกจากกลุ่มเสี่ยงที่กล่าวไว้ข้างต้น
วัคซีนนี้ฉีดฟรีน่ะค่ะ (อยากจ่ายเงินเขาก็ไม่ให้)

กำลังระวังตัวเองอยู่ว่างงานจะเข้าไหม เพราะใกล้ชิดกับน้องตลอดเลย

ไข้หวัดใหญ่ 2009 โดยส่วนใหญ่ มีโอกาสหายเองสูง ถ้าพักผ่อนและดูแลสุขภาพอย่างดี ในรายที่มีอาการเพียงเล็กน้อยจะสามารถหายเองได้ภายใน 3-7 วัน ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละคน บางคนแข็งแรงร่างกายก็สามารถปรับสภาพให้กลับมาแข็งแรงได้โดยเร็ว บางคนสภาพร่างกายอ่อนแออยู่แล้ว ซ้ำยังมีโรคประจำตัวอีก ก็อาจจะหายได้ช้าและยิ่งต้องดูแลมากกว่าผู้ป่วยรายอื่นๆ เมื่อเป็นไข้หวัดใหญ่ 2009 แล้วครั้งหนึ่ง ร่างกายจะสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมาโดยอัตโนมัติ ดังนั้นหากโชคร้ายเป็นโรคนี้แล้ว ก็จะไม่โชคร้ายกลับมาเป็นซ้ำอีก

ในกรณีของน้องเป็นไข้หวัดใหญ่ 2009 และมีปอดอักเสบด้วย คงต้องนอนโรงพยาบาลอย่างน้อย 1 อาทิตย์ขึ้นไปค่ะ คุณหมอจะให้ยาต้านไวรัส และยาปฏิชีวนะควบคู่กัน แล้วก็รักษาตามอาการ ถ้ารักษาไปซักระยะไข้ยังไม่ลง คุณหมอก็จะเปลี่ยนยาปฏิชีวนะตัวใหม่ จนกว่าจะไม่มีไข้ ช่วงนี้อาจต้องเจาะเลือดและเอ็กเซย์ดูปอดบ่อยหน่อยค่ะ ค่ารักษาโรงพยาบาลเอกชนคงแพงน่าดู ถ้ามีอะไรสงสัยเกี่ยวกับอาการของน้องก็ถามคุณหมอหรือพยาบาลเลยค่ะ และอย่าลืมป้องกัน สวมหน้ากากอนามัยและล้างมือทุกครั้งก่อนเข้าเยี่ยมน้อง และแนะนำอย่าให้เด็กและผู้สูงอายุมาเยี่ยมในช่วงนี้ เพราะจะติดเชื้อได้ง่าย และคนทีึ่กำลังป่วย เป็นหวัด ไอ จามงดเยี่ยมค่ะ เพราะมีโอกาสที่เชื้อไวรัสจะกลายพันธุ์ และน้องอาจติดเชื้อเพิ่ม ในส่วนนี้พยาบาลที่ดูแลน้องคงแนะนำบ้างแล้ว

เอาใจช่วยค่ะ ขอให้น้องหายเร็วๆนะคะ

ของคุณได้รับเชื้อแน่นอน แต่จะเป็นหรือไม่อยู่ที่สุขภาพความแข็งแรงของคุณเอง อย่าอดหลับอดนอนช่วงนี้ ดูแลสุขภาพให้ดี อย่าออกกำลังกายหนัก พักผ่อนมากๆ ดื่มน้ำเยอะๆ สร้างภูมิได้แล้ว ถ้าอ่อนแอลงมากๆงานเข้าแน่นอน- 3 วันรู้ผลครับ
น้องชายกินยาฆ่าเชื้อให้หมดตามเวลานะครับ (5 วัน) หากดื้อยาแล้วจะอันตราย

ค่ะขอบคุณค่ะ

 ผลเอ็กซเรย์ปอดออกแล้วค่ะ ผลออกมาว่า ปอดไม่อักเสบค่ะ

เด็กใหม่ขอเป็นกำลังให้ครับ ความรู้ไม่มี ไม่รู้จะโพสอะไร-.-

เดี๋ยวก็หายครับ จะสวดมนต์เผื่อ  :wanwan003:

ขอบคุณค่ะ

เอาใจช่วยขอให้หายไว ๆ นะครับ

 :wanwan010: :wanwan010:



สู้ๆครับ

ขอให้หายไวๆนะครับ
โรงเรียนไหนเอ่ย

เป็นกำลังให้น้องหายไว ๆ นะครับ
ถ้าคุณหมอวินิจฉัยว่าเป็น 2009 แล้ว เค้าคงจัดการกับเชื้อโรคได้ถูกจุด เพราะ เท่าที่อ่าน ๆ ดู นะครับ ก็โอเค

ไม่เหมือน บางรายที่หมอวินิจฉัยเพียงแค่ไข้หวัดธรรมดา แล้วปล่อยกลับบ้าน

ขอให้โชคดีครับ

ขอบคุณทุกท่านมากค่ะ ตอนนี้ก็เป็นห่วงน้องมากๆค่ะ

ล่าสุดเห็นว่ามีอาการปวดท้องเข้ามาด้วยค่ะ

หลังไมค์แล้วกันนะค่ะ

หลานก่อนจะเอาไปเ้ข้าเนริส์เซอรี่ก็พาไปฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ เพราะรู้ว่าไปอยู่กับเด็กเยอะๆ ต้องติดหวัดกัน ที่ไหนได้ตั้งแต่ไปเดือนตุลาเป็นหวัดตลอดจนถึงทุกวันนี้ ไปหาหมอเป็นสิบหนต้องไปรมยา ขี้มูกไหลไม่หยุดแรกๆ หยุดสิบวันไปสองวัน พอหายแล้วก็ไปโรงเรียนก็ติดกลับมาใหม่ เพื่อนในห้องขี้มูกไหลกัน 

ไปหาหมอถามว่าฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่แล้วทำไมถึงเป็นหวัด หมอบอกว่ามันมีเชื้อหลายตัว  :'( สรุปว่าฉีดไม่ฉีดก็เป็นอยู่ดี

ขอให้หายเร็วๆนะคะ

ถึงมือหมอแล้ว ไม่ต้องกังวลมากนะคะ

เดี๋ยวจะป่วยไปอีกคนค่ะ

ตามนี้เลยครับ ตอนลูกผมเป็นก็ตรวจ Flu Typ A แต่หมอบอกไม่รู้พันธ์ไหน ไม่ต้องตรวจหรอก เพราะว่าการรักษาเหมือนกัน ยาตัวเดียวกันให้ Tamiflu มากินแล้วหมอก็นัดไปฟังปอด ก็ไม่มีอะไรหายเป็นปกติ (ปล.ปกติน้องฉีดวัคซีนไข้หัวดใหญ่ทุกปี) ก็เลยเดาๆ เอาเองว่าสงสัยจะเป็นไอ้ 2009 นี่หละเพราะฉีดวัคซีนไข้หัวดใหญ่ทั่วไปทุกปีอยู่แล้วไม่น่าจะเป็น




อันนี้ต้องทำใจเลยครับ... เด็กภูมิคุ้มกันแกน้อยหน่อย พอไปอยู่รวมกันเยอะๆ เลยติดกันไป ติดกันมา ไม่หายกันซักที แต่พออนุบาลจะดีขึ้นเยอะครับ ลูกผมสามคนเป็นๆ หายๆ เลยตอนเ้ข้าเนริส์เซอรี่

เป็นภูมิแพ้หรือเปล่าคะ ต้องดูว่าสภาพแวดล้อมของเนอสรี่เป็นไง

ก่อนอื่นขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ  :wanwan003:

ขอแชร์ประสบการณ์ค่ะ เกี่ยว 2009 ในลูกสาว (แต่ลูกสาวบอกว่าเขาเป็น ไข้ 3500)เขียนบันทึกไว้ ลองอ่านดูค่ะ

ลูกสาวอายุ ห้าขวบค่ะ ตอนที่น้องเป็น คือ ช่วงสิงหาคม ปีที่แล้ว (กำลังระบาดหนักเลย)

ตอนที่ลูกเป็นไข้ ดิฉันอยู่ต่างประเทศ รู้สึกผิดและรู้สึกแย่มากมาก ถ้าลูกเป็นอะไรไปคงไม่ให้อภัยตัวเอง(ตอนนี้ก็ยังรู้สึกแย่ทุกครั้งที่คิด)

ก็คือ ว่า ปกติจะโทรหาลูกทุกวัน แล้ว วันนั้นวันศุกร์ โทรมาหา คุณแม่บอกว่า มุก ไม่สบาย สงสัยติดหวัดตา หวัดเฉย ๆ คงไม่เป็นไร( แต่ช่วงนั้นกำลังระบาดหนัก มุกก็จะ น้องอยากเป็น 2009 เขาจะชอบพูด)

วันที่ 2 โทรมา คุณแม่บอกว่า พาไปหาหมอ โอชิช หมอบอกให้ไปโรงพยาบาล แต่หมอ ชัยสิทธิ์ เป็นหมอเวรที่โรงพยาบาลบอกว่า แค่ คออักเสป ให้ยามาทาน ตอนนี้น้องนอนแล้ว ( ขอบอกชื่อหมอน่ะค่ะ เพราะว่าโกรธมาก มาก และขอ ชม หมอ โอชิช ว่า เก่ง มากมากค่ะ )

วันที่ 3 โทรหาอีก คุณแม่บอกว่า น้อง แอดมิทเมื่อคืน เพราะ น้องเหนื่อยมาก และ อาเจียน ตลอดเวลา ป้าต้อมเอามาส่งตอนเที่ยงคืน (โชคดีที่ดิฉันมี พี่สาวเป็น แพทย์ และพยาบาล ในโรงพยาบาล นั่น รพ.ชัยภูมิ)พี่สาวและ พ่อกับแม่ของดิฉันนอนเฝ้าน้อง ป้าต้อมนอนเตียง้ดียวกับน้อง ดิฉันคุยกับลูก ลูกบอกว่า “แม่น้องอยู่โรงพยาบาล ป้าต้อมพามา เหนื่อยมาก แค่นี้น่ะ” แต่น้ำเสียงลูกเหนื่อยจริงๆ พี่สาวบอกว่า ต้องเจาะเลือด และ ตรวจปอด กว่าจะรู้ผลก็อีกสักพัก

วันที่ 4 ดิฉันโทรอีก พี่สาวคนที่เป็นหมอบอกว่า น้องมุก ปอดอักเสบน่ะ ให้ ทามิฟู แล้ว กัน 2009 น่าจะโอเค
วันนั้นลูกนำเสียงดีขึ้น แต่บอกว่า “ แม่น้องมีน้ำเกลือด้วย ฉีดยาด้วย ป้าต้อมฉีดให้ ไม่เจ็บ”

วันที่ 5 ลูกบอกว่า “ อยากกลับบ้านแล้ว มีแต่คนมาหอมแก้ม เบื่อ ไม่มีเพื่อนเลยแม่”

วันที่ 6 น้องกลับบ้าน แต่ ต้องมาตรวจอีก ครั้ง ใน อีก 7 วัน พอกะว่าเขาถึงบ้านกันแล้วดิฉันโทรอีก

คุณแม่บอกว่า “ใจเย็น ๆ น่ะ อย่าตกใจ ไอ้มุกเป็น 2009 ตอนนั้น วินาทีนั้น ตกใจ ทำอะไรไม่ถูก กังวลและกลัวไปหมด เพราะไม่รู้ว่า จริง ๆ แล้ว มันไม่อันตรายมากมาย ถ้า หาหมอทัน
แต่ตอนนั้นตกใจมากโทรหาพี่สาวที่เป็นพยาบาล มันบอกว่า โทรหาหมอดีกว่า แก่ฟังแม่ แม่ไม่ใช้หมอ น่ะ เออ ก็ถูก ของมัน เลย โทรหาป้าต่าย
ป้าต่ายบอกว่า” ใช่เจ้ามุก เป็น 2009 เพราะ มุก มี ปอดอักเสบ และ มี ไข้สูง เหนื่อย และหอบ (โดยปกติ น้องมุกจะมีโรคหอบเป้นโรคประจำตัวค่ะ) แต่ตอนนี้อยู่ในระยะเฝ้าระวัง ส่วนคนที่อยู่รอบๆ ตัวต้องระวังถ้ามีใครเป็นหวัด ต้องให้ ทามิฟู
แต่ดีแล้วที่เจ้ามุกเป็นก่อนเพือ่นคนอื่นจะได้รู้ทางหนีทีไล่”

ถึงชั่วโมงนี้ ทุกคนในบ้าน หนาวววววววววววววววว กันทุกคนเพราะ ทุกคนไปเยี่ยมมุก เล่นกันมุก และที่สำคัญป้าต้อมนอนกับมุก ในช่วงที่ มุก กำลังแพร่เชื้อ 2-5 วัน เพราะฉะนั้นป้าต้อม อยู่ในข่ายที่จะเป็นคนต่อไป

ส่วนพ่อของดิฉันพอรู้ว่าน้องมุก เป็น 2009 ท่านเงียบมาก เพราะพี่สาวบอกว่า ดีที่มาทัน เพราะมันกินปอดแล้ว ถ้าช้าอาจไม่ทันการ แต่พอดิฉันถามลูกสาว แกก็จะบอกว่า “น้องเป็นไข้หวัด 3500 แม่” ทำไม 3500” “อ้าวก็ค่าห้อง 3500” ก็พอดีอยู่ต่างจังหวัด ไม่มีตังค์ไปโรงพยาบาลเอกชน เลยเข้ารัฐ

และสรุปว่า การที่น้องมุก เป็น 2009 ในตอนนั้นเป็นที่ กล่าวขวัญไปทั้งตัวจังหวัด ว่า หลานหมอต่ายเป็น 2009 พี่สาวบอกว่า น่าจะติดมาจากโรงเรียน เพราะมีครูมานอนแอดมิทเหมือนกัน ส่วนน้องมุกบอกว่า มีเพื่อนเป็นหวัดเต็มไปหมด แต่ทำไมมมมม มาเป็นที่ลูกฉันน่ะ

หลังจากนั้นก็ มี หลาวสาว อีก 2 คนที่เป็นต่อจากมุก แต่เขาได้ ทามิฟู เลย หายดีแล้ว ส่วนเจ้าหลานชาย สอง คน ไม่เป็น เพราะแม่เขาบอกว่า ทุกวันที่คลินิกจะมีคนไข้มาหา เด็ก ๆ คงได้ภูมิคุ้มกันหมดแล้ว เลยไม่เป็น

ส่วนคุณหมออีกท่านบอกว่า การที่เด็กเป็นแล้วจะไม่กลับมาเป็นอีก ส่วนผู้ใหญ่อย่างเรา มีโอกาสกลับมาเป็นอีกค่ะ

ขอเป็นกำลังใจให้คุณ Jealous ค่ะ ถึงมือหมอแล้วไม่ต้องหว่งค่ะ เพราะตอนนี้น้องมุก เป็นลิงเหมือนเดิมแล้วค่ะ

ทานน้ำเยอะๆ ออกกำลังกายบ่อยๆ ครับ ทำให้ร่างกายแข็งแรงเข้าไว้ มีโอกาสเสี่ยงที่จะติดครับหากคุณคลุกคลีกับผู้ป่วย ระวังอย่าให้เชื้อลามเท่านั้นเอง หากร่างกายแข็งแรง เชื้อก็เข้าไม่ไ้ด้ครับ ปกติหวัดมันก็มีอยู่ทั่วไปครับ อยู่กับคนทุกคน อยู่ที่ว่า คนๆ นั้นจะอ่อนแอให้ไวรัสทำงานได้เท่านั้นเอง

ขอให้หายไวๆ นะครับ เป็นกำลังใจให้

โรคในเด็กเนี่ยทำให้หมอเด็กรวยกันระนาว...

เพราะติดง่าย สามขวบเนี่ยหมดภูมิคุ้มกันจากแม่ที่ฝากไว้ให้
ป้องกันตัวเองเลยครับ แต่ละคนอาการคล้ายกัน โรคตัวเดียวกันก็จริง
แต่สภาวะร่างกายต่างกัน อาการจึงหนักเบาต่างกันบ้าง
รักษาตามอาการคือหมอจะถามหมด ไข้มั้ย มูกมั้ย ไอมั้ย ยามาตามนั้นเลย
ระวัง...นอนให้พอ เด็กวัยนี้ต้องนอนสิบชั่วโมงขึ้นไป เข้านอนสี่ทุ่มไปโรงเรียนเช้า
เจอของแถมจากโรงเรียนกลับมาแน่นอน...

เป็นกำลังใจให้ละกันครับ

ยังไงผู้ดูแลก็จะหมั่นล้างมือบ่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากน้องมีอาการไอ จาม ซึ่งเชื้ออาจจะแพร่กระจายมาถึงคุณ ใส่หน้ากากด้วย แล้วก็นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอและออกกำลังกายสม่ำเสมอ ทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะผักและผลไม้ ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ เดี๋ยวติดไปอีกคนจะยุ่งอีก

ว่าแต่โรงเรียนแถวไหนครับ หากใกล้กับแถวที่อยู่จะได้ระวังตัวมากยิ่งขึ้น

ผมเรียนสาธารณสุข

อาจารย์บอกว่า ตอนนี้ หวัด 2009 ระบาดอีกแล้ว แต่ "ไม่รายงาน" หมายถึงไม่ออกข่าว เพราะกลัวประชาชนแตกตื่น  :P

ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าออกรึไม่ออกดีกว่า

ไข้หวัดใหญ่ 2009 น่าจะหมดไปแล้วนะครับ คงมีเหลือแค่ ไข้หวัดใหญ่ 2010 แล้วครับ รุนแรงกว่าเิดิม   :wanwan031:

เป็นกำลังใจให้ครับ ขอน้องหายเร็วๆ  :wanwan008: :wanwan008: :wanwan008:

ผมขึ้นรถไฟฟ้าบีทีเอสประจำ และเห็นว่าไม่มีแอลกอฮอล์ล้างมือไว้บริการได้ระยะหนึ่งแล้ว ( ธันวา-มกรา )
แล้วบังเอิญผมก็มาติดหวัดเอาช่วง ธันวา-มกรานี้ อยากจะถามเขาเหมือนกันว่ายกเลิกไปทำไม ทั้ง ๆที่เป็นช่วงไฮซีซั่นคนเดินทางมหาศาล อากาศเดี๋ยวร้อนเดี๋ยวเย็น นั่งรถไฟฟ้าแล้วคนข้าง ๆ ก็ไอกันมากกว่าช่วงก่อนหน้านี้ ไม่ได้โทษว่าติดจากเขานะ แต่มีไว้อาจจะช่วยคนได้บ้าง บางคนเดินจามออกมาเอามือปิดปากก็ควรจะไปล้างด้วยแอลกอฮอล์ซะหน่อย จะได้ไม่ไปติดตามราวบันได

ขอให้น้องชายหายไวไวนะครับ  :wanwan001:

ประมาณเดือน - 2 เดือนที่แล้ว หลานอายุ 4 ขวบ ก็เป็น 2009 เหมือนกันค่ะ ก็เข้าโรงพยาบาลให้ยา ตอนนี้หายแล้วค่ะ
น้องเค้าเรียนอยู่โรงเรียนนึง ที่ค่าเรียนค่อนข้างแพง ติดแอร์เย็นฉ่ำตลอด.. แต่เค้าไม่สบายบ่อยมาก.. ไม่เหมือนหลานอีกคนที่เรียนแบบบูรณการ ไม่มีแอร์ อากาศถ่ายเทธรรมชาติ ไม่เคยไม่สบายแบบหนัก ๆ เลย อย่างมากก็เป็นหวัดน้ำมูกนิด ๆ หน่อย ๆ
เลยอยากเตือนพ่อแม่ด้วยค่ะว่าให้ลองดูโรงเรียนด้วยค่ะ เพราะจริง ๆ นะ ..แอร์เย็นมาก ๆ ครูเค้าก็ไม่ปรับแอร์ ทั้ง ๆ ที่ตัวเองใส่เสื้อหนาว เด็กก็เลยไม่สบาย เชื้อโรคก็วนเวียนอยู่อย่างนั้น... เฮ้อ.. แอบบ่น..  :wanwan044:

น่ากลัวมาก

ใช่ โรงเรียนผมเวลาเข้าห้องคม หรือ เรียนดนตรี เรียนคอมก็เย็นเหมือนกัน เปิดแอร์ทั้งวัน

ขอให้หายไวๆ นะคับ  ส่วนตัวผมถ้าเปนหวัดไม่ว่าจะหวัดอะไรผมจะกินทิฟฟี่สัก 2 เม็ด อ่ะคับ แ้ล้วก็นอนมานจะช่วยยับยั้งโรคครับแล้วพอตื่นมาแล้วหากเปน ตอนเยน  หรือ เช้า  ให้ไปออกกำลังกาย ให้เหงื่อออกมากๆครับ แล้วจะไม่เปนหวัดไปอีกสักพักใหญ่ๆเลยคับ ( อันนี้วิธีที่ผมใช้กับตัวผมนะคับ ) แต่ถ้าหากช่วงนี้มีอาการเป็นหวักแนะนำให้กินยาเสริมภูมิครับ ชื่อ อะไรไม่รู้อ่ะคับมีตัว c นำน่า อันนี้ผมกินบ่อยครับเพราะเปนภูมิแพ้  :wanwan002:

ล่าสุดมีอาการเป็นไข้ ไปหาคุณหมอ คุณหมอส่งจ่ายยา รักษาไว้หวัดใหญ่มาค่ะ

ขอให้หายเร็ว ๆ นะครับ สู้ ๆ  :(

ตอนนี้เราก็เหมือนจะเป็นไข้อยู่ กินยารักษาไข้หวัดใหญ่ไปแล้วหายเจ็บคอเลย

สงสัยจะงานเข้านะค่ะ

ไม่ต้องกังวลมากนะครับ เพราะว่าหวัด2009ไม่ร้ายแรงมากอย่างที่เป็นข่าวหรอกครับ เนื่องจากผมเองเคยทำแลบหวัดนี้อยุ่ มันก็ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์หนึ่งครับ พักผ่อนให้เพียงพอ รักษาร่างกายให้อบอุ่น ทานน้ำมากๆ เดี้ยวก็หายครับ ขอให้หายไวๆนะครับ

ขอถามเป็นความรู้เพิ่มเติมครับ เพราะช่วงที่ระบาดจนเงียบและก็กำลังจะกลับมาระบาดแต่ยังไม่ได้ข้อมูลที่ชัดเจน
1. ไข้หวัดใหญ่ 2009 ผู้ป่วยบางคนเสียชีวิต บางคนเป็นไม่กี่วันหาย เนื่องจากปัจจัยอะไรบ้างครับ
2. ถ้าติดเชื้อแล้วจะมีภูมิคุ้มกันทำให้ไม่กลับมาเป็นอีก หรือยังสามารถติดเชื้อใหม่ได้อีกครับ
3. อาการที่บ่งบอกว่าเป็นเจ้า 2009 แน่ๆ คืออะไรครับ (ตอนนี้ถ้าคนในบ้านเป็นหวัดก็ไปหาหมอตลอด รพ. เอกชนก็แพงแสนแพง ครั้งละพันกว่า สลับกัน แฟน ลูก ตัวเอง เสียไปหลาย  :'( )

ครั้งล่าสุดที่ฟังเจ้าหน้าที่บ้านเมือง บอกว่าจะมีการระบาดเป็นระลอกๆ คนไทยจะติดเชื้อโดยรวมเป็นล้าน และต้องทำใจอยู่กับมันให้ได้ ฟังแล้วเศร้า  :wanwan023:

ขอให้หายไวๆ  :wanwan013:

ขอให้หายไวๆนะคร้าบ  :)

เอาแล้วไง ..
ใส่หน้ากากอนามัย และล้างมือบ่อย ๆ ทานน้ำอุ่นมาก ๆ
คงไม่ผลัดกันเป็นทั้งบ้านนะครับ

ตอนนี้สาธารณสุข + รัฐฯ คงปิดข่าวอยู่เหมือนกัน เพราะถ้าแตกตื่นคงรับมือลำบาก(การระบาดรอบ 2 จะรุนแรงกว่ารอบแรกมาก คือจะระบาดเป็นวงกว้างกว่า และอาการรุนแรงกว่า) ไม่รู้ว่าวัคซีนเริ่มใช้กันหรือยัง  แค่ข่าวฉาวเรื่องทุจริตก็รับมือไม่ไหวแล้ว
คงต้องดูแลตนเองและครอบครัวให้มาก ๆ ครับ  :wanwan009:

เพิ่งเข้ามาขอโปรแกรมผู้หมวด อดตอบให้หน่อยไม่ได้

1. ไข้หวัดใหญ่ 2009 ผู้ป่วยบางคนเสียชีวิต บางคนเป็นไม่กี่วันหาย เนื่องจากปัจจัยอะไรบ้างครับ= สภาวะร่างกายครับ คนป่วยทางหลอดลม ปอด คนแก่ เด็ก เสียชีวิตเพราะโรคแทรกซ้อนทั้งนั้น
2. ถ้าติดเชื้อแล้วจะมีภูมิคุ้มกันทำให้ไม่กลับมาเป็นอีก หรือยังสามารถติดเชื้อใหม่ได้อีกครับ = มีภูมิครับกับเชื้อตัวเก่า นั่นคือตำตอบที่ว่าฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ธรรมดาแล้วยังเป็น2009 เชื้อตัวใหม่ที่มากลายพันธุ์ทุกปี
3. อาการที่บ่งบอกว่าเป็นเจ้า 2009 แน่ๆ คืออะไรครับ = ไม่ต่างจากไข้หวัดใหญ่ทั่วไปคือปวดตัวทั้งวัน เจ็บคอ เพลีย และมาลงที่ไข้สูง กินยาพาราแล้วยังไม่ลดเหมือนไข้ปกติทั่วไป ไม่อยากเปลืองก็อย่าไปเช็คมากเลยครับแค่ขอยามากินก็พอแล้ว หรือคนแข็งแรงๆก็หายเองได้ถ้าพักผ่อนเพียงพอและกินยาอื่นๆเช่น แก้เจ็บคอ ยาปฏิชีวนะที่หมอแนะนำ มันแคเชื้อหวัดสายพันธุ์หนึ่ง รักษาเหมือนๆกัน อย่าไปกลัวครับ

มันน่าระบาดอีกแล้วรอบแล้วมั้งค่ะ

เพราะว่า

โรงพยาบาลที่น้องรักษาตัวอยู่ เด็กนอนกันระนาวเลยค่ะ เป็น 2009 เหมือนกัน

มาจากโรงเรียนต่างๆกัน คิดว่าตอนนี้มันคงเป็นวงกว้างไปแล้วนะค่ะ

 :wanwan044: เซ็ง ทำไมไม่ปล่อยวัคซีนให้คนทั่วไปซะทีนะ คนธรรมดาป่วยไม่เป็นตายไม่เป็นรึไง

เป็นกำลังใจให้ครับ ปอดอักเสบผมว่าสมัยนี้ไม่น่ากังวลนะครับ ผมก็เคยเป็น แหะๆ

ตอนนี้น้องชายออกจากรพ.แล้วค่ะ ไข้ลดแล้วค่ะ  :wanwan003:  มีเวลาทำงานซะที ฮาๆ