ThaiSEOBoard.com

 :wanwan011: คือสงสัยเกี่ยวกับ ข้อความ โฆษณา ที่แก้ไขค่ะ
ว่าทำไมพอเราแก้ไขข้อความแล้ว ค่าต่างๆ ไม่ยอมตามมา ดังรูปค่ะ

(http://www.img.in.th/images/5DvKtlpe.png)

 :wanwan008: รบกวนขอคำชี้แนะด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ มือใหม่จริงๆ

หรือว่าการแก้ไขข้อความโฆษณา จะต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่หมดคะ

ใช่ครับ มันจะถือว่าเป็น ads ใหม่เลยครับ

วิธีที่ถูกต้องคือ ถ้า ads ไหน ctr สูงอยู่แล้ว ถ้าต้องการเปลี่ยนแปลงอะไร ให้ทำอีกอันคู่กันไปจะดีกว่าครับ

 :wanwan017: ขอบคุณสำหรับคำชี้แนะมากๆ ค่ะ งั้นแสดงว่าเวลาเราจะลงโฆษณา ก็ให้หยุดโฆษณาอีกรูปแบบหนึ่ง หยุดทำงานไปก่อน
แล้วอย่างนี้พวก คีย์เวิร์ด สำหรับการค้นหาที่เราตั้งค่าไว้ Adword ยังจะมองเป็นรูปแบบแคมเปญ แบบเดิมอยู่ใช่ไหมคะ

ปกติให้ใช้วิธี copy สร้างใหม่ แล้วอันเดิมให้ pause สถิติเก่าจะยังอยู่



CPC 30 กว่าบาท หมวดไหนล่ะนั่น ทำไมแพงซะ :-O


ทริกเล็กๆ น้อยๆ อันดับของโฆษณามีผลต่อ CTR โดยตรง แต่ไม่มีผลต่อยอดขายโดยตรงนะครับ บางทีไม่จำเป็นต้องบิทให้แพงขนาดนั้นก็ได้ ลองดู quality score ว่าคะแนนเท่าไหร่ ถ้าคะแนนไม่ดี bid มันจะแพงโดยใช่เหตุครับ

ค่าทุกอย่างจะเหมือนเดิมครับ แต่การเปลี่ยน Ads จะมีผลต่อ CTR แน่นอนครับ

และถ้า CTR เราดีขึ้น Quality Score ดีขึ้น ค่าใช้จ่ายจะลดลงครับ ถ้า CTR แย่ลง ก็จะเป็นตรงข้ามทุกอย่าง

ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องดูยอดขายอย่างที่คุณ Fertilizer บอกนะครับ

การทำ Adwords หลักสำคัญที่สุดคือ การลองผิดลองถูก และต้องมีข้อมูลว่าสิ่งที่เราทำมาถูกทางจริงหรือเปล่า

ขอบคุณท่านผู้รู้ทั้ง 2 ท่าน ที่ช่วยชี้แนะค่ะ  :wanwan023:
พอดีพึ่งได้มาลองทำคะ เลยไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ อ่านหนังสือก็แล้ว
หาข้อมูลในบอร์ดก็แล้ว แต่ก็ยังไม่ค่อยเข้าใจ

พอดี Adwords ตัวนี้มีพี่ที่เค้าทำเอาไว้ก่อนออกค่ะ
เราก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง ว่าราคาต้องบิทอะไรยังไง
แต่เห็นพี่เค้าทำไว้ ส่วนมากมีแต่บิตราคาสูงๆ

เอ่อไม่ทราบว่าจะถามอีกซักคำถามได้ไหมคะ  :wanwan009:
ว่าราคา "เริ่มต้น" นี่คืออะไรเหรอคะ เห็นราคาเสนอเริ่มต้นถูกตั้งไว้สูงกว่าราคา
คีย์เวิร์ด มากๆ เลยหน่ะคะ
ขอบคุณทุกคำชี้แนะ อีกครั้งนะคะ  :wanwan017:

ผมไม่แน่ใจว่า ราคา "เริ่มต้น" มันคือตัวไหนครับ เพราะผมจะถนัดใช้ Adwords แบบอังกฤษมากกว่า

แต่เดาว่าน่าจะเป็น ราคาแนะนำจะขึ้นหน้าแรก First page bid estimate

ราคาตัวนี้ถ้าสูงมากมันเกิดจาก คู่แข่งเยอะ แล้วบิดกันหนัก หรือ Quality Score เราน้อยกว่า 5 ถ้าไปดูตรง keyword Quality Score จะเป็นสีแดง

แต่เอาเข้าจริง ๆ โฆษนาเราก็จะแสดงหน้าแรกอยู่ แต่ว่าจะแสดงไม่ 100%

วิธีแก้ แก้ที่ Quality Score และ CTR ให้สูง ๆ ราคาตัวนี้จะลด หรือ

หาคำอื่นที่การแข่งขันน้อยกว่านี้ ซึ่งในไทยผมว่าตรงนี้ยังทำกันน้อย เพราะส่วนใหญ่จะใช้คีย์หลัก ไม่ค่อยหาคำอื่นเพิ่ม

ลองศึกษาตรงนี้เพิ่มเติมจะช่วยให้ใช้คำค้นหาหรือ Keywords ได้มีประสิทธิภาพและทำกำไรจากโฆษณาได้มากขึ้นครับ

คำค้นหา 3 ระดับ

1. คำค้นหาทั่วไป (Browsing Keywords) เป็นคำค้นหาแบบกว้างๆ ยกตัวอย่างเช่น รถยนต์, รถยนต์มือสอง, ฮอนด้า, โตโยต้า เป็นต้น คำค้นหาในลักษณะนี้มีจำนวนการค้นหาเยอะมากที่สุด แต่มักจะเป็นคำค้นหาที่ทำให้เกิดอัตราการคลิกผ่านโฆษณา (Click Through Rate) ต่ำ และอัตราการเปลี่ยนเป็นลูกค้า (Conversion Rate) น้อย คำค้นหาในลักษณะนี้ต้องระวังการใช้ให้ดี เพราะมักจะทำให้ขาดทุนมากกว่าได้กำไรครับ

2. คำค้นหาเปรียบเทียบและรีวิว (Review & Comparing Keywords)

คำค้นหาที่แสดงถึงความต้องการเปรียบเทียบ (Comparing) เช่น

ฮอนด้าซีวิค สี (คนค้นหาอยากรู้ว่ามีสีอะไรบ้าง ?)
ฮอนด้าซีวิค ราคา (คนค้นหาต้องการทราบและเปรียบเทียบราคาจากหลายๆที่)

คำค้นหาที่แสดงถึงคำวิจารณ์ (Review)  เช่น

ฮอนด้าซีวิค ดีไหม ?
ฮอนด้าซีวิค รีวิว
ฮอนด้าซีวิค Pantip

คำค้นหาในหัวข้อที่สองมีความต้องการมากกว่าในหัวข้อที่ 1 จำนวนการค้นหาจะน้อยกว่าในหัวข้อที่ 1 แต่...อัตราการคลิกผ่านโฆษณาและอัตราการเปลี่ยนเป็นลูกค้าจะสูงกว่าข้อที่ 1

3. คำค้นหาที่มีความต้องการซื้อ (Buying Keywords) คำค้นหาที่มีความต้องการมากที่สุด เช่น

ซื้อฮอนด้าซีวิค
ซื้อฮอนด้าซีวิค ที่ไหนดี ?

คำค้นหาในหัวข้อที่ 3 มีจำนวนการค้นหาค่อนข้างน้อย แต่อัตราการคลิกผ่านโฆษณาสูง และอัตราการเปลี่ยนเป็นลูกค้าสูง!!! มักจะเป็นคำค้นหาที่ทำกำไรได้ดีที่สุด

(http://www.img.in.th/images/ndAx0T43b.png)

คือเราทำหมวดเกี่ยวกับ help desk ค่ะ (ไม่รู้ว่าบอกได้หรือเปล่า แหะๆ)  :wanwan012:
เลยไม่รู้ว่าว่า CPC 30 กว่าบาทนี้ มันแพงไปหรือเปล่า เพราะเราพึ่งมาจับทางด้านนี้เป็นครั้งแรกเลยค่ะ ตามที่บอกข้างต้น

แต่เราเห็นที่พี่เค้าตั้งราคาไว้นะคะ คือ ราคาเสนอเริ่มต้น 100 กว่าบาท ตามภาพ
แล้วก็พวกคีย์เวิร์ด มีแต่ คีย์เวิร์ดละ 30 กว่าบาททั้งนั้นเลยคะ

ยังไงถ้าท่านผู้รู้ท่านอื่นๆ มีข้อชี้แนะเพิ่ม รบกวนหน่อยนะคะ  :-[
ขอบพระคุณอีกครั้งค่ะ ทุกคำชี้แนะที่ได้รับ จะนำไปปรับปรุงค่ะ

เอ่อว่าแต่ทำไมในช่อง Adword ของเราไม่เห็นมีบอก Quality Score(คะแนนคุณภาพ) เลยละค่ะ
หรือไอ้เจ้า Quality Score เนี่ยเราต้องคำนวนเองคะ  :P

 :wanwan017: ขอบคุณสำหรับคำชี้แนะ ดีดี ค่ะ

คะแนนคุณภาพหรือ Quality Score ดูได้จากบัญชี Adwords เลยครับ ตามตัวอย่างรูปให้เราไปที่ คำหลัก >> สถานะ
ตรงช่องสถานะจะมีรูปเครื่องหมายเวลาคุยกัน ให้เราเอาเมาส์ชี้ไปทีนั่นครับ มันจะแสดงคะแนนขึ้นมาให้เห็นเลย

(http://www.img.in.th/images/k0YXyOhW4v.th.png) (http://www.img.in.th/Uwk)

ส่วนการบิดหรือการตั้งราคาเสนอจะแพงหรือไม่แพงให้คิดแบบนี้นะครับ

สมมุติว่าสินค้าของเรามีราคาขายที่ 10,000 บาท เราตั้งราคาเสนอไว้ที่ 100 บาท มีคนคลิกโฆษณาของเรา 100 ครั้ง เราได้ลูกค้ามา 3 คน

จำนวนลูกค้า x ราคาขาย = 3 x 10,000 = 30,000 บาท >> รายได้
จำนวนครั้งที่มีคนคลิกโฆษณา x ราคาเสนอ = 100 x 100 = 10,000 บาท >> ต้นทุน-1
ต้นทุนสินค้า 3 ชิ้น ชิ้นละ 3000 บาท 3 x 3,000 = 9,000 บาท >> ต้นทุน-2

รายได้ - (ต้นทุน-1 + ต้นทุน-2) = กำไร นั่นคือ 30,000 - (10,000 + 9,000) = 11,000 บาท >> กำไร

เรายอมรับกำไรในระดับนี้ได้ไหม ? ถ้ายอมรับได้ก็ถือว่าโอเคครับ สรุปคือให้เราดูว่าเราได้กำไรไหม ? และผลกำไรเป็นที่น่าพอใจหรือเปล่าครับ ?
ส่วนตัวแล้วเคยใช้ราคาเสนอแพงกว่า 100 บาทก็เคยทำมาแล้ว แต่ได้กำไรก็เลยทำครับ :)

ตัวอย่างนี้ผมคำนวณจากราคาเสนอนะครับ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วเราต้องคำนวณจากค่าคลิกที่เกิดขึ้นจริง เพราะโดยปกติแล้วค่าคลิกที่เกิดขึ้นจริง
จะต่ำกว่าราคาเสนอครับ

ปล ค่าคลิกที่เกิดขึ้นจริง (CPC = Cost per Click), ราคาเสนอ (Max CPC = Maximum Cost per Click)

ไม่ค่อยอยากเขียนเยอะเกิน เดี๋ยวคุณ stitchyfuse จะรับข้อมูลเยอะไป

อย่างที่คุณ Monetizer บอกนั้นแหละครับ ค่าบิดสูงไม่สูงเป็นเรื่องรองครับ ต้องดูที่ยอดขายและกำไรเป็นหลักครับ

ทั้งนี้ทั้งนั้น สินค้าของเราถ้าเป็นแบบเก็บค่าบริการรายเดือน หรือสินค้าที่ต้องซื้อประจำ ก็ต้องคิดราคาตรงนี้ให้ดี

ถ้าสินค้าหรือบริการของเรา เป็นแบบต้องคุยติดต่อกันก่อน ก็ควรให้แสดงโฆษนาเฉพาะตอนกลางวัน จะประหยัดค่าใช้จ่ายอีกพอสมควร ยกเว้นบริษัทเราจะเปิด 24 ชั่วโมง

แล้วอีกอย่างใน 1 Adgroup ต้องมีโฆษนา 2 อันเสมอ เพื่อจะได้ปรับโฆษนาที่ดีที่สุด เอาคร่าว ๆ เท่านี้ก่อนละกันครับ

ขอบพระคุณสำหรับคำชี้แนะ ดีดี อีกครั้งนะคะ  :wanwan017:
เป็นคำชี้แนะที่เป็นประโยชน์มากๆ เลยหล่ะค่ะ แต่เราก็คิดว่า
ตัวเองคงต้องลองผิดลองถูกไปอีกนาน ถึงจะเข้าใจการทำงานที่แท้จริง
ของ google adwords  :P

ตอบแบบนี้ค่อยนึกถึงสมัยเก่าหน่อย ขอเสริมด้วยแล้วกัน

เวลาทำ adwords สิ่งที่ต้องทำคือ..
- ติด analytics จากนั้นให้ link กับ adwords account (อย่าลืม creat view ของฝั่ง analytics ก่อน)
- ติด code remarketing จะทำฝั่ง adwords หรือฝั่ง analytics ก็แล้วแต่ถนัด
- ติด google webmaster tools
- ใส่ negative keywords (เช่นถ้าขายบ้านในกทมฯ ก็ใส่เป็นชื่อจังหวัดนอกกทมฯ เป็นต้น)
- หมั่นเข้าดูส่วน keywords --> search terms --> all บ่อยๆ ว่ามีคำที่ไม่เกี่ยวข้องโผล่มาหรือเปล่า ถ้ามีก็จับใส่ negative keywords ซะ ยิ่งถ้าใช้ keywords แบบ Broad Match ต้องเข้ามาดูทุกวันกันเลย แนะนำให้ใช้ Broad Match Modifier จะแม่นยำกว่า
- ปรับแต่ง text ad จนกว่าจะได้ CTR ที่ต้องการแล้วค่อยไปโฟกัสที่ส่วนอื่น

พอ remarketing list ถึงพันคนแล้วสร้าง campaign สำหรับ remarketing list โดยเฉพาะ เพื่อส่ง marketing message ถึงคนเหล่านี้โดยเฉพาะ เช่นโปรโมชั่นโค้ด หรือส่วนลด ฯลฯ


ฝึกทำให้เก่งๆ นะครับ พอเก่งแล้วมาทำงานบริษัทผม 555