ThaiSEOBoard.com

ทำ 25 แคมdool เอ้ย 25 แชมแปญ x 300 group x 1000 keyword
จะได้

25 campaings x 300 Ad Group x 1,000 keyword = 7,500,000 keywords (แนะนำ)

หรือ
25 campaings x 300 Ad Group x 200 keyword = 1,500,000 (น้อยสุด)

ใครมีเงินเยอะๆ ลองทำดูึคับ

keyword ก็ซื้อ keyword เหมาหมดเลยครับ


ปล. อาจจะเจ้ง ก่อน ไม่รู้ตัว (มั้ง)

เจ็งก่อนแน่คับ
สมมติว่า ไม่มี inactive เลย bid ที่ต่ำสุด 0.4 บาท มี keyword ละ 1 คลิก
=0.4*1,500,000=600,000 บาท  :shock:

asiram

แคมเปญ ครับ  แหม แชมเปญ พูดซะน่าฉลอง  :oops:

แชมเปญ เอ็กซ์ ซะด้วยสิ  :D

เคยทำ 1 adgroup 2000 keyword (google 1 adgroup สูงสุดได้2000 keyword)

ตอนแรกauditor มันจะ ไล่approve ทีละkeyword
แต่พอมีkeyword ที่reject เยอะขึ้น
auditor มันขึ้เกียจดูมั้งครับ มันdisapproved ทั้งadgroupเลย 555

 :lol:  :lol:  :lol:

โอ้ว  idea ดีมากๆ ครับ

ขอบคุณมากครัลสำหรัลข้อมูล

ถ้าใครทำเยอะๆๆ งั้นก็แนะนำ ให้เอา keyword กลุ่มเดียวกันทั้งหมดไปเลย

เช่น ดึงจาก adwords suggestion keyword นะแหละ เพราะกลุ่มป้อนเดียวกัน

ถ้าจะมีพิเศษไม่เกี่ยวกัน ก็แยกออกเป็น grup อีกอัน จะได้ไม่เดือดร้อน grup ในกลุ่ม key ธรรมดา

จริงๆ การใส่ kewyord เยอะๆ เพือ

อันใหน ราคา bid สูง ลบออกเลย เพราะ ห้าม bid แข่ง ไม่ดี (เจ้งเร็ว)

อันใหนราคาต่ำ คงไว้

อันใหน ไม่มี click เลย ลบออก

ทำไปเรื่อยๆ

เด๊่ยวเจอดี เอง

อย่าไปลองเลยนะครับ เจ๊งก่อนชัวร์ ฟันธง

ขนาดทำแบบตั้งใจหาแล้วเลือกจริงๆแล้วนี่ยังขนลุกขนพองอยู่เลยครับ คนคลิกมากก็ใช่ว่าจะซื้อ สู้คนคลิกน้อยแต่ซื้อบ้างน่าจะดีกว่า

อันนี้เห็นด้วยคับ
แต่ควรจะให้ความสำคัญกับ aff ที่ใช้โฆษณา เท่าๆกับ keyword
ไม่ใช่ keyword มีความสำคัญมากกว่า
คือต้องเจอ aff ที่ทำเงินได้แล้วก่อน ค่อยมาทำวิธีคุณเอก

asiram

ใช่ครับ

หา affiliate ดีๆ อันหนึ่ง ทำให้ไ้ด้

แล้วหา keyword ทองคำ

อาจะทดสอบ keyword อย่างละ 1 คลิก หรือ 10 คลิกแล้วหยุด เพื่อรู้ว่ามีคลคลิก พอรวมได้ ก็ค่อย ลบๆๆ เหลือที่ใช้านได้ เอา

หลักการ ไม่ได้หา key mี่คลิกเยอะ

แต่หา keyword คลิกแล้ว มันซื้อมาที่สุุดตะหาก

(ยกเว้นทำ adwords=> adesense หรือ MFA อันนี้ห้องหา key ที่มีคนคลิกเยอะสุด เพื่อวิ่งมาที่เว็บ adsense ให้คลิกอีดที)

แต่ถ้า adwords ทำ affiliate เขาวัดที่ conversation ไอ้ผลที่ได้ของ keyword ครับ

ลองอ่านดูดีๆ อันใหนคลิกเยอะ แต่ไม่ซื้อเลย ผมก็ลบมันทิ้ง เฟี้ยงไปเลย  ผมก็ไม่อยากได้เพราะทำให้เจ้งเร็ว

ตัวที่ bid แข่งแพง ราคาสูง ==> อย่าไป bid แข่ง ===> ลบทิ้ง

ทิ้งไว้ นานแล้ว ไม่มีคลิกเลย ===> ลบทิ้ง

มีคลิกเยอะ แต่ไม่มีซื้อเลย ====> ลบทิ้ง  ===> ไอเดีย รวม keyword พวกนี้ ไปทำ MFA ก็ได้ จะทำเพิ่ม ทำแยกออกไปเอง หรือ รวมไว้ เอาไปขายให้พวก MFA บางคนอาจจะรับซื้อก็ได้ หรือ ทำเว็บสมาชิกจ่ายเงินเลย อิอิ

มีคลิก แล้วซื้อทันที ===> เก็บไว้ ===> ห้ามบอกใครเด็ดขาด ความลับสูงสุด (ตูไม่บ๊อก)

วิธีการของคุณเอก ฟังดูคล้ายๆกับที่ผมไปดูจากเวปของคุณตราวุทธิ์ เรื่อง Impression Partitioning....โดยมุ่งไปที่โฆษณาที่ทำเงินได้แล้ว แต่ต้องการจะเพิ่มCTR วิธีนี้จะซอยkeywordออกไปจนเจอkeywordที่เฉพาะที่ทำเงินได้ตัวจริง.....การแบ่งimpressionจะเพิ่มCTRได้....ผมไม่ได้โฆษณาให้คุณตราวุทธิ์นะครับ ลองไปดูvideoของฟรีก่อนก็ได้ครับ ตามนี้ครับ
http://www.trawut.com/imp.htm

อะเหรอ ผมยังไม่เคยไปอ่านของคุณตราวุดเลยนะ อิอิ (กลัวอ่านแล้ว อดใจไม่อยู่ เสียเงินให้ adwords)

ผมคิดว่า มันจะต่างกันอยู่น่ะคับ
ของคุณเอก ถ้ามองให้ดีๆ จะเป็นจุดเริ่มต้นในการเจาะตลาด คือพยายามหา keyword ให้มากที่สุด ที่สามารถทำเงินได้

แต่ impression partitioning เป็นการต่อยอดจาก keyword ที่มีอยู่แล้ว เพื่อให้เราสามารถลดต้นทุนในการโฆษณา
โดยการแตก keyword ออกมาเป็น sub keyword ย่อย
ทำให้เราแยก sub keyword ที่ไม่ทำเงินออกไป
และทำให้เราสามารถครอง sub keyword ที่ทำเงิน ที่แยกออกมาได้ง่ายขึ้น
เพราะเมื่อเราแยก sub keyword ออกมา ทำให้เราสามารถบิดต่ำลงจากปกติได้ โดยไม่ทำให้อันดับเปลี่ยนไป
หรือถ้าเราบิดเท่าเดิม มันจะทำให้อันดับเราดีขึ้นกว่าเดิม

asiram

อันใหนก็ได้ครับ วิธ๊ใหนก็ได้ ดีทั้งนั้นแหลัะครับ

อิอิ

ขอบคุณตราวุธ สอนก็ดีนะ ผมเข้าไปดูแล้วใช้ได้เลย

ความจริงแล้วหลักการของคุณตราวุทธิ์ก็วางอยู่บนหลักง่ายๆของ"Impressionลดลงครึ่งหนึ่ง--ตัดImpressionที่ไม่เกิดclickออกไปได้---ขณะที่Clickเท่าเดิม  CTRจะเพิ่มขึ้นสองเท่า"...เป้าหมายคือCTRที่เพิ่มจะไปทำให้Bidลดลง...กลายเป็นต้นทุนถูกลงในขณะที่รายได้เท่าเดิม.

