หัวข้อ: ****เรื่องของยักษ์กับบ่างช่างยุ**** เริ่มหัวข้อโดย: เดี๋ยวจะบอกว่าชื่ออะไร ที่ 19 พฤศจิกายน 2008, 11:41:04 นิทานผู้ใหญ่ "เรื่องของยักษ์กับบ่างช่างยุ"
นิทานผู้ใหญ่: เรื่องของยักษ์กับบ่างช่างยุ ผู้เขียนเป็นคนช่างรื้อ ช่างค้น โดยเฉพาะที่บ้านมีตู้เก็บหนังสือเก่าๆของคุณปู่ วันหนึ่งค้นพบวารสารกองโตประมาณปี พ.ศ.2514 ชื่อ สารประชาชน ออกโดยกระทรวงมหาดไทย ไม่มีวางขายตามแผงหนังสือ แต่ให้ข้าราชการของกระทรวงยุคนั้นบอกรับเป็นสมาชิกในราคาฉบับละ 3 บาท (ปู่ของผู้เขียนเคย เป็นกำนัน) เมื่อเปิดอ่านรายละเอียดในวารสาร ดู เป็นเรื่องสัพเพเหระ เช่นข่าวทางราชการ สารคดีต่างๆ ลำตัดการเมือง เรื่องน่ารู้ต่างๆ สมัยที่จอมพลถนอม กิตติขจร เป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย สมัยสั้นจำได้ว่าคนไทยกลัว”คอมมิวนิสต์” ถึงกับตั้งชื่อต้นหญ้าชนิดหนึ่งที่ปราบไม่รู้จักหมดว่า “หญ้าคอมมิวนิสต์” เด็กๆสมัยนี้เกิดไม่ทันขออธิบายสั้นๆว่าคอมมิวนิสต์คือชื่อของ ลัทธิการเมืองที่สมัยนั้นขัดแย้งกับการเมืองบ้านเราจนต้องมีการปราบปรามกันเป็นล่ำเป็นสัน ผู้เขียนชอบบทความในวารสารเล่มหนึ่งชื่อ “นิยายชาวบ้าน” ผู้เขียนใช้นามปากกาว่า “พรานอะคร้าว” ซึ่งพาดหัวคอลัมน์ว่า”ใคร่จะเรียนให้ท่านผู้อ่านทราบว่า ทางหนังสือพิมพ์นี้ จะ มีความยินดีเป็นที่สุด หากท่านผู้อ่านจะส่งนิยายชาวบ้าน แต่ละท้องถิ่นของท่านมาร่วมสนุกด้วยในโอกาสต่อไป จะเป็นเรื่องอะไรก็ได้ ขอความกรุณาเพียงอย่าให้หยาบโลนเกินขอบเขตศีลธรรมอันดีของสังคมก็แล้วกัน” เรื่องที่อ่านแล้วสนุกน่าจะให้เด็กๆได้อ่าน ขณะเดียวกันก็จะได้เรียนรู้ว่าบางครั้งผู้ใหญ่เค้าก็เล่านิทาน สอนผู้ใหญ่ด้วยกันเหมือนสอนเด็กๆ แสดงว่านิทานสอนคนได้ทุกเพศทุกวัยแล้วแต่ว่าคนอ่านจะคิด ได้มากน้อยแค่ไหน นิทานเรื่องนี้ชื่อ”ยักษ์วัดแจ้งตีกับยักษ์วัดโพธ์” เด็กๆลองอ่านดูว่าเหมือนกับที่เราเคยฟังกันมาไหม มีเจ้าบ่างตัวหนึ่งอาศัยเรือสำเภาเข้ามาจากเมืองจีนในสมัยรัชกาลที่ 3 ทรงค้าขายทางเรือสำเภากับจีน มีตุ๊กตาปูนปั้นจำนวนมากติดมากับเรือเพื่อกันเรือโคลง(เรียกตุ๊กตานี้ว่า อับเฉา) รัชกาลที่ 3 ทรงโปรดให้ ปฏิสังขรณ์ วัดโพธ์และวัดแจ้งในเวลานั้น จึงทรงให้นำตุ๊กตาไปตั้งที่วัดทั้ง 2 แห่ง เจ้าบ่างเมื่อติดมามากับเรือสำเภาก็ไม่ยอมกลับเมืองจีน คงเห็นว่าเมืองไทยอุดมสมบูรณ์ด้วยผลหมากรากไม้ ผู้เล่านิทานได้วิเคราะห์แทรก ไว้ตอนนี้ว่า”ขึ้นชื่อว่า”บ่าง” คุณๆก็คงทราบจากหนังสือนิทานอีสปแล้วว่า เป็นสัตว์นิสัยเสียคือช่างยุให้คนอื่นแตกร้าวกัน “ เจ้าบ่างช่างยุตัวนี้อาศัยอยู่ที่เพดานพระอุโบสถวัดแจ้งมาถึงสมัยรัชกาลที่ 5 มันก็ก่อเหตุวุ่นวายขึ้น ในคืนวันหนึ่งของปี 2438 มันกลับจากการหากินแล้วก็ลอดหลังคาเข้าไปในพระอุโบสถ แต่เกิดแถไป ชนโคมไฟซึ่งจุดไว้ ไฟติดผ้าม่านไหม้ลุกลามเกือบหมดพระอุโบสถทั้งหลัง เจ้าบ่างเลยอพยพมาอยู่ที่พระ อุโบสถวัดโพธิ์ ต่อมามันก็ไปตีสนิทกับยักษ์ทวารบาลที่ยืนเฝ้าประตูวัดโพธิ์ ยุยงว่ายักษ์วัดแจ้งแกล้งยืนหลับ ปล่อยให้ศัตรูเข้าไปเผาพระอุโบสถ แถมไม่ยอมช่วยดับไฟทั้งๆที่มีลูกน้องยักษ์แบกฐานของพระปรางค์ตั้งมากมาย ยักษ์วัดโพธิ์ไปเล่าต่อให้ยักษ์วัดพระแก้วฟัง แล้วเลยมีมติเป็นเอกฉันท์ ให้คว่ำบาตรยักษ์วัดแจ้ง ตัดสัมพันธไมตรีกัน แม้ยักษ์ฝั่งโน้นข้ามฟากมาฝั่งกรุงเทพฯก็จงช่วยกันทำร้ายและไล่มันไป ดังนั้น เมื่อยักษ์วัดแจ้งส่งลูกน้องมาเชิญยักษ์ฝั่งกรุงฯไปร่วมแจมเอ๊ยร่วมงานรื่นเริงในงานฉลอง พระอุโบสถ ยักษทูต(แปลว่ายักษ์ที่เป็นทูต) เลยถูกซ้อมงอมพระรามกลับไปเล่าให้ลูกพี่ฟังว่า ถูกยักษ์วัดโพธิ์รุมซ้อม สิงโตเมืองจีนไล่กัด และร้องด่าว่า “ไอ้พวกทรยศ เนรคุณแผ่นดิน” ยักษ์วัดแจ้งรู้เรื่องก็โกรธจนหนวดปูนกระดิกตั้งใจว่าเสร็จจากงานเลี้ยงจะต้องข้าม ไปสอบถามสาเหตุ เผื่อไม่ชอบมาพากลจะได้ฉะกันให้แหลกไปข้างหนึ่ง ทันใดนั้นเอง เจ้าบ่างก็แถมาเกาะไหล่กระซิบว่า มันแอบได้ยินยักษ์วัดโพธิ์สุมหัวนินทาเรื่องไฟไหม้ ยักษ์วัดแจ้งกำลังยัวะเลยยกพวกข้ามฟากไปทันที พอถึง 2 ยาม ยักษ์วัดแจ้งยกพวกมา 50 ตน ข้ามมาถึงหน้าวัดโพธิ์ หัวหน้าใช้ลูกน้องปีน กำแพงเขตพุทธาวาสด้านตะวันออก ไปท้ายักษ์มาตีกันข้างนอก เกรงใจพระพุทธไสยาสน์ท่าน (นิสัยดีนะ รู้จักเกรงใจพระนอน) ยักษ์ 2พวกระดมพลต่อสู้กันจนฝ่ายยักษ์วัดแจ้งถอยร่น ไปถึงท่าช้าวังหน้า อีกพวกหนึ่งถูกตีเตลิดมาถึงท่าช้างวังหลวง จนไปบรรจบกันที่ท่าเตียน ผลการต่อสู้ยักษ์ช่างกลเอ๊ยยักษ์วัดโพธิ์เป็นฝ่ายล่าถอย เพราะยักษ์วัดแจ้งมีพวกซุ่มอยู่อีก ประกอบกับใกล้สว่าง ยักษ์มีความรับผิดชอบในหน้าที่รีบไปเฝ้ายามจึงเลิกรบชั่วคราว ย่างเข้าคืนที่ 2 ยักษ์วัดโพธิ์ใช้ยุทธวิธีแยบคายคือให้สมุนซ่อนตัวในความมืดตามกำแพง วัดตลอดแนวริมแม่น้ำ ยักษ์วัดแจ้งข้ามมาถึงถูกโจมตีตกน้ำตกท่าสะบักสะบอมไปตามๆกัน เจ้าบ่างตัวร้ายแอบดูสงครามยักษ์อยู่บนยอดนภศูลของพระปรางค์รีบมาบอกยักษ์วัดแจ้งว่า มันจะไปเจรจาขอแรงพวกตุ๊กตาจีนวัดสุทัศน์มาช่วย (มาจากเมืองจีนเหมือนกัน) วิธีเจรจาของเจ้าบ่างคือเล่าให้ตุ๊กตาจีนวัดสุทัศน์ฟังว่ายักษ์วัดโพธิ์อิจฉาอุโบสถวัดแจ้งว่าสวยกว่าของตนจึง ให้ลูกน้องมาจุดไฟเผา ใส่ไฟยักษ์วัดแจ้งด้วยว่าพูดจาหยิ่งยะโส ทำนองว่ารัชกาลที่ 3 ทรงเมตตาปรานี ทรงปั้นแหวนใส่นิ้วให้มันมากกว่า เครื่องประดับก็สวยกว่า ตุ๊กตาจีน วัดโพธิ์ช่วยต่อสู้ด้วย คุยทับว่าพวกมันเป็นนักรบที่เก่งกาจจึงอยู่ใกล้พระราชฐาน ไม่เหมือนตุ๊กตาวัดสุทัศน์เป็นพวกชั้นต่ำ พวกวัดสุทัศน์ก็โกรธจนหนวดปูนกระดิก ตกดึกคืนที่ 3 ยักษ์วัดแจ้งยกพวกข้ามมาบุกอีก คราวนี้เป็นศึกรูปปั้นทั้งหลายเช่น สิงโตตัวมหึมา ศาสตราวุธนานาชนิด เช่น ดิ้ว ดาบ มีดสั้น มีดยาว กั้นหยั่น สามง่าม ปัสตันปืนไฟ สู้กันจนแขนขาขาด จมูกวิ่น หน้าตาเละเทะ แต่ไม่ยักมีใครตาย สุดท้ายพระสยามเทวาธิราชทรงปรากฏพระวรกายห้ามทัพ และให้โอวาทอบรม สั่งสอนเรื่องความสามัคคี แล้วส่งไปอบรมในค่ายทหาร เอ๊ยไม่ใช่อ่านข่าวช่างกล มากไปหน่อย เป็นอันว่ายุติสงคราม ส่วนเจ้าบ่างช่างยุไม่รู้หายตัวไปไหน คนเล่าเรื่องบอกว่าสงสัยจะกลับเมืองจีน ไปสอนวิธียุแยงตะแคงรั่วให้พวกคอมมิวนิสต์ นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่าผู้ใหญ่ก็ชอบอ่านนิทานเหมือนเด็ก แต่นิทานผู้ใหญ่อ่าน แล้วน่าปวดหัวเที่ยวได้กระทบกระเทียบเปรียบเปรยคนนั้นคนนี้ไปทั่ว คนอ่านต้อง คิดหลายซับหลายซ้อนถึงจะตีความออกว่ากระทบใคร หัวข้อ: Re: ****เรื่องของยักษ์กับบ่างช่างยุ**** เริ่มหัวข้อโดย: ClickToBan ที่ 19 พฤศจิกายน 2008, 12:32:42 เดี๋ยวมาอ่านเน้อ
หัวข้อ: Re: ****เรื่องของยักษ์กับบ่างช่างยุ**** เริ่มหัวข้อโดย: pacapao ที่ 19 พฤศจิกายน 2008, 12:39:07 ผู้ใหญ่อ่านแล้วปวดเฮด ให้มันมี จังหวะ วรรคตอน ย่อหน้า หน่อยสิ
หัวข้อ: Re: ****เรื่องของยักษ์กับบ่างช่างยุ**** เริ่มหัวข้อโดย: ZOHAN ที่ 19 พฤศจิกายน 2008, 12:39:52 ผู้ใหญ่อ่านแล้วปวดเฮด ให้มันมี จังหวะ วรรคตอน ย่อหน้า หน่อยสิ เห็นด้วยอย่างแรง หัวข้อ: Re: ****เรื่องของยักษ์กับบ่างช่างยุ**** เริ่มหัวข้อโดย: ColdMoney ที่ 19 พฤศจิกายน 2008, 13:06:37 เหอๆ แล้วตกลงใครแต่งครับเนี่ย เคยได้ยินมานานล่ะ :D
หัวข้อ: Re: ****เรื่องของยักษ์กับบ่างช่างยุ**** เริ่มหัวข้อโดย: ClickToBan ที่ 19 พฤศจิกายน 2008, 15:26:54 ผู้ใหญ่อ่านแล้วปวดเฮด ให้มันมี จังหวะ วรรคตอน ย่อหน้า หน่อยสิ เห็นด้วยอย่างแรง บ่อบอกอายุ :D :D :D หัวข้อ: Re: ****เรื่องของยักษ์กับบ่างช่างยุ**** เริ่มหัวข้อโดย: กูเอง ที่ 10 มีนาคม 2017, 03:28:57 ย่อให้เหลือ 7 บรรทัดที ขี้เกียดอ่าน
หัวข้อ: Re: ****เรื่องของยักษ์กับบ่างช่างยุ**** เริ่มหัวข้อโดย: chonlakarn ที่ 23 สิงหาคม 2017, 21:35:21 เราก็ชอบอ่านนิทานเหมือนกันค่ะ :-[
หัวข้อ: Re: ****เรื่องของยักษ์กับบ่างช่างยุ**** เริ่มหัวข้อโดย: streetup ที่ 24 สิงหาคม 2017, 10:10:15 เว้นวรรคอีกหน่อยและเพิ่มย่อหน้า จะอ่านง่ายและน่าติดตามมากขึ้นครับ. :wanwan008:
|