หัวข้อ: ทำไมผมจึงเขียนบทความละ 3,000 คำและทำไมคุณก็น่าจะทำเช่นกัน เริ่มหัวข้อโดย: careeralive ที่ 01 กันยายน 2013, 10:27:15 เหตุผลดิบๆเลยคือ ผมเขียนบทความเองมา 4-5 ปีแล้ว พอเขียนเองนานๆ ทักษะการเขียนก็มากขึ้นจนกระทั่งผมสามารถเขียนบทความยาวได้ และเมื่อผมผ่านการเขียน e-book มาถึง 6 เล่ม การเขียนบทความ 300-500 คำจึงไม่ท้าทายสำหรับผม อิๆ
โอเค-มาเข้าเรื่องกันครับผม... สืบเนื่องจากกระทู้ถามว่าบทความควรมีความยาวเท่าไร (http://www.thaiseoboard.com/index.php/topic,329790.msg4570377.html#msg4570377) ซึ่งผมขอบคุณคนตั้งกระทู้เพราะนี่เป็นโจทย์ที่ blogger สงสัยกันทุกหนแห่งแม้ในต่างประเทศโจทย์นี้ยังเป็นคำถามตลอดกาลเช่นกันครับ การเขียนบทความนั้น มีทั้ง blog ที่มีบทความละ 300-600 คำโดยเฉลี่ย และ blog ทีมีบทความละ 1,000-3,000 คำโดยเฉลี่ย มาดูกลุ่มนักเขียนบทความยาวกันก่อน จากที่ผมสังเกตุ blog ที่มี authority สูงๆและเจ้าของ Blog เขียนเอง อาทิ 1. Smart Passive Income ของ Pat Flynn 2. Viper Chill ของ Glen Allsopp 3. Quick Sprount ของ Neil Partel 4. Entrepreneur-Journey ของ Yaro Starak 5. และ The CEO Blogger ของผมเอง ฯลฯ เหล่านี้จะอยู่ในกลุ่มหลังคือ บทความละ 1,000-3,000 คำขึ้นไป และหากคุณสังเกตุต่อไปอีก Blogger เหล่านี้จะมีรายได้จากการขาย Product และ Service ของตนเองเช่น E-book, Membership, E-Course, Freelance และ Consult นั่นคือแนวทางของ Blog ที่มี Authority สูง พวกเขาใช้ Blog เป็นช่องทางแสดง Professional ในสาขาของตนผ่านบทความ กล่าวคือ.... พวกเขา (และผม) ไม่ได้มุ่งใช้บทความเพื่อ SEO แต่เพื่อ Customer Relation หรือพูดง่ายๆ ผมเขียนบทความเพื่อ "คุณ" ครับ ส่วน SEO นั้นเป็นผลพลอยได้ อย่างที่ทุกคนทราบดีว่า Google รักบทความยาว Neil Partel ทำสถิติเก็บไว้ลองไปดู บทความที่ติดทั้ง Search และได้รับทั้ง Share อย่างโดดเด่นส่วนมากเป็นบทความยาวเกินพันคำ http://www.quicksprout.com/2012/12/20/the-science-behind-long-copy-how-more-content-increases-rankings-and-conversions/ ....และผลพลอยได้ที่ใจชื้นที่สุดคือผมไม่เคยได้รับผลกระทบจาก algorithm เลย แล้วกลุ่มนักเขียนบทความสั้นเป็นอย่างไรกันบ้าง Blog ประเภทบทความสั้น 300-600 คำ เป็นกลุ่มที่ผมเดาว่ามีมากที่สุด Blog เหล่านี้ส่วนใหญ่จ้างเขียน ซึ่งผมก็จ้างเช่นกันในบาง Blog เพราะ Blog เหล่านี้มีเจตนารมณ์เพื่อ Monetize ด้วยทางใดทางหนึ่งระหว่าง Google AdSense (หรือ CPC ยี่ห้ออื่น) และ Affiliate program ซึ่งแนวคิดพื้นฐานของการทำ Blog แนวนี้มุ่งไปที่ Quantitative approach มากกว่า ได้แก่... 1) เน้นจำนวน Blog และ จำนวนบทความ 2) เน้น SEO ต้องการให้คนเห็นเยอะๆ เพิ่มโอกาสการคลิ๊กเข้าไปชม คร่าวๆคือ Blog ที่มีรายได้ผ่าน CPC และ Affiliate ต้องการ Traffic จำนวนมาก ดังนั้นจึงต้องการ บทความจำนวนมากๆ เพื่อไป index และ คีย์เวิร์ดดีๆ ที่ตรงคีย์ค้นหาจะได้ไปแสดงผลในอันดับสูงๆและดึงดูด traffic จำนวนมาเข้าเว็บเพื่อให้เพียงพอต่อการมีรายได้จาก CPC หรือเพิ่มโอกาสในการเกิด Sales-Closed ในกรณีทำ Affiliate ปัญหาของบทความสั้น เนื่องจาก Blog ที่ Monetize ด้วยวิธี CPC และ Affiliate ต้องการจำนวน Blog และ จำนวนบทความ มาสนับสนุน SEO เจ้าของ Blog จึงต้องการการเขียนบทความสั้นๆ คราวละ 300-600 คำเป็นจำนวนหลายๆ บทความอันเป็นที่มาของ rewrite บทความอย่างไรให้แตกต่าง ปัญหาคือ บทความสั้นขนาด 300-600 คำมัน rewrite ให้แตกต่างได้ยาก... สมมุติบทความ 500 คำเรื่อง How to lift kettlebell (ลูกตุ้มน้ำหนัก) มีอยู่ 1,000 บทความ จาก Blogger 1,000 คนที่เขียน Blog ด้านฟิตเนส คุณคิดว่าผู้เขียน (หรือรับจ้างเขียน) จะเขียนให้ Unique ได้อีกไหม มันย่อมเป็นไปไม่ได้ สุดท้ายมันก็ไม่ใช่การ rewrite แต่กลายเป็น copy โดยปริยาย (แม้อาจไม่ได้ตั้งใจ) เพราะพื้นฐานในการใช้งาน kettlebell กี่ปีกี่ชาติมันก็หลักการเดียวกัน ต่อให้ไม่ได้ลอกกันมาแต่พวกเขาก็ต้องเขียนเหมือนกันครับ ข้อคิดคือ "บทความยิ่งสั้น ยื่ง Unique ยาก" ตรงนี้จะช่วยให้เราเข้าใจคนที่รับจ้างเขียนบทความด้วย ถ้าคุณจ้าง 300 คำเอาราคาถูกแล้วจะให้ Unique มันยากครับ คนเขียนบทความอาจไม่ได้มีเจตนา copy แต่มันเหมือนกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เท่านั้นเองครับ ส่วนตัวผมเคยลองพยายามทำแล้วผมก็ไม่สามารถ rewrite บทความ 300 คำให้แตกต่างจากต้นฉบับได้ ทำ Blog ยาวมีคนอ่านไหม คำตอบคือ "มีแน่นอน" เพราะอะไร? คน Search เข้า Google เพราะเขามีปัญหา และเขาต้องการวิธีแก้ปัญหา คุณลองนึกถึงตัวคุณเอง สมมุติคุณกำลังมีปัญหาหนักกะชีวิต คุณจะมีความต้องการข้อมูลมากเป็นพิเศษ และถ้าคุณไปเจอบทความแค่ 300 คำ คุณคิดว่าปริมาณเนื้อหาขนาดนี้จะบรรจุข้อมูลที่ช่วยแก้ปัญหาใหคุณได้ไหม คำตอบคือ "ไม่ได้แน่นอน" ผมเจอมาเยอะครับ พวกบทความ 300 คำติดหน้าหนึ่งอันดับหนึ่งเพราะเขาทำ SEO มาดี แต่เนื้อหาใช้ไม่ได้ ซึ่งผมและคุณก็ต้องออกจากบทความนั้นแล้วไล่หาต่อไปยังหน้า 2 หน้า 3 ของ Google หรือไปค้นยังคีย์อื่นซึ่งโดยมากคีย์ต่อๆไปจเป็นพวก Longtail keyword และเมื่อเจอบทความที่มีข้อมูลละเอียดมากมาย ยาวเป็นพันๆคำก็อ่านจนจบ อ่านจบแล้วเผลอๆตามไป Like facebook สมัคร Newsletter แล้วเป็น Follower ประจำ blog ไปเลย ผมเชื่อว่าหลายคนน่าจะประสบมาแล้วทั้งนั้นครับ ฉะนั้นย้ำอีกครั้ง บทความยาวเป็นพันคำมีคนอ่านไหม คำตอบคือ "มีแน่นอน" ส่วนคนที่ไม่อ่าน เพราะเขาไม่ได้อยู่ในสถานะหรือสภาวะที่ต้องการข้อมูลครับ หาใช่ไม่อ่านเพราะมันยาว สรุป การทำ Blog ไม่ง่ายและการเขียนบทความยาวต่อไปจะเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้หากคุณอยากจะเป็น blogger ที่ competitive กว่าคู่แข่งใน niche เดียวกัน การทำ Blog ให้ประสบความสำเร็จให้ โฟกัสที่ผู้อ่าน เป็นตัวของตัวเองอย่าเลียนแบบ ผู้อ่านก็จะสัมผัสไม่ช้าก็เร็วได้ว่าเนื้อหาของคุณไม่มีเอกลักษณ์ ให้พัฒนาความสัมพันธ์โดยการส่งมอบความต้องการของผู้อ่านที่เห็นว่าเป็นประโยชน์ โปรโมทให้เป็น อย่ากระจุกอยู่แต่กับ Google แต่จงกระจายตัวเองไปยัง Social media และ Email list สุดท้าย สม่ำเสมอ อึด อดทน ติดตาม The CEO Blogger ไป join ผมได้ที่นี่ครับ https://www.facebook.com/theceoblogger หัวข้อ: Re: ทำไมผมจึงเขียนบทความละ 3,000 คำและทำไมคุณก็น่าจะทำเช่นกัน เริ่มหัวข้อโดย: BrainFreeze ที่ 01 กันยายน 2013, 10:34:47 โค๊ด: ผมเขียนบทความเพื่อ "คุณ" ครับ ชอบไอเดียนี้ครับ :wanwan003: หัวข้อ: Re: ทำไมผมจึงเขียนบทความละ 3,000 คำและทำไมคุณก็น่าจะทำเช่นกัน เริ่มหัวข้อโดย: boardseo ที่ 01 กันยายน 2013, 10:35:24 คนไทยขี้เกียจอ่านครับ :wanwan022:
หัวข้อ: Re: ทำไมผมจึงเขียนบทความละ 3,000 คำและทำไมคุณก็น่าจะทำเช่นกัน เริ่มหัวข้อโดย: romance69 ที่ 01 กันยายน 2013, 10:35:33 ขอบคุณมากครับ สำหรับความรู้ครับ :wanwan017:
+1 ให้สำหรับคำแนะนำดีๆครับผม หัวข้อ: Re: ทำไมผมจึงเขียนบทความละ 3,000 คำและทำไมคุณก็น่าจะทำเช่นกัน เริ่มหัวข้อโดย: ppkfmcom ที่ 01 กันยายน 2013, 10:48:19 คนไทยขี้เกียจอ่านครับ :wanwan022: ตามนี้ครับ :wanwan004: :wanwan004: หัวข้อ: Re: ทำไมผมจึงเขียนบทความละ 3,000 คำและทำไมคุณก็น่าจะทำเช่นกัน เริ่มหัวข้อโดย: vava ที่ 01 กันยายน 2013, 10:50:32 คนไทยขี้เกียจอ่านครับ :wanwan022: ตามนี้ครับ :wanwan004: :wanwan004: ผมดันเป็นหนึ่งในนั้น :wanwan031: หัวข้อ: Re: ทำไมผมจึงเขียนบทความละ 3,000 คำและทำไมคุณก็น่าจะทำเช่นกัน เริ่มหัวข้อโดย: DARWIN27 ที่ 01 กันยายน 2013, 10:56:38 1000 นึงน่าจะโอเค ผมว่าคนส่วนใหญ่ไม่เฉพาะคนไทยฝรั่งด้วยคงไม่ค่อยมีใครอยากอ่านอะไรที่มันยาวมากไป อันนั้นดูจากที่เคยอ่านผ่านๆตาจากที่อื่น
หัวข้อ: Re: ทำไมผมจึงเขียนบทความละ 3,000 คำและทำไมคุณก็น่าจะทำเช่นกัน เริ่มหัวข้อโดย: chababaan ที่ 01 กันยายน 2013, 11:05:20 ขอบคุณคะ ยาวสั้นไม่สำคัญเท่าคุณภาพ บางอันยาวแค่ไหนก็ปักหมุดไว้อ่านคราวต่อไปถ้าของเค้าดีจริง :wanwan017:
หัวข้อ: Re: ทำไมผมจึงเขียนบทความละ 3,000 คำและทำไมคุณก็น่าจะทำเช่นกัน เริ่มหัวข้อโดย: kaokame ที่ 01 กันยายน 2013, 11:08:25 บางอันปักหมุดจนลืมไปเลย เวลาไม่ค่อยมี
หัวข้อ: Re: ทำไมผมจึงเขียนบทความละ 3,000 คำและทำไมคุณก็น่าจะทำเช่นกัน เริ่มหัวข้อโดย: dekmv ที่ 01 กันยายน 2013, 11:28:38 ผมชอบ "ผมเขียนบทความเพื่อ "คุณ" ครับ"
หัวข้อ: Re: ทำไมผมจึงเขียนบทความละ 3,000 คำและทำไมคุณก็น่าจะทำเช่นกัน เริ่มหัวข้อโดย: pirinn ที่ 01 กันยายน 2013, 11:53:46 Thanks :wanwan016:
หัวข้อ: Re: ทำไมผมจึงเขียนบทความละ 3,000 คำและทำไมคุณก็น่าจะทำเช่นกัน เริ่มหัวข้อโดย: pongweb ที่ 01 กันยายน 2013, 11:54:42 แนวคิดแจ่มมากครับ ผมเขียนได้ 100 คำก็หลับละ :-[
หัวข้อ: Re: ทำไมผมจึงเขียนบทความละ 3,000 คำและทำไมคุณก็น่าจะทำเช่นกัน เริ่มหัวข้อโดย: yakuzazaza ที่ 01 กันยายน 2013, 11:55:08 ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: ทำไมผมจึงเขียนบทความละ 3,000 คำและทำไมคุณก็น่าจะทำเช่นกัน เริ่มหัวข้อโดย: careeralive ที่ 01 กันยายน 2013, 12:05:25 บทความยาวหรือสั้นถ้าคนจะไม่อ่านก็คือไม่อ่านครับ เรื่องนี้ผมเองก็เป็นครับ บทความสั้นมีแพร่หลายในเว็บวาไรตี้ เว็บข่าว เว็บ tips สุขภาพและความงาม และเว็บ niche บางชนิด คนอ่านกลุ่มใหญ่เป็นผู้หญิงครับ ผู้หญิงนิยม content ที่อ่านง่าย มีสาระ เคล็ดลับ และบันเทิง แต่สำหรับผู้ชายอย่างผมและอย่างท่านๆ ถามว่าเราเข้าเว็บพวกนี้กันบ้างไหม ผู้ชายไม่ค่อยเว็บพวกนี้ครับ ผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่ไม่ได้เข้าเว็บหาบทความอ่านไปเรื่อยๆเช่นกันครับ ไม่ใช่เพราะขี้เกียจแต่เพราะไม่มีเหตุผลที่ผมจะต้องอ่านบทความเหล่านั้น พฤติกรรมผู้ชายคือ เมื่อมีความจำเป็น เช่น ต้องการข้อมูลไปใช้ทำงานหรือพัฒนางาน (หรือธุรกิจ หรือชีวิต บุคลิกภาพ ฯลฯ) ผู้ชายจะเริ่มเข้าเว็บหาข้อมูลและข้อมูลที่ต้องการต้องมีรายละเอียดมากเพื่อจะได้นำไปใช้วางแผนและตัดสินใจในการทำงาน ฉะนั้นถ้าบทความสั้นและข้อมูลน้อยพวกเขาจะไม่สนใจและจะมองหาบทความที่มีเนื้อหาครบและอ่านจบ Purpose ในการอ่านของผู้ชายจึงต่างจากผู้หญิงครับ และ Purpose ในการกำหนดกลยุทธ์การเขียนบทความของ Blog คุณก็จะเป็นไปตามกลุ่มเป้าหมายที่คุณโฟกัสด้วย >> ถ้าคุณโฟกัสที่กลุ่มผู้หญิง บทความสาระและบันเทิง ไม่ต้องยาวมาก แต่มีหลายบทความ รายได้จากการทำ e-commerce หรือติด Private ads/banners >> ถ้าคุณโฟกัสที่กลุ่มผู้ชาย บทความสาระและเทคนิคคัล บทความไม่ต้องเยอะ แต่ละเอียดลงดีเทล รายได้จากการขาย solution อาจเป็น product/ service และ affiliate คือถ้าทำ blog แล้วไม่มี goal และ strategic คุณก็จะเขียน blog ไปเรื่อยๆครับ ไม่ว่าเนื้อหาจะสั้นหรือยาวหรือจะมีบทความเป็นร้อยๆ แต่ไม่สามารถสร้างฐาน Follower ระยะยาวที่ชัดเจนได้ครับ หัวข้อ: Re: ทำไมผมจึงเขียนบทความละ 3,000 คำและทำไมคุณก็น่าจะทำเช่นกัน เริ่มหัวข้อโดย: Phromphat ที่ 01 กันยายน 2013, 12:14:53 ผมตอบนะ ที่ว่าบทความยาวไปคนไม่อยากอ่านไม่เป็นความจริงครับ
ถ้ายาวไปแล้วมีทั้งน้ำและเนื้อ จนผู้อ่านจับจความไม่ได้ว่าสิ่งที่เขาต้องการมันอยู๋ตรงจุดไหนของบทความ เขาก็ไม่อ่านครับ แต่ถ้าบทความยาวแล้วมีแต่เนื้อหาเน้นๆ เนื้อหาที่เขาต้องการจริงๆ ยังไงเขาก็อ่านจนจบครับ หรือเลือกอ่านเฉพาะในหัวขอของบทความที่เขาต้องการ เช่น ผู้อ่านอยากเข้ามาอ่านโทษของอะไรสักอย่าง แต่ในบทความมีทั้ง โทษ ประโยชน์ คำแนะนำ แบ่งเป็นหัวข้อชัดเจน เป็นผมผมก็เลือกหัวข้อที่ผมอยากอ่านก่อน พออ่านไปแล้วมันน่าสนใจก็ไปอ่านอย่างอื่นเพิ่มเติม หัวข้อ: Re: ทำไมผมจึงเขียนบทความละ 3,000 คำและทำไมคุณก็น่าจะทำเช่นกัน เริ่มหัวข้อโดย: careeralive ที่ 01 กันยายน 2013, 12:20:48 ผมตอบนะ ที่ว่าบทความยาวไปคนไม่อยากอ่านไม่เป็นความจริงครับ ถ้ายาวไปแล้วมีทั้งน้ำและเนื้อ จนผู้อ่านจับจความไม่ได้ว่าสิ่งที่เขาต้องการมันอยู๋ตรงจุดไหนของบทความ เขาก็ไม่อ่านครับ แต่ถ้าบทความยาวแล้วมีแต่เนื้อหาเน้นๆ เนื้อหาที่เขาต้องการจริงๆ ยังไงเขาก็อ่านจนจบครับ หรือเลือกอ่านเฉพาะในหัวขอของบทความที่เขาต้องการ เช่น ผู้อ่านอยากเข้ามาอ่านโทษของอะไรสักอย่าง แต่ในบทความมีทั้ง โทษ ประโยชน์ คำแนะนำ แบ่งเป็นหัวข้อชัดเจน เป็นผมผมก็เลือกหัวข้อที่ผมอยากอ่านก่อน พออ่านไปแล้วมันน่าสนใจก็ไปอ่านอย่างอื่นเพิ่มเติม :wanwan017: หัวข้อ: Re: ทำไมผมจึงเขียนบทความละ 3,000 คำและทำไมคุณก็น่าจะทำเช่นกัน เริ่มหัวข้อโดย: reviewer ที่ 01 กันยายน 2013, 12:36:56 เรื่องสั้น ยาวมันไม่เกี่ยวหรอก มันสำคัญที่ลีลา (ห้ามคิดลึกนะ)
จะสั้นจะยาวมันอยู่ที่เนื้อหาและประเภทบทความมากกว่า อย่างของที่เข้าใจกันง่ายๆ เนื้อหานิดเดียวก็ไม่รู้จะใส่น้ำไปเยอะทำไม แต่ถ้าอันไหนเข้าใจยากเนื้อหาเยอะยาวๆ ก็ยังพอมีคนอ่าน ส่วนตัวถ้าจะเน้นทำ seo บทความจะยาวกว่าปกติบ้าง แต่ถ้าเพื่อคนเข้าเว็บจริงๆ จะสั้นๆเอา ตรงจุดตรงประเด็นเลย หัวข้อ: Re: ทำไมผมจึงเขียนบทความละ 3,000 คำและทำไมคุณก็น่าจะทำเช่นกัน เริ่มหัวข้อโดย: kinnon ที่ 01 กันยายน 2013, 12:45:47 ขอบคุณจร้า
หัวข้อ: Re: ทำไมผมจึงเขียนบทความละ 3,000 คำและทำไมคุณก็น่าจะทำเช่นกัน เริ่มหัวข้อโดย: papiya ที่ 01 กันยายน 2013, 12:55:52 เห็นด้วยครับ ผมละเซ็ง กับหน้าเว็บที่มีแต่บทความ แค่เกริ่นๆ พอจะหาเอาข้อมูลจริงๆ กลับไม่มี...+1 ครับ
หัวข้อ: Re: ทำไมผมจึงเขียนบทความละ 3,000 คำและทำไมคุณก็น่าจะทำเช่นกัน เริ่มหัวข้อโดย: Zynesteri ที่ 01 กันยายน 2013, 13:06:33 ขอบคุณสำหรับความรู้ที่นำมาแบ่งปันครับผม
หัวข้อ: Re: ทำไมผมจึงเขียนบทความละ 3,000 คำและทำไมคุณก็น่าจะทำเช่นกัน เริ่มหัวข้อโดย: Zaesar ที่ 01 กันยายน 2013, 13:12:20 วิชาการ,ให้ความรู้,เล่าเรื่อง 3000ก็โอเคครับ แต่เชิญชวน,แนะนำ 300 ก็เหลือๆครับ
หัวข้อ: Re: ทำไมผมจึงเขียนบทความละ 3,000 คำและทำไมคุณก็น่าจะทำเช่นกัน เริ่มหัวข้อโดย: zinbad ที่ 01 กันยายน 2013, 13:15:47 จะยาว หรือสั้น มันอยู่ที่จุดประสงค์ และเนื้อหาของเรื่องที่เขียน ถ้าคุณเขียนเนื้อหาวิชาการ แน่นอน เนื้อหาต้องยาวอยู่แล้ว ... แต่ถ้าเป็นข่าว เรื่องราวดารา นักร้อง เคล็ดลับ วิธีการ ไม่จำต้องยาวก็ได้ 200 -500 คำ
...ทุกวันนี้ คนมีเวลาน้อย บางคนเจอเนื้อหาที่ยาวมากๆ ก็จะไม่อ่าน ถ้าไม่สนใจจริงๆ หรืออาจจะอ่านเลือกอ่านเฉพาะประเด็นที่สำคัญๆ หรือที่เรื่องที่ตังเองยังไม่เข้าใจ บางเรื่องก็ไม่จำเป็นต้องอ่านตั้งแต่จนจบ ดังนั้น เว็บที่มี บทความสั้น ก็แรงได้ ...ดูอย่าง เว็บ http://www.thaiseoboard.com ส่วนมากเป็นกระทู้สั้นๆ แค่นั้น .... หัวข้อ: Re: ทำไมผมจึงเขียนบทความละ 3,000 คำและทำไมคุณก็น่าจะทำเช่นกัน เริ่มหัวข้อโดย: feee ที่ 01 กันยายน 2013, 13:21:36 ขอบคุณครับ :P
หัวข้อ: Re: ทำไมผมจึงเขียนบทความละ 3,000 คำและทำไมคุณก็น่าจะทำเช่นกัน เริ่มหัวข้อโดย: Heng50 ที่ 01 กันยายน 2013, 13:29:30 ต้องรบกวนแน่ค่ะ :wanwan017: อยากเขียน บล็อกแนวเกี่ยวกับสิ่งทอค่ะ
หัวข้อ: Re: ทำไมผมจึงเขียนบทความละ 3,000 คำและทำไมคุณก็น่าจะทำเช่นกัน เริ่มหัวข้อโดย: smapan ที่ 01 กันยายน 2013, 13:30:07 คนไทยอ่านหนังสือปีละ 4 บรรทัด
http://pantip.com/topic/30844516 :wanwan022: หัวข้อ: Re: ทำไมผมจึงเขียนบทความละ 3,000 คำและทำไมคุณก็น่าจะทำเช่นกัน เริ่มหัวข้อโดย: chinnawong ที่ 01 กันยายน 2013, 13:32:50 ขอบคุณครับที่ช่วยเตือนสติ
หัวข้อ: Re: ทำไมผมจึงเขียนบทความละ 3,000 คำและทำไมคุณก็น่าจะทำเช่นกัน เริ่มหัวข้อโดย: thaimakemoney ที่ 01 กันยายน 2013, 13:50:03 สุดยอด
หัวข้อ: Re: ทำไมผมจึงเขียนบทความละ 3,000 คำและทำไมคุณก็น่าจะทำเช่นกัน เริ่มหัวข้อโดย: quick ที่ 01 กันยายน 2013, 17:23:41 คนไทยขี้เกียจอ่านครับ :wanwan022: ใช่เลยครับ ซื้อสินค้าทุกวันนี้แทบจะดูแค่รูปแล้วก็โทรถาม ไม่อ่านสักนิดว่าไอ้ที่ตนต้องการมันเรียกว่าอะไร :-X หัวข้อ: Re: ทำไมผมจึงเขียนบทความละ 3,000 คำและทำไมคุณก็น่าจะทำเช่นกัน เริ่มหัวข้อโดย: thailandebiz ที่ 01 กันยายน 2013, 19:30:27 เปลี่ยนจากคำว่า "บทความ" เป็นภาษาอังกฤษ ได้คำว่า "content" คุณจะมองภาพออกมากขึ้น ในภาษาอังกฤษ content ไม่ได้หมายถึง ตัวหนังสือ แต่ยังรวมไปถึงสื่อภาพเคลื่อนไหวหรือเสียงด้วย ดังนั้นจะเห็นว่าบางทีทำไมจึงมี VDO อยู่ในหน้าแรกๆ ทั้งๆที่ แทบจะไม่มีตัวหนังสือเลย เพราะตัว content ในความหมายของ google นั้นรวมไปถึงวิดิโอด้วย บางทีเวบตัวหนังสือเยอะๆ อาจจะสู้เวบที่เป็น VDO ที่มีตัวหนังสือน้อย ไม่ได้ ก็ได้ แต่ขึ้นอยู่กับ content ที่ทำด้วยว่ามีุคุณภาพแค่ไหน
หัวข้อ: Re: ทำไมผมจึงเขียนบทความละ 3,000 คำและทำไมคุณก็น่าจะทำเช่นกัน เริ่มหัวข้อโดย: atripza01 ที่ 01 กันยายน 2013, 19:54:06 ผมคงไม่รู้จะเขียนอะไรดี 3000
หัวข้อ: Re: ทำไมผมจึงเขียนบทความละ 3,000 คำและทำไมคุณก็น่าจะทำเช่นกัน เริ่มหัวข้อโดย: thueksuban ที่ 01 กันยายน 2013, 20:11:38 ส่วนตัวนิสัยการอ่านหรือหาข้อมูลของผมจะเหมือนคุณ Phromphat นะครับ
ถ้าเจอยาวก็ไม่อ่านทั้งหมดซะทีเดียวหรอกครับ เลือกอ่านเฉพาะหัวข้อที่อยากรู้ตอนนั้นก่อน ที่เหลือจะกลับมาอ่านก็ค่อยว่ากันอีกทีค่อยว่ากัน(ตามแต่เวลาและโอกาศ) บทความยาวถ้าไม่มีที่ตรงกับสิ่งที่ต้องการก็อ่านผ่านๆ(เพราะจะหาหัวข้อที่ต้องการก่อน) จริงๆรู้สึกหงุดหงิดและเสียเวลาเล็กๆด้วยซ้ำไป ที่เขียนซะยืดยาวแต่ดันไม่มีที่เราต้องการ มันขึ้นอยู่กับเนื้อหาที่อยู่ภายในบทความว่าตอบโจทย์หรือไม่มากกว่านะครับ ป.ล. ถือว่าเป็นกระทู้ที่มีประโยชน์นะ ขอบคุณที่แชร์อีกมุมมองให้รับฟังครับผม :wanwan017: หัวข้อ: Re: ทำไมผมจึงเขียนบทความละ 3,000 คำและทำไมคุณก็น่าจะทำเช่นกัน เริ่มหัวข้อโดย: บักแฉะ ที่ 01 กันยายน 2013, 20:14:38 ผมว่ามันก็แล้วแต่ประเภทของคอนเทนท์ กับ การสามารถตอบโจทย์ของผู้ค้นหาด้วยนะครับ :-[
หัวข้อ: Re: ทำไมผมจึงเขียนบทความละ 3,000 คำและทำไมคุณก็น่าจะทำเช่นกัน เริ่มหัวข้อโดย: address ที่ 01 กันยายน 2013, 21:39:24 ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆครับ
แต่ประเทศไทย บทความยิ่งสั้นยิ่งดี แบบทวิตเตอร์ 120 คำพอ ถ้าต่างประเทศ ยาวเป็นกิโลยิ่งดีครับ :wanwan019: หัวข้อ: Re: ทำไมผมจึงเขียนบทความละ 3,000 คำและทำไมคุณก็น่าจะทำเช่นกัน เริ่มหัวข้อโดย: deebedding ที่ 01 กันยายน 2013, 22:01:55 +1 ไปเลยค่ะ ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ทำไมผมจึงเขียนบทความละ 3,000 คำและทำไมคุณก็น่าจะทำเช่นกัน เริ่มหัวข้อโดย: ultimatecha ที่ 01 กันยายน 2013, 23:13:27 สุดยอดครับ เดี๋ยวนี้ผมก็เน้นบทความยาวๆละ 800-1200 คำ แต่ขนาดสามพันยังไม่ไหวมั้งฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: ทำไมผมจึงเขียนบทความละ 3,000 คำและทำไมคุณก็น่าจะทำเช่นกัน เริ่มหัวข้อโดย: bananaband ที่ 01 กันยายน 2013, 23:27:06 ขอบคุนสำหรับสิ่งที่นำมาบอกครับ
หัวข้อ: Re: ทำไมผมจึงเขียนบทความละ 3,000 คำและทำไมคุณก็น่าจะทำเช่นกัน เริ่มหัวข้อโดย: careeralive ที่ 01 กันยายน 2013, 23:33:06 สุดยอดครับ เดี๋ยวนี้ผมก็เน้นบทความยาวๆละ 800-1200 คำ แต่ขนาดสามพันยังไม่ไหวมั้งฮ่าๆ ฮ่าๆ ใช่ครับ เหนื่อยจิงอะไรจิงครับสำหรับ epic content แต่อันนี้ทำแล้วได้รับความสนใจ มีคนแชร์เยอะกว่าที่ผมคิดไว้ทั้งที่มันยาวมาก http://www.theceoblogger.com/tony-hsieh-ceo-web-e-commerce/ 3100 กว่าคำ มีคนแชร์ผ่านเพจ 17 แชร์ ในบล็อกอีก 7 แล้วก็มีคนนำไปลงตาม group และเว็บไซต์ต่างๆอีกประปรายครับ หัวข้อ: Re: ทำไมผมจึงเขียนบทความละ 3,000 คำและทำไมคุณก็น่าจะทำเช่นกัน เริ่มหัวข้อโดย: aeggarut ที่ 01 กันยายน 2013, 23:38:26 ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: ทำไมผมจึงเขียนบทความละ 3,000 คำและทำไมคุณก็น่าจะทำเช่นกัน เริ่มหัวข้อโดย: Cherin ที่ 02 กันยายน 2013, 00:34:58 เยี่ยมครับ :wanwan017:
หัวข้อ: Re: ทำไมผมจึงเขียนบทความละ 3,000 คำและทำไมคุณก็น่าจะทำเช่นกัน เริ่มหัวข้อโดย: Phromphat ที่ 02 กันยายน 2013, 11:18:41 เว็บผมทำ 2-3 พันคำต่อบทความเยอะนะ บางบทความคนกด Like เกือบ 2 พันคน (เว็บอื่นไม่ถึงร้อย) :-[
หัวข้อ: Re: ทำไมผมจึงเขียนบทความละ 3,000 คำและทำไมคุณก็น่าจะทำเช่นกัน เริ่มหัวข้อโดย: mumdochata ที่ 02 กันยายน 2013, 11:23:59 ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ :wanwan017:
หัวข้อ: Re: ทำไมผมจึงเขียนบทความละ 3,000 คำและทำไมคุณก็น่าจะทำเช่นกัน เริ่มหัวข้อโดย: vichit ที่ 02 กันยายน 2013, 11:52:41 ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: ทำไมผมจึงเขียนบทความละ 3,000 คำและทำไมคุณก็น่าจะทำเช่นกัน เริ่มหัวข้อโดย: maxmail ที่ 02 กันยายน 2013, 11:53:37 ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ
หัวข้อ: Re: ทำไมผมจึงเขียนบทความละ 3,000 คำและทำไมคุณก็น่าจะทำเช่นกัน เริ่มหัวข้อโดย: KINGRPG ที่ 02 กันยายน 2013, 12:06:51 ขึ้นอยู่กับประเภทที่ทำ :'(
หัวข้อ: Re: ทำไมผมจึงเขียนบทความละ 3,000 คำและทำไมคุณก็น่าจะทำเช่นกัน เริ่มหัวข้อโดย: Uzumaki Naruto ที่ 02 กันยายน 2013, 12:24:59 อ่านแล้วมีแรงอึดให้เขียนบทความดีครับ
:wanwan020: หัวข้อ: Re: ทำไมผมจึงเขียนบทความละ 3,000 คำและทำไมคุณก็น่าจะทำเช่นกัน เริ่มหัวข้อโดย: Chicken-man ที่ 02 กันยายน 2013, 12:51:07 ขอบคุณครับ ได้ไอเดียเลย เอา +1 ไปครับ
หัวข้อ: Re: ทำไมผมจึงเขียนบทความละ 3,000 คำและทำไมคุณก็น่าจะทำเช่นกัน เริ่มหัวข้อโดย: tama5941378 ที่ 02 กันยายน 2013, 13:42:51 ผมเห็นด้วยคับ บทความยาวจริง แต่ถ้าคุณภาพ น่าติดตาม ไม่เขียนเชิงวิชาการเกินไป ยังไงก็อ่านจบคับ ดูอย่างเว็ป headlightmag สิคับ รีวิวรถทีนึง อ่านกันไปเถอะละเอียดยิบ แต่อ่านเพลิน สนุกแถมได้ความรู้ ไม่แปลกใจเลยที่เว็ปรถยนต์ เวปอื่นๆ จะไม่ดังเท่า
ปล.คหสต นะคับ :wanwan017: หัวข้อ: Re: ทำไมผมจึงเขียนบทความละ 3,000 คำและทำไมคุณก็น่าจะทำเช่นกัน เริ่มหัวข้อโดย: kingofdollars ที่ 02 กันยายน 2013, 13:49:10 บทความล่าสุด
ผมเขียนไปได้ 5000 คำครับ ใช้เวลาราวๆ 4 ชั่วโมง แปลไปเขียนไป จนกว่าต้นฉบับจะหมดหน้า เป็นบทความรีวิว (2000 - 5000 คำ) และพบว่าจำนวนคนอ่านนั้นมากกว่าบทความข่าว (300-500 คำ) สามเท่าตัว โดยวัดจากวันที่โพสท์เท่ากัน แต่จะคุ้มค่ากับเวลาหรือเปล่าอันนี้ไม่สนใจครับ เพราะกะทำสายขาว ยาวๆ อยู่แล้ว ปล ไม่ใช่เว็บที่ลายเซ็น หัวข้อ: Re: ทำไมผมจึงเขียนบทความละ 3,000 คำและทำไมคุณก็น่าจะทำเช่นกัน เริ่มหัวข้อโดย: picasso ที่ 02 กันยายน 2013, 14:05:21 ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: ทำไมผมจึงเขียนบทความละ 3,000 คำและทำไมคุณก็น่าจะทำเช่นกัน เริ่มหัวข้อโดย: careeralive ที่ 02 กันยายน 2013, 23:10:56 บทความล่าสุด ผมเขียนไปได้ 5000 คำครับ ใช้เวลาราวๆ 4 ชั่วโมง แปลไปเขียนไป จนกว่าต้นฉบับจะหมดหน้า เป็นบทความรีวิว (2000 - 5000 คำ) และพบว่าจำนวนคนอ่านนั้นมากกว่าบทความข่าว (300-500 คำ) สามเท่าตัว โดยวัดจากวันที่โพสท์เท่ากัน แต่จะคุ้มค่ากับเวลาหรือเปล่าอันนี้ไม่สนใจครับ เพราะกะทำสายขาว ยาวๆ อยู่แล้ว ปล ไม่ใช่เว็บที่ลายเซ็น สรวดยอด เมพมากๆ :o :wanwan003: หัวข้อ: Re: ทำไมผมจึงเขียนบทความละ 3,000 คำและทำไมคุณก็น่าจะทำเช่นกัน เริ่มหัวข้อโดย: careeralive ที่ 02 กันยายน 2013, 23:11:36 ผมเห็นด้วยคับ บทความยาวจริง แต่ถ้าคุณภาพ น่าติดตาม ไม่เขียนเชิงวิชาการเกินไป ยังไงก็อ่านจบคับ ดูอย่างเว็ป headlightmag สิคับ รีวิวรถทีนึง อ่านกันไปเถอะละเอียดยิบ แต่อ่านเพลิน สนุกแถมได้ความรู้ ไม่แปลกใจเลยที่เว็ปรถยนต์ เวปอื่นๆ จะไม่ดังเท่า ปล.คหสต นะคับ :wanwan017: ขอบคุณครับ ได้รู้จักเว็บดีๆมาอีกหนึ่งอัน หัวข้อ: Re: ทำไมผมจึงเขียนบทความละ 3,000 คำและทำไมคุณก็น่าจะทำเช่นกัน เริ่มหัวข้อโดย: birdy2515 ที่ 03 กันยายน 2013, 01:26:34 หัวข้อ: Re: ทำไมผมจึงเขียนบทความละ 3,000 คำและทำไมคุณก็น่าจะทำเช่นกัน เริ่มหัวข้อโดย: youtalen ที่ 03 กันยายน 2013, 09:35:02 งั้นผมคงไม่ใช่คนไทยละมั้งครับ -..- หัวข้อ: Re: ทำไมผมจึงเขียนบทความละ 3,000 คำและทำไมคุณก็น่าจะทำเช่นกัน เริ่มหัวข้อโดย: nutopza ที่ 03 กันยายน 2013, 09:55:19 ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆครับ
หัวข้อ: Re: ทำไมผมจึงเขียนบทความละ 3,000 คำและทำไมคุณก็น่าจะทำเช่นกัน เริ่มหัวข้อโดย: Tongzz ที่ 03 กันยายน 2013, 10:25:09 ยอดเยี่ยม
หัวข้อ: Re: ทำไมผมจึงเขียนบทความละ 3,000 คำและทำไมคุณก็น่าจะทำเช่นกัน เริ่มหัวข้อโดย: behind02 ที่ 03 กันยายน 2013, 11:18:52 เว็บของเจ้าของกระทู้เป็นเว็บที่ดีมากๆ แค่เห็นโครงสร้างบทความก็รู้แล้วล่ะครับว่าตั้งใจทำ
ผมไล่อ่านทุกบทความ ใช้เวลา 2 วัน เหนื่อย แต่มันได้ประโยชน์ เอาง่ายๆนะครับ สมมุติคุณจะเลี้ยงจิ้งหรีด เสิจดูครับ ส่วนใหญ่บอกจิ้งหรีดเลี้ยงที่โล่ง ทำคอก ทำรัง ขายกิโล 200 จบ 555 ช่วยไรตูไม่ได้เลย กับอีกบทความหนึ่ง บอกมาหมดตั้งแต่คัดเลือกพันธุ์ คำรังยังไง ขายยังไง ที่ไหน 3000 คำ อันนี้ประโยชน์มากครับ และแน่นอนผมจะไปบอกเพื่อนต่อด้วยว่า จะเลี้ยงใช่มั้ย อ่านนี่ เออ อย่าลืม bookmark ไว้ด้วยล่ะ เผื่อเค้ามีอะไรดีๆมาบอกอีก ความยาวสำคัยมั้ย ผมให้น้ำหนักที่ 60-70 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลือ ผมให้สำนวนการเขียน เคยอ่านงานของหนุ่มเมืองจันทร์มั้ยครับ ไม่ก็นิ้วกลม ทุกบทความมีใจความที่เขาจะสื่อ 1 อย่าง แต่สำนวน น่าอ่านมาก วางไม่ลง บทความเสนอแนะให้ความรู้ ควรยาวและครอบคลุม ส่วนบทความ ธรรมดา ไม่ต้องยาวมากก็ได้ เน้นเข้าใจได้เร็ว อย่างที่ จขกท ยกตัวอย่าง เกี่ยวกับผู้หญิง หัวข้อ: Re: ทำไมผมจึงเขียนบทความละ 3,000 คำและทำไมคุณก็น่าจะทำเช่นกัน เริ่มหัวข้อโดย: NemoStar ที่ 03 กันยายน 2013, 11:32:58 ไอเดีย บรรเจิดนะครับ
แต่ผมยังติดใจอยู่อย่าง ถ้าเขียนยาวๆแล้วคนอื่นก๊อบไป เราจะทราบได้อย่างไรว่าเขามาก๊อบไปเพื่อไปใส่เครดิตตัวเอง หรือว่าก๊อบไป rewrite แบบนี้มันก็เสียความรู้สึกอ่า แค่ติดใจเฉยๆนะ หัวข้อ: Re: ทำไมผมจึงเขียนบทความละ 3,000 คำและทำไมคุณก็น่าจะทำเช่นกัน เริ่มหัวข้อโดย: careeralive ที่ 03 กันยายน 2013, 12:02:43 เว็บของเจ้าของกระทู้เป็นเว็บที่ดีมากๆ แค่เห็นโครงสร้างบทความก็รู้แล้วล่ะครับว่าตั้งใจทำ ผมไล่อ่านทุกบทความ ใช้เวลา 2 วัน เหนื่อย แต่มันได้ประโยชน์ เอาง่ายๆนะครับ สมมุติคุณจะเลี้ยงจิ้งหรีด เสิจดูครับ ส่วนใหญ่บอกจิ้งหรีดเลี้ยงที่โล่ง ทำคอก ทำรัง ขายกิโล 200 จบ 555 ช่วยไรตูไม่ได้เลย กับอีกบทความหนึ่ง บอกมาหมดตั้งแต่คัดเลือกพันธุ์ คำรังยังไง ขายยังไง ที่ไหน 3000 คำ อันนี้ประโยชน์มากครับ และแน่นอนผมจะไปบอกเพื่อนต่อด้วยว่า จะเลี้ยงใช่มั้ย อ่านนี่ เออ อย่าลืม bookmark ไว้ด้วยล่ะ เผื่อเค้ามีอะไรดีๆมาบอกอีก ความยาวสำคัยมั้ย ผมให้น้ำหนักที่ 60-70 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลือ ผมให้สำนวนการเขียน เคยอ่านงานของหนุ่มเมืองจันทร์มั้ยครับ ไม่ก็นิ้วกลม ทุกบทความมีใจความที่เขาจะสื่อ 1 อย่าง แต่สำนวน น่าอ่านมาก วางไม่ลง บทความเสนอแนะให้ความรู้ ควรยาวและครอบคลุม ส่วนบทความ ธรรมดา ไม่ต้องยาวมากก็ได้ เน้นเข้าใจได้เร็ว อย่างที่ จขกท ยกตัวอย่าง เกี่ยวกับผู้หญิง ขอบคุณมากครับ เสริมได้เห็นภาพชัดเจนเลย :wanwan017: หัวข้อ: Re: ทำไมผมจึงเขียนบทความละ 3,000 คำและทำไมคุณก็น่าจะทำเช่นกัน เริ่มหัวข้อโดย: careeralive ที่ 03 กันยายน 2013, 12:21:20 ไอเดีย บรรเจิดนะครับ แต่ผมยังติดใจอยู่อย่าง ถ้าเขียนยาวๆแล้วคนอื่นก๊อบไป เราจะทราบได้อย่างไรว่าเขามาก๊อบไปเพื่อไปใส่เครดิตตัวเอง หรือว่าก๊อบไป rewrite แบบนี้มันก็เสียความรู้สึกอ่า แค่ติดใจเฉยๆนะ ผมขอเล่าให้ฟังไปเลยนะครับ เรื่องนี้หลายคนกังวลกันอยู่ ผมก็กังวลแต่ตอนนี้ดีขึ้นแล้ว... อย่างบทความของผมนั้นมีคนก็อปไหม มีแน่นอนครับ มีสองแบบ 1. เอาโดยไปไม่ใส่เครดิตและไม่ใส่ลิงค์ให้ อันนี้ถ้าเอาคำค้นไปหาใน search engine บางครั้งจะหาไม่เจอบล็อกของคนที่ก็อปเช่นกัน แม้แต่เอา Title ทั้งดุ้นไป search ก็อาจไม่เจอแต่จะเจอบล็อกของผมแสดงมาเป็นอันดับหนึ่งแทน ซึ่งสันนิษฐานได้ว่า Google ก็ไม่ให้อันดับแก่คนที่ก็อปไปครับ (ที่ผมรู้เพราะแฟนเพจไปเจอมาบอกครับ) 2. การนำทั้ง format ของบทความไปแชร์ในบล็อกแล้วใส่เครดิตให้และใส่ลิงค์ให้ อย่างใดอย่างหนึ่งหรือทั้งสอง ซึ่งมีทั้งมาขออนุญาติก่อนและไม่ได้ขออนุญาติ อันนี้จะรู้ได้จากการตรวจ backlink (ถ้าเขาใส่ link ให้) เวลาเจอแบบนี้ผมก็ไม่ได้ทำอะไร ถ้าคนขอผมก็ให้ ไม่ขอแต่ใส่เครดิตให้ผมก็ให้ หรือเอาไปเลยไม่อ้างอิงอะไรเลยผมก็ให้ (ก็เอาไปแล้วนี่หว่า 55) การก็อปปี้มีทุกวงการ แม้แต่เสื้อผ้ากระเป๋าเฟอร์นิเจอร์ก็ก็อปกันกระจาย เจ้าของธุรกิจหลายท่านจะสอนคล้ายๆกันว่า ที่เขาก็อปเพราะของเราดี ถ้าไม่มีใครก็อปของเรานั่นแหละน่าจะพิจารณาตัวเอง 555 เอ้อมันก็จริงแฮะ สิ่งที่ผมประสบมาคือ การเขียนบทความยาวๆแบบนี้เจ้าของบล็อกจะมี Authority ในบล็อกตนเองสูงมาก กล่าวคือคนที่เข้ามาบล็อกจะมาเพราะชื่อเสียงของคุณไม่ได้อาศัย Search Engine เป็นหลักเหมือนบล็อกที่มุ่งบทความเพื่อ SEO ...อย่างที่ Behind02 บอกคือ Authority site จะมีคนเข้ามาหาอันเกิดจากการบอกต่อพอสมควร แต่คนที่ก็อปบทความไป เขาจะไม่มี Authority นั่นหมายความว่าเขาได้แต่ content แต่เขาจะไม่สามารถพัฒนาจาก Blog ไปสู่ Business ขั้นสูงกว่า บล็อกที่เอาแต่ก็อปบทความผู้อื่น อาจทำเงินจาก Ads ต่างๆ แต่ก็จะอยู่แค่นั้นและต้องอาศัย traffic จาก search engine เป็นเส้นเลือดใหญ่ มีโอกาสหายไปจาก search ได้เมื่ออัลกอเปลี่ยนแปลงหนักๆ นอกจากนั้นถ้าคนจับได้ว่าก็อปก็จะเสื่อมความนิยมไป บางกรณีแฟนบล็อกผมก็เป็นคนไปบอกในบล็อกนั้นเองก็มีว่าบทความนี้มาจาก The CEO Blogger นะ ฯลฯ บล็อกที่เป็นตัวของตัวเองและมีคุณภาพดี ไม่ต้องพึ่ง search engine อย่างเดียว, แต่ยังอาศัย social network, email list และ viral ไปพร้อมกัน รายได้สามารถพัฒนาไปสู่การเขียนหนังสือ, เปิด class สอน, จัดสัมมนา ลงหนังสือ ออกทีวี ฯลฯ เพราะงานที่ทำมาจาก Skill จริงๆของเจ้าของบล็อก ซึ่งตัวผมเองที่ผ่านมาเคยมีรายการหนึ่งใน True Channel มาติดต่อขอสัมภาษณ์ไปลงสื่อในเครือ แต่เวลาไม่ตรงกันเลยไม่ได้ทำ ไม่งั้นทุกคนคงได้เห็นผมลงสื่อแหละ อิๆ สรุป...การถูกก็อปบทความเป็นเรื่องเหนื่อยใจ แต่การตามไล่ตามล่าคนก็อปเหนื่อยกว่ามาก เลือกใช้ทรัพยากรทางเวลาไปพัฒนาผู้อ่านให้แข็งแกร่งคือทางเลือกที่ดีที่สุดครับ หัวข้อ: Re: ทำไมผมจึงเขียนบทความละ 3,000 คำและทำไมคุณก็น่าจะทำเช่นกัน เริ่มหัวข้อโดย: Destined ที่ 03 กันยายน 2013, 12:32:31 + 1 บทความดีมากครับ
ขอบคุณครับ :wanwan017: หัวข้อ: Re: ทำไมผมจึงเขียนบทความละ 3,000 คำและทำไมคุณก็น่าจะทำเช่นกัน เริ่มหัวข้อโดย: RookieTee ที่ 03 กันยายน 2013, 13:06:06 แบ่งปันสิ่งดี ๆ สอนก่อนขาย Teaching -> Sale เป็นสูตรสำเร็จที่ใช้ได้ตลอดกาล แต่ต้องใช้เวลาและความอดทน คนส่วนใหญ่มักจะไม่มีตรงนี้ อยากได้เร็ว ๆ กัน
หัวข้อ: Re: ทำไมผมจึงเขียนบทความละ 3,000 คำและทำไมคุณก็น่าจะทำเช่นกัน เริ่มหัวข้อโดย: jone500 ที่ 03 กันยายน 2013, 13:18:36 ขอบคุณครับ บทความคุณภาพต้องงี้สินะ
หัวข้อ: Re: ทำไมผมจึงเขียนบทความละ 3,000 คำและทำไมคุณก็น่าจะทำเช่นกัน เริ่มหัวข้อโดย: behind02 ที่ 03 กันยายน 2013, 13:31:55 เรื่องก๊อปปี้ มันโลกแตกครับ ห้ามไม่ได้
ก็มีการฟ้องร้องกัน เช่นการละเมิดปกติ แต่ให้คิดต่างในเรื่องของ กรรม :wanwan024: ลองค้นที่ตู้เสื้อผ้า หรือรองเท้าที่คุณกำลังสวม ผมคิดอย่างนี้ครับ สบายใจ เราก็สนับสนุนของก๊อปนี่นา เฮ้อ :P วันหนึ่งมีคนก้อปของๆ เราไป กรรมตามสนอง 5555 :wanwan004: อย่าว่าผมเน้อ ผมเอาฮา หัวข้อ: Re: ทำไมผมจึงเขียนบทความละ 3,000 คำและทำไมคุณก็น่าจะทำเช่นกัน เริ่มหัวข้อโดย: hanami7 ที่ 03 กันยายน 2013, 13:33:33 ขอบคุณครับ :wanwan019:
หัวข้อ: Re: ทำไมผมจึงเขียนบทความละ 3,000 คำและทำไมคุณก็น่าจะทำเช่นกัน เริ่มหัวข้อโดย: soi62 ที่ 04 กันยายน 2013, 18:05:43 ขอบคุณสำหรับความรู้เรื่องความยาวของบทความ
ปกติผมอาจจะไม่ชอบอ่านอะไรยาวมากๆ เวิ่นเว้อ แต่ผมก็อ่านสิ่งที่เจ้าของพิมพ์จนหมดจนได้ :wanwan020: มันก็จริงครับที่ว่าคนที่เข้าแล้วออกไป ไม่ใช่ว่าเขาไม่ชอบอ่าน มันเกี่ยวกับว่าสิ่งที่เขาเจอมันน่าสนใจ เนื้อหามันตรงกับที่เขากำลังต้องการหรือไม่ หลายต่อหลายครั้ง ที่ผมค้นบทความ แล้วกดดูอันดับแรกๆของการค้นหา แต่เนื้อหาในนั้นกลับเอาไปทำอะไรไม่ได้เลย แย่งทำอันดับกันหน้ามืด :P ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆครับ :wanwan003: หัวข้อ: Re: ทำไมผมจึงเขียนบทความละ 3,000 คำและทำไมคุณก็น่าจะทำเช่นกัน เริ่มหัวข้อโดย: nangel ที่ 04 กันยายน 2013, 18:56:13 แล้วแต่เทคนิคของแต่ละคน
บางอย่างเขียนน้อยก็ดีกว่าเขียนยาว ลองดูตัวอย่าง ผมเจออยู่เวปหนึ่งเขียนไม่เยอะแต่เขียนบ่อยต่อวัน และข้อความก็ไม่ใช่คุณภาพด้วย เขียนผิดเขียนถูก แต่เขามีหลักการในการเขียนซึ่งผมไม่ขอพูดถึงเพราะเป็นเทคนิค Traffic ไม่ต้องพูดถึงหลักล้าน unique visors/ ต่อเดือน คำถามคือ เวปนี้ทำมานานเท่าไหร่ ?? ไม่ถึง 1 ปี ทำเงินได้มากกว่า 1-3 ล้านบาทต่อเดือน จาก CPA ถ้าถามว่าการจะเขียนบทความยาวๆ หลักๆคือต้องการอยู่กับ search engine นานๆ สร้างความน่าเชื่อถือ แต่ข้อเสียคือ อาจจะทำเงินได้ช้า ถ้าผมทำแบบเวปได้แบบเขา ผมขอแค่อยู่ซัก 1 ปี ก็พอ (จริงๆผมว่านานเกินไปด้วยซ้ำ อาจจะซัก 6 เดือนก็ได้) หลังจากนั้นผมจะขายเวปให้ฝรั่งทันที รายได้ (3,000,000 * 12) * 1.5 (ราคาขายประมาณการณ์รายได้ 6 เดือน) = 54,000,000 บาท ห้าสิบสี่ล้านบาท... ถ้าให้ผมมาเขียนบทความยาวๆสร้างความน่าเชื่อถือ รอวันเวลา รอ search engine รอคนติด มันก็อาจจะช้าเกินไปในอีกแง่มุมหนึ่ง เพราะอะไรๆ ก็ไม่แน่นอนเสมอ.... ผมไม่สนว่าจะอยู่นานหรือมีคนติดชอบ สร้าง value ให้ตัวมันเองไหม แต่ผมสนใจผลลัพธ์ที่เห็นผลได้รวดเร็วและกำไรให้เร็วที่สุดในการลงทุน (และแน่นอนผมจะไม่เขียนเองเด็ดขาด ถ้าทำ content สั้นๆ เพราะเสียเวลาแน่ๆ) หัวข้อ: Re: ทำไมผมจึงเขียนบทความละ 3,000 คำและทำไมคุณก็น่าจะทำเช่นกัน เริ่มหัวข้อโดย: deksamrong ที่ 04 กันยายน 2013, 19:08:19 เป็นบทความที่น่าสนใจมากครับ :'(
หัวข้อ: Re: ทำไมผมจึงเขียนบทความละ 3,000 คำและทำไมคุณก็น่าจะทำเช่นกัน เริ่มหัวข้อโดย: nokmeshielving ที่ 04 กันยายน 2013, 19:28:38 แม้แต่ google ยังให้คะแนนจาก อัตราการตีกลับ ซึ่งดูแนวโน้มและสถิติ คนที่ทำบทความยาว ส่งผลดีในระยะยาวแน่นอนครับ
เพียงแต่ต้องใช้ความอดทน และรอ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ผู้ที่ทำบทความยาวนั้น มุ่งเน้นที่เนื้อหา และคุณภาพ มากกว่าผลการจัดอันดับ ดังนั้นจึงมุ่งเน้นที่ คนชอบ มากกว่า บอทชอบ ผมคนหนึ่งล่ะ ที่อ่านทั้งบทความสั้น และบทความยาว แต่ 80% ที่ได้แง่คิดสามารถนำมาใช้ได้เยอะแยะอยู่ทุกวันนี้ เป็นบทความยาวทั้งนั้นครับ บทสรุปแล้ว ในระยะสั้น บทความสั้น บอทชอบ คนไม่ชอบ บทความยาว บอทไม่ชอบ คนชอบ ในระยะยาว บทความสั้น บอทไม่ชอบ คนไม่ชอบ บทความยาว บอทชอบ คนชอบ มองกันยาวๆครับ หัวข้อ: Re: ทำไมผมจึงเขียนบทความละ 3,000 คำและทำไมคุณก็น่าจะทำเช่นกัน เริ่มหัวข้อโดย: nangel ที่ 04 กันยายน 2013, 22:45:56 ผมมองสั้นแต่เน้นให้ได้ผลยาวๆ ประมาณว่าทำเวป 1 ปี ขอเงินกลับมาใช้ซัก 10 ปีก่อน แล้วเอาไปลงทุนอย่างอื่น
เคยมองยาวๆ แต่อะไรๆมันก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ไม่เฉพาะแค่ Google แต่ทุกสิ่งที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา หัวข้อ: Re: ทำไมผมจึงเขียนบทความละ 3,000 คำและทำไมคุณก็น่าจะทำเช่นกัน เริ่มหัวข้อโดย: careeralive ที่ 05 กันยายน 2013, 08:55:07 แล้วแต่เทคนิคของแต่ละคน บางอย่างเขียนน้อยก็ดีกว่าเขียนยาว ลองดูตัวอย่าง ผมเจออยู่เวปหนึ่งเขียนไม่เยอะแต่เขียนบ่อยต่อวัน และข้อความก็ไม่ใช่คุณภาพด้วย เขียนผิดเขียนถูก แต่เขามีหลักการในการเขียนซึ่งผมไม่ขอพูดถึงเพราะเป็นเทคนิค Traffic ไม่ต้องพูดถึงหลักล้าน unique visors/ ต่อเดือน คำถามคือ เวปนี้ทำมานานเท่าไหร่ ?? ไม่ถึง 1 ปี ทำเงินได้มากกว่า 1-3 ล้านบาทต่อเดือน จาก CPA ถ้าถามว่าการจะเขียนบทความยาวๆ หลักๆคือต้องการอยู่กับ search engine นานๆ สร้างความน่าเชื่อถือ แต่ข้อเสียคือ อาจจะทำเงินได้ช้า ถ้าผมทำแบบเวปได้แบบเขา ผมขอแค่อยู่ซัก 1 ปี ก็พอ (จริงๆผมว่านานเกินไปด้วยซ้ำ อาจจะซัก 6 เดือนก็ได้) หลังจากนั้นผมจะขายเวปให้ฝรั่งทันที รายได้ (3,000,000 * 12) * 1.5 (ราคาขายประมาณการณ์รายได้ 6 เดือน) = 54,000,000 บาท ห้าสิบสี่ล้านบาท... ถ้าให้ผมมาเขียนบทความยาวๆสร้างความน่าเชื่อถือ รอวันเวลา รอ search engine รอคนติด มันก็อาจจะช้าเกินไปในอีกแง่มุมหนึ่ง เพราะอะไรๆ ก็ไม่แน่นอนเสมอ.... ผมไม่สนว่าจะอยู่นานหรือมีคนติดชอบ สร้าง value ให้ตัวมันเองไหม แต่ผมสนใจผลลัพธ์ที่เห็นผลได้รวดเร็วและกำไรให้เร็วที่สุดในการลงทุน (และแน่นอนผมจะไม่เขียนเองเด็ดขาด ถ้าทำ content สั้นๆ เพราะเสียเวลาแน่ๆ) คุณ Nangel เล่ามาผมก็เห็นด้วยครับ การทำเว็บไซต์ในแนวที่ว่าหากระบบลงล็อก ติด search ติด traffic ก็มีรายได้จาก CPA และ CPC มากมายครับ อันนั้นก็จะเป็นการทำเว็บไซต์เพื่อ SEO เป็นเป้าหมายสำคัญ ส่วนเจตนารมณ์ก็เพื่อทำเงินเข้าให้มากและเร็วที่สุด ...ความแตกต่างจึงอยู่ตรงนี้ เจตนารมณ์ (purpose) ซึ่งเว็บผมและอีกหลายๆเว็บมีเจตนารมณ์เพื่อ educate ผู้อื่น ผลสำเร็จจึงวัดที่เราทำให้คนได้ความรู้และมีคนติดตามมากแค่ไหน ฯลฯ ส่วนเว็บไซต์เพื่อ SEO ผมเชื่อว่ามีคนทำกันเยอะแต่คนประสบความสำเร็จอาจมีไม่เยอะเพราะภาคปฏิบัติคนทำต้องทุ่มเทการทำงานมากพอๆกับเว็บแนว education จริงๆผมบอกชื่อเว็บให้เลยก็ได้ครับ (อาจเป็นคนละเคสกับเว็บคุณ nangel ยกตัวอย่างนะ) www.thestupidstation.com (http://www.thestupidstation.com) traffic เว็บนี้ไม่น้อยกว่า 500,000-700,000 visit ต่อเดือน+++ รายได้จาก CPC สุดจินตนาการครับ บทความของเว็บเป็นบทความสั้นๆ โพสละ 100 คำ! น้อยมากๆ แต่มีจำนวนบทความมากมายนับไม่ถ้วน เจ้าของพัฒนาเว็บมาประมาณเกือบ 1.5 ปี ผมเดาว่าเขาคงต้องจ้างคนเขียนบทความด้วยแหละ เพราะมันเยอะเหลือเกิน อย่างที่คุณ nangel บอก บทความสั้นๆแบบนี้ ทำให้เยอะๆ ถ้าทำคนเดียวก็นาน ต้องหาคนมีช่วยทำถึงจะได้ผลเร็วขึ้น แม้ผมจะพอรู้หลักการแต่ผมไม่ได้ทำเว็บแบบนี้เองเพราะ purpose ของผม ณ ตอนนี้คือการ educate คนอื่น แต่ต่อไปเมื่อแนวทางของผมอยู่ตัวแล้ว มีคนหมุนเวียนมาพูดคุยกับผมสม่ำเสมอแล้ว ผมก็จะผันไปทำเว็บแนวอื่นๆต่อแล้วก็นำความรู้ใหม่ๆกลับมา educate ผู้คนต่อ ฯลฯ เป้าหมายและสิ่งที่ต้องการให้บรรลุผลจึงไปกำหนดแนวทางและวิธีทำงานเป็นต้นครับ หัวข้อ: Re: ทำไมผมจึงเขียนบทความละ 3,000 คำและทำไมคุณก็น่าจะทำเช่นกัน เริ่มหัวข้อโดย: kuznetsova ที่ 05 กันยายน 2013, 09:27:07 บทความดีครับ
ส่วนใหญ่ผมก็พยายามเขียนบทความที่ดีที่สุดกว่าอันดับ 1-3 รวมกัน อะไรไม่มีหามาใส่ ก็ยาวพอสมควร หัวข้อ: Re: ทำไมผมจึงเขียนบทความละ 3,000 คำและทำไมคุณก็น่าจะทำเช่นกัน เริ่มหัวข้อโดย: ก้ามปู ที่ 05 กันยายน 2013, 10:31:52 ผมชอบอ่านนะบทความยาวๆ แต่ต้องเป็นบทความที่มีการเขียนขึ้นมาอย่างมีการวางแผนงานเขียนเป็นระบบ ตัวอย่างเช่น
http://www.headlightmag.com/main/index.php?option=com_content&view=article&id=2113:exclusive-first-impression-mitsubishi-i-miev-k-car-16-&catid=60:k-car-660-cc&Itemid=71 มันยาวมาก แต่ก็ทนอ่านกันจนจบ แถมยังมีคนติดอีกเยอะ หัวข้อ: Re: ทำไมผมจึงเขียนบทความละ 3,000 คำและทำไมคุณก็น่าจะทำเช่นกัน เริ่มหัวข้อโดย: Lost Way ที่ 05 กันยายน 2013, 10:34:12 บางทีก็ขี้เกรียจอ่อานครับ
บางเรื่อง 300-400 คำหน้าอ่านจับประเด็นง่าย หัวข้อ: Re: ทำไมผมจึงเขียนบทความละ 3,000 คำและทำไมคุณก็น่าจะทำเช่นกัน เริ่มหัวข้อโดย: ก้ามปู ที่ 05 กันยายน 2013, 10:46:15 คุณ Nangel เล่ามาผมก็เห็นด้วยครับ การทำเว็บไซต์ในแนวที่ว่าหากระบบลงล็อก ติด search ติด traffic ก็มีรายได้จาก CPA และ CPC มากมายครับ อันนั้นก็จะเป็นการทำเว็บไซต์เพื่อ SEO เป็นเป้าหมายสำคัญ ส่วนเจตนารมณ์ก็เพื่อทำเงินเข้าให้มากและเร็วที่สุด ...ความแตกต่างจึงอยู่ตรงนี้ เจตนารมณ์ (purpose) ซึ่งเว็บผมและอีกหลายๆเว็บมีเจตนารมณ์เพื่อ educate ผู้อื่น ผลสำเร็จจึงวัดที่เราทำให้คนได้ความรู้และมีคนติดตามมากแค่ไหน ฯลฯ ส่วนเว็บไซต์เพื่อ SEO ผมเชื่อว่ามีคนทำกันเยอะแต่คนประสบความสำเร็จอาจมีไม่เยอะเพราะภาคปฏิบัติคนทำต้องทุ่มเทการทำงานมากพอๆกับเว็บแนว education จริงๆผมบอกชื่อเว็บให้เลยก็ได้ครับ (อาจเป็นคนละเคสกับเว็บคุณ nangel ยกตัวอย่างนะ) [url=http://www.thestupidstation.com]www.thestupidstation.com[/url] ([url]http://www.thestupidstation.com[/url]) traffic เว็บนี้ไม่น้อยกว่า 500,000-700,000 visit ต่อเดือน+++ รายได้จาก CPC สุดจินตนาการครับ บทความของเว็บเป็นบทความสั้นๆ โพสละ 100 คำ! น้อยมากๆ แต่มีจำนวนบทความมากมายนับไม่ถ้วน เจ้าของพัฒนาเว็บมาประมาณเกือบ 1.5 ปี ผมเดาว่าเขาคงต้องจ้างคนเขียนบทความด้วยแหละ เพราะมันเยอะเหลือเกิน อย่างที่คุณ nangel บอก บทความสั้นๆแบบนี้ ทำให้เยอะๆ ถ้าทำคนเดียวก็นาน ต้องหาคนมีช่วยทำถึงจะได้ผลเร็วขึ้น แม้ผมจะพอรู้หลักการแต่ผมไม่ได้ทำเว็บแบบนี้เองเพราะ purpose ของผม ณ ตอนนี้คือการ educate คนอื่น แต่ต่อไปเมื่อแนวทางของผมอยู่ตัวแล้ว มีคนหมุนเวียนมาพูดคุยกับผมสม่ำเสมอแล้ว ผมก็จะผันไปทำเว็บแนวอื่นๆต่อแล้วก็นำความรู้ใหม่ๆกลับมา educate ผู้คนต่อ ฯลฯ เป้าหมายและสิ่งที่ต้องการให้บรรลุผลจึงไปกำหนดแนวทางและวิธีทำงานเป็นต้นครับ ความยาว 320 ผมอ่านจบด้วย อิอิ |