ThaiSEOBoard.com

(https://www.picz.in.th/images/2018/02/12/39ED83E2-7701-4C6D-93EA-AA389B0FE2A3-728x485.jpg)

วิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย


ธปท. แบนบิทคอยน์ เรียบร้อย ลำพังปัจจุบันคนเทรดก็แทบจะโดดลงจากจากดอย แทบไม่ทันอยู่แล้ว แต่วันนี้ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ออกประกาศขอความร่วมมือทุกสถาบันการเงิน อย่าร่วมทำธุรรรมกับพวก คริปโต้ทั้งหลาย
ต่อไปนี้ใครมาบอกโอนเข้าบัญชี โอนเข้าบัญชีแลกเป็นเงินจริง ผ่านบัญชีธนาคาร แปลว่าในอนาตตอันใกล้ มีความเสี่ยงว่าจะทำไม่ได้แล้วนะครับ เพราะธนาคารทุกแห่งกำลังจะเลิกทำธุกรรมการเงินกับพวกนี้แล้ว ทังซื้อ ขาย แลก เปลี่ยน โอน

หมายเหตุ 23.22 น.:ขอ editแก้ไขข้อความ ที่ดูไม่เป็นมิตรและข้อความที่อาจทำให้เพื่อนๆในบอร์ดเข้าใจผิด

บิทคอยน อิส เด้ด
รเปล่าครับแบบนี้

เคยเห็นในโฆษณา

ข่าวจากไหนหรือครับ

ขอบคุณครับ :wanwan017: :wanwan017: :wanwan017:

ไอ้คุณ SpaRK เป็นอะไรมากเปล่าครับ

ไม่เป็นไรในเมื่อคุณบอกมาออกตัวแรง เดี๋ยวเงินใน บัญชี BX ให้ BX เรายึดแลยละกันครับ

แฟร์ๆเนาะ ดีต่อใจคุณเนาะ ถือว่า บริจากนะครับ

เขาเช็ค IP คุณได้นะว่า และพิสูจน์ได้ด้วยว่าคุณคือคนๆเดียวที่ล๊อกอิน BX  ดีต่อใจครับ อิอิ

คำว่าขอความร่วมมือ มันมีมานานแล้วท่าน 555+

สมมุติผมมีเงิน แสนล้าน ฝากกับ ธนาคารแห่งหนึ่ง คุณคิดว่า ธนาคารแห่งนั้นจะฟัง ธนาคารแห่งประเทศไทยที่ขอความร่วมมือไหมครับ 555+

คิดสิๆๆๆ

ตราบใดที่ไม่มีข้อกฏหมายมาบังคับใช้

อย่าสร้างกระแสครับ

ผมบอกแล้วว่าให้ไปศึกษา ดูข่าวเยอะๆ
คุณนะเป็นคนเล่นผมรู้ แต่อยากดัง ...ประมาณว่า สร้างภาพ .. :wanwan023:

ข่าวล่าสุดวันนี้ครับผม

https://www.matichon.co.th/news/838813

 ไม่ใช่ข่าวเก่าครับข่าวพึ่งออกวันนี้ ตอนสี่ห้าโมงเย็น หลายคนคงนึกว่าข่าวเก่า ไม่ใช่เป็นข่าวใหม่ครับ ลิงอ่านดูครับข่าวเขาว่าอย่างไร
https://www.matichon.co.th/news/838813

ขอบคุณครับ

สงสัย ธนาคารแห่งประเทศไทย ขึ้นรถไม่ทัน แน่ๆ

(อ่านให้เยอะๆ)

โดยอ้างอิงจากประกาศของทางธนาคารแห่งประเทศไทยนั้นดังนั้น ทางธปท.ได้ทำหนังสือถึงสถาบันการเงินทุกแห่ง ลงนามโดยนายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าธปท.ในเรื่องการขอความร่วมมือสถาบันการเงินไม่ให้ทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับ Cryptocurrency ในกรณีดังต่อไปนี้

1. การเข้าไปลงทุนหรือซื้อขายในคริปโตเคอเรนซีเพื่อผลประโยชน์ของสถาบันการเงินเอง หรือผลประโยชน์ของลูกค้า
2. การให้บริการรับแลกเปลี่ยนคริปโตเคอเรนซีผ่านช่องทางให้บริการของสถาบันการเงิน
3. การสร้างแพลตฟอร์ม (platform) เพื่อเป็นสื่อกลางให้ลูกค้าเข้าไปทำธุรกรรมเกี่ยวกับคริปโตเคอเรนซีระหว่างกัน
4. การให้ลูกค้าใช้บัตรเครดิตในการซื้อคริปโตเคอเรนซี
5. การสนับสนุนหรือให้คำปรึกษากับลูกค้าเกี่ยวกับการลงทุนหรือการแลกเปลี่ยนคริปโตเคอเรนซี

นอกจากนี้ ธปท.ขอให้สถาบันการเงินทุกแห่งเพิ่มความระมัดระวังการให้บริการด้านเงินฝากและด้านสินเชื่อที่เกี่ยวข้องกับการเปิดบัญชี หรือการใช้บัญชีที่อาจนำไปสู่การทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับคริปโตเคอเรนซี โดยขอให้สถาบันการเงินถือปฏิบัติในเรื่องการรู้จักตัวตนของลูกค้า (Know Your Customer : KYC) และดำเนินการตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้า (Customer Due Diligence : CDD) อย่างเคร่งครัด ตามกฎหมายและประกาศที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนแนวปฏิบัติที่ทางการอาจกำหนดเพิ่มเติมต่อไป รวมทั้งร่วมกันดำเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้การทำธุรกรรมดังกล่าวถูกใช้เป็นช่องทางในการกระทำผิดกฎหมาย”

โดยสรุปคือ หนังสือฉบับนี้นั้นมิได้มีผลกระทบใด ๆ ต่อนักเทรดทั่วไป โดยทางธปท.ยังมิได้มีการออกกฏข้อบังคับที่แน่ชัดในด้านนี้ และมิได้มีการห้ามมิให้มีการเทรดคริปโตในประเทศแต่อย่างใด

อ่านให้หมดทุกตัวอักษร ถ้าอ่านแล้วเข้าใจนะ สิ่งที่เขาบอกคือ ธนาคารอย่าเข้าไปซื้อ อย่าเข้าไปเทรด หรือขุด bitcoin นะครับ ขอความร่วมมือธนาคารนะครับ ไม่ได้ขอความร่วมมือกับประชาชน อ่านหลายๆ รอบให้เข้าใจครับ

ผมติดใจกับคำว่า ไม่ให้ทำธุรกรรมด้วยทุกแฟลตฟอร์ม น่าจะหมายถึง สมมุติเรามีเหรียญ แต่อยากแลกเป็นเงินจริง มันก็จะแลกไม่ได้ใช่เปล่าครับ เพราะธนาคารไม่ให้ความร่วมมือ แล้วทีนี้เงินในบิทคอยน์ก้อคล้ายๆเงินในเกมส์ Rov คือรวยและเงินเยอะแต่ในเกมส์[พอร์ท ]แต่แลกเป็นเงินจริงๆไม่ได้
 อันนี้ความเห็นส่วนตัวนะครับ เพราะในกระทู้บิทคอยน์ก็เริ่มมีความกังวลในประเด็นนี้กันบ้างแล้ว

โพสน์ไม่ติด แก้ไข

การซื้อขาย bitcoin หรือ eth เราไม่ได้ซื้อขายกับธนาคารนะครับ เราซื้อขายกับ bx , tdax หรือเว็บเทรดอื่นๆ เว็บเทรดไม่ใช่ธนาคารนะครับ

นอกซะจากว่า กฎหมายห้ามซื้อขาย bitcoin โดยการโอนเงินให้กันผ่านธนาคาร เช่น ถ้านาย ก. จะซื้อ bitcoin จากนาย ข. ก็ต้องหาทางจ่ายเงินกันเอาเอง ห้ามโอนเงินให้กันผ่านธนาคารเด็ดขาด (แต่ถ้าโอนเงินกันจริง ใครจะรู้ล่ะว่านาย ก. กับนาย ข. โอนเงินเพื่อซื้อขาย bitcoin กัน)

อ้างอิง
2. การให้บริการรับแลกเปลี่ยนคริปโตเคอเรนซีผ่านช่องทางให้บริการของสถาบันการเงิน

นี่ละครับตัวปัญหา เพราะธนาคารไม่สามารถที่จะ KYC ลูกค้าตัวเอง อันนี้ถ้าใครอยู่ในวงการเทรดหุ้นจะรู้นะครับว่า kyc สำคัญมากๆ

(https://www.picz.in.th/images/2018/02/12/IMG_20180212_230255.png)

เป้นข้อมูลที่ดีนะ น้อยสุดก้จะได้เซฟๆ ตัวเอง  :wanwan017: ผมฟังคุณเกศรา แกก้บอก ระวังกันเอาเอง ซะงั้น  :P

 :wanwan009: :wanwan009: :wanwan009:

 :wanwan031:

ปกติก็ไม่เข้าไปแตะอยู่ละ น่ากลัว ไม่ชอบเสี่ยง 555

มาอ่านเก็บเป็นความรู้ในการลงทุน

กระทู้คลิกเบท  :wanwan004: :wanwan004:

อ่านจบแล้วคนล่ะความหมายเลย

ล่าสุดมีข่าวออกมาว่าสมาคมแบงก์ขานรับ

https://siamblockchain.com/2018/02/13/thai-banks-accept-bot-request-not-to-involve-in-any-cryptocurrency-services/

กล่าวโดยสรุปคือ ทั้งเว็บเทรดอย่าง TDAX รวมไปถึงการเปิดขาย ICO JFin ในวันพรุ่งนี้นั้นยังไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใดจากการประกาศในวันนี้

 ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่มีรายละเอียดว่า BX ได้รับผลกระทบมากน้อยเพียงใด แต่คนที่เล่น ผ่าน BX
ก็ได้เตรียมทางหนีทีไล่ไว้เรียบร้อยแล้ว จึงยังไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงมากนัก

เก็บเป็นความรู้

ไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมายอะไร เพราะธนาคารทั่วโลกเค้าก็พยายามปิดกั้น cryptocurrency อยู่เหมือนๆ กัน
ไม่มีใครอยากให้ตัวเองถูก disrupt หรอก    :wanwan016:

แต่จะทำได้เร้อ    :wanwan044:

ผมบอกได้เลยว่าประเทศไทนที่เปิดรับ cryptocurrency ก่อนและมีการวางกฎระเบียบที่เหมาะสม จะกลายเป็นมหาอำนาจทางการเงินของโลกในอนาคต

ตอนนี้เห็นข่าวนี้ผมก็รู้แล้วว่าประเทศไทยไม่ใช่หนึ่งในนั้น ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจอะไร

ธปท. การป้องปรามเฉยๆ ครับ ไม่ได้สั่งห้าม คำว่า "ขอความร่วมมือ" ตีความไม่เป็นจริงๆ เหรอ

เรื่องนี้ต้องติดตามข่าวกันต่อครับ เพราะยังไม่ถึงขั้นฟันธง

ที่ไทยผิดกฎหมายไปเล่นที่นอกสิคับ 

ยังจะปลอบใจตัวเองอยู่อีกหรือครับ หาทางหนีทีไล่ดีกว่านะ หลายๆคนก็เริ่มมองหาช่องทางกันละ ขนาดคนเล่นผ่าน bx ยังหนาวๆร้อนๆเลย

ช่องทางโอนเงินบาทเข้ามาไทย มีครับไม่ต้องผ่านแบ็ง แต่แบบนี้รัฐก็เสียรายได้เพราะเก็บภาษีไรไม่ได้ ธุรกิจที่จะใช่ blockchain ก็หยุดชงักผลดีก็มี ผลเสียก็มี สำหรับการจะควบคุมสิ่งที่ ควมคุมไม่ได้อยุ่ในตัวมันเอง   มองหลายๆด้าน คุณจะเห็นว่าเราเสียโอกาสอะไรไปบ้าง ผมมองแบบญี่ปุ่น :wanwan044: