ThaiSEOBoard.com

จะไปทำธุรกิจ amway
มีใครเคยทำมาบ้างแล้วครับ

เหนื่อยครับ คนเราความสามารถกับความถนัดไม่เหมือนกัน ลองดูครับ สู้ ๆ 8)

 :P  No comment

เคยสมัครไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร

ถ้าขยัน อดทน ตั้งใจ ทำอะไรก็รุ่งหมดแหละคะ ขออย่างเดียวอย่าเซ้าซี้พยายามตื้อให้ซื้อจนน่ารำคาญ เพราะเพื่อนฝุงคุณจะหายไปทีละคน ::)

อย่าเลยทำ แบบนี้ดีแล้ว อิสระดั้งใจ   ;D ;D   

เคยทำ แต่ล้มไม่เป็นท่า เอิ้กส์  ;D ;D

ลองดูคับ

คุณต้องเป็นคนที่เชื่อมั่นในหัวหน้าสายคุณ(งมงาย) เชื่อมาก ๆ ถึงจะมีกำลังใจทำคับ  :P

ก่อนอื่นต้องมีทรรศนคติที่ดีมากๆกับ amway ก่อน
จากนั้นก็ต้องพยายามให้คนอื่นมีทรรศนคติที่ดีมากๆเหมือนกะคุณ
ซึ่งมันจะยากก็อีตรงนี้แหล่ะ  :P

ต้องมีความพยายามมากกว่าธรรมดา 10 เท่า  :)

ลองดูหลายๆ ที่ก่อนก้อดีนะครับ ศึกษาเรื่องแผนการตลาดเพิ่มเติม

เพราะแผนการตลาด แบบ star step มันเก่าไปแล้ว เดี๋ยวนี้ binary + maching

ส่วนสินค้า ผมเห็นว่า สุพรีเดิร์ม กิฟฟารีน ซูเลียน หลายๆ ที่

นำสินค้า amway มาเป็นตัวเปรียบเทียบ ซึ่งดีกว่าแทบจะทั้งหมดเลยนะ

แต่ถ้ามั่นใจว่า amway แล้วล่ะก้อ ต้องแบบว่าหายใจเข้าออกเป็น amway แล้วจะสำเร็จ

สรุป ยาก บริษัทอื่นทำงานง่ายกว่าเยอะมากๆๆๆๆ

ปล. เพิ่งโดนชวน mlm เกี่ยวกับ ผ้าอนามัย เลิฟมูน บ.ไวนาไลท์ ลองศึกษาเพิ่มเติมดูได้ครับ

 :P :P :P บอกได้คำเดียวว่าเหนื่อยสุดๆ แต่ทำได้คุ้ม..... แต่ผมว่า Online Business เนี้ยเวิร์คสุดๆแล้ว  ;D

ใช่ผ้าอนามัยห่อละร้อยยี่สิบป่ะ ไปนวดแผนโบราณมา หมอนวดชวนทำยิกๆ ผ้าอนามัยใส่สารพัด สูตรคล้ายๆยากันยุง  :-X

ระวังเพื่อนไม่คบนะ เพราะถ้าไม่ขายของให้เพื่อน ก็ชวนเพื่อนไปทำ หลายคนที่ทำแล้วเพื่อนจะค่อยๆหายไป :P

แพ็คนึง 2600 กว่าเลย เค้าว่าดีอย่างนู้น อย่างนี้ จะทดลองก้อไม่รู้จะทดลองยังไง  :P

เมื่อสองวันก่อน ผมได้ทราบว่าเพื่อนของเพื่อนผมคนหนึ่งสมัครเข้าทำ amway ผมก็เลยบอกเพื่อนผมว่าติดต่อให้หน่อย เพราะผมอยากซื้อของ amway เพราะปกติผมใช้ของจาก amway อยู่แล้วครับใช้มาหลายปีมากแล้ว แต่คนที่ผมซื้อประจำเค้าเลิกทำไปแล้ว ผมก็เลยหาซื้อของจาก amway ไม่ได้ เพื่อนผมเค้าก็ให้เบอร์โทรติดต่อเพื่อนเค้ามา ผมก็เลยโทรไปหาเค้า ด้วยความที่พอจะรู้จักกันบ้าง ก็ไม่ได้ถามไรกันมาก บอกแค่ว่าเอา catalog มาให้ดูหน่อย อยากซื้อของ ก็นัดวันเวลากัน

พอไปเจอกัน เพื่อนของเพื่อนผมเค้าก็เอา up line เค้ามาด้วย คือกะจะมาพูดเชียร์ให้ผมสมัครทำ amwayอ่ะครับ ผมก็ว่างๆอยู่พอดี ก็เลยนั่งฟังกะเค้าซะหน่อย ก็ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีนะครับ จริงๆเคยฟังแผนการของ amway มาแล้วล่ะครับ แต่อยากรู้ว่าคนนี้เค้าจะอธิบายยังไงมั่ง เพราะเค้าก็ยังเป็นนักศึกษาอยู่

ก็นังฟัง และแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันนานเลยครับ ประมาณ 2 ชั่วโมงได้ครับ ทำให้ผมได้ข้อคิดว่า ที่จริงแล้ว การทำ amway หรือ affiliate นั้นคล้ายกันเลย

คล้ายกันอย่างไร เหรอครับ ??

ที่จริงแล้ว สิ่งที่เรากำลังทำกันอยู่คือ การหา asset หรือคือ หาอะไรซักอย่างมาทำงานแทนเรา

นัก ธุรกิจamway สินทรัพย์ของเค้าก็คือ downline นั่นเองครับ เมื่อเค้ามี downline มากๆๆ เค้าก็สบายครับ เหมือนหาคนมาทำงานแทนได้ ทำให้ตัวเองทำงานน้อยลง มีเวลามากขึ้น

สำหรับเรา affiliate marketer สินทรัพย์ของเราคือ keyword ครับ คีย์เวิดที่ดีสามารถทำงานแทนเราได้ครับ ยิ่งเราสามารถหาคีย์เวิดที่ดีได้มากเท่าไหร่ มันยื่งแปรสภาพมาเป็นเงินได้มากเท่านั้นครับ

ถ้ามองให้ลึกลงไปแล้ว ยังมีอีกหลายสิ่งที่เหมือนกันของสองธุรกิจนี้ การหา downline ของ amway ก้ไม่ได้หาง่ายๆครับ เช่นกัน การหา keyword ของเราชาว aff ก็หาไม่ได้ง่ายๆเช่นกัน และเมื่อหาเจอแล้ว ใช้ไปซักพัก มันอาจจะหมดคุณค่า หรือ ไม่สามารถใช้ได้ดีเหมือนเดิมก็ได้ครับ เช่นกัน downline ของamway ก็อาจจะเลิกทำได้เช่นกัน แต่อย่างไรก็ตาม มันก็จะต้องมีkeyword ที่สามารถทำเงืนให้เราได้มากๆๆเช่นกันครับ 


ทุกวันนี้ ผมก็มี asset ของผมอยู่แล้วเหมือนกันครับ keyword บางตัวทำเงินให้ผมมาทั้งสิ้น มากกว่า 5 แสนบาท และเมื่อเร็วๆนี้ผมได้เจอkeyword เพิ่มอีก 1 ตัวที่คาดการณ์ว่าสามารถทำเงินให้ผมได้เดือนละไม่ต่ำกว่า 40000 บาท ขอย้ำว่าแค่คีย์เวิดตัวเดียวนะครับ  :)

ผม จึงอยากให้เพื่อนๆ พี่ๆ ที่กำลังทำ aff อยู่ อย่าเพิ่งถอดใจครับ เราเดินมาถูกทางแล้ว และจุดหมายของเราไม่ใช่การทำงานแลกเงินครับ จุดหมายของเราคือ การหา asset ที่มีคุณค่า

เหนือสื่งอื่นใด ผมยังจำได้ดีเสมอเมื่อตอนที่ผมเรียนม.ปลาย มีอาจารย์สอนคณิตศาสตร์ท่านหนึ่ง ท่านชอบพูดย้ำให้นักเรียนฟังเสมอครับ และคำนี้เองที่ผมนำมาเป็นคติประจำใจผมเสมอครับ "No Pain No Gain"(ไม่มีการได้รับใดที่ปราศจากความเจ็บปวด ความหมายโดยรวมก็คงหมายถึง ไม่มีความสำเร็จใดที่ได้มาโดยง่ายครับ)

ฺBy:richeuro

ผมเคยไปฟังหลายครั้งครับ แต่ยังไม่ได้ทำ รู้สึกแนวคิดดีมากครับ ได้ประโยชน์จริงๆ คิดจะทำจริงๆ แต่ไม่ชอบอัพไลน์คนนี้เท่าไหร่เลยไม่ได้ทำซักที

คนที่จะทำควร เปิดใจรับฟัง
ทีสำคัญ ฟัง ไตร่ตรอง พิจารณา และเชื่อตนเอง

ผมทำอยู่นะ เพื่อนก็ไม่ได้หายนะ ไม่ได้เจาะจงไปขายอย่างเดียวอ่ะครับ

ก็มีแนะนำมั่ง ว่าอันนี้ดีนะ อันนั้นก็ดี สนใจก็ซื้อไปดู ถ้าชอบก็สมัครสมาชิก(M, ABO)

ไม่มีอะไรเสียหายนะครับ ไม่ได้เป็นอุปสรรค ไปได้สวยกับ Adsense เอิ๊กส์ๆ (http://upic.me/i/n8/t68b2.gif)

ยอด Adsense ไม่ไป ก็มาลุ้นยอดแอมเวย์แทน อิอิ

ผมวางแผนไว้ขอ downline ปีละ 2 คน  ;D
เพาะมันคืองานอดิเลกของผมครับ งานหลักงานบริษัทที่ทำอยู่ รายได้หลัก
internet marking งานที่ชอบแอบอู้งานประจำมาทำบ่อย ๆเมื่อคิดอะไรไม่ออก และหลังเลิกงาน
รับ job นอก อีก ;D ไอ้บ้างาน

จุดสำคัญของธุรกิจนี้คือ "downline"ครับ ถ้ามีคนมาบอกให้คุณซื้อของเพื่อรักษายอดหรือซื้อตำแหน่งเพิ่ม ระวังให้ดีนะครับ เป็นหนี้เป็นสินหมดตัว

กันไปหลายคนแล้ว ความสำเร็จอย่างยั่งยืนคือการมีdownline ครับ ถ้าคิดว่ามีความสามารถหาได้เยอะและถนัดตรงนี้ก็น่าทำครับ โอกาสสำเร็จสูง

อย่าไปซื้อของเพื่อเอา%หรือขึ้นตำแหน่งเพิ่ม(ทางลัด) เพราะสุดท้ายคนที่ได้คือupline แต่ตัวคุณจะไม่เหลืออะไรเลย 

no comment ครับ

อาจจะเป็นทางที่ชอบก็ได้ครับ ถ้าคิดจะทำแล้วอย่าลังเล ลุยเลยครับ เจ็บกลับมาถือเป็นบทเรียน  8)

เห็นด้วยเลย


งานนี้ network เท่านั้นที่จะทำให้เรารวย ...

แต่ทางนี้ คือทางที่คุณชอบหรือเปล่าล่ะ ?

ลองดู
ไม่ชอบก็เลิก

ถ้ามีความสุขกับมัน ผมว่าทำอะไรก็สำเร็จครับ

สมัยผมทำงานบริษัท เจ้เจ้าของบริษัท จะบังคับให้ซื้อสินค้าแอมเวย์ของเค้า อย่างต่ำเดือนละ 200ต่อคน ไม่เอาไม่เป็นไร หักเงินไว้ก่อน แล้วยัดเยียดของมาให้ทีหลัง

โดนกันทุกคนครับ จะอธิบายว่าอะไรก็ไม่สนใจ  สบู่เอย นมอัดเม็ดเอย ครีมอาบน้ำเอย  :P

เดือนๆนึงก็ไม่กี่(หมื่น)บาทหรอก มีพนักงานอยู่ 300กว่าคนเอง

ต้องลองด้วยตัวเองครับถึงจะรู้  บางคนก็ work บางคนก็ไม่ work  :-[ :-[ :-[

เพิ่งไปยกเลิกเมื่อต้นเดือนนี้เองคับ

สมัครไปตอนนั้นเสียเงินไป 900 บาท

ซื้อของ 2000 กว่าบาท มันบอกว่าซื้อให้ครบ 3000 ดิ
จะได้เงินเพิ่มขึ้น  ก็ทุ่มทุนซื้อมาอีก(ทั้งๆ ไม่ได้จำเป็นเลยให้ตายซิ)
เสียไปสามพันกว่าบาท  ได้เงินคืนร้อยกว่าบาท(ถุย!!!)

สู้เอาเงินไปซื้อโฮสดีกว่าคับ
มันจะงอกเงยมากกว่านี้

และพวก Up Lind ก็จู้จี้ซะเหลือเกิน บอกให้ซื้อโน่น ซื้อนี่ จะชวนให้ไปอบรมที่โน่น ที่นี่ต้องไปให้ได้นะ
เดี๋ยวจะเข้าไปที่บ้าน จะไปทำโน่น ทำนี่ เอาซีดงซีดีมาให้ดู ฯลฯ (รำคาญโคดๆ)

สุดท้ายเลยยกเลิกไปเลย
ตอนนี้สบายใจดี  ;D

มีด้วยเหรอครับ บริษัทแบบนี้ อุบาทจริงๆ ถ้าผมทำงานด้วยผมคงโดนไล่ออกแน่นอน เพราะมายัดไห้ซื้อแบบนี้ก็ต้องคุยกันหน่อย

แอมเวย์ มีข้อด้อยอยู่อีกข้อที่คนที่ยังไม่ได้ทำจะไม่รู้นะครับคือ

ไม่พบอิสระภาพทางการเงินจริงๆ เพราะต้องรักษายอด ยิ่งสูงยิ่งหนาว(ยอดเยอะ) << ฟังเค้ามาอีกทีนะครับ  :-X

ลองศึกษาแผนและวิธีทำงานจากคนที่เป็นอัพไลน์ดีๆละกันครับ ก็อย่างที่หลายๆคนว่าอ่ะคับ ถ้าจะทำและตั้งใจจิงๆก็สำเร็จได้ :-*

คือ ผมก็ทำอยู่ครับ  :)  แอมเวร์ ถ้าทำถูกวิธี ของบริษัทเค้าจริงๆ ก็จะเป็นผลดีกับเราครับ แต่คนส่วนมากจะโลภมากครับ
จะต้องทำเป้าให้ถึงที่ต้องการ พอทำไม่ได้ก็จะมาบ่นครับ คนที่เค้าทำสำเร็จก็มีนะครับผมก็ทำมานานแล้วครับ เพื่อนก็ไม่หายครับ ถ้าเราตั้งใจทำอย่างถูกวิธี รับรองว่า สำเร็จครับ  :)

300*200 = 60,000 ต่อเดือนเลยนะเนี้ย

ลองดูครับ อย่างน้อยๆก็ได้กำไรประสบการณ์ แต่ในความคิดของผมจากที่เคยทำผมว่าเหนื่อยกว่าจะเห็นเงินนะครับ โดยเฉพาำะการขึ้นเป็น Platimun แต่ถ้า้ทำได้ก็คุ้มค่าในระยะยาวครับ ส่วนตัวผม ผมชอบแบบเห็นเงินในระยะสั้นมากกว่าครับ ไม่งั้นไม่ค่อยคุ้ม ค่าน้ำมัน ค่าเข้าอบรม ค่าเหนื่อยเท่าไร มันยังมีอีกหลายบริษัทนะครับยังไงลองดูกับหลายๆบริษัทก่อนแล้วค่อยตัดสินใจก็ยังไม่สาย หรือถ้าสนใจจะมาร่วมงานกับผมก็ลอง IM มาฝังรายละเอียดนะครับ (ผลิตภัณฑ์ที่จะออกมาในอนาคตแบบฉีกวงการ MLM เป็นระบบ HD Streaming - ขายหนังฟังเพลง MV คอนเสริ์ท ติวเตอร์ ฯ ลองเข้าไปดูที่ citv.in.th - เป็นระบบตัวอย่าง ทดลอง)

ปล.มีแอบชวน

เหนื่อยหน่อยแต่ถ้าทำจริงก้อได้เหมือนกันนะคับ

เคยไปลุยอยู่ 2 ปีครับ ก่อนจะมาเจอ AFF นี่
ตอนนี้ใช้ของอย่างเดียว เพราะชอบ AFF มันทำงานคนเดียว
ด้วยนิสัยส่วนตัวที่ชอบลุยคนเดียวมานานมาก จนติดเป็นนิสัยแก้อยาก
แต่ชอบแนวคิดของธุรกิจครับไม่เอาเปรียบ ตรงคนมาทีหลังสามารถแซงหน้า
Upline ได้ครับ และถ้าศึกษาจริงๆสามารถขยายไปต่างประเทศได้ด้วยครับ
อันนี้เห็นจากคนสนิทที่เขาทำแล้วสำเร็จในระดับนึงนะ
และแนวคิดของเขาทำให้ผมรู้จักการลงทุนเพื่อพัฒนาตัวเอง
ทำให้ผมมีหนังสือเต็มบ้านพวกแนวคิดทางธุรกิจ และกล้าที่จะจ่าย
ค่าหนังสือและงานสัมนาต่างๆ และทำให้ยืนหยัดใน AFF มาได้จนทุกวันนี้โดย
ยังไม่ได้คิดจะเลิกไปไหน ทั้งที่ตอนแรกขาดทุนยับ คิดว่าไม่เสียหายครับ  :)

หลายคนโพสท์ เบอร์โทรในนี้  ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันนะครับว่า โพสท์ทำไม

ถ้าอยากได้ จขกท เป็น downline จริง ๆ pm ไปหาได้ครับ   ไม่ใช่ฝากเบอร์โทรแบบนี้  เจตนามันมากกว่าจะให้ความรู้จขกทครับ   ผมเจอ ผมขอลบนะครับ  เพราะมันดูแปลก ๆ

ขอโทษทีครับ พอไม่ทราบกฏ และ PM ไม่เป็น ถ้าผิดกฏยินดีลบออกครับ

สรุปให้ไปลองฟังดูก่อนครับ ลองดูจากหลายที่ แบบไม่บวกไม่ลบกับที่ใดเลย แล้วเลือกที่ ที่คิดว่าเหมาะกับตัวเองมากทีี่่สุดครับ
ส่วนตัวผมเพิ่งจะโดดออกมาจาก Amway หลังจากทำไปประมาณ 5 เดือนครับ เนื่องจากไม่มีเวลาทุ่มให้มากพอ (เนื้องานน้อย)

ผมว่าทำอย่างอื่นดีกว่าครับ  :-\

ตกลงกระทู้ผมโดนลบแล้วน่ะ ว่าจะไปลบเบอร์โทรออกให้ มีแต่ที่เพื่อนสมาชิกอ้างถึงไม่รู้จะตามลบให้ยังไง

ต้องทำครับ เนื่องจากว่า หากเราไม่ได้ทำด้วยตัวเราเอง เราจะรู้ได้ยังงัยว่าที่คนอื่นๆ พูดมันเป็นจริง

หากไม่สำเร็จ ก็ถือ เป็นประสบการณ์ และคุยได้ว่า ทำแล้ว ไม่สำเร็จ

หากไม่ทำ ก็ไม่ได้อะไรเลย โอกาสรวยก็ไม่ได้

ผมคิดว่า ทำ มีคำตอบสองอย่าง สำเร็จ (รวย) กับไม่สำเร็จ (เหมือนเดิม)

ไม่ทำ มีคำตอบอย่างเดียว ไม่สำเร็จ (เหมือนเดิม)

เหมือนกัน ผมมาศึกษาทำ Adsense เพราะไม่ได้คิดว่าผม ทำไม่ได้ ผมไม่มีความรู้มาก่อนว่าต้องทำอย่างไร แต่ผมจะลงมือทำ ทำจนกว่าผมทำไม่ได้ และบอกกับตัวเองว่า ผมทำไม่ได้ ไปหางานอื่นทำเถอะ งานนี้ไม่เหมาะกับคุณ จะไม่รอคนอื่นมาบอกครับ

ขอบคุณทุกความเห็นครับ
วันนี้ผมจะไปสมัคร มี up line แล้วเป็นน้าที่รู้จักครับ
ผมก็ศึกษามาพอผ่าน ๆไม่จริงจัง ผมก็คิดว่าไม่ทำมันจริงจังเท่าไหร่เพราะผมชอบ adsense มากกว่า
เพราะมันคือ เวลาว่าง offline ของผมอยู่หน้าจอนาน ๆหน้าเหี่ยวครับ

เคยคิดจะสมัครเหมือนกัน

ไม่ลองไม่รู้ครับ  คุณอาจจะเป็น 0.001% ใน 100% คนก็ได้ที่ประสบความสำเร็จใครจะไปรู้  ::)

วิถีแห่ง AMWAY   8) 

มันก็มีกระบวนท่าเหมือนกับเราทำ seo นี่แหละครับ ต้องค้นหาให้เจอ
ผมเคยศึกษาดู เพื่อนทำอยู่ ก็เอามาเล่าให้ฟัง   ;)
แต่คิดแล้วมันไม่ใช่ ... มันไม่ใช่ Life style ของเรา
ถ้าทำคงไม่รุ่ง เลยไม่ทำ ...

มีกระทู้ หรือเวป "โชว์เช็ค" คนทำธุรกิจ amway ไหมเอย

แอมเวย์มิได้จ่ายเป็นเช็คครับ >:(

ไปสมัครมาแล้วครับวันนี้เอง
 ;D

upline บอกว่าอย่าบ้าพลัง
ค่อยเป็นค่อยไป
ก่อนเข้าไปผมวางแผนไว้หมดแล้วแต่เข้าไปเรียนรู้เขาบอกว่าต้องลอกแบบ upline แล้วคุณจะประสบผมสำเร็จ :-X
3 เดือน uline ถึงอณุญาติให้ผมวาดลวดลาย

เชื่อไว้ๆ อย่าเพิ่งไม่พูดกับใครถ้าคุณยังไม่แน่พอ

ผมก็เคยทำอยู่ครับ ก่อนจะมาสนใจเรื่อง Affiliate ขอบอกว่า

"ดีแน่นอนครับ ถ้าทำได้สำเร็จ"

ส่วนสาเหตุที่ผมทำก็ต้องการมีอาชีพอิสระน่ะแหล่ะครับ
ต่อมาก็พบว่าการทำ Affiliate มันน่าจะเป็นสิ่งที่ชอบมากกว่า จึงไม่ได้สนใจจริงจังกับ amway เท่าไร
แต่ปัจจุบันก็ยังเป็นสมาชิกครับ นานๆ จึงซื้อของใช้สักครั้ง และก็คิดว่า ถ้าทำ Affiliate ได้รายได้ที่น่าพอใจระดับหนึ่งก็จะกลับไปสนใจ amway ต่อน่ะครับ

สาเหตุอื่นๆ ที่ผมเป็นสมาชิก amway ก็เพราะต้องการรู้จักคนเพิ่ม รู้จักสังคมใหม่ๆ บ้าง โดยเฉพาะ.. มีสาวๆ เยอะครับ :P

การลงทุน และลงแรงก็ไม่ได้มากมายอะไร อยากให้ลองดูด้วยตัวเองครับ ผมว่า ไม่เกินสามเดือนก็จะพบคำตอบด้วยตัวเราเอง
การที่จะสำเร็จได้ อันดับแรกขึ้นอยู่กับทัศนคติ และการเปิดใจ ว่าเรารับได้หรือเปล่า แค่นั้นเอง

(ถ้าจะทำล่ะก็ ผมขอแนะนำทางลัดเลยนะครับ .. จีบสาวๆ ที่เป็นระดับทับทิมขึ้นไปให้ได้ครับ จีบติด ได้ดีแน่ๆ  ;D)

ต้องเชื่อเค้าครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่เค้าประสบความสำเร็จในธุรกิจนี้ ต้องเรียนรู้และเดินตามทางเค้าครับ ลัดที่สุดแล้ว ;D

ปล.ที่ผมเห็นล้มลุกคลุกคลานอยู่ ก็พวก"มีแนวทางของตัวเอง" นั่นแหละ :P

้โอ้ว เป็นอย่างนี้นี่เอง น่าสนๆๆๆ เอิ๊กๆๆ

และในวันนี้ครับ
ผมบ้า amway ไปแล้ว  ;D ผี่ amway เข้าสิง  ;D
แต่ผมก็มีหลักในการยึดนะครับหลักธรรมนั้นเอง
ไปศึกษาธรรมะให้มากขึ้นเพราะจะเข้าใจคนเร็ว ๆ
เพราะว่าธุรกิจนี้เราเล่นกับคน ศาสตร์ด้าน HR นี้ต้องแจ่มจริงถึงจะทำได้
ไม่ดิ้นลน และในตอนนี้ผมได้ 3% ไปแล้วครับ ดาวน์ไลน์ 2 คน
งานหลักของ amway คือการให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับสินค้า ( โดยใช้หลักความเป็นธรรมครับ ไม่ควรเอาสินค้าคู่แข่งมาทำให้เสียหาย ) อันนี้ ก็ หมวกขาวครับ ยั่งยืน

หมวกดำ วิธีนี้ผมศึกษามาครับแต่ไม่ทำตามดีกว่า
ศึกษาตามเว็บไซต์ค้นจาก google เอาคำที่เขาด่า ไปถาม upline และเขาได้อธิบายให้ฟังและมีหลักฐานยืนยัน (เชื่อแล้ว ของเขาดีจริง)

แต่สำหรับคนที่จะทำ พยายามดู upline นะครับศึกษา upline ก่อนเพราะเขาก็มีกิเลส

รวยแล้วมาบอกด้วยนะคับ

ทำอะไร ถ้าตั้งใจจริงๆ มันสำเร็จได้ทั้งนั้นแหล่ะครับ - ทุกงาน ทุกธุรกิจ มีทั้งคนสำเร็จ และคนที่ล้มเหลว คำถามคือ เราจะดูคนล้มเหลว หรือจะดูคนสำเร็จ - ตั้งเป้าหมาย แล้วก็ลงมือทำ

สู้ๆ ครับ  :)

จริง ๆ รักษายอดผมว่าไม่น่าจะยากนะ

ถ้าทำแบบขายให้ลูกค้าประจำ ไม่ได้สร้างยอดเทียมโดนการบังคับขาย ให้ขายโดยผู้ซื้อไม่เต็มใจ

เพราะยอดบังคับขายมันไม่ได้กันทั้งปีหรอกมั้ง

แต่ยอดที่เต็มใจซื้อ พอหมดเขาก็อยากจะซื้ออีก ถ้ามีลูกค้าแบบนี้เยอะ ๆ ก็น่าจะดีนะ

ติดตรงที่หาไม่ค่อยได้อะดิ

เพื่อนผมก็ทำคนหนึ่ง นี่เดี๋ยววันเสาร์มันก็ชวนไปฟังประชุมเป็นเพื่อน

ที่ผมได้ 3% ใน 3 อาทิตย์ที่ได้เพราะคนเขาใช้อยู่แล้วเข้ามาหาผมเอง
ผมยังไม่ได้สาธิตสินค้ายังไม่ได้พูดแผนการตลาด

คนพวกนี้เยอะนะครับคิดดูเล่น ๆ ตอนนี้มี 41 สาขา ประเทศไทย 76 จังหวัด
การบังคับให้ซื้อนี้ผมว่าการตัดสินใจซื้อซ้ำยากมาก

แต่ถ้าคนใน thai seo board มาเป็นดาวน์ไลน์ผมนี้กะว่าจะเปิด center ตลอด 24 ชั่วโมงผ่าน net ไปเล้ย
เพราะมีความรู้ทางเน็ทและตอนนี้ quixtar.com กำลังคลื่นตัวช้า ๆแต่มั่นคงมาเลื่อย ๆแล้ว
โอว์ เรียนรู้มาก โอกาศมาก เรียนรู้น้อย จะรู้สึกว่าทำไม่ได้
เหมือนกันเล่นเกมส์แหละครับตอนนี้ผม level up แล้ว เป็น 1

หวัง downline ในไทยเสียวด้วยเหรอครับ

 :P :P

โอ้ว :'(

ก็เป็นสมาชิกทั่วไปนะครับ ไม่ใช่แบบนักธุรกิจอิสระ สมัครเอาไว้เผื่อซื้อของให้ที่บ้านครับ เพราะแอมเวย์มีสินค้าตั้งหลายประเภทแน่ะ อีกอย่างถ้าเป็นสมาชิกจะได้ส่วนลดด้วยครับ  ::)

ตอนเรียนมหาลับเพื่อนในกลุ่มคนนึงมันทำ เวลาเดินมากลุ่มแตกทุกที ชอบชวนซื้อของรำคาญมาก

แล้วตอนนั้น แบบในกลุ่มเรามีตังสุด จะโดนตื้อมากกว่าเพื่อน ตอนนั้นยังเด็กไม่รู้จะทำยังงัย คิดว่าซื้อของมัน เด๋วมันจะเลิกตื้อ พอเราซื้อมัน มันคิดว่าขายเราได้ จะมาขายเราใหญ่เลย เด๋วก้อจะมาหาที่หอ มาช่วยนวดหน้า อะไรไม่รู้มัน รำคาญมาก

หลังๆ มันเดินมา ทุกคนคุยกันอยู๋ดีๆ หนีกันหมดเลย บอกมีเรียนตลอด

+1 ;D

เข้า Center ได้สังคม ได้ความรู้ทั้งเกี่ยวกับด้านธุรกิจ วิสัยทัศน์ และได้พัฒนาตัวเอง

MLM = Affiliate น่ะแหละ เพียงแต่ MLM ทำงานกับคน Affiliate ทำงานกับ Internet
ถ้าเข้าใจในตัวธุรกิจก็อยู่ได้นานล่ะครับ ถึงจะไม่ได้มีเวลาเข้าไป แต่ก็ยังไม่ได้ทิ้งไปไหน เหมือนผมนี่ไง :-[

ปล. ใครเก็ท Herbalife มั่ง? เมื่อก่อนถูกเรียกให้ไปฟังจะให้ซิ้อตำแหน่งอย่างเดียวเลย บอกถ้าสมัครธรรมดาจะขึ้นตำแหน่งยากกว่า อยากรู้ว่าระบบเหมือนกันทุกกลุ่มมั๊ย ???

ไปเข้าเฮ้าเพื่อเรียนรู้และทำให้เราพัฒนาบุคคลิกภาพเราด้วยครับ
สังเกตุความเปลี่ยนแปลง ส่วนผมก็แอบไปดูสาวๆครับ น่ารักดี ;D ;D

ไปเจอมา แซวเล็กน้อย การ์ตูนทำมือ "ประสบการณ์ดีๆ เมื่อไปที่แอมเวย์"

คนที่รวยๆ ต้องเป็น หัว สายครับ

พูดเก่งๆด้วย

 :D

555  ;D ฮาดีครับ ชอบ ๆ

ก๊ากกกๆๆๆๆ   ;D ;D

ทำอย่างกะตาเห็นเลยนะ

เคยไปเหมือนกัน

:)

แต่การ์ตูนที่ให้ดูนั้น เขาทำผิดวิธีนี้ครับ เลยชอบ ;D

แสดงว่ายังเหลือคนอีกเยอะ
ตอนนี้ผมอ่านหนังสือ หาความรู้ทางด้าน HR
หนังสือสะกดจิตร หนังสือธรรมะ
โภคที่อยากเรียนรู้เร็ว ๆ และการที่เรียนรู้เร็วก็คือการใช้สินค้า นั้นเอง อันนี้ผมสังเกตจาก คนที่ใช้สินค้า เขามีความตื่นเต้นจากประสบการณ์ที่มี

แต่ถ้าจะไปบอกคนอื่นก็ได้แค่ความตื่นเต้นไม่มีวิธีการ
เหมือนกับมีแค่มีดสั้น ที่ไปเจอกับป้อมปืน
ตอนนี้กำลังฝึกตอบคำถามตัวเอง
1 สินค้าแพง
2 คนทำเยอะแล้ว แน่นแล้วไปทำอย่างอื่นดีกว่า
3 เป็นลูกโซ่หรือเปล่า
4 เป็นสินค้าต่างชาติ

ตอนนี้ผมตอบคำถามของตัวเองได้แล้วครับ
ใครที่คิดคำถามยาก ๆ ให้ผมหน่อยครับ จะไปหาคตอบให้ตัวเอง
ขอบคุณมากครับ ศึกษาอย่างหนัก 3 เดือน  8)

อ่านคอมเมนท์อันยาวๆของคุณ Dream ในเว็บนั้นแล้ว ต้องบอกว่าโทษตัวธุรกิจไม่ได้ครับ เค้าทำตัวเองซะเยอะ
อย่างมีติว ไม่ติว เลือกไปสัมนา มีเรียนก็โดดกลัวไปประชุมไม่ทัน เห็นได้ชัดว่าแบ่งเวลาไม่ถูก
ใช้วิธีสต๊อคสินค้า แล้วบอกเป็นหนี้ ต้องออกทำงานหนักขายสินค้าทุกวัน ทั้งๆที่ควรจะสร้างฐานลูกค้าเพื่อความมั่นคงของธุรกิจมากกว่า
อีกส่วนนึงอาจจะเป็นเพราะกลุ่มเองที่อาจจะสอนวิธีการผิดๆให้ แล้วดูแล้วเค้าไม่เข้าใจแผนการตลาดซะด้วยซ้ำไป

แค่อยากเสนอความเห็นจากการที่มองอย่างเป็นกลางน่ะฮะ

ลองซักหนึ่งคำถามนะฮะ อาจจะไม่ยากเท่าไหร่
- ทำแล้วหยุดได้จริงรึเปล่า? :)

- ทำแล้วหยุดได้จริงรึเปล่า?
อันนี้อยู่ในแผนธุรกิจอยู่แล้วครับ (สงสัยต้องเปิดแผนให้ดู ผมยังเขียนแผนไม่แม่นเท่าไหร่ครับ กำลังหัดเขียน :-[)
คือคุณต้องเป็นผู้ขายตรงกับบริษัทแล้วนะครับและมีการรักษายอด 3 เดือนติดขึ้นไป เป็นมรกตครับ และจะได้ % ที่บริษัทจ่ายให้
โดยไม่เกี่ยวกับ เงินของ downline ครับเพราะว่าส่วนต่างไม่มีแล้วรายได้มั่นคง ถ้าทำต่อก็ได้ % จากการช่วยคนให้มีรายได้ 21% ครับ
ซึ่งคนที่ถูกช่วยก็เต็มใจอยู่แล้วคงไม่มีใครที่ไม่อยากได้ 21 %
หยุดรายได้ก็จะได้เท่าเดิม ทุก ๆ เดือนครับ แต่ถ้าทำก็คือ ได้เพิ่ม
เหมือนกับเราเตะลูกบอลอัดกำแพงเราเตะแรงแค่ไหนมันก็เด้งกลับมาแรงเท่านั้นครับ
ยุติธรรมอย่างยิ่ง

แล้วเซ็นเตอร์อยู่ไหนหรอครับ ของผมอยู่ที่ชิดลมครับ ฮามากๆๆขอบอก และมาเที่ยวได้นะครับ ;Dวันพุธ ตอนเย็นนะ

ตอนนี้ผมหยุดทำมาพักนึงแล้วครับ
แต่ยังคงมีเงินได้แม้ไม่มากแต่มันเป็นผลจากที่ลงแรงมาก่อนหน้านี้ครับ
กะว่า AFF เข้าที่ก็จะไปลุยต่อ อิๆ..

ฮาโคตร  แถมติด adsense  ด้วย  มีรูปนี้เหนือ adsense ด้วยนะ

(http://www.roigoo.com/pleaseclick.jpg)

รูป มันบังคับ มัดมือคลิกกกกกก

 :'(

เคยทำสมัยเรียนครับ
เดือนแรกได้ 18%
เดือนที่ 2    21% (Break/Silver)
เดือนที่ 3    21%
เดือนที่ 4    21% + 4% (Gold + ยอดทับทิม (2 เท่าของปกติ))
เดือนที่ 5-7 21%  (DD. สมัยก่อนเรียกงี้ ตอนนี้รู้สึกจะเรียก Platinum)

หลังจากนั้นไม่นานก็เลิด (ฮา) เพราะทำงานหนักมาก
มีอยู่วันนึงขับรถกลับบ้านราวๆ ตี 1 ไปชนคนเข้า ต้องฉับที่ขา(แต่เราไม่ผิดนะ อีกฝ่ายเมา ไฟก็ไม่เปิด)
เลยต้องเลิกไป
ตอนที่ทำอยู่รู้สึกจะสร้างสถิติไว้เยอะเหมือนกัน เช่น เป็น DD ที่อายุน้อยที่สุด (18) และเร็วที่สุด
เคยขึ้นเวที กระชากมิตรด้วย คนฟังหลายพัน(หน้ามึนไม่รู้จะพูดอารัย)

ปล. ถ้าหวังว่าจะเข้าไปแล้วสบายให้คนอื่นทำ คิดผิด ไม่มีใครรวยทางลัด
งานทุกอย่างต้องอาศัยความอดทนและความตั้งใจทั้งหมด
ถ้าอายุยังไม่มากยังเรียนอยู่ ไปทำก็ดี เอาประสบการณ์ เพราะอย่างน้อย ผมเองสมัยก่อนไม่กล้าพรีเซนต์
ปัจจุบัน มีบริษัทที่ฟังผมพรีเซนต์ครั้งเดียวแล้วพยายามดึงตัวไปทำงานด้วย ให้เงินเดือนประมาณ 30,000 - 50,000 บาท
สำหรับคนเพิ่งจบตรีไม่นานก็ถือว่าใช้ได้อยู่ (แต่เค้านึกว่าเราอายุซัก 30 ก๊ากกก สงสัยหน้าแก่)

ยาสีพันมันดีตรงไหนเหรอครับ แพงมากเลย สงสัยๆ

ผมใช้อยู่เหมือนกันนะ

ผมชอบ ที่มันแปรงแล้ว "รู้สึก" สะอาดกว่ายี่ห้ออื่นที่ผมใช้นะ

แต่ถ้า คนที่มาเสนอขายบอกว่า "ถูก" ... ผมจะคัดค้านสุดๆเลย

เพราะครั้งแรกที่ถูกเสนอขาย เค้าบอกว่า ยาสีฟันนี้ถูก และใช้งานได้ถึง 6 เดือน

ผมก็เออเจ๋ง .. แต่มานั่งดูปริมาตร แล้ว .. มันพอๆกับหลอดธรรมดา แต่มีราคาแพงกว่ายาสีฟันทั่วไปถึง 4 เท่า!!


โอ้วแม่เจ้า แพงโคตร!

แต่ ก็ยอมรับนิดนึงว่า ดีจริงๆนะ แต่แพงไปอะ

ยาสีพันมันดีตรงที่แพง ครับ
หลายคนรู้สึกดีที่ได้ใช้ ของแพง
ของบางอย่างคุณภาพพอกัน ๆ
แต่หลายคนก็รู้สึกดีที่ได้ใช้ ของแพง

อยากบอกว่าที่ชอบมากคือยาสีฟันนี้แหล่ะ
เพราะผมไปอุดฟันมา ระหว่างฟันกราม 2 ซีก
และตอนนี้ที่อุดนั้นมันเริ่มแตกก็เลยทำให้ปวดมาก
เวลากินข้าวบอกตรงๆทรมารมาก
หลังจากลองมาหลายยี่ห้อก็มาจบที่นี่แหล่ะ
1 หลอดใช้ประมาณ 2 เดือน 4 คน
ตืนมาน้ำลายไม่เหนียวไม่บูด
ประมาณนี้ที่ชอบ :)

สินค้าแพง  ก็ไม่แปลกครับ  มันสินค้านำเข้า  ไม่ได้ผลิตในนี้

บางตัวถือเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยอีกโดนภาษีเข้าไปซะเยอะเชียว
มีตังก็ใช้ครับ  ไม่มีตังก็ใช้ของที่ถูกกว่า   ซื้อของนี่ซื้อความพอใจด้วย

เอ่อ เริ่มคล้อยตามแล้วครับ

ว่าแต่ยาสีฟันแอมเวย์ หาซื้อได้ที่ไหนอ่ะครับ

ลองถามคนใกล้ตัวดูครับต้องมีแน่นอนคนที่ทำหรือเป็นสมาชิกอยู่
เพราะหลายคนไม่กล้าเปิดเผยตัว อิๆ บอกเขาว่าอยากซื้อของอย่างเดียว
ไม่ต้องชวนทำนะ

อีกอย่างของยี่ห้ออื่นจะมีลมอยู่ครึ่งหลอดเสมอนะครับ
แต่อันนี้มันไม่มีแถมลมมาด้วยนะอิๆ :)

จริงๆๆ มี น้องที่รู้จักทำอยู่
น่าอิจฉาเหมือนกัน ได้เดือนละหลายหมื่นด้วย
แถมเวลาว่า่งซะอีก

แต่เคยคิดจะทำเหมือนกัน แต่คุยไม่เก่งเลยไม่ได้ทำซักที

ไอ้ที่เพื่อนหายนี่จริงแท้แน่นอนเลย

มีเพื่อนผมคนนึงชวนผมไปทำ ผมก็ตามไปอบรม 2 - 3 ครั้ง เราก็เริ่มชักไม่อยากทำ มันดูสังคมแปลก ๆ ไงไม่รู้ หลัง ๆ ก็เลยพยายามหลบ จะไปเจอก็กลัวมันทัก กลายเป็นว่า 2 ปีละไม่ได้เจอกันเลย จะให้ไปเจอก็ไม่กล้า กลัวมันชวนอีก  :P

สรุปเพื่อนหายเพราะ amway  ;D

ผมชอบกินโปรตีนมันนะ กินแล้วคึกดี  ;D

ชอบ แฟ๊บ ใส่ผ้าละมากระทืบๆ พอ  ;D

การ์ตูน ฮาอย่างแรง เลรย  ;D ;D ;D


ผมแนะนำนะครับ จะทำอะไร ก่อนทำ คิดให้ดี คุณเกิดมาเพื่อสิ่งนี้หรือไม่

ถ้าไม่รัก ไม่ชอบ อย่าไปทำนะครับ มันจะไม่มีความสูข

ผมเคยเจอคนขายเก่ง คนที่จะขายเก่ง จะมีบุคลิคภาพ ที่แตกต่างจากคนทั่ว ๆ ไป

ลองสังเกตุดู การทำงาน การพูดการจา การแต่งตัว

ถ้าทำแบบพวกนี้ได้ โดยไม่ตะขิดตะขวงใจ ก็น่าลอง แต่ถ้ารู้ว่า

แบนี้ไม่ใช่ตัวเรา ทำอย่างอื่นดีกว่าครับ  มีอีกเยอะแยะให้ทำ

ให้ยึดคำว่า Put the right man in the right job ไว้เสมอ

อย่าคิดว่า คนทุกคนจะทำงานบางอย่างได้เหมือนกันหมด

แต่ละคน ชอบไม่เหมือนกัน นิสัยไม่เหมือนกัน ทัศนคติไม่เหมือนกัน




ยาสีฟันแอมเวย์ เค้าชื่อว่า กริสเตอร์  ทีแรกผมก็ไม่รู้ ว่าของที่ไหน

เพราะไม่เคยเห็นวางขาย อยู่ดี ๆ มันก็โผล่มาอยู่ในห้องน้ำ ผมก็เรียกมันว่า "จี-ลิส-เตอร์"

ลาวโคตร ๆ ใช้ไปสักพัก มีคนผ่านมาเห็น ถามว่าใช้ ยาสีฟันของ แอมเวย์ด้วยเหรอ

ผมถามกลับว่า อันไหนเหรอ เค้าบอกว่า ก็ "กลิสเตอร์ไง" ไอ้เราพึ่งเข้าใจ มันคือของแอมเวย์นี่เอง

เลยไปสืบหาว่า ยาสีฟันหลอดนี้ มันได้แต่ไดมา ก็เลยรู้ว่า ลูกน้องของคุณแม่

ชวนซื้อ (ออกแนวบังคับ) นอกจากยาสีฟันแล้ว ก็ยังมีของอื่น ๆ เช่นเครื่องสำอาง น้ำหอม

ที่แม่ต้องซื้อเพราะ เอาใจลูกน้อง (เกี่ยวกับการเมือง นิดหน่อย) สร้างมิตรเอาไว้

เงินไม่ใช่เรื่องใหญ่ ถ้าสินค้าแอมเวย์ มันซื้อใจคนได้ เราก็ซื้อ ยังไงก็ได้ใช้ว๊ะ

จะเห็นว่า นี่เป็นอีกประโยชน์ ของสินค้าแอมเวย์ คือ การเอาใจคน เฮ้อ

บางที ซื้อใจคน ก็คือ ช่วยซื้อแอม์เวย์  (ลูกน้องเป็น เสียงในสภา ที่ต้องรักษาเอาไว้ให้ดี)

         ผมก็ทำอยู่ยี่ห้อ1ครับ    ยอดขายในกลุ่มต่อเดือนอยู่ที่ 4แสน-8แสนได้

ขอบอกก่อนว่าผมไม่ใช่คนพูดเก่งครับและที่สำคัญคือผมเป็นคนชอบคิดแทนคนอื่นครับ

ซึ่งลำบากต่อการทำงานของผมมาก    แต่ผมเป็นคนชอบวางแผนครับ

          สิ่งที่ทำให้ผมต้องทำธุรกิจMLMก็คือ    มันทำแล้วหยุดได้ครับ     ได้จริงๆ

ถ้าคุณทำสำเหร็จครับ      เวลาสำเหร็จก็ประมาณ 3-5 ปี (ขายของตามตลาดก้ขายเหมือนกัน

แต่ขายอย่างนั้นขายทั้งชีวิต    แต่อันนี้ขายเหมือนกันแต่แค่3-5ปีหยุดได้    แถมรายได้ทวีคุณ)

แฮๆ  ถ้าไม่ถอดใจไปก่อนนะครับ   เพราะนี่ทั้งขายทั้งวางแผนกับคนเยอะแยะ   ปัญหาก็มากด้วย

ที่สำคัญเลือกบริษัทและแผนการตลาดที่ดีครับ   ไอพวกแผนการตลาดจับคู่นี่อย่าไปยุ่ง

เลยครับไม่รุ่งแน่       จากนั้นมองคนสำเหร็จว่าเขาทำไง     เราก็ทำตาม     แต่กลยุทธ์

เราปรับเปลี่ยนได้      อย่างผมหาคนไม่เก่ง      ขายก็ไม่เก่งด้วย      แต่เป็นคนที่เข้าใจ

ธุระกิจและแผนธุรกิจอย่างถ่องแท้     แล้วที่สำคัญครับ    ผมจริงใจอยากให้เขาได้จริงๆ

อยากให้เขาได้ใช้สินค้าดีดี     อยากให้เขาได้มีอนาคตสุขสบายเหมือนเรา^^

ช่วงแรกจะลำบากหน่อยเพราะยังไงก็ต้องหาคนและต้องหาคนที่ขายเก่ง   และคนที่พูดเก่ง

หาคนเก่งมาต่อเราให้ได้       แต่พอคนมาอุดจุดอ่อนเราได้      จากนั้นก็ทำงานเป็นทีม

ใช้ความสามารถที่แต่ละคนถนัดมาช่วยกันก็สนุกครับ        แต่กว่าผมจะหาคนมาเป็นชั้นแรก

ของผมได้ก็  นาน.....มากหลายเดือนเกือบปีเลยมั่ง        แต่ทุกวันจากวันแรกที่ตัดสินใจ

ทำผมรู้อยู่แล้วว่าจะเจออะไรก็เลยไม่ท้อ       อันนี้สำคัญมากถ้าเราท้อ    พลังเราลด   ลูกทีม

รับรู้ได้ครับ    ที่กำลังจะรุ่งก็ร่วงได้ครับ        รวมๆแล้ว   งานนี้เป็นงานระดับคลาสสิกครับ    

ใช้ศาสตร์และศิลปหลายอย่าง

         แต่ไม่ยากครับพูดได้เลย      ถ้าตัดสินใจทำก็ให้จำความรู้สึกของวันนั้นที่เราตื่นเต้นไว้  

ว้าววว....    มันช่างวิเศษอะไรเช่นนี้...     ไม่หวั่นไหวแม้นเจออะไร    แม้ว่าทำมากี่เดือนตังก็

ยังไม่ได้ก็ตาม

        สรุปแล้ว  คีย์ซัคเซส   ของมันก็ไม่ต่างอะไร   กับการทำ adsense  หรอกมั่งคับ     คือ    

วางเป้าหมาย     ทำอย่างมีสติ     เลียนแบบคนสำเหร็จ     และที่สำคัญอึดเท่านั้น    ครับ




*เป้าหมายเราสลักไว้บนภูผา  แต่  วิธีการเราเขียนบนผืนทราย  ทำผิดเอาเท้าลบเขียนใหม่ก็ยังได้*

        

มันไม่ทำลายสารเคลือบฟันครับ คือมันจะอ่อนกว่ายาสีฟันทั่วไปที่แปลงๆแล้วมันไปทำลายสารเครือบฟัน แล้วไอ้ที่มองว่ามันแพง จริงๆมันใช้แค่เม็ดข้าวโพดครับไม่ได้ปาดตามแนวยาวของแปรง แต่ให้ปาดตามแนวขวาง

เดือนนี้ว่าจะซื้อชุดทอลซัม (ดูแลผิวหน้าสำหรับผู้ชาย) ครบชุด เพราะมันแถม แถมอายครีม ทำงานนอนดึก ขอบตาดำหมดแร้วว  :'(

ใครเป็นมะเร็ง เป็นโรคหัวใจ ลองใช้อาหารเสริมทำสูตร detox ดูครับ น่าจะช่วยให้ดีขึ้น (เคยไปอบรมกับพยาบาลมา 2 รอบดีทีเดียวนะ) ลองดูไม่เสียหายครับ อย่างน้อยชีวิตเราเอง ถ้าผมมีรายได้มากกว่านี้ ผมก็อยากจะซื้อกินมันทั้งหมดนั่นหล่ะ

คนทำแอมเวย์หน่ะมีเยอะ แต่ไม่ค่อยแสดงตนสักเท่าไร กลัวโดนยี๊ อิๆ จริงๆมันไม่เกี่ยวกับธุรกิจหรอก มันเกี่ยวที่ว่าคนทำหน่ะเอาไปทำยังไง เรียกได้ว่าเป็นธุรกิจเน้นทัศนคติก็ว่าได้

มีคนเอามาพรีเซนต์ มาตั้งแต่เด็กละก็ไม่รู้หรอกว่ามันยังไง ตอน ป.6 ครูประจำชั้นเอามาพรีเซนต์หน้าห้องเลย 55 จนมารู้ตอนโต ก็ปี 3 ละ เพิ่งได้เข้าใจว่าธุรกิจนี้มันดียังไง

ข้างบนพูดได้กินใจมากครับ ชอบ +1 ของผมเน้นฮาครับ ฮากันทั้งเซ็นเตอร์ครับทำอย่างมีความสุขเพื่อนไม่หายด้วย  :)

ผมทำแอมเวย์ครับ   ;D ;D ;D ;D

คนทำมีเยอะจริง ผมกลัวว่า ถ้าเราไปขายแอมเวย์ โดยที่เราไม่รู้มาก่อนเลยว่า คนที่เรากำลังขายนั้น ก็ดันคิดแบบเดียวกับเราอยู่ (คือมันขายเหมือนกัน)  :o :o :o


ส่วนยาสีฟัน ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน สงสัยต้องเรียกเซล์แอมเวย มาแนะนำสินค้าใหม่ (มีเพียบเลยแถวบ้าน)

ปัจจุบันผมชอบใช้ ยาสีฟัน ดาร์ลี่ รสชาเขียวมะนาว ตัวนี้ รสชาติมันเหมือน ชาเขียวโออิชิ รสมะนาวเลย

เวลาแปรงแล้วรู้สึกดี แต่คุณภาพไม่รู้ รู้แค่ว่า เหมือนกินชามะนาวตอนแปรงฟัน หุ ๆ แปลกดีไหม!!!

อยากรู้เป็นยังไง ไปหามาลอง (ไม่ได้ค่าโฆษณา) แต่ผมอยากให้ลองว่า เอาชาเขียวรสมะนาวมาแปรงฟัน มันรู้สึกยังไง อิอิ

ส่วนตัวผมไม่ชอบขาย ผมชอบให้คำแนะนำ หรือคำปรึกษาที่มันทำให้ชีวิตเขาดีขึ้นมากกว่า

ชอบซิสเตมม่าซากุระ รสชาติมันอร่อยดี (ไม่ควรกินหรือกลืนยาสีฟัน  :-X)

ปัญหาของคนทำธุรกิจเครือข่ายหรือ mlm  เหมือนกันแต่ต่างธุรกิจ จะชอบเถียงกันว่าของตัวเองดีกว่า และพยายามชวนสปอนเซอร์อีกฝ่าย อิๆ  ผมเคยเจอถึงขนาดหลอกยืมสื่อไป แล้วนัดเจอีกที เอาของตัวเองมาพรีเซ็นต์  หลอกกันเห็นๆแบบนี้เรียกว่าไม่บริสุทธิ์ใจ แค่เริ่มต้นก็หลอกกันแล้ว แบบนี้ไว้ใจไม่ได้

แอมเวย์ มี่ใช้บริการบ่อย เพราะว่า แม่ของเพื่อนมี่ก็ทำอยู่ แหะๆ ใช้บริการแม่เพื่อนอีกที

มี่อ่ะใช้ครีมของแอมเวย์ ใช้ดีนะคะ ผงล้างหน้าที่เปงวิตามินซีอ่ะ นี่ใช้ดีมากเลย ตอนนี้กะยังใช้อยู่ หน้าขาวใส

แต่ใช้แรกๆ ผิวมันปรับตัว อาจจะเปงผื่นขึ้นบ้าง มี่ใช้ตอนแรกมี่กะตกใจค่ะ แหะๆ

ปัจจุบัน มี่กะใช้อยู่ เพราะว่ามี่กะแม่มี่ผิวแบบเดียวกัน มี่จะเคี่ยวเข็ญให้แม่ลองใช้

พอใช้ดีแม่กะซื้อใช้ประจำ มี่กลับบ้านที มี่ก็หอบครีมแม่มากรุงเทพประจำอีกเหมือนกัน 55+

จนทุกวันนี้ มี่กลับบ้าน แม่จะเอาครีมไปซ่อนไว้ เอิ๊กๆๆ  ;D

ปล.มี่มะได้มาโฆษณาขายของน๊า มี่มะได้ทำแอมเวย์ มี่แค่เคยใช้ มันดี เลยบอกต่อเฉยๆ

ผมก็ทำธุรกิจเครือข่ายตัวหนึ่งอยู่ครับ

เหตุผลที่ทำให้ผมตัดสินใจทำนั้น นอกเหนือจากเรื่องของผลตอบแทนในแง่ของรายได้แล้ว เป็นเพราะผมได้รับรู้เรื่อง เงินสี่ด้าน (Employee,Self Employed,Business Owner และ Investor)กับเรื่อง โอกาส 8 ข้อ ที่ซ่อนอยู่ในธุรกิจเครือข่าย จากการอ่านหนังสือ 2 เล่ม จากชุดพ่อรวยสอนลูก โดยโรเบิร์ต คิโยซากิ คือหนังสือ เงินสี่ด้าน และ โรงเรียนสอนธุรกิจ ครับ

ซึ่งเมื่อได้ไปสัมผัสจากการลงมือทำธุรกิจแล้ว บอกได้เลยว่า มันเป็นแบบนั้นจริงๆ


 

โรเบิรต์คิโยซากิ พูดได้ดีในเล่มเงินสี่ด้านในการปรับเปลี่ยนทัศนคติของคนให้หลุดออกจากวงจร คนกินเงินเดือนได้ระดับหนึ่ง

ส่วนเรื่องธุรกิจเครือข่ายนั้นได้พูดชัดเจนมากขึ้นในเล่ม โรงเรียนสอนธุรกิจ

แต่บางธุรกิจก็เว่อร์ไปหน่อย กล่าวอ้างจนเกินเลยว่าเขาแนะนำให้ทำธุรกิจนี้ ซึ่งจริงๆ มันเป็นคำแนะนำในภาพรวมซะมากกว่า ทำไมต้องธุรกิจเครือข่าย ก็เพราะว่ามันไม่ต้องใช้การลงทุนที่สูงเท่ากับธุรกิจทั่วไป และเมื่อสำเร็จแล้วผลตอบแทนมันคุ้มค่ามหาศาลและยั่งยืน (ถ้าอดทนและทำอย่างถูกต้อง)

mlm กับ network marketing ถ้าจะว่ากันตรงๆ ก็คือธุรกิจชนิดเดียวกัน ต่างกันที่คอนเซปต์นิดหน่อย

"มันเป็นคำแนะนำในภาพรวมซะมากกว่า ทำไมต้องธุรกิจเครือข่าย" คุณBubbleball หมายถึง หนังสือ Why we want you to be rich ใช่ป่าวครับ ที่เค้าเขียนร่วมกับ โดนัลด์ ทรัมป์ ประมาณว่า "Why we recommend network marketing"

ผมหมายถึงเล่มที่ 5 ที่ออกมาของไทยหลังจากเล่ม investment ครับชื่อว่า  business school

นอกจากนี้แนะนำหนังสืออื่นๆ พิมพ์จากในระบบ  ชื่อว่า  dream biz .com หรือธุรกิจในฝัน ดอท คอม (แต่ไม่แน่ใจจะยังหาซื้อได้ไหม เพราะเก่าแล้ว จริงๆเขาขายเฉพาะในองค์กร แต่ก็มีการนำมาขายทั่วไปด้วย)

ส่วนอีกเล่มคือ pro sumer เล่มนี้ก็ดีมากๆ มันจะสอนให้มุมมองของเราในการปรับเปลี่ยนความคิดในการบริโภค แทนที่จะซื้อคนอื่นแล้วรวย ทำไมเราไม่ซื้อสินค้าที่เป็นธุรกิจของเราเองหล่ะ (เก่าแล้วอีกเช่นกันไม่แน่ใจจะหาซื้อได้ไหม)

ทำธุรกิจพวกนี้ สิ่งสำคัญคือการพัฒนาความเป็นผู้นำในตัวคุณ เพราะผู้นำจะตามผู้นำ เข้าไปสัมผัสในช่วงเวลาหนึ่งแม้ว่าจำสำเร็จหรือไม่ แต่คุณก็จะได้พัฒนาตัวเองขึ้นมาระดับหนึ่งทีเดียวเชียว  เป็นเรื่องของทรรศนคติล้วนๆครับ 

จริงๆสินค้าอ่ะ แพงไม่แพง มันก็อยู่ที่เงินในกระเป๋าเรานั่นแหละถ้า ไม่มีเงิน อะไรมันก็แพงไปหมด อิๆ แต่ถ้าเงินไม่ถึงแต่ทรรศนคติดี ยังไงคุณก็หาเงินมาซื้อมันจนได้หล่ะ  ก็เหมือนที่คุณเอาเงินไปซื้อสคริปต์ทั้งหลายมาทำ adsense นั่นหล่ะ

ตอนนี้มาทำด้านออนไลน์ซะเยอะ เลยเพลาๆออฟไลน์ไว้ก่อน ให้พี่ชายทำต่อ แต่ไม่ทิ้ง ไว้อนาคตวันใดก็กลับไปทำต่อนั่นหล่ะ  ไม่ชอบล้มเลิก

ในการทำธุรกิจจำพวกนี้ ส่วนตัวผม ไม่สนับสนุนที่จะใจง่าย เปลี่ยนไปทำเรื่อยๆ เพราะคำเชื่อที่ว่า ธุรกิจนั้นดีกว่า ธุรกิจนี้ใหม่กว่า ธุรกิจนี้ง่ายกว่า เพราะผมว่าไอ้พวกนี้มันมีมาเรื่อยๆ แล้วถ้าคุณยังชอบที่จะทำแบบนั้น คุณก็จะไม่ได้เจอความมั่นคงอย่างแท้จริง และมันก็เป็นการเอาเปรียบดาวน์ไลน์หรือสร้างความไม่น่าเชื่อถือให้กับดาวน์ไหลน์ของคุณเองด้วย ขนาดอัพไลน์ยังหนีไปทำตัวอื่น แล้วเขาจะมั่นใจในธุรกิจที่เขากำลังทำอยู่ได้อย่างไร  คนส่วนใหญ่ชอบที่จะหนีไปเป็นหัวแถวของธุรกิจใหม่อันดับต้นๆแล้วก็ชวนดาวน์ไลน์ไปด้วย แต่ผมว่าทำแบบนี้ไม่มีวันจบสิ้นซะที เหนื่อยเปล่า ใครมาชวนผมทำธุรกิจอื่นผมไม่เคยใส่ใจเลย เพราะเหมือนเราตั้งเป้าหมายไว้ในใจแล้วว่าต้องสำเร็จให้ได้ อาจจะดูเหมือนปิดโอกาสตัวเองไม่เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ แต่ส่วนใหญ่ผมเห็นที่มาชวนผมก็เลิกกันไปก่อนทุกราย เพราะตื่นเต้นแล้วไม่ค่อยได้ตามที่หวังไว้  ;D

นี่ขนาด adsense ยังเบื่อปั่นเลย อยากจะทำเว็บที่มันมีคุณภาพจริงๆขึ้นมาเลยดีกว่า เอาที่มันมั่นคงถาวรหน่อย

ขอบคุณครับ คุณ bubleball เป็นทัศนคติที่ดีมั่กๆ  :-*
แล้วก็ผมจะลองไปควานหาซื้อหนังสือ 2 เล่มนี้ที่ว่านี้ดูด้วยครับ 8)

อิๆผมมีทุกเล่มที่ว่ามา ชอบมากและทำให้ผมยังอยู่ในธุรกิจได้โดยไม่ไปไหนและก็ไม่เปลี่ยนธุรกิจไปมา
ทรรศนคติ คือทุกสิ่งครับ

5 ปีขอเป็นเพชร  8)