หัวข้อ: บทหนึ่งในหนังสือ"ก้าวไปตามใจฝัน" เริ่มหัวข้อโดย: TingTong ที่ 09 กุมภาพันธ์ 2009, 21:10:00 อ่านแล้วอยาก ออกจาก งาน เลย ;D เอามาจาก pantip
อ้างถึง บทที่ 6 ก้าวไปตามใจฝัน “ภารกิจในชีวิต มิใช่การมีชีวิตอยู่โดยปราศจากอุปสรรคใด ๆ แต่คือการเกิดความรู้สึกตื่นตาตื่นใจกับสรรพสิ่งที่ผ่านเข้ามาในชีวิตต่างหาก” ทำในสิ่งที่คุณรัก แก่นสำคัญของบทนี้มีอยู่สองประการ คือ 1 คุณเป็นคนเลือกเองว่าจะมีทัศนคติต่องานอย่างไร คุณสามารถสนุกกับงานได้เกือบจะทุกรูปแบบ หากคุณต้องการเช่นนั้น 2 ถ้าคุณทำในสิ่งที่คุณชอบ คุณจะมีความสุขยิ่งกว่า มีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จมากกว่า และอาจทำเงินได้มากกว่าด้วย ในระยะสั้น คุณมักจะต้องทำให้ดีที่สุดในสถานการณ์นั้น ๆ ถ้าคุณจำเป็นต้องใช้เงิน คุณอาจต้องทำงานที่ทำอยู่ไปก่อน ขณะเดียวกันก็วางแผนอนาคตในระยะยาวเพื่อจะได้ทำสิ่งที่คุณรัก คุณจะรู้สึกอิ่มเอมใจเมื่อได้ทำในสิ่งที่คุณรู้สึกว่าเหมาะกับตัวคุณเอง ถ้าคุณไม่ชอบงานที่ทำอยู่ คุณมีทางเลือกอยู่สองทางคือ เปลี่ยนทัศนคติของตัวเองหรือไม่ก็เปลี่ยนงาน อย่าเที่ยววิ่งวุ่นบอกใครต่อใครว่า โลกนี้เป็นหนี้ชีวิตคุณโลกไม่ได้เป็นหนี้คุณ โลกมีอยู่ก่อนหน้าที่คุณเกิดเสียอีก จงทำให้ดีที่สุด “ศักดิ์ศรีในการทำงานจะเกิดขึ้นได้ เมื่อผู้ทำงานยอมรับงานนั้นอย่างแท้จริง” มีเหตุผลอยู่สองประการว่า เพราะอะไรคุณจึงควรทำงานให้ดีที่สุด 1 คุณจะมีความสุขมากกว่าเวลาที่คุณลงใจลงแรงทำไปเต็มร้อย 2 โลกเรามีวิธีลงโทษความเกียจคร้านและความจองหองของมนุษย์ สิ่งต่าง ๆ ในชีวิต รวมทั้งงานของคุณจะผิดพลาดไปหมด หากคุณไม่ใช้ความพยายามอย่างน้อยสักครึ่งหนึ่งของหัวใจ ถ้าเราเริ่มทำอะไรอย่างสุกเอาเผากิน ทุกอย่างจะเริ่มแย่ลง ลองถาม คนที่สนุกสนานกับการทำงานจะตื่นมาพร้อมกับบอกตัวเองว่า “วันนี้ฉันจะทำงานให้มีประสิทธิภาพและใส่ใจมากกว่าเมื่อวานนี้” คุณทำงานให้กับใครหรือ “จงทำงานให้มากกว่าที่คุณได้รับค่าจ้าง แล้ววันหนึ่งคุณจะได้รับค่าจ้างมากกว่าที่คุณทำ” ไม่มีนายจ้างคนไหนที่จะสมบูรณ์แบบ และเพื่อนร่วมงานของคุณอาจขี้เกียจ แต่เมื่อคุณเซ็นสัญญาเป็นลูกจ้างแล้ว หน้าที่ของคุณคือทำให้ดีที่สุดเท่าที่คุณจะทำได้ มิใช่ไปจ้องจับผิดคนจ่ายค่าจ้างให้คุณ เมื่อคุณทุ่มให้งานแค่ครึ่งใจ คนที่เสียหายนั้นเป็นคุณมากกว่าเจ้านาย เพราะตัวคุณสูญเสียทั้งความกระตือรือร้น ความนับถือตัวเอง และอะไร ๆ อีกหลาย อย่างที่ทำให้คุณเป็นคุณขึ้นมา คุณควรทำงานให้ดีที่สุดมิใช่เพื่อสร้างความประทับใจให้แก่ผู้อื่น แต่คุณควรทำงานให้ดีที่สุด เพราะนั่นเป็น เพียง หนทางเดียว ที่คุณจะสนุกกับงาน อาชีพของคุณ คุณมีเพียงชีวิตเดียว ดังนั้น จงทำในสิ่งที่คุณรัก หากคุณต้องการจะทำสิ่งที่ตัวเองรัก คุณต้องยอมรับความคิดสองอย่างนี้ก่อน 1 การทำสิ่งที่คุณรักเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ แม้ยังไม่ใช่สิ่งที่คุณทำในงานของคุณขณะนี้ อย่างน้อยคุณก็ทำสิ่งที่คุณรักในเวลาว่างได้ 2 การทำสิ่งที่คุณรักและได้รับค่าจ้างด้วยเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ การทำสิ่งที่รัก คือ การมีความปรารถนาอันแรงกล้าในสิ่งหนึ่งสิ่งใด ทุ่มแรงกาย แรงใจ กำลังสมอง ความคิดสร้างสรรค์ เพื่อทำสิ่งนั้นให้สำเร็จ มันเป็นเรื่องเสี่ยง และในหลายครั้งหลายคราที่คุณต้องทำสิ่งนั้นให้สำเร็จ เพียงเพื่อคุณจะได้มีอะไรเลี้ยงปากเลี้ยงท้องตัวเอง ความไม่แน่นอนนั้นเป็นเพียงครึ่งหนึ่งที่ทำให้ชีวิตสนุกสนาน เมื่อใดก็ตามที่ไม่ต้องกระเสือกกระสนดิ้นรน เมื่อนั้นมันเหมือนมีอะไรบางอย่างขาดหายไปจากชีวิต ชีวิตของคุณจะดำเนินไปได้ด้วยดี ก็ต่อเมื่อคุณเป็นคนเลือกทำสิ่งต่าง ๆ เอง และรับผิดชอบในสิ่งที่คุณเลือกไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น และการเลือกอาชีพนั้นเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก จงทำใจให้สบายกับความคิดที่จะทำให้สิ่งที่คุณรัก การจะทำสิ่งที่คุณรักได้นั้นคุณต้องเชื่อมั่นก่อนว่ามันเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ และเมื่อคุณค้นพบว่าคุณอยากจะทำอะไรบ้างกับเวลาที่คุณมี คุณจะเริ่มพบคำตอบกับคำถามที่ว่า “ฉันอยากทำอะไรในชีวิตนี้” มีหลายคนไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไรและพวกเขาก็รู้สึกหงุดหงิดเพราะพวกเขาค้นหาคำตอบไม่เจอ ถ้าคุณไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร ลองคิดดูว่า คุณชอบอะไร อะไรก็ได้ที่ใกล้เคียงกับสิ่งซึ่งคุณชอบมากที่สุดแล้วค่อย ๆ เริ่มจากจุดนั้น ความสามารถพิเศษจะเป็นสิ่งมีค่า แต่ความสามารถพิเศษนั้นก็ไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่าง ลองใช้เวลาว่างของคุณดูสิ “งานคือความรักที่จับต้องได้” มีคนมากมายที่ผันงานอดิเรกของตนให้เป็นงานเต็มเวลา และการแปร งานอดิเรก ให้เป็นงานที่ทำเงินเลี้ยงปากเลี้ยงท้องนั้นมักค่อยเป็นค่อยไป การทำงานเลี้ยงชีพโดยทำสิ่งที่ตัวคุณชอบนั้น เป็นสิ่งที่เป็นไปได้ โลกเราเป็นแหล่งแลกเปลี่ยนซื้อขาย เมื่อคุณได้พัฒนาทักษะสักอย่างแล้ว ผู้คนจะจ่ายเงินให้คุณสำหรับทักษะเหล่านั้น หากคุณอยากหาเงินเลี้ยงชีพจากการทำสิ่งที่คุณรักงานอดิเรกของคุณอาจเป็นแหล่งหารายได้ที่ดีแหล่งหนึ่งถ้าคุณยังไม่มีความสนใจในงานอดิเรก เท่ากับว่าคุณจำกัดทางเลือกในชีวิตตัวเอง เปลี่ยนเส้นทางชีวิต “งานคือ อะไรก็ตามที่คุณต้องการทำ” จงทำสิ่งที่คุณต้องการ เพื่อตัวคุณเอง และก่อนที่จะเปลี่ยนงานไปทำสิ่งที่คุณต้องการทำ คุณควรคำนวณและตระเตรียมสิ่งต่าง ๆ เสียก่อนจะเสี่ยงลงมือทำ คุณต้องพัฒนาทักษะที่จำเป็น เพิ่มพูนความรู้ เรียนรู้ และหาตลาดที่ต้องการทักษะที่คุณมี แล้วคุณค่อยเปลี่ยนไปทำสิ่งที่คุณรัก งานกับเงิน “คนจำนวนมากมายตกปลามาตลอดชีวิต โดยไม่รู้ความจริงว่า ปลานั้นไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาต้องการ” เมื่อคุณรักสิ่งที่คุณทำ คุณจะยึดติดกับเงินน้อยลง คุณมักจะรู้สึกว่าคุณหาเงินได้มากขึ้น เงินนั้นเหมือนเกมกีฬา คุณชนะด้วยการลงเล่นและไม่ไปกังวลกับการทำแต้ม คุณกำลังแข่งขันกับคนซึ่งรักในสิ่งที่พวกเขากำลังทำอยู่ ถ้าคุณไม่รักงานของคุณ คุณจะถูกเขี่ยออกจากการแข่งขันนั้น งานกับคน งานเป็นเสมือนเครื่องมือที่คุณใช้ติดต่อสื่อสารกับผู้คน ไม่ว่าคุณจะทำอะไรเพื่อเลี้ยงชีพ คุณจะรู้สึกพึงพอใจในการทำงานหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับว่าคุณให้บริการคนอื่นอย่างไร ในหมู่พวกคุณ คนที่จะมีความสุขอย่างแท้จริงในการทำงานนั้น คือ คนที่ได้ค้นหาและพบว่าจะให้บริการอย่างไรเท่านั้น งานกับความสุขใจ ความสุขทางใจนั้นเกิดจากการทำงานของคุณ และทำอย่างเต็มที่ เพราะคุณเลือกที่จะทำ มิใช่ว่าคุณจำเป็นต้องทำ ภารกิจในชีวิต มิใช่การมีชีวิตอยู่โดยปราศจากอุปสรรคใด ๆ แต่คือการเกิดความรู้สึกตื่นตาตื่นใจกับสรรพสิ่งที่ผ่านเข้ามาในชีวิตต่างหาก การทำในสิ่งที่คุณรักนั้น มิใช่สูตรสำเร็จสู่ชีวิตที่ง่ายกว่า แต่เป็นเคล็ดลับที่นำไปสู่ชีวิตที่เร้าใจกว่า โดยมากแล้วคุณจะต้องรับผิดชอบมากขึ้น และอาจมีปัญหาให้แก้มากขึ้นด้วย ความปรารถนาอันแรงกล้า เมื่อคุณใส่ใจกับสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่ ความกระตือรือร้นนั้นจะช่วยผลักดันให้คุณทำสำเร็จ และเมื่อคุณมีแรงปรารถนาอยากทำสิ่งนั้นเอง ก็ไม่จำเป็นมีใครมาค่อยกระตุ้นให้กำลังใจคุณ ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ใดก็ตาม คุณไม่มีวันติดอยู่กับที่ คุณเป็นมนุษย์ครับ ไม่ใช่ต้นไม้ คุณมีข้อแก้ตัวอะไร คนเราจะไม่ซื่อสัตย์กับตนเอง เรามักอ้างว่าสิ่งนั้นสิ่งนี้ เป็นไปไม่ได้ ทำไม่ได้หรอก ในขณะที่ความเป็นจริงคือ สิ่งเหล่านั้นทำได้ แต่ ไม่ง่ายนัก เรามีทางเลือกเสมอ หากคุณไม่ได้กำลังทำอะไรให้เป็นชิ้นเป็นอันขึ้นมาเลย นั่นแสดงว่าคุณกำลังผลาญพลังของคุณไปกับเรื่องอื่น ๆ ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ว่า “เพราะอะไรจึงทำไม่ได้” สิ่งที่คุณต้องถามตัวเองคือ “มีอะไรบ้างที่เราไม่เต็มใจจะทำ” เมื่อใดที่คุณพูดว่า “ฉันจะทำสิ่งนี้ละ และฉันไม่สนใจว่าจะยากสักแค่ไหน” เมื่อนั้นชีวิตจะเริ่มเป็นไปตามที่คุณต้องการ |