ThaiSEOBoard.com

หลังจากเปิดบริการมาได้เกือบ 18 ปีแล้วของ Google Adwords ทาง Google ก็ได้ประกาศ rebrand จาก Google Adwords ไปเป็น Google Ads เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งเหตุผลที่ทำให้ Google ตัดสินใจ rebrand ก็เพราะคำว่า AdWords ทำให้มีความรู้สึกว่าเป็นบริการโฆษณาที่เน้นไปในรูปแบบ text เสียมากกว่า ซึ่งที่ผ่านมา Google AdWords นั้นก็มีบริการหลายหลายมากไม่ว่าจะเป็น Google Display, Youtube ฯลฯ

(https://storage.googleapis.com/gweb-uniblog-publish-prod/original_images/GAds-Logo-Animation_wTitles.gif)

นอกจาก AdWords ที่จะเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น Google Ads แล้วยังมีบริการ DoubleClick และ Google Analytics 360 Suite ที่สามารถจัดการโฆษณาสำหรับนักการตลาดนี่ก็จะถูกยุบรวมเป็น Google Marketing Platform และบริการ DoubleClick for Publishers และ DoubleClick Ad Exchange แพลตฟอร์มจัดการโฆษณาสำหรับ Publisher เจ้าของเว็บไซต์ และผู้ผลิตเนื้อหา จะถูกยุบรวมไปเป็น Google Ad Manager ด้วยเช่นกัน


นักการตลาดทางด้าน SEM (Search Engine Marketing) ในสมัยก่อนได้เห็นข่าวนี้ คงจะนึกย้อนไปเมื่อยุคตอนสมัยที่ Google กับ Yahoo ตอนนั้นที่แข่งขันกันอย่างดุเดือด โดยระบบของของ Pay Per Click เริ่มมีขึ้นในปี 1996 โดยเว็บไซต์ Goto.com ในปี 1998 นั้นต่อมาได้เปลี่ยนเป็น Overtureในปี 2001 หลังจากนั้นก็ถูกซื้อโดย Yahoo! ในปี 2003 ตอนนั้นจำได้เลยว่า ผู้เขียนยังใช้ Modem 56K อยู่เลย ^^




credit : http://www.atimedesign.com/webdesign/sem-google-ads/

ขอบคุณครับ ได้เมลมาเหมือนกัน เห็ฯว่ามี Bonus Adword แถมด้วย แต่ผมไม่รู้จะเอาไปทำอะไรเลยไม่ได้สนใจ

มวลน้ำขนาดใหญ่มาก ไหลลงมาสู่ทะเลที่ใหญ่อันไม่มีที่สิ้นสุด
ด้วยความเร่งเพิ่มขึ้นทุกวัน ในน้ำมีสัตว์น้ำหลายชนิด ยากที่จะดักจับง่ายๆ
การเป็นบริษัทหาปลาอันดับหนึ่งต้องคิดสร้างเครื่องมือใหม่ขึ้นมาช่วย
ทะเล คือ อินเตอร์เน็ต
มวลน้ำขนาดใหญ่ คือ จำนวนข้อมูลที่เข้าสู่ อินเตอร์เน็ต
ปลา หมายถึงข้อมูลที่มีประโยชน์ ใช้ทำการค้า
บริษัทหาปลาอันดับหนึ่ง คือ Google (ว่านแห่จับข้อมูลด้วยบอท)
เครื่องมือใหม่ คือ Deep Learning

สมัยก่อนเราใช้แบบจำลองคณิตศาสตร์ธรรมดา เช่น สถิติ กราฟเชิงเส้น หรือAI
ซึ่งกูเกิลและทุกบริษัทก็มีทูล Analytics ทั้งนั้น เพื่อวัดหาค่าข้อมูลมาใช้
ในเชิงการค้า ธุรกิจ หรือให้ลูกค้าใช้เป็นเครื่องมือในการหาข้อมูลตัวเอง

แต่ปัจจุบันนี้ Big Data คือ ข้อมูลมีหลากหลายชนิด เช่น ข้อความ ภาพ วิดีโอ
แผนที่ดาวเทียม กล้องอัจฉริยะที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นด้วยความเร่งสูงมาก
การจะใช้ Analytics หาค่าข้อมูลเหล่านั้นทำไม่ได้แล้ว โดยเฉพาะกูเกิล
พูดตรงๆ ก็คือ ใช้ แบบจำลองคณิตศาสตร์ทั่วไป AI แบบบ้านๆไม่ได้แล้ว
ต้องใช้ Deep Learning อย่างเดียว เพื่อให้ทันต่อความเร็วและ
ความหลากหลายของชนิดข้อมูล เพื่อให้เกิดผลกำไรสูงสุด

ปัญหาใหญ่ของ Big Data ในโลกทุกวันนี้คือ คอนเทนต์วิดีโอ มันวัดคุณภาพ
เนื้อหายากและใช้กำลังเอนจิ้นเยอะมาก สำหรับวัดคุณภาพเนื้อหาพวกนี้

Google เฟสบุค เองประสบปัญหาคอนเทนต์วิดีโอล้น เกินกว่าจะวัดคุณภาพได้
ปัจจุบันยังใช้แบบผสมผสานอยู่ ยังไม่ถึงขั้น Deep Learing ทั้งหมด

ดาต้าเบสในการเก็บข้อมูลพวกนี้ ก็ต้องเป็นไฮบริด คือ มีทั้งแบบโครงสร้าง
และไม่มีโครงสร้างผสมกัน เพื่อรองรับความเร็วและความหลากหลายชนิดข้อมูล
ซึ่งทำให้ยุ่งยากมากในการเริ่มเข้าสู่ยุคใหม่นี้ นั่นคือ ยังมีความผิดพลาดในบางส่วน

ท้ายสุดและสุดท้าย Deep Learning คือ คำตอบในโลกยุคหน้า และกูเกิลเอง
ก็สร้างสตาร์ทอัพด้านนี้เยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นบริษัทด้านเซิร์จ มาร์เก็ตติ้ง คลาวด์
แผนที่สามมิติ และรถยนต์ไร้คนขับ

การรีแบรนด์ครั้งนี้ กูเกิลได้ก้าวข้ามยุคเก่าก้าวไปสู่ยุคใหม่แล้ว ยุคที่แบบจำลอง
คณิตศาสตร์ สติถิ ดาต้าเบสแบบเก่า ไม่สามารถใช้ได้กับบริษัทเสิรจอันดับหนึ่ง
ของโลกได้อีกต่อไปแล้ว

กูเกิลรีแบรนด์ Ads แบบเก่าเพื่อให้เข้ากับยุค Big Data และ Deep Learning
เป็นการเบิกทางครั้งใหม่ให้กับคนทุกคนบนโลกนี้ ว่าเราจะเข้าสู่ยุคหน้ากันแล้ว

ขอบคุณคะ เห็นข่าวมาสักพักเหมือนกัน

น่าจะมีอะไรๆดีขึ้นเยอะนะ

ขอบคุณคะ

ขอบคุณสำหรับข่าวครับ  :wanwan003: :wanwan003:

ขอบคุณสำหรับข่าวสารดีๆ แบบนี้ครับผม  :wanwan020:

มันต่างจากแอดเวิคตรงไหนเหรอ

ปรับเปลี่ยนเพื่อให้สอดคล้องกับโปรเจกต์ที่ให้บริการ :wanwan003: :wanwan003:

ขอบคุณครับ  :wanwan017:

ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