ThaiSEOBoard.com

ผมจบปริญญาตรีแล้ว  ทำงานเก็บเงินได้ก้อนหนึ่งแล้ว  แต่อยากเรียนในสาขาใหม่ เพื่อปูพื้นฐานงานด้าน Internet Marketing  คิดว่าควรจะเรียนสาขาอะไรดีครับ  :-\

เป้าหมายของการเรียนเพื่อจะทำอะไรอะครับ

ถ้ายังไม่มีหัวด้านการตลาด หรือไม่เคยมีประสบการณ์
ก็คงแนะนำสาขาการตลาดก่อน

แต่ก็ได้ใช้น้อย เพราะบนเน็ตจะใช้เทคนิคต่างจากการตลาดบนโลกความจริง

บอกยากนะว่าควรเรียนอะไรดี
เพราะฐานแต่ละกันมันก็ต่างกัน
ฐานที่ควรมีสำหรับแนวนี้
- การตลาด
- อินเตอร์เน็ต (เน้นเทคโนโลยี)

ว่าเคยได้ยินมีบางที่เปิดสาขาเฉพาะก็มี แต่ไม่รู้ที่ไหนอะน่ะ

 :P

อยากเป็นอารายเอ๋ย เรียนเพื่ออาราย ทำอันไหน internet marketing กว๊าง กว้าง

ผมก้ออยากทำเว็บเป็น อยากรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ???  อยากใช้ภาษาอังฤษให้คล่องๆกว่าตอนนี้   คิดว่าควรจะเรียนภาษาเป็นเอกหลักหรือเปล่าครับ  ส่วนพวกเรื่องทำเว็บอะไร ค่อยเรียนเสริมเอา  คือผมไม่มั่นใจว่า
ทำธุรกิจตรงนี้  จริงๆแล้วเราควรจะเก่งภาษาอังกฤษไหมน่ะครับ   :-X

สาระสนเทศ น่าจะมีความเกี่ยวข้องกับเรื่องแบบนี้หลายอย่างอยู่ นะครับ

แนะนำจากใจนะ
ภาษาอังกฤษก่อนเลย
แล้วค่อยคอม (ด้านไอทีก็ดี)

เพราะถ้าเป็นอังกฤษ คอมจะไปง่ายด้วย
สาเหตุคนไทยอ่อนคอม ส่วนหนึ่งมาจากภาษา

ยกตัวอย่างติดตั้ง Windows ทั้งที่หน้าต่าง Setup บอก Step by step
แต่ก็ยังทำไม่เป็น นั้นก็เพราะเรื่องภาษาเนี่ยแหละครับ

เคยต้องเป็นครูจำเป็น เลยรู้ปัญหาพวกนี้

อีกอย่างถ้าเป็นภาษาก่อน เรายังศึกษาในเน็ตได้เพิ่มอีกสารพัด
(คำว่า สารพัด นี้ หมายถึงทุกอย่างจริงๆ)

 ::)

น่าจะเรียนภาษาก่อนแบบน้องโจ้ว่าล่ะครับ

งั้นผมคงต้องไปเรียนราม  พร้อมกับทำงานไปด้วย มนุษย์ศาสตร์-ภาษาอังกฤษ  น่าจะดีนะครับ ???

ง่าา เอว่าไม่จำเป็นขนาดลงเรียนในมหาลัยค่ะ เอาแค่พวกคอร์สก็น่าจะพอ ประหยัดเวลาและลดแรงกดดันด้วย

ลองเรียน MBA การตลาดดูสิ  แล้วมาประยุกต์ใช้ด้วยกัน

เรียนจบมาเงินเดือนเยอะน้า สาขานี่

ผมก็เล่น internet marketing ทำเป็นอาชีพเสริม  (แต่ตอนนี้ถูก google เอาไปนั่งเล่นในกล่องทราย  :P เซ็ง  :-X)

Internet marketing ยืนยันครับ ทำในประเทศไทยได้  แต่ต้องรู้ว่าคำไหน Seach เยอะ   tool ต่างๆมีไม่มากเหมือน keyword ต่างประเทศ ทำให้ไม่ทราบว่า keyword นั้นคน seach เยอะแค่ไหน คู่แข่งเป็นอย่างไร

