ThaiSEOBoard.com

พี่ว่าพี่ทำในสิ่งที่ถูกต้องนะคะ อาจจะไม่ค่อยมีในสังคมไทยนัก ใจจริงพี่ก็ไม่อยากทะเลาะกับใคร
พี่อาจเป็นจุดเล็กๆ

จากกระทู้นี้ค่ะ
http://www.thaiseoboard.com/index.php/topic,345301.0.html :wanwan007:

จุดประสงค์ ของที่เรา post กระทู้

1 อยากให้เพื่อนสมาชิกช่วยกันตรวจสอบ ว่า ภาพยอดขายของศิษย์ที่ใช้ในการโมษณาคอร์สการสอน eBay หลายๆภาพมันตรงตาม format ของ eBay Amazon และ PayPal หรือไม่ คุณ wat26 เข้าใจจุดประสงค์ของเราอย่างถูกต้องแล้วค่ะ

2 หากยอดที่โชว์ไม่ตรงกับ format ของ eBayและPayPal Amazon เราจะมีวิธีการสอนให้ผู้ที่ไม่รู้ ดูว่า ของแท้ ต้องมีจุดสังเกตตรงไหนบ้าง

3 แล้วเราจะมีการพิสูจน์อย่างไรให้เพื่อนสมาชิกเห็นว่าสิ่งที่เราตั้งประเด็น มีมูลความจริง
เราจะต้องให้เพื่อนสมาชิกกลับไปพิสูจน์สิ่งที่เราสงสัย ให้ท่านหาความจริง ด้วยตัวของท่านเอง และท้ายสุด จะมีบทสรุปของ eBay และ Paypal Amazon ให้
เพราะ คน  อเมริกัน ถือเรื่องนี้ มันเกี่ยวกับศีลธรรม Hey !!!! Everyone, Don't Fall for This Misleading Graph
เราจะได้ยินประโยคนี้บ่อยๆ เมื่อคนแห่ไปลงทุน หรือแห่ไปซื้อสินค้าที่อวดอ้างสรรพคุณเลิศหรู
หากมีการนำ Misleading Graph ไปใช้ มีโทษ ทั้งจำ ทั้งปรับ

4 เหตุที่เราไม่ได้เข้าไป add friend ใน FB ของคุณ oat  เพราะ FB ของเรามีไว้ใช้สำหรับการขายของ Online สำหรับต่างประเทศ เราไม่อยากให้ใครดูสินค้า
และเรายังอยากเอา Facebook ตัวนี้ไปแข่งขันกับ Business Facebook Page กับทั่วโลกมีรางวัลด้วย

5 ตอนนี้ทุกคนใน บอร์ด เข้าใจแล้วว่าผู้ที่ Post ยอดขายของคุณ Oat มีตัวตนจริงและคุณ oat ก็ไม่ได้ลบ แต่สิ่งที่ทุกคนอยากรู่หรือศิษย์ของคุณ oat อยากรู้ คือยอดขายที่ Post ในห้องลับเป็นยอดขายที่แท้จรืงหรือไม่ ตอนนี้ศิษย์ของคุณ oat ทุกคนคงจำแนก ยอดขายของแท้ของปลอม ต่างกันอย่างไร ทำตามข้างล่าง ทองแท้ย่อมไม่แพ้ไฟ ลองไปอ่าน Comment ของคุณ Driverhigh นะคะ เขาสงสัยที่คนโพ้สยอดขายสูง ทำไมต้องลบข้อมูล

ผมไม่ค่อยทราบเรื่องจิงไม่อยากออกตัวแรงครับ ยังไงขอให้ทำสิ่งที่ถูกต้องที่สุดดีแล้วครับ สู้ต่อไปครับเอาใจช่วย :wanwan003:

เอาใจด้วยอีกคนคะพี่

เอาใจช่วยครับพี่trudy

อยากให้สังคมไทยดีๆครับ  :wanwan008:

ง่ะ มันอะไรกันนักหนา
พี่ทำให่วิ่งที่ถูก อย่าได้แคร์เลย

เรื่องแค่นี้ ฟ้องกันได้ด้วยเหรอ
ข้อหาอะไรค่ะ งง

สู้ๆ ครับ เราทำในสิ่งที่ถูกต้อง แต่ก็ไปขัดผลประโยชน์กับคนอื่น ที่เค้าแสวงหากำไรอย่างเดียวโดยไม่มองถึงบางสิ่งบางอย่างเลย 
เราก็ได้แต่หวังว่าเข้าจะเข้าใจในสิ่งที่ทำครับ

คนดีตกน้ำไม่ใหล ตกไฟไม่ใหม้ครับ

 :wanwan003:

ร่วมด้วยช่วยให้กำลังใจครับ พี่ทำถูกแล้ว สู้ ๆ ครับ

พี่ทำสิ่งที่ถูกต้องแล้วครับ อย่าได้แคร์สื่อ  :wanwan017:

ฟ้องได้ครับ ข้อหาสันนิษฐานว่าหมิ่นประมาทน่าจะมาเป็นต้นๆครับ ส่วนข้อเท็จจริงก็ไปสู้กันตามตามกระบวนการ นี่คือการฟ้อง
อันนี้ผมแค่อธิบาย Fact เท่านั้นว่าหากคู่กรณีจะฟ้องจะฟ้องอะไรยังไง ฯลฯ ทีเหลือไม่ออกความเห็น ไม่วิเคราะห์ ไม่ตัดสิน

เอาใจช่วยค่ะ ขอให้ชนะคดี (เหมือนเขาขึ้นศาลกันแล้ว 555)

พอดีมีคนบอกมา ทางPM พี่จะได้ให้ตนนำเรื่องไปปรึกษา อาจารย์ประมาณ

จะเอาอะไรมาฟ้อง ขรรม

เอาใจช่วยค่ะ

สู้ๆครับ

วันนี้ผมก็เกือบโดนฟ้องเพราะโพสเรื่องทัวส์ในเว็บนี้เหมือนกัน  :P

เอาใจช่วยครับ

สู้ๆครับเอาใจช่วยอีกแรง

ห้ามเขาไม่ให้ฟ้องคงไม่ได้ แต่คงชนะยาก เพราะถือว่าวิพากษ์วิจารณ์อย่างตรงไป ตรงมา เป็นการให้ข้อมูลเพื่อประโยชน์ต่อสาธารณะ และสุจริตใจ ไม่ได้มีเจตนาใส่ความโจทก์

ตัดต่อ ภาพยอดขาย amazon พอเค้าจับได้ ก็จะมาฟ้องเขา 

งง ? 

แล้วถ้าอยู่เมืองนอก 1 อาทิตย์ 3 ประเทศ คำฟ้องจะส่งถึงพี่เหรอ   :wanwan044:

อย่าไปคิดมากครับ ฟ้องก็ฟ้องไป อย่างน้อยคุณก็ได้ช่วยเหลือใครอีกหลายๆคน

capture ภาพเก้บไว้ก่อนเลย อันที่คิดว่า มีปัญหา และ เป็นประเด็น

คนดีอยู่ยากขึ้นทุกวัน  :'(

ให้กำลังใจ  สู้ครับพี่

คนที่ฟ้อง มีความคิดเปล่า 555+  เชื่อดิ ว่าเขา ขู่ด้วยความอิจฉา

คุณ trudy ทำถูกแล้วครับ ส่วนพวกเมคยอดหวังผลถามหน่อยไม่กลัวผลงานย้อนกลับมาเล่นงานตัวเองเหรอ ข้อหาหลอกลวงประชาชน

ถ้าข้อมูลที่เอามาแฉคือความจริง ให้ไปฟ้องเลยครับ แล้วเราไปแฉความจริงกันในศาล อยุ่ในศาลลากใส้กันออกมาให้หมด เชิญสื่อต่างๆไปด้วย
 :wanwan004:

6 แนวทางรับมือกับข้อร้องเรียนออนไลน์ด้วยสูตร P-A-N-T-I-P
By อภิศิลป์ ตรุงกานนท์ on 2 June 2014 in การตลาด
 
ผมไปพูดเรื่องแนวทางการรับมือกับข้อร้องเรียนออนไลน์ด้วยสูตร P-A-N-T-I-P ในงาน Zocial Awards 2014 ปรากฎว่ามีคนสนใจเยอะมาก แต่ด้วยเวลาที่ค่อนข้างกระชับ ทำให้ลงรายละเอียดไม่ได้มาก ผมเลยขอขยายความในบทความนี้ครับ

คลิก Like สักนิด เป็นกำลังใจให้ผู้เขียนบทความครับ


หลายๆ บริษัทกลัวเว็บ Pantip มาก ไม่รู้ว่าจะมีกระทู้ร้องเรียนบริษัทตัวเองเกิดขึ้นตอนไหน ไม่รู้ว่าถ้ามีกระทู้แล้วจะรับมือยังไง ถ้าจัดการไม่ดีจะทำให้กระทู้นั้นลุกลามบานปลายกลายเป็นวิกฤตหรือเปล่า พอเวลามีกระทู้เกิดขึ้นจริงก็เลยลนลาน ทำอะไรไม่ถูก อย่างไรก็ตาม ถ้าเราเตรียมแผนรับมือไว้ก่อนโดยใช้หลัก P-A-N-T-I-P (Prompt, Apologize, Non-legal, Tone, Influencer, Policy) ก็จะช่วยให้รับมือกับสถานการณ์จริงได้ง่ายขึ้น

Prompt
เวลาที่ลูกค้าร้องเรียน สิ่งที่เขาคาดหวังคือการตอบสนองอย่างรวดเร็วจากบริษัท ถ้าบริษัทแสดงตัวช้า ลูกค้าจะเริ่มมีแนวร่วมมากขึ้น ซึ่งพลังการมโนของแนวร่วมนี่น่ากลัวพอๆ กับวาทะที่เจ็บแสบสำหรับบริษัท เช่น เจ้าของบริษัทร่ำรวยขึ้นมาได้เพราะโกงลูกค้าแบบนี้นี่เอง (ข้อเท็จจริงคือ อาหารสำเร็จรูปมี defect จากการบรรจุซอง ทำให้น้ำหนักของอาหารน้อยกว่าที่ระบุบนซอง 5 กรัม) หรือ ร้านนี้เตรียมเจ๊งได้แล้วถ้ามีพนักงานที่พูดจาแย่กับลูกค้าแบบนี้ (ข้อเท็จจริงคือ ไม่รู้ว่าบทสนทนาของลูกค้ากับพนักงานร้านเป็นตามที่เจ้าของกระทู้เล่าจริงหรือเปล่า)

ความน่ากลัวอีกอย่างของการตอบสนองช้าก็คือกระทู้นั้นจะถูกแนวร่วมเข้ามาช่วยกันโหวตให้ติดกระทู้แนะนำ รวมถึงกระทู้จะถูกแชร์ออกไปใน Social Network ซึ่งจะมีคนเห็นเพิ่มขึ้นอีกมหาศาล หลายๆ บริษัทจึงต้องมีทีมงานคอยมอนิเตอร์ไว้ตลอด หรืออาจจะใช้ Social Media Monitoring Tool ช่วยดูให้

สมมุติว่าบริษัทตรวจพบกระทู้ร้องเรียนได้อย่างรวดเร็ว แต่ยังไม่รู้ว่าเรื่องร้องเรียนนั้นมีข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร บริษัทควรจะทำอย่างไรกับกระทู้นั้นดี? คำตอบก็คือ บริษัทควรจะโพสต์ข้อความเพื่อแสดงตัวออกไปก่อนว่ารับทราบเรื่องแล้ว เช่น “สวัสดีครับ ผมเป็นฝ่ายดูแลลูกค้าของบริษัท xxx ขอรับเรื่องจากเจ้าของกระทู้ไปตรวจสอบ และจะรีบแจ้งผลให้ทราบในกระทู้นี้โดยเร็วที่สุดครับ” การแสดงตัวแบบนี้จะช่วยลดอารมณ์เกรี้ยวโกรธของมวลชนให้เป็นอารมณ์เฝ้ารอดูเหตุการณ์ต่อไป เป็นการแสดงออกว่าบริษัทไม่ได้เพิกเฉย แต่เข้ามาแสดงตัวเพื่อรับผิดชอบกับปัญหาที่เกิดขึ้น

อย่างไรก็ตาม ในบางสถานการณ์ บริษัทอาจเลือกที่จะนิ่งเฉยก็ได้ ถ้าคิดว่าแสดงตัวชี้แจงอะไรออกไปก็มีแต่เสียหายหนักและเรื่องไม่จบได้ง่ายๆ ถ้าเฉยๆ ไว้อาจเสียหายน้อยกว่า โดยธรรมชาติของข่าวสาร เรื่องดราม่าจะเงียบลงได้ภายในหนึ่งสัปดาห์ ทั้งนี้ต้องไม่มีการเปิดประเด็นใหม่ให้ถูกโจมตีได้อีก แต่ก็ต้องทำใจว่าเรื่องจะค้างคาอยู่ในอินเทอร์เน็ตแบบนั้นตลอดไป ถ้าใครกำลังจะตัดสินใจซื้อสินค้าของบริษัท แต่ search เจอกระทู้ซะก่อน ก็อาจเปลี่ยนใจไม่ซื้อแล้วก็ได้

Prompt
เวลาที่ลูกค้าร้องเรียน สิ่งที่เขาคาดหวังคือการตอบสนองอย่างรวดเร็วจากบริษัท ถ้าบริษัทแสดงตัวช้า ลูกค้าจะเริ่มมีแนวร่วมมากขึ้น ซึ่งพลังการมโนของแนวร่วมนี่น่ากลัวพอๆ กับวาทะที่เจ็บแสบสำหรับบริษัท เช่น เจ้าของบริษัทร่ำรวยขึ้นมาได้เพราะโกงลูกค้าแบบนี้นี่เอง (ข้อเท็จจริงคือ อาหารสำเร็จรูปมี defect จากการบรรจุซอง ทำให้น้ำหนักของอาหารน้อยกว่าที่ระบุบนซอง 5 กรัม) หรือ ร้านนี้เตรียมเจ๊งได้แล้วถ้ามีพนักงานที่พูดจาแย่กับลูกค้าแบบนี้ (ข้อเท็จจริงคือ ไม่รู้ว่าบทสนทนาของลูกค้ากับพนักงานร้านเป็นตามที่เจ้าของกระทู้เล่าจริงหรือเปล่า)

ความน่ากลัวอีกอย่างของการตอบสนองช้าก็คือกระทู้นั้นจะถูกแนวร่วมเข้ามาช่วยกันโหวตให้ติดกระทู้แนะนำ รวมถึงกระทู้จะถูกแชร์ออกไปใน Social Network ซึ่งจะมีคนเห็นเพิ่มขึ้นอีกมหาศาล หลายๆ บริษัทจึงต้องมีทีมงานคอยมอนิเตอร์ไว้ตลอด หรืออาจจะใช้ Social Media Monitoring Tool ช่วยดูให้

สมมุติว่าบริษัทตรวจพบกระทู้ร้องเรียนได้อย่างรวดเร็ว แต่ยังไม่รู้ว่าเรื่องร้องเรียนนั้นมีข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร บริษัทควรจะทำอย่างไรกับกระทู้นั้นดี? คำตอบก็คือ บริษัทควรจะโพสต์ข้อความเพื่อแสดงตัวออกไปก่อนว่ารับทราบเรื่องแล้ว เช่น “สวัสดีครับ ผมเป็นฝ่ายดูแลลูกค้าของบริษัท xxx ขอรับเรื่องจากเจ้าของกระทู้ไปตรวจสอบ และจะรีบแจ้งผลให้ทราบในกระทู้นี้โดยเร็วที่สุดครับ” การแสดงตัวแบบนี้จะช่วยลดอารมณ์เกรี้ยวโกรธของมวลชนให้เป็นอารมณ์เฝ้ารอดูเหตุการณ์ต่อไป เป็นการแสดงออกว่าบริษัทไม่ได้เพิกเฉย แต่เข้ามาแสดงตัวเพื่อรับผิดชอบกับปัญหาที่เกิดขึ้น

อย่างไรก็ตาม ในบางสถานการณ์ บริษัทอาจเลือกที่จะนิ่งเฉยก็ได้ ถ้าคิดว่าแสดงตัวชี้แจงอะไรออกไปก็มีแต่เสียหายหนักและเรื่องไม่จบได้ง่ายๆ ถ้าเฉยๆ ไว้อาจเสียหายน้อยกว่า โดยธรรมชาติของข่าวสาร เรื่องดราม่าจะเงียบลงได้ภายในหนึ่งสัปดาห์ ทั้งนี้ต้องไม่มีการเปิดประเด็นใหม่ให้ถูกโจมตีได้อีก แต่ก็ต้องทำใจว่าเรื่องจะค้างคาอยู่ในอินเทอร์เน็ตแบบนั้นตลอดไป ถ้าใครกำลังจะตัดสินใจซื้อสินค้าของบริษัท แต่ search เจอกระทู้ซะก่อน ก็อาจเปลี่ยนใจไม่ซื้อแล้วก็ได้

Apologize

การขอโทษจะช่วยให้อะไรๆ ง่ายขึ้น (แต่ต้องไม่ขอโทษแบบประชดประชันนะ) ถึงแม้ท้ายที่สุดแล้วปัญหาที่เกิดขึ้นกับลูกค้าอาจไม่ใช่ความผิดของบริษัทก็ได้ หรืออาจเป็นเรื่องที่ลูกค้าเข้าใจผิดไปเองก็ได้ การขอโทษไว้ก่อนไม่ใช่การยอมรับว่าเราผิด แต่เป็นการรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้า เหมือนคนที่เป็นแฟนกัน ถ้าทั้งสองฝ่ายต่างโทษว่าเป็นความผิดของอีกฝ่าย แบบนี้ความสัมพันธ์ก็คงไปกันไม่รอด แต่ถ้าทั้งคู่เห็นค่าในความสัมพันธ์ ถึงแม้เราจะไม่ผิด แต่การยอมพูดขอโทษอีกฝ่ายจะช่วยประคองความสัมพันธ์นั้นให้ยืดยาวขึ้น

ทีนี้ถ้าบริษัทจะขอโทษโดยที่ไม่ให้ดูเหมือนเป็นการยอมรับผิดต่อสาธารณะ (เพราะเรายังไม่รู้ว่าเราผิดจริงหรือเปล่า) บริษัทควรจะโพสต์ข้อความอย่างไร? เช่น “ก่อนอื่นทางบริษัทต้องขอโทษที่มีเหตุการณ์ไม่น่าพอใจเกิดขึ้นกับเจ้าของกระทู้” แบบนี้คือการขอโทษต่อความไม่พอใจของลูกค้า แต่ไม่ใช่การขอโทษเพราะเกิดจากความผิดของเรา

หลังจากบริษัทไปตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ถ้าพบว่าบริษัทผิดจริง คราวนี้ก็ต้องกล่าวขอโทษอย่างจริงจังและจริงใจ แสดงให้สาธารณะเห็นว่าบริษัทรู้สึกสำนึกผิดต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และจะพยายามหามาตรการป้องกันไม่ให้ความผิดพลาดลักษณะนี้เกิดขึ้นซ้ำอีก อยากให้ลองดูกรณีศึกษาวิธีขอโทษลูกค้าในกระทู้ พึ่งได้รับ Samsung Galaxy Tab 8.9 เมื่อกี้เอง คราวรู้สึกมันเป็นอย่างนี้นี่เอง! ซี๊ดดดดดดดดดดดดดดด ซึ่งกรรมการผู้จัดการของบริษัทมาตอบกระทู้ด้วยตัวเองในความคิดเห็นที่ 77 เป็นกรณีศึกษาสุดคลาสสิคที่เปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาสได้จริงๆ

ถ้าหากบริษัทพบว่าความผิดเกิดจากพนักงานแสดงกิริยาไม่เหมาะสมกับลูกค้า แบบนี้คำขอโทษจากผู้บริหารเพียงอย่างเดียวไม่พอครับ แต่ต้องให้พนักงานคนนั้นมาขอโทษด้วยตัวเอง ซึ่งเรามักไม่ค่อยได้เห็นพนักงานที่ทำผิดออกมาขอโทษ เพราะส่วนใหญ่กรณีแบบนี้จะจบลงที่บริษัทมีหนังสือชี้แจงออกมาว่าพนักงานคนดังกล่าวได้ออกจากการเป็นพนักงานของบริษัทแล้ว

Non-legalหลายคนคงเคยเห็นกรณีที่บริษัทฟาสต์ฟู้ดออกหนังสือแจ้งว่าจะดำเนินการตามกฎหมายต่อผู้ที่เผยแพร่รูปไอศกรีมที่มีแมลงสาบ หรือกรณีที่ผู้บริหารบริษัทอสังหาริมทรัพย์ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อว่าจะฟ้องร้องลูกค้าที่ตั้งกระทู้ร้องเรียนเรื่องบ้านมี defect เยอะ ทั้งสองบริษัทสื่อสารออกมาในทำนองว่าต้องการควบคุมไม่ให้ชื่อเสียงบริษัทเสียหายไปมากกว่านี้ แต่ผลที่ได้รับกลับตรงกันข้าม สิ่งที่บริษัทฟาสต์ฟู้ดเจอคือพอโพสต์อะไรใน Facebook Page ของตัวเอง ก็จะมีมวลมหาประชาชนเข้ามาคอมเมนต์ถามว่ามีแมลงสาบมั้ยหรือไม่ก็โพสต์รูปไอศกรีมที่มีแมลงสาบนั่นแหละ ส่วนบริษัทอสังหาก็เจอวิกฤตศรัทธาว่าเสียเงินเป็นล้านซื้อบ้านแล้ว ยังต้องเจอทั้ง defect ทั้งโดนฟ้องอีก ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์อย่างมาก

จำไว้ว่าผู้บริโภคส่วนใหญ่ไม่รู้กฎหมายและไม่อยากขึ้นโรงขึ้นศาล แต่ถ้าเขารู้สึกเหมือนถูกข่มขู่ให้ปิดปาก เขาก็จะแก้เผ็ดบริษัทด้วยวิธีการต่างๆ อย่างเจ็บแสบ ส่วนผู้บริโภคที่รู้กฎหมายก็จะรู้ว่ากฎหมายหมิ่นประมาทมีข้อยกเว้นอยู่ และยังมีกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคด้วย ถ้าต้องสู้คดีก็มีโอกาสที่บริษัทจะแพ้สูง

ในกรณีที่มีคู่แข่งหรือเกรียนที่มีเจตนาทำลายชื่อเสียงของบริษัท บริษัทสามารถสู้ได้โดยการดำเนินคดีแบบเงียบๆ โดยไม่ต้องประกาศให้โลกรู้ เพราะจะเป็นการเรียกแขกโดยใช่เหตุ เคยมีกรณีที่มีนักเลงคีย์บอร์ดปล่อยข่าวที่สร้างความเสียหายให้บริษัทยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่ง ทางบริษัทตัดสินใจฟ้องร้องแบบเงียบๆ โดยตั้งใจว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ซึ่งตอนนี้คดียังอยู่ในกระบวนการอยู่ เชื่อว่าถ้าคดีถึงที่สุดแล้วคงมีข่าวออกมาให้เห็น

Toneเวลาที่บริษัทต้องชี้แจงปัญหาของลูกค้าลงในกระทู้ อย่าลืมว่าเราไม่ได้คุยกับลูกค้าแบบสองต่อสอง แต่ยังมีไทยมุงอีกเป็นจำนวนมากที่จับตาดูอยู่ ข้อความที่จะโพสต์จึงต้องมีน้ำเสียงที่เหมาะสม ข้อความที่เคลือบด้วยน้ำเสียงเสแสร้ง ประชดประชัน จิกกัด จะทำให้ทุกอย่างแย่ลง แต่ข้อความที่อ่อนน้อม จริงใจ รู้สึกผิด จะช่วยให้เรามีแนวร่วมมากขึ้น

นึกไว้เสมอว่าลูกค้าไม่ใช่พระเจ้า แต่ลูกค้าเป็นปีศาจ หน้าที่ของเราคือทำให้ปีศาจพอใจ อารมณ์เย็นลง ไม่ฟาดงวงฟาดงาออกฤทธิ์ออกเดช ลูกค้าเจ็บปวดแค่ไหนกับความผิดหวังที่ซื้อสินค้าหรือใช้บริการจากบริษัทของเรา เรายิ่งต้องเจ็บปวดให้มากกว่าที่ลูกค้าเจ็บปวด

การเปิดเผยชื่อนามสกุลของเรา อาจจะเป็นทางหน้ากระทู้ที่ทุกคนเห็นได้หมด หรือทางหลังไมค์ที่มีเฉพาะลูกค้าที่เห็น จะช่วยให้ลูกค้ารู้สึกว่าเราจริงใจกับเขา เขาจะรู้ว่ากำลังคุยกับใครอยู่ และรู้ว่าเราคือ Contact Point สำหรับติดต่อในอนาคต

บริษัทต้องพยายามลดช่องว่างระหว่างตัวเองกับคนทั่วไปเพื่อให้ภาพลักษณ์ดูเป็นมิตร มีกรณีศึกษาน่ารักๆ ของ Samsung Mobile Support ที่มักจะมีกระทู้ร้องเรียนในห้องมาบุญครองอยู่เป็นประจำ แต่เมื่อทีมงานไปตอบกระทู้เกม Cookie Run ซึ่งไม่ได้มีอะไรเกี่ยวกับ Samsung เลย ปรากฎว่าสมาชิก Pantip ประทับใจจนตั้งกระทู้ชมเชยและกลายเป็นกระทู้แนะนำในที่สุด ภาพลักษณ์ของ Samsung Mobile Support ก็เลยดูน่ารักมากขึ้น ลองดูได้ที่กระทู้ ซึ้งกับเจ้าหน้าทีซัมซุงครับตอบได้ทุกเรื่องจริงๆ^^

Influencerกระทู้ร้องเรียนมีพลังทำลายหลายระดับ ตั้งแต่ระดับปืนฉีดน้ำที่เป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เคลียร์ได้ไม่ยาก ไปจนถึงระดับระเบิดนิวเคลียร์ ประเภทหลักฐานชัดเจน มีทั้งภาพ ทั้งคลิป เจ้าของกระทู้มีวาทะศิลป์ในการเล่าเรื่องได้อย่างยอดเยี่ยม เรื่องที่เกิดขึ้นก็กระทบความรู้สึกของคนจำนวนมาก เช่น เจอขาแมลงสาบในแกง เจอขนหยิกๆ ในบะหมี่ กระทู้เหล่านี้มีพลัง Influence สูงมาก คนพร้อมจะเชื่อและแชร์ บริษัทจะต้องรีบรับมือกับกระทู้เหล่านี้อย่างเร็วที่สุด

การเป็นพันธมิตรกับ Influencer หลายๆ คนไว้ก็เป็นวิธีการที่ดี เพราะ Influencer จะช่วยชี้แจงแทนบริษัทได้ในกรณีที่เป็นข้อร้องเรียนเล็กๆ น้อยๆ นอกจากนี้ Influencer ยังสามารถให้ความเห็นหลายๆ อย่างที่เป็นประโยชน์ต่อบริษัทได้ อย่างเว็บ Pantip เองก็มีการทำงานร่วมกับ Influencer บางคนที่เล่นเว็บเป็นประจำ เวลามีฟีเจอร์ใหม่ๆ ออกมา ก็จะให้ Influencer ทดลองเล่นก่อนเพื่อสอบถามความคิดเห็น บางครั้ง Influencer ก็จะเสนอไอเดียในการทำฟีเจอร์ใหม่ๆ มาให้ด้วย

มีบางบริษัทที่สามารถทำให้ตัวเองกลายเป็น Influencer ได้เหมือนกัน อย่างเช่น pjuk ที่เป็นสมาชิก Pantip มานานกว่าสิบปี ตอบกระทู้ด้านการเงินการลงทุนเยอะมาก จนกลายเป็นGuruห้องสินธรที่หลายคนนับถือ สมาชิกในห้องสินธรจะรู้กันว่า pjuk ทำงานอยู่ธนาคารไทยพาณิชย์ เวลาที่ใครจะร้องเรียนไทยพาณิชย์ก็มักจะค่อยพูดค่อยจากันเพราะเกรงใจ pjuk

Policyสุดท้ายคือเรื่องของนโยบายในระดับองค์กร เนื่องจากกระทู้ร้องเรียนสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ถ้าไม่มีนโยบายที่ชัดเจนว่าจะต้องทำอย่างไรและใครเป็นผู้รับผิดชอบ ก็อาจทำให้เหตุการณ์ลุกลามบานปลายกลายเป็นวิกฤตได้ เหมือนเวลาที่ไฟไหม้อาคารสูง ถ้าไม่มีการกำหนดบทบาทหน้าที่และการซ้อมหนีไฟไว้ก่อน ทุกอย่างก็จะโกลาหลไปหมด

ลองนึกถึงสถานการณ์จริงดู เวลามีกระทู้ร้องเรียนเกิดขึ้น ใครในบริษัทที่มีหน้าที่ที่จะต้องพบกระทู้นั้นก่อนใคร ใครจะทำหน้าที่ตอบกระทู้เพื่อแสดงตัวว่ารับเรื่อง คนตอบกระทู้มีอำนาจตัดสินใจได้แค่ไหน ใครเป็นคนส่งต่อเรื่องไปยังแผนกต่างๆ ของบริษัท ใครเป็นคนตรวจสอบว่าปัญหาที่ลูกค้าแจ้งมาเกิดจากจุดใดในบริษัท ใครเป็นคนติดตามเรื่องให้ลูกค้าจนกว่าจะปิดเคสได้

นโยบายของบางบริษัทครอบคลุมไปถึงการประเมินผลการตอบกระทู้ของพนักงานด้วย เช่น เวลาที่ตั้งกระทู้สอบถาม AIS ในห้องมาบุญครอง หลังจากที่พนักงานตอบข้อสงสัยจนหมดแล้ว จะมีข้อความมาทางหลังไมค์โดยมีการส่งลิงก์สำหรับประเมินการตอบของพนักงานด้วย เพื่อทางบริษัทจะได้นำผลการประเมินไปปรับปรุงบริการต่อไป
ทั้งหมดนี้คือแนวทางการรับมือข้อร้องเรียนออนไลน์ด้วยสูตร P-A-N-T-I-P หวังว่านักการตลาดได้อ่านแล้วจะนำไปประยุกต์ใช้ภายในบริษัทตัวเองเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์กับลูกค้าออนไลน์ให้ดียิ่งขึ้นนะครับ

เรื่องเด่นเย็นนี้ "ยอดขายปลอม eBay PayPal Amazon"  :wanwan004:

 xxx ไม่ใช่สถาบัน  xxx . com ไม่ใช่นิติบุคคล และไม่มีการกล่าวชื่อจริง ล่ารายชื่อ คนอื่น  พี่ไม่ระบุชื่อสักหน่อย
 สถาบันไม่ได้เป็นนิติบุคคล.บอร์ดเป็นสมาชิก เป็นการเตือน ไม่ใช่ใครก้อเข้าได้.มีหลักฐานการโต้ตอบ

ขอบคุณอาจารย์ จิค่ะ :wanwan017:

อยู่ข้างพี่ trudy ค่ะ
เพราะเราก็ได้ช่วย พิสูจน์หลักฐานตามสิ่งที่เห็น ให้มันประจักษ์แก่สายตาเท่านั้นไม่ได้มีการใส่ร้ายให้ร้ายใดใดทั้งสิ้น...

บอร์ดนี้ทนายเยอะนะคะ
หรือหากคุณพี่ trudy ต้องการทนายเก่งๆ ...เดี๋ยวจัดให้ได้เลยค่ะ

ให้คนนั้นฟ้องเลยครับ ความจริงจะได้ถูกเปิดเผยเสียที

เป็นกำลังใจให้ความถูกต้องและชอบธรรม รวมทั้งการทำมาหากิน โดยสุจริตและมีคุณธรรมครับ

พี่ว่าพี่สอนวิธีดู ยอดขายปลอม  แล้วพี่ไม่ได้อ้างชื่อจริง  พี่บอกว่าพบยอดขายปลอม ที่นี่ สิ่งที่ต้องไปตรวจคือ มันจริงแบบที่พูด หรือเปล่าจะแก้ไขอย่างไร เนื่องจาก เด็กต้องการเป็นที่ยอมรับ แต่ทำผิดวิธี
ภาพยอดขายที่สูงของเด็ก มันเหมือนกับหลอกตัวเองว่า เราแน่

หน้าจอทุกอย่าง ก็ทำให้ดู สิ่งที่สงสัยเรื่องจุดนิยม at a glance ก็ไปทำให้ดู
ส่งเมล์ไปสอบถาม ebay Paypal  Amazon ให้อีก คุณก็แค่เอาภาพไปตรวจสอบ
ภาพไม่จริงเอาออก ก็จบ :wanwan023:


ฟ้องไม่มีปัญหาเพราะเราทำด้วยเจตนาบริสุทธ์ คนดูยอดขายเป็นเยอะ น่าจะมากกว่าวันละ 200 คน ตามที่พี่ดูยอดวิว แต่พี่ห่วงศิษย์มากกว่าที่อายุน้อยกว่า 25 ที่เขาใช้ยอดขายปลอม ถ้าเขาหลอกคนอื่นด้วยวิธีนี้ จิตวิญญาณของเขาจะอ่อนแอ
พ่อพี่เป็นเด็กวัดนะคะ ได้ทุนเรียนจบโท ที่จุฟา พี่ก็ไม่ใช่ เด็กที่เรียน Inter
แต่พี่สอบ Tofel ได้ 600 ค่ะ พ่อพี่ปลุกพี่มาเรียน ภาษาอังกฤษ กัย แก ตอนตี 5ทุกวัน พี่ก็หุงเข้า ทำกับข้าวให้น้องก่อนไปโรงเรียน

พี่ได้งานทำตั้งแต่เรียนปี 4 ทุ่นแรงพ่อกับแม่
หากใครเห็นพี่เป็น Idol กระทู้ที่พี่เขียน พี่เตือน บาง้เรื่องก็เป็นเรื่องที่พี่ทำพลาดในอดีต มาแชร์การแก้ปัญหา พี่อยากให้น้องยืนได้ด้วยขาของตนเอง แล้วน้องจะภูมิใจในตัวเองว่า เราก็มีวันนี้กับเขาเหมือนกัน :wanwan003: :wanwan003:



หากใครจะเซ็นชื่อ พี่ไม่ได้กล่าวอะไร ถึงพวกน้องนะคะ ขอให้ดูสิ่งที่พี่เขียนว่าพี่ต้องการอะไร แล้วพี่เขียนจากด้วยใจว่า น้องเตยรู้เรื่องกราฟละเอียดแบบนี้หรือเปล่า แล้วนำข้อูมูลนี้ไปใช้ในวันข้างหน้า ดูให้ละเอียด พิจารณาให้ถ่องแท้ :wanwan016: :wanwan016:

เป็นกำลังใจให้เจ้ครับ :wanwan003: ผมว่าคนที่จะฟ้องลองย้อนดูตัวเราก่อนดีใหมครับ ถ้าเราทำผิดอาจจะด้วยเจตนาหรือไม่เจตนาก็ตาม เราสามารถแก้ตัวได้ครับ สังคมยังให้อภัย แต่ถ้ายังอยากจะฟ้องทั้งๆที่ตัวเองก็ยังหลอกลวงผู้บริโภค ทำผิดแต่ไม่ยอมแก้ไข ผมว่าเวรกรรมจะตามทันในชาตฺนี้ครับ
การที่เจ้ ออกมาบอกให้ทุกคนดู วิเคราะห์และคิดตาม ผมว่าเป็นผลดีกับใครหลายๆๆคนในบอร์ด รวมถึงตัวเราด้วย สู้ครับเจ้โหด !!!  :o :o

เป็นกำลังใจให้ครับ ตามอ่านกระทู้นั้นแล้วเทียบมานาน

มันน่าสงสัยจริงๆนั่นล่ะ  :wanwan011:

พี่ส่ง link ยอดขายจริงamazon ไปทีPM รบกวนน้องทำรูปฟน่อยนะคะ
ของจริงคัวเลขไม่แตก :wanwan003:

เป็นกำลังใจให้ ครับ คุณ trudy
พวกที่หากิน กับความ เชื่อของคนอื่นนี่ มันน่านัก :wanwan023:

เป็นกำลังใจให้ครับ
ผมก็เพิ่งขึ้นศาลมา
เตรียมหลักฐานป้องกันตัวเองไว้ก่อนเป็นดีครับ

กระทู้นี้ได้ความรู้เยอะเลย
ผมชอบตรงที่ พี่บอกว่า คุณพ่อปลุกมาสอนอังกฤษ
สวนพ่อแม่ผม ปลุกขึ้นมาสอน ธรรมมะ ข้อคิด และการปรับปรุงตัว
ให้พี่เป็น idolเลย  :wanwan013:

สมัยนี้ คนทำผิด ขู่คนที่เอากลโกง ความเจ้าเล่ห์ออกมาตีแผ่ ด้วยการขู่ว่าจะฟ้องร้อง ...... เป็นไปได้นะ  :P

ตามที่พี่ trudy pm มาให้เราช่วยลองขาย ภาพยอดของ benzio  ตามลิ้งค์นี้   http://amazon.benzio.net/   มาให้เพื่อนๆได้ดู  เพื่อเปรียบเทียบกัน

(http://image.ohozaa.com/i/e29/4soICh.jpg)

(http://image.ohozaa.com/i/e29/4soICh.jpg)

อันนี้ ที่เคยโพสลงกระทู้เก่า อ้างอิงจาก http://www.thaiseoboard.com/index.php/topic,345301.msg4819442.html#msg4819442

(http://image.ohozaa.com/i/5a9/JKhhKz.jpg)
(http://image.ohozaa.com/i/427/3nKTWC.jpg)


ก็อยากให้ผู้เชี่ยวชาญเรื่องรูปมาช่วยดูและวิเคราะห์ถึงความเป็นไปได้ ความน่าจะเป็นหรือ..เหตุผลอื่นใดว่าทำไมรูปมันแตกต่างกันค่ะ
 :wanwan017:

ธรรมะย่อมชนะอธรรม
ทำดีย่อมได้ผลดี
ทำชั่วยอมได้รับผลชั่ว
ให้กำลังใจเจ๊ครับ

อืม ปกติเวลาเราแคปหน้าจอ แล้วลดคุณภาพของภาพ เวลาขยายมันก็จะแตกรอบๆ ตัวหนังสือตัวเลขบ้างอ่ะค่ะ อันนี้ปกตินะ เราไม่ได้พิมพ์เพิ่ม
มันเกิดขึ้นได้นะคะ ทู้เก่าเราก็เข้าไปดูค่ะ แต่ก็ยังไม่กล้าตัดสินฟันธง เพราะเวลาทำภาพย่อภาพขยายภาพเราก็เป็นแบบนั้นๆ บางทีเหมือนกัน ไม่ได้ตัดแปะอะไร
เอาเป็นว่า มีใครมีความรู้จริงๆ เรื่องนี้ แล้วทำการทดลองได้บ้างคะ ตอนนี้เพลียมาก มีอย่างอื่นต้องทำอีกเยอะ ถ้าใครพิสูจน์สมมุติฐานนี้ได้ก็ดีค่ะ  :wanwan022:

ปล. ไปลองมาได้ละค่ะ ตอนแรกนึกไม่ออกว่าทำตอนไหนน๊าที่เห็นมันแตก

สรุปคือ เราทำการแคปรูปภาพโดยใช้โปรแกรม FastStone Editor นะคะ แล้วพอเวลาจะเซฟเนี่ย เพื่อให้ภาพมันมีขนาดเล็กลงมาก
เราก็เลยลดคุณภาพของภาพลง 50% คือถ้ามองปกติก็ไม่ได้แตกต่างอะไรมาก แต่ถ้าขยายขึ้น 175% ก็จะเป็นอย่างที่เห็นค่ะ
(ปกติเค้าไม่ลดเยอะขนาดนี้หรอกค่ะ เราทำให้เห็นชัดเฉยๆ ของเราเลยแตกเยอะกว่าปกติ 555)
เปล่าตัดแปะ นะคะ แคปกันสดๆ ลดและขยายกันสดๆ ค่ะ จะบอกว่า ตัวหนังสือแตกร้าวไม่สามารถพิสูจน์ได้ทัั้งหมดนะคะ ถ้ามันไม่เห็นรอยแปะชัดเจน
ลองใช้โปรแกรมทำการ แยกแสงแยกสีดูค่ะ (เค้าเรียกว่าอะไรน๊าาา) แบบนั้นจะเห็นชัดเจนเลยค่าาา  :P

(http://upic.me/i/tv/beyonce.png)

ปล.2 ไม่ได้เกี่ยวกับฝ่ายใดทั้งสิ้นนะคะ  :wanwan031:

ขอขอบคุณ คุณ fangbif มากๆเลยค่ะ แบบนี้แหละ ที่เราตองการ ก็คือการพิสูน์เพื่อให้ได้มาซึ่งความจริง ไม่ได้ต้องการเอาชนะคะคานกับใคร
เพราะเราก็ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับฝ่ายใดเช่นกัน

อีกเรื่องหนึ่งคือการที่เขาประกาศว่าจะเลิกสอนให้คนรีบมาลงเรียนกับเขา แต่พอถึงกำหนดที่เคยบอกไว้ก็ไม่ได้เลิกแถมยังโปรโมทคอร์สปรับราคา ฯลฯ ยกใหญ่ ทำให้รู้สึกเหมือนถูกหลอก เป็นเคสที่จำติดเลย

ดู http://pantip.com/topic/31015840
มี screen บองสำนัก ตัวเดียวที่ขายได้จริง 30 days = $11,637.83 เป็นของจริง.
ใช้แว่นขบาย 400 % สำหรับศิษย์ไม่ได้เรียน advance อันนี้ต้องพิสูจน์http://www.oatonline.com/page/eBay.html

อันนี้ในหน้าโมษณา ebay ที่ไดเ $1664.00 อันนี้ผืดหลาบจุด
รบกวนน้องแพรทำรูป เอากราฟแท่งทั้งหมดนะคะ

มีคำตอบให้คุณ Fangif ในช่วงต่ำ :wanwan003:



กระทู้ให้ความรู้ ไม่ชอบ mama :wanwan013:

เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ เบื่อมาม่าละ นี่ก็ซดมาม่าก่อนนอน ลากยาวแต่เมื่อคืนเลยค่ะ   :wanwan022:

เราเชื่อว่ามีหลายคนในวงการ ใช้ข้อมูลจริงบ้าง เท็จบ้าง ผสมกัน เพราะตลาดมันคงไม่คงที่ตลอด
ยิ่ีงขึ้นหลังเสือแล้วคงลงยาก

เพราะฉะนั้น ขอหลักฐานที่ชัดแจ้งจริงๆ ประมาณว่า เห็นปุ๊บชัดเลย หลอกลวงแน่ๆ
ไม่เอาพวกข้อสันนิษฐานและข้อกล่าวหาลอยๆ นะคะ ขอหลักฐานเลยค่ะ


แต่.... หากว่าต้องการเก็บไว้เพื่อเรื่องทางกฏหมายไม่อยากให้เสียรูปคดีหากมีการฟ้องร้อง อันนี้ก็เข้าใจเช่นกันค่ะ   :wanwan009:
มาม่าเริ่มส่งกลิ่นอีกแล้วสิ  :wanwan004:

ทุกคนถูกฟ้องได้ครับ นั่งอึบ้านตัวเองยังถูกฟ้องได้ แต่ศาลจะรับคำฟ้องมั้ย แล้วฟ้องไปจะชนะมั้ยอีกเรื่องหนึ่ง

ส่วนคนชอบขู่หมิ่นประมาท ถ้าฟ้องแล้วแพ้เองก็เตรียมเสียเงินค่าดำเนินคดีให้ฝ่ายถูกฟ้องด้วย เพราะเค้าเอาคืนแน่ๆ

ปล่อยมันฟ้องไปครับ

ไม่รู้นะครับเรื่องยอดจริงไม่จริง

ถ้าใช้ Firebug ทำ มันจะเนียนกริ๊บ ไม่ต้องใช้ PS มานั่งทำหรอกครับ

จริงๆการจับผิดแค่รูปผมมองว่าจับกันไม่ได้ครับ

ต้องจับภาพใหญ่ เช่นยอดเท่านี้ แต่กราฟไม่ตรง อะไรประมาณนี้ครับ

1.ลองเช็ครายละเอียดรูปดูครับว่าแต่งขึ้นด้วยโปรแกรมอะไร



2.เช็คผ่าน ACDSee


3.ถ้ามีการแก้ หรือแต่งภาพ ทำไมถึงต้องแก้ น่าจะแคปหน้าจอเฟชตัวเองมาโชว์แค่นั้น เพราะรูปนั้นไม่น่าจะมีอะไรต้องตกแต่ง

บนตัวเลข 4416.94 ชัดมาก อย่าไปแคร์ครับผม

ถ้าน้องเพิ่งมาอานกระทู้นี้ พี่คิอเจ๊โหด ประจำบอร์ด พี่แนะนำทั้งเรื่องงานและการใช้ชีวิติอย่างมีความสุข
น้องบางคน เช่น Chipatha โดนพี่ดุบ่อย เพระน้องเขายังไม่สามารถที่จะรู้รบปรบมือกับ ลูกค้าเสือสิงห์ กระทิงแรด บน eBay ได้ พี่เลยนำวิธีการแก้ปัญหา คือ Chipatha เหนื่อยมากต่อการตอบเมล์ลูกค้า
ของหาย โดนโกงบ่อย อาจเป็นเพราะพี่ไปทำงานมากกว่า 23 ประเทศ พี่เลยรู้ว่าคนต่างชาติ เขาชอบซื้ออะไร ชอบกินอะไร
พี่ถูกฝึกมาให้แก้ปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ เริ่มตั้งแต่วิธีคิด การใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ และพี่จะเป็นคนที่มองหาข้อบกพร่องในส่วนที่คนอื่นเขามองไม่เห็น เพื่อไม่ให้ปัญหาเดิมเกิดซ้ำอีก อาจารย์พี่บอกว่าอย่าท่องจำ เรียนขอให้เข้าใจ จบแล้วต้องทำให้ดีกว่าเดิม

ตอนพี่เป็นเด็กพี่ค่อนข้างติดพ่อ นอกจากพี่จะได้ขนมแล้ว พอพี่ชอบพาพี่เดิน แล้วถามว่าเมือ 5 นาทีที่ผ่านมาหนูเห็นอะไรบ้าง ทักษะเบื้องต้นคือการสังเกต น้องเห็นอะไรบ้าง ?????
ส่วนใหญ่การเขียนของพี่จะเป็นการให้ ความรู้นอกตำรา

อย่าง Chipatha บอกว่าลูกค้าเปิด case ว่าของไม่ได้รับ พี่จะถามเชาว่าของออกจากเมืองไทย หรือยัง
เขาบอกว่า usps TRACE สินค้าไม่ได้ ให้ลูกค้าโทรหา call center ของประเทศนั้ น ถ้าลูกค้าโทรแล้วไม่คืบหน้า เราโทรให้ คนรับสายไม่รู้เรื่อง ขอคุยกับ หัวหน้าเขา

เมื่อน้องขายสินค้าและบริการบน โลก online อาจจะมีคนมาทักเรื่องที่น้องอยากฟังและไม่อยากฟัง
กระทู้ร้องเรียนบริษัทตัวเองเกิดขึ้นตอนไหน ไม่รู้ว่าถ้ามีกระทู้แล้วจะรับมือยังไง ถ้าจัดการไม่ดีจะทำให้กระทู้นั้นลุกลามบานปลายกลายเป็นวิกฤตหรือเปล่า พอเวลามีกระทู้เกิดขึ้นจริงก็เลยลนลาน ทำอะไรไม่ถูก อย่างไรก็ตาม ถ้าเราเตรียมแผนรับมือไว้ก่อนโดยใช้หลัก P-A-N-T-I-P (Prompt, Apologize, Non-legal, Tone, Influencer, Policy) ก็จะช่วยให้รับมือกับสถานการณ์จริงได้ง่ายขึ้น
 พี่คิดว่ามันเหมาะกับ case นี้ค่ะ

พี่คิดว่าจะสอนให้พวกเราเข้าใจถึงวิธีการรับมือกับปัญหาที่เกิดขึ้นใน โลก ออนไลน์

P-A-N-T-I-P คืออะไร อ่านหาข้อมูลในก่อนหน้านี้นะคะ

สงสัย ยอด PayPal ของ website หนึ่ง
ใน 1 เดือนขายได้ค่า $91,094.62 เกือบ 3 ล้านบาท ทำ dropship

ในหน้าจอชองภาษาไทยของเขา Verified คือ ยืนยันตัวคน :o :o :o :o
ภาษาไทยของพี่ คือ ยืนยันตัวตน :wanwan015:
พี่ว่าของทุกคนเมือแสดงภาษาไทย ก็จะเป็นคำว่ายืนยันตัวตน :wanwan015:
http://www.thaiseoboard.com/index.php/topic,345301.140.html

แต่เนื่องจากพี่พูดว่า ถ้าคนนี้ใช้ยอดนี้เพื่อต้องการเป็นคนสอนคนใหม่ ที่นี จะเกิดอะไรขึ้น :wanwan005:
พี่คาดการณ์ถูกต้องตอนนี้เขาไม่ได้สอนแล้ว พี่ส่ง message ถามคนที่สอน Amazon FBA พีถามไปว่าน้องไม่สงสัยยอด $91,904.62 เหรอถ้าน้องมีเงินเกือบ 3 ล้านน้องจะไม่ถอนเงินเลยเหรอ  เพราะอัตราแลกเปลี่ยนๆทุกนาที เขาบอกลงสัย เจาไม่ได้อยู่ในส่วนโมษณา  เพราะเขา support amazon อยู่ เขาบอกว่าเจ้าของสำนักรับผิดชอบต่อสังคมแล้ว คือคอร์สนี้ไม่มีแล้ว พี่ไปถามอาจารย์จิระพลตามที่เจ้าสำนักให้ข้อมูลมา เห็นเหมือนกันหรือเเปล่า
ใช้แว่นขยาย 400% ส่องดู
คำถามที่มีอยู่ในใจ แล้วคนที่เรียนกับคนที่ได้ยอด $91,904.62 เห็นแบบที่พี่เห็นหรือไม่ :P

:



ดู screen paypal ของแท้ในหน้านี้นะคะ :wanwan005:
http://www.thaiseoboard.com/index.php/topic,345301.100.html

 :wanwan003:
ถ้าน้องเจอกระทู้ สงสัยในสินค้าหรือบริการ รับเรื่องไว้ จะลดปัญหาได้เยอะ หรือตอบ case eBay I am working in upcountry. I will contact you again on Friday :wanwan016:

Prompt
เวลาที่ลูกค้าร้องเรียน สิ่งที่เขาคาดหวังคือการตอบสนองอย่างรวดเร็วจากบริษัท ถ้าบริษัทแสดงตัวช้า ลูกค้าจะเริ่มมีแนวร่วมมากขึ้น ซึ่งพลังการมโนของแนวร่วมนี่น่ากลัวพอๆ กับวาทะที่เจ็บแสบสำหรับบริษัท เช่น เจ้าของบริษัทร่ำรวยขึ้นมาได้เพราะโกงลูกค้าแบบนี้นี่เอง (ข้อเท็จจริงคือ อาหารสำเร็จรูปมี defect จากการบรรจุซอง ทำให้น้ำหนักของอาหารน้อยกว่าที่ระบุบนซอง 5 กรัม) หรือ ร้านนี้เตรียมเจ๊งได้แล้วถ้ามีพนักงานที่พูดจาแย่กับลูกค้าแบบนี้ (ข้อเท็จจริงคือ ไม่รู้ว่าบทสนทนาของลูกค้ากับพนักงานร้านเป็นตามที่เจ้าของกระทู้เล่าจริงหรือเปล่า)

ความน่ากลัวอีกอย่างของการตอบสนองช้าก็คือกระทู้นั้นจะถูกแนวร่วมเข้ามาช่วยกันโหวตให้ติดกระทู้แนะนำ รวมถึงกระทู้จะถูกแชร์ออกไปใน Social Network ซึ่งจะมีคนเห็นเพิ่มขึ้นอีกมหาศาล หลายๆ บริษัทจึงต้องมีทีมงานคอยมอนิเตอร์ไว้ตลอด หรืออาจจะใช้ Social Media Monitoring Tool ช่วยดูให้

สมมุติว่าบริษัทตรวจพบกระทู้ร้องเรียนได้อย่างรวดเร็ว แต่ยังไม่รู้ว่าเรื่องร้องเรียนนั้นมีข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร บริษัทควรจะทำอย่างไรกับกระทู้นั้นดี? คำตอบก็คือ บริษัทควรจะโพสต์ข้อความเพื่อแสดงตัวออกไปก่อนว่ารับทราบเรื่องแล้ว เช่น “สวัสดีครับ ผมเป็นฝ่ายดูแลลูกค้าของบริษัท xxx ขอรับเรื่องจากเจ้าของกระทู้ไปตรวจสอบ และจะรีบแจ้งผลให้ทราบในกระทู้นี้โดยเร็วที่สุดครับ” การแสดงตัวแบบนี้จะช่วยลดอารมณ์เกรี้ยวโกรธของมวลชนให้เป็นอารมณ์เฝ้ารอดูเหตุการณ์ต่อไป เป็นการแสดงออกว่าบริษัทไม่ได้เพิกเฉย แต่เข้ามาแสดงตัวเพื่อรับผิดชอบกับปัญหาที่เกิดขึ้น

อย่างไรก็ตาม ในบางสถานการณ์ บริษัทอาจเลือกที่จะนิ่งเฉยก็ได้ ถ้าคิดว่าแสดงตัวชี้แจงอะไรออกไปก็มีแต่เสียหายหนักและเรื่องไม่จบได้ง่ายๆ ถ้าเฉยๆ ไว้อาจเสียหายน้อยกว่า โดยธรรมชาติของข่าวสาร เรื่องดราม่าจะเงียบลงได้ภายในหนึ่งสัปดาห์ ทั้งนี้ต้องไม่มีการเปิดประเด็นใหม่ให้ถูกโจมตีได้อีก แต่ก็ต้องทำใจว่าเรื่องจะค้างคาอยู่ในอินเทอร์เน็ตแบบนั้นตลอดไป ถ้าใครกำลังจะตัดสินใจซื้อสินค้าของบริษัท แต่ search เจอกระทู้ซะก่อน ก็อาจเปลี่ยนใจไม่ซื้อแล้วก็ได้

พี่อยากมีพลังน้ำใจเป็น เจ๊โหด 500 ขอคนละ 1 แต้มนะคะ :wanwan017: :wanwan017: :wanwan017:

จะกด thank ให้เจ๊โหดทุก 72 ชั่วโมง

ยาวมากก

พี่ Trudy เอาใจช่วยอีกเสียงครับ  นำเสนอข้อเท็จจริง ต่อสาธารณะชน ไม่ให้เกิดการหลอกลวง ฟ้องได้แต่ไม่น่าจะชนะ เพราะโลกอินเตอร์เนต เขาด่ากันหนัก ๆ กว่านี้ ยังมีเลยครับ และพี่ไม่มีเจตนาที่สร้างความเสียหายให้ใคร ครับ

อย่าเพิ่งตัดสินว่าใครแพ้หรือชนะ เจ๊โหดเป็นคนชอบเล่นเกมเสมอ มาตลอด คิดว่าน้องบางคนอาจจะไม่ค่อยชินกับความคิดของเจ๊ เจ๊ทำงานกับบริษัทต่างชาติเวลาคุยในห้องประชุมเสียงจะดังมาก
เถียงกันตลอดแต่ออกจากห้องประชุม เรื่องจบ

เจ๊ตั้งกระทู้ว่ายอดขายของเด็กคนนี้มันดูแปลก เพราะเจ๊อยากรู้ว่าน้องเห็นอะไรบ้าง :wanwan023:
แล้วน้องได้ทำให้เพื่อนเป็นตัวอย่าง แบบ แพรกับ fangib หรือเปล่า :wanwan003:
ทุกกระทู้พี่อยากให้น้องหาคำตอบด้วยตัวเอง ไม่ต้องรอเจ๊หรือใครมาหาคำตอบให้
เพราะคือโอกาสทางธุรกิจที่น้องเสียไป
มาตอบคำถามกัน

1 คุณ Nightclub บอกว่า ถ้าใช้ firebug ทำยอดมันจะเนี๊ยบมากกว่า Photo shop :wanwan005:

คำตอบ มันทำกราฟได้เน๊ยบแต่มันก็ดูออกว้าไม่ใช่กราฟแท่งจาก eBay หรือ amazon เพราะว่าตัวเลขมันจะอยู่ในกรอบขาวบางๆ ตัวเลขจะอยู่บนกราฟแท่ง
ดูตัวอย่าง
http://www.thaiseoboard.com/index.php/topic,345301.40.html
ใช้แว่นขยาย 400% จะเห็น

2 มาดูกราฟ ebay ของจริงจากคุณเมษา :wanwan005:

http://www.thaiseoboard.com/index.php/topic,345301.100.html
24hrs ขายได้ $1115ไม่ มี่จุดทศนินม ความสูงของกราฟประมาณ 0.1 cm
ตัวเลขชัด ตัวเลขมันจะวางไปเลยไม่อยู่ในกรอปใดๆ และวางสูงกว่ากราฟแท่ง
ใช้แว่นขยาย 400% จะเห็น

3 มาดูกราฟที่สร้างขี้น :wanwan005:

http://www.thaiseoboard.com/index.php/topic,345301.80.html
ใช้แว่นขยาย 400% จะเห็น ตัวเลขและพื้นที่รอบๆมันไม่เนียนเอาซะเลย
http://www.thaiseoboard.com/index.php/topic,345301.100.html
อดีตเด็กม 6 ที่ขายได้วันเดียว $1660 ที่เป็นการโมษณาeBay :wanwan004:
ใช้แว่นขยาย 400% จะเห็น ตัวเลขและพื้นที่รอบๆมันไม่เนียนเอาซะเลย
มีตัวเลขทับวางลงไปใน 24 hs 7 days
ความสูงของกราฟ 24 ชม ไม่ตรงตามมาตรฐานของ eBay
มีจุดทศนิยมบนกราฟแท่ง เจ๊โหดโทรไปถาม eBay แล้ว eBay ยอกว่า ถ้ายอดขายใน 1 เดือนของคุณเกิน $3000 กราฟแท่งของคุณมันไม่มีจุดทศนิยม
ถ้าน้อยกว่านั้นมี
ยอดขาย eBay จะสังเกตได้ง่ายกว่า Amazon ในโทรศัพท์ ก็จะมีการแสดงยอดที่ไม่ตรงตามมาตรฐาน eBay
ใช้แว่นขยาย 400% จะเห็น

ด้วยรัก
จากเจ๊โหด

เอาวิธีการดูกราฟไปปรับใช้ ก่อนลงทุนอะไร พวกซื้อหุ้นจะเห็นชัด
 :wanwan007:

โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าเค้าคงไม่ฟ้องจริงๆหรอกครับ แต่เพื่อความไม่ประมาท ควรเก็บรวบรวมพยานหลักฐานไว้ครับ
ต้องเข้าใจก่อนว่า ทุกเรื่องสามารถฟ้องได้หมด ส่วนผลแพ้หรือชนะก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง อยากให้ทำใจให้สบายๆครับ ไม่ต้องคิดมาก
มีปัญหาปรึกษากฎหมายได้ครับที่ สุภาพบุรุษทนายความ http://www.lawgeneration.net/
สมาชิกใหม่ ตอบกระทู้แรก คงไม่ผิดกฎน่ะครับ :wanwan038:

จ้าคุณพ่อพี่เป็นมะเร็งเพิ่งเสีย ก่อนจะไปพี่เห็นพ่อไหว้ทั้งตืน
พ่อบอกว่าคนชุดดำมาเต็มห้อง บอกว่าให้ลูกสาวแต่งตัวให้จะได้ไปงานศพสมเด็จพระสังมราช หลวงปู่ที่เคยเลี่ยงท่านมารับแล้ว

งานพิธีพระราชทานเพลิงศพเรียบร้อยมาก ได้เงินมา 3 แสน ค่าใช้จ่าย 2 แสนแปด ท่านองคมนตรี อดึตประธานศาฎีกา ชาญขัย ลิขิต จิตถะมาเป็นประธาน ของชำรวยรูปเสร็จในวันเดียว
ที่จริงพ่อจะไปหลายครั้งแล้ว แต่ท่านมีงานตั้งมูลนืธิ ช่วยเหลือเด็กยากจน บริจาคไป 2 ล้าน เสร็จก่อนวันที่ท่านสิ้น 2 วัน

พ่อช่วยพี่มากแม้พี่จะเฝ้าไข้ตลอด 2 เดือน ขายของได้อย่างน้อย $700 ต่อวัน
สินค้าที่ไปเอาก็อยู่ใกล้ รพ ทั้งไปรษณีย์ ทั้งร้าน internet
หนังสือการ์ตูนที่พ่อซื้อให้ตั้งแต่เด็ก มันเป็นรุ่น limited edition ประมูลบน eBay ได้มา 450,000 บาท ต่อ 1 เล่ม  :wanwan003:

เพิ่งมีเวลาเข้า ไทยเสียว วันนี้เอง ค่ะ  ขอแสดงความเสียใจ ต่อ คุณ Turdy ด้วยนะค่ะ ที่ สูญเสีย คุณพ่อ....

ไม่น่าจะฟ้องนะค่ะ เรื่องแบบนี้เสียเวลา เสียค่าทนาย จะคุ้มหรือ

ขอเอาใจช่วยให้ คุณ Turdy ให้ผ่านพ้นทุกเรื่องไปด้วยดี นะค่ะ...

ไม่ได้อยุ่สายอีเบย์ แต่ขอเป็นกำลังใจให้ คุณพี่ trudy  ค่ะ

อยากฝากถึงเจ้าของคอร์สถ้าผ่านมาอ่าน - จริงๆการที่มีคนตั้งข้อสงสัยเป็นสิ่งดีมาก
เพราะนั่นบ่งบอกว่ามีคนกำลังสนใจในคอร์สนี้ โดยฉพาะ user ที่มีความน่าเชื่อถือสูงอย่าง คุณพี่ trudy
แล้วถ้าออกมาพิสูจน์ความจริง ว่าทั้งหมดเป็นสิ่งจริง คุณเจ้าของที่ขายคอร์ส
จะได้รับความน่าเชื่อถือมากมาย ได้ลูกค้าเข้าคอร์สเพียบ พลิกวิกฤติเป็นโอกาส
แต่การเงียบเฉย หรือแสดงออกถึงความไม่โปร่งใส ความน่าเชื่อถือคุณอาจจะหายไปได้
ไม่อยากให้มี ปัญหากันนะคะ
แทนที่คุณจะหาข้อมูลมาฟ้องร้องกัน เอาเวลามาพิสูจน์ตัวเพิ่มความน่าเชื่อถือดีกว่าค่ะ

พี่เห็นด้วยเป็นอ่ย่างยิ่ง ถ้าพี่เป็นคนอบรม พี่จะกลับไปถามศิษย์ว่า กราฟตัวเลขมันแตกเพราะอะไร ก่อนทำไฟล์ให้เล็กลง ตัวเลขมันเป็นแบบนี้ หลังทำ สมมติใช้ App แบบ fangif ตัวเลขจะแตกเป็นแบบนี้ สำหรับ Amazon เขาจะพลิกวิกฤตเป็นโอกาสเลยนะ ต้องคงดู files เริ่มต้น ก่อนจะปรับขนาดให้เล็กลง :wanwan007: :wanwan007:

ผมก็คิดแบบนี้ เหมือนกัน  การขู่ฟ้อง มันเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง   

ถ้ายอดขายของคุณเยอะจริง  ทำไม ไม่ทำเป็น vdo ลง youtube เลย เอาตั้งแต่พิมพ์ url เข้าเว็บ และ login และ แล้วเข้าไปเจอยอดขาย แล้ว เอาหนังสือพิมไทยรัฐวันล่าสุดวางข้างจอคอมด้วยเลย จะได้รู็ว่าไม่ตัดต่อ 

เมื่อก่อนเซียนๆในนี้ เวลาโชว์ยอดขาย เขาก็ทำแบบนี้กัน

ถ้า ยอดขายคุณ เยอะจริง  คนเขาก็ ศรัทธาคุณเอง และ เข้าไปเรียนกับคุณเอง   และ  ถ้ายอดขายคุณเยอะจริงผมก็อยากจะไปเรียนกับคุณเหมือนกัน 

และถ้ายอดคุณเยอะจริง  ก็พิสูจน์มา   ง่ายๆ   

ขอเป็นกำลังใจให้คุณพี่เจ๊โหดด้วยคนครับ  :wanwan003:

ฟ้องยังไงครับ ข้อหาอะไร มาตราอะไร ศาลไหน แขวง จังหวัด แพ่ง อาญา ยังมองไม่เห็นทาง ยินดีให้คำปรึกษาด้านกม ครับ สมาชิก tsb ฟรีครับ

อดไม่ได้ที่จะกดThankครับ สู้ๆครับ ^^

เป็นกำลังใจให้คุณ trudy นะคะ คนดีพระคุ้มครองค่ะ คนทำไม่ดีก็แพ้ภัยตัวเองค่ะ

พี่ก็อยากให้ทางสถาบันทำตามคำแนะนำที่คุณ ET เสนอเพราะการใช้วิธีแบบเอาหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ login ตั้งแต่ URL ถ่ายคลิปในการพิสูจน์ยอดมันเป็นการพิสูจน์ได้ดีทีเดียว

น้องเจ้าของยอดที่โชว์ก็อย่าคิดว่าเราโดนกดดัน มีตัวตนแล้วไม่มีคนเชื่อ พี่ขอให้น้องมองอีกมุมนีงว่ามันเป็นโอกาสของเราที่จะพิสูจน์ตัวตน เอาตัวอย่างพี่เองแล้วกัน :-[

ไปสมัครงาน เขาเช็คก่อนว่า transcript และใบ Certificated ปลอมหรือไม่
ให้เอาใบสลิปเงินเดือนๆสุดท้ายมาด้วยเพราะกลัวจะเรียกเงินเดือนจนเว่อร์ มีจดหมายรับรองผลงานจากลูกค้า และจากหัวหน้างานคนก่อน โทรไปคุยกับหัวหน้างานคนเก่าหรือฝ่ายบุคคล พี่ก็โดนแบบนี้ หัวหน้าเก่าโทรมาเล่าให้ฟัง
ไม่ได้โทรหาหัวหน้าเก่าแค่คนเดียวนะคะ โทรหาถึง 3 คน  :o :o :o  
ตามเบอร์โทรที่ให้ไว้ในใบสมัคร

เพื่อนพี่บอกว่า ถ้าใช้ Fire Bug สร้างยอดขายภาพมันจะเนี๊ยบ แต่เมื่อผ่าน FastStone Editor แบบที่ Fangif บอกภาพมันจะแตก แต่จุดที่เราเห็นเล็กๆรอบตัวเลข มันจะไม่ออกนอกกรอบสี่เหลี่ยมจางๆ :wanwan005:

หากเป็นยอดขายจริง มันจะมีจุดเล็กๆกระจายไปรอบๆตัว้เลข ตามรูปที่น้อง Fangif ทำให้ดู การกระจายของจุด มันจะไม่เหมือนกับที่ใช้ fire bug ดูอย่างยอดวิวของบียองเช่

เขาเห็นด้วยกับวิธีที่คุณ ET เสนอมานะใส่ URL login
เอาหนังสือพิมพ์ไทยรัฐวันล่าสุด อยู่ที่คอมพิวเตอร์ แล้วถ่ายคลิป :wanwan003: :-[

ผมเห็นฝรั่งเขาโชว์ยอดใน youtube เขาจะเข้า google แล้วพิมพ์ today ' s date มันก็จะขึ้นทั้งวันที่และเวลาด้วย

จะฟ้องอีท่าไหนน้อ สูๆครับ +1 แรงๆเลย

เพิ่มเติม

ถ้าจุดขายของคอร์สคือยอดขายแล้วเอายอดมาแสดงเพื่อการตลาดผมคิดว่าต้องรับประกันรายได้ด้วย หรือถ้าไม่รับประกันรายได้ก็ต้องใส่ DISCLAIMER บอกให้เข้าใจซึ่งหน้าว่า ไม่รับประกันรายได้ ไม่งั้นก็หมิ่นเหม่ทำให้คนเข้าใจผิด

การตลาดโชว์รายได้ในประเทศจะระวังมาก พบบ่อยที่ฝรั่งจะใส่ DISCLAIMER ลงไปในผลงานของตัวเอง เพราะหากไม่ DISCLAIMER ผู้บริโภคก็ฟ้องเจ้าของผลงานได้เช่นกันถ้าไม่ได้ตามที่เอามาเป็นจุดขาย แต่บ้านเราบางคนไม่ทำเพราะกลัวคนไม่อุดหนุน

ทำให้น่าคิดต่อไปว่าถ้ากลัวแบบนี้แล้วจะเป็นกูรูตัวจริงได้อย่างไร แล้วก็ทำให้คิดไปถึงที่คุณ Trudy เคยบอกไว้ คนบางคนไม่ได้มาเพื่อสอนให้ใครเป็นตัวจริงในโลกธุรกิจ -  เป็นกำลังใจให้คุณ Trudy ครับ

ถ้าจะสอนธุรกิจของที่เมืองนอก จุดขายอย่างแรก คือ คุณสมบัติของผู้สอน เช่น ปู่ Philip Kotler
ถ้าเด้กไทยอย่างจะเป็นนักการตลาด ไปเข้า Kellogg School of Management at Northwestern University.
อย่างที่คุณ Careeative ว่า ถ้าสถาบันสอนธุรกิจเขาจะบอกว่า เด็กจบใหม่ ถ้าจบจากที่นี่ จะมีรายได้เฉลี่ย $120,000 ต่อปี
เขาจะไม่โชว์ยอดขายแบบที่เมืองไทย โฃว์คนสำเร็จที่อายุน้อย รายได้ดี ไม่มีประสบการณ์  ที่เราว่าบางคนยังรู้ความจริงไม่หมด


เช่น
เด็กจบใหม่อายุ 17 หารายได้เดือนละ 70,000บาท คุณมัวทำอะไรอยู่
ข้างบ้านเราเอง แม้เป็นตัวแทนขายอาหารเสริม ลงทุนไปล้านห้่า เพื่อจะได้ราคาส่ง
ชายไม่ดี อุปโลกลูกตัวเองเป็นนักขายที่ประสบความสำเร็จ
คนเห็นใน Internet ก็สนสิ คิดว่า เงินดี ทำง่าย ไม่ต้องมีประสบการณ์ พอถาม Product ลูกไม่รู้เรื่อง

เราเคยไป comment ใน youtube เด็ก 17 ขาย Amazon ได้เดือนละ 70,000 บาท

โดนลบความเห็นตามระเบียบเรื่องใส่  DISCLAIMER คือไม่รับประกันรายได้ เพราะจะทำคนดูเข้าใจผิด คนเรียนย่อมคาดหวัง :wanwan009:
พอความเห็นถูกลบ เราก็งง ทำไมต้องลบ เราถือวาคนอ่านควรได้รับความเห็นที่แตกต่างและคนทำ Clip ควรใช้โอกาสนี้ไขข้อข้องใจ
หรือมันต่างวัฒนธรรม :'( :'( :'(


โรงเรียนสอนธุรกิจจะสอนให้เราสร้างธุรกิจใหม่ ที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อนแล้วนำไปเสนอผู้ลงทุนตัวจริง ว่ามีใครจะลงทุนร่วมกับเราไหม
จะมีการประกวด Business Plan ที่วโลกด้วยนะ
เขาจะไม่สอนให้เรา Copy คนอื่นแม้จะขายไม่ตัดราคาก็ตามเพราะคุณจะเป็นได้แค่เงา ไม่ได้เป็นตัวจริง
ในทุกอาชีพ เราควรจะเป็นตัวจริง เรียนเริ่มตั้งแต่พื้นฐาน ไปจนถึงกลยุทธ์
ตอนนั้นเครียดมาก เพราะ ทำเรื่องวัคซีน ทีมไม่มีใครรู้เรื่องยาเลย อ่านหนังสือเยอะ 

คุณอาจจะชายของตามคนอื่นเพื่อดึง Traffic แต่คุณต้องมีสินค้าที่คนอื่นไม่มีและทำรายได้ดีด้วยจึงจะอยู่ได้ในระยะยาว
สร้าง Brand ตัวเองว่างั้นเถอะ :wanwan007: :wanwan007:

โห ฮ็อตจริงๆ ขุดไว้ก่อน เดี๋ยวเข้ามาอ่าน

ฟ้องเพื่อ? :(

ผมว่าพี่ trudy น่าจะไปเคลียร์กันหลังไมค์กับคู่กรณีครับ เรื่องจะได้ไม่บานปลาย (ถ้าทำได้)

ผมเชื่อว่าหลายๆคนอยากได้หลักฐานที่เป็นของจริงในการ support ความเห็นของพี่ครับ

เรื่องรูปบางทีมันขึ้นอยู่กับ resolution ของการ save file และหลายๆปัจจัยมันดูไม่ได้ 100% ส่วน firebug ก็เนียนตัดสินยาก

น่าจะไปขอหลักฐานกันให้ชัดเจนไปเลย เปิดกันให้ดูจะๆ หรือขอคนที่ได้จริงๆดูสัก 2-3 คน ถ้าทำได้นัดวันแล้วไปถ่าย  video เลยครับ ถ้ายอดที่ได้เป็นยอดจริงก็ควรถอย และโพสขอโทษกันให้เรียบร้อย

ถ้ายอดไม่จริง ก็ฟ้อง สคบ. ไปเลยครับว่าโฆษณาเกินจริง และแฉให้เต็มที่เลยครับ ถ้าเป็นของปลอม

ได้เป็นกรณีตัวอย่างวันข้างหน้าจะได้ไม่มีใครกล้าเอายอดปลอมมาโชว์อีก

จะได้เป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่ายครับ


ปล. อยากรู้เหมือนกันครับ  :wanwan017: :wanwan017: :wanwan017: :wanwan017: :wanwan017:

ผมไม่ได้ทำ Ebay แต่ก็ขอเป็นกำลังใจให้พี่คับ

ผมว่าถึงเขาฟ้องได้จริง แต่หลักฐานเขาก็อ่อนเหมือนกัน
เพราะถ้าเราฟ้องกลับ คดีก็อาจจะพลิก คนฟ้องเจ็บตัวแทนนะคับ ซึ่งผมว่าเอาจริงๆ ทางนั้นก็ต้องมั่นใจ 100% ว่าหลักฐานเขาแข็งปั๋ง 
แต่ที่พิสูจน์กันมามันดู 50/50 ยังไงก็ไม่รู้ :P

จุดประสงค์หลักที่บอกว่าจะฟ้อง ผมว่าเขาต้องการขู่พี่ Trudy มากกว่า
ประมาณว่า "อย่ามาตัดช่องทำมาหากินกันนะเฟ้ย" อะไรทำนองนี้


ปล.ผมว่าเพื่อความบริสุทธิ์ใจ ก็ต้องให้ทางนั้นถ่าย vdo ลง youtube กันไปเลยคับ
จริงไม่กลัว กลัวไม่จริงคับ  :wanwan003:

ติดตามๆค่ะ

1)   หลักฐ่านจากต่างประเทศที่บอกว่า ภาพไม่ได้มาจากทางเว็บไซด์  :wanwan005:
ถึงแม้ทุกคนจะยังไม่ได้เห็นmessage แต่ทุกคนในห้องรู้แล้วว่า Paypal ขายได้เกือบ 3 ล้านบาทต่อเดือนนั้น ไม่ได้ออกมาจาก Paypal และทางสถาบันก็ไม่ได้ให้คนนี้สอนแล้ว เขาจัดการกันภายใน

 2) ยอดขาย eBay ปลอม :wanwan005:
 ถ้าคนไหนที่มี account ebay ตอนนี้สามารถแยกกราฟของจริงของปลอม ได้ขอให้ไปดูสิ่งที่Nanjaow ทำ แม้ว่ายอดขายจะมาจาก Fire Bug  พี่ว่าในหัองดูเป็นแล้วละ โดยเปรียบเทียบกราฟของคุณ กับที่ DJkote ทำให้ดู ปัญหาภายใน ภาพของใคร ให้ไปจัดการกันเอง
ขอให้อ่านข้อมูลพลัง Chipatha
http://www.thaiseoboard.com/index.php/topic,349909.60.html

3)   Amazon อาจดูยากนิดนึงตามน้องกอไผ่ว่า :wanwan016:
พี่ว่าคนที่จะต้องเตรียมข้อมูลให้ทุกคนทราบคิอทางสถาบัน
เช่น ถ่ายวิดิโอยอดขาย amazon

 :wanwan015:การขุ่นข้องหมองใจน่าจะเป็นประเด็นมาจากที่ทางลูกศิษย์ติดต่อกับอดีตอาจารย์ที่จบจากมหาวิทยาลัย eBay แล้วอาจารย์ดันบอกไปว่าข้อมูลของพี่มีมูล
มันแค้นคำว่า ส่งมาให้ผมดูแล้ว แล้วผมบอกว่าจริง คือมันแค้นผม แต่ทำไรไม่ได้รู้จักxxxxxมันดี
มันไม่ได้แค้นอย่าอื่นเลย :wanwan015:

ทั้งอาจารย์และศิษย์เก่าจะมีประเด็นอะไรพี่ไม่ขอยุ่งและไม่ขอหลักฐานอีก

พิ่ดว่าหลักฐานของพี่เพียงพอแล้ว :wanwan003:
จุดประสงค์ที่พี่ตั้งกระทู้พี่บอกไว้ชัดเจนว่าสามารถพิสูจน์ยอดขายจริงด้วยตัวท่านเองได้
พี่อยากให้พวกเราเป็นแบบ คุณ Lahm Nanjaow Fangib April Djkot e  Wat26 Kakato ET Driver High Chipatha (ม้ามืดขโมยชีน)

มีอีกหลายคนที่จำชื่อไม่ได้ให้เขาเห็นด้วยตา พิสูจน้ด้วยใจ ของเขาเอง

http://www.thaiseoboard.com/index.php/topic,345301.60.html
จากคุณ wat 26
เป็นอีกกระทู้ที่น่าติดตามเป็นความรู้นะครับ ไม่ใช่การดราม่า มาม่าอะไรนะครับ หรือทำให้ใครเสียหาย
ตามมุมมองของผม เหมือนเจ้าของกระทู้จะมุ่งประเด็นที่ภาพที่นำมาใช้ประกอบในการโฆษณาในเว็บ ว่าของจริงหรือไม่ :wanwan017: :wanwan017: :wanwan017:
แต่เจ้าของเว็บชวนไปดูภาพอื่นๆ บุคคลอื่นๆ ในห้องลับ ซึ่งดูเหมือนไม่ค่อยตรงประเด็นกันมากนัก เพราะภาพในห้องลับ (ผมไม่ได้เข้าไปดู) คงต้องแยกเป็นบุคคล เป็นประเด็นๆ เป็นภาพๆ ไป

ส่วนประเด็นผมอยากรู้แค่ ตามหัวข้อครับ "ยอดขายeBay ของเด็กคนนี้ดูแปลกๆ มากกว่า วันละ $1000" ส่วนภาพอื่นๆ บุคคลอื่นๆ ในห้องลับนั้น ผมไม่ทราบ และยังไม่อยากรู้

ตามอ่านไม่ทันจริงๆ เยอะจัด เก็บไว้ก่อนมาอ่านทีหลัง สนใจใคร่รู้