กรณีของคุณเอกนั้นคล้ายกับทำKeyword Research...คว้านหาKeywordที่ใช้ได้  ตามความคิดของผม Keywordที่เราใช้กันนั้นมันมีอยู่สองแบบคือ Keywordที่อาศัยข้อมูลเก่าที่ผ่านมาในรอบแต่ละเดือน  กับKeywordที่จะมีการใช้มากขึ้นในเดือนนี้หรือในอนาคต.....เขาว่ากันว่านักบริหารนั้นอย่างมากก็บริหารบนข้อมูลใหม่สุดคือปัจจุบัน แต่เราไม่สามารถบริหารสิ่งที่จะเกิดในอนาคตได้...ได้แต่คาดการณ์เท่านั้น

Keywordแบบแรกนั้น เราก็สามารถหาโดยใช้Keyword Toolต่างๆมากมาย....สิ่งที่เราจะรู้ก็เหมือนกับที่หลายๆคนรู้  เป็นข้อมูลในเดือนที่ผ่านมา โอกาสเกิดกับคนที่เห็นอะไรโผล่มากับแต่ละkeyword  จะลองทำอะไรกับkeyword...เสนอสินค้ากลุ่มที่แตกต่างจากคนอื่นขาย??....ผมว่าใครจะได้มากหรือน้อยก็อยู่ตรงที่ว่า ใครสามารถตีโจทย์ได้ว่า ลูกค้ากลุ่มนี้ต้องการอะไร

Keywordแบบที่สองนั้น เป็นการทดสอบหาKeywordใหม่ๆที่กำลังใช้กันเดี๋ยวนั้นจริงๆ ข้อมูลมันสดมากๆเก็บกันวันต่อวัน  ยังไม่มีToolตัวไหนเก็บได้แน่เลยครับ  เท่าที่ผมสังเกตุKeywordบางตัวมันก็มีลักษณะเป็นseasonเหมือนกัน.....แบบที่คุณเอกเสนอนั้นคงจะใกล้เคียงกับKeywordกลุ่มนี้มากกว่า เก็บเอง..แต่คงต้องติดตามแบบใกล้ชิด ไม่งั้นเจอtrafficมาเยอะตูมเดียว มันก็จอดได้  ผมก็เคยโดนมากับkeywordบางตัว...มันมาตูมเดียวแม้คลิกละ0.1 ผมเจอไปวันละ $20...3-4วันติด โดยขายสินค้าไม่ได้สักชิ้น ขายได้ค่าคอมชิ้นละ $10เอง...ทำแค่อาทิตย์เดียว มันฟาดไปร้อยกว่าเหรียญ....ได้ 0 เหรียญ ...คุณasiramอย่าเพิ่งว่าผมใจเสาะนะ เพราะทุนผมน้อย ปกติค่าโฆษณาเดือนละ $120....สำหรับผมก็บักโกรกแล้วครับ เทียบกับคุณasiramต่างกันครับ....อยู่ที่เราหาเจอไหมว่า เราเสนอของที่ถูกใจลูกค้าหรือยัง...บางคนที่มีความสามารถเฉพาะตัว ที่บ้านค้าขายมาก่อน ก็เห็นก็จับทางง่ายหน่อย  ถ้าใครไม่มีประสบการณ์ก็จับทางยากหน่อยครับ....อยู่ที่ว่าเสียตังค์แล้วได้ความรู้อะไรกลับมาครับ ไม่ใช่เสียตังค์แล้วไม่ได้อะไรเลย ได้แต่ความเจ็บใจและเคียดแค้นGooGle.....