ผมก็ไม่ได้จบ MBA ไม่ได้จบการตลาด เวบไซด์นี้
อายุเกือบปีแล้ว รายได้เฉียดๆหมื่นนะครับ (ทำเป็นเล่นไป)  ให้ดูการแข่งขันนะครับ  เรื่องลดน้ำหนักมีการแข่งขันที่สูงมาก แต่ผมก็ยังขายได้ด้วย Internet marketing ที่ดี  :-\  (แต่สัปดาห์ที่แล้วขายไม่ได้เลยเนื่องจากถูกแช่แข็ง google sand box)

หลักการของ Internet Marketing มีอยู่ไม่กี่ข้อครับ

ไม่ค่อยมีใครเล่นอินเตอร์เนตเพื่อ Shopping ยกเว้นจะไปเล่น Ebay หรือเวบประมูล หรือเวบประกาศขายสินค้า ส่วนใหญ่มักเข้ามาหาความรู้หรือข้อมูล ดังนั้นการ offer ด้วยข้อมูลจะมีแนวโน้มขายได้ในอินเตอร์เนตมากกว่า

 ::) การทำ SEO คือการทำให้เวบไซด์ติดอันดับ google yahoo msn แต่ว่าถ้าในประเทศไทย google จะใช้เป็น search engine หลัก 

 ::) การทำ Email Marketing  ดักชื่อและ email ก่อน  แล้วเขียนบทความ นำเสนอขายซ้ำแล้ว-ซ้ำอีก

 ::) การเขียน Sale Page  : Sale Page ที่ดีจะทำหน้าที่ในการขายครับ เป็น Sale Man ของเรา นำเสนอขายสินค้า  ให้ข้อมูล  Key ของInternet Marketing อยู่ที่ Sale Page นี่แหละครับ จะขายได้ขายไม่ได้ก็อยู่ที่ตรงนี้

 ::) Affiliate Program เพื่อให้คนอื่นช่วยนำสินค้าของเราไปช่วยขาย  แนะนำให้ใช้ Affiliate Program เป็นของตัวเอง  เพราะ Link ที่เข้ามาจะ Link เข้า domain เราโดยตรงเลย เพิ่ม Link popularity ด้วยครับ

 :-* เขียนบทความ โดยทั่วไปแล้วผมจะเขียนบทความ 2 อาทิตย์ต่อครั้ง สะสมไปเรื่อยๆ  บทความนี่แหละครับที่จะเป็นตัวดึง Link เข้ามา ดึงผู้เยี่ยมชมเข้ามา  แนะนำให้เขียนบทความเอง เพื่อให้เป็นบทความที่มี "ความแตกต่าง" และจะเป็นเอกลักษณ์ของเวบไซด์ของเรา

==============================================================================

แนะนำว่าจุดบกพร่องของ Internet marketer ส่วนใหญ่ที่พลาดเพราะมัวแต่หาสินค้าที่ดีที่สุดเพื่อนำมาขาย  แต่ที่จริงแล้วต้องเป็น "สินค้าที่เติมเต็มความต้องการ" ต่างหากครับที่จะขายได้

1. สำรวจตลาดและ keyword เพื่อดูว่ามีคนกำลังจะหาเรื่องอะไรอยู่มากที่สุด
2. สร้างสินค้า หาสินค้าที่สนองความต้องการ
3. ทำเวบไซด์ ทดสอบดึงผู้เยี่ยมชมเข้ามาแล้วดูว่าขายได้หรือไม่
4. Boost ยอดขาย ด้วย Affiliate Program และ Email marketing
5. ทดสอบ ทดสอบ ทดสอบ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

วนกลับไปข้อ 1. เพื่อหาสินค้าอื่นๆต่อไปครับ   :)

ปล. ตอนนี้ผมกำลังทำอีกเวบไซด์หนึ่ง (แต่ขออุบไว้ก่อนนะครับ)

ไปลง abac internet marketing เลยสิครับ ถ้าอยากได้ ภาษา ปริญญา internet

แต่แนะนำจากใจนะครับ ถ้าอยากได้ภาษา ต้องหัดเองครับ ไปหัดคุยกะฝรั่ง อยู่ในโลกที่มี

แต่ภาษาอังกฤษ จะไปได้ไวครับ ส่วน internet marketing เอาจริงๆนะคับ หาอ่าน

E-book internet marketing กับลงมือทำเยอะๆ เก่งกว่าไปเรียนปริญญาโทอีก

ปริญญาโทสอนแค่เบสิคครับ

ตอนเรียน
อาจารย์ผมสอนเสมอว่า
จงเรียน มหาวิทยาลัยโลก
ให้จบปริญญาชีวิต

เรียนโปแกรมเมอร์ดีกว่าครับ การตลาดเราจ้างคนอื่นทำได้
แต่โคดนี่ถ้าจ้างอาจจะโดนก๊อบไอเดีย ตัดหน้า

