หัวข้อ: ความแตกต่างระหว่าง "คนรวย" กับ "คนชั้นกลาง(คนจน)" เริ่มหัวข้อโดย: whitebmw ที่ 07 พฤศจิกายน 2008, 15:59:43 ผมได้อ่านหนังสือเล่มเล็ก ๆ เล่มหนึ่งเขียนโดย Keith Cameron Smith เรื่องความแตกต่างที่โดดเด่น 10 ข้อ ระหว่างคนรวยกับคนชั้นกลาง และเห็นว่ามันมีความเป็นจริงอยู่พอสมควรจากการสังเกตของผม ดังนั้น จึงขอนำมาเผยแพร่เพื่อที่ว่าเราจะได้รู้ว่าเราอยู่ในด้านไหนของสังคม และจะต้องทำอย่างไรเพื่อที่ว่าเราจะได้ย้ายจากการมีแนวโน้มที่จะเป็นคนชั้นก ลางสู่การเป็นคนรวย
ความแตกต่างข้อแรกก็คือ เศรษฐีนั้นคิดยาวแต่คนชั้นกลางคิดสั้น ว่าที่จริงคนที่คิดสั้นที่สุดก็คือคนจน พวกเขามักจะคิดอะไรแบบวันต่อวันทำนองหาเช้ากินค่ำ คนชั้นกลางนั้นมักจะคิดเป็นเดือนต่อเดือน นั่นคือคิดถึงวันเงินเดือนออก แต่คนรวยจะต้องคิดยาวเป็นปี ๆ หรือเป็นสิบ ๆ ปี ในใจของคนจนนั้น เขามักคิดแต่เฉพาะเรื่องของความอยู่รอดเป็นหลัก ในขณะที่คนชั้นกลางคิดถึงเรื่องความสุขสบายจากการจับจ่ายใช้สอยสินค้า ส่วนคนรวยนั้น เป้าหมายของพวกเขาชัดเจน เขาต้องการความเป็นอิสระทางการเงิน การคิดยาวนั้นมีพลังมหาศาล เพราะมันจะทำให้เขาอดออมและลงทุนระยะยาว ซึ่งจะทำให้เงินงอกเงยแบบทบต้นเป็นเวลานาน และนี่คือสูตรสำคัญที่สุดในการที่จะทำให้คนมั่งคั่ง ข้อสอง คนรวยพูดเกี่ยวกับเรื่องไอเดีย คนชั้นกลางพูดเกี่ยวกับสิ่งของ และคนจนพูดถึงเรื่องของคนอื่น น ี่คงไม่ได้หมายถึงว่าคนรวยไม่พูดเกี่ยวกับเรื่องของสิ่งของหรือคนอื่น แต่หมายถึงว่าคนรวยจะพูดถึงเรื่องของคนอื่นน้อยกว่าคนจนและมักจะเป็นคนที่มี แนวความคิดดี ๆ หรือมีมุมมองต่าง ๆ มากกว่าคนชั้นกลางและคนจน เบื้องหลังของนิสัยในเรื่องนี้คงอยู่ที่ว่า คนรวยนั้นมักจะมีความคิดสร้างสรรค์มากกว่าคนจนซึ่งมักจะชอบ "ซุบซิบนินทา" เป็นนิจสิน ในขณะที่คนชั้นกลางอาจจะเน้นการทำงานประจำ ชอบพูดถึงเรื่องรถยนต์ ดนตรี การพักผ่อนหย่อนใจ เป็นต้น ข้อสาม คนรวยยอมรับการเปลี่ยนแปลง คนชั้นกลางต่อต้านการเปลี่ยนแปลง คนชั้นกลางรู้สึกว่าการเปลี่ยนแปลงจะคุกคามชีวิตความเป็นอยู่ที่ตนเองเคยชิน ในขณะที่คนรวยนั้นคิดว่าการเปลี่ยนแปลงอาจนำมาซึ่งชีวิตที่ดีกว่า เขาคิดว่าในการเปลี่ยนแปลงนั้นมักมีโอกาสที่เขาอาจจะฉกฉวยได้ เบื้องหลังนิสัยนี้อาจจะมาจากการที่คนรวยมีความมั่นใจสูงกว่าคนชั้นกลางที่ม ักจะกลัวว่าตนเองจะไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับสิ่งใหม่ ๆ ได้ ข้อสี่ คนรวยกล้ารับความเสี่ยงที่ได้มีการพิจารณาและไตร่ตรองดีแล้ว คนชั้นกลางกลัวที่จะรับความเสี่ยง น ี่เป็นนิสัยที่เป็นจุดอ่อนมากที่สุดของคนชั้นกลางในความเห็นของผม คนที่ไม่ยอมรับความเสี่ยงเลยนั้นจะพลาดที่จะได้ผลตอบแทนที่ดีโดยสิ้นเชิง ในขณะที่คนที่กล้ารับความเสี่ยงอย่างที่ได้มีการศึกษามาเป็นอย่างดีจะสามารถ สร้างผลตอบแทนที่ดีได้ โดยที่ความเสี่ยงจริง ๆ นั้นจะมีน้อยมาก ตัวอย่างที่เห็นชัดเจนที่สุดก็คือ คนชั้นกลางส่วนใหญ่นั้นมักจะกลัวการลงทุนในหุ้นหรือตราสารการเงินที่มีความผ ันผวนของ ราคาโดยที่เขาไม่พยายามศึกษาว่าในระยะยาวแล้วมันอาจจะมีความคุ้ มค่ากว่าการฝากเงินในธนาคารมาก ในอีกมุมหนึ่ง คนที่กล้ารับความเสี่ยงอย่าง "บ้าบิ่น" เช่นคนที่เล่นหุ้นวันต่อวันเองก็ไม่ใช่นิสัยของคนรวย คนรวยนั้นจะต้องรับความเสี่ยงเฉพาะที่มีการพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว ข้อ ห้า คนรวยเรียนรู้และเติบโตตลอดชีวิต คนชั้นกลางคิดว่าการเรียนรู้จบที่โรงเรียน น ิสัยการเรียนรู้ไปเรื่อย ๆ นี้ ผมคิดว่าเป็นหัวใจเศรษฐีจริง ๆ เพราะในความรู้สึกของผมเอง การเรียนรู้จากโรงเรียนเป็นเพียงพื้นฐานที่เรานำมาศึกษาต่อด้วยตนเองได้ และเวลาหลังจากการเรียนในโรงเรียนนั้นยาวมากเป็นหลายสิบปี ดังนั้น ความรู้ส่วนใหญ่จึงควรที่จะเกิดขึ้นหลังจากที่เราเรียนจบจากโรงเรียน โดยนัยของข้อนี้ คนรวยจึงน่าจะมีนิสัยรักการอ่านหรือการหาความรู้ต่อไปเรื่อย ๆ ในขณะที่คนชั้นกลางนั้น พอเรียนจบก็มักจะไม่สนใจอ่านหนังสือหรือหาความรู้ใหม่ ๆ และความรู้ที่ผมคิดว่าคนชั้นกลางพลาดไปเพราะไม่มีการสอนในโรงเรียนก็คือ ความรู้ทางด้านการเงินที่คนรวยมักจะศึกษาต่อเพราะเห็นถึงความสำคัญและอาจนำไ ปสู่ความ ร่ำรวยได้ ข้อหก คนรวยทำงานเพื่อหากำไร คนชั้นกลางทำงานเพื่อจะได้ค่าจ้าง ค นรวยมองว่านี่คือหนทางที่จะทำให้รวยได้มากกว่าแม้ว่าจะมีความเสี่ยง ในขณะที่คนชั้นกลางนั้นมักจะไม่กล้าเสี่ยง และอาจจะมีความคิดสร้างสรรค์น้อยกว่า จึงมุ่งไปที่การหางานที่จะมีรายได้แน่นอน แต่รายได้จากการใช้แรงงานของตนเองนั้น มีน้อยคนที่จะทำให้ตนเองรวยได้ ข้อ เจ็ด คนรวยเชื่อว่าพวกเขาจะต้องใจบุญสุนทาน คนชั้นกลางคิดว่าพวกเขาไม่มีปัญญาที่จะทำบุญ ข้อนี้ผมเองคงไม่มีคอมเม้นท์อะไร ส่วนหนึ่งผมเองก็ไม่แน่ใจเนื่องจากเรื่องนี้เป็นเรื่องของแต่ละคนที่ไม่ค่อย บอกหรือรู้กัน ยกเว้นกรณีที่เป็นการบริจาคใหญ่ ๆ อย่างกรณีของบัฟเฟตต์หรือบิลเกต ข้อแปด คนรวยมีแหล่งรายได้หลากหลาย คนชั้นกลางมีเพียงหนึ่งหรือสองแหล่ง ข้อนี้ก็เช่นกัน ผมเองไม่แน่ใจว่าคนรวยมีรายได้จากหลายแหล่งเพราะรวยแล้วจึงไปลงทุนในทรัพย์ส ินหลาย ๆ อย่าง หรือมีทรัพย์สินหลายอย่างจึงทำให้รวย แต่ที่ผมเห็นชัดเจนก็คือ คนชั้นกลางนั้น มักไม่ลงทุนในทรัพย์สินที่มีความเสี่ยงทำให้รายได้มักจะมาจากเงินเดือนเป็นห ลัก ข้อเก้า คนรวยเน้นการเพิ่มขึ้นของความมั่งคั่งของตนเอง คนชั้นกลางเน้นการเพิ่มของเงินเดือน เป้าหมายของคนรวยนั้นอยู่ที่ว่าตนเองมีความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นมากน้อยแค่ไหน โดยมองที่ ภ าพรวม ดังนั้น ถ้าเขามีหุ้นอยู่ การที่หุ้นมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเขาก็มีความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นโดยที่เขาไม่ต้องเ สียภาษี แต่คนชั้นกลางพยายามทำงานเพื่อให้มีเงินเดือนสูงขึ้นแต่เขาอาจจะลืมไปว่าเขา จะต้องเสียภาษีเพิ่มขึ้นด้วย สรุปก็คือ คนรวยเน้นการลงทุนใช้เงินทำงานแทนตนเอง คนชั้นกลางเน้นการใช้แรงงานของตนเอง สุด ท้าย ข้อสิบ คนรวยชอบตั้งคำถามที่เป็นบวก และสร้างกำลังใจ เช่น ฉันจะสร้างรายได้เป็นเท่าตัวในปีนี้ได้อย่างไร? ในขณะที่คนชั้นกลางชอบตั้งคำถามที่เป็นลบ และเสียกำลังใจเช่น จะหาเงินมาจ่ายหนี้ค่าบัตรเครดิตเดือนนี้ได้อย่างไร ? แ ละนั่นก็คือความแตกต่าง 10 ข้อระหว่างคนรวยกับคนชั้นกลางที่มีคนตั้งข้อสังเกตไว้ ซึ่งผมเชื่อว่าส่วนใหญ่น่าจะเป็นจริง แน่นอน คนรวยบางคนก็มีคุณสมบัติที่เป็นแบบคนชั้นกลาง และคนชั้นกลางจำนวนมากก็มีนิสัยแบบคนรวย แต่ถ้าเราอยากรวย ผมคิดว่า การยึดนิสัยแบบคนรวยน่าจะทำให้เรามีโอกาสมากกว่า เอามาจาก pantip ครับ ถ้าซ้ำก็ขออภัยนะครับ hปปp://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I6334445/I6334445.html หัวข้อ: Re: ความแตกต่างระหว่าง "คนรวย" กับ "คนชั้นกลาง(คนจน)" เริ่มหัวข้อโดย: wear428 ที่ 07 พฤศจิกายน 2008, 17:09:04 จะให้ละเอียดและถ้าอยากเปลี่ยนตัวเองก็ไปหาหนังสือพ่อรวยสอนลูกมาอ่านนะครับ
หัวข้อ: Re: ความแตกต่างระหว่าง "คนรวย" กับ "คนชั้นกลาง(คนจน)" เริ่มหัวข้อโดย: cck ที่ 07 พฤศจิกายน 2008, 19:11:47 ยาวจัง
หัวข้อ: Re: ความแตกต่างระหว่าง "คนรวย" กับ "คนชั้นกลาง(คนจน)" เริ่มหัวข้อโดย: metoo55 ที่ 07 พฤศจิกายน 2008, 19:38:20 ขอบคุณครับ เป็นวิธีคิดที่ดีมากในการสร้างความทะเยอทะยาน แต่ยังไงก็ฝากอีกมุมมองของชีวิตด้วยนะครับ.....(ตอนนี้กำลังดัง....
"ชีวิตที่มีค่า ไม่ใช่ชีวิตที่ร่ำรวย มีเกียรติ หรือว่าอายุยืน แต่ชีวิตที่มีค่า คือ ชีวิตที่ตัวเราเป็นคนมีคุณค่า และทำให้ชีวิตคนอื่น..มีค่า" แม่ต้อย โค๊ด: http://www.youtube.com/watch?v=NFTlHsjWxIc หัวข้อ: Re: ความแตกต่างระหว่าง "คนรวย" กับ "คนชั้นกลาง(คนจน)" เริ่มหัวข้อโดย: siamman ที่ 07 พฤศจิกายน 2008, 19:46:36 อ้างถึง ข้อสอง คนรวยพูดเกี่ยวกับเรื่องไอเดีย คนชั้นกลางพูดเกี่ยวกับสิ่งของ และคนจนพูดถึงเรื่องของคนอื่น น ี่คงไม่ได้หมายถึงว่าคนรวยไม่พูดเกี่ยวกับเรื่องของสิ่งของหรือคนอื่น แต่หมายถึงว่าคนรวยจะพูดถึงเรื่องของคนอื่นน้อยกว่าคนจนและมักจะเป็นคนที่มี แนวความคิดดี ๆ หรือมีมุมมองต่าง ๆ มากกว่าคนชั้นกลางและคนจน เบื้องหลังของนิสัยในเรื่องนี้คงอยู่ที่ว่า คนรวยนั้นมักจะมีความคิดสร้างสรรค์มากกว่าคนจนซึ่งมักจะชอบ "ซุบซิบนินทา" เป็นนิจสิน ในขณะที่คนชั้นกลางอาจจะเน้นการทำงานประจำ ชอบพูดถึงเรื่องรถยนต์ ดนตรี การพักผ่อนหย่อนใจ เป็นต้น ชอบข้อนี้ หัวข้อ: Re: ความแตกต่างระหว่าง "คนรวย" กับ "คนชั้นกลาง(คนจน)" เริ่มหัวข้อโดย: homekung ที่ 07 พฤศจิกายน 2008, 21:01:39 ผมว่าคนรวยมีสภาวะแวดล้อมที่พร้อมและเหมาะต่อการต่อยอด ต่อการรองรับความเสี่ยง
ผมมีเงิน 100 ล้าน ผมเอามาลงทุน 20 ล้าน เจ๊งก็ยังเหลือ ผมมีเงิน 1 ล้าน เอาเงินไปลงทุน 5 แสน ..........จะดีหรอ.... :P ขอบคุงครับ เปงบทความที่ดีมากครับ........ :'( หัวข้อ: Re: ความแตกต่างระหว่าง "คนรวย" กับ "คนชั้นกลาง(คนจน)" เริ่มหัวข้อโดย: TBZS ที่ 07 พฤศจิกายน 2008, 21:33:29 ผมว่าคนรวยคนจน
ต่างกันที่ ทัศนะคติ เท่านั้นเอง หัวข้อ: Re: ความแตกต่างระหว่าง "คนรวย" กับ "คนชั้นกลาง(คนจน)" เริ่มหัวข้อโดย: userOne ที่ 07 พฤศจิกายน 2008, 21:47:41 สงสัยอีกไม่นานผมจะรวย ;D
หัวข้อ: Re: ความแตกต่างระหว่าง "คนรวย" กับ "คนชั้นกลาง(คนจน)" เริ่มหัวข้อโดย: tinnoi ที่ 07 พฤศจิกายน 2008, 22:04:32 บทความดีมากเลย เห็นด้วยบางข้อครับ บางข้อก็เฉย ๆ
แต่ขอบคุณมาก ๆเลยครับ หัวข้อ: Re: ความแตกต่างระหว่าง "คนรวย" กับ "คนชั้นกลาง(คนจน)" เริ่มหัวข้อโดย: ultrasad ที่ 07 พฤศจิกายน 2008, 22:25:12 ดีครับ อ่านแล้วได้ข้อคิดดี :)
หัวข้อ: Re: ความแตกต่างระหว่าง "คนรวย" กับ "คนชั้นกลาง(คนจน)" เริ่มหัวข้อโดย: Rock2Rich ที่ 07 พฤศจิกายน 2008, 22:48:50 งั้น ผมก็คงจะเป็นคนรวยคนนึง
หัวข้อ: Re: ความแตกต่างระหว่าง "คนรวย" กับ "คนชั้นกลาง(คนจน)" เริ่มหัวข้อโดย: Milo-Loma ที่ 07 พฤศจิกายน 2008, 22:50:25 thank you
หัวข้อ: Re: ความแตกต่างระหว่าง "คนรวย" กับ "คนชั้นกลาง(คนจน)" เริ่มหัวข้อโดย: Himalayan ที่ 07 พฤศจิกายน 2008, 22:54:30 คือ สมมติ เท่านั้นครับ :)
หัวข้อ: Re: ความแตกต่างระหว่าง "คนรวย" กับ "คนชั้นกลาง(คนจน)" เริ่มหัวข้อโดย: Fila ที่ 07 พฤศจิกายน 2008, 22:59:35 ผมว่าไม่ว่าจะรวยหรือจน แต่ถ้ามีความสุขกับชีวิตก็ไม่ใช่ปัญหา
คนจนอาจจะคิดหรือทำแบบนั้น แต่ถ้ามันทำให้รู้สึกดีหรือมีความสุขกว่าที่จะใช้ชีวิตหรือคิดแบบคนรวย เป็นผมก็ยอมจนครับ หัวข้อ: Re: ความแตกต่างระหว่าง "คนรวย" กับ "คนชั้นกลาง(คนจน)" เริ่มหัวข้อโดย: Yahoo ที่ 07 พฤศจิกายน 2008, 23:09:57 บอร์ดนี้มีเยอะครับคนรวย
คนรวยน้ำใจ หัวข้อ: Re: ความแตกต่างระหว่าง "คนรวย" กับ "คนชั้นกลาง(คนจน)" เริ่มหัวข้อโดย: oreokung ที่ 07 พฤศจิกายน 2008, 23:43:13 +1 บทความดีครับ
ถึงบางข้ออาจจะไม่่ตรงก็เถอะ :) หัวข้อ: Re: ความแตกต่างระหว่าง "คนรวย" กับ "คนชั้นกลาง(คนจน)" เริ่มหัวข้อโดย: ColdMoney ที่ 08 พฤศจิกายน 2008, 01:26:18 Attitude คือคำตอบ ;)
หัวข้อ: Re: ความแตกต่างระหว่าง "คนรวย" กับ "คนชั้นกลาง(คนจน)" เริ่มหัวข้อโดย: abac401 ที่ 08 พฤศจิกายน 2008, 01:55:08 อ่านแล้วทึ่ง ว่า .......
Keith Cameron Smith กับ Robert kiyosaki ใคร copy งานเขียนใคร :P ทำไมมันเหมือนกันอย่างงี้ หัวข้อ: Re: ความแตกต่างระหว่าง "คนรวย" กับ "คนชั้นกลาง(คนจน)" เริ่มหัวข้อโดย: บอท! ที่ 08 พฤศจิกายน 2008, 02:20:57 ผมว่าคนรวยมีสภาวะแวดล้อมที่พร้อมและเหมาะต่อการต่อยอด ต่อการรองรับความเสี่ยง ใช่ ๆผมมีเงิน 100 ล้าน ผมเอามาลงทุน 20 ล้าน เจ๊งก็ยังเหลือ ผมมีเงิน 1 ล้าน เอาเงินไปลงทุน 5 แสน ..........จะดีหรอ.... :P ขอบคุงครับ เปงบทความที่ดีมากครับ........ :'( ผมมีตัง 100 ล้าน เอาไปลงทุน ครึ่งนึง ถ้าเจ๊ง ยังเหลือ อีก 50 ล้าน ผมมีตัง 5000 เอาไปลงทุน ครึ่งนึง เจ๊งไม่เจ๊ง ก็ไม่รวยอยุ่ดี ในเวลาเท่ากัน หัวข้อ: Re: ความแตกต่างระหว่าง "คนรวย" กับ "คนชั้นกลาง(คนจน)" เริ่มหัวข้อโดย: Threst ที่ 08 พฤศจิกายน 2008, 02:35:48 ผมว่าไม่ว่าจะรวยหรือจน แต่ถ้ามีความสุขกับชีวิตก็ไม่ใช่ปัญหา คนจนอาจจะคิดหรือทำแบบนั้น แต่ถ้ามันทำให้รู้สึกดีหรือมีความสุขกว่าที่จะใช้ชีวิตหรือคิดแบบคนรวย เป็นผมก็ยอมจนครับ ความสุข มันไม่เกี่ยวว่าต้องรวยหรือจนนี้ครับ ไม่ว่าจะมีแนวคิดแบบใดก็มีความสุขได้ แต่ว่าความคิดเหล่านั้นจะนำพาเราไปยังจุดใด? ตวามคิดคนรวย ก็ส่งผลให้เขารวย ความคิดคนจนก็ส่งผลให้เขาจน (ไม่ขอขยายความนะครับ) แต่หลายคนที่จนและรวยก็มีความสุขเหมือนกัน(และในอีกหลายคนก็ทุกข์ถนัดเหมือนกัน) เรื่องความรวย มันอยู่ที่ว่า เราจะรวยไปทำไม? รวยแล้วได้อะไร? แล้วสำหรับเราน่ะเท่าไหนถึงรวย? (ได้เงินต่อเดือนสี่หมื่น แต่จ่ายต่อเดือนหมื่นนึง รวยหรือจน? ก็ต้องรวยอยู่แล้วเพราะมีรายได้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งหมด) คิดอะไร เราก็เป็นอย่างที่คิด ปล.พี่whitebmw พึ่งเอามาโพสที่ไทยเสียวหรอครับ :) เห็นโพสที่sem.or.thตั้งนานแล้ว (เห็นสองกระทู้แหละ) หัวข้อ: Re: ความแตกต่างระหว่าง "คนรวย" กับ "คนชั้นกลาง(คนจน)" เริ่มหัวข้อโดย: figaro ที่ 08 พฤศจิกายน 2008, 02:50:37 เขียนดีจัง
หัวข้อ: Re: ความแตกต่างระหว่าง "คนรวย" กับ "คนชั้นกลาง(คนจน)" เริ่มหัวข้อโดย: nooknikz ที่ 08 พฤศจิกายน 2008, 17:29:55 ชอบข้อ 2 และข้อ 10 :(
หัวข้อ: Re: ความแตกต่างระหว่าง "คนรวย" กับ "คนชั้นกลาง(คนจน)" เริ่มหัวข้อโดย: vitit_s ที่ 08 พฤศจิกายน 2008, 17:57:37 เป็นข้อเขียนที่ดีครับ ถึงแม้จะไม่เห็นด้วยบ้างก็เถอะครับ :)
หัวข้อ: Re: ความแตกต่างระหว่าง "คนรวย" กับ "คนชั้นกลาง(คนจน)" เริ่มหัวข้อโดย: nammont ที่ 08 พฤศจิกายน 2008, 18:12:40 ทำตัวเหมือนคนรวยเดี๋ยวก็จน
ทำตัวเหมือนคนจนเดี๋ยวก็รวย :) :) :) :) หัวข้อ: Re: ความแตกต่างระหว่าง "คนรวย" กับ "คนชั้นกลาง(คนจน)" เริ่มหัวข้อโดย: pizad_sura ที่ 08 พฤศจิกายน 2008, 18:13:24 ขอบคุณครับ สำหรับ แนวคิดดีๆ :D
หัวข้อ: Re: ความแตกต่างระหว่าง "คนรวย" กับ "คนชั้นกลาง(คนจน)" เริ่มหัวข้อโดย: whitebmw ที่ 09 พฤศจิกายน 2008, 19:38:37 ปล.พี่whitebmw พึ่งเอามาโพสที่ไทยเสียวหรอครับ :) เห็นโพสที่sem.or.thตั้งนานแล้ว (เห็นสองกระทู้แหละ) เพิ่งเอามาโพสที่นี่ครับ ที่เห็นสองกระทู้ อันแรกผมตอบในกระทู้อ่ะครับ ส่วนอันที่สอง ผมเอามาเป็นหัวข้อใหม่เลย คนอื่นที่ไม่ได้เข้าไปกระทู้ที่ผมตอบ จะได้อ่านสิ่งที่ดีๆอ่ะครับ หัวข้อ: Re: ความแตกต่างระหว่าง "คนรวย" กับ "คนชั้นกลาง(คนจน)" เริ่มหัวข้อโดย: satansatan ที่ 09 พฤศจิกายน 2008, 20:08:22 คนรวยกับคนจนต่างกัน เพราะคนมันมีหลากหลาย คิดต่างกัน พอใจในสิ่งต่างๆไม่เท่ากัน
ไม่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ หรือไม่ได้ทำก็ตาม ยังไง ก็ไม่มีทางที่คนทุกคนจะรวยกันหมด ยกเว้น รวยแต่เขือ - -" เพราะว่า คำตอบ เป้าหมาย ของคนทุกคน ใช่ว่า จะคือ ความรวย กันหมด หัวข้อ: Re: ความแตกต่างระหว่าง "คนรวย" กับ "คนชั้นก เริ่มหัวข้อโดย: tommy009 ที่ 09 พฤศจิกายน 2008, 20:13:37 ชอบครับบทความนี้ ผมว่าเป็นหลักธรรมเหมือนกันนะครับ
ถ้าเราไม่ทำงานเพื่อเงินงั้นเราก็คงไม่ต้องทำงานหรอกครับ เราไปปลูกผักเลี้ยงสัตว์สบาย ๆ ก็คงอยู่ได้(มั้ง?) การที่เราเป็นลูกจ้างก็เหมือนเราเป็นฟันเฟืองตัวหนึ่ง (ไม่ทำไม่ได้เงิน) บางคนอาจทำเพราะชอบงาน (จริงหรือ?) ทำเพราะได้ประสบการณ์ (ทำจนแก่แล้วยังอยากได้ประสบการณ์เพิ่มอีก คง level 999 แล้ว) ถ้าชอบจริงก็ดีครับ เราจะให้เงินเป็นนายเรา หรือเราเป็นนายเงินก็อยู่ที่ความคิดของเราแหละครับ หัวข้อ: Re: ความแตกต่างระหว่าง "คนรวย" กับ "คนชั้นกลาง(คนจน)" เริ่มหัวข้อโดย: lazysunday ที่ 09 พฤศจิกายน 2008, 22:04:30 และมีอีกหนังสือหนึ่งที่น่าอ่าน ชื่อว่า ซีเครต ออฟ มิเลี่ยนแนร์
หัวข้อ: Re: ความแตกต่างระหว่าง "คนรวย" กับ "คนชั้นกลาง(คนจน)" เริ่มหัวข้อโดย: arabanaki ที่ 09 พฤศจิกายน 2008, 22:34:30 อ่านๆ ดูแล้วเหมือนเนื้อหา พ่อรวยสอนลูกนะเนี่ย หรือว่ามันก็ต้องออกมาแนวๆนี้เหมือนกันหมดนะ สรุปว่าผมอยากรวยนะ ตอนนี้ก็มองการณ์ไกลไปห้าปีละ กำลังมองให้ไกลกว่า นั้น และก็ทะยอยสร้างทรัพย์สินทางอินเตอร์เน็ตไปเรื่อยๆ ทุกวันครับ ประมาณน้ำึซึมบ่อยทราย ค่อยๆได้ แต่ได้ไปเรื่อยๆ และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ :'(
หัวข้อ: Re: ความแตกต่างระหว่าง "คนรวย" กับ "คนชั้นกลาง(คนจน)" เริ่มหัวข้อโดย: aRaiVa ที่ 10 พฤศจิกายน 2008, 08:35:31 อ่านพ่อรวยสอนลูกเล่น 1 และ เล่ม 2 (ESBI) ต่อได้เลยครับ :D :D :D
หัวข้อ: Re: ความแตกต่างระหว่าง "คนรวย" กับ "คนชั้นกลาง(คนจน)" เริ่มหัวข้อโดย: sukket.com ที่ 10 พฤศจิกายน 2008, 09:17:06 8)
ส่วนใหญ่เป็นความแตกต่างด้านความคิดทั้งนั้นเลยนะครับ ถ้าคิดบวก ยังไงก็ดีกว่า จริงๆ หัวข้อ: Re: ความแตกต่างระหว่าง "คนรวย" กับ "คนชั้นกลาง(คนจน)" เริ่มหัวข้อโดย: whitebmw ที่ 10 พฤศจิกายน 2008, 09:26:07 และมีอีกหนังสือหนึ่งที่น่าอ่าน ชื่อว่า ซีเครต ออฟ มิเลี่ยนแนร์ หนังสือเล่มนี้ดีมากครับ อยากให้เพื่อนๆทุกคนได้อ่าน หนังสือเล่มนี้มีนักธุรกิจระดับสูงๆหลายคนที่แนะนำให้อ่านครับ หัวข้อ: Re: ความแตกต่างระหว่าง "คนรวย" กับ "คนชั้นกลาง(คนจน)" เริ่มหัวข้อโดย: komgrit_su ที่ 10 พฤศจิกายน 2008, 09:29:40 ผมว่าไม่ว่าจะรวยหรือจน แต่ถ้ามีความสุขกับชีวิตก็ไม่ใช่ปัญหา คนจนอาจจะคิดหรือทำแบบนั้น แต่ถ้ามันทำให้รู้สึกดีหรือมีความสุขกว่าที่จะใช้ชีวิตหรือคิดแบบคนรวย เป็นผมก็ยอมจนครับ ความสุข มันไม่เกี่ยวว่าต้องรวยหรือจนนี้ครับ ไม่ว่าจะมีแนวคิดแบบใดก็มีความสุขได้ แต่ว่าความคิดเหล่านั้นจะนำพาเราไปยังจุดใด? ตวามคิดคนรวย ก็ส่งผลให้เขารวย ความคิดคนจนก็ส่งผลให้เขาจน (ไม่ขอขยายความนะครับ) แต่หลายคนที่จนและรวยก็มีความสุขเหมือนกัน(และในอีกหลายคนก็ทุกข์ถนัดเหมือนกัน) เรื่องความรวย มันอยู่ที่ว่า เราจะรวยไปทำไม? รวยแล้วได้อะไร? แล้วสำหรับเราน่ะเท่าไหนถึงรวย? (ได้เงินต่อเดือนสี่หมื่น แต่จ่ายต่อเดือนหมื่นนึง รวยหรือจน? ก็ต้องรวยอยู่แล้วเพราะมีรายได้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งหมด) คิดอะไร เราก็เป็นอย่างที่คิด ปล.พี่whitebmw พึ่งเอามาโพสที่ไทยเสียวหรอครับ :) เห็นโพสที่sem.or.thตั้งนานแล้ว (เห็นสองกระทู้แหละ) คิดเหมือนผมเลยครับ รวยไปทำไม? อันนี้ก็แล้วแต่ความพอใจของแต่ละคน สำหรับผม ทำงานประจำรับเงินเดือนก็เพียงพอแล้ว มีความสุข ไม่เป็นทุกข์ บางทีึคนรวยมาก ใช่ว่าชีวิตจะมีสุข ยิ่งรวยยิ่งพันธะมาก ห่วงมาก ไม่เป็นสุข พระพุทธเจ้าถึงสอนว่า ทุกสิ่ง ทุกอย่างเป็นของนอกกาย ตายไปก็เอาติดตัวไปไม่ได้ มีแต่คุณความดีเท่านั้น ที่ยังคงอยู่ตลอดไป |