|
หัวข้อ: กรณีศึกษา : ยอด ads คือตัวชี้วัดยอดขายหรือไม่ ? (4 ร้านค้า - 3 เดือน) เริ่มหัวข้อโดย: DePe ที่ 09 เมษายน 2015, 22:24:52 กรณีศึกษา : ยอด ads คือตัวชี้วัดยอดขายหรือไม่ ? (4 ร้านค้า - 3 เดือน)
ต้นปีที่ผ่านมามีโอกาสได้ทดลองอะไรสนุกๆ โดยส่วนตัวแล้วผมอยากเทสท์แบบนี้มานานละ แต่ปัจจัยหลายๆอย่างไม่เอื้ออำนวย หลักๆก็คือเรื่อง 1.เงินทุน(โดนตลอด เรื่องนี้) 2.โกดังที่ใช้ในการจัดการระบบ stock สินค้า 3.บุคลลากรที่รับผิดชอบในการดำเนินการ หัวข้อที่อยากทดลองก็คือ เมื่อคุมปัจจัยต่างๆให้เหมือนกัน ทั้งประเภทสินค้าที่ขาย ราคาสินค้า การรับประกัน ฯลฯ มีอะไรบ้างที่สำคัญที่สุดเวลาลูกค้าจะทำการสั่งซื้อหรือทำให้ยอดขายต่างกัน ช่วงปลายปีพอเริ่มโปร่ง ความพร้อมเรื่องเงินทุนก็พอมีและโกดังก็พร้อมใช้งาน เลยจัดการจ้างคนเพิ่ม ขึ้นร้านเพิ่มอีก 4 ร้าน โดยใช้ stock กลางและพนักงาน 3 คนดูแล 1 คน / 1 ร้าน ยกเว้นคนที่ 3 ให้ดูแล 2 ร้าน *** ต้นทุนคงที่ต่อ 1 ร้านค้า ในระยะเวลา 3 เดือน โทรศัพท์ android เกรดกลาง 1 เครื่อง : 7,000 บาท ซิม + เติมเงิน (3 เดือน) 900 บาท 1 Email + 1 Line ID ค่าจ้าง ไม่รวมค่าคอม 9k+12k+12k = 33,000 บาท/คน *** ใข้เวลาเทรนเรื่องสินค้า การถ่ายรูป การทำรายละเอียดสินค้า 1 อาทิตย์ ใช้เวลาเทรนงานรูทีน คอนเซปต์คร่าวๆของการทำงาน การตอบลูกค้าโดยจำลองจับคู่กันถามตอบ list ปัญหาเบื้องต้นที่ต้องเจอ จัดการทำเพจลงสินค้าอีก 1 อาทิตย์โดยปล่อยให้ลองลุยกันเองไปก่อนโดยตามดูอยู่ห่างๆ (ห่างจริงๆนะบางวันผมหายหัวเลย) จากนั้นใช้ Facebook ads อย่างเดียว โดยลง ads แบบแยกค่าใช้จ่ายกันและรันยาวไม่มีหยุดเพื่อเป็นปัจจัยในการวัดผลได้ภายหลัง ผลที่ได้ตามนี้ครับ (http://upic.me/i/49/v4xm1.jpg) (http://upic.me/show/55188542) สัปดาห์ที่ 1 เริ่มต้นได้ดี มีออเดอร์ทุกร้าน ให้ list ปัญหาประจำที่เข้ามาเป็นทำเป็น pattern การตอบลูกค้าเสริม สัปดาห์ที่ 2 เริ่มเห็นผลต่างกันชัดเจนขึ้น แต่ยังวัดผลอะไรมากไม่ได้เนื่องจากมีปัจจัย ต้นเดือน ปลายเดือน จำนวนคนเห็นมาเกี่ยวข้อง สัปดาห์ที่ 3 เก็บข้อมูลมาวิเคราห์พอครบรอบเดือนต้องปรับผลใหม่ (ตรงจุดนี้ต้องรอ 1 เดือนถึงจะประเมินได้เต็มที่) สัปดาห์ที่ 4 ระหว่างยอด 48550 ของร้าน #1 และยอด 20480 ของร้าน #2 นั้นต่างกันมากเกิน % ของค่าใช้จ่าย ads ซึ่งจะเห็นได้ว่า ร้านที่ #3 และ #4 นั้นทำยอดขายได้ดีกว่าร้านที่ #2 ทั้งๆที่ยอด ads น้อยกว่า ครบเดือนสรุปยอดมาก็มานั่งคุยกันถึงสาเหตุ และความเห็นของพนักงานที่จะมีส่วนช่วยปรับปรุงร้านและยอดขาย ได้ข้อสรุปคร่าวๆเดือนที่ 1 คือ จำนวน reach ร้าน #2 น้อยกว่า = คนผ่านหน้าร้านน้อยกว่าเพราะช่วงเวลาการโพสท์ทิ้งช่วงนาน เนื่องจากใช้เวลาในการตอบลูกค้านาน ส่วนร้านที่ #3 และ #4 นั้นยอดที่เพิ่มมาเป็นยอดลูกค้ารายใหญ่ที่ไม่ถือเป็นยอดปกติ ประกอบกับ #3 และ #4 ได้ทำการติดตามลูกค้าอย่างใกล้ชิด มีการจดสินค้าที่ขาดและแจ้งเตือนลูกค้าเมื่อมีสินค้าเข้า ทางแก้ไข - ทำ pattern การตอบให้กระชับมากขึ้นและครอบคลุมหัวข้อต่างๆให้หมด - เพิ่มการลงสินค้าใน Timeline Line ให้เท่ากับ Facebook Page - เพิ่มการติดตามลูกค้าให้มากขึ้น โดยให้จดชื่อทุกคนที่สนใจทั้งหน้าเพจและ inbox , line และทำการติดตามผลทั้งหลังใช้สินค้าและการติดตามว่าสินค้า lot ใหม่เข้าแล้ว แล้วก็เริ่มรันต่อเดือนที่ 2 (http://upic.me/i/wv/w8im2.jpg) (http://upic.me/show/55188543) ยอดเริ่มกระเตื้องขึ้นมามากสำหรับ #2 #3 #4 เนื่องจากการใส่ใจลูกค้าเยอะขึ้น บางช่วงยอดแซง #1 ที่ลง ads เยอะสุดในกลุ่ม เดือนที่ 2 นี้มีส่วนที่เพิ่มเข้ามาคือ การตั้งเวลาโพสท์ล่วงหน้า เนื่องจากปกติแล้วเวลาทำงานของพนักงานจะหยุดทุกวันอาทิตย์ ทำให้ยอดสะดุดถ้าไม่มีการโพสท์ล่วงหน้าทิ้งไว้ดึงคน แม้จะลง ads ไว้ก็จะทำให้เห็นว่าร้านเราไม่ active ผลตอบรับสำหรับเดือนที่ 2 นี้ ร้าน #3 มาแรงสุด ทั้งฟีดแบ็กจากลูกค้าและการสั่งซื้อซ้ำจากลูกค้าเก่า สรุปผล 12 สัปดาห์ (http://upic.me/i/mp/summay.jpg) (http://upic.me/show/55188544) ผ่านเดือนที่ 3 ด้วยความพร้อมของพนักงานค่อนข้าง 100% โดยแต่ละคนเก่งขึ้น ความสามารถเยอะขึ้น สามารถจัดการ stock สินค้า - จัดการลูกค้าได้แทบจะไม่พลาดเมื่อมีลูกค้าเข้ามา มีหลุดเรื่องงานรูทีนบ้างเช่นพวกตั้งเวลาโพสท์ แต่ก็ปรับกันไปทุกวัน ช่วงเดือนที่ 3 จะปรับถี่ ต่างจากเดือนที่ 1 เพราะไม่ใช่มือใหม่กันแล้ว ผมต้องลงไปคุมดูวันต่อวันโพสท์ต่อโพสท์กันเลยทีเดียวบางวัน ยอด ads ยอด like ไม่มีผลเท่าไหร่ ณ เวลานี้ เพราะแต่ละร้านจะมีกลิ่นเฉพาะของพนักงานแต่ละคน (สำนวนการพิมพ์ สิ่งที่สื่อถึงลูกค้าแต่ละร้านจะมีลักษณะเฉพาะไม่เหมือนกัน) ตรงจุดนี้ทำให้ยอดแต่ละร้านต่างกันแม้จำนวน ads จะมากน้อยก็ไม่เป็นผลเท่าไหร่นัก เฉพาะกรณีนี้นะครับที่สินค้าประเภทเดียวกัน ราคาเดียวกัน จะเห็นได้ว่าร้าน #1 ยอดน้อยกว่าร้าน #2-3-4 ในบางสัปดาห์ โดยมีข้อแตกต่างกันดังนี้ #1 พนักงานชายตอบ เชียร์ไม่เก่ง ให้ข้อเท็จจริงเก่ง ลูกล่อลูกชนไม่ค่อยมี ตรงๆทื่อๆ (คือมันได้ประมาณนี้แหละ) #2#3#4 พนักงาน ญ ตอบ เชียร์ของได้ มีจริตในการคุย สรุปโดยรวม ads เป็นแค่การดึงคนเข้ามาหน้าร้าน ส่วน % แปรผันของยอดขายนั้นขึ้นอยู่กับวิธีการจัดการลูกค้าของทางร้าน ความเอาใจใส่ลูกค้า เพราะตามตัวเลขที่เห็นนี้ การลงทุนที่คุ้มที่สุดเมื่อเทียบกับยอดที่ได้อาจจะเป็น #4 ก็ได้ครับ นี่ผ่านเดือนที่ 4 มาแล้วครับ ยอดดีขึ้นเพราะการลง ads แบบไม่ซ้ำเพจ อันนี้ผมเห็นเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมานะ ผลดีขึ้นเยอะเลย กอปรกับพนักงานเก่งขึ้นมากๆเดือนนี้ น้องผู้ชายก็พัฒนาขึ้นเยอะ แบบเห็นได้ชัด ส่วนการลดต้นทุนก็ให้ดูแลคนละ 2-3 ร้าน ศักยภาพพนักงานสบายๆครับ ทำงานเต็มที่ ออฟฟิศชิลๆ ได้ค่าคอมเยอะขึ้นด้วย เนื้องานมันเหมือนเดิม ก็มาเล่าสู่กันฟังครับ สำหรับการทดลองรอบ 3 เดือนที่เกิดขึ้น step นี้ไม่ยากครับ ปั้นกี่ร้านก็ได้ ยอด 100 ล้าน 1,000 ล้านก็ x จำนวนไป มันเป็นไปได้ครับผม มีอะไรจะเอามาแชร์ให้เพื่อนๆไทยเสียวอีกรอบ 6 เดือนครับ ขึ้นร้านใหม่ไว้อีกแผงนึงช่วงต้นปี อันนั้นอีกสไตล์นึง :-) /DePe หัวข้อ: Re: กรณีศึกษา : ยอด ads คือตัวชี้วัดยอดขายหรือไม่ ? (4 ร้านค้า - 3 เดือน) เริ่มหัวข้อโดย: sMongPed ที่ 09 เมษายน 2015, 23:06:27 โหดตลอดดดดดดดดดดดดดดดดดด :wanwan004:
หัวข้อ: Re: กรณีศึกษา : ยอด ads คือตัวชี้วัดยอดขายหรือไม่ ? (4 ร้านค้า - 3 เดือน) เริ่มหัวข้อโดย: lacoste ที่ 09 เมษายน 2015, 23:49:24 โอ้โหหหหหหห :wanwan004:
หัวข้อ: Re: กรณีศึกษา : ยอด ads คือตัวชี้วัดยอดขายหรือไม่ ? (4 ร้านค้า - 3 เดือน) เริ่มหัวข้อโดย: artmond ที่ 09 เมษายน 2015, 23:58:38 สงสัยครับว่าทำไมถึงไม่ควบคุม Ads ให้เท่ากัน
หรือว่ายอด Ads ที่ลงประเมินจากคุณภาพของพนักงานแล้ว ถ้าพนักงานเชียวชาญก็ลง Ads น้อยๆ ถ้าพนักงานใหม่ก็ลงเยอะๆ เพื่อให้ได้ยอดขายใกล้เคียงกัน เพราะที่ผมเคยทดลอง ยิ่งลงเงินไปเยอะ Conversion จะยิ่งลดลง เช่น ลง 100 ต่อวัน อาจได้ 300 คลิก ตกคลิกละ 0.33 บาท ถ้าลง 1000 ต่อวัน อาจได้ 2000 คลิก ตกคลิกละ 0.5 บาท หัวข้อ: Re: กรณีศึกษา : ยอด ads คือตัวชี้วัดยอดขายหรือไม่ ? (4 ร้านค้า - 3 เดือน) เริ่มหัวข้อโดย: KeyJunG ที่ 10 เมษายน 2015, 00:03:02 หืมกำลังประสบปัญหาเลย พอจะแง้มๆการเลือกกลุ่มเป้าหมายได้ไหมครับ ว่าใช้วิธีดึงกลุ่มหรือว่ากำหนดกับเฟสบุคอ่ะครับ ถามซื่อๆเลยหมดหนทางละครับ :wanwan017: :wanwan017:
หัวข้อ: Re: กรณีศึกษา : ยอด ads คือตัวชี้วัดยอดขายหรือไม่ ? (4 ร้านค้า - 3 เดือน) เริ่มหัวข้อโดย: คนจน ที่ 10 เมษายน 2015, 00:07:08 สุดยอดดดดด ไอดอลผมเลย :-[
หัวข้อ: Re: กรณีศึกษา : ยอด ads คือตัวชี้วัดยอดขายหรือไม่ ? (4 ร้านค้า - 3 เดือน) เริ่มหัวข้อโดย: DePe ที่ 10 เมษายน 2015, 04:11:11 สงสัยครับว่าทำไมถึงไม่ควบคุม Ads ให้เท่ากัน หรือว่ายอด Ads ที่ลงประเมินจากคุณภาพของพนักงานแล้ว ถ้าพนักงานเชียวชาญก็ลง Ads น้อยๆ ถ้าพนักงานใหม่ก็ลงเยอะๆ เพื่อให้ได้ยอดขายใกล้เคียงกัน เพราะที่ผมเคยทดลอง ยิ่งลงเงินไปเยอะ Conversion จะยิ่งลดลง เช่น ลง 100 ต่อวัน อาจได้ 300 คลิก ตกคลิกละ 0.33 บาท ถ้าลง 1000 ต่อวัน อาจได้ 2000 คลิก ตกคลิกละ 0.5 บาท ถ้าเท่ากันมันก็ = copy ร้าน มันไม่สนุกครับ น่าเบื่อ อยากให้มีอะไรต่างกันบ้าง กรณีนี้ยอด ads คือปัจจัยควบคุมครับ ที่ fix ไว้ 3 เดือน ผมไม่ดู conversion ครับ ถ้า ads มีกรณีเดียวที่จะลงมาดูคือ ads ไม่คุ้มกับกำไรครับ ถึงค่อยดิ้น การพิจารณายอดการลงไม่มีอะไรกำหนดครับ *** หืมกำลังประสบปัญหาเลย พอจะแง้มๆการเลือกกลุ่มเป้าหมายได้ไหมครับ ว่าใช้วิธีดึงกลุ่มหรือว่ากำหนดกับเฟสบุคอ่ะครับ ถามซื่อๆเลยหมดหนทางละครับ :wanwan017: :wanwan017: ญ 18-40 ประเทศไทย แค่นี้ครับ :wanwan007: ผมไม่ศรัทธานะพวกดึง uip คือผมคิดตลอดว่าลูกค้ามีเป็นล้านน่ะ ไม่เห็นต้องไปดึงจากไหนมาเลย เปิดคนใหม่ไปเรื่อยๆ หัวข้อ: Re: กรณีศึกษา : ยอด ads คือตัวชี้วัดยอดขายหรือไม่ ? (4 ร้านค้า - 3 เดือน) เริ่มหัวข้อโดย: ชาละวันหรรษา ที่ 10 เมษายน 2015, 08:22:41 กระทู้แห่งปี อีก 1 กระทู้ :wanwan003:
หัวข้อ: Re: กรณีศึกษา : ยอด ads คือตัวชี้วัดยอดขายหรือไม่ ? (4 ร้านค้า - 3 เดือน) เริ่มหัวข้อโดย: ptteppawong ที่ 10 เมษายน 2015, 08:26:45 ขอเก็บไว้ก่อนครับ เดี๋ยวมาอ่าน ขอบคุณมากครับที่แบ่งปัน...
หัวข้อ: Re: กรณีศึกษา : ยอด ads คือตัวชี้วัดยอดขายหรือไม่ ? (4 ร้านค้า - 3 เดือน) เริ่มหัวข้อโดย: qawe89 ที่ 10 เมษายน 2015, 08:26:56 เข้ามาอ่านด้วยคร้าบ THX
หัวข้อ: Re: กรณีศึกษา : ยอด ads คือตัวชี้วัดยอดขายหรือไม่ ? (4 ร้านค้า - 3 เดือน) เริ่มหัวข้อโดย: ninehax ที่ 10 เมษายน 2015, 08:43:01 เข้ามาอ่าน จน จบ ขอบคุณ สาระความรู้นี่จริงๆครับ จะได้นำปรับไปใช้กันต่อ :wanwan017:
หัวข้อ: Re: กรณีศึกษา : ยอด ads คือตัวชี้วัดยอดขายหรือไม่ ? (4 ร้านค้า - 3 เดือน) เริ่มหัวข้อโดย: beer1137 ที่ 10 เมษายน 2015, 08:53:29 ขอบคุณครับ :wanwan017:
หัวข้อ: Re: กรณีศึกษา : ยอด ads คือตัวชี้วัดยอดขายหรือไม่ ? (4 ร้านค้า - 3 เดือน) เริ่มหัวข้อโดย: birzzlekung ที่ 10 เมษายน 2015, 08:56:11 ขอบคุณมากครับ เป็นกรณีศึกษาได้ดีทีเดียว
งบน้อย ไม่ต้องทดลองเอง เลือกสินค้า ตั้งเป้าพุ่งชนเลย :wanwan017: :wanwan003: หัวข้อ: Re: กรณีศึกษา : ยอด ads คือตัวชี้วัดยอดขายหรือไม่ ? (4 ร้านค้า - 3 เดือน) เริ่มหัวข้อโดย: chanwangrong ที่ 10 เมษายน 2015, 09:15:30 ผมชอบตรงมีการพูดคุยกัน สรุปผล วิเคราะห์ปัญหาและแนวทางแก้ไข
เป็นกระทู้ที่ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากๆครับ :wanwan017: :wanwan017: หัวข้อ: Re: กรณีศึกษา : ยอด ads คือตัวชี้วัดยอดขายหรือไม่ ? (4 ร้านค้า - 3 เดือน) เริ่มหัวข้อโดย: Oatekung ที่ 10 เมษายน 2015, 09:36:08 คุมความเอาใจใส่พนักงานยังไงคับท่าน อยากเปิดรัวๆเหมือนกัน :P
หัวข้อ: Re: กรณีศึกษา : ยอด ads คือตัวชี้วัดยอดขายหรือไม่ ? (4 ร้านค้า - 3 เดือน) เริ่มหัวข้อโดย: artmond ที่ 10 เมษายน 2015, 10:28:15 สงสัยครับว่าทำไมถึงไม่ควบคุม Ads ให้เท่ากัน หรือว่ายอด Ads ที่ลงประเมินจากคุณภาพของพนักงานแล้ว ถ้าพนักงานเชียวชาญก็ลง Ads น้อยๆ ถ้าพนักงานใหม่ก็ลงเยอะๆ เพื่อให้ได้ยอดขายใกล้เคียงกัน เพราะที่ผมเคยทดลอง ยิ่งลงเงินไปเยอะ Conversion จะยิ่งลดลง เช่น ลง 100 ต่อวัน อาจได้ 300 คลิก ตกคลิกละ 0.33 บาท ถ้าลง 1000 ต่อวัน อาจได้ 2000 คลิก ตกคลิกละ 0.5 บาท ถ้าเท่ากันมันก็ = copy ร้าน มันไม่สนุกครับ น่าเบื่อ อยากให้มีอะไรต่างกันบ้าง กรณีนี้ยอด ads คือปัจจัยควบคุมครับ ที่ fix ไว้ 3 เดือน ผมไม่ดู conversion ครับ ถ้า ads มีกรณีเดียวที่จะลงมาดูคือ ads ไม่คุ้มกับกำไรครับ ถึงค่อยดิ้น การพิจารณายอดการลงไม่มีอะไรกำหนดครับ *** ขออนุญาตถามต่อนะครับว่าที่มาของตัวเลข Ads ที่ Fix มีที่มายังไงครับ 8400 / 5600 / 3500 / 1400 เพราะถ้าตั้งขึ้นมาเฉยๆ น่าจะเป็นเลขถ้วนๆ เช่น 8000 5000 3000 1000 ระดับท่านต้องมีที่มาที่ไปอยู่แล้ววววว เผื่อผมจะได้นำไปประยุกต์กับการทดลองผมบ้างครับ :wanwan017: :wanwan017: หัวข้อ: Re: กรณีศึกษา : ยอด ads คือตัวชี้วัดยอดขายหรือไม่ ? (4 ร้านค้า - 3 เดือน) เริ่มหัวข้อโดย: Kittyboy ที่ 10 เมษายน 2015, 10:29:36 ค่าจ้างพนักงานให้เยอะมากเลยครับ พอถามได้ไหมครับว่ากำไรต่อชิ้นกี่%ครับ แล้วช่วงราคาขายของสินค้าอยู่ระหว่างกี่บาทครับ
ผมขายสินค้าผลิตเองทั้งหน้าร้านและออนไลน์ และพึ่งลองมาขายสินค้ารับมาขายไปอยากทราบเป็นแนวทางครับ ปกติลงAdsสูงสุดแค่วันละ500 คือ..กลัว 55 แต่ก็ขายได้เรื่อยๆทั้ง2อย่างครับ(กลัวว่าถ้าเพิ่มงบโฆษณาแล้วยอดขายไม่สัมพันธ์กันจะเจ็บตัวเปล่า) แล้วFacebook Adsนี่ลงแต่เพจไลค์หรือบู้ทโพสไปด้วยครับ ปล.อ่านกระทู้พี่แรกๆตั้งแต่ปีที่แล้วเลยลองตามแนวทางทำได้จริงๆครับ ยอดขายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ยังไม่กล้าอัดโฆษณามากกว่านี้ครับ 55 หัวข้อ: Re: กรณีศึกษา : ยอด ads คือตัวชี้วัดยอดขายหรือไม่ ? (4 ร้านค้า - 3 เดือน) เริ่มหัวข้อโดย: Oatekung ที่ 10 เมษายน 2015, 11:01:39 ค่าจ้างนี่คือ คนละ 12k มี คอมใช่ไหมคับ ??
หัวข้อ: Re: กรณีศึกษา : ยอด ads คือตัวชี้วัดยอดขายหรือไม่ ? (4 ร้านค้า - 3 เดือน) เริ่มหัวข้อโดย: zidit ที่ 10 เมษายน 2015, 11:16:37 ข้อมูลแน่นปึ๊ก :wanwan003:
หัวข้อ: Re: กรณีศึกษา : ยอด ads คือตัวชี้วัดยอดขายหรือไม่ ? (4 ร้านค้า - 3 เดือน) เริ่มหัวข้อโดย: aodify ที่ 10 เมษายน 2015, 11:17:22 กระทู้ทีต้องติดตามเลย มีประโยชน์มากๆ :wanwan017:
หัวข้อ: Re: กรณีศึกษา : ยอด ads คือตัวชี้วัดยอดขายหรือไม่ ? (4 ร้านค้า - 3 เดือน) เริ่มหัวข้อโดย: peeratchai ที่ 10 เมษายน 2015, 11:46:02 อันนี้แต่ละสินค้ามีเว็บไซด์ของตัวเองหรือป่าวครับ หรือป่าวขายหน้า facebook อย่างเดียว
หัวข้อ: Re: กรณีศึกษา : ยอด ads คือตัวชี้วัดยอดขายหรือไม่ ? (4 ร้านค้า - 3 เดือน) เริ่มหัวข้อโดย: stepboy01 ที่ 10 เมษายน 2015, 11:46:18 สุดยอดมากเลยครับ ติดตาม
หัวข้อ: Re: กรณีศึกษา : ยอด ads คือตัวชี้วัดยอดขายหรือไม่ ? (4 ร้านค้า - 3 เดือน) เริ่มหัวข้อโดย: saparee ที่ 10 เมษายน 2015, 13:22:43 คำถามนี้อาจจะนอกประเด็นไปนิดนะครับ :P
ไม่ทราบว่า ปกติลำดับการจดบันทึกใน excel ท่าน DePe แยกเก็บในคอมอย่างไรบ้างครับ? คือส่วนตัวแล้วผมชอบทุกกระทู้ของท่าน DePe ที่เอามาแชร์มากๆ โดยเฉพาะเรื่องการเก็บบันทึกข้อมูล และตัวผมเองก็พยายามจะทำตามแนวทางของท่านมาหลายเดือน โดยเฉพาะเรื่องการเก็บข้อมูลสถิติเพื่อนำข้อมูลไปวิเคราะห์จุดคุ้มทุน แต่ปัญหาที่เจอตอนนี้คือ จดเอง งงเอง T^T บางโปรเจคผมก็แยกเก็บใส่ folder ต่างหาก แล้วข้างในแต่ละไฟล์ excel ผมใส่เรียงแยกตามวันที่ / 1 ไฟล์ ซึ่งพอทำได้ซักพัก็รู้สึกว่าจดละเอียดมากเกินไป ทำให้ขี้เกียจทำในช่วงท้ายๆเดือน พอลองเปลี่ยนมารวมทั้งเดือนในไฟล์เดียวกัน (สองสามวันเข้ามาเขียนบันทึกทีนึง) ทีนี้ก็ข้อมูลเก็บมากว้างไปอีก อยากจะเจาะลงในรายละเอียดก็ไม่ได้ทำไว้ คล้ายๆกับว่าจดบัญชีไม่เก่งว่างั้นเถอะ (บางเดือนนี่เงินเข้าอู้ฟู่เลย แต่หักรายจ่ายกดไปกดมา อ้าวงานนี้ขาดทุนนี่หว่า) :'( ตรงนี้พอจะมีคำแนะนำสำหรับมือใหม่บ้างมั้ยครับ ว่าควรแบ่งส่วนการทำบัญชีร้านค้าออกเป็นอย่างไรบ้างอะไรประมาณนั้นอ่ะครับ ขอบคุณมากครับ หัวข้อ: Re: กรณีศึกษา : ยอด ads คือตัวชี้วัดยอดขายหรือไม่ ? (4 ร้านค้า - 3 เดือน) เริ่มหัวข้อโดย: EmarketingIdeal ที่ 10 เมษายน 2015, 17:41:36 เป็นความรู้ที่ดีมากเลยครับมาจากการปฏิบัติ ไม่ใช่แค่ทฤษฎี ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ :wanwan017:
หัวข้อ: Re: กรณีศึกษา : ยอด ads คือตัวชี้วัดยอดขายหรือไม่ ? (4 ร้านค้า - 3 เดือน) เริ่มหัวข้อโดย: DePe ที่ 10 เมษายน 2015, 18:12:28 คุมความเอาใจใส่พนักงานยังไงคับท่าน อยากเปิดรัวๆเหมือนกัน :P รายได้ ok มีการวัดผล ทำงานเฮฮา แต่งานต้องได้ตามเป้าครับ นี่สไตล์ผม *** สงสัยครับว่าทำไมถึงไม่ควบคุม Ads ให้เท่ากัน หรือว่ายอด Ads ที่ลงประเมินจากคุณภาพของพนักงานแล้ว ถ้าพนักงานเชียวชาญก็ลง Ads น้อยๆ ถ้าพนักงานใหม่ก็ลงเยอะๆ เพื่อให้ได้ยอดขายใกล้เคียงกัน เพราะที่ผมเคยทดลอง ยิ่งลงเงินไปเยอะ Conversion จะยิ่งลดลง เช่น ลง 100 ต่อวัน อาจได้ 300 คลิก ตกคลิกละ 0.33 บาท ถ้าลง 1000 ต่อวัน อาจได้ 2000 คลิก ตกคลิกละ 0.5 บาท ถ้าเท่ากันมันก็ = copy ร้าน มันไม่สนุกครับ น่าเบื่อ อยากให้มีอะไรต่างกันบ้าง กรณีนี้ยอด ads คือปัจจัยควบคุมครับ ที่ fix ไว้ 3 เดือน ผมไม่ดู conversion ครับ ถ้า ads มีกรณีเดียวที่จะลงมาดูคือ ads ไม่คุ้มกับกำไรครับ ถึงค่อยดิ้น การพิจารณายอดการลงไม่มีอะไรกำหนดครับ *** ขออนุญาตถามต่อนะครับว่าที่มาของตัวเลข Ads ที่ Fix มีที่มายังไงครับ 8400 / 5600 / 3500 / 1400 เพราะถ้าตั้งขึ้นมาเฉยๆ น่าจะเป็นเลขถ้วนๆ เช่น 8000 5000 3000 1000 ระดับท่านต้องมีที่มาที่ไปอยู่แล้ววววว เผื่อผมจะได้นำไปประยุกต์กับการทดลองผมบ้างครับ :wanwan017: :wanwan017: กำไรต่อชิ้นครับ มันวัดผลได้ง่ายๆครับ ผมคิดไม่ซับซ้อนนะ เช่นสินค้ากำไร 800 บาท ลง 1600 ต้องขายให้ได้ 2 ชิ้น น้อยกว่านั้นขาดทุน แบบนี้ครับ บ้านๆง่ายๆ *** ค่าจ้างพนักงานให้เยอะมากเลยครับ พอถามได้ไหมครับว่ากำไรต่อชิ้นกี่%ครับ แล้วช่วงราคาขายของสินค้าอยู่ระหว่างกี่บาทครับ ผมขายสินค้าผลิตเองทั้งหน้าร้านและออนไลน์ และพึ่งลองมาขายสินค้ารับมาขายไปอยากทราบเป็นแนวทางครับ ปกติลงAdsสูงสุดแค่วันละ500 คือ..กลัว 55 แต่ก็ขายได้เรื่อยๆทั้ง2อย่างครับ(กลัวว่าถ้าเพิ่มงบโฆษณาแล้วยอดขายไม่สัมพันธ์กันจะเจ็บตัวเปล่า) แล้วFacebook Adsนี่ลงแต่เพจไลค์หรือบู้ทโพสไปด้วยครับ ปล.อ่านกระทู้พี่แรกๆตั้งแต่ปีที่แล้วเลยลองตามแนวทางทำได้จริงๆครับ ยอดขายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ยังไม่กล้าอัดโฆษณามากกว่านี้ครับ 55 ค่าจ้างไม่เยอะหรอกครับถ้าในแง่คนทำงาน ถ้าเราจ่ายเต็มที่ เด็กถึงอยู่กับเรานานครับ ปกติรวมค่าคอมแล้วจะได้กันประมาณ 14-18k ครับต่อคน มาจิ้น 30-120% ครับ โปรไลค์อย่างเดียวครับ บูทโพสไว้ซัดหน้าฝน คือเวลาเพิ่มงบ ads เนี่ย มันจะมีจุดๆหนึ่งครับที่เหมือนไม่คุ้ม คือลงไปมากกว่าเดิมตั้งเยอะ แต่ยอดขายหรือกำไรได้พอๆกับเดิม ดังนั้นต้องดูให้เข้ากับตัวสินค้าและธุรกิจของเราครับผม *** ค่าจ้างนี่คือ คนละ 12k มี คอมใช่ไหมคับ ?? ฝึกงาน 9 ผ่าน 1 เดือน 12 + คอมเป็น % ครับ *** อันนี้แต่ละสินค้ามีเว็บไซด์ของตัวเองหรือป่าวครับ หรือป่าวขายหน้า facebook อย่างเดียว ไม่มีเว็บครับ แผงนี้ page ล้วนๆ *** คำถามนี้อาจจะนอกประเด็นไปนิดนะครับ :P ไม่ทราบว่า ปกติลำดับการจดบันทึกใน excel ท่าน DePe แยกเก็บในคอมอย่างไรบ้างครับ? คือส่วนตัวแล้วผมชอบทุกกระทู้ของท่าน DePe ที่เอามาแชร์มากๆ โดยเฉพาะเรื่องการเก็บบันทึกข้อมูล และตัวผมเองก็พยายามจะทำตามแนวทางของท่านมาหลายเดือน โดยเฉพาะเรื่องการเก็บข้อมูลสถิติเพื่อนำข้อมูลไปวิเคราะห์จุดคุ้มทุน แต่ปัญหาที่เจอตอนนี้คือ จดเอง งงเอง T^T บางโปรเจคผมก็แยกเก็บใส่ folder ต่างหาก แล้วข้างในแต่ละไฟล์ excel ผมใส่เรียงแยกตามวันที่ / 1 ไฟล์ ซึ่งพอทำได้ซักพัก็รู้สึกว่าจดละเอียดมากเกินไป ทำให้ขี้เกียจทำในช่วงท้ายๆเดือน พอลองเปลี่ยนมารวมทั้งเดือนในไฟล์เดียวกัน (สองสามวันเข้ามาเขียนบันทึกทีนึง) ทีนี้ก็ข้อมูลเก็บมากว้างไปอีก อยากจะเจาะลงในรายละเอียดก็ไม่ได้ทำไว้ คล้ายๆกับว่าจดบัญชีไม่เก่งว่างั้นเถอะ (บางเดือนนี่เงินเข้าอู้ฟู่เลย แต่หักรายจ่ายกดไปกดมา อ้าวงานนี้ขาดทุนนี่หว่า) :'( ตรงนี้พอจะมีคำแนะนำสำหรับมือใหม่บ้างมั้ยครับ ว่าควรแบ่งส่วนการทำบัญชีร้านค้าออกเป็นอย่างไรบ้างอะไรประมาณนั้นอ่ะครับ ขอบคุณมากครับ อันนี้ยาวครับ เดี๋ยวดึกๆมาอธิบายให้ครับผม :P :P มันเกี่ยวเนื่องกันหลาย step ครับ ทั้งบัญชีสำหรับโกดัง บัญชีสำหรับแต่ละร้านค้า แยกส่วนแล้วจะเห็นช่วงว่างได้ง่ายๆเลย และสามารถตรวจจับการทุจริตด้วยครับ หัวข้อ: Re: กรณีศึกษา : ยอด ads คือตัวชี้วัดยอดขายหรือไม่ ? (4 ร้านค้า - 3 เดือน) เริ่มหัวข้อโดย: passsun ที่ 10 เมษายน 2015, 19:03:03 เยียมเลยครับ
หัวข้อ: Re: กรณีศึกษา : ยอด ads คือตัวชี้วัดยอดขายหรือไม่ ? (4 ร้านค้า - 3 เดือน) เริ่มหัวข้อโดย: artmond ที่ 10 เมษายน 2015, 19:10:48 คำถามนี้อาจจะนอกประเด็นไปนิดนะครับ :P ไม่ทราบว่า ปกติลำดับการจดบันทึกใน excel ท่าน DePe แยกเก็บในคอมอย่างไรบ้างครับ? คือส่วนตัวแล้วผมชอบทุกกระทู้ของท่าน DePe ที่เอามาแชร์มากๆ โดยเฉพาะเรื่องการเก็บบันทึกข้อมูล และตัวผมเองก็พยายามจะทำตามแนวทางของท่านมาหลายเดือน โดยเฉพาะเรื่องการเก็บข้อมูลสถิติเพื่อนำข้อมูลไปวิเคราะห์จุดคุ้มทุน แต่ปัญหาที่เจอตอนนี้คือ จดเอง งงเอง T^T บางโปรเจคผมก็แยกเก็บใส่ folder ต่างหาก แล้วข้างในแต่ละไฟล์ excel ผมใส่เรียงแยกตามวันที่ / 1 ไฟล์ ซึ่งพอทำได้ซักพัก็รู้สึกว่าจดละเอียดมากเกินไป ทำให้ขี้เกียจทำในช่วงท้ายๆเดือน พอลองเปลี่ยนมารวมทั้งเดือนในไฟล์เดียวกัน (สองสามวันเข้ามาเขียนบันทึกทีนึง) ทีนี้ก็ข้อมูลเก็บมากว้างไปอีก อยากจะเจาะลงในรายละเอียดก็ไม่ได้ทำไว้ คล้ายๆกับว่าจดบัญชีไม่เก่งว่างั้นเถอะ (บางเดือนนี่เงินเข้าอู้ฟู่เลย แต่หักรายจ่ายกดไปกดมา อ้าวงานนี้ขาดทุนนี่หว่า) :'( ตรงนี้พอจะมีคำแนะนำสำหรับมือใหม่บ้างมั้ยครับ ว่าควรแบ่งส่วนการทำบัญชีร้านค้าออกเป็นอย่างไรบ้างอะไรประมาณนั้นอ่ะครับ ขอบคุณมากครับ อันนี้ยาวครับ เดี๋ยวดึกๆมาอธิบายให้ครับผม :P :P มันเกี่ยวเนื่องกันหลาย step ครับ ทั้งบัญชีสำหรับโกดัง บัญชีสำหรับแต่ละร้านค้า แยกส่วนแล้วจะเห็นช่วงว่างได้ง่ายๆเลย และสามารถตรวจจับการทุจริตด้วยครับ รอเรื่องการตรวจจับการทุจริตด้วยคนครับ หัวข้อ: Re: กรณีศึกษา : ยอด ads คือตัวชี้วัดยอดขายหรือไม่ ? (4 ร้านค้า - 3 เดือน) เริ่มหัวข้อโดย: KeyJunG ที่ 10 เมษายน 2015, 20:53:11 สงสัยครับว่าทำไมถึงไม่ควบคุม Ads ให้เท่ากัน หรือว่ายอด Ads ที่ลงประเมินจากคุณภาพของพนักงานแล้ว ถ้าพนักงานเชียวชาญก็ลง Ads น้อยๆ ถ้าพนักงานใหม่ก็ลงเยอะๆ เพื่อให้ได้ยอดขายใกล้เคียงกัน เพราะที่ผมเคยทดลอง ยิ่งลงเงินไปเยอะ Conversion จะยิ่งลดลง เช่น ลง 100 ต่อวัน อาจได้ 300 คลิก ตกคลิกละ 0.33 บาท ถ้าลง 1000 ต่อวัน อาจได้ 2000 คลิก ตกคลิกละ 0.5 บาท ถ้าเท่ากันมันก็ = copy ร้าน มันไม่สนุกครับ น่าเบื่อ อยากให้มีอะไรต่างกันบ้าง กรณีนี้ยอด ads คือปัจจัยควบคุมครับ ที่ fix ไว้ 3 เดือน ผมไม่ดู conversion ครับ ถ้า ads มีกรณีเดียวที่จะลงมาดูคือ ads ไม่คุ้มกับกำไรครับ ถึงค่อยดิ้น การพิจารณายอดการลงไม่มีอะไรกำหนดครับ *** หืมกำลังประสบปัญหาเลย พอจะแง้มๆการเลือกกลุ่มเป้าหมายได้ไหมครับ ว่าใช้วิธีดึงกลุ่มหรือว่ากำหนดกับเฟสบุคอ่ะครับ ถามซื่อๆเลยหมดหนทางละครับ :wanwan017: :wanwan017: ญ 18-40 ประเทศไทย แค่นี้ครับ :wanwan007: ผมไม่ศรัทธานะพวกดึง uip คือผมคิดตลอดว่าลูกค้ามีเป็นล้านน่ะ ไม่เห็นต้องไปดึงจากไหนมาเลย เปิดคนใหม่ไปเรื่อยๆ สุดยอดครับท่านขอบคุณมากครับ :wanwan017: :wanwan017: หัวข้อ: Re: กรณีศึกษา : ยอด ads คือตัวชี้วัดยอดขายหรือไม่ ? (4 ร้านค้า - 3 เดือน) เริ่มหัวข้อโดย: icehoffazz ที่ 21 เมษายน 2015, 04:23:23 ผมยังรอท่าน DePe มาเขียนต่ออยู่นะครับ :wanwan016:
หัวข้อ: Re: กรณีศึกษา : ยอด ads คือตัวชี้วัดยอดขายหรือไม่ ? (4 ร้านค้า - 3 เดือน) เริ่มหัวข้อโดย: Minemelody ที่ 21 เมษายน 2015, 05:41:47 ขอบคุณสำหรับการแบ่งปันข้อมูลนะคะ เข้ามาติดตามด้วยคน กระทู้เป็นประโยชน์มากค่ะ :wanwan017:
หัวข้อ: Re: กรณีศึกษา : ยอด ads คือตัวชี้วัดยอดขายหรือไม่ ? (4 ร้านค้า - 3 เดือน) เริ่มหัวข้อโดย: inon ที่ 16 พฤศจิกายน 2015, 09:10:36 ก่อนอื่นเลยต้องขอขอบคุณ พี่DePe น่ะครับที่แชร์เรื่องราวดีๆให้ฟัง
หลังจากที่อ่านcase study แล้วผมมานั่งคิดตาม เกิดข้อสงสัยตามหัวข้อดังนี้ครับ -"หัวข้อที่อยากทดลองก็คือ เมื่อคุมปัจจัยต่างๆให้เหมือนกัน ทั้งประเภทสินค้าที่ขาย ราคาสินค้า การรับประกัน ฯลฯ ..." 1. ประเภทสินค้าเหมือนกัน แล้วยี่ห้อหรือแบรนด์ คุณสมบัติของสินค้า เหมือนกันหรือต่างกันไหมครับ? -อยากจะขอคำชี้แนะหน่อยครับ พี่DePe เปิดร้านขายประเภทสินค้าเหมือนกันอย่างในcase studyนี้ 2.พี่ใช้บัชชีธนาคารเป็นชื่อเดียวกันหมดทั้ง 4 ร้านเลยรึเปล่าครับ? หรือ พี่ใช้บัชชี บริษัท ? (ขยายความ) คือสมมุติว่าผมเป็นลูกค้า เห็นโฆษณาของพี่ (ร้านที่1) แล้วเกิดสนใจ แต่ยังไม่ค่อยมั่นใจจึงเลยสำรวจดูตามร้านอื่นก่อน แล้วบังเอิญไปเจออีกร้าน(ร้านที่2) ซึ่งก็เป็นของพี่เหมือนกัน ซึ่งรู้ได้จากชื่อบัชชี 3.คำถามคือมันมีผลต่อการตัดสินใจไหมครับ หรือผมคิดมากไปเอง? ขอบคุณอีกครั้งครับ :'( หัวข้อ: Re: กรณีศึกษา : ยอด ads คือตัวชี้วัดยอดขายหรือไม่ ? (4 ร้านค้า - 3 เดือน) เริ่มหัวข้อโดย: zsevens ที่ 16 พฤศจิกายน 2015, 09:39:39 เก็บเข้ากรุ :wanwan017:
ขอบคุณครับ หัวข้อ: Re: กรณีศึกษา : ยอด ads คือตัวชี้วัดยอดขายหรือไม่ ? (4 ร้านค้า - 3 เดือน) เริ่มหัวข้อโดย: icokezaa ที่ 16 พฤศจิกายน 2015, 10:32:02 เข้ามาเก็บความรู้ด้วยคนครับ ขอบพระคุณมากๆ
หัวข้อ: Re: กรณีศึกษา : ยอด ads คือตัวชี้วัดยอดขายหรือไม่ ? (4 ร้านค้า - 3 เดือน) เริ่มหัวข้อโดย: hyde4fun ที่ 16 พฤศจิกายน 2015, 11:36:55 โอ้โห วัดผลกันจริงจัง ทำจริง รวยจริง ผมนี่อึ้งเลยครับ
หัวข้อ: Re: กรณีศึกษา : ยอด ads คือตัวชี้วัดยอดขายหรือไม่ ? (4 ร้านค้า - 3 เดือน) เริ่มหัวข้อโดย: bonkbonk ที่ 16 พฤศจิกายน 2015, 12:02:27 สุดยอดครับ :wanwan017:
หัวข้อ: Re: กรณีศึกษา : ยอด ads คือตัวชี้วัดยอดขายหรือไม่ ? (4 ร้านค้า - 3 เดือน) เริ่มหัวข้อโดย: cheto ที่ 17 พฤศจิกายน 2015, 02:26:38 เข้ามาตามอ่าน กระทู้ดีมีประโยชน์มากจริงๆครับ ขอบคุณที่แชร์ครับ
หัวข้อ: Re: กรณีศึกษา : ยอด ads คือตัวชี้วัดยอดขายหรือไม่ ? (4 ร้านค้า - 3 เดือน) เริ่มหัวข้อโดย: manchy ที่ 28 พฤศจิกายน 2015, 00:42:01 มีประโยชน์มากครับ ขอบคุณครับ :wanwan017: หัวข้อ: Re: กรณีศึกษา : ยอด ads คือตัวชี้วัดยอดขายหรือไม่ ? (4 ร้านค้า - 3 เดือน) เริ่มหัวข้อโดย: koclup1580 ที่ 28 พฤศจิกายน 2015, 04:25:16 :wanwan017: ยกนิ้วให้เจ๋งมากครับ
หัวข้อ: Re: กรณีศึกษา : ยอด ads คือตัวชี้วัดยอดขายหรือไม่ ? (4 ร้านค้า - 3 เดือน) เริ่มหัวข้อโดย: whitestar ที่ 29 พฤศจิกายน 2015, 15:25:15 ขอบคุณครับเป็นประโยชน์มากๆครับ
หัวข้อ: Re: กรณีศึกษา : ยอด ads คือตัวชี้วัดยอดขายหรือไม่ ? (4 ร้านค้า - 3 เดือน) เริ่มหัวข้อโดย: tec ที่ 29 พฤศจิกายน 2015, 15:29:19 +1 ขอบคุณมากครับท่าน :wanwan017:
หัวข้อ: Re: กรณีศึกษา : ยอด ads คือตัวชี้วัดยอดขายหรือไม่ ? (4 ร้านค้า - 3 เดือน) เริ่มหัวข้อโดย: buy high pr domain ที่ 29 พฤศจิกายน 2015, 16:05:55 เยอะมากๆ
หัวข้อ: Re: กรณีศึกษา : ยอด ads คือตัวชี้วัดยอดขายหรือไม่ ? (4 ร้านค้า - 3 เดือน) เริ่มหัวข้อโดย: iPomz ที่ 07 ธันวาคม 2016, 22:08:22 หาอ่านกระทู้เก่าๆ นี่ความรู้ทั้งนั้นเลย
หัวข้อ: Re: กรณีศึกษา : ยอด ads คือตัวชี้วัดยอดขายหรือไม่ ? (4 ร้านค้า - 3 เดือน) เริ่มหัวข้อโดย: wingblue ที่ 08 ธันวาคม 2016, 22:45:06 กรณีศึกษา : ยอด ads คือตัวชี้วัดยอดขายหรือไม่ ? (4 ร้านค้า - 3 เดือน) ต้นปีที่ผ่านมามีโอกาสได้ทดลองอะไรสนุกๆ โดยส่วนตัวแล้วผมอยากเทสท์แบบนี้มานานละ แต่ปัจจัยหลายๆอย่างไม่เอื้ออำนวย หลักๆก็คือเรื่อง 1.เงินทุน(โดนตลอด เรื่องนี้) 2.โกดังที่ใช้ในการจัดการระบบ stock สินค้า 3.บุคลลากรที่รับผิดชอบในการดำเนินการ หัวข้อที่อยากทดลองก็คือ เมื่อคุมปัจจัยต่างๆให้เหมือนกัน ทั้งประเภทสินค้าที่ขาย ราคาสินค้า การรับประกัน ฯลฯ มีอะไรบ้างที่สำคัญที่สุดเวลาลูกค้าจะทำการสั่งซื้อหรือทำให้ยอดขายต่างกัน ช่วงปลายปีพอเริ่มโปร่ง ความพร้อมเรื่องเงินทุนก็พอมีและโกดังก็พร้อมใช้งาน เลยจัดการจ้างคนเพิ่ม ขึ้นร้านเพิ่มอีก 4 ร้าน โดยใช้ stock กลางและพนักงาน 3 คนดูแล 1 คน / 1 ร้าน ยกเว้นคนที่ 3 ให้ดูแล 2 ร้าน *** ต้นทุนคงที่ต่อ 1 ร้านค้า ในระยะเวลา 3 เดือน โทรศัพท์ android เกรดกลาง 1 เครื่อง : 7,000 บาท ซิม + เติมเงิน (3 เดือน) 900 บาท 1 Email + 1 Line ID ค่าจ้าง ไม่รวมค่าคอม 9k+12k+12k = 33,000 บาท/คน *** ใข้เวลาเทรนเรื่องสินค้า การถ่ายรูป การทำรายละเอียดสินค้า 1 อาทิตย์ ใช้เวลาเทรนงานรูทีน คอนเซปต์คร่าวๆของการทำงาน การตอบลูกค้าโดยจำลองจับคู่กันถามตอบ list ปัญหาเบื้องต้นที่ต้องเจอ จัดการทำเพจลงสินค้าอีก 1 อาทิตย์โดยปล่อยให้ลองลุยกันเองไปก่อนโดยตามดูอยู่ห่างๆ (ห่างจริงๆนะบางวันผมหายหัวเลย) จากนั้นใช้ Facebook ads อย่างเดียว โดยลง ads แบบแยกค่าใช้จ่ายกันและรันยาวไม่มีหยุดเพื่อเป็นปัจจัยในการวัดผลได้ภายหลัง ผลที่ได้ตามนี้ครับ ([url]http://upic.me/i/49/v4xm1.jpg[/url]) ([url]http://upic.me/show/55188542[/url]) สัปดาห์ที่ 1 เริ่มต้นได้ดี มีออเดอร์ทุกร้าน ให้ list ปัญหาประจำที่เข้ามาเป็นทำเป็น pattern การตอบลูกค้าเสริม สัปดาห์ที่ 2 เริ่มเห็นผลต่างกันชัดเจนขึ้น แต่ยังวัดผลอะไรมากไม่ได้เนื่องจากมีปัจจัย ต้นเดือน ปลายเดือน จำนวนคนเห็นมาเกี่ยวข้อง สัปดาห์ที่ 3 เก็บข้อมูลมาวิเคราห์พอครบรอบเดือนต้องปรับผลใหม่ (ตรงจุดนี้ต้องรอ 1 เดือนถึงจะประเมินได้เต็มที่) สัปดาห์ที่ 4 ระหว่างยอด 48550 ของร้าน #1 และยอด 20480 ของร้าน #2 นั้นต่างกันมากเกิน % ของค่าใช้จ่าย ads ซึ่งจะเห็นได้ว่า ร้านที่ #3 และ #4 นั้นทำยอดขายได้ดีกว่าร้านที่ #2 ทั้งๆที่ยอด ads น้อยกว่า ครบเดือนสรุปยอดมาก็มานั่งคุยกันถึงสาเหตุ และความเห็นของพนักงานที่จะมีส่วนช่วยปรับปรุงร้านและยอดขาย ได้ข้อสรุปคร่าวๆเดือนที่ 1 คือ จำนวน reach ร้าน #2 น้อยกว่า = คนผ่านหน้าร้านน้อยกว่าเพราะช่วงเวลาการโพสท์ทิ้งช่วงนาน เนื่องจากใช้เวลาในการตอบลูกค้านาน ส่วนร้านที่ #3 และ #4 นั้นยอดที่เพิ่มมาเป็นยอดลูกค้ารายใหญ่ที่ไม่ถือเป็นยอดปกติ ประกอบกับ #3 และ #4 ได้ทำการติดตามลูกค้าอย่างใกล้ชิด มีการจดสินค้าที่ขาดและแจ้งเตือนลูกค้าเมื่อมีสินค้าเข้า ทางแก้ไข - ทำ pattern การตอบให้กระชับมากขึ้นและครอบคลุมหัวข้อต่างๆให้หมด - เพิ่มการลงสินค้าใน Timeline Line ให้เท่ากับ Facebook Page - เพิ่มการติดตามลูกค้าให้มากขึ้น โดยให้จดชื่อทุกคนที่สนใจทั้งหน้าเพจและ inbox , line และทำการติดตามผลทั้งหลังใช้สินค้าและการติดตามว่าสินค้า lot ใหม่เข้าแล้ว แล้วก็เริ่มรันต่อเดือนที่ 2 ([url]http://upic.me/i/wv/w8im2.jpg[/url]) ([url]http://upic.me/show/55188543[/url]) ยอดเริ่มกระเตื้องขึ้นมามากสำหรับ #2 #3 #4 เนื่องจากการใส่ใจลูกค้าเยอะขึ้น บางช่วงยอดแซง #1 ที่ลง ads เยอะสุดในกลุ่ม เดือนที่ 2 นี้มีส่วนที่เพิ่มเข้ามาคือ การตั้งเวลาโพสท์ล่วงหน้า เนื่องจากปกติแล้วเวลาทำงานของพนักงานจะหยุดทุกวันอาทิตย์ ทำให้ยอดสะดุดถ้าไม่มีการโพสท์ล่วงหน้าทิ้งไว้ดึงคน แม้จะลง ads ไว้ก็จะทำให้เห็นว่าร้านเราไม่ active ผลตอบรับสำหรับเดือนที่ 2 นี้ ร้าน #3 มาแรงสุด ทั้งฟีดแบ็กจากลูกค้าและการสั่งซื้อซ้ำจากลูกค้าเก่า สรุปผล 12 สัปดาห์ ([url]http://upic.me/i/mp/summay.jpg[/url]) ([url]http://upic.me/show/55188544[/url]) ผ่านเดือนที่ 3 ด้วยความพร้อมของพนักงานค่อนข้าง 100% โดยแต่ละคนเก่งขึ้น ความสามารถเยอะขึ้น สามารถจัดการ stock สินค้า - จัดการลูกค้าได้แทบจะไม่พลาดเมื่อมีลูกค้าเข้ามา มีหลุดเรื่องงานรูทีนบ้างเช่นพวกตั้งเวลาโพสท์ แต่ก็ปรับกันไปทุกวัน ช่วงเดือนที่ 3 จะปรับถี่ ต่างจากเดือนที่ 1 เพราะไม่ใช่มือใหม่กันแล้ว ผมต้องลงไปคุมดูวันต่อวันโพสท์ต่อโพสท์กันเลยทีเดียวบางวัน ยอด ads ยอด like ไม่มีผลเท่าไหร่ ณ เวลานี้ เพราะแต่ละร้านจะมีกลิ่นเฉพาะของพนักงานแต่ละคน (สำนวนการพิมพ์ สิ่งที่สื่อถึงลูกค้าแต่ละร้านจะมีลักษณะเฉพาะไม่เหมือนกัน) ตรงจุดนี้ทำให้ยอดแต่ละร้านต่างกันแม้จำนวน ads จะมากน้อยก็ไม่เป็นผลเท่าไหร่นัก เฉพาะกรณีนี้นะครับที่สินค้าประเภทเดียวกัน ราคาเดียวกัน จะเห็นได้ว่าร้าน #1 ยอดน้อยกว่าร้าน #2-3-4 ในบางสัปดาห์ โดยมีข้อแตกต่างกันดังนี้ #1 พนักงานชายตอบ เชียร์ไม่เก่ง ให้ข้อเท็จจริงเก่ง ลูกล่อลูกชนไม่ค่อยมี ตรงๆทื่อๆ (คือมันได้ประมาณนี้แหละ) #2#3#4 พนักงาน ญ ตอบ เชียร์ของได้ มีจริตในการคุย สรุปโดยรวม ads เป็นแค่การดึงคนเข้ามาหน้าร้าน ส่วน % แปรผันของยอดขายนั้นขึ้นอยู่กับวิธีการจัดการลูกค้าของทางร้าน ความเอาใจใส่ลูกค้า เพราะตามตัวเลขที่เห็นนี้ การลงทุนที่คุ้มที่สุดเมื่อเทียบกับยอดที่ได้อาจจะเป็น #4 ก็ได้ครับ นี่ผ่านเดือนที่ 4 มาแล้วครับ ยอดดีขึ้นเพราะการลง ads แบบไม่ซ้ำเพจ อันนี้ผมเห็นเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมานะ ผลดีขึ้นเยอะเลย กอปรกับพนักงานเก่งขึ้นมากๆเดือนนี้ น้องผู้ชายก็พัฒนาขึ้นเยอะ แบบเห็นได้ชัด ส่วนการลดต้นทุนก็ให้ดูแลคนละ 2-3 ร้าน ศักยภาพพนักงานสบายๆครับ ทำงานเต็มที่ ออฟฟิศชิลๆ ได้ค่าคอมเยอะขึ้นด้วย เนื้องานมันเหมือนเดิม ก็มาเล่าสู่กันฟังครับ สำหรับการทดลองรอบ 3 เดือนที่เกิดขึ้น step นี้ไม่ยากครับ ปั้นกี่ร้านก็ได้ ยอด 100 ล้าน 1,000 ล้านก็ x จำนวนไป มันเป็นไปได้ครับผม มีอะไรจะเอามาแชร์ให้เพื่อนๆไทยเสียวอีกรอบ 6 เดือนครับ ขึ้นร้านใหม่ไว้อีกแผงนึงช่วงต้นปี อันนั้นอีกสไตล์นึง :-) /DePe โห สุดยอดมากเลยครับพี่ ความรู้ล้วนๆ นั่งไล่อ่านกระทู้ของพี่ อยากบินไปเชียงราย ขอคำแนะนำบ้างจังเลยครับ ขอให้กิจการใหม่รุ่งเรืองๆ นะครับ ปล. อยากทำเป็นระบบได้บ้างจัง อยากมีทีมงานบ้าง ตอนนี้ลุยเอง ห้ามป่วย ห้ามตายเลยครับ :'( :-X หัวข้อ: Re: กรณีศึกษา : ยอด ads คือตัวชี้วัดยอดขายหรือไม่ ? (4 ร้านค้า - 3 เดือน) เริ่มหัวข้อโดย: Zeratul ที่ 08 ธันวาคม 2016, 23:54:29 สุดยอด มีประโยชน์จริงๆครับ ขอบคุณมากครับ
|