เห็นด้วยครับ

ไม่รู้ดินะ ผมคิดว่าเรียนโปรแกรมเมอร์ เรียนออกแบบดีไซน์พวกนี้
จะมีประโยชน์และทำไห้เข้าใจการตลาดได้มากกว่านะ เพราะมันอยู่ในขั้นตอนการผลิต
หากเข้าใจการผลิต มันก็จะสามารถทำไห้เข้าใจการตลาดมากขึ้นตาม

และเรื่องการตลาด มันสามารถศึกษาด้วยตัวเองในระยะยาวได้เช่นกัน
แต่โปรแกรมเมอร์ ถ้าเลยอายุไปแล้ว อาจกู่ไม่กลับนะ
เพราะเป็นไปได้ที่บางคน จะยอมไห้คนอื่นสอนยากขึ้น พูดง่ายๆ ว่า แก่แล้วจะหัวแข็งขึ้น ไม่ค่อยฟังความคิดเห็นคนอื่น กลัวถูกคนมองว่าโง่ (บางคนนะครับ) และ จะกลายเป็นอุปสรรคในการเรียนรู้

เอาง่ายๆ นะ การตลาดเนี่ย อายุเยอะ ยังสามารถไปเรียนไนห้องเรียนได้ แต่โปรแกรมเมอร์กับดีไซน์เนี่ย ยังไม่เห็นคนมีอายุไปเรียนเลย

จากประสบการณ์ส่วนตัวครับ :)

อยากรวยผมว่าต้องการตลาด

ดูอย่าง บิล เกตส์ หลังๆมาก็จ้างโปรแกรมเมอร์ทำ ไม่เห็นไปนั่งทำเอง

คนใกล้ตัวดู คุณโซว ก็ไม่เป็นโปรแกรม

คนรวยๆ มักจะเก่งบริหารกับการตลาด

เมื่อเช้าพิมพ์ทางมือถือ อุตส่าห์พิมพ์ซะยาว error ซะงั้น  :'( :'(

คือจะบอกว่า ไม่จำเป็นต้องไปลงคณะมนุษยศาสตร์ (หรือ อักษรศาสตร์) ยิ่งจบป.ตรีแล้ว ไปลงใหม่อีกรอบจะเสียเวลาค่ะ
และถ้าไปเรียนในมหาลัยเลยเนี่ย เราจะเจอกับวิชาที่เกินความต้องการของเรา เช่น วิชา Grammar ฉบับเป๊ะๆๆ ดีไม่ดีเจอวรรณคดีอังกฤษเข้่าไปอีก

เอว่าแค่เรียนคอร์ส Reading / Writing แล้วก้อต่อด้วย Writing for business สัก 2-3 คอร์สต่อเนื่อง
แล้วก้อลง Conversation  (ย้ำว่าต้องเรียนกับอาจารย์ฝรั่งเท่าันั้น) สัก 2-3 คอร์สต่อเนื่อง ก้อน่าจะพอแล้วค่ะ
สำคัญว่าต้อง "ห้ามอาย!" ท่องไว้ อายครูไม่รู้วิชาค่ะ
อะไรไม่รู้ให้ถาม ไม่เข้าใจ สงสัยให้ถาม อย่ากลัว อย่าอาย

อ่านข่าว / ฟังข่าวเป็นภาษาอังกฤษ (เพราะยังงัย ๆ ศัพท์ที่เจอในข่าว ย่อมเป็นศัพท์ในแวดวงธุรกิจ และ ศัพท์ที่ใช้ในปัจจุบันมากกว่าวรรณคดีอังกฤษแน่ๆ  :'(  )

เชื่อว่าเท่านี้ ก้อจะค่อยๆ เก่งขึ้น และที่สำคัญ จะสามารถพูด / ใช้ภาษา ได้อย่างเป็นธรรมชาติด้วย (ไม่ใช่แบบท่องจำเป็นนกแก้ว)
พอเริ่มเก่ง เด๋วความมั่นใจก้อจะตามมา ....พอมั่นใจ ก้อจะอยากเรียน อยากหาความรู้ อยากเก่งเพิ่มขึ้นไปอีก แล้วทีนี้ อะไรก้อจะมาหยุดเราไม่ได้แล้วค่ะ  